Categorized | REVIEW

UPDATED : REVIEW – EXILIS ll เทคโนโลยีกระชับใบหน้าตัวล่าสุด ครั้งที่ 2&3

 เอิ๊กมั่นใจว่าเขียนเทคโนโลยีนี้ในไทยคนแรก

ขอบพระคุณสำหรับความไว้ใจจาก ISKYCENTER

ที่ให้เอิ๊กและอ๊บได้ไปเก็บข้อมูลของเทคโนโลยี EXILIS II ตัวนี้ในครั้งที่ 2 ด้วยค่ะ

                    สำหรับครั้งที่ 2 ของการใช้เทคโนโลยีจากเครื่อง EXILIS II นี้ โดยเลือกแม่ซึ่งเป็นตัวแทนของความหย่อนคล้อย อายุ 60 ปี  ก่อนที่เราจะไปดูผลจากการทำครั้งที่ 2 นี้ เราก็คงได้ทราบถึง คุณสมบัติ ความเป็นมา หลักการใช้งาน และผลลัพธ์ที่จะได้ของเจ้าเครื่องตัวนี้กันแล้วใน REVIEW ครั้งแรกที่พี่เอิ๊กได้เขียนไป หรือหากท่านในยังไม่ทราบสามารถเข้าไปอ่านได้ใน บทความอันก่อนหน้านี้ได้ เพื่อที่จะได้เข้าใจอย่างแจ่มเเจ้งสำหรับความอัจฉริยะของเจ้าเครื่องตัวนี้ว่ามันทำงานอย่างไรค่ะ (REVIEW – EXILIS ll เทคโนโลยีกระชับใบหน้าตัวล่าสุด ครั้งที่ 1)

 

ก่อนจะเข้ารับทำครั้งที่ 2 แม่ก็ได้ตรวจวัดวิเคราะห์สภาพผิวทั้ง 2 แบบ ดังนี้ คือ

1.  ผลตรวจวัดสภาพผิวด้วยระบบ Multi Systemของแม่ก่อนทำ

  1. ความชุ่มชื้น : 43%
  2. สีผิว : 25%
  3. ความยืดหยุ่น : 72%

 

2. เครื่องวิเคราะห์สภาพผิว 8 มิติ (VISIA complexion analysis) 

        เครื่องนี้สามารถตรวจวัดสภาพผิวที่เราสามารถมองเห็นได้ทั้งด้วยตาปล่าวและที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาปล่าว โดยการตรวจเช็คสภาพผิวจะตรวจด้วยกันทั้งหมด 8 อย่าง ดังนี้

 

  1. Spots : รอยด่างดำบนหน้าที่เห็นได้ด้วยตาเปล่า เช่น รอยแดง น้ำตาล มีขอบชัดเจน อาจเป็นรอบรอยวงกลมหรือมีรูปลักษณะอย่างอื่นก็ได้
  2. Wrinkles : รอยเหี่ยวย่น, ริ้วรอย เป็นแนวร่องส้นเล็กๆบนผิวหน้า ซึ่งส่วนใหญ่เกิดขึ้นตรงตำแหน่งที่แสดงออกถึงอารมณ์, สีหน้า เช่น หางตา หน้าผาก ใต้ตา เป็นต้น
  3. Texture : ความไม่สม่ำเสมอของสีผิว โดยอาศัยหลักการวัดความต่างระดับของสี ทำให้เห็นความสูงต่ำของพื้นผิวได้อย่างชัดเจน เช่น ร่องลึก, รอยไม่เรียบเนียน, รอยนูน
  4. Pores : ขนาดของรูขุมขนซึ่งมีความเข้มมากกว่าบริเวณพื้นผิวปกติ ทำให้ทราบของลักษณะปัญหาหน้ามันและต่อมไขมันสร้างขึ้นมามากน้อยเพียงใด
  5. UV Spots : เป็นลักษณะเฉพาะของผิวที่ถูกทำลายด้วยแสงแดด โดย Melanin ที่อยู่ในชั้นหนังกำพร้าเลือกดูดซับแสงUV ทำให้สามารถมองเห็น UV Spots ได้ชัดเจนขึ้น
  6. Brown Spots : เกิดจากบริเวณนั้นมีการสะสม Melanin ซึ่งผลิตจาก Melanocytes ที่อยู่ใต้ผิวที่มากกว่าปกติ เช่น กระ ฝ้า จุดด่างดำบนใบหน้า Brown Spot จะทำให้เห็นความไม่สม่ำเสมอของสีผิวที่อยู่ด้านบนและภายในผิวซึ่งไม่สามารถเห็นได้ด้วยตาเปล่า แต่สามารถตรวจได้ด้วย RBX TM Technology ของ VISIA (เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้สามารตรวจวิเคราะห์เพื่อหาความผิดปกติของเส้นเลือด หรือ Red Spots และบริเวณที่มีการสะสมของMelaninซึ่งอยู่ภายใต้ผิวหนังที่เราไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาปล่าว เพื่อที่ว่าจะได้วางแผนในการรักษาได้อย่างตรงและเเม่นยำ)
  7. Red Area : ดูความผิดปกติของเส้นเลือดฝอยบนใบหน้า เช่น รอยสิว, การอักเสบของผิว, Rosacea หรือ Spider Vein เนื่องจากเส้นเลือดแดงและฮีโมโกลบินที่อยู่ใต้ผิวหนังจะทำให้เห็นเป็นโครงร่างสีแดง8.
  8. Porphyrins : เป็นของเสียจากกระบวนการ Metabolism ของแบคทีเรียที่อยู่ในรูขุมขนเรืองแสงภายใต้สภาวะ UV และมีความสัมพันธ์การการเกิดสิว

     

                     โดยหลัักการการทำงานของสภาวะแสงในการถ่ายภาพของเครื่อง VISIA Complexion Analysis มีด้วยกันทั้งหมด 3 แบบ

  1. เเสงStandard คือ แสงมาตรฐานทั่วไป
  2. แสงCross-Polarize คือ แสงครอสโพลาไรซ์
  3. แสงUV Fluorescence คือ แสงอุลตราไวโอเลต
 ภาพนี้จะเป็นภาพ 3D จำลองสภาพผิวหน้าเราออกมาให้เห็นถึงรายละเอียด ริ้วรอย ร่องลึกและความเรียบเนียนของบริเวณจุดต่างๆบนใบหน้า

 

ผลตรวจสำหรับการวิเคราะห์สภาพผิวด้วยเครื่อง VISIA Complexion Analysis ของแม่ก่อนทำ

  1. Spots : 24% 
  2. Wrinkles : 82% 
  3. Texture : 56%
  4. Pores : 62%
  5. UV Spots : 69%
  6. Brown Spots : 62%
  7. Red Areas : 69% 
  8. Porphyrins : 13%

** หมายเหตุ : เปอร์เซ็นต์มากถือว่าดี ไม่ค่อยมีปัญหา แต่ถ้าเปอร์เซ็นต์น้อยถือว่าค่อนข้างมีปัญหา ถ้าต่ำกว่า 50% จะถือได้ว่าค่อนข้างมีปัญหาเยอะค่ะ **

 

ภาพ 2 ภาพนี้ เป็นการเปรียบเทียบระหว่างก่อนทำครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2

  •  คำถาม : EXILIS ll สามารถทำบ่อยได้แค่ไหน ?
               – ำหรับใบหน้า 2 สัปดาห์ สามารถทำได้ 1 ครั้ง โดยถ้าทำ 2 ครั้งขึ้นไป ก็จะสามารถเห็นผลเลยได้ แก้มจะยกกระชับขึ้นและเล็กลงอย่างเห็นได้ชัดเลย ซึ่งFATของเเก้มเราจะค่อยๆฟีบลง วิธีที่เห็นผลที่ดีสุดแนะนำต้องทำจำนวน 4 ครั้งขึ้นไป จะเห็นได้ชัดเจนเลย สำหรับตัวคลื่น RF (Radio Frequency) ที่ทำบนใบหน้าจะค่อนข้างร้อนน้อยกว่าตัว โดย 3-6 เดือนจะสามารถเห็นผลได้หลังทำเสร็จครบจำนวนที่ต้องทำ  
 
              สำหรับลำตัว 1 สัปดาห์สามารถทำได้ 1 ครั้ง ห้ามเกิน 2 อาทิตย์ สำหรับคนที่ความหย่อนคล้อยของผิวและต้องการกระชับสัดส่วน จะได้ผลเห็นชัดเจน ในเวลานานแค่ไหนนั้นขึ้นอยู่กับปัญหาความหย่อนคล้อยในบริเวณสัดส่วนนั้นๆว่ามากน้อยแค่ไหน ถ้ามีปัญหาแถวบริเวณนั้นมากๆ ก็อาจจะต้องทำหลายครั้งถึงจะเห็นผล โดยจะมีการบันทึกวัดสภาพผิวก่อนและหลังทำในจุดที่จะทำเพื่อนำมาเปรียบเทียบความแตกต่างอีกด้วย วิธีที่เห็นผลที่ดีสุดแนะนำต้องทำจำนวน 4 ครั้งขึ้นไป ส่วนใหญ่ที่นิยมทำกันจะเป็นช่วงท้อง แขน ขา 
                            
 ครั้งนี้ แม่สามารถทนความร้องของเครื่อง  EXILIS ll ได้ถึง 90 วัตต์ นับว่าเป็นความร้อนที่ค่อนข้างสูง ยิ่งร้อนสูง ย่ิงได้ประสิทธิผลที่ดีค่ะ
  •  ความรู้สึกของแม่ ผู้ที่เป็นตัวแทนความหย่อนคล้อย 60 ปี ทั้งก่อนและหลังทำ 
                 ความรู้สึกครั้งแรกก่อนจะได้รับการทำ : รู้สึกใบหน้ามีรอยเหี่ยวย่นมาก มีร่องลึกค่อนข้างมาก อีกทั้งรอยตีนกาก็มีมากกว่าคนในวัยเดียวกัน รวมจนถึง Brown Spots ก็มีหลายจุดเลยทีเดียว นอกจากนี้รอยย่นที่ี่หน้าผากจะค่อนข้างเห็นเด่นชัด โดยเฉพาะเวลาที่ขมวดคิ้ว เวลาที่ยิ้มหรือหัวเราะ เวลาที่ใช้ความคิด อีกทั้งถุงใต้ตาค่อนข้างหย่อนคล้อย และที่ผนังลำคอห้อยหย่อนยาน และพวงแก้มยุ้ยมาก สภาพสีผิวของใบหน้ามีสีน้ำตาลเข้ม 

                         ความรู้สึกหลังจากได้รับการทำครั้งแรก : ริ้วรอยต่างๆดูลดเลือนลงอย่างเห็นได้ชัด ผนังลำคอหย่อนน้อยลง จุด Brown Spots ลดน้อยลง หน้าดูใสขึ้น เรียบเนียน แถมผิวหน้านุ่มขึ้นอีกด้วย

 

                   นอกจากนี้ ” เครื่องEXILIS ll นี้ได้ยังรับรางวัล การันตี BEST BODY SHAPING AWARD 2012 (Cozycot Women’s Choice Award) & BEST SKIN TIGHTENING AWARD 2012  (The Aesthetic Show USA) จากประเทศสหรัฐอเมริกาอีกด้วย “

UPDATED สำหรับการการยกกระชับหน้า ด้วยเครื่อง EXILIS II ครั้งที่ 3

               ในวันอังคารที่ผ่านมา คือ การยกกระชับหน้า ด้วยเครื่อง EXILIS II  ในสำหรับครั้งที่ 3  โดยเลือกแม่ซึ่งเป็นตัวแทนของความหย่อนคล้อย อายุ 60 ปี  ก่อนที่เราจะไปดูผลจากการทำครั้งที่ 2 นี้ เราก็คงได้ทราบถึง คุณสมบัติ ความเป็นมา หลักการใช้งาน และผลลัพธ์ที่จะได้ของเจ้าเครื่องตัวนี้กันแล้วใน REVIEW ครั้งแรกที่พี่เอิ๊กได้เขียนไป หรือหากท่านในยังไม่ทราบสามารถเข้าไปอ่านได้ใน บทความอันก่อนหน้านี้ได้ เพื่อที่จะได้เข้าใจอย่างแจ่มเเจ้งสำหรับความอัจฉริยะของเจ้าเครื่องตัวนี้ว่ามันทำงานอย่างไรค่ะ (REVIEW – EXILIS ll เทคโนโลยีกระชับใบหน้าตัวล่าสุด ครั้งที่ 1)

               เราจะมาเริ่มดูภาพความเปลี่ยนแปลงบนใบหน้าของแม่ ซึ่งเป็นตัวแทนความหย่อนคล้อย 60 ปี ตั้งแต่ก่อนทำครั้งที่ 1 จนถึง ก่อนทำครั้งที่ 3 กันนะคะ

ภาพ 2 ภาพนี้ เป็นการเปรียบเทียบระหว่างก่อนทำครั้งที่ 1 ครั้งที่ 2  และครั้งที่ 3

 

สำหรับในการทำครั้งนี้ แม่ ผู้เป็นตัวเเทนความหย่อนคล้อย 60 ปี แม่สามารถทนความร้อนได้ถึง 90 วัตต์อีกเช่นเคยค่ะ

พี่ๆ พนักงานที่ i – Sky น่ารักมากค่ะ คอยเทคเเคร์ และถามตลอดเลย ว่าคุณแม่ร้อนไหมคะ ทนไหวไหมคะ อีกแปปเดียวนะคะคุณแม่ ทนหน่อย 🙂

เริ่มกันที่แก้มขวาของแม่ค่ะ 

จากแก้มขวาเสร็จก็จะขึ้นไปหน้าผากด้านบน แก้มขวาหลังจากทำเสร็จสักพัก แก้มจะเเดงระเรื่อ เนื่องจากคลื่น RF ได้ไปกระตุ้นคอลลาเจนชั้นผิวหนังค่ะ

หน้าผากเสร็จเเล้ว ลงมาต่อที่แก้มซ้าย จากนั้นก็ไปที่คางค่ะ

คางเสร็จ ก็เป็นอันว่าสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี สำหรับการยกประชับหน้าครั้งที่ 3 ของแม่ค่ะ

เสร็จเเล้วค่ะ เย่ ! ลองสังเกตความเปลี่ยนแปลงของใบหน้าแม่ ที่ดูยกกระชับขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเลย

 

ข้อดี

  • ไม่เจ็บ
  • ไม่มีแผล ไม่ต้องพักฟื้น
  • แต่งหน้า ทาครีม ออกแดดได้ตามปกติ
  • ยกกระชับได้เหมือนกัน รวมถึงผิวหย่อนคล้อยกับคนที่อายุยังน้อย
  • ได้ความกระชับแบบเป็นธรรมชาติ
  • ผลพลอยได้คือผิวที่ดูเรียบตึง เนียนขึ้น

ข้อด้อย 

  • ราคาสูง
  • ต้องทำ 2 ครั้งถึงจบคอร์ส
  • ยังเป็นการผสมผสานเทคโนโลยียกกระชับตัวแม่ที่อาจจะแบ่งความเจ๋งมาอย่างละส่วน แต่ไม่ทั้งหมด ผลคงสู้เทคโนโลยีอย่าง THERMAGE และ ULTHERA ไม่ได้ แต่ก็ยกกระชับได้ในระดับนึงทีเดียว
  • การคงอยู่เฉลี่ย 12 เดือน น้อยกว่า THERMAGE และ ULTHERA 
ข้อแนะนำ
  • หย่อนคล้อยไม่มาก และ กลัวเจ็บ แต่อยากหน้ากลับมาดูเรียบตึง ผิวดูเนียน ริ้วรอยดูลดลงแบบเป็นธรรมชาติ เครื่องนี้เหมาะ
  • ใครกลัวเจ็บจาก THERMAGE และ ULTHERA เครื่องนี้เหมาะ
  • อายุน้อยที่มีเหนียง หน้าแก้มคล้อย เครื่องนี้เหมาะไม่หนักจนเกินไป แต่ก็ราคาแรงอยู่พอสมควร ทางที่ดีติดตามโปรโมชั่นสำหรับคนที่อายุไม่มาก จะคุ้มมาก

ผลลัพธ์ของ EXILIS ของฝรั่งบางส่วน เห็นแล้วเอาแม่ไปจัดโดยด่วน

 

 

        สำหรับตัวอ๊บเองก็ได้มีโอกาสตรวจวัดวิเคราห์สภาพผิวหน้าด้วยเช่นกัน โดยตรวจทั้ง 2 แบบดังนี้

  1. ผลตรวจวัดสภาพผิวด้วยระบบ Multi System
    1. ความชุ่มชื้น : 35%
    2. สีผิว : 29%
    3. ความยืดหยุ่น : 83%

    2.  ผลตรวจสำหรับการวิเคราะห์สภาพผิวด้วยเครื่อง VISIA ของอ๊บ

1. Spots : 81%    ถือว่าดี ไม่มีปัญหาอะไร                                                                                                                                            

2. Wrinkles: 56%   ถือว่าปานกลาง ค่อนข้างมีปัญหาตรงมีร่องลึกตรงบริเวณใต้ตา ซึ่งสามารถแก้ปัญหาได้ด้วย การใช้สารเติมเต็มหรือที่เรียกว่า Filler ฉีดเติมเต็มบริเวณใต้ตาจะทำให้สามารถแก้ปัญหาร่องลึกใต้ตาได้ ใต้ตาจะกลับมาเต็ม ร่องลึกหรือรอยดำใต้ตา เกิดจากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็น 1. ภูมิแพ้ 2. พฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันเช่น นอนดึก นอนน้อย เป็นต้น                                    

3. Texture : 76% ถือว่าใช้ได้ ยังดีอยู่

ภาพนี้เป็นภาพแบบ3D แสดงให้เห็นถึงภาพเฉพาะจุด จุดนี้คือ ร่องลึกใต้ตาที่อ๊บค่อนข้างมีปัญหา ร่องตาค่อนข้างลึกและมีสีคล้ำ

4.Pores : 73% ถือว่าโอเคอยู่ แต่รูขุมขนแถวบริเวณข้างแก้มและจมูกของอ๊บจะค่อนข้างกว้างหน่อย สามารถแก้ปัญหาได้ด้วยการทำ Three Zone
5. UV Spots : 54% ถือว่าอยู่ในระดับกลางๆ แต่ควรให้ความสำคัญในการทากันแดด เพราะหากไม่ให้ความสำคัญกับการทา เม็ดสีMelaninที่อยู่ลึกใต้ชั้นผิวของเราของเราก็จะไปดูดซับกับเเสงUV จากจุดรอยดำของเราอาจจะกลับกลายเป็น ฝ้า กระ ได้ในอนาคต ถ้าเราดูแลไม่ดี โดยไม่ให้ความสำคัญกับการทาครีมกันแดด
6. Brown Spots : 46% ค่อนข้างต้องระวัง Brown Spots จะเป็นพวกเม็ดสีที่อยู้ใต้ผิวลึกๆของเราที่จะรอเวลาลอยขึ้นมา ซึ่งถ้าลอยขึ้นมาก็อาจจะทำให้สามารถเป็น กระ เป็นรอยดำ ได้ง่าย ควรจะต้องดูแลรักษาผิวหน้าดีดีด้วยการทาครีมบำรุงและใส่ใจในการทาครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอ และหลีกเลี่ยงแสงแดดให้ดี เพราะแสงแดดเป็นตัวทำลายคอลลาเจนในผิวหนังอย่างดีเลย ซึ่งการทาไวท์เทนนิ่งครีม เป็นแค่การปรับสภาพผิวให้ขาวใส แต่ยังไม่สู้การให้ความสำคัญในการทาครีมกันแดดเลย เพราะเป็นการป้องกันผิวหน้าจากแสงแดดโดยตรง เสริมในเรื่องปริมาณการใช้ครีมกันแดดนิดนึงนะคะ ถ้าครีมกันแดดเป็นแบบเนื้อครีม ให้ใช้ปริมาณ 2 ข้อนิ้วมือ แต่ถ้าเป็นแบบLiquid ให้ทาปริมาณเหรียญ 10 บาทบ้านเรา ซึ่งทาทุก 4 ชม. เพราะฤทธิ์ของครีมกันแดดนั้นไม่สามารถอยู่ได้ทั้งวัน รวมถึงในกรณีที่เราอยู่ในบ้าน (เปิดไฟ หรือเปิดคอมพิวเตอร์)ไม่ออกไปโดนแสงแดดที่ไหนก็จำเป็นต้องทา เพราะแสงไฟ และ แสงคอมพิวเตอร์นับเป็นแสงยูวีชนิดหนึ่ง ที่สามารถทำลายผิวหน้าเราได้ เพราะฉะนั้นการทาครีมกันแดดจึงเป็นวิธีเบสิคที่สุดในการปกดูแลผิวหน้าของเราจากปัญหาต่างๆ ที่จะเกิดกับใบหน้าในอนาคตที่จะตามมาค่ะ

แผนภูมิแท่งแสดงถึงสภาพผิวหน้าทั้ง 8 ข้อในจำนวนเป็นเปอร์เซ็นต์

7. Red Areas : 87% ถือว่าดีเลย ไม่มีปัญหาอะไร
8. Porphyrins : 71% ถือว่าค่อนข้างใช้ได้
** หมายเหตุ : เปอร์เซ็นต์มากถือว่าดี ไม่ค่อยมีปัญหา แต่ถ้าเปอร์เซ็นน้อยถือว่าค่อนข้างมีปัญหาถ้าต่ำกว่า 50% จะถือได้ว่าค่อนข้างมีปัญหาค่ะ

              ข้อได้เปรียบของVISIA Complexion Analysis (เครื่องวิเคราะห์สภาพผิว)

1.   สแกนทำงานร่วมกันเพื่อวัดและเซ็นเซอร์

2.   การวิเคราะห์ที่แม่นยำของการจดจำใบหน้า

3.   รวดเร็วและอัตโนมัติสแกนเนอร์และการวิเคราะห์โดยเซ็นเซอร์

4.  วิเคราะห์ของผมรูขุมขน, ไขมัน, ริ้วรอย, คราบสถานะ

5.   วิเคราะห์ของความชื้น, มีความยืดหยุ่น, ผิวและอุณหภูมิ

6.  3D โปรแกรมในภาพต้นฉบับ

7.  แสดงข้อมูลการตั้งค่าและการตั้งค่าความเข้มCenter

8.  การนำกล้องCanon: 14.7ล้านพิกเซลความละเอียดและโคมไฟled

Leave a Reply

You must be logged in to post a comment.

advert

Google

erk-erk.com





BEAUTY MENU

มาคุยกับเอิ๊กได้ที่นี่ทุกวัน ถ้าว่างรีบตอบทุกคำถามค่ะ

INSTAGRAM @wwwerkerkcom

[instagram-feed]

ติดตามบล็อค erk-erk.com อย่างใกล้ชิด

เพียงกรอก Email ตรงนี้เลย

LINE @erk-erk

เพิ่มเพื่อน

Related Sites