โรงพยาบาลพานาซีกำลังจะเปิดใหม่ที่ พระราม2
ในนาม PANACEE HOSPITAL RAMAII
โรงพยาบาลแนวใหม่แห่งแรกในเอเชีย ที่เป็นศูนย์รวมแห่งการแพทย์แบบผสมผสาน
ปกติแล้วเราจะรู้จักในกรุงเทพคือ PANACEE MEDICAL CENTER
เป็นศูนย์ที่อยู่ในตึก Bangkok Mediplex Center สุขุมวิท 42 หัวใจหลักที่นี่
จะเน้นเรื่อง เวชศาสตร์ชะลอวัย รวมถึงการชะลอการเกิดปัญหาสุขภาพด้านต่างๆในอนาคต
โดยจะมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ทั้งไทยและต่างประเทศจะให้คำแนะนำวางแผนการดูแลสุขภาพ
ที่นี่เอาจริงๆ ถ้ามีใครเคยได้ยิน คือ ดังในเรื่องของเซลล์
ซึ่งที่นี่มีโรงพยาบาลที่เยอรมนี
ที่นี่เขาจะมีการวิเคราะห์เลือดจากห้องปฏิบัติการของเขาโดยเฉพาะ
เพื่อวางแผนการดูแลเฉพาะบุคคลจริงๆ คือ มีบริการเยอะมากเล่าไม่หมดในบล็อคเดียว
เช่น วิตามินที่ทำขึ้นมาเฉพาะการบำรุงหรือแก้ปัญหาเฉพาะบุคคล (Supplement)
ครีมบำรุงที่ผลิตขึ้นมาเฉพาะบุคคลโดย
การให้วิตามินทางสายน้ำเกลือตามสุขภาพแต่ละคน (IV Infusion)
ที่นี่จะเน้นลดการใช้ยาที่มีสารเคมี จนถึงงดใช้ยา
เพื่อหลีกเลี่ยงผลข้างเคียงที่ทำให้เกิดโรคต่างๆ ในอนาคต
และ การสะสมของสารเคมีต่างๆ จากยาที่ร่างกายขับออกได้ไม่หมด
หลักๆคือเพื่อให้ร่างกายแข็งแรง สุขภาพดี เซลล์แข็งแรง อ่อนวัย ผิวพรรณดีขึ้น
สำหรับการฉลองเปิดโรงพยาบาลใหม่ก็จะมีแคมเปญ
“BEFORE IT’S TOO LATE” “อย่ารอถึงวันที่สาย มะเร็งรู้ก่อนป้องกันได้”
หลักๆก็จะเป็นการตรวจเลือดเพื่อดูความเสี่ยงของมะเร็งยอดฮิต และ
สารพิษบางตัวในร่างกาย แยก ชาย หญิง นะคะ
สำหรับแคมเปญนี้ราคา 10,000 บาท
สำหรับเลือดจะนำไปตรวจในLAB อาจรอหลายวัน
เมื่อตรวจเสร็จแล้ว เราก็รอนัดฟังผลโดย คุณหมออีกที
สำหรับโปรแกรมพิเศษที่แถมมาคือที่ตรวจ และ ฟังผลได้เลย
เอิ๊กคิดว่ามันอาจจะเป็นผลคร่าวๆ สำหรับเครื่องมือที่กำลังจะเล่าต่อไปนี้
เพราะบางที่ก็บอกว่ามันไม่ได้ผลบ้าง มันบอกได้คร่าวๆบ้าง
ดังนั้นใช้วิจารณญาณในการอ่าน และ เอิ๊กขอยืนยันเหมือนคุณหมอว่า
เราดูเพื่อที่จะตรวจเพิ่มบางจุดที่น่าสงสัยจากการตรวจโดยเครื่องเหล่านี้
ด้วยการเจาะเลือด ซึ่งให้ผลแม่นยำกว่าดังนั้น
การตรวจแบบนี้ เหมือนเป็นเครื่องมือง่ายๆ มาไกด์คร่าวๆ
ไม่สามารถทดแทนการตรวจสุขภาพจริงจังได้นะคะ
ก่อนจะไปถึงเครื่องมือเหล่านั้น เริ่มต้นไปถึงกรอกประวัติ
จะมีคนมาถามประวัติโดยละเอียด และ เราจะไปวัดความดันกันก่อน
ที่นี่ตกแต่งค่อนข้างเหมือนบ้านเลย อบอุ่น โดยโทนสีที่ใช้ น้ำตาล ทอง เทาดำ เป็นหลัก
แซมด้วยสีฟ้า สีเขียว เราจะเห็นกระถางต้นไม้ อยู่ทุกๆบริเวณ
สำหรับโปรแกรมแรกที่ไปตรวจคือ LIVE BLOOD ANALYSIS
ดูความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด
โดยจุดนี้สำหรับการส่องกล้อง และ อ่านผล
ไม่ได้ซับซ้อนมาก จะมีน้องนักศึกษาเทคนิคการแพทย์เป็นคนอ่านผลให้เราฟัง
ที่หนีบนิ้วชี้ขวา คือ การตรวจ MAX PULSE
คัดกรองสภาพ และ ความยืดหยุ่นหลอดเลือดผ่านปลายนิ้ว
พร้อมทั้งดูความเครียดสะสม ผลคร่าวๆเท่านั้น
ข้อแม้ความคลาดเคลื่อนที่มีอยู่แล้ว และ จะคลาดเคลื่อนได้อีก หากเราอยู่ไม่นิ่ง
หรือมีการทาเล็บมา เอิ๊กทาเล็บ แต่ระบบขึ้นว่ายังตรวจสอบได้ ก็ต้องนั่งนิ่งๆ
ระหว่างนั้นก็ เจาะเลือดสดดูขณะนั้น
เขาก็จะเล่าให้ฟังว่าเม็ดเลือดแต่ละรูปแบบมีปัญหาสุขภาพอะไร
พูดไปอาจจะยาวให้ดูลักษณะที่ดีที่สุดนะคะ ต้องเป็นแบบนี้ เม็ดเลือดแดงทรงกลม
กระจายตัวสวยงามเหมือนด้านขวา ถ้าด้านซ้ายมาทับซ้อนกัน กอดกัน
อาจจะมีภาวะการพักผ่อน การดื่มน้ำอะไรเข้ามา ความอ่อนเพลีย
และ มีรูปแบบอื่นๆอีก ฯลฯ
เพราะเม็ดเลือดแดงเกี่ยวของกับออกซิเจนโดยตรง
แต่การตรวจแบบนี้ ไม่สามารถวินิจฉัยโรคได้ทันทีเลยนะคะ
ต้องมีการตรวจอย่างละเอียดเพิ่มเติมค่ะ
ของเอิ๊กจะออกมาเป็นแบบนี้ ซึ่งเรียกว่า Rouleau ลักษณะที่เม็ดเลือดซ้อนทับกัน
มีลักษณะ Chylous Chylomicrons มีจุดขาวกระจายทั่ว
เนื่องจากเพิ่งกินข้าวมา อาหารกำลังย่อยอยู่
สำหรับ Rouleau เขาบอกว่าเพราะดื่มน้ำน้อยไป รู้สึกเพลียๆ ของเอิ๊กตรงนะคะ
และ หาข้อมูลมาเพิ่มเติม อาจเกิดจากบุหรี่ กาแฟ
ความเครียด และเนื้อสัตว์ มีความเครียดสะสม เลือดจึงข้นเหนียว
สำหรับเอิ๊กไม่ดื่มไม่สูบ แต่ทานน้ำอัดลมมีคาเฟอีนแม้จะเป็น 0 แคลอรี่ก็ตาม
และ ช่วงนี้อัดโปรตีนเยอะมาก จากไก่เพราะกำลังจะปรับ BODY FAT ในร่างกาย
เมื่อก่อนเม็ดเลือดเอิ๊กจะสวยงามสมบูรณ์มาก อย่างน้อยสำหรับเอิ๊กผลค่อนข้างใช่ค่ะ
ข้อแม้ของเครื่องนี้ จะมีอีกจุดคือความสะอาดของกระจกที่ใช้ปาดเลือดไปส่องในกล้อง
ถ้าไม่สะอาดพอ อาจทำให้ค่าคลาดเคลื่อนไปอีก เราจะเห็นจุดขาวๆเพิ่มขึ้นอีก
ส่วนความเครียด เอิ๊กคิดว่านิ้วมืออาจไม่ตรงมาก เอิ๊กทาเล็บด้วย เครื่องมันวัดผลได้คร่าว
บอกว่าเอิ๊กเครียดนิดหน่อย แต่ทุกอย่างโดยรวมคะแนนระดับ A
ทีนี้จะมาถึงเครื่องที่เอิ๊กอยากลอง สำหรับเครื่องนี้คิดค้นโดย DOCTOR คนนึงที่ฝรั่งเศส
มีขายและใช้กันในแถบยุโรปและเอเชีย แม้ FDA ยังไม่ได้ APPROVED ชัดเจน
แต่เอิ๊กก็อยากลองด้วยตัวเอง ถึงผลมันจะไม่ได้แม่น 100% บอกได้ส่วนนึง
แต่อยากรู้ว่าผลจะออกมาให้เราเห็นอะไรคร่าวๆได้ขนาดไหน
เครื่องนี้มีชื่อว่า Electro Interstitial Scan (EIS)
ใช้หลักการ Bio Feedback คือส่งผ่านกระแสไฟฟ้าอ่อนๆ เข้าสู่ร่างกาย
เพื่อวัดค่าความต้านทานของน้ำที่อยู่ระหว่างเซลล์ในแต่ละอวัยวะ ไม่เจ็บ
ไม่มีผลข้างเคียงกับอวัยวะภายในนะคะ
ใช้เวลา 3 นาที นั่งนิ่งๆ อารมณ์เหมือนเครื่อง INBODY ตามฟิตเนส
แต่ตรวจได้ลึก พูดถึงสุขภาพรวมๆคร่าวๆได้เยอะกว่ามาก
เดี๋ยวเราจะไปพบคุณหมอเพื่อฟังผลเกี่ยวกับการตรวจด้วยเครื่อง EIS ในห้องถัดไป
สำหรับวันนี้เอิ๊กฟังผล และ ฟังการแนะนำการดูแลสุขภาพ
โดยคุณหมอบิ๊ก ภิญญาพัชญ์ ชัยภูริหิรัญญ์
คราวนี้เอิ๊กมากับแม่ คือ ตรวจโปรแกรมเดียวกับแม่ซึ่งแม่สุขภาพดี
และ การตรวจด้วย EIS หลายส่วนค่อนข้างตรงนะคะของแม่
คุณหมอบอกว่าคุณแม่สุขภาพแข็งแรง และ มีบางจุดที่ต้องเฝ้าดูแลบ้าง
ให้เราเตรียมตัวและทำให้ดีที่สุด
ซึ่งเป็นเรื่องที่เคยตรวจ และ ทราบแล้ว
สำหรับของเอิ๊กผลการทดสอบของเอิ๊ก ตอนออกมาก็ตกใจแต่ไม่แปลกใจเพราะมันจริง
แท่งแรกที่เอิ๊กขึ้น สีแดง คือ เราควรจับตาดู หรือ อาจมีภาวะนั้นอยู่ ช่วงนี้เอิ๊กเครียดมาก
และ ส่วนตัวเอิ๊กมีประวัติการป่วยด้วยปลายเส้นประสาทอักเสบอยู่แล้ว
ก็โปรแกรมจะออกมาหมดเลยว่าเอิ๊ก เซโรโทนินต่ำ อาจมีความหิวอยากอาหาร
แปรปรวนทางอารมณ์ อ่อนเพลีย ฯลฯ คุณหมอแนะนำให้ปรับอารมณ์
อันดับต่อมาแท่งสีน้ำเงิน จะเฝ้าระวังน้อยลงมาหน่อย คืออาจเป็นอาการที่อาจจะเยอะขึ้น
ถ้าไม่ดูแล ผลออกมาว่าเอิ๊กปวดต้นคอ ใช้เลยเพราะช่วงนี้นั่งคอแข็งหน้าคอมบ่อย
ต้องปรับท่านั่ง ท่ายืนให้ปลอดภัยกับกระดูกด้วย คุณหมอให้ฝึกเกร็งท้อง
ให้หลังช่วงล่างแข็งแรง เพื่อทำให้กระดูกอยู่ในจุดที่สมดุล แข็งแรง
คอถ้าเราไม่ปรับท่าทาง มันเชื่อมโยงกับระบบประสาทอาจทำให้ปวดหัวได้
และก็มีความอ่อนเพลีย อันนี้หมอเห็นและให้เจาะเลือดไปดูเพิ่มว่าจะมีแนวโน้ม
เกี่ยวกับต่อมหมวกไตเหมือนที่เครื่องแปลผลหรือเปล่า และ การเผาผลาญต่ำ
และ แท่งสีฟ้าอ่อน ไม่ได้ซีเรียสมาก คือ เป็นเกี่ยวกับการย่อยอาหาร
ซึ่งมีผลมาจากแท่งแดง คือ เป็นเรื่องความเครียด โปรแกรมบอกมาเลย
เครียดทำให้ย่อยได้ไม่ดี ก็ต้องปรับอารมณ์แล้วทุกอย่างจะดีเอง
นอกนั้นฮอร์โมน แร่ธาตุอะไรอยู่ในจุดที่ค่อนข้างสมดุล
สำหรับการวัดมวลร่างกาย เอิ๊กคิดว่า INBODY จะค่อนข้างให้ผลชัดเจนแม่นยำกว่า
อันนี้คร่าวๆปกติดี แต่มีการอาการบวมน้ำที่ปกติหุ่นเอิ๊กจะบวมน้ำง่ายอยู่แล้ว
สำหรับการประมวลผลด้วย EIS คร่าวๆ สำหรับเอิ๊กค่อนข้างใช้ได้เลย ตรงหลายจุด
หลังจากนั้นเอิ๊กก็เตรียมตัวเจาะเลือดตรวจสารพิษ และ โปรแกรมตรวจเลือดเกี่ยวกับมะเร็ง
เหลือบตาไปเห็นโซน MIND DETOX การบำบัดด้วยคลื่นเสียงที่ช่วยแก้ปัญหาต่างๆ
เกี่ยวกับระบบประสาท และ คลื่นสมอง
ยังมีการวิเคราะห์ตัวตนของเราด้วยเสียง อันนี้น่าสนใจมาก จ่ายยาด้วยคลื่นเสียง
เพื่อไปปรับคลื่นสมอง
ก็จะมี ดร. ท่านนึงที่จบปริญญาเอกเกี่ยวกับ
สาขาพฤติกรรมศาสตร์มาโดยตรง เอิ๊กเดาว่า ในสายที่เกี่ยวกับเส้นประสาทในสมอง
การตัดสินใจ การคิดเชื่อมโยงสิ่งต่างๆ เพราะแกเขียนหนังสือเล่มนี้ ดูแลศูนย์นี้เป็นหลัก
ที่นี่จะมีคุณหมอหลายท่านเขียนหนังสือให้ประชาชนอ่านน่าสนใจมากที่เดียว
ชอบโซนที่ให้หยิบหนังสือไปอ่านได้ มีแต่หนังสือสุขภาพ และ ร่างกาย
ถึงเวลาที่ต้องตรวจเลือด เจาะออกไปประมาณ 22 มิลลิกรัม
หลังจากนั้นไปตรวจ ABI-CAVI ตรวจอายุและสมรรถนะหลอดเลือด
โดยให้เรานอนนิ่งๆ 2 นาที ก็จะคล้ายการวัดความดัน แต่มารัดที่แขนขา
ผลไว้รอคุณหมออ่านให้ฟังรอบหน้านะคะ
สุดท้ายเก็บปัสสาวะ เพื่อไปเช็ค HPV แปลกมาก เดี๋ยวจะมารายงานผลอันนี้
เป็นการตรวจนวัตกรรมแนวใหม่ผ่านปัสสาวะ ที่ไม่ต้องขึ้นขาหยั่ง
และ ก็สำหรับท่านที่มาใช้บริการมี SOFT DRINK เสริฟ์ด้วย ชื่นใจ อร่อย
เอิ๊กว่าที่นี่ข้อด้อยจะมีอยู่จุดเดียว คือ ต้องรอผลเลือดหลายวัน
เอิ๊กเป็นคนไม่ชอบไปตรวจเลือดโดยเดินทางไปหลายครั้ง ชอบวันเดียวจบ แต่เดี๋ยวรอดู
ส่วนเรื่องเรทเอิ๊กว่าเทียบเท่าโรงพยาบาลเอกชนชั้นนำเลย
แต่แลกมาด้วยการบริการที่ดีกว่าตลอดเวลา
จะรู้สึกเป็น VIP จะมีคนมารับ มาตาม มาถามตลอด และ
รวมถึงนวัตกรรมหลายอย่างที่ๆที่อื่นยังไม่มี
อีกข้อ คือ ที่นี่บรรยากาศจะคล้ายบ้าน อาจจะมีมุมสงบ
สลัวๆ มีมุมโดนแดดข้างหน้าต่างเลือกได้
ก็จะเป็นอีกอารมณ์และความรู้สึกนึงที่ต้องลองมาสัมผัส 🙂
เดี๋ยวรอบหน้าจะนำผลการตรวจเลือดมาเล่าให้ฟังนะคะ
สุดท้ายวันนี้ได้มีโอกาสเจอหนึ่งในเจ้าของ PANACEE คุณแอน กษิรา เทพเจริญ
มาดูแลต้อนรับลูกค้าส่วนตัวด้วยตัวเองเลย
ซึ่งหุ่นดี เป๊ะมาก ก็มีโอกาสคุยเรื่องโปรแกรมหลายอย่างใน PANACEE
ขอบพระคุณ คุณแอน และ ทีม PANACEE คุณจุ๊ย คุณแป้ง คุณป๋อมด้วยนะคะ
สำหรับการดูแลทั้งหมดในวันนี้
ไว้เจอกันใหม่บล็อคหน้านะคะ <3 สำหรับใครที่สนใจข้อมูลสามารถเข้าไปดูที่
www.panacee.com
โทร : +66 (0) 858-623-333
โทร : +66 (0) 2712-0333
♥️
🙏🏻 ]
💄
