Categorized | BEAUTY, FACE, SKIN CARE

อยากมีครีมเป็นแบรนด์ตัวเองที่ประสบความสำเร็จ กับ QUALITY PLUS และ ทดสอบสารอันตรายในเครื่องสำอาง ครีมบำรุง

อยากมีครีมแบรนด์ตัวเองที่ประสบความสำเร็จง่ายมาก

ครีมในเน็ตเยอะมากกกกกกกกกกกกกก และก็ขายดิบขายดีกันเทน้ำเทท่ามากกกกกกก

บางคนก็แจกทอง แจกไอโฟน ไอแพด ซื้อเบนซ์ ซื้อบ้านกันใหญ่โต

ถามว่ามีจริงไหม จริง ! แต่ดีจริงไหมไม่รู้ .. !?!?!!

บอกเลย  BEAUTY BLOGGER อย่างเอิ๊กไม่ค่อยจะกล้าลองแม้จะผ่านอย.ไทยแลนด์

เพราะส่วนใหญ่ยังไม่ค่อยมีงานวิจัยรับรองทั้งกระปุก เหมือนบางแบรนด์ที่ตปท.

แล้วยิ่งพอได้ไปดูโรงงานแบรนด์ดังตปท. บ่อยๆ รู้เลยว่าเขารอกันนานมาก

กว่าครีม 1 สูตรจะออกมาให้ได้ใช้ บ้างก็รอ 10 ปีเอง ส่วนแบรนด์ไทย

เทรนด์ไหนมาก็แข่งกันผลิต ใครทำก่อนรวยก่อน เจ้าของร้านดังหน่อย

สวยหน่อยเกิดเร็วมาก บางคนก็แตกไลน์มีตั้งแต่ดูแลหัวจรดเท้า

เอิ๊กจะลองก็ต่อเมื่อต้องสนิทกับเจ้าของ หรือ ซักข้อมูลอย่างละเอียดจริงจัง

บอกตรงๆ หนูไม่มั่นใจค่ะ

จนกระทั่งมีโอกาสได้รู้จักกับอุตสาหกรรมผู้ผลิตโดยตรง

และผู้อยู่เบื้องหลังแบรนด์ครีมบำรุงผิวในไทยมากกว่า 100 แบรนด์

สิ่งที่อยากจะบอกคืออุตสาหกรรมความงามไม่มีวันตาย100ล้าน% ในความเชื่อของเอิ๊ก

ไม่งั้นทุกคนคงไม่เห็นเอิ๊ก ณ ตรงนี้ 555555555555

อย่างที่เราเห็นกันในข่าวว่าการเติบโตของธุรกิจเครื่องสำอางไทยปีนี้ขยายตัวเพิ่มขึ้นไทยกลายเป็นผู้ผลิตและส่งออกเครื่องสำอางอันดับ 1 ของอาเซียน และ มีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง มันเป็นเรื่องของโอกาสทางด้านเศรษฐกิจ และการตอกย้ำความเป็นผู้นำในเอเชีย แน่นอนว่าภาครัฐยินดีให้การสนับสนุนเพื่อยกระดับอุตสาหกรรมไทยให้ไกลไปสู่ระดับโลก ดังนั้นใครทำอะไรตอนนี้ สร้างแบรนด์วางตำแหน่งมาดี มีการกระจายการรับรู้อย่างทั่วถึง หรือ สร้างกระแสได้ดี มีผลิตภัณฑ์ความงามที่ตอบโจทย์สภาพผิวของคนแต่ละทวีปได้อย่างมีคุณภาพชัดเจน ครอบคลุม มีโอกาสสูงมากที่จะดังในประเทศ ซึ่งสามารถพัฒนากลายเป็นแบรนด์ที่ส่งออก และ สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย

มีเงินเย็นลงทุนซักก้อน + ความฝันที่เคยมีก็อาจเกิดขึ้นได้

และ เงินทุนเริ่มต้นก้อนที่บอก คือประมาณ 50,000 บาท

แต่จะประสบความสำเร็จได้ก็ต่อเมื่อมีความตั้งใจจริง

อดทน ขยัน พัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่องด้วย และต้องเรียนรู้เรื่อง

กลยุทธ์การตลาด กลยุทธ์การสร้างแบรนด์ กลยุทธ์การวางสื่อ

กลยุทธ์การลงทุน พฤติกรรมผู้บริโภค เพิ่มเติมด้วย

” ในอดีตเอิ๊กเคยฝันอยากมีแบรนด์สกินแคร์ที่เป็นของตัวเอง

แต่แค่คิดก็เดาไปแล้วว่ามันไกลมาก

ที่ไกลเพราะอะไร เพราะรู้แน่นอนว่าต้องใช้เงินเยอะมาก

เพราะมันเป็นแบรนด์ของเราเองนิ ส่วนเรื่องอื่นข้างต้น

เอิ๊กได้เรียนมาบ้างแล้ว และ ก็นำมาปรับใช้กับอาชีพอิสระของตัวเอง “

ก็คงติดแค่เรื่องเงิน นึกว่าต้องมีซัก 5 แสน ถึง 1 ล้านบาท กว่าจะเป็นรูปเป็นร่าง

 นั่นคือ ความเข้าใจมาตลอดก่อนจะได้ทำความรู้จัก QUALITY PLUS

Quality Plus Aesthetic International Co.,Ltd.

บริษัทผู้ผลิตสกินแคร์ตามใจคุณ และ ช่วยสร้างแบรนด์สกินแคร์คุณ

ให้ประสบความเร็วยั่งยืน ยาวนาน ให้บริการการดูแลให้คำปรึกษาแบบครบวงจร

CONCEPT : The Origin of Beauty Revolution

ก่อนจะเข้าเรื่องอยากบอกความในใจนิดนึงระหว่างเอิ๊กฟังการนำเสนอภาพรวมของบริษัทอย่างเจาะลึก และ การถามคำถามที่เอิ๊กสงสัยก็ถามแบบเจาะลึกมาก เอิ๊กอยากบอกว่ามันเป็นการทำงานที่รู้สึกดีมากอีก 1 วัน แม้ระยะเวลาในการทำบล็อคนี้นานมาประมาณเกือบเดือน เนื่องจากว่าผู้หนึ่งบริหารที่นี่ และ ทีมQUALITY PLUS ให้ข้อมูล และ ตอบคำถามเอิ๊กแบบละเอียดมาก พร้อมทั้งยกตัวอย่างเห็นภาพชัดเจน เอิ๊กบอกได้คำเดียวว่าจากเจตนารมณ์ที่เขามีเปิดรองรับลูกค้าทุกระดับ และ ที่สำคัญหนึ่งในทีมผู้บริหารก็คุยให้คำปรึกษาด้วยตัวเองทุกเคส ไม่ว่าลูกค้าจะมีเงินเริ่มต้นที่น้อย หรือ มาก เอิ๊กว่ามันเป็นการ SERVICE MIND ที่เอิ๊กพบน้อยมาก และ เป็นการให้บริการที่ไม่มีกำหนดระยะเวลา หรือ พูดง่ายๆ เมื่อก้าวเข้ามาเป็นลูกค้า ให้คิดถึงว่า QUALITY PLUS จะดูแล และ คอยให้คำปรึกษาคุณตลอด และมันพิเศษมากกว่านั้น ที่ทุกข้อมูลขั้นตอนให้คำปรึกษาฟรี ข้อมูลแน่นมากที่สุดของที่สุด มีรายละเอียดชัดเจน พร้อมตัวอย่างอธิบายซึ่งลูกค้าที่อาจไม่มีความรู้ด้านนี้เลยให้เข้าใจได้ง่าย เอิ๊กรู้อยู่แล้วในใจระหว่างนั่งฟังข้อมูลว่ายังไงบริษัทนี้ต้องประสบความสำเร็จ และ เติบโตอย่างยิ่งใหญ่มากแน่นอน มันไม่ใช่เพราะเรื่องเทคโนโลยี หรือ นวัตกรรมที่เขาพยายามพัฒนา และ ใช้สิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าตลอด แต่มันเป็นเรื่องของ “หัวใจ” ที่เขาอยากให้คนอื่นประสบความสำเร็จไปด้วยกัน กับธุรกิจที่เขาทำโดยผันตัวเองเป็นผู้สนับสนุนลูกค้าอยู่เบื้องหลังแบบครบวงจร ลูกค้าจะบอกต่อหรือไม่ก็ได้ เขาไม่ได้ติดเรื่องตรงนี้ อย่างที่วิสัยทัศน์ของที่นี่คือตั้งใจอยากปฏิวัติวงการเครื่องสำอาง ให้มีคุณภาพเป็นเลิศเพื่อก้าวไปสู่ระดับสากลเอิ๊กว่าเขาทำได้  ไม่ว่าจะเป็นความเป็นทีม แววตาและความมุ่งมั่นของทีมทุกคน ความมีน้ำใจที่จะเริ่มช่วยเหลือให้กับคนทุกระดับ QUALITY PLUS จะก้าวกระโดดไปมากกว่าวันนี้ที่เขาก็มาไกลขึ้นเรื่อยๆอยู่แล้ว ขอให้รักษาวิสัยทัศน์ และ จุดยืนตรงนี้ไว้ตลอดไปค่ะ

ก่อนที่เอิ๊กจะมาแนะนำในเรื่องของบริษัทนี้ เอิ๊กว่าหลายคนต้องสนใจมากในเรื่องการมีแบรนด์เป็นของตัวเอง ในคำแนะนำส่วนตัวของเอิ๊ก เอิ๊กอยากให้อันดับแรกหากคุณอยากทำธุรกิจกับบริษัทไหน ควรตรวจสอบรายละเอียดการจัดตั้งของบริษัทให้เรียบร้อย ซึ่งสามารถตรวจได้ถึงรายละเอียดงบกำไร ขาดทุน การนำส่งงบประมาณ ประจำปี ประวัติปีการก่อตั้ง สมาชิก กรรมการ รายชื่อผู้ถือหุ้น เพื่อเช็คแนวโน้มความมั่นคงของบริษัท และ เพื่อสร้างความมั่นใจว่าบริษัทที่เราจะลงทุนมีอยู่จริง เปิดขึ้นโดยถูกต้องตามกฎหมายสามารถสมัครสมาชิก และ เช็คได้ที่นี่ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เอิ๊กได้ความรู้นี้มาตอนเอิ๊กเป็นเลขา ^^

ความจริงสามารถขอทาง QUALITY PLUS ดูเอกสารได้ แต่เราก็แค่เช็คขั้นตอนเพื่อความสบายใจ

เงินก้อนเล็กๆบางก้อน บางคนอาจเก็บหอมรอบริบมาทั้งชีวิตก็เป็นได้

และก็มาถึงขั้นตอนการดูแล และข้อมูลต่างๆ จากทีม QUALITY PLUS ที่ละเอียด

และโปร่งใสมาก จนทำให้เอิ๊กประทับใจอย่างที่บอกตอนต้น

แบรนด์ความงามประสบความสำเร็จขึ้นกับ 4 ปัจจัย

Product : ต้องชัดเจน มีคุณภาพจริง เห็นผลจริง และ ต้องปลอดภัย

Branding : ต้องแตกต่าง มีเอกลักษณ์ น่าจดจำ มีพลังทำให้คนที่ได้เป็นเจ้าของรู้สึกดีถึงดีมากที่สุด ระดับสูงคือ ถ้ามีอาจหมายถึงการบ่งบอกสถานะคนใช้ มีไว้แล้วภูมิใจ คนพูดถึง คนจำได้

Cost planing : มีเงินอย่างเดียวไม่พอ การจะประสบความเร็จ กำไรเป็นอีกตัวหนึ่งที่ใช้วัดผลความสำเร็จ ดังนั้นเรื่องเงินทองต้องวางแผน ต้องวัดผลได้ ต้องประมาณการได้

Marketing : ถ้าเรารู้จักสินค้าเราคนเดียว หรือ ปากต่อปากกันไปอาจต้องใช้เวลา วางแผนใช้สื่อที่เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย มีการกระจายสินค้าไปยังที่อยู่ ที่หาซื้อได้ง่ายที่เข้าถึงได้ของกลุ่มเป้าหมาย เข้าถึงเร็ว ไว ของใช้ดี ซื้อง่าย เห็นบ่อยคนก็จะกลับมาซื้อซ้ำ

Quality Plus Aesthetic International Co.,Ltd. หรือ QUALITY PLUS เปิดบริการมาตั้งแต่ปี 2009-2013 มีกลุ่มลูกค้ามากกว่า100แบรนด์ เป็น Local brand [แบรนด์ในประเทศ] และยังมีสินค้าที่ผลิตเพื่อส่งออกต่างประเทศ รวมถึงมีสินค้าที่ผลิตกว่า 400 SKU

Target หลัก : ประเทศไทย  

Target รอง : ประเทศพม่า เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และมีอีกหลายประเทศที่กำลังวางแพลนในอนาคต

ทีมผู้เชี่ยวชาญ QUALITY PLUS ทั้งหมด 9 คน  ทุกคน 

จะมีรายละเอียดส่วนตัวให้ติดต่อในเว็บไซด์ 

          ก่อนอื่นที่เอิ๊กจะได้มีโอกาสรู้จักกับบริษัทนี้ โดยส่วนตัวแล้ว เอิ๊กคิดว่าคนไทยส่วนมากที่ยังศึกษาความรู้ตรงนี้ไม่มากพอในเรื่องการผลิตหรือการทำสกินเเคร์ที่เป็นแบรนด์ของตัวเอง สังเกตได้จากคนไทยส่วนใหญ่น้อยมากที่จะเลือกสกินแคร์ให้เหมาะกับสภาพผิวของตัวเองได้อย่างจริงจังหรือว่าเลือกครีมที่ผ่านการรับรองอย่างถูกต้อง ปลอดภัย เขาไม่ใช่ไม่รู้ แต่เขาอาจจะตามกระแส ไม่ได้เช็คข้อมูลให้ละเอียดก่อน เช่น ผลิตที่ไหน เมื่อไหร่ ใครผลิต เหมาะกับผิวไหม เพราะความใส่ใจในการหาข้อมูลไปอยู่ที่ว่า ดาราใช้ เน็ตไอดอลใช้ หรือคนที่เป็นกระแสในสังคมที่มีชื่อเสียงใช้ พวกกลุ่มคนที่มีความชอบในเรื่องความงาม แม้แต่นิตยสาร หรือ บล็อคเกอร์เอง ก็อยากจะเลือกซื้อตาม

          ถ้าพูดอะไรวิชาการก็คงจะเบื่อ แต่อยากบอกว่าการสังเกตุฉลากสำคัญ แหล่งซื้อสำคัญ อย.สำคัญ เลขที่จดเเจ้งสำคัญ ถ้าเป็นเอิ๊ก เอิ๊กอยากแนะนำไม่่ว่าคุณจะเริ่มมีธุรกิจผลิตสกินแคร์ หรืออะไรก็แล้วแต่ที่เกี่ยวข้องกับผิวพรรณ เอิ๊กอยากจะให้ทุกคนควรจะเรียนรู้เรื่องโครงสร้างของผิวพรรณมนุษย์ รวมไปจนถึงเรียนรู้ในเรื่องของโครงสร้างผิวของตัวเองเป็นพื้นฐานความรู้ อย่างละเอียด ถี่ถ้วน ซึ่งผิวของคนเรานั้นก็มีการเปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา ขึ้นกับหลายๆปัจจัยตามที่เอิ๊กได้กล่าวตลอดเวลาในบลอคเก่าๆของเอิ๊ก นี่คือสิ่งที่เอิ๊กอยากจะฝากไว้ให้กับทุกคน ก่อนที่ทุกคนจะได้เริ่มอ่านบทสัมภาษณ์ของผู้บริหาร QUALITY PLUS

[ QUALITY PLUS มีให้ด้วยเอาไว้ให้ลูกค้าดูว่าส่วนผสมแบบเทคโนโลยีนาโน จะซึมลึกระดับไหน ขอชมเชย

ให้ดีแนะนำไปแล้ว อยากให้มีเครื่องตรวจผิวจริงจัง ให้ลูกค้าได้เข้าใจมากๆขึ้นไปอีกค่ะ]

 

วันนี้เอิ๊กได้รับเกียรติจาก คุณ วุฒิพงศ์ พานิชเศรษฐกร ผู้จัดการทั่วไป

และ ทีมงานของQUALITY PLUS

ให้ข้อมูลในเรื่องของบริการการผลิตสกินแคร์ที่เป็นแบรนด์ของตัวเอง

และ ช่วยลูกค้าสร้างแบรนด์เพื่อให้ประสบความสำเร็จในระยะยาว

เดินทางไปที่ออฟฟิตและแกลลอรี่ของQUALITY PLUS เขตดอนเมือง

ขณะนี้QUALITY PLUS ได้มีเเพลนจะขยายโรงงานให้ใหญ่ขึ้น

เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าที่มากขึ้นและปรับขนาดธุรกิจของตัวเองให้เติบโตขึ้น

ตามความต้องการของลูกค้า และเพื่อรองรับกับตลาดอาเซียน (AEC) 

QUALITY PLUS จัดว่าเป็นบริษัท OBM Services ที่มีไม่กี่แห่งในประเทศไทย

ในธุรกิจรับผลิตสกินแคร์หรือรับจ้างผลิตในอุตสาหกรรมอื่นๆ จะมีชื่อเรียกเกี่ยวกับการให้บริการของธุรกิจ 3 แบบ

  1. OEM : Original Equipment Manufacturer เป็นการรับจ้างผลิตสินค้า 
  2. ODM : Original Design Manufacturing การรับจ้างผลิตสินค้า + การพัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์ + งานดีไซน์ 
  3. OBM : Original Brand Manufacturing Service การรับจ้างผลิตสินค้า + การพัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์ + งานดีไซน์ + สร้างแบรนด์สินค้า + กำหนดตลาด + ผลิตบรรจุภัณฑ์ + วางแผนค่าใช้จ่าย + งานบริการในส่วนของการตลาดเพิ่มเติมเพิ่มมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจ เพื่อเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มทางธุรกิจสูงสุดให้กับลูกค้า


วิสัยทัศน์ของQUALITY PLUS

ต้องการเป็น Trendsetter หรือผู้นำทางด้านอุตสาหกรรมสกินแคร์ในระดับอาเซียน และมีนวัตกรรมใหม่ตลอดเวลา รวมถึงการเลือกใช้เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดและมีคุณภาพในการผลิตเพื่อส่งมอบให้กับลูกค้า เพื่อปฎิวัติวงการอุตสาหกรรมความงาม และเป็นการทำงานในลักษณะของ The best one stop services ผู้อยู่เบื้องหลังการสร้างแบรนด์ลูกค้าให้ประสบความสำเร็จ

 

หัวใจหลักในการทำงานของQUALITY PLUS  3 ข้อ

1. การบริการแบบ OBM One Stop Service ที่เน้นสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับลูกค้าอย่างสูงสุด

          นอกจากการรับจ้างผลิตสกินแคร์เหมือนอย่างOEMตามปกติ ยังมีการสร้างมูลค่าเพิ่มหรือสร้างความแตกต่างโดยการผลิตสกินแคร์เพื่อให้เป็นในแบบเฉพาะของลูกค้าในแต่ละคน ซึ่งเจาะลึกลงไปมากขึ้น จากนั้นก็จะมีการให้บริการทางดานพัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์ ถ้าลูกค้าต้องการส่วนผสมหรือสารสกัดตัวไหน บริษัทก็จะยินดีที่จะหาข้อมูลเกี่ยวกับส่วนผสมและสารสกัดนั้นๆ รวมจนถึงงานวิจัยที่เคยเกิดขึ้นหรือมีอยู่เเล้ว เพื่อรองรับทั้งความปลอดภัยและประสิทธิผลของสารสกัดหรือส่วนผสมนั้นๆ ตามด้วยงานดีไซน์ ตั้งแต่แพคเกจ การเลือกบรรจุภัณฑ์ที่จะใส่สกินแคร์ รวมถึงการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับตราสินค้า โดยเน้นเรื่องการสร้างแบรนด์สินค้า ตั้งแต่การวางตำแหน่งสินค้าทางการตลาด การกำหนด และการอธิบายกลุ่มเป้าหมายในแต่ละกลุ่มตามที่ลูกค้าต้องการและอยากจะอยู่ ณ จุดนั้นๆ รวมไปถึงการผลิตลงในบรรจุภัณฑ์หรือการเลือกขวดและกระปุกบรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสมกับสกินแคร์ของลูกค้า ยังมีส่วนของการช่วยวางแผนค่าใช้จ่ายให้อย่างรัดกุม ทำให้ลูกค้าประหยัดต้นทุนอย่างสูงสุด และมองถึงอนาคตที่ทำให้ลูกค้าได้มาซึ่งกำไร ต่อจากนั้นยังมีงานบริการในด้านการตลาดเพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการสื่อสารทางการตลาดกับกลุ่มเป้าหมาย การกระจายสินค้า การช่วยหานางแบบในการโฆษณา การจัดงานอีเวนท์ พูดง่ายๆเป็นการสื่อสารทุกรูปแบบ ทั้งหมดนี้เป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มอย่างสูงสุดให้กับลูกค้าOBEMทุกระดับกับQUALITY PLUS

2. มีมาตรฐานการผลิตสกินแคร์แบบแบรนด์ชั้นนำ ซึ่งมีการทำงานร่วมกับLABของบริษัทผู้นำนวัตกรรมชั้นสูงเพื่อการผลิตสกินแคร์จากประเทศญี่ปุ่น

          QUALITY PLUSทำงานร่วมกับบริษัทแลบฯใหญ่ๆทางญี่ปุ่น 3 ที่ โดยทางแลบฯญี่ปุ่นจะเป็นคนคิดค้นสูตรใหม่ๆขึ้นมา โดยการเริ่มใช้นวัตกรรมเทคโนโลยีใหม่หรือการสกัดส่วนผสมใดๆก็ตาม และส่งให้ทางQUALITY PLUSเป็นผู้ผลิต หรือแม้แต่การหางานวิจัยรับรองส่วนผสมหรือสารสกัดนั้นๆที่ลูกค้าต้องการก็สามารถทำได้ รวมถึงทางญี่ปุ่นเองยังมีการหาข้อมูลเกี่ยวกับความปลอดภัย [Safety] ในการใช้งานของผลิตภัณฑ์นั้นๆด้วย การทำงานร่วมกับบริษัทแลบฯของทางญี่ปุ่นก็จะมีในเรื่องการแพทย์ การหาข้อมูลวิจัยต่างๆมาสนับสนุนส่วนผสมหรือสารสกัดต่างๆที่เป็นทั้งสูตรพื้นฐานของQUALITY PLUSหรือเป็นสูตรพื้นฐานที่คิดค้นขึ้นมาใหม่

3. ดำเนินงานในระบบ Project Management ด้วยบุคลากรมืออาชีพที่สามารถให้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวสินค้า และเป็นที่ปรึกษาวางแผนต้นทุนและการตลาดทุกในขั้นตอน

Project Management System : ระบบนี้เป็นเอกลักษณ์ของ QUALITY PLUS เป็น signature ของบริษัท แตกต่างจากโรงงานที่มีแค่เซลล์ให้ข้อมูลในเรื่องของรายละเอียดข้อมูลเกี่ยวกับตัวผลิตภัณฑ์และบริการเท่านั้น แต่ระบบนี้จะเน้นให้ข้อมูลเชิงลึกของทุกส่วนแบบ 360 องศา ตั้งแต่เริ่มต้น จนจบ จนถึงพัฒนา ผลิต ขายใหม่ โดยมีการนำเสนอออกมาเป็นรายละเอียดที่ชัดเจนเห็นภาพเข้าใจง่ายในทุกขั้นตอน

ระบบProject Management ประกอบด้วย

  • Product Information

          การเจาะลึกถึงข้อมูลผลิตภัณฑ์และรายละเอียดผลิตภัณฑ์ที่เราจะผลิตขึ้น 

  • Ingredient Information

          ให้ข้อมูลเชิงลึกในเรื่องของส่วนผสมและสารสกัดพร้อมทั้งงานวิจัยรับรองของส่วนผสมหรือสารสกัดแต่ละตัว ยกเว้นแต่ว่าถ้าลูกค้ามีสารสกัดหรือส่วนผสมที่ยังไม่เคยมีใครทำมาก่อนในประเทศไทย ก็สามารถให้ทางเราเป็นผู้เก็บส่วนผสม ข้อมูลแต่ละอย่างที่ลูกค้าต้องการมาสกัด ทดสอบ และเก็บข้อมูลเพื่อดูประสิทธิภาพนั้นๆได้ หลังจากนั้นก็สามารถให้ทางเราไปขึ้นเลขทะเบียนจดแจ้งได้

  • Cost Planning

          ทางเราก็มีในเรื่องของการวางแผน ต้นทุนค่าใช้จ่าย แบ่งเป็นค่าใช้จ่าย 2 ส่วน 1. Fix cost ต้นทุนคงที่ ที่ค่าใช้จ่ายตายตัว เช่น การขึ้นทำเบียนเครื่องสำอางจดแจ้งอย. การจดลิขสิทธิ์แบรนด์โลโก้ ค่าใช้จ่ายงานดีไซน์ จ่ายครั้งเดียวจบ 2. Variable costs ต้นทุนผันแปรซึ่ง QUALITY PLUS เราใช้เครื่องมือเฉพาะทางอุตสาหกรรมของเรามาวิเคราะห์ว่า การผลิตหนึ่งสินค้าที่จะเกิดขึ้นได้ ต้องประกอบไปด้วย เช่นแจกแจงออกมาแล้ว มีทั้งตัวครีม เนื้อครีม ตัวกระปุก งานสกรีน ตัวกล่อง FDA สติ๊กเกอร์ ฯลฯ เราจะคำนวณรายละเอียดพวกนี้ลงใน Excel และเปิดอธิบายรายละเอียดให้กับลูกค้าอย่างชัดเจน ว่าการลงทุนครั้งแรกในหนึ่งโปรเจคต้องใช้เงินลงทุนในก้อนไปกี่บาท แล้วคิดออกมาเป็นแต่ละส่วน พร้อมทั้งวางแผน MARKETING ว่าถ้าใช้ต้นทุนของชิ้นนึงประมาณกี่บาทแล้วถ้าลงสื่อทำโฆษณา [advertising] ต้องขายกี่ชิ้นถึงจะคุ้มทุน จะวิเคราะห์จุดคุ้มทุนให้ดูถ้าลูกค้าตกลงกับงบประมาณการลงทุนและพร้อมที่จะทำจริง และมีอีกหลายส่วนที่สำคัญ เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น อยากให้ลูกค้าลงทุนให้คุ้มค่าที่สุด และ อยากให้คำปรึกษาอยากเต็มที่เพื่อปกป้องและดูแลผลประโยชน์ของลูกค้าทุกองค์ประกอบ

  • Branding Information

          เราก็จะให้ข้อมูลในเรื่องของการสร้างแบรนด์ สำคัญมากเพราะเป็นจุดที่ทำให้เรามีเอกลักษณ์ แตกต่าง และ เป็นที่จดจำ สุดท้ายจะสามารถเป็นมูลค่าเพิ่มในการทำสกินแคร์แบรนด์ตัวเองระยะยาว ให้คำปรึกษาตั้งแต่ในเรื่องของการวางตำแหน่งสินค้า การเลือกตลาด การให้ข้อมูลเกี่ยวกับตลาดนั้นๆ พฤติกรรมของผู้บริโภค รวมจนถึงการปรึกษาหารือและสรุปให้ลงตัวก่อนการทำสกินแคร์ขึ้นมา มีการวางระดับตำแหน่งแบรนด์ในตลาด การคิดบุคลิกภาพของแบรนด์ การคิดmood&tone ให้กับแบรนด์ โดยทางQUALITY PLUSจะมีตารางตัวอย่างให้ลูกค้าเห็นภาพว่าจะวางตำแหน่งตราสินค้าของตัวเองไว้ส่วนไหนของตลาด ยกตัวอย่างให้เห็นภาพ เช่น ลูกค้าต้องการมี BRAND และ คุณภาพคล้ายแบรนด์XXX ก็จะต้องอธิบายให้ลูกค้าเห็นภาพ concept ของ XXX แน่นอนก็จะสไตล์ natural ส่วนบุคลิกภาพของแบรนด์ หรือ Brand Personality ก็เปรียบเสมือนเป็นผู้หญิงวัยทำงาน ที่รักสวยรักงามตั้งแต่หัวจรดเท้า รายได้ปานกลาง ชอบความแปลกใหม่ และ กล้าที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง กล้าลองอะไรใหม่ๆอยู่ตลอดเวลา สังเกตุได้จาก XXX ชอบออก COLLECTION ใหม่อยู่ตลอด พอลูกค้าเห็นภาพรวม เข้าใจของธรรมชาติของตลาดที่ตัวเองต้องการก่อนเป็นอันดับแรก จากนั้น เราถึงค่อยวางแผนของตัวสินค้าเป็นลำดับต่อไป ถ้าลูกค้าไม่รู้ตัวเองอยากให้แบรนด์ออกมาเป็นแบบไหนก็ไม่ต้องห่วง ทางเรามีตลาดการทำตัวอย่างในเรื่องการวางตำแหน่งตราสินค้าไว้ให้ดูเรียบร้อยแล้ว ส่วนถ้าลูกค้ามีความต้องการลึกถึงขั้นอยากลงงบประมาณทุ่มไม่อั้นลงสื่อ จ้างดารา เช็คฮวงจุ้ยทุกขั้นตอน QUALITY PLUS ก็จะมีบริษัท ALL IDEA STUDIO บริษัทในเครือ ทำเรื่องสื่อ รวมถึงการออกแบบ การเลือกสีสันทุกอย่างรวมไปถึงการดูดวง หรือ ฮวงจุ้ยเลย

  • Margketing

          QUALITY PLUS จะมี2บริษัทในเครือ บริษัท BEAUTY AT HOME ให้บริการเรื่องช่องทางการกระจายสินค้า และ บริษัท ALL IDEA STUDIO ให้บริการด้านการวางแผนและทำการติดต่อลงสื่อให้เพื่อให้เกิดการสื่อสารข้อมูลของแบรนด์ ข้อมูลของตัวผลิตภัณฑ์ไปยังผู้บริโภค กระจายตามสื่อต่างๆทุกช่องทางที่เข้าถึงผู้บริโภค หรือ สื่อที่ลูกค้าต้องการ ไม่ว่าจะเป็นสื่อ above the line หรือ below the line หรือจะเป็น online ก็ตาม เช่นการทำ BELOW THE LINE อย่างสื่อ EVENT / การหา PRESENTER / BRAND AMBASSADOR การทำสือ ONLINE  อย่าง FACEBOOK /  SEO / WEBSITE / YOUTUBE CHANNEL  ได้หมด

  • Consulting Skill

          ทางเรามีบริการให้ข้อมูลครบวงจรในเรื่องของการพัฒนาตราสินค้าทั้งหมด หรือการวางแผนทุกส่วนอย่างครบวงจร อีกทั้งมีในเรื่องของการตั้งชื่อแบรนด์ด้วย

  • Creative Skill

          เราก็จะมีในเรื่องของการดีไซน์ออกแบบpackaging การเลือกบรรจุภัณฑ์ใหม่เหมาะกับตราสินค้า พิมพ์กล่อง พิมพ์สติ๊กเกอร์ งานสกรีน การทำสื่อโฆษณา แบรนด์เนอร์ต่างๆถ้าลูกค้าต้องการ  

  • Timeline Planning

          เครื่องมือการวางแผนในเรื่องของตารางเวลาการวางแพลน เช่น เราวางแผนในเรื่องของกระบวนการผลิตสินค้า ระยะเวลาในแต่ละขั้นตอน การทำงบประมาณขึ้น ประมาณการระยะเวลาของการได้มาซึ่งกำไร ระยะเวลาการใช้สื่อโฆษณา ประชาสัมพันธ์แต่ละแบบ ฯลฯเพื่อให้ทุกอย่างเป็นไปตามเป้าหมายในระยะเวลาที่ตั้งใว้ ถ้าคลาดเคลื่อนยังไง จะได้วางแผนปรับแก้ และ พัฒนาในจุดที่ต้องปรับต่อไป

 

[ มาล้วงความลับ QUALITY PLUS ไปกวนครีมหลังบ้านมาแข่งดีฝ่า ออกแบรนด์ “เอิ๊กกวนครีม” ]

การผลิตสูตรสกินแคร์ที่เป็นแบรนด์ตัวเอง มีให้ลูกค้าเลือก 3 แบบ
1. STANDARD FORMULA : สูตรมาตรฐาน
คือสูตรที่QUALITY PLUSกับแลบฯที่ได้ทำงานร่วมกัน นั้นได้คิดค้นมาแล้วว่าเป็นสูตรที่มีประสิทธิภาพและมีงานวิจัยจากต่างประเทศที่รับรองในแต่ละสารสกัดสำคัญเหล่านั้น พร้อมทั้งสารสกัดทุกตัวได้รับการจดแจ้งเลขอย. เรียบร้อยแล้ว และ สารสกัดทุกตัวมีงานวิจัยจากต่างประเทศรับรอง
2. NEW DEVELOPMENT FORMULA : สูตรพัฒนา
คือ สูตรมาตรฐาน + สูตรความต้องการของลูกค้าเอง หรือสูตรความต้องการของลูกค้าที่อยากจะเพิ่มสารสกัดสำคัญอะไรบางอย่างลงไป เพื่อต้องการให้แตกต่างจากสูตรมาตรฐาน อีกทั้งเพื่อให้มีความเป็นสกินแคร์ของตัวเองและเพื่อความเป็นหนึ่งเดียว และเอกลักษณ์มากยิ่งขึ้น หรือจะให้ทางQUALITY PLUSคิดค้นหรือพัฒนาสูตรใหม่ขึ้นมาเพื่อตอบสนองความต้องเฉพาะก็ได้เหมือนกัน
3. INTERNATIONAL FORMULA : สูตรที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ
คือ เป็นสูตรที่คิดค้นและนำเข้ามาจากต่างประเทศ อยาก QUALITY PLUS จะมี LAB ที่ญี่ปุ่น และ เกาหลี ให้ทางนั้นคิดสูตรส่งมาผลิต หรือ ผลิตให้เสร็จจากประเทศที่ต้องการ แล้วนำมาแบ่งบรรจุในไทย ราคาก็จะขึ้นอยู่กับสารสกัด ส่วนผสมที่ใช้ด้วยสามารถบอกความต้องการเพิ่มเติมได้ ส่วนผสมและสารสกัดทั้งหมดนำเข้าจากต่างประเทศทุกตัว [ยกเว้นอยากได้สารสกัดจากประเทศไทยก็ทำได้เช่นกัน] 
การผลิตสีสกินแคร์ที่เป็นแบรนด์ตัวเอง มีให้ลูกค้าเลือก 3 แบบ
* สูตรมีทั้งเน้นเป็นสารสกัดจากธรรมชาติ หรือ ส่วนผสมสังเคราะห์ก็ทำได้ รวมถึงเลือกสี และ กลิ่น ของสกินแคร์ จะเลือกแบบธรรมชาติ หรือ สังเคราะห์ก็ได้อีกเช่นกัน
 
QUALITY PLUS รับผลิตสกินแคร์บำรุงผิว แก้ไขปัญหาผิวด้านใดบ้าง ?
ANTI-AGING : ลดเลือนริ้วรอย ชะลอวัย
MOISTURIZER : ให้ความชุ่มชื่น ให้ความสมดุลของน้ำหล่อเลี้ยงผิว
SOOTHING : ปลอบประโลม ลดการอักเสบของผิว
LIGHTENING : ให้ความกระจ่างใส หรือ ช่วยยับยั้งเม็ดสีเมลานินทำให้ผิวมีสีอ่อนลง
ANTI-POLLUTION : ปกป้องผิวจากมลภาวะที่อันตราย เช่น แสงแดง
PLUMPING : ยกกระชับผิว
HAIR CARE : ดูแลเส้นผม
รวมไปถึงกลุ่มผลิตภัณฑ์เหล่านี้
สารสกัดแบ่งออกมี 4 ประเภทที่ให้บริการ
1. สารสกัดจากพืชที่นำเข้าจากประเทศในแถบยุโรป
2. สารสกัดจากสัตว์ที่นำเข้าจากประเทศในแถบยุโรป
3. สารสกัดจากงานวิจัยในประเทศญี่ปุ่น
4.สารสกัดจากสมุนไพรไทย
[ เด็กหญิงเอิ๊กก็สนุกตามเรื่องตามราว วิชาวิทยาศาสตร์ไม่ค่อยเรียนตอนเด็ก คุณแตงไทยทีม
R&D มาผสม EYE GEL ให้เล่น ตื่นเต้นใหญ่ ]
สินค้าผลิตแล้วจะขายใคร ?
          ในพาร์ทนี้เป็นส่วนหนึ่งงของMarketing ในระบบ One Stop Service ของQUALITY PLUS ซึ่งบริษัทที่คอยกระจายสินค้าให้ โดยเป็นบริษัทในเครือชื่อว่าบริษัท บิวตี้โฮมมาร์ท เเบ่งเป็น 2 ส่วนคือ
  1. Home Dealer หาตัวแทนจำหน่าย
  2. Affiliated Marketing เป็นระบบนิยมมากในต่างประเทศ เพราะแค่มีคอมก็สามารถทำงานอยู่ที่บ้านได้ หลักคือ มีการแจกลิงค์ให้กับคนที่สมัครโปรแกรมซึ่งจะเป็นลิงค์ที่มีรหัสเฉพาะแตกต่างกันไป หากลิงค์ไหนมีคนคลิกเข้าไปแล้วซื้อสินค้าจากลิงค์นั้น ลิงค์นั้นก็จะได้รับเงินเป็นส่วนแบ่งเปรียบเสมือนค่าคอมมิชชั่น
 
มาถึงคำถามที่เอิ๊กถามแทนผู้บริโภคทุกคน และ ถามให้ตัวเอิ๊กเอง หากวันใดวันนึงเราเปลี่ยนใจ เอิ๊กคงมาใช้บริการที่นี่ เพราะเอิ๊กโดนเค้าปิดการขายตั้งแต่ข้อมูลที่เขามีให้เอิ๊กด้านบนแล้ว เพียงแต่เอิ๊กอยากเก่งกว่านี้ เอิ๊กอยากรู้ทุกเรื่องด้วยเฉพาะส่วนผสม สารสกัดด้วยตัวเองก่อน เอิ๊กชอบหาข้อมูล อีกอย่างเอิ๊กอาจจะทนรับสภาพ หากมีลูกค้าคนใดคนหนึ่งของเอิ๊กแพ้ไม่ได้ แม้ว่าเอิ๊ก กับ QUALITY PLUS ในอนาคตจะตั้งใจ และ เลือกสิ่งที่ดีที่สุดออกมา แต่ก็ไม่ได้หมายความทุกสิ่งทุกอย่างที่เราทำ จะใช้ได้ถูกจริตกับผู้หญิงทุกคน คำถามทั้งหมดน่าจะบอกถึงความตั้งใจในการเป็นสื่อกลางของเอิ๊กให้มากที่สุด บางครั้งก็ยังอยู่ในฝั่งผู้บริโภค เผื่อวันนึงเขาจะได้ทำแบรนด์ erk-erk ให้เอิ๊ก 😀
ไม่มีความรู้เรื่องการขายของเลยจะทำอย่างไร ?
          ซึ่งเกิดขึ้นเพื่อเติมเต็มความต้องการของลูกค้า ที่ต้องการได้รับคําปรึกษาในเชิงลึกของธุรกิจตัวอย่างเช่นการวางแผนธุรกิจ(อาจเพื่อกู้เงินธนาคารหรือใช้เป็นแนวทางในการดําเนินธุรกิจ)การวางแผนการเงินการวางแผนการตลาดโดยจะมีทีมผู้เชี่ยวชาญของบริษัททําหน้าที่ให้คําปรึกษาแนะนําธุรกจิให้กับลูกค้าอย่างละเอียดมากกว่า Project Management ปกติ บริษัทมีชื่อว่า Consulting and Business Development ที่สามารถให้คําปรึกษาทั้งในเรื่องของการลงทุน วางแผนต้นทุน การตลาด ได้อย่างครบวงจร 

 
สารสกัดที่อยากใช้พัฒนาสูตรแต่ไม่มั่นใจจะขายได้ไหม ใช้ได้จริงรึเปล่า ? 
          QUALITY PLUS มีบริการส่งสารสำคัญที่ต้องการไปสกัดและเก็บผลทำวิจัยในห้องแลบฯ ว่ามันเป็นสารสกัดได้หรือเปล่า มันมีประโยชน์อะไร ใช้ได้ผลจริงไหม นอกจาก QUALITY PLUS จะสกัดสารให้ด้วย ก็จะช่วยค้นหางานวิจัยต่างประเทศเพื่อเป็นการสนับสนุนตัวสารให้ด้วย

[ นวัตกรรมสกินแคร์หลายอย่างของเขา น่าเล่นมาก เช่น เนื้อโคลน เนื้อพุดดิ้ง ] 

เงื่อนไขการผลิตส่วนผสมและสารสกัดสกินแคร์กับ QUALITY PLUS ?

          QUALITY PLUS เน้นในเรื่องของการเป็นผู้นำในนวัตกรรมใหม่ๆ ที่กำลังได้รับความนิยม เห็นผลค่อนข้างรวดเร็ว ชัดเจน และที่สำคัญต้องปลอดภัย จะให้ความสำคัญมากกับnanotechnologyมาใช้ในการผลิต เครื่องที่ใช้ผลิตก็จะเป็นเครื่องที่ดีที่สุด ณ เวลานี้ ปัจจุบันใช้เป็นเครื่องจากทางประเทศอิตาลีซึ่งปั่นเนื้อครีมให้ละเอียดเล็กมากๆเทียบเท่าตัวครีมพื้นฐานก็อยู่ระดับ 1 ไมครอน เพราะเทคโนโลยีการผลิตเหล่านี้จะทำให้เนื้อของสกินแคร์ซึมเข้าสู่เซลล์ผิวได้ดีกว่ามาก รวมถึงการทำให้ส่วนผสมของสกินแคร์มีอนุภาคที่เล็กมากอย่างเทคโนโลยี liposome 

[ เทส เบสปรับสีผิว อุ๊บร๊ะ ผ่องยองใย อย่าให้โดนแสง ออร่าพุ่ง เขาบอกมา 555 ]

ผลิตแล้วจะผ่านอย.ยากไหมต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง ?

          QUALITY PLUS มี FDA special list เป็นเจ้าหน้าที่สำหรับดูแลเรื่องการจดแจ้งสกินแคร์ให้โดยเฉพาะ ก็จะเริ่มจากการตรวจสอบ ตรวจทานให้เรียบร้อยก่อนถึงยื่นแจ้ง ป้องกันการตีกลับ หรือ โดนเอกสารจากทางอย.ว่า over claim ก็จะดูตั้งแต่การตั้งชื่อ ฉลาก รายละเอียดสำคัญที่ต้องระบุลงไปในสกินแคร์ รวมถึงเอกสารต่างๆให้ครบก่อนยื่น 

 

 

 

QUALITY PLUS  / ALL IDEA STUDIO /  BEAUTY HOME-MART / CONSULTING 4 บริษัทหัวใจหลัก

 

          เพื่อรองรับการเจริญเติบโตของลูกค้าที่เข้ามามีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จึงเกิดการพัฒนาธุรกิจเริ่มต้นจาก TRADING ก็ปรับเป็น OBM ซึ่งมีบริษัทในเครือมารองรับการให้บริการให้ครบวงจร เป็นการแตกบริษัทให้เป็นความเชี่ยวชาญเฉพาะเจาะจงมากขึ้น ทั้ง 4 บริษัท ทั้งหมดทำงานในเครือเดียวกัน เพียงแค่แต่ละบริษัทก็มีหน้าที่แยกไปทำเฉพาะของแต่ละฝ่าย ซึ่งเจ้าของมีหุ้นส่วนร่วมกัน โดยหุ้นส่วนแต่ละคนก็มีส่วนศูนย์กลางที่เป็นความรับผิดชอบของตัวเองไปดูแล 

QUALITY PLUS : การผลิตสินค้า

ALL IDEA STUDIO : การวางแผนสื่อ การออกแบบ การทำอีเวนท์ การหาแบบโฆษณา และออกแบบPackaging

BEAUTY HOME MART : การหาตัวแทนจำหน่าย การเพิ่มช่องทางการจำหน่ายทางออนไลน์

CONSULTING BUSINESS & DEVELOPMENT : ให้คำปรึกษาเชิงลึกของธุรกิจทั้งระบบ เช่น ด้านการตลาด การลงทุน การสร้างแบรนด์ การตั้งชื่อ

 

มีวิธีการหาลูกค้าแบบไหน หรือ ทำยังไงให้ลูกค้ารู้จัก QUALITY PLUS

          BUZZ MARKETING หรือ การตลาดปากต่อปาก ซึ่งส่วนใหญ่ลูกค้าก็ประสบความสำเร็จกันมาก กับการทำธุรกิจทางอินเตอร์เน็ต เรียกได้ว่าเป็นหัวใจหลักของการทำการตลาดยุคดิจิตอลนี้ ก็จะชวนเพื่อนมา และ อาจจะมีเข้าร่วมสัมมนาเกี่ยวกับธุรกิจอุตสาหกรรมเครื่องสำอางเพื่อแลกเปลี่ยน connection กัน และ มีเว็บไซด์ให้รายละเอียดชัดเจน

 

สารสกัด หรือ ส่วนผสมที่บอกว่าหางานวิจัยมารองรับให้ลูกค้าเสมอ อยากทราบว่ามีวิธีการวิจัยแบบไหนบ้าง

          ถ้าในส่วนของสารสกัดขั้นตอนแรกต้องดูในเรื่องของการตลาด หรือ กระแส ว่าตัวไหนสามารถทำการตลาดได้ก่อน และ มีผลการวิจัย สนับสนุนไหม ในส่วนนี้มันจะมีชื่องานวิจัยทางด้านพฤกษาศาสตร์ที่สามารถ search แบบ worldwide ทั่วโลกได้ ว่าพืชชนิดนี้เคยมีการทำวิจัยไว้อย่างไร ถ้ามีสารสกัดที่ใกล้เคียงกัน มีผลงานวิจัยเหมือนกัน ก็จะนำมาเทียบเคียงสารสกัดที่สำคัญว่าตัวไหนมีมากกว่า ก็จะเลือกนำมาสกัดและผลิตเพื่อจัดจำหน่ายได้เลย หรือ ถ้าลูกค้ามีความต้องการให้สกัดสารจากพืชชนิดไหนที่ยังไม่เคยมีใครทำมาก่อน ทาง QUALITY PLUS ก็มีบริการเก็บ เฝ้า จดบันทึกระยะเวลาที่เก็บชนิดของสารที่จะนำมาสกัดให้ ต้องคอยควบคุมตัวแปรให้คงที่ตลอด และดูว่าเมื่อไหร่ที่สามารถสกัดสังเคราะห์สารที่เราต้องการออกมามากที่สุด ก็จะทำการสกัดให้เหมาะ พอดีเวลาที่สุด หลังจากนั้นจะมีการส่งต่อไปยังผู้เชี่ยวชาญปริญญาเอก ทางด้านนั้น เช่น พืช ก็คือ DOCTOR ทางด้านพฤกษาศาสตร์ ก็จะเฝ้าตรวจดูสารในสิ่งที่เรานำมาสกัดอีกที ถ้าพบว่าตรงกัน ได้สารตามที่ต้องการ ก็จะเข้าสู่ขั้นตอนการนำเสนอให้กับทางลูกค้า เพื่อรอผลิต และ จำหน่ายต่อไป

ส่วนผสมใหม่ที่เกิดขึ้นที่ยังไม่มีงานวิจัย หากลูกค้าต้องการมีการทดสอบกับผิวคนด้วยไหม

          ปกติสารสกัดที่ยังไม่เคยมีใครทำ เราจะส่งตรวจกับหน่วยงานภาครัฐทางด้านกรมวิทยาศาสตร์ เพื่อแสดงความเป็นกลาง และ ทำอย่างถูกต้อง มีจรรยาบรรณ น่าเชื่อถือ ในการออกเอกสารการรับรองให้ ก็อาจจะมีส่วนการทดสอบในเรื่องของการแพ้และการระคายเคืองของสารสกัดเป็นหลัก แต่ไม่ถึงกับทำเป็นงานวิจัย เพราะนอกจากต้องใช้ระยะเวลาที่ยาวนาน 2 ปีขึ้นไป ก่อนที่เราจะทดสอบในคนได้ ก็ต้องมีเอกสารรายงานการทำงานวิจัยที่จะต้องส่งให้กรมจริยธรรมของประเทศไทยอนุมัตก่อนว่าสามารถทดสอบกับผิวมนุษย์จริงได้หรือไหม เพราะมันใช้ระยะเวลานาน นักธุรกิจ หรือ พูดกันถึงในแง่การลงทุน ก็ประมาณว่าน้ำขึ้นให้รีบตัก เกิดก่อนดังก่อน มีสิทธิ์ก่อนที่จะอยู่ยาว อยู่ทน อยู่นานกว่า เป็นเรื่องของโอกาส ถ้ามีแล้วส่วนใหญ่คนไทยคือทำเลย  

[ นักเรียนดีเด่นค่ะ บอกเลย ]

QUALITY PLUS นำเข้าสารสำคัญจากที่ไหน 

          ส่วนใหญ่ Active ingrdient จะนำเข้าจากต่างประเทศทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นเสปน อเมริกา ฝรั่งเศส สวิสเซอร์แลนด์ ซึ่งก่อนที่เขาจะนำมาจำหน่าย เขาจะต้องใช้เวลาทดสอบทำงานวิจัยประมาณ 2-3 ปี ก่อนที่เขาจะมาจำหน่ายให้กับทางเรา

 

ทำไมต้องเลือก QUALITY PLUS ในการสร้างแบรนด์ครีมของตัวเอง

          บริษัทที่เน้นมาทำด้านการตลาด การจัดจำหน่ายและการดีไซน์ให้ลูกค้าด้วยในเมืองไทยมีน้อยมาก เรามั่นใจ ส่วนใหญ่ยังคงเป็นในลักษณะของการเน้นระดับการผลิตมากกว่า จะไม่เน้นการสร้างแบรนด์ การพัฒนา การวางแผน การออกแบบทุกขั้นตอนแบบเรา เนื่องจากมันเป็นการดูแลลูกค้าแบบผูกพันระยะยาว ส่วนใหญ่ก็อยากผลิตเป็น JOB BY JOB หรือ ครั้งต่อครั้งจบไป การทำแบบ OBM ดูแลครบวงจร ถามว่าเหนื่อยไหม ต้องมาดูแลลูกค้า ตอบคำถามลูกค้าตลอดเวลา ตลอดอายุชีวิตแบรนด์ของเขา มันก็ต้องเป็นเรื่องของดูแลกันระยะยาว เราต้องช่วยกันพัฒนา วางแผนกันไปตลอด ลูกค้าโตเราโต เราพัฒนา ลูกค้าพัฒนา อย่างที่บอกเป้าหมายเราคือสร้างนวัตกรรมใหม่ๆโดยเทคโนโลยีที่ดีที่สุดในตลาด เราต้องการเป็นผู้นำทางด้านอุตสาหกรรมนี้ เพื่อที่จะก้าวออกไปในระดับสากล เราจึงมองเห็นว่าการที่เราจะก้าวไป มันเป็นพลังของคนกลุ่มเดียวไม่ได้ มันเป็นเรื่องของการรวมตัวระดับประเทศ ผลักดันมันขึ้นไป เราจึงก้าวมาสู่การให้บริการครบวงจรอย่างจริงจัง OBM services be king คือ services ลูกค้าที่ทำแบรนด์ต่างๆ และความสำคัญของมันคือ 1.เราพัฒนาตัวสูตรให้ [ถ้าต้องการไม่มีค่าใช้จ่าย] 2. ช่วยดีไซน์ให้ลูกค้าแตกต่าง มีจุดยืน มีเอกลักษณ์เป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับลูกค้า 3.ส่วนของการตลาดเราให้คำปรึกษา และ หาช่องทางให้ได้อย่างเต็มที่ ส่วนหนึ่งเรามั่นใจ ว่าเราดูแลและรักลูกค้าทุกระดับดีไม่แพ้ใคร และ เราพัฒนาตัวเอง รวมถึงเลือกเทคโนโลยีในการผลิตที่ดีที่สุดเพื่อลูกค้าทุกแบรนด์ที่อยู่ภายใต้การดูแลของเรา

 

สมมุติมีลูกค้ามีความต้องการเหมือนกันเข้ามา อยากได้ครีมแบบเดียวกัน จะทำครีมสูตรซ้ำไหม 

          ต้องบอกลูกค้าก่อนว่าสูตรผลิตภัณฑ์มี 3 ประเภท อย่างแรกคือสูตรมาตรฐาน ถ้าเกิดลูกค้าเข้ามาแล้วบอกว่าอยากได้ whitening ก็จะมีสูตร whitening อีกหลายรายการให้เลือก ถ้าลูกค้าเลือกตรงกัน คือลูกค้ายอมรับแล้วว่าทำตัวสูตรมาตรฐานซึ่งเป็นสูตรพื้นฐานที่อาจจะมีคนเลือกใช้เหมือนกันก็ได้ แต่ถ้าเกิดลูกค้าบอกว่าฉันไม่อยากเหมือนใคร ก็ให้ทำเป็นสูตรพัฒนาสูตรที่สอง โดยการพัฒนาสูตร ก็จะแบ่งเป็นสองแบบ คือ แบบที่เคยใช้ครีมต่างประเทศมาเอามาเป็นต้นแบบให้เราพัฒนา กับอีกแบบคือ เป็นความต้องการจากทางลูกค้าอยากให้เราพัฒนาอะไรให้บ้าง สูตรสุดท้าย สูตรที่ทำจากต่างประเทศมา ลูกค้าก็เลือกเลยจะเอาแบบของประเทศไหน ส่วนทางเราก็จะไปเรียงมาที่เป็นส่วนของสูตรต่างประเทศให้ลูกค้าลองทดสอบก่อนถ้าพอใจก็ค่อยไปที่ขั้นตอนต่อไปซึ่งจะเน้นไปทางญี่ปุ่น เกาหลี มองเอเชียเป็นหลักเพราะผิวคล้ายคนไทย และเนื้อผลิตภัณฑ์ก็ยังเลือกได้อีกจะให้ ข้น หนืด เหลว กำหนดได้ที่ / ตัวสารสำคัญก็กำหนดได้สารสำคัญ จะให้ขาว กระชับ ลดริ้วรอย ได้หมดลูกค้าเลือกได้ สีและกลิ่นก็เลือกได้ ธรรมชาติหรือสังเคราะห์ปรับได้หมด และ ถ้าเป็นสูตร 2 หรือ 3 ขึ้นไป สูตรที่พัฒนาทั้งหมด หรือปรับกัน ทางเราจะมีระบบบันทึกว่าสูตรนี้เป็นของลูกค้าท่านนี้ ก็จะไม่ได้รับทำซ้ำ ถ้าเกิดใครมาพัฒนาใจตรงกัน ลูกค้าคนแรกที่เลือกก่อนก็จะได้สูตรพัฒนาตัวนั้นไป ถ้าซ้ำจะไม่ทำเลย ไม่ได้เกี่ยวกับกฎหมายแต่เป็นนโยบายของ QUALITY PLUS รวมถึงในกรณีเปิดเผยข้อมูลลูกค้าที่เป็นแบรนด์อื่น อย่างเช่น ถ้ามีใครถามทำที่นี่หรือเปล่า จะบอกทุกคนในทีม และ ทุกบริษัทในเครือ ว่าเป็นความลับลูกค้าเราไม่มีการเปิดเผย

 

ถ้า QUALITY PLUS เป็นผู้ผลิตรู้ขั้นตอนครบวงจรทุกอย่างมีผลิตแบรนด์ตัวเองจำหน่ายบ้างไหม

          ไม่มีแน่นอน เราจะไม่ทำ house brand เลย  บริษัทในเครือต่างๆ ของเราก็จะแจ้งเลยว่าลักษณะของธุรกิจที่เราทำ เราทำเพื่อสนับสนุนและรองรับลูกค้าที่สร้างแบรนด์เท่านั้น คือ เรามองในเรื่องของการเติบโตในลักษณะที่ถูกต้องตามจริยธรรมด้วยครับ มันไม่มีกฎหมายข้อบังคับว่าห้ามแต่ถ้าเราจะทำอะไรก็ตามในธุรกิจที่เราทำอยู่ให้มันเกิดขึ้นมาแข่งกับลูกค้า สู้เราทำธุรกิจที่ support ลูกค้าเราอีกทีดีกว่า ถ้าลูกค้าเราโต เราคิดในฐานะที่เราเป็นผู้ผลิตเราก็โตด้วย เราจะไม่แข่งกับลูกค้าของเราเอง แต่เราจะผลักดันเขาให้ไปถึงที่สุดที่เขาเป็นได้ ดูแลกันไปตั้งแต่ลงทุนด้วยเงินเพียงเล็กน้อยจนทุกวันนี้ บางแบรนด์เลย 7 – 8 หลักไปแล้ว เราก็ถือว่าเราก็ประสบความสำเร็จด้วยในธุรกิจที่เรายืนอยู่เช่นกัน

 

ความลับของแบรนด์ ลูกค้าจะมั่นใจได้แค่ไหน

          ถามว่าถ้าฉันจ้าง QUALITY PLUS ผลิตตามข้อกำหนดของอย. ฉลากมันต้องระบุถึงผู้ผลิตอยู่แล้ว คนภายนอกถ้าอ่านเขาต้องเห็น เพียงแต่ว่าเราจะไม่ไปเพิ่มการรับรู้ของผู้บริโภคหรือว่าลูกค้าเจ้าอื่นว่าฉันทำให้แบรนด์นี้ แบรนด์นี้นะ ไม่พูดเลย [ เอิ๊กถามก็ไม่พูด ไม่พูดจริงๆ 555 ] ทั้งที่ไม่ได้มีข้อบังคับ ถ้าเราพูด ถ้าเราใส่เป็น PORTFOLIO ในเว็บว่าเคยมีลูกค้าเป็นแบรนด์ไหนบ้าง ก็อาจจะมีคนมาทำกับเราอีกหลาบแบรนด์ก็ได้ แต่ว่าเราจะไม่ทำ ส่วนผสมเรียกว่าส่วนประกอบของครีมไล่ตั้งแต่มากสุดไปจนถึงน้อยสุดของผลิตภัณฑ์ยังไงก็ต้องบอก สิ่งที่จะไม่รู้คืออัตราส่วนแบรนด์ไหนใส่เท่าไหร่ก็เท่านั้น

 

ที่บอกว่าQUALITY PLUSดูแลลูกค้าทั้งหมด จนถึงขั้นหาช่องทางกระจายสินค้าเพื่อจำหน่าย มีบ้างไหมที่ลูกค้าขายสินค้าของเขาไม่ได้

          ต้องอธิบายก่อน บริการของเรามีครบวงจรจริง แต่ทุกส่วนไม่ได้บังคับให้ลูกค้าซื้อบริการเราทั้งหมด เพราะฉะนั้นเราจะแบ่งค่าใช้จ่ายในการใช้บริการเป็นส่วนๆ ลูกค้าสามารถเลือกซื้อบริการที่เขาต้องการเฉพาะได้ ลูกค้าบางคนเก่งออกแบบ มีช่องทางจำหน่ายสินค้าอยู่แล้ว เขาก็อาจไม่ได้พึ่งเรา เท่าที่ผ่านมาเราเติบโตขึ้นกว่า 500% กลับมาให้เราผลิตซ้ำประมาณ 80% ส่วนตัวถือว่า QUALITY PLUS success แต่ไม่ได้หมายความว่าอีก 20 % ไม่ได้สั่งเลย ก็อาจจะมาสั่งซ้ำ เพียงแต่เว้นช่วงไปยาวกว่า ซึ่งอัตราการสั่งซื้อก็ยังมีอยู่ครับ

 

มีลูกค้าที่เลิกทำไหม สาเหตุคืออะไร

          มี 1 เคสที่บอกว่าอยากทำตลาดเพิ่ม แต่ว่ามีปัญหากับหุ้นส่วน เขาบอกว่าเดี๋ยวเขาจะมาขอเริ่มตลาดใหม่โดยเป็นแบรนด์ใหม่แบรนด์นึงเลย ก็เป็นเหตุผลส่วนตัวของทางลูกค้าเอง 

 

ลูกค้าเริ่มต้นต้องมีเงินทุนประมาณเท่าไหร่ 

          ถามว่าเรารับลูกค้าทุกระดับไหม รับแต่ทุกระดับก็จะมีขั้นต่ำในการผลิตของแต่ละส่วน ไม่ว่าจะเลือกสูตรในการผลิตแบบไหนทางเราจะขอต้นทุนเพื่อให้ดู และ วิเคราะห์ให้ ว่างบประมาณเท่านี้จะสามารถลงทุน และ ได้บริการอะไรบ้าง ก็จะเลือกเอาที่จำเป็นที่ต้องมี หรือ ต้นทุนคงที่เป็นหลักสำหรับคนที่งบน้อย 50,000 ก็สามารถสั่งผลิตได้แล้ว แต่ถ้าต้องการใช้บริการครบวงจรจะอยู่ที่ประมาณ 200,000 บาท เรียกว่านำเงินลงทุนมาซักก้อน พร้อมกับฝันได้เลย ทางเราก็จะให้คำปรึกษาตั้งแต่ต้นจนจบ และ ระหว่างทาง หรือ ตามแต่ลูกค้าต้องการจะปรึกษา ลูกค้าส่วนใหญ่ประมาณ 80%  จะเริ่ม 1 โปรเจค กับเราประมาณ 100,000 บาท เพราะจริงๆมันก็สัมพันธ์กับเรื่องของตัวตลาดที่ทางลูกค้าเลือกต้องการกลุ่มเป้าหมายที่มีฐานรายได้แบบไหน รสนิยมแบบไหน เราก็ต้องเลือกใช้ตั้งแต่วัสดุ ตัวกระปุก มันก็ต้องเป็นไปตามความเหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายของเรา เช่น ถ้าเราเลือกตลาดประมาณ C ถึง C+ รายได้พอมีพอใช้ อาจมีซื้อของใช้ส่วนตัวบ้างนิดหน่อย ก็อาจจะใช้บรรจุภัณฑ์แบบพลาสติกก็ได้ กระปุกนึงก็ประมาณแค่สิบบาทก็จะไม่แพงมาก ทางเราจะมีตารางราคาให้ลูกค้า เลือกใส่ได้ตามงบประมาณที่เขามี และ ให้คำปรึกษาทางเลือกที่เหมาะสบกับงบประมาณเขา อย่างเต็มที่ที่สุด ยังไงก็แล้วแต่งบน้อยก็ทำได้ เพียงแต่อยากให้เข้าใจว่าเกรดของครีมมันก็ผันแปรไปตามงบประมาณที่เรามี โดยถ้าลูกค้ามีงบน้อย แต่อยากจ่ายแพงในส่วนที่เราคิดว่ามันอาจจะทำให้เขาขาดทุนแน่นอนอยู่ก็จะบอกลูกค้าตรงๆ ว่าทำไม่ได้กำไรแน่ๆ ก็จะไม่ทำให้กับลูกค้า เพราะเราไม่สนับสนุน ถ้าทำแล้วไม่ดี ขาดทุน แบรนด์เขาไม่ประสบความสำเร็จเราก็ไม่ทำให้ เพราะเราอยากให้ทุกแบรนด์ที่เกิดจาก QUALITY PLUS ประสบความสำเร็จ มีเงินเท่าไหร่เข้ามาปรึกษาได้ก่อน เรายินดีบริการให้ฟรี

 

จุดที่ยังพัฒนาและจุดด้อยของบริษัทมีอะไรบ้าง

          อาจจะเรียกว่าเป็นความยังไม่พร้อมของทางบริษัทดีกว่า เพราะว่าจุดด้อยมันอาจจะอยู่กับเราตลอดไปด้วย ขณะนี้มีเรื่องสเกลของโรงงานที่ยังไม่ใหญ่มากพอรองรับลูกค้าที่กำลังจะเข้ามา รวมถึงสเกลธุรกิจเราก็กำลังจะพัฒนาให้ใหญ่เพื่อเป้าหมายระดับอาเซียน เราวางแผนทำตลาดต่างประเทศอยู่ตอนนี้ ดังนั้นตอนนี้คงเป็นเรื่องของการพัฒนาในเรื่องของกำลังการผลิต ซึ่งกำลังพัฒนาอยู่โดย QUALITY PLUS มีทีมที่ปรึกษาสำหรับการพัฒนาอุตสาหกรรมเข้ามาวิจัยทัศน์วิสัยและปรับปรุงการผลิตขึ้นใหม่เพื่อให้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้น ตอนนี้เราก็เลยขยายกำลังการผลิตได้มากขึ้น และ กำลังจะสร้างโรงงานใหญ่ขึ้นมาเร็วๆนี้ เพื่อมารองรับฐานตลาด แล้วอีกส่วนหนึ่งที่ยังไม่พร้อมจะมีในเรื่องของ ตอนนี้ลูกค้าคิวยาวมาก ทีม R&D ก็ทำงานหนัก ในส่วนของการพัฒนาสูตร วิธีทำมันอาจจะยุ่งยากและขึ้นอยู่กับประเภทด้วย อนาคตประมาณสิ้นปีเดี๋ยวจะทำเป็น LAB ครบวงจรขนาดใหญ่ ซึ่งจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการ[ ส่วนตัวเอิ๊กมองเห็นอีกข้อในเรื่องของการนำแบรนด์เข้าสู่หลักการวิจัยทั้งส่วนผสมที่เมื่อนำมาปั่นเข้ากัน ว่ามันมีผลลัพธ์ออกมาวัดได้แค่ไหน เนื่องจากเหตุผล นักธุรกิจคนไทยก็ไว ลงทุนเร็ว จากจุดที่กระแสแรง เพื่อให้ได้กำไร ณ จุดนั้นมา ยังไม่มีใครยอมรอให้แบรนด์ตัวเองออกช้ากว่านี้ประมาณ 2-3 ปีโดยทดสอบเหมือนต่างชาติ ที่อาจจะใช้ผิวพรรณมนุษย์จริงๆ เขารอให้มันวัดผลได้เป็น % จริงๆ แล้วถึงเปิดตัวอย่างเป็นทางการ แต่ไม่ใช่ว่า QUALITY PLUS ทำไม่ได้ เพียงแต่ถ้าพูด ณ ตอนนี้ แบรนด์ที่เขาถืออยู่ทั้งหมด ก็ยังไม่มีแบรนด์ไหนยอมเสียเวลาเข้าทำงานวิจัย เพื่อเผยแพร่ให้เป็นที่ยอมรับระดับสากล เนื่องจากไทยทำ ไทยใช้เอง ก็หวังว่าวันนึงจะมีซักแบรนด์ที่คิดจะไปไกลมากกว่าประเทศตัวเอง และ ยอมอดทนดูสูตรที่พัฒนาและผลิตโดย QUALITY PLUS โดยผ่านกระบวนการเก็บผลทดสอบ มีงานวิจัยออกมาเผยแพร่ให้เห็นถึงระดับ % การเห็นผล แต่งานวิจัยบนโลกก็อาจไม่ตัวแทนของคนทั้งโลก เท่าที่เอิ๊กเคยได้ยินสูงสุดประมาณ 6,000 คน หลากหลายสภาพผิว ]

 


 [ แน่ใจนะคะให้เอิ๊กคน ]

 

 

 

 

 วิธีการทดสอบครีมด้วยตัวเอง [สกินแคร์]

สารห้ามใช้ในเครื่องสำอาง

  1. Hydroquinone (ไฮโดรควิโนน)
  2. Retinoic Acid (กรดวิตามิน  A)
  3. Mercury Compound (ปรอท และสารประกอบของปรอท)
  4. Steroid
  • Betamethasone
  • Betamethasone 17-valerate
  • Dexamethasone
  • Hydrocortisone Acetate
  • Prednisolone
  • Triamcinolone  Acetonide

อย. ได้ให้ข้อสังเกตว่าเครื่องสำอางที่พบสารอันตรายมักให้รายละเอียดบนฉลากไม่ครบถ้วน เช่น ไม่ระบุแหล่งผลิต ครั้งที่ผลิต และวันเดือนปีที่ผลิต ในการเลือกซื้อผู้บริโภคจึงควรระมัดระวัง และควรสังเกตฉลากเป็นลำดับแรก ฉลากที่ถูกต้องจะต้องเป็นภาษาไทย มีข้อความบังคับครบถ้วน ได้แก่ ชื่อและประเภทผลิตภัณฑ์ ส่วนประกอบ วิธีใช้ ชื่อที่ตั้งแหล่งผลิต วันเดือนปีที่ผลิต และปริมาณสุทธิ การซื้อควรซื้อจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ ไม่ควรซื้อเพราะคาโฆษณาเพียงอย่างเดียว

วิธีทดสอบสารต้องห้ามด้วยตัวเอง

1.     ตรวจหาสารไฮโดรควิโนน

ใช้ผงซักฟอกละลายในน้ำปริมาณเล็กน้อย เพื่อให้ได้น้ำผงซักฟอกเข้มข้น หยด หรือป้ายเครื่องสำอางที่สงสัยลงบนกระดาษทิชชูสีขาว แล้วหยดน้ำผงซักฟอกเข้มข้น ลงไปในบริเวณที่หยดหรือป้ายเครื่องสำอาง ทิ้งไว้สักครู่ หากเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล แสดงว่าอาจมีส่วนผสมของไฮโดรควิโนน หรือ ใช้ 0.1 N Sodium Hydroxide Solution หยดหรือป้ายเครื่องสำอางที่สงสัยลงบนกระดาษทิชชูสีขาว แล้วหยด 0.1 N Sodium Hydroxide Solution ลงไปในบริเวณที่หยดหรือป้ายเครื่องสำอาง ทิ้งไว้สักครู่ หากเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล แสดงว่าอาจมีส่วนผสมของไฮโดรควิโนน

2.     ตรวจหาสารปรอท

ทาครีมที่ต้องการตรวจสอบบริเวณข้อพับ หรือท้องแขน แล้วปิดพลาสเตอร์ไว้ 6 ชั่วโมง แล้วแกะออก ถ้าพบว่าสีผิวบริเวณนั้นเปลี่ยนเป็นสีซีดผิดปกติ แสดงว่ามีสารปรอทผสมอยู่

3.     ตรวจสอบสารสเตียรอยด์

ทาครีมที่ต้องการตรวจสอบบริเวณข้อพับ หรือท้องแขน แล้วปิดพลาสเตอร์ไว้ 6 ชั่วโมงแล้วแกะออก ถ้าพบว่าสีผิวบริเวณนั้นเปลี่ยนเป็นสีซีดผิดปกติ แสดงว่า มีสารสเตียรอยด์ผสมอยู่

 

การทดสอบข้างต้น เป็นเพียงการทดสอบเบื้องต้นอย่างง่ายๆ โดยใช้หลักการที่ใช้สารละลายที่เป็นด่าง ทำให้ไฮโดรควิโนนเปลี่ยนสีเป็นสีน้ำตาล แต่เพื่อความชัดเจนแน่นอน ควรใช้ Test Kit ของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ หรือส่งตัวอย่างเพื่อตรวจวิเคราะห์

 

 

 

 

  

การวิเคราะห์เบื้องต้นตัวอย่างครีมที่มีความน่าจะเป็นครีมอันตราย

ผลิตภัณฑ์ที่ 1 ลักษณะทางกายภาพ เนื้อครีมสีน้ำตาลเข้ม มีเม็ดของแข็งสีขาวปนอยู่ ลักษณะดังกล่าวสามารถคาดคะเนได้ว่า เป็นครีมอันตรายที่ผสมสาร Hydroquinone และ สารปรอท เนื่องจากสาร Hydroquinone เป็นสารที่มีความเสถียรต่ำ จึงเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเข้มได้ง่าย ผู้ผลิตที่ผลิตครีมอันตรายจึงมันนิยมปรับให้เป็นสีน้ำตาลเพื่อหลบสีของสารHygroquinone และเม็ดดังกล่าวจากการคาดคะเนน่าจะเป็นสารปรอตเนื่องจาก ปรอทเป็นสารที่ละลายยากจึงทำให้ทำให้เนื้อไม่ละเอียด

ผลิตภัณฑ์ที่ 2 ลักษณะทางกายภาพ เนื้อครีมสีเขียวอ่อน มีเม็ดสีขาวกระจ่ายตัวอยู่ ลักษณะดังกล่าวสามารถคาดคะเนได้ว่า เป็นครีมอันตรายที่ผสมสาร Retinoic Acid  และสารปรอท เนื่องจาก ลักษณะสีเหลืองที่ซึมเข้าฝาบรรจุภัณฑ์น่าจะเกิดจากสาร Retinoic Acid ที่มีสีเหลืองเข้ม และเม็ดที่กระจายอยู่น่าจะเป็นสารปรอทเป็นสารที่ละลายยาก จึงทำให้ทำให้เนื้อไม่ละเอียด

การวิเคราะห์ข้างต้น เป็นเพียงการคาดคะเนเบื้องต้นอย่างง่าย  แต่เพื่อความชัดเจนแน่นอน ควรใช้ Test Kit ของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ หรือส่งตัวอย่างเพื่อตรวจวิเคราะห์

 

ข้อพึงระวังสำหรับผู้ที่ต้องการหน้าขาวเพราะเป็นฝ้า

สังเกตอาการแทรกซ้อนขณะใช้ ถ้ามีอาการผิดปกติให้เลิกใช้ทันที ฝ้ายังไงก็จะไม่หายขาด เมื่อหยุดยาแล้วเป็นใหม่ได้ จึงไม่ควรเสี่ยงหลงเชื่อคำโฆษณา

 

ข้อแนะนำในการใช้เครื่องสำอาง

  • ควรเลือกซื้อผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางจากที่ที่หน้าเชื่อถือและไว้ใจได้
  • ตรวจสอบฉลากให้ครบถ้วน ชื่อแบรนด์ ชื่อสินค้า วันเดือนปีที่ ผลิต หมด อายุ เป็นต้น    
  • ปิดฝากระปุกเครื่องสำอางให้เรียบร้อยเมื่อใช้เสร็จเพื่อป้องกันเชื้อโรค
  • เก็บเครื่องสำอางไว้ที่อุณหภูมิประมาณ 20-25 องศาเซลเซียส
  • แปรงหรือฟองน้ำต้องทำความสะอาดด้วยน้ำและสบู่
  • สำลีหรือพัฟควรจะเลือกแบบใช้แล้วทิ้งเพียงครั้งเดียว
  • ให้ล้างเครื่องสำอางออกให้หมดก่อนนอน
  • หากผิวหน้ามีการติดเชื้อ ก็อาจจะหยุดหรือทิ้งเครื่องสำอางนั้นเสีย เนื่องจากอาจจะมีเชื้อแบคทีเรียในเครื่องสำอาง

 

 

 

QUALITY PLUS เป็นหนึ่งในเจ้าแรกที่นำนวัตกรรม SLEEPING MASK เข้ามาผลิต

ด้วยสโลแกนหน้าเด้งข้ามคืน แบบปลอดภัย ไม่มีสารต้องห้าม 100%

ขายดีถล่มถลายเอิ๊กจึงมีคำถามถามเพื่อทุกคนว่า

มีหมอท่านนึงบอก” สิวสเตรียรอยด์บางครั้งเกิดจากการมาส์คหน้าชนิดนี้เยอะมาก”จริงไหม

ซึ่งเขาก็ตอบด้วยความจริงใจ ทุกคนควรใช้ตามฉลากบอก และที่สำคัญ

มันอาจไม่ค่อยเหมาะกับคนผิวมันซักเท่าไหร่

QUALITY PLUS ใจดีมากให้ SAMPLE มาใช้เยอะมาก

อยากบอกว่าเซรั่มขนตาดีมาก ขนตาเอิ๊กแหว่ง

ดึงเล่นขึ้นเร็วมากกกกกกกกก 5555 กรี๊ดดด ชอบจัง

ขอบพระคุณทุกคนจาก QUALITY PLUS มากค่ะ

โดยเฉพาะคุณวุฒิสำหรับข้อมูลละเอียดมากกกกก

ทีมนี้ออร่ากระจาย ใสกิ๊ก วิงค์ๆ

สัญญาว่าวันใดกล้าที่จะมีแบรนด์เป็นของตัวเอง จะไปให้ดูแลเป็นพี่เลี้ยงให้ค่ะ

คนมึนกับลูกค้าคนนี้หน้าดู ถามอะไรเยอะจริงแม่คุณอยากรู้ไปหมดทุกอย่าง 555

ข้อมูลเพิ่มเติม หรือ รายละเอียดไม่ต้องเกรงใจ

เขาให้คำปรึกษาฟรีโทรไป หรือ LINE ไปได้เลยใจดี ข้อมูลแน่น ไม่ทำไม่ว่าด้วย 😀

แต่เชื่อเถอะว่าฟังปุ๊บ ความฝันอีกหนึ่งอย่างจะผุดเปล่งประกายแบบเอิ๊ก ฮ่าฮ่า

089-056-5651
081-563-3322
www.qualityplus.co.th
info@qualityplus.co.th
LINE : nan_QUALITY PLUS
LINE : wuttokun

http://www.qualityplus.co.th 

https://www.facebook.com/qpaicosmetic

 

Leave a Reply

You must be logged in to post a comment.

advert

Google

erk-erk.com





BEAUTY MENU

มาคุยกับเอิ๊กได้ที่นี่ทุกวัน ถ้าว่างรีบตอบทุกคำถามค่ะ

INSTAGRAM @wwwerkerkcom

[instagram-feed]

ติดตามบล็อค erk-erk.com อย่างใกล้ชิด

เพียงกรอก Email ตรงนี้เลย

LINE @erk-erk

เพิ่มเพื่อน

Related Sites