คำเตือน เนื่องจากเนื้อหาอาจเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดการตัดสินใจกระทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงของร่างกายได้ (ศัลยกรรม) ขอแสดงความรับผิดชอบในเนื้อหาด้วยการบังคับให้ทุกคนอ่านคำเตือนก่อนทุกครั้ง การทำศัลยกรรมที่เป็นการผ่าตัดทุกชนิด จะเป็นการกระทำที่เกิดขึ้นบริเวณเนื้อเยื่อในร่างกาย เกิดบาดแผลเมื่อผ่าตัด เมื่อตัดสินใจแล้วผลของแผลทั้งที่มองเห็นและมองไม่เห็นจะคงอยู่ตลอดไป ไม่สามารถเรียกเนื้อเยื่อเก่าให้กลับมา หรือ ลบเลือนแผลเป็นที่เกิดขึ้นใต้ผิวหนัง (พังผืด) บนผิวหนัง (แผลเป็น) ให้หายไปหมดได้ การผ่าตัดยิ่งใหญ่มากเท่าไหร่ โอกาสมีแผลบนผิวหนังแน่นอน 100% การศัลยกรรมทุกชนิด เป็นเรื่องที่ต้องดูแล และ สังเกตุความเปลี่ยนแปลงที่ไม่ปกติตลอดชั่วชีวิตเหมือนสุขภาพร่างกายของคนเรา วัสดุบางชิ้นไม่ได้เกิดมาเพื่ออยู่กับเราไปจนตาย อาจต้องมีการเอาออก เอาใส่เข้าไปใหม่ หรือ ถึงช่วงอายุขัยนึง เราอาจจะนำมันออกไปและไม่ใส่เข้าไปใหม่อีกเลย ก่อนตัดสินใจทำอะไรกับชีวิต คุณมีข้อมูลดีพอรึยัง ให้ถามตัวเองอยู่เสมอ
ด้วยความรัก และ ปรารถนาดีอย่างสูง
erk-erk
สำหรับเอิ๊กอวัยวะอย่างหนึ่งที่แสดงถึงความเป็นผู้หญิงก็คือหน้าอก มีศาสตร์โหงวเฮ้งมากมายที่กล่าวทำนายถึงสรีระทางหน้าอกของผู้หญิง แต่เอิ๊กไม่ค่อยได้สนใจคำทำนาย ณ จุดนี้ เว้นให้เป็นความเชื่อส่วนบุคคลไป แค่รู้สึกเวลามองเห็นใครดูมีหน้าอกหน่อยจะได้ความรู้สึกในความเป็นเพศหญิงในตัวบุคคลนั้นค่อนข้างสูง ใส่เสื้อผ้าก็ดูมีสัดส่วนโค้งเว้า ดูสัดส่วนแล้วดูสมดุลดี ความจริงความสำคัญของหน้าอกเพศหญิงนอกจากมีหน้าที่สำคั
” ผิวหนังตรงหน้าอกจะบางกว่าส่วนอื่นๆ โดยเฉพาะผิวหนังของคนเอเชีย ทำไมการทำศัลยกรรมหน้าอกสำหรับคนเอเชีย ควรใส่ซิลิโคนลงไปในปริมาณที่พอเหมาะ พอดีตัว ที่จะไม่ส่งผลให้เกิดริ้วรอย รอยย่น การคลำเจอของขอบซิลิโคน หรือ มีปัญหาสุขภาพต่างๆเช่น ปวดหลัง ไหล่ คอในอนาคตเป็นต้น ถ้าเป็นไปได้ ก็ไม่อยากให้ใส่ชุดชั้นในที่มีโครงบ่อย เพราะอาจทำให้เกิดการเสียดสีและผิวหนังบริเวณนั้นยิ่งบางลงไปอีก จนอาจสามารถจับคลำเจอขอบซิลิโคนได้ในอนาคต “
คุณหมอ ชอง เจ ยอน ศัลยแพทย์หน้าอกเฉพาะทาง ที่ประเทศเกาหลี
ซึ่งเป็นแพทย์ประจำโรงพยาบาลในสังกัดบริษัท STMSTYLE
การได้มาทำบทความเรื่องศัลยกรรมของประเทศเกาหลี
ทำให้ได้เปิดโลกทัศน์อีกมากมายในสิ่งที่ไม่เคยรู้
อย่างเช่น การทำศัลยกรรมหน้าอก ที่ได้รับความนิยมมากในทางตะวันตก รวมถึงประเทศเอเชีย
ซึ่งเอิ๊กไม่เคยทราบมาก่อนเลยว่าเป็นศัลยกรรมยอมนิยมอีกประเภทนึง
ที่ส่วนใหญ่แล้วไม่ค่อยมีคนนิยมเปิดเผยในฟากแถบเอเชีย
แต่พอนั่งทำข้อมูลตรงนี้บอกได้เลยว่าทำกันเยอะมากจนตะลึงกับผลสำรวจ
ข้อมูลทั้งหมดที่เกิดขึ้นมาจาก 3 ส่วนด้วยกัน ส่วนหนึ่งมาจากประสบการณ์ตรงในการเป็นคนไข้ศัลยกรรมในหมวดนี้ด้วยตัวเอง ส่วนหนึ่งข้อมูลสัมภาษณ์คุณหมอชอง เจ ยอน ศัลยแพทย์หน้าอกประจำตัวเอิ๊ก และข้อมูลจาก STMSTYLE รวมกันซึ่งเอิ๊กเรียบเรียงและเขียนขึ้นมาเองประมาณ 90 % จากทั้งหมด
บางคนอาจจะอยากรู้ว่าทำไมเอิ๊กต้องไปทำไกลถึงประเทศเกาหลี หมอไทยไม่เก่งเหรอ
ขอบอกว่าหมอไทยเก่งมากแทบทุกสาขา แต่เอิ๊กอยากเรียนรู้อะไรใหม่ๆที่ยังไม่มีใคร
เปิดเผยมาก่อน มีดารา นักร้อง ศิลปิน นางแบบ คนดังมากมายที่บินไปทำที่ STMSTYLE
อาจเพราะไม่ต้องการเปิดเผย ไม่ต้องการให้ใครรับรู้ แต่จุดแรกที่เอิ๊กอยากจะบอกเลย
ว่าคุณทำที่ไทยได้เลยไม่จำเป็นต้องไปทำตาม และ เอิ๊กขอเป็นตัวแทนคนไทยที่ไปทำ
มาเล่าถึงนวัตกรรมของประเทศเกาหลี ณ โรงพยาบาลที่คิดว่าดังที่สุดแห่งหนึ่ง
รวมถึงหมอที่มีชื่อเสียงและทำให้ศิลปินเกาหลีดังๆหลายคน ทั้งค่าย SM JYP
มาเล่าสู่กันฟัง ถึงวิธีการทำ แนวคิด การพักรักษาตัว การดูแลตัวเองก่อน-หลังทำ
ข้อมูลทั้งหมดมาจากประสบการณ์ตรง 100% จะมีทั้งด้านดี – ด้อย
และไม่ขอพูดเปรียบเทียบกับศัลยกรรมหน้าอกของประเทศไทย
เพราะเอิ๊กไม่มีประสบการณ์ ทั้งหมดเป็นข้อเท็จจริงที่เอิ๊กได้ประสบมาค่ะ
Erk-Erk กับ DR.JEONG, JAE-YEON ศัลยแพทย์หน้าอกของเอิ๊กเองค่ะ
วันนี้เราจะมาพูดถึงเรื่องการเตรียมตัว ก่อน – หลัง และมารู้จักกับการทำหน้าอกคร่าวๆก่อน
อีกบทความต่อไปจะเป็นเรื่องเล่า ณ ต่างแดน ที่เอิ๊กไปผจญภัย และ ผ่าตัดใหญ่ครั้งแรกในชีวิต
ถ้าไม่นับจากออกมาจากท้องแม่นะคะ 🙂 ขอบอกว่ามันเปลี่ยนชีวิตเอิ๊กไปในทางที่ดีขึ้นมาก
มากกว่า 80-90% เกี่ยวกับความมั่นใจที่เพิ่มขึ้น แม้เราไม่ได้ทำมาเปิดโชว์นะ
ส่วนใหญ่ดูเองหน้ากระจก มันได้ความรู้สึกว่าตัวเองเป็นผู้หญิงเหมือนคนอื่น
ไม่รู้แตกต่างจากผู้หญิงคนอื่นอีกต่อไป ฮ่าๆๆๆๆ และ มีเรื่องอื่นอีก อิอิ ต้องตามอ่านกัน
ก่อนทำนมต้องคิดถึงอะไรบ้างสำหรับการศัลยกรรมหน้าอกประเทศเกาหลี ?
1. อายุ
คุณหมอบอกว่าทางที่ดีรอซัก 20 – 22 ปีขึ้นไปค่อยมากทำดีกว่า น้อยกว่านี้การตัดสินใจอาจจะยังไม่ดีพอ เพราะเต้านมจะขยายเติบโตได้สุดๆประมาณ 20 ขวบ ถ้าประมาณ 22 ปี จะดีมากเพราะร่างกายจะเจริญเติบโตเต็มที่แล้ว
2. คุณหมอที่จะฝากชีวิตหน้าอกไว้
นอกจากโรงพยาบาลที่น่าเชื่อถือ มีมาตราฐานมากที่เราต้องนำมาคิดตรงจุดนี้ คุณหมอสำคัญมากมากมากมากมากมากที่สุด ให้อันดับ 1 เลยในการเริ่มคิดว่าจะทำหน้าอก ต้องเป็นคุณหมอคนนี้เท่านั้น คนนี้ต้องเป็นคนที่เราอาจจะเห็นผลงานผ่านตามาบ้าง ไม่มีก็ไปขอทางโรงพยาบาลที่คุณหมอคนนี้สังกัดอยู่ ต้องมีประสบการณ์มายาวนาน อย่างน้อยควร 5-8 ปีขึ้นไป 10 ปียิ่งดี และ ต้องจบเฉพาะทาง ควรถามข้อมูลจากผู้รู้ หรือ เอเจนซี่ศัลยกรรมที่น่าเชื่อถือ และ รู้จักวงการศัลยกรรมดีจริงๆ [จะรู้ได้ต้องฝึกตั้งคำถามให้เป็น ขอดูใบรับรอง และ สอบถามประวัติการทำงานของเขา อยากรู้อะไรยิงคำถามไป อย่าไปกลัว อย่าไปอาย ชีวิตเรา] คนที่เขาพูดแต่ความจริง เขาจะรู้สึกดี และ ยินดีที่จะมอบข้อมูลทั้งหมดที่เราสงสัยให้เราดู เพื่อสร้างความไว้วางใจ อย่าลืมว่าถ้าเราได้คุณหมอที่เก่งที่สุด ได้โรงพยาบาลที่น่าเชื่อถือที่สุด ต้องมีคนที่เราติดต่อได้หากเกิดปัญหา เพราะเราไปทำไกลบ้าน อย่างน้อยต้องเป็นอีเมลล์ หรือ รายชื่อผู้ที่อยู่ในโรงพยาบาล เช่น หัวหน้าแผนกศัลยกรรม เพื่อสอบถามข้อมูลที่เราต้องการ หากเกิดข้อสงสัยหลังทำ การทำศัลยกรรมต่างบ้านต่างเมืองแบบนี้ ภาษามันสำคัญมาก อย่างน้อยคนที่เราติดต่อ ต้องพูด อ่าน เขียน อังกฤษได้ หมอจะให้ดีเลือกที่ภาษาอังกฤษค่อนข้างดีก็จะดีกับตัวเรามาก มีอะไรก็ถามคุณหมอตรงๆไม่ต้องผ่านล่าม ของเอิ๊กฝากชีวิตไว้กับเอเจนซี่ STMSTYLE และ คุณหมอ ข้อด้อยตัวเองภาษาไม่แข็งแรงเลย ทำให้ต้องยอมรับข้อด้อยมากๆอีกข้อ คือ รอคำตอบช้าหน่อย เพราะคุณหมอยุ่ง ต้องเอาภาษาไทยไปแปลงเป็นเกาหลี และ คุณหมอก็จะตอบเกาหลี มาแปลงเป็นภาษาไทย และ ถึงส่งกลับมา ระหว่างที่รอคุณหมอ เอิ๊กก็หาข้อมูลจากเว็บต่างประเทศรอไปก่อน อิอิ ยังไงก็แล้วแต่ตราบใดที่นมคู่ใหม่ยังอยู่กับเราซึ่งไม่รู้ว่าจะอยู่ 10 – 15 ปี หรือ ตลอดไป ในกรณีที่เราไม่ต้องการเอาออก คุณหมอคนนี้ก็ยังจะต้องอยู่คอยตอบคำถามและให้คำปรึกษาเราตลอด เพราะการทำศัลยกรรมหน้าอก “เชื่อหมอตัวเองเท่านั้น ถูกต้องที่สุด”
3. ข้อเสียของการทำหน้าอกที่ต้องยอมรับ
แน่นอนว่าข้อดี เราทราบอยู่แล้วละ หลายประการ ตอบสนองความต้องการที่จะมีไซส์ใหม่ของเรา หรือ ช่วยแก้เรื่องความหย่อนคล้อย บางคนก็มีปัญหาชีวิตคู่ บางคนสามีเคี่ยวเข็ญให้มาทำ [ สามีใจร้าย555แต่แลกกับการไม่นอกกาย ภรรยาหลายคนตามใจ ] ข้อเสียแน่นอนหลายคนกลัวเจ็บ แต่ขอบอกว่าเอิ๊กไม่รู้สึกเลย รถทับอะไรไม่ใช่เลย จะบอกว่าเลเซอร์ขนรักแร้เจ็บกว่า มันแค่ระบมวันเดียวแบบปวดเมนส์ ปวดรำคาญ แค่ย้ายจากปวดท้องมาปวดตรงหน้าอก และ รู้สึกอึดอัดช่วงแรก พร้อมกับการหายใจแล้วรู้สึกข้างในฟกช้ำเฉยๆ แต่สิ่งที่ต้องการให้ยอมรับนอกจากค่าใช้จ่ายที่สูงลิบ ก็ต้องทำความรู้จักสรีระตัวเองก่อน ถ้านมห่างมาก จะให้ชิดอาจจะยากมาก หรือ มองระยะยาว ถึงสุขภาพ ทำใหญ่มาก ปวด ไหล่ คอ หลัง และ ต้องยอมรับแผลเป็น ข้อเสียที่ต้องยอมรับสำหรับเอิ๊กคือแผลเนี่ยละ กำลังทำทุกวิธีทางให้มันจางไปมากที่สุด ซึ่งต้องรอประมาณ 1 ปี ถึงจะเริ่มเห็นสีของแผลจางไป เรื่องเสื้อผ้าที่ต้องใส่ระวังมากขึ้น ไม่มีนมใส่อะไรก็ดูน่ารัก พริ้วๆ พอมีก็ต้องระวังตัวเป็นผู้หญิงบางทีมันอันตราย เราจะโทษเพศตรงข้ามไม่ได้ มันเป็นสัญชาตญาณ หรือ ฮอร์โมนในสมองของเขา ที่จะต้องจับจ้อง ส่วนโค้งเว้าของผู้หญิงก่อน ความสวยงามของผู้หญิงแสดงออกได้หลายอย่าง ตั้งแต่กิริยา มารยาท การแสดงออก การพูดจา บางทีทำมาอยากจะเปิดเผยบ้างให้คุ้มค่าก็ทำได้ เพียงแต่ให้คำนึงถึงความปลอดภัย เป็นห่วงจากใจจริงๆค่ะ
4. วัสดุเทียม และ ทรงวัสดุที่ใส่ลงไป
สำคัญไม่แพ้ส่วนใด วัสดุแต่ละแบบ ย่อมให้ผลลัพธ์ต่างกัน ผิวเรียบ ผิวทราย ทรงกลม ทรงหยดน้ำ เพราะมันจะเผยออกมาเป็นรูปลักษณ์รูปทรงอวัยวะหน้าอกของเรา การสัมผัส การอยู่ทรง การเคลื่อนไหวท่านั่ง ยืน เดิน นอนของเรา การที่ต้องนวดและไม่นวด ที่สำคัญราคาก็ต่างกันสำหรับทรงหยดน้ำ กับ ทรงกลม ไปศึกษาให้ดี
5. ขนาด คัพ ไซส์
บอกเลยว่าถ้าทำที่เกาหลี หมอไม่เคยให้ใหญ่ และ เมื่อไม่ใหญ่บางทีอาจจะห่างเหมือนนมธรรมชาติ เพราะเขามองว่าอะไรที่ธรรมชาติ และ เหมาะสมกับการดูแล ที่ไม่ทำร้ายสุขภาพระยะยาว นั่นเป็นสิ่งสำคัญมาก ถ้าจะทำใหญ่ๆ ไม่ต้องบินไปไกลถึงนู้นค่ะ ของเอิ๊กทำเกาหลีจ่ายราคาเท่ากับคนเกาหลีแต่เอิ๊กจะได้รับการันตี มีแก้ได้ถ้ามีปัญหาไม่ต้องจ่ายตังค์รอบสองสามถ้าเกิดจากการผ่าตัดเพราะ STMSTYLE จะจัดการยินดีรับผิดชอบให้เอง หรือเรื่องหมอหมอเก่งเฉพาะด้านอยู่แล้ว แต่เรื่องความเจ็บปวดบอกตรงๆไม่มี พักฟิ้นเร็วมาก ไม่เกิน 24 ชั่วโมง ก็เดินหลั่นล้าได้ การสูญเสียเนื้อเยื่อน้อยเพราะเขามีกล้องส่องเพื่อใช้วางวัสดุได้อย่างแม่นยำจะเลาะช่องว่างเท่าขนาดวัสดุเท่านั้น และ ที่สำคัญไม่ต้องใช้มอร์ฟิน กินแค่ยาแก้ปวดธรรมดา ของเอิ๊กไม่มีบวมไม่มีอักเสบ ไม่มีใครรู้ว่าทำเพราะทุกอย่างเกิดขึ้นเร็ว และ เอิ๊กก็ทำงานได้ในวันรุ่งขึ้นตามปกติ ไม่มีต้องรออีกนานแค่ไหน นมจะยุบ ไม่ยุบ หายอักเสบเมื่อไหร่ ไม่ต้องรอ ทำมาตอนแรกเท่าไหน ตอนนี้เกือบ 4 เดือนก็วัดได้เท่าเดิม ไม่มีอักเสบ เพียงแต่หน้าตาจะดูนุ่มนวลขึ้น จะเป็นธรรมชาติมากขึ้น ค่อยๆนิ่มลงเรื่อยๆ เอิ๊กไม่ต้องนวดหน้าอก 55555 หมอห้าม เลยกังวลแค่เรื่องแผลที่แอบไปยิงเลเซอร์ตลอดที่ ISKYCENTER และมีข้อที่เราต้องยอมรับบางประการ เตรียมอ่านบลอคต่อไปได้เลย 🙂
6. ผลข้างเคียง / ข้อควรระวังหลังเสริม
อาจจะรวมไว้กับข้อเสียได้แต่มันจะดูลึกอีกระดับ ปัญหาการชาของเต้านมช่วงระหว่าง 5-6 เดือนแรกในระยะเวลาที่เส้นประสาทกำลังเชื่อมกันอยู่ใหม่ การชาของหัวนม การทานยาบางตัวเพื่อป้องกันการอักเสบ1-3-6 เดือนแล้วแต่คน ซึ่งยาบางประเภทก็ก่อให้เกิดผลข้างเคียง ทางที่ดีถามให้ละเอียดเรื่องยาที่ต้องรับประทาน หรือ การดูแลตัวเอง อย่างเช่น ห้ามนวด หมายความว่า เราต้องรอนานเหมือนกัน 6 เดือน ถึง 1 ปีเพื่อให้มันนิ่ม และ คล้อยลงอย่างเป็นธรรมชาติ ทั้งที่บางวัสดุ เช่น ผิวเรียบ เขานิ่มกันไปไหนต่อไหนแล้ว พอหลังเสริม บราแบบไหนที่ควรใส่ของประเทศเกาหลีที่เอิ๊กไปทำ หมอบอกเลยไม่อยากให้ใส่มีโครงถ้าไม่จำเป็น เพราะผิวหน้าอกเราบางอยู่แล้ว และ จะถูกเสียดสีจากโครงจนบางขึ้นไปอีก ห้ามออกกำลังกายหนักช่วง 1-2 เดือนแรก ฯลฯ อีกมากมายที่ต้องถามให้ละเอียด อย่าลืมว่าคุยกับหมอเท่านั้น เชื่อหมอเท่านั้นในการทำศัลยกรรมประเภทนี้ แล้วจะดีเอง
7. มันอาจไม่ได้อยู่กับเราตลอดไป
ท่องไว้ให้ขึ้นใจ ไม่ว่าอาจจะแก้เพราะได้ผลไม่พอใจ หรือ พอใจมาก จนวันนึงเกิดมีลูกนมขยายใหญ่ขึ้นมาอีกมากๆ เราก็อาจจะอยากเอาออก หรือ บางคนทำใหญ่มาก ปวดหลัง X-RAY มากระดูกหลังงอ ก็ต้องมาเปลี่ยนไซส์หรือเอาออกได้ มันขึ้นอยู่กับช่วงวัยของเราตอนนั้น และ การเปลี่ยนแปลงของร่างกายด้วย จงท่องไว้ว่ามันอาจไม่ได้อยู่กับเราตลอดไปก็ได้นะ หมายความว่า อาจมีการผ่าตัดเกิดขึ้นอีกก็ได้นะ ยกเว้นแต่ว่าร่างกายเราไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงมากนัก หรือ เรายังคงพึงพอใจกับผลลัพธ์ในแบบนี้ อย่างน้อยมันก็อยู่ยาวนานเกิน 10 – 15 ปีขึ้นไป
สำหรับ STMSTYLE ที่เอิ๊กไปทำกับเขาก็มีบริการศัลยกรรมหน้าอกหลายด้านด้วยกัน
- ศัลยกรรมแก้หน้าอก
- ศัลยกรรมเสริมหน้าอก
- ศัลยกรรมลดขนาดหน้าอก
- ศัลยกรรมลดขนาดปานนม
- ศัลยกรรมตกแต่งปานนม
- ศัลยกรรมแก้ไขหน้าอกที่หย่อนคล้อย
- ศัลยกรรมเสริมหน้าอกโดยใช้ไขมันจากร่างกายตนเอง
- ศัลยกรรมลดขนาดหน้าอก
ในที่นี้จะขอกล่าวเน้นถึงศัลยกรรมเสริมหน้าอกนะคะ เพราะรู้ดีแค่อย่างเดียว 55555
การทำศัลยกรรมหน้าอกคืออะไร
การเพิ่มขนาดหน้าอกด้วยวัสดุถุงนมเทียมด้วยการผ่าตัด [ถุงซิลิโคนชนิดแผ่นบรรจุเป็น น้ำเกลือ หรือ ซิลิโคนเจล อยู่ภายใน] ซึ่งดูภายนอกก็จะเห็นว่าใกล้เคียง หรือ กลืนไปกับสรีระธรรมชาติถ้าไม่ได้สัมผัส หรือ บางทีการสัมผัสก็ไม่อาจรู้ได้ เพราะปัจจุบัน บางวัสดุเทียมบางชนิดก็ให้สัมผัสที่เหมือนจริงค่อนข้างมาก แต่นอกเหนือจากนั้น การทำศัลยกรรมหน้าอกยังหมายถึง การแก้ไขปัญหาการคล้อยของทรวงอก การผ่าตัดลดขนาดหน้าอก การแก้ไขปัญหาหัวนมไม่เท่ากัน หัวนมบอด ผู้ป่วยมะเร็งเต้านมต้องผ่าตัดหน้าอกออกไป ฯลฯ ซึ่งแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านหน้าอกก็จำเป็นที่จะต้องมีทั้งศาสตร์และศิลป์ที่จะออกแบบรูปร่างและขนาดของหน้าอกให้เหมาะกับความต้องการคนไข้ เหนือสิ่งอื่นใดต้องเหมาะสมพอดีกับสรีระ และ ความปลอดภัยระยะยาวเป็นหลัก
เหตุผลอะไรบ้างที่ทำให้คนเราตัดสินใจทำศัลยกรรมนม !!
- อายุทำให้สภาพผิวหนังหน้าอกหย่อนคล้อย
- รู้สึกว่าตัวเองหน้าอกเล็ก และอยากให้มันใหญ่ขึ้น
- อยากใส่เสื้อผ้ามั่นใจขึ้น เบื่อฟองน้ำ เบื่อการที่ต้องมานั่งคอยดันให้ดูมีอะไรตลอดเวลา
- โดนคนล้อ หลายคนบ่อยๆเขา ก็ทำให้รู้สึกเป็นปมด้อย ขาดความมั่นใจ
- ผู้ที่ลดน้ำหนักแบบฮวบฮาบ ทำให้รูปร่างเต้านมเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว อาจจะคล้อย และ มีริ้วยรอยแตกลายงา
- อยากปรับรูปร่างของขนาดเต้านมที่ไม่เท่ากันตั้งแต่กำเนิด
- ผู้ป่วยมะเร็งเต้านมอยากมีหน้าอก
- แปลงเพศจากเพศชายอยากเป็นเพศหญิง
- เพศชายอยากมีกล้ามอกจะทำให้ดูแมนขึ้น
- เพศหญิงที่ใจไปชาย อยากผ่าตัดศัลยกรรมหน้าอกออก
- ไม่มีหัวนม
- ปัญหาต่อมน้ำนมขยายจากการตั้งครรภ์
- ฯลฯ
ผ่าตัดศัลยกรรมหน้าอกนำวัสดุเข้าทางไหนได้บ้าง
- รักแร้
- ใต้ราวนม
- ปานนม
- สะดือ
ก็จะคล้ายกับทุกที่ทั่วโลกที่นิยม แต่โรงพยาบาลที่เอิ๊กเข้ารักษาตัวจะเน้น 3 ทางเข้าคือรักแร้ ใต้ราวนม และ ปานนม
วางวัสดุไว้ส่วนไหนของหน้าอก
- ใต้กล้ามเนื้อ
- เหนือกล้ามเนื้อ
- ระหว่างชั้นกล้ามเนื้อ
ขึ้นกับความเหมาะสมของแต่ละบุคคล เพื่อทำให้ตรงกับความต้องการ โดยคำนึงถึงความปลอดภัยระยะยาวเป็นหลัก เป็นการวางที่คล้ายการศัลยกรรมหน้าอกทั่วโลก
วัสดุที่ใช้ทำหน้าอกจะมีทั้งหมด 2 พื้นผิว 2 รูปทรง
1. พื้นผิวเรียบ SMOOTH TYPE
จะมี ทรงกลม ROUND TYPE เพียงอย่างเดียว และ อยู่ในรูปแบบถุงน้ำเกลือเท่านั้น
2. พื้นผิวทราย หรือ พื้นผิวขรุขระ TEXTURE
จะมีทั้ง ทรงกลม ROUND TYPE และ ทรงหยดน้ำ TEAR DROP TYPE หรือ ANATOMY TYPE
โรงพยาบางที่เอิ๊กไปเน้นใช้ยี่ห้ออเมริกาชื่อดังอย่าง ALLERGAN เป็นหลัก ที่นิยมตอนนี้คือผิวทราย ทรงหยดน้ำ คุณหมอเกาหลีของเอิ๊กรู้สึกจะชอบมากเป็นพิเศษเนื่องจากรูปทรงธรรมชาติใกล้เคียงกับสรีระผู้หญิงจริงๆ ยังไม่ต้องนวดให้เจ็บตัว เพราะมันจะค่อยๆนิ่มลงไปอย่างเป็นธรรมชาติ
สารที่บรรจุในถุงซิลิโคนที่นิยมใช้บ่อยที่สุด
1.ซิลิโคนบรรจุด้วยน้ำเกลือ
2.ซิลิโคนบรรจุด้วย cohesive gel
1. ถุงซิลิโคนบรรจุด้วยน้ำเกลือ
– ถุงน้ำเกลือประเภทเติมน้ำเกลือภายหลัง เปลือกถุงจะเป็นซิลิโคน มีการทำถุงเป็นขนาดต่าง ๆ เป็นถุงเปล่า เวลาผ่าตัดจะใส่ถุงเปล่าเข้าไปในช่องว่างที่เปิดอยู่ก่อนแล้ว จึงเติมน้ำเกลือทางสายที่ติดถุง เมื่อได้ขนาดที่ต้องการจะดึงสายบริเวณนั้นออกซึ่งจะมีฝาปิดถุงเอาไว้อีกทีนึง ถุงแบบนี้ปรับขนาดตามที่ต้องการได้
– ถุงน้ำเกลือประเภทเติมน้ำเกลือก่อนใส่ จะเติมน้ำเกลือมาแล้วจากผู้ผลิต ข้อดี นิ่มและเป็นธรรมชาติ และมีโอกาสเรื่องถุงแฟบ รั่ว น้อยกว่าแบบที่เติมน้ำเกลือภายหลัง
ข้อดี
❤ สัมผัสที่นิ่มและการเคลื่อนที่ไปมาได้คล้ายสรีระการเคลื่อนไหวเต้านมธรรมชาติ
❤ สามารถเพิ่มลดขนาดตามที่ต้องการได้ระหว่างทำ
❤ หากรั่วซึม ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย
ข้อด้อย
❤ พบปัญหาการรั่วและแฟบได้บ่อย แต่ร่างกายสามารถดูดซึมน้ำเกลือโดยไม่เป็นอันตราย เวลาที่หน้าอกแฟบจากการรั่วซึม ก็ต้องทำการแก้ไขโดยการผ่าตัดใหม่
❤ คลำได้รอยย่นของถุงน้ำเกลือซึ่งสั่นไหวไปมาภายในถุง ทำให้ผิวหนังด้านล่างเกิดรอยย่น มักเกิดกับผู้หญิงผอมบาง
❤ กระเพื่อมได้ยินเสียง หรือรู้สึกว่าเต้านมกระเพื่อม เราจะรู้ตัวแต่คนอื่นจะไม่รู้ ซึ่งอาการนี้จะค่อย ๆ ดีขึ้นเอง
❤ ความนิ่ม อาจจะนิ่มไม่เหมือนเต้านมธรรมชาติ 100%
2. ถุงซิลิโคนบรรจุด้วย Cohesive Gel
ถุงภายนอกเป็นแบบซิลิโคนแข็งเช่นเดียวกับถุงน้ำเกลือ ภายในบรรจุเจลกึ่งแข็งกึ่งเหลวที่มีความหนาแน่นสูง คงสภาพได้ยาวนาน เจลจะมีการบรรจุมาจากผู้ผลิตในขนาดต่างกัน เจลถูกพัฒนามาเรื่อยๆมากกว่า 15 ปีแล้วปัจจุบันมีการพัฒนาเปลือกถุงให้มีความหนาขึ้นมากถึง 3 ชั้น ให้ใช้งานได้นานขึ้น มีรูปร่างเหมือนเดิมตลอดเวลาที่ใส่ และ เพื่อลดปัญหาการรั่วซึมของเจลที่อยู่ภายใน แต่เพราะด้วยความหนาของเปลืองถุง ก็จะทำให้การสัมผัสไม่นิ่มเท่าถุงซิลิโคนที่หุ้มเจลสมัยก่อน ยิ่งหนายิ่งมีความหนืดมากกว่า แต่ปลอดภัยมากขึ้น รวมถึงป้องกันปัญหาการที่พังผืดหนาตัวมากจนหดบีบรัดถุงซิลิโคนจนไม่สามารถขยับไปมาได้ ผลคือทำให้ถุงซิลิโคนแข็งและอาจเปลี่ยนรูปได้ นิยมเรียกการว่าการเกิดนี้ว่า CAPSULAR CONTRACTURE
❤ การผลิตเจลก็อาจจะมีลักษณะแตกต่างกันแต่ละบริษัท โดยจะแบ่งเป็น 3 แบบ
1 เจลธรรมดา [ Silicone Gel]
2 เจลที่มีความหนาแน่นสูง [ Cohesive Gel ]
3 เจลที่มีความหนาแน่นสูงมาก [ High Cohesive Gel ]
ข้อดี
การพัฒนาซิลิโคนรุ่นใหม่ๆทำให้มีความปลอดภัยในการไม่ไหลออกของเจลหากรั่วซึม
รูปทรงคงสภาพรูปร่างเดิมได้ยาวนานขึ้นมาก
เวลายืน นั่ง นอน รูปทรงจะไม่ไหลตามแรงโน้มถ่วงของโลกมากนัก
การหดรัดตัวของพังผืดที่หนาชั้นค่อนข้างเกิดได้น้อยถ้าเทียบกับถุงน้ำเกลือ
ไม่ต้องนวดเพราะหน้าอกจะค่อยๆนิ่มลงตามธรรมชาติ
การคลำเจอขอบถุง หรือ รอยพับขอบถุงมักไม่ค่อยพบ
ข้อด้อย
การสัมผัสความนิ่ม นุ่ม จะสู้ถุงน้ำเกลือไม่ได้ และ มีอยู่ในรูปแบบถุงซิลิโคนที่พื้นผิวทรายหรือ TEXTURE เท่านั้น
ในทรงหยดน้ำ จะมีสัมผัสที่นิ่มน้อยกว่าทรงกลม
เนื่องจากเจลถูกบรรจุมาตั้งแต่กระบวนการผลิต แผลผ่าตัดที่เปิดจึงอาจมีความยาวของแผลมากเฉลี่ย 4 เซนติเมตร
ทรงหยดน้ำถ้าการผ่าตัด และ ดูแลไม่ดีอาจทำให้เกิดการหมุนตัวของถุงซิลิโคน ต้องแก้ไขผ่าตัดกันใหม่
เมื่อนวดไม่ได้ อาจจะต้องรอซิลิโคนเข้าที่ และ อยู่ตัวประมาณ 5-6 เดือนถึงเริ่มนิ่มอย่างเป็นธรรมชาติ
3. ถุงเบคเกอร์ [ ถุงเจลบรรจุด้วยน้ำเกลือและเจลในอัตราส่วนที่ชัดเจน ]
อาจจะไม่ค่อยได้ยินกัน ขอพูดไว้เป็นให้เก็บเป็นข้อมูลนะคะ ถุงเบคเกอร์ คือเปลือกถุงเป็นเจลที่มีสายต่อพร้อมใส่บรรจุน้ำเกลือลงไปภายในให้ได้ปริมาณตามที่ต้องการ จะใช้สำหรับผู้ป่วยมะเร็งเต้านม หรือ ผู้ป่วยผ่าตัดโรค เนื้อจากเนื้อผู้ป่วยจะมีน้อยมาก จึงไม่สามารถเปิดแผลใหญ่ได้
การนวดหน้าอกหลังทำ
* คุณหมอต่างประเทศหลายท่าน ทั้งจากตะวันตก และ ตะวันออก เคยเกริ่นเรื่องการนวด ว่าสำหรับผิวทราย หรือ ผิวขรุขระ [ TEXTURE TYPE ] อาจทำให้เราไม่ได้ใช้ประโยชน์ของซิลิโคนผิวทรายอย่างเต็มที่ เนื่องจากการนวดอาจทำให้รูปทรงซิลิโคนเปลี่ยนได้ในระยะยาว โดยเฉพาะทรงหยดน้ำอาจทำให้เกิดการหมุนตัวของซิลิโคน เพราะยังไม่มีงานวิจัยไหนยืนยันว่าการนวดทำให้ลดการเกิดพังผืดได้ ส่วนใหญ่สำหรับการนวดของซิลิโคนผิวเรียบเพราะว่า ต้องการให้เกิดช่องว่าง ทำให้ซิลิโคนขยับไปได้รอบๆ นิ่มลงอย่างเป็นธรรมชาติ และ ไม่ทำให้พังผืดหนาตัวมากจนหดรัดซิลิโคนกลายเป็นทำให้นมแข็งและซิลิโคนเสียรูปทรง หมอบางท่านก็บอกว่าการใช้ชีวิตประจำวันของเราปกติเนี่ยแหละ คือ การออกกำลังกายสำหรับหน้าอกของเราแล้ว
วิธีการผ่าตัดศัลยกรรมหน้าอก
นอกจากจะดูสภาพหน้าอก ความยืดหยุ่นของผิวหนัง ความหย่อนคล้อยของหน้าอกเดิม การมาแก้ไขหน้าอกที่เคยทำไป ปริมาณไขมันหน้าอก เป็นต้น เราจะมาเลือกความต้องการของเรากัน โดยส่วนใหญ่จะเลือกจากหัวข้อดังต่อไปนี้
- กำหนดขนาดความใหญ่ที่ต้องการ CUP A B C D E F
- ทรงความนูน เนินอก ระดับสูง กลาง ต่ำ
- ขนาดน้ำหนักซิลิโคน กี่ CC
- รูปทรง ทรงกลม หรือ ทรงหยดน้ำ
- ตำแหน่งหัวนม
- ระยะห่างระหว่างหัวนมถึงต้นคอ
การจะผ่าตัดศัลยกรรมหน้าอกที่เกาหลีให้ออกมาได้ผลลัพธ์ดีตรงใจควรคิดถึงอะไรบ้าง
- ความสมดุลของสรีระตัวเรา
- ประสบการณ์และผลงานของแพทย์แต่ละท่านต้องมีความเชี่ยวชาญสูงเฉพาะด้าน
- ชื่อเสียง และคุณภาพ ของโรงพยาบาลที่จะเข้ารับการผ่าตัด
- เทคโนโนยี อุปกรณ์ การผ่าตัดที่ดี มีประสิทธิภาพสูง และ ทันสมัย
- ระยะเวลาการผ่าตัด และ การพักฟื้นที่ใช้เวลาน้อย
- การดูแลตัวเอง ก่อนและหลังผ่าตัด ตามที่แพทย์แนะนำอย่างเคร่งครัด
การวินิจฉัยร่างกายก่อนการทำศัลยกรรมหน้าอก
- ตรวจเลือด
- ตรวจความดัน
- ตรวจอัตราการเต้นของหัวใจ
- ตรวจกระดูกทรวงอก และ ฉายรังสีเพื่อดูโครงสร้างกระดูกภายในบริเวณหน้าอก
- สภาพร่างกายคนไข้
- สภาพผิว ลักษณะ และ ขนาดของหน้าอก
เพราะการทำหน้าอกเปรียบเสมือนการตัดเสื้อผ้า เราจำเป็นต้องตัดเสื้อผ้าตามที่คนไข้ต้องการ เพียงแต่ต้องดูสมดุล สวยงาม เหมาะสม และ คิดถึงความคงทน หรือ ความปลอดภัยระยะยาว
การเสริมหน้าอกด้วยไขมันตัวเอง
เซลล์ไขมันบริสุทธิ์ที่นำออกมาจากส่วนเกินในร่างกาย เช่น ต้นขา หน้าท้อง แล้วนำมาฉีดกลับเข้าไปที่หน้าอกเพื่อให้ได้ขนาดที่ต้องการ อย่างที่เคยบอก
ข้อดี คือ ไม่ต้องผ่าตัด ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย ร่างกายยอมรับแต่โดยดี ข้อแม้คือทำด้วยเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพ มีการฆ่าเชื้อเครื่องมือ และ ทำในห้องปลอดเชื้อ โดยมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และ วิสัญญีแพทย์ ดูแลอย่างใกล้ชิด
ข้อด้อยคือ คนที่มีนมเล็กไม่ค่อยเหมาะเพราะมันไม่สามารถจะฉีดเข้าไปได้มากกว่า 200 CC เหมาะกับคนที่มีเนื้อนมพอสมควรเป็นทุนเดิมอยู่ก่อนแล้ว และอาจมีแผลเป็นบริเวณที่ดูดไขมันออกมา ที่สำคัญอัตราการดูดซึมของเซลล์ไขมันที่ฉีดกลับของแต่ละคนก็ไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลด้วย สามารถดูดซึมเฉลี่ยตั้งแต่ 30-75% ส่วนระยะเวลาการที่เซลล์ไขมันคงอยู่เฉลี่ยประมาณ 1-2 ปี ต้องฉีดซ้ำเรื่อยๆ
ศัลยกรรมลดขนาดหน้าอก
บางคนมีอาการปวดหลัง ไหล่ ต้นคอ หรือ บางรายกระดูกหลังงอ เนื่องจากแบกรับหน้าอกที่มีขนาดใหญ่มากอยู่ตลอดเวลา หรือ เวลาเป็นประจำเดือนจะเจ็บหน้าอกแบบทรมานมาก มีผลต่อสุขภาพ หรือ การใช้ชีวิต การศัลยกรรมลดขนาดหน้าอก ก็เป็นอีกทางเลือกที่จะผ่าตัดเอาโครงสร้างเนื้อภายในหน้าอกให้น้อยลงไป จึงทำให้โครงสร้างของเนื้อหน้าอกแข็งแรงขึ้น ทำให้มีขนาด และ รูปลักษณ์ที่พอเหมาะสมกับลำตัวได้
อีกวิธีที่อาจทำได้ ถ้าหน้าอกไม่ได้ใหญ่โตมากจากไขมันมากนัก พูดง่ายๆไม่ใช่คนนมใหญ่มาก ก็สามารถ ฉีดสารโบทูลินูม ทอกซินฉีดรอบๆผิวหนังบริเวณเต้านมเพื่อลดขนาดของหน้าอกลงไปได้ชั่วคราว มักใช้สำหรับหน้าอกที่มีริ้วรอย หรือ หย่อนคล้อยไม่มาก เพื่อยกกระชับกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อยกขึ้นเฉลี่ย 2 เซนติเมตร เรียบเนียน เต่งตึง อวบอิ่มขึ้นประมาณ10% หัวนมและปานนมดูดีขึ้นได้ เห็นผลชัดภายใน2-3วัน หรือทันทีสำหรับริ้วรอยบางประการ ข้อดีเห็นผลไว หน้าอกยังมีความรู้สึกเหมือนเดิม ข้อด้อย แพง ต้องทำบ่อยครั้ง และ เหมาะสำหรับหน้าอกที่ไม่ได้หย่อนคล้อย หรือ มีร่องลึกมาก
ศัลยกรรมแก้ไขหน้าอกหย่อนคล้อย
เมื่อเวลาผ่านไปอายุมากขึ้น มีการตั้งครรภ์และให้นมบุตร การเจ็บป่วย การลดน้ำหนักที่เร็วและฮวบฮาบ การใส่ชุดชั้นในไม่ถูกวิธี การห่อไหล่จนเป็นนิสัย ก็มักทำให้หน้าอกหน้าใจเราโดนแรงโน้มถ่วง ถ่วงจนย้อยลงไปตามวัย การหย่อนคล้อยมักจะมีระดับการหย่อนคล้อย หากหย่อนคล้อยไม่มาก ก็สามารถผ่าตัดเพิ่มขนาดหน้าอกให้กลับมาดูเต่งตึงขึ้นได้ หากมีระดับหย่อนคล้อยที่มากอาจจะต้องผ่าตัดเริ่มตั้งแต่ยกเนื้อตรงยอดหัวนม เพื่อปรับเนื้อส่วนเกินให้พอดี และ แก้ไขโครงสร้างของผนังหน้าอกด้านในดังกล่าว เพื่อให้เนื้อหน้าอก และ หัวนมถูกยกให้เชิดขึ้นมาในระดับที่พอดี เหมาะสม
หน้าอกหย่อนคล้อยแบ่งเป็น 3 ระดับด้วยกัน
การผ่าตัดหน้าอกหย่อนคล้อยมากๆ
ใช้วิธีกรีดบริเวณรอบปานหัวนมแล้วกรีดลากยาวเป็นเส้นตรงลงไปถึงร่องใต้หน้าอก หรือ ใต้ราวนม ตัดเอาไขมันผิวหนังและเนื้อเยื่อหน้าอกออก สามารถเปลี่ยนย้ายตำแหน่งของหน้าอกได้ตามความต้องการ รอยแผลค่อข้างยาวมากจะแดงอยู่ 3 เดือนแล้วค่อยๆจางไป
การผ่าตัดหน้าอกหย่อนคล้อยไม่มาก
อาจจะนมใหญ่แต่คล้อย หรือไม่ต้องการเสริมให้ใหญ่ไปกว่าเดิมก็จะใช้วิธีกรีดรอบปานหัวนม แล้วทำการดึงหน้าอกขึ้น
❤ งดอาหารเสริมและวิตามินทุกชนิด 2 สัปดาห์ก่อนผ่าตัด
ยาบางประเภทส่งผลต่อการหยุดไหลของเลือด ทางที่ดีงดยาและวิตามินทุกชนิดล่วงหน้าก่อนผ่าตัด เช่น งดทานวิตามิน จำพวกวิตามินอี เพราะจะทำให้อาการบวมอาการอั
❤ หาข้อมูลเรื่องยาล่วงหน้า
หลัง การผ่าตัด เป็นที่แน่นอนว่าคุณจะต้องได้รั
❤ ทานอาหารมีประโยชน์และงดปัจจั
เป็นเรื่องจำเป็
❤ ทำใจยอมรับรอยแผลเป็น
ไม่ว่าจะเป็นรอยเล็กหรือใหญ่ และจะเห็นได้ชัดเจนหรือไม่ก็ตาม มันสามารถรับการรั
❤ ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์
เป็นเรื่องที่สำคัญและจำเป็นที่สุด ที่ผู้เข้ารับการผ่าตัดจะต้
การปฏิบัติตัวหลังเข้ารับการผ่าตัดเสริมหน้าอก
❤ ตั้งแต่วันที่รับการผ่าตัด ควรค่อยๆยืดแขนอย่างเบาๆ จะช่วยให้ฟื้นตัวเร็วขึ้น การออกกำลั
❤ ในส่วนของการนวดหน้าอก หลังจากวันที่ 3-4 สามารถเริ่มนวดอย่างเบาๆได้ ส่วนรอยผ่าตัด ตั้งแต่วันที่ 7-10 บริเวณนี้อาจจะเกิดอาการเจ็
❤ ควรงดการดื่มสุราและการสูบบุหรี
ต่อไปเป็นบทสัมภาษณ์คุณหมอ ชอง เจ ยอน นะคะที่เอิ๊กถามมาให้อ่านกัน
ปัจจุบันมีเทคนิคการผ่าตัดทำหน้าอกกี่แบบคะ
เทคนิคการผ่าตัดเสริมหน้าอกจะมีประมาณ 3 แบบที่นิยมที่สุด แบบกรีดที่ใต้รักแร้ ที่ปานนม และที่ใต้ราวนม ก่อนหน้านี้เมื่อนานมาแล้วลักษณะการผ่าตัดก็จะมีความเจ็บปวด มีเลือดออกมาก แต่ว่าเดี๋ยวนี้ถูกพัฒนาไปไกลมากคือดีขึ้น มีเลือดออกน้อยลง และมีอาการเจ็บปวดน้อยลง
เราเลือกขนาดได้ไหมคะ ความชิด ความห่าง ความสูง
ถามว่าเลือกได้มั้ยก็เลือกได้ แต่ว่าทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับขนาดลำตัวแล้วก็ขนาดของร่างกายเป็นเกณฑ์ด้วยเพราะว่าเพื่อที่ใส่เข้าไปแล้ว วัสดุส่วนที่ใส่เข้าไปแล้วเมื่อเสร็จผลลัพธ์ออกมาแล้วจะได้ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น
แล้วมีบางคนใส่แบบโอเวอร์จะเกิดผลข้างเคียงอะไรบ้าง
ก็คือในอนาคตอาจจะ 5-10 ปีข้างหน้าอาจจะมีปัญหาใหญ่ได้ เพราะว่าขนาดที่มันใหญ่มันก็จะมีน้ำหนักที่มันมากขึ้นแล้วพอประกอบกับร่างกายคนที่ตัวเล็กผิวมันก็จะบาง ยิ่งคนเอเชียผิวก็จะบางอยู่แล้วเป็นทุน เพราะฉะนั้นน้ำหนักที่มากมันก็จะยิ่งดึงผิว มันก็จะเกิดริ้วรอย ผิวมันก็จะเหี่ยวย่น มันก็อาจจะทำให้ตัววัสดุที่ใส่เข้าไปเหี่ยวย่นได้เพราะน้ำหนักมันทิ้งตัวแต่ร่างกายเรารับไม่ไหว
อย่างพวกวัสดุที่เสริม มันจะต้องเปลี่ยน คือมีคนบอกว่ามันก็มีอายุการใช้งานของมัน
จริงๆ แล้วมันไม่ได้ตายตัวว่า 10 ปี 15 ปี อาจจะต้องเปลี่ยนตัววัสดุเสริมข้างใน แต่ว่ามันขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละคนมากกว่า เช่น ผิวหนังที่หย่อนคล้อย ขนาดหน้าอกที่ใหญ่ขึ้นเองตามธรรมชาติ ก็จะทำให้เกิดความลำบากหรือไม่สบายตัว ก็เป็นไปได้ที่อาจจะเข้ามารับการผ่าตัดใหม่เมื่อเวลาผ่านไปค่ะ
หลักการฉีดฟิลเลอร์ ฉีดไขมันตัวเองเข้าไปที่หน้าอกคุณหมอมีความเห็นว่าอย่างไรบ้างคะ
ก็คือคุณหมอบอกว่าฟิลเลอร์มันเป็นวิธีการที่มีมานานแล้วเหมือนกัน มันก็โอเคอยู่นะเพราะว่ามันเป็นวิธีการที่ง่าย ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องอะไร แต่ว่าก็ไม่ได้เป็นวิธีการที่ถึงกับดี แต่ก็ไม่ได้แย่อะไร แต่ถ้าเทียบกันแล้วลักษณะการฉีดไขมันเข้าตัวเองอันนี้โอเคเลยเพราะว่ามันเป็นการใช้วัสดุจากร่างกายตัวเอง มันก็จะไม่มีผลข้างเคียงอะไร แต่ข้อเสียของมันก็คือว่า เราจะไม่สามารถฉีดได้ในปริมาณที่มากอย่างที่เราตั้งใจ อาจจะมีข้อดีกว่าการผ่าตัดตรงที่ว่ามันไม่ต้องมีบาดแผล เพราะมันเป็นวิธีการฉีดเข้าไปเฉยๆ แต่ก็จะไม่ได้ไซส์ใหญ่ขนาดที่ต้องการเหมือนกับใช้วัสดุเสริมเข้าไป
วัสดุการเสริมหน้าอกมีกี่แบบตั้งแต่ถูกสุด แพงสุด ข้อดีข้อเสียของแต่ละแบบ
ก็คือหลักๆ จะมี 3 แบบ จะมีแบบที่เป็นพื้นผิวเรียบ ที่มีแค่ทรงกลม กับแบบที่เป็นพื้นผิวหยาบ จะมี 2 ทรง คือ แบบทรงกลมกับแบบที่เป็นทรงหยดน้ำ
ความต่าง มันต่างกันยังไงคะ
มันต่างกันตรงที่ว่า แบบนึงใส่แล้วต้องนวด อีกแบบนึงใส่แล้วไม่ต้องนวด
ก็คือถ้าเป็นทรงแบบที่พื้นผิวเรียบ เวลาที่เนื่องจากพื้นผิวมันเรียบเมื่อใส่เข้าไปแล้วมันจะยังมีช่องว่างในร่างกายทำให้เราจะต้องนวดอยู่ตลอดเวลาเพื่อให้มันไม่มีปัญหากับสภาพร่างกายแต่ว่าถ้าเป็นแบบที่พื้นผิวไม่เรียบหรือเนื้อทรายตรงนี้ก็คือพอใส่เข้าไปแล้วมันจะยึดเกาะกับร่างกายได้ดีกว่าเพราะฉะนั้นมันไม่จำเป็นจะต้องนวดอะไร ก็คือในแบบพื้นผิวเรียบอาจจะทำให้ดูเป็นธรรมชาติแต่ว่าก็ยังมีความจำเป็นที่จะต้องได้รับการนวดอยู่ตลอดเวลา แต่ว่าถ้าเป็นพื้นผิวไม่เรียบแบบเนื้อทรายมันอาจจะไม่ให้ความรู้สึกที่แบบหน้าอกขยับได้เหมือนแบบธรรมชาติจริงๆ สักเท่าไหร่นัก แต่ว่ามันจะมีข้อดีตรงที่ว่ามันจะไม่ต้องนวด มันก็จะไม่มีความเจ็บปวดเกิดขึ้น ก็พอมาเทียบในระหว่างพื้นผิวแบบเดียวกันแต่จะมี 2 รูปทรงก็คือเป็นทรงหยดน้ำกับทรงกลม ถ้าดูแล้วจริงๆ ทรงหยดน้ำจะดูเหมือนแข็งกว่านิดหน่อย ถ้ามองมุมนี้ก็จะเห็นว่ามันดูแข็งกว่าแต่มันจะทำให้รูปทรงอยู่ทรงมากกว่า มันทำให้ทรงออกมาเป็นธรรมชาติ ทรงหยดน้ำโดยปกติแล้วจะแนะนำให้กับคนที่หน้าอกค่อยข้างจะแบนมากๆ หรือไม่อย่างนั้นก็จะเป็นกับคนที่หน้าอกหย่อนคล้อย
ทรงหยดน้ำมันจะไม่มีท่าทีว่ามันจะนิ่มเหรอคะ คือเท่าที่จับดูค่อนข้างที่จะหนืดนึดนึง
หลังการผ่าตัด ประมาณ 2-3 เดือนนั้นแรก เนื้อเยื่อจะเริ่มเกาะตัว(พังผืด)กับวัสดุเทียมทำให้หน้าอกมีลักษณะแข็งตัว หลังจากที่ใส่เข้าไปในร่างกายแล้วก็ต้องรอสัก 3-6 เดือนมันก็จะนิ่มลงเป็นธรรมชาติขึ้นแต่ก็จะได้สัมผัสคล้ายที่จับ ก็คือในโลกนี้ไม่มีอะไรที่มันเพอร์เฟคไปทั้งหมดร้อยเปอร์เซ็นต์ ทุกอย่างมันก็ต้องมีข้อดีข้อเสียในตัวเองเพราะฉะนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการเลือกวัสดุ เพราะฉะนั้นเลือกให้ดีก่อน
ผลข้างเคียง
ก็คือจริงๆ แล้วผลข้างเคียงมันก็สามารถเกิดขึ้นได้ ซึ่งคุณหมอก็ยังบอกตอนแรกว่าถ้าทำให้มันไม่มีร้อยเปอร์เซ็นต์ได้ก็คงดีเนอะ แต่มันก็เป็นไปไม่ได้ เพราะฉะนั้นมันก็อาจจะมีบ้างเช่น อาการเจ็บ หรือ อาการปวด หรือแม้แต่อาการติดเชื้อก็สามารถเกิดขึ้นได้เหมือนกัน แล้วอาการที่เกิดขึ้นมากก็คือ เป็นไปได้อย่างนึงก็คืออาจจะเป็นลักษณะของการที่มันบิดตัวแล้วมันแตกก็เป็นไปได้เหมือนกัน
การพักฟื้น
คงแล้วแต่คน
การดูแลหลังการผ่าตัด
ก็คือแล้วแต่ลักษณะของวัสดุเสริมนะคะว่าถ้าสมมติเป็นทรงผิวเรียบอย่างที่บอกก็คือหลังจากที่ทำศัลยกรรมแล้วต้องมีการนวด แต่ว่าถ้าเป็นตัวที่เป็นผิวทรายก็คือหลังจากที่เราศัลยกรรมแล้วก็ไม่ต้องนวดอะไรก็สามารถใช้ชีวิตปกติได้เลย โดยปกติหลังจากผ่าตัดแล้วก็จะมีอาการบวมอยู่สักประมาณ 1-2 วัน ก็พักฟื้นในช่วงนั้นแล้วหลังจากนั้นก็ไม่มีอะไรใช้ชิวิตได้ตามปกติ ในวันรุ่งขึ้นก็สามารถอาบน้ำได้เลย
การรักษาแผลเป็น
ก็คือจริงๆ แล้วแผลมันก็จะมีขึ้นหลังจากที่เราผ่าตัดนะคะ แต่ว่าก็โดยปกติมันก็จะรักษาตัวเองแล้วก็ค่อยๆ หายไปเองหลังจาก 6 เดือนผ่านไปก็แทบจะมองไม่เห็นแล้ว เพราะฉะนั้นจริงๆ แล้วไม่ค่อยจะเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงสักเท่าไหร่
เพราะอะไรทำไมคนไข้ถึงต้องเลือกคุณหมอ
จริงๆ แล้วในการศัลยกรรมหน้าอก สิ่งที่สำคัญก็คือความละเอียดรอบคอบ แล้วก็ความประณีตในการผ่าตัด ซึ่งคุณหมอก็ค่อนข้างจะมั่นใจว่าสามารถทำได้ประณีตแล้วก็เรียบร้อยที่สุด
เทคนิคใหม่ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นในเรื่องของการเสริมหน้าอก
ถ้าเป็นในเรื่องของการใช้วัสดุเสริมอาจจะเรียกว่ามันมาเกือบจะถึงทางตันแล้วแหละ เพราะว่าจริงๆ มันก็น่าจะพัฒนาไปไม่ได้ไกลกว่านี้แล้ว แต่ถ้าพูดถึงวิธีการเช่นการฉีดไขมันหรือการฉีดอย่างอื่นเข้าไปในลักษณะการฉีด เช่น การฉีดไขมันตัวเองอะไรแบบนี้ ก็อาจจะมีทางพัฒนาขึ้นไปได้อีกซึ่งนั่นก็เป็นเรื่องของอนาคตซึ่งก็ยังมองไม่เห็นเหมือนกันว่าจะพัฒนาไปในทางไหน
เทคโนโลยีที่คิดว่าเป็นจุดเด่นของโรงพยาบาล
สำหรับที่โรงพยาบาลของเรามีการใช้เครื่องHD ที่ล้ำสมัยสมัยในการผ่าตัดศัลยกรรมหน้าอก โดยแพทย์ผู้ผ่าตัดสามารถทำการปฏิบัติด้วยการดูด้วยตาเปล่าได้ และสามารถทำกาารตัดเนื้อเยื่อได้อย่างแม่นยำ
และเครื่องตัวนี้ สามารถลดความสูญเสียของเนื้อเยื่อในการผ่าตัดได้น้อยที่สุด
อิอิ ใครสนใจเรื่องอัพไซส์น้องนมห้ามพลาดกับบล็อคหน้า
ประสบการณ์น้องนมราคาเกือบ 4 แสนบาท แพงอะไรกันหนอ O.o
ดูรูปตอนเอาเสื้อในเก่าบางส่วนไปบริจาคก่อน ความจริงรอบอกเอิ๊กประมาณ 29 นิ้ว
[ เข้าใจแล้วนะ ทำไมต้องทำ เอามือวางแนวนอนแล้วรูดไปจากช่วงอกบน
ลงพุงยังไม่ติดอะไรเลยราบเรียบมาก ]
ใส่วาโก้ประมาณ B70 ยี่ห้ออื่นก็ A32 บ้าง ไม่ค่อยเต็มเท่าไหร่ด้วยบางที ฮ่าฮ่าฮ่า
ตอนนี้ วาโก้ D70 ประมาณ 33.5 นิ้วค่ะ ก็พอดีตัว แล้วใครอยากดูแผลผ่าตัดที่ยิงเลเซอร์
ก็ตามอ่านกันได้บลอคหน้าครับผม ครับผม
ข้อมูลตัวพิมพ์บทความทั้งหมดถือเป็นลิขสิทธิ์ของ www.erk-erk.com แต่เพียงผู้เดียว ซึ่งเอิ๊กเรียบเรียงและเขียนเองทั้งหมดโดยได้รับอนุญาตลิขสิทธิ์ภาพและข้อมูลที่ถูกต้องบางส่วนเกือบจาก STMSTYLE.COM ที่ให้เผยแพร่ต่อได้โดยให้เกียรติลงเครดิต และขอความกรุณาคนไทยด้วยกันไม่ดัดแปลง แก้ไข ข้อความส่วนใดทั้งสิ้นนะคะ กราบขอบพระคุณล่วงหน้า ตั้งใจทำมาก อยากให้คนไทยที่มีความคิดที่จะทำศัลยกรรมได้อ่านอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจทำอะไรลงไปกับร่างกาย ใส่ความคิดตัวเองลงไปบ้าง ภาษาส่วนตัวแต่ไม่เปลี่ยนแปลงความจริงที่เกิดขึ้น
ที่มาส่วนประกอบข้อมูล รูปภาพ
- บทสัมภาษณ์คุณหมอ ชอง เจ ยอน ศัลยแพทย์หน้าอก
- บทความที่นำมาดัดแปลงบางส่วนจาก STMSTYLE.BLOGSPOT.COM
- รูปภาพลิขสิทธิ์ STMSTYLE.COM
- รูปภาพ GOOGLE บางส่วน
- ประสบการณ์จากการทำศัลยกรรมส่วนตัว และ จากที่ได้พบเห็นมาจริง
BEAUTY PARTNER STMSTYLE