เอิ๊กมั่นใจว่าเขียนเทคโนโลยีนี้ในไทยคนแรก
ขอบพระคุณสำหรับความไว้ใจจาก ISKYCENTER
ที่ให้เอิ๊กและอ๊บได้ไปเก็บข้อมูลของเทคโนโลยี EXILIS II ตัวนี้ในครั้งที่ 2 ด้วยค่ะ
สำหรับครั้งที่ 2 ของการใช้เทคโนโลยีจากเครื่อง EXILIS II นี้ โดยเลือกแม่ซึ่งเป็นตัวแทนของความหย่อนคล้อย อายุ 60 ปี ก่อนที่เราจะไปดูผลจากการทำครั้งที่ 2 นี้ เราก็คงได้ทราบถึง คุณสมบัติ ความเป็นมา หลักการใช้งาน และผลลัพธ์ที่จะได้ของเจ้าเครื่องตัวนี้กันแล้วใน REVIEW ครั้งแรกที่พี่เอิ๊กได้เขียนไป หรือหากท่านในยังไม่ทราบสามารถเข้าไปอ่านได้ใน บทความอันก่อนหน้านี้ได้ เพื่อที่จะได้เข้าใจอย่างแจ่มเเจ้งสำหรับความอัจฉริยะของเจ้าเครื่องตัวนี้ว่ามันทำงานอย่างไรค่ะ (REVIEW – EXILIS ll เทคโนโลยีกระชับใบหน้าตัวล่าสุด ครั้งที่ 1)
ก่อนจะเข้ารับทำครั้งที่ 2 แม่ก็ได้ตรวจวัดวิเคราะห์สภาพผิวทั้ง 2 แบบ ดังนี้ คือ
1. ผลตรวจวัดสภาพผิวด้วยระบบ Multi Systemของแม่ก่อนทำ
เครื่องนี้สามารถตรวจวัดสภาพผิวที่เราสามารถมองเห็นได้ทั้งด้วยตาปล่าวและที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาปล่าว โดยการตรวจเช็คสภาพผิวจะตรวจด้วยกันทั้งหมด 8 อย่าง ดังนี้
- Spots : รอยด่างดำบนหน้าที่เห็นได้ด้วยตาเปล่า เช่น รอยแดง น้ำตาล มีขอบชัดเจน อาจเป็นรอบรอยวงกลมหรือมีรูปลักษณะอย่างอื่นก็ได้
- Wrinkles : รอยเหี่ยวย่น, ริ้วรอย เป็นแนวร่องส้นเล็กๆบนผิวหน้า ซึ่งส่วนใหญ่เกิดขึ้นตรงตำแหน่งที่แสดงออกถึงอารมณ์, สีหน้า เช่น หางตา หน้าผาก ใต้ตา เป็นต้น
- Texture : ความไม่สม่ำเสมอของสีผิว โดยอาศัยหลักการวัดความต่างระดับของสี ทำให้เห็นความสูงต่ำของพื้นผิวได้อย่างชัดเจน เช่น ร่องลึก, รอยไม่เรียบเนียน, รอยนูน
- Pores : ขนาดของรูขุมขนซึ่งมีความเข้มมากกว่าบริเวณพื้นผิวปกติ ทำให้ทราบของลักษณะปัญหาหน้ามันและต่อมไขมันสร้างขึ้นมามากน้อยเพียงใด
- UV Spots : เป็นลักษณะเฉพาะของผิวที่ถูกทำลายด้วยแสงแดด โดย Melanin ที่อยู่ในชั้นหนังกำพร้าเลือกดูดซับแสงUV ทำให้สามารถมองเห็น UV Spots ได้ชัดเจนขึ้น
- Brown Spots : เกิดจากบริเวณนั้นมีการสะสม Melanin ซึ่งผลิตจาก Melanocytes ที่อยู่ใต้ผิวที่มากกว่าปกติ เช่น กระ ฝ้า จุดด่างดำบนใบหน้า Brown Spot จะทำให้เห็นความไม่สม่ำเสมอของสีผิวที่อยู่ด้านบนและภายในผิวซึ่งไม่สามารถเห็นได้ด้วยตาเปล่า แต่สามารถตรวจได้ด้วย RBX TM Technology ของ VISIA (เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้สามารตรวจวิเคราะห์เพื่อหาความผิดปกติของเส้นเลือด หรือ Red Spots และบริเวณที่มีการสะสมของMelaninซึ่งอยู่ภายใต้ผิวหนังที่เราไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาปล่าว เพื่อที่ว่าจะได้วางแผนในการรักษาได้อย่างตรงและเเม่นยำ)
- Red Area : ดูความผิดปกติของเส้นเลือดฝอยบนใบหน้า เช่น รอยสิว, การอักเสบของผิว, Rosacea หรือ Spider Vein เนื่องจากเส้นเลือดแดงและฮีโมโกลบินที่อยู่ใต้ผิวหนังจะทำให้เห็นเป็นโครงร่างสีแดง8.
- Porphyrins : เป็นของเสียจากกระบวนการ Metabolism ของแบคทีเรียที่อยู่ในรูขุมขนเรืองแสงภายใต้สภาวะ UV และมีความสัมพันธ์การการเกิดสิว
โดยหลัักการการทำงานของสภาวะแสงในการถ่ายภาพของเครื่อง VISIA Complexion Analysis มีด้วยกันทั้งหมด 3 แบบ
- เเสงStandard คือ แสงมาตรฐานทั่วไป
- แสงCross-Polarize คือ แสงครอสโพลาไรซ์
- แสงUV Fluorescence คือ แสงอุลตราไวโอเลต
ผลตรวจสำหรับการวิเคราะห์สภาพผิวด้วยเครื่อง VISIA Complexion Analysis ของแม่ก่อนทำ
- Spots : 24%
- Wrinkles : 82%
- Texture : 56%
- Pores : 62%
- UV Spots : 69%
- Brown Spots : 62%
- Red Areas : 69%
- Porphyrins : 13%
** หมายเหตุ : เปอร์เซ็นต์มากถือว่าดี ไม่ค่อยมีปัญหา แต่ถ้าเปอร์เซ็นต์น้อยถือว่าค่อนข้างมีปัญหา ถ้าต่ำกว่า 50% จะถือได้ว่าค่อนข้างมีปัญหาเยอะค่ะ **
ภาพ 2 ภาพนี้ เป็นการเปรียบเทียบระหว่างก่อนทำครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2
- คำถาม : EXILIS ll สามารถทำบ่อยได้แค่ไหน ?
- ความรู้สึกของแม่ ผู้ที่เป็นตัวแทนความหย่อนคล้อย 60 ปี ทั้งก่อนและหลังทำ
ความรู้สึกหลังจากได้รับการทำครั้งแรก : ริ้วรอยต่างๆดูลดเลือนลงอย่างเห็นได้ชัด ผนังลำคอหย่อนน้อยลง จุด Brown Spots ลดน้อยลง หน้าดูใสขึ้น เรียบเนียน แถมผิวหน้านุ่มขึ้นอีกด้วย
นอกจากนี้ ” เครื่องEXILIS ll นี้ได้ยังรับรางวัล การันตี BEST BODY SHAPING AWARD 2012 (Cozycot Women’s Choice Award) & BEST SKIN TIGHTENING AWARD 2012 (The Aesthetic Show USA) จากประเทศสหรัฐอเมริกาอีกด้วย “
UPDATED สำหรับการการยกกระชับหน้า ด้วยเครื่อง EXILIS II ครั้งที่ 3
ในวันอังคารที่ผ่านมา คือ การยกกระชับหน้า ด้วยเครื่อง EXILIS II ในสำหรับครั้งที่ 3 โดยเลือกแม่ซึ่งเป็นตัวแทนของความหย่อนคล้อย อายุ 60 ปี ก่อนที่เราจะไปดูผลจากการทำครั้งที่ 2 นี้ เราก็คงได้ทราบถึง คุณสมบัติ ความเป็นมา หลักการใช้งาน และผลลัพธ์ที่จะได้ของเจ้าเครื่องตัวนี้กันแล้วใน REVIEW ครั้งแรกที่พี่เอิ๊กได้เขียนไป หรือหากท่านในยังไม่ทราบสามารถเข้าไปอ่านได้ใน บทความอันก่อนหน้านี้ได้ เพื่อที่จะได้เข้าใจอย่างแจ่มเเจ้งสำหรับความอัจฉริยะของเจ้าเครื่องตัวนี้ว่ามันทำงานอย่างไรค่ะ (REVIEW – EXILIS ll เทคโนโลยีกระชับใบหน้าตัวล่าสุด ครั้งที่ 1)
เราจะมาเริ่มดูภาพความเปลี่ยนแปลงบนใบหน้าของแม่ ซึ่งเป็นตัวแทนความหย่อนคล้อย 60 ปี ตั้งแต่ก่อนทำครั้งที่ 1 จนถึง ก่อนทำครั้งที่ 3 กันนะคะ
ภาพ 2 ภาพนี้ เป็นการเปรียบเทียบระหว่างก่อนทำครั้งที่ 1 ครั้งที่ 2 และครั้งที่ 3
สำหรับในการทำครั้งนี้ แม่ ผู้เป็นตัวเเทนความหย่อนคล้อย 60 ปี แม่สามารถทนความร้อนได้ถึง 90 วัตต์อีกเช่นเคยค่ะ
พี่ๆ พนักงานที่ i – Sky น่ารักมากค่ะ คอยเทคเเคร์ และถามตลอดเลย ว่าคุณแม่ร้อนไหมคะ ทนไหวไหมคะ อีกแปปเดียวนะคะคุณแม่ ทนหน่อย 🙂
เริ่มกันที่แก้มขวาของแม่ค่ะ
จากแก้มขวาเสร็จก็จะขึ้นไปหน้าผากด้านบน แก้มขวาหลังจากทำเสร็จสักพัก แก้มจะเเดงระเรื่อ เนื่องจากคลื่น RF ได้ไปกระตุ้นคอลลาเจนชั้นผิวหนังค่ะ
หน้าผากเสร็จเเล้ว ลงมาต่อที่แก้มซ้าย จากนั้นก็ไปที่คางค่ะ
คางเสร็จ ก็เป็นอันว่าสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี สำหรับการยกประชับหน้าครั้งที่ 3 ของแม่ค่ะ
เสร็จเเล้วค่ะ เย่ ! ลองสังเกตความเปลี่ยนแปลงของใบหน้าแม่ ที่ดูยกกระชับขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเลย
ข้อดี
- ไม่เจ็บ
- ไม่มีแผล ไม่ต้องพักฟื้น
- แต่งหน้า ทาครีม ออกแดดได้ตามปกติ
- ยกกระชับได้เหมือนกัน รวมถึงผิวหย่อนคล้อยกับคนที่อายุยังน้อย
- ได้ความกระชับแบบเป็นธรรมชาติ
- ผลพลอยได้คือผิวที่ดูเรียบตึง เนียนขึ้น
ข้อด้อย
- ราคาสูง
- ต้องทำ 2 ครั้งถึงจบคอร์ส
- ยังเป็นการผสมผสานเทคโนโลยียกกระชับตัวแม่ที่อาจจะแบ่งความเจ๋งมาอย่างละส่วน แต่ไม่ทั้งหมด ผลคงสู้เทคโนโลยีอย่าง THERMAGE และ ULTHERA ไม่ได้ แต่ก็ยกกระชับได้ในระดับนึงทีเดียว
- การคงอยู่เฉลี่ย 12 เดือน น้อยกว่า THERMAGE และ ULTHERA
- หย่อนคล้อยไม่มาก และ กลัวเจ็บ แต่อยากหน้ากลับมาดูเรียบตึง ผิวดูเนียน ริ้วรอยดูลดลงแบบเป็นธรรมชาติ เครื่องนี้เหมาะ
- ใครกลัวเจ็บจาก THERMAGE และ ULTHERA เครื่องนี้เหมาะ
- อายุน้อยที่มีเหนียง หน้าแก้มคล้อย เครื่องนี้เหมาะไม่หนักจนเกินไป แต่ก็ราคาแรงอยู่พอสมควร ทางที่ดีติดตามโปรโมชั่นสำหรับคนที่อายุไม่มาก จะคุ้มมาก
ผลลัพธ์ของ EXILIS ของฝรั่งบางส่วน เห็นแล้วเอาแม่ไปจัดโดยด่วน
สำหรับตัวอ๊บเองก็ได้มีโอกาสตรวจวัดวิเคราห์สภาพผิวหน้าด้วยเช่นกัน โดยตรวจทั้ง 2 แบบดังนี้
- ผลตรวจวัดสภาพผิวด้วยระบบ Multi System
- ความชุ่มชื้น : 35%
- สีผิว : 29%
- ความยืดหยุ่น : 83%
2. ผลตรวจสำหรับการวิเคราะห์สภาพผิวด้วยเครื่อง VISIA ของอ๊บ
1. Spots : 81% ถือว่าดี ไม่มีปัญหาอะไร
2. Wrinkles: 56% ถือว่าปานกลาง ค่อนข้างมีปัญหาตรงมีร่องลึกตรงบริเวณใต้ตา ซึ่งสามารถแก้ปัญหาได้ด้วย การใช้สารเติมเต็มหรือที่เรียกว่า Filler ฉีดเติมเต็มบริเวณใต้ตาจะทำให้สามารถแก้ปัญหาร่องลึกใต้ตาได้ ใต้ตาจะกลับมาเต็ม ร่องลึกหรือรอยดำใต้ตา เกิดจากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็น 1. ภูมิแพ้ 2. พฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันเช่น นอนดึก นอนน้อย เป็นต้น
3. Texture : 76% ถือว่าใช้ได้ ยังดีอยู่
ภาพนี้เป็นภาพแบบ3D แสดงให้เห็นถึงภาพเฉพาะจุด จุดนี้คือ ร่องลึกใต้ตาที่อ๊บค่อนข้างมีปัญหา ร่องตาค่อนข้างลึกและมีสีคล้ำ
4.Pores : 73% ถือว่าโอเคอยู่ แต่รูขุมขนแถวบริเวณข้างแก้มและจมูกของอ๊บจะค่อนข้างกว้างหน่อย สามารถแก้ปัญหาได้ด้วยการทำ Three Zone
5. UV Spots : 54% ถือว่าอยู่ในระดับกลางๆ แต่ควรให้ความสำคัญในการทากันแดด เพราะหากไม่ให้ความสำคัญกับการทา เม็ดสีMelaninที่อยู่ลึกใต้ชั้นผิวของเราของเราก็จะไปดูดซับกับเเสงUV จากจุดรอยดำของเราอาจจะกลับกลายเป็น ฝ้า กระ ได้ในอนาคต ถ้าเราดูแลไม่ดี โดยไม่ให้ความสำคัญกับการทาครีมกันแดด
6. Brown Spots : 46% ค่อนข้างต้องระวัง Brown Spots จะเป็นพวกเม็ดสีที่อยู้ใต้ผิวลึกๆของเราที่จะรอเวลาลอยขึ้นมา ซึ่งถ้าลอยขึ้นมาก็อาจจะทำให้สามารถเป็น กระ เป็นรอยดำ ได้ง่าย ควรจะต้องดูแลรักษาผิวหน้าดีดีด้วยการทาครีมบำรุงและใส่ใจในการทาครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอ และหลีกเลี่ยงแสงแดดให้ดี เพราะแสงแดดเป็นตัวทำลายคอลลาเจนในผิวหนังอย่างดีเลย ซึ่งการทาไวท์เทนนิ่งครีม เป็นแค่การปรับสภาพผิวให้ขาวใส แต่ยังไม่สู้การให้ความสำคัญในการทาครีมกันแดดเลย เพราะเป็นการป้องกันผิวหน้าจากแสงแดดโดยตรง เสริมในเรื่องปริมาณการใช้ครีมกันแดดนิดนึงนะคะ ถ้าครีมกันแดดเป็นแบบเนื้อครีม ให้ใช้ปริมาณ 2 ข้อนิ้วมือ แต่ถ้าเป็นแบบLiquid ให้ทาปริมาณเหรียญ 10 บาทบ้านเรา ซึ่งทาทุก 4 ชม. เพราะฤทธิ์ของครีมกันแดดนั้นไม่สามารถอยู่ได้ทั้งวัน รวมถึงในกรณีที่เราอยู่ในบ้าน (เปิดไฟ หรือเปิดคอมพิวเตอร์)ไม่ออกไปโดนแสงแดดที่ไหนก็จำเป็นต้องทา เพราะแสงไฟ และ แสงคอมพิวเตอร์นับเป็นแสงยูวีชนิดหนึ่ง ที่สามารถทำลายผิวหน้าเราได้ เพราะฉะนั้นการทาครีมกันแดดจึงเป็นวิธีเบสิคที่สุดในการปกดูแลผิวหน้าของเราจากปัญหาต่างๆ ที่จะเกิดกับใบหน้าในอนาคตที่จะตามมาค่ะ
แผนภูมิแท่งแสดงถึงสภาพผิวหน้าทั้ง 8 ข้อในจำนวนเป็นเปอร์เซ็นต์
7. Red Areas : 87% ถือว่าดีเลย ไม่มีปัญหาอะไร
8. Porphyrins : 71% ถือว่าค่อนข้างใช้ได้
** หมายเหตุ : เปอร์เซ็นต์มากถือว่าดี ไม่ค่อยมีปัญหา แต่ถ้าเปอร์เซ็นน้อยถือว่าค่อนข้างมีปัญหาถ้าต่ำกว่า 50% จะถือได้ว่าค่อนข้างมีปัญหาค่ะ
ข้อได้เปรียบของVISIA Complexion Analysis (เครื่องวิเคราะห์สภาพผิว)
1. สแกนทำงานร่วมกันเพื่อวัดและเซ็นเซอร์
2. การวิเคราะห์ที่แม่นยำของการจดจำใบหน้า
3. รวดเร็วและอัตโนมัติสแกนเนอร์และการวิเคราะห์โดยเซ็นเซอร์
4. วิเคราะห์ของผมรูขุมขน, ไขมัน, ริ้วรอย, คราบสถานะ
5. วิเคราะห์ของความชื้น, มีความยืดหยุ่น, ผิวและอุณหภูมิ
6. 3D โปรแกรมในภาพต้นฉบับ
7. แสดงข้อมูลการตั้งค่าและการตั้งค่าความเข้มCenter
8. การนำกล้องCanon: 14.7ล้านพิกเซลความละเอียดและโคมไฟled