Archive | BEAUTY TECHNOLOGY

แก้ปัญหาร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก
สัมภาษณ์โดยรองศาสตราจารย์แพทย์หญิง รังสิมา วณิชภักดีเดชา

Posted in FILLERComments (0)

รีวิว ULTHERA vs THERMAGE ยกกระชับตัวไหนดีที่สุด

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

เทคโนโลยีที่แพงที่สุดในการยกกระชับ ที่มีการรับรองจาก USFDA อเมริกา

และ มีงานวิจัยมากมายในระยะเวลานาน ระหว่าง ULTHERA vs THERMAGE

อะไรคือเทคโนโลยีที่ดีที่สุด

ใครจะรู้ว่า เวลาคนเราแก่ลง

ทางด้านผิวหนังมันแก่ลงลึกถึง 5 ชั้น !!

ชั้นที่ 1 บนสุด ชั้นหนังกำพร้า

ชั้นขี้ไคลปกป้องผิวไม่ให้สิ่งแปลกปลอมมาทำร้าย

ชั้นที่ 2 ชั้นหนังแท้

ประกอบไปด้วย คอลลาเจน กับ ไฮยาลูรอนิคเอซิด

ให้ความหนาแนน ยืดหยุ่น กระชับกับผิว

ชั้นที่ 3 ไขมัน

ป้องกันการกระแทกของอวัยวะภายใน

เป็นชนวนความร้อนให้ความอบอุ่นร่างกาย

ชั้นที่ 4 กล้ามเนื้อ

ใช้ในการขยับ เคลื่อนไหว

ชั้นที่ 5 กระดูก

เป็นโครงสร้างยึดร่างกายเอาไว้ ป้องกันอวัยวะที่สำคัญในร่างกาย

 

 

เวลาคนเราแก่ลง มันแก่ลงไปพร้อมๆกัน ทุกๆชั้น

ผิวหนังบางลง

ไขมันบางส่วนลดลง เช่น ใต้ตา แก้ม

กล้ามเนื้อฟีบลง

กระดูกสึกหรอขึ้น มวลกระดูกลดลง

เมื่อคนเรามีอายุมากขึ้นจะมีการหย่อนคล้อยของผิวหนังบริเวณใบหน้า ลำคอ และ เนินอก

รวมถึงเนื้อเยื่ออ่อนที่อยู่ภายในตามแรงโน้มถ่วงของโลก

ในการจัดการความแก่ที่เกิดขึ้น

จึงต้องดูแลผิวทุกชั้น เพื่อทำให้ผลลัพธ์สอดคล้องเป็นธรรมชาติ

 

ปัจจุบัน มีเทคโนโลยี และ นวัตกรรม ที่สามารถดูแลปัญหาของผิวเกือบทุกชั้นได้

เช่น หน้าเหี่ยวเราใช้เทคโนโลยียกกระชับ หรือ ศัลยกรรมดึงจากระดับชั้นกล้ามเนื้อได้

ยกเว้นในบริเวณกระดูก ยังไม่สามารถแก้ไขได้

อาจเติมฟิลเลอร์ได้บ้างในบริเวณที่กระดูกสึกหรือสลาย แต่สุดท้ายมันไม่ยั่งยืน

และ น่าจะไม่คุ้ม

 

 

ดังนั้นถ้าถามว่า ULTHERA vs THERMAGE  แตกต่างกันอย่างไร ?

เพราะหลายคนบอกว่าช่วยยกกระชับเหมือนกัน

แต่แท้จริงแล้ว ใครจะใช้เทคโนโลยีไหน ขึ้นกับปัญหาที่แท้จริงที่เกิดขึ้น

ในระดับชั้นผิว

 ULTHERA คือ พลังงานเสียง ULTRASOUND

THERMAGE คือ พลังงานคลื่นวิทยุ MONOPOLAR RF 

ทั้งสองปล่อยพลังงานความร้อนเหมือนกัน แต่เป็นความร้อนที่กระจายต่างกัน

จึงลงลึกสู่ชั้นผิวได้ไม่เหมือนกันผลลัพธ์จึงให้คนละอย่าง

 

จากประสบการณ์ที่ผ่านมาทั้ง 2 เทคโนโลยีให้จำง่ายๆ

ULTHERA เน้นยกกระชับหน้า ความหย่อนคล้อยรูปหน้า LIFTING

THERMAGE เน้นผิวแน่นกระชับ สลายไขมัน TIGHTENING

การจะเลือกเครื่องมือใดเครื่องมือหนึ่งใน 2 เทคโนโลยีนี้

ต้องดูก่อนว่า การจะให้ผิวแน่น ยกกระชับ

มันเกิดจากปัญหา ผิวสองชั้น

1.คือ ชั้นหนังแท้ ที่อุดมไปด้วยคอลลาเจนอิลาสตินถ้าส่วนนี้มีเยอะมันจะผิวแน่นเด้ง

2.คือ ชั้นกล้ามเนื้อ เพื่อเป็นตัวยกหน้าขึ้น และเราสามารถดีไซน์ยกหน้าในรูปแบบต่างๆได้

ชั้นกล้ามเนื้อมี 2 กลุ่มกลุ่มดึงหน้าขึ้น และ กลุ่มดึงหน้าลง

กลุ่มดึงหน้าลง เราทำให้อ่อนแรงลงโดยการฉีดโบทูลินูมทอกซินก็คลายได้ มันก็จะถูกดูดึงขึ้นไป

หรือ เราใช้วิธีทำให้กล้ามเนื้อทั้งหมดหดตัว ก็จะทำให้หน้าดูยกขึ้นไปได้

 

 

ถ้าเราเลือกยกกระชับโดยไม่ผ่าตัด แต่เลือกใช้เทคโนโลยี มันจะเข้าไปดูแลและออกฤทธิ์

ที่ชั้นกล้ามเนื้อ (ยก) หรือ ที่ชั้นหนังแท้ (แน่น)

แน่นอนตอนนี้มีเครื่องมือเพียง 2 ชนิด ณ ปัจจุบันที่มีงานวิจัยรองรับมายาวนานคือ

คือ

ULTHERA  ซึ่งออกฤทธิ์ที่ชั้นกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อยกมากขึ้น

และ

THERMAGE  ซึ่งออกฤทธิ์ที่ชั้นหนังแท้ ไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน

และ ทำให้อิลาสตินแข็งแรง ผิวจึงเด้ง แน่น

 

ความร้อนของULTHERA ลงได้ลึกมากกว่า THERMAGE [RF]

ดังนั้นจะเห็นว่าลงไปถึงชั้นกล้ามเนื้อ

และ ถ้าเทียบกับการศัลยกรรมดึงหน้า SURGICAL FACELIFT ในส่วนของ

ULTHERA จะเข้าไปดูแลในส่วนกล้ามเนื้อ เหมือนกับการดึงหน้า

แต่จะให้เรียบตึงเท่าดึงหน้าคงไม่ใช่ ดึงหน้าเข้าไปดึงทันทีที่ชั้นกล้ามเนื้อให้ตึง

อย่างที่บอกเวลาเราแก่ มันแก่ลึกถึง 5 ชั้น ดังนั้น

ความร้อนที่ได้จาก ULTHERA จะได้ผลในเรื่องการดูแลผิวบางชั้น

ให้ได้ผลประโยชน์ด้วย เช่นถ้าความร้อนลงไประดับชั้นไขมัน

ก็อาจมีเซลล์ไขมันตายสลายไป

 

 

การปล่อยพลังงานของ ULTHERA 

ความร้อนจะมาเป็นเส้นๆ เราเรียกว่า LINE เป็นคล้ายจุดไข่ปลาเรียงกัน

ซึ่งมีระยะห่างระว่างจุด

ปล่อยลงลึกมาโดนบริเวณแถวเยื่อหุ้มกล้ามเนื้อ พอโดนกล้ามเนื้อก็หดไป

เนื่องจากถ้าปล่อยให้กระจายทั้งหมด หน้าจะแข็งและเกร็งไม่ธรรมชาติ

เราจะนิยมยกโครงกรอบหน้า ผิวแก้มที่ห้อยย้อยเป็นกระเปาะ ยกหน้าผาก คิ้ว หางตา

ลำคอ ผิวที่เนินอก

 

การปล่อยพลังงานของTHERMAGE 

ความร้อนจะกระจายกว้าง ละเอียด ลงโดนทุกคอลลาเจนใต้ชั้นผิว

ลงถี่รักษาเต็มทุกพื้นที่ 100%

ทำให้คอลลาเจนแข็งแรงขึ้นฉับพลัน หดตัว และ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่

เราจะนิยมใช้ดูแลปัญหาผิวที่คอลลาเจนเสื่อม หรือ

ทำล่วงหน้ากระตุ้นการสร้างคอลลาเจนเพื่อชะลอวัย

ทำให้ผิวหน้าแน่น ใบหน้ากระชับ เซลล์ไขมันตาย ดูหน้าเข้ารูปขึ้น

 

 

 

ดังนั้นดูปัญหา ที่เกิดตามจริง แล้วเลือกให้เหมาะสม

เช่น

เหมือนตอนวัยรุ่นผิวเรายังไม่คล้อย ทาครีมก็พอ ก็ดูแลบำรุง

ผิวชั้นหนังกำพร้าให้มีริ้วรอยช้า

พอเริ่มเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ ผิวเริ่มห้อยคล้อย มีเหนียง ไขมันเยอะๆ

THERMAGE ก็อาจจะเหมาะ

พอเริ่มสูงวัย ใบหน้ากล้ามเนื้อหย่อนลงมา รูปหน้าเสียทรง

เราก็มายกด้วย ULTHERA

ดูแลทุกชั้นไปในแต่ละช่วงวัย และ ปัญหาผิว

ทำให้ทุกชั้นได้รับการดูแล เราจึงดูอ่อนวัยละมุนอย่างเป็นธรรมชาติ

 

อ่านกลไกการทำงาน THERMAGE ต่อได้ที่

LINK 1

LINK 2

บรรยายโดย ศาสตราจารย์นายแพทย์ วรพงษ์ มนัสเกียรติ

 

 

 

สำหรับการดูแลผิวพรรณ รูปหน้า ตลอดเกือบ8ปี iskycenter

ดูแลทุกอย่างมาตลอด

และคุณหมอเอิ๊กมีหลายท่าน ขึ้นกับว่าหาด้านไหน ฝ้า กระ

แผลผ่าตัด รอยดำ เซลล์ลูไลท์

โบทูลินัมทอกซิน ฟิลเลอร์ สิว กำจัดขน ลบรอยสัก ทรีทเมนท์

ledฉายแสง แผลหลุม

หน้าแพ้เครื่องสำอาง ปรุงครีมทาหน้าส่วนบุคคล

ตรวจสภาพผิว ลดไขมันหน้าท้องและขา

เลเซอร์หน้าใส ยกกระชับหน้า ฯลฯ

(ด้านบนคือรายการที่เคยทำมาทั้งหมด☺️)

(เอิ๊กไม่เคยศัลยกรรมบนใบหน้า)

#จะเน้นกระตุ้นคอลลาเจนและเทคโนโลยีความงามมากกว่า

 สำหรับการดูแลเรื่องการปรับรูปหน้า Anti-aging เอิ๊กจะหา

รองศาสตราจารย์ แพทย์หญิง รังสิมา วณิชภักดีเดชา

ท่านเดียวเท่านั้น

เพราะท่านเก่งเรื่องวิจัย

เป็น INTERNATION SPEAKER ที่อัพเดท

และ บินไปให้ความรู้เทคนิคกับแพทย์ผิวหนังต่างชาติตลอดเวลา

รวมถึงคุณหมอยังเป็นอาจารย์แพทย์ผิวหนัง

และ เชี่ยวชาญทางด้านมะเร็งผิวหนังด้วย

บทสัมภาษณ์ที่ทุกคนได้อ่านอยู่นี้

เป็นการสัมภาษณ์มาจากคุณหมอค่ะ

 

 

 

ด้านล่างจะแบ่งเป็นการรีวิวULTHERA vs THERMAGE  ทั้ง 2 ส่วน

บทความนี้ใช้เวลาเก็บผลเกือบ 2 ปีเต็ม

 

 รีวิว THERMAGE

ขณะทำอยู่ในช่วงอายุ 29 นะคะ จะครบ 2 ปีแล้ว ตอนนั้นยังไม่มีปัญหาอะไรชัด

แต่งานวิจัยบอกให้เราทำทุกปี หรือ ทุก 2-3 ปี จะช่วยกระตุ้นคอลลาเจน

และ ทำให้ใบหน้าเราเด็กลงจริง

ทำทั้งหมดจำนวน 1200 SHOTS ทั้งใบหน้าและลำคอ

ราคา 150,000 กว่าบาท

ดวงตาทำไปก่อนหน้านี้ ราคา 35,000 บาท จำไม่ได้ว่ากี่ SHOTS

รูปก่อนทำในวัย 29 ปี ก็จะมีแก้มที่ยุ้ย ก็หวังว่าหน้าจะเล็กลงเป็นผลพลอยได้

แต่ในใจอยากได้แค่สะสมการสร้างคอลลาเจนไปเรื่อยๆทุกๆปี


 

เราจะเริ่มกันด้วยการทายาชาทั่วใบหน้าทิ้งไว้ 45 นาที เพื่อบรรเทาความรู้สึกเจ็บที่เกิดขึ้น

 

 

ตอนนั้นเจ็บมาก รู้สึกว่าเป็นคนถ่ายเอง แต่ลืมถ่ายรูปเครื่องมา สามารถดูลิงค์ที่แปะให้

อ่านในกลไก การทำงานได้ค่ะ ถ่ายมาแต่อุปกรณ์ เป็นตัวเจล หรือ สารนำความร้อน

และ หัวทิปส์ 1200 SHOTS ที่ใช้ในการยิง ยิงเสร็จทิ้งเลย แพงที่หัวจริงๆ

 

 

คุณหมอจะเริ่มหนึ่งข้างก่อน ความร้อนจะทำให้ผิวด้านบนอมชมพูถามว่า

ความรู้สึกเป็นยังไง เจ็บลึก ปวดลึก บอกไม่เจ็บก็ดูหลอกเด็ก

แต่บางคนคงทนได้ เอิ๊กสำออย55

 

 

 

ผลลัพธ์การทำครึ่งหน้า ร่องแก้มหายไปในบรรดล 6 เดือน ถึง 1 ปีเข้าที่

 

 

รูปนี้ทำเสร็จแล้ว 2 ข้าง กว่าจะจบ 555 เกร็งจนเพลีย ร่องแก้มหายวับเลย ตาดูยก คิ้วยก

 

 

และแล้วก็เดินทางมาครบ 1 ปี มาเผยให้ดูกันแต่ละจุด

หน้าผากเห็นเด่นชัดเลย คือ สภาพผิวเรียบลื่น ริ้วรอยคลื่นบางๆ หายวับไป ผิวดูแน่นขึ้น

 

 

ผิวบริเวณคาง ผิวแน่น ละเอียดขึ้นอีกเช่นกัน

 

 

ผิวบริเวณข้างจมูก รูขุมขนที่ตื้นขึ้น เล็กลง ผิวละเอียดใสสว่างขึ้น มันช่วยเรื่องผิวจริงๆ

 

หน้าตรงครบ 1 ปี

พลังงานความร้อนที่ใช้มีผล จำได้ว่าเอิ๊กทนไม่ได้มาก ดังนั้นอาจจะไม่ร้อนลึก

ถึงระดับชั้นไขมันมาก เลยรู้สึกว่าในส่วนความเรียวของใบหน้าอาจจะไม่ได้เห็นชัด

แต่แน่นอน ความร้อนระดับคอลลาเจนถึงอย่างเห็นได้ชัด ทั้งในส่วนของริ้วรอยจางๆ

และ ผิวที่ดูกระชับ รูขุมขนกระชับ ผิวดีขึ้น ใสขึ้น แน่นขึ้น

 

 

ถามว่าจะทำต่อไปไหม ชัวร์โคตรโคตร เพราะว่ากระตุ้นคอลลาเจนเก็บสะสมไว้

หน้าจะเด็กยาวนาน

 

ข้อดี

เห็นผลเรื่องผิวชัด กระชับ รูขุมขนแน่นขึ้น ริ้วรอยบางๆหาย

กระตุ้นคอลลาเจนระยะยาว ส่งผลเรื่องความอ่อนเยาว์ใต้ชั้นผิวจริงๆ

ถ้าเราทนพลังงานร้อนลึกๆได้ หน้าจะเล็กลงเพราะเซลล์ไขมันบางส่วนตาย

มีงานวิจัยเพียบ

ไม่ต้องผ่าตัด สวยแบบละมุนธรรมชาติ

ผ่าน USFDA

 

ข้อด้อย

เจ็บอยู่เหมือนกัน

ความแม่นยำและเห็นผลชัดของเทคโนโลยีส่งผลให้ราคาสูง

 

 รีวิว ULTHERA

ซึ่ง MERZ AESTHETICS

คือเจ้าของเทคโนโลยี ULTHERA จากเยอรมันที่เข้ามาเปิดสาขาในไทย

ใครอยากรู้ว่าทำ ULTHERA ของแท้หรือเปล่าสามารถสอบถามได้ที่เพจนะคะ

https://www.facebook.com/MerzAestheticsThailand/

ขณะทำอยู่ในช่วงอายุ 30 นะคะ จะครบ 1 ปีแล้ว มีปัญหาแก้มห้อยย้อย

ทำทั้งหมดจำนวน 400++ LINES ทำแค่ทั่วใบหน้า

ราคา 40,000 กว่าบาท

ULTHARA ได้รับการรับรองจาก USFDA ทางด้าน LIFTING

และเป็นเทคโนโลยีเดียวในการทำงาน ทำให้เราเห็นพลังงานULTRASOUND

ตลอดการทำ ว่าลงไปถึงชั้น SMAS ทุกไลน์จริงหรือเปล่า ให้ความแม่นยำ

เว็บไซด์ REVIEW ศัลยกรรมความงามชื่อดัง อย่าง REALSELF ก็เคยบอกไว้เลย

จาก 140 กว่ารีวิว ว่า คุ้มเงิน !!

 

 

การลงลึกของพลังงาน ถ้ามองให้ชัด ในหัวพลังงาน  4.5 ความร้อน

จะลงมาถึงเยื้อหุ้มกล้ามเนื้อ

ทำให้กล้ามเนื้อหดตัว จึงยกผิวหน้า โครงหน้าขึ้นได้ เบอร์ 3-4-5

แต่ถ้าเรามีไขมันเยอะมาก พลังงานจะลงมายาก การใช้ THERMAGE อาจดีกว่า

 

 

การทำงานของ ULTHERA เราสามารถเลือกหัว เพื่อระดับความลึกของพลังงาน

ในการลงไปแก้ไขในระดับชั้นผิวที่เราต้องการได้อีก หัวมี 3 พลังงาน

1.5 / 3 / 4.5

 

 

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะเป็นคนดีไซน์พลังงานให้เหมาะสมกับปัญของเรา

จุดไหนเป็นปัญหาต้องยิงเพิ่ม LINE

จุดไหนเก็บไว้ได้ ไม่ต้องยิงLINEเยอะ

ทุกอย่างอยู่ที่การประยุกต์ และ

ประสบการณ์ความเชี่ยวชาญของแพทย์แต่ละท่าน

ระยะเวลาเห็นผลที่ดีที่สุด 6 เดือน

 

เราจะเริ่มจากการทายาชา เพื่อบรรเทาความเจ็บอีกเช่นเคย

 

 

นอนรอคุณหมอ แล้วก็ทำใจไปพลางๆ ไม่แน่ใจว่าจะเจ็บแค่ไหน

 

 

ตัวเครื่อง ULTHERAและอุปกรณ์รวมถึงเจลเพื่อป้องกันความร้อนเบิร์นผิวด้านบน

 

 

เครื่องจะถูกตั้งค่าเป็น 0 ระบบฉลาดมาก บันทึกชื่อคนไข้ คราวนี้ทำอะไรไป

คราวหน้าจะได้วางแผนถูก และ ใบบันทึกผลการรักษาว่าเราจะใช้กี่ LINE ในบริเวณไหนบ้าง

 

 

คุณหมอจะทำทีละครึ่งหน้าเช่นเดิม และ คุณหมอจะชวนคุยเพลินๆให้ลืมความเจ็บแต่ว่า

ไม่ลืมเลยค่ะ ความรู้สึกเจ็บอันนี้เหมือนหนังยางดีดรัวๆ ลึกๆ เจ็บลึกๆ

ทนได้ 400 กว่าครั้งเท่านั้นตอนแรกว่าขอเยอะๆ เอาแบบเต็มสูบเลยค่ะคุณหมอ

จบชีวิตตั้งแต่ 300 LINES มันสุดยอดมาก 5555555

 

 

 

ULTHERA เป็นเทคโนโลยีเดียว ที่มีหน้าจอให้มองเห็นถึงพลังงานในขณะทำ

ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญ เพราะถ้าเราจะแก้ปัญหาผิวจริงจัง เราต้องรู้ให้ได้ว่าที่

จ่ายตังค์ไป มันคุ้ม เราได้อย่างที่เราอยากได้ 100% รึเปล่า

ไม่ยังงั้นจะได้ผลลัพธ์ได้อย่างไรเราจะเห็นพลังงานที่ลงไปตลอดเวลา

อย่าง ULTHERA หัว 3 หัว เวลาพลังงานลง เราจะเห็นพลังงานลงไป

ในรูปแบบนี้เลย

 

 

เพราะถ้ามีข้อผิดพลาด เช่น เจลปกป้องผิวทาน้อยไป ผิวด้านบนไหม้แน่นอน

หรือ พลังงานลงไม่ถึงชั้นที่ต้องการ

 

 

หัวที่เอิ๊กใช้วันนี้มี 2 หัว คือ 3 และ 4.5 คุณหมอเป็นคนดีไซน์ LINE ว่าจุดไหนควรใช้หัวไหน

อีก1ปัจจัย คือ เรื่องของระดับพลังงานที่ปล่อยความร้อน ยิ่งสูงยิ่งได้ผลดี

แต่ร้อนอาจจะเจ็บมาก อีกวิธีคือใช้ LINE เยอะหน่อย ปล่อยระดับพลังงานที่ทนได้

ก็ได้ผลลัพธ์ที่ดีเช่นกัน เป็นเรื่องความร้อนสะสม แต่ข้อเสียคือเพิ่มเงิน เพิ่มLINE

 

 

จบแล้วคุณหมอจะบันทึก LINE ในแต่ละจุดลงในเอกสาร

และดูหน้าจอ จะมีชื่อแพทย์ ชื่อคนไข้

สรุปจำนวน LINE ให้เห็นชัดเจน ทำจริง เจ็บจริง ลงจริง ไม่โกง 55555

 

มาถึงผลลัพธ์ ตั้งแต่ 1 เดือน 3 เดือน และ 8 เดือนนะคะ

 

 

คลิกที่รูป 2 รอบ เพื่อขยายดูนะคะ เรามาดูที่ 3 เดือนแรกกันก่อน

หน้าตรงจะเห็นว่าเอิ๊กมีกระเปาะแก้มย้อยลงมาตามวัยหลังทำเดือนนึงยังไม่ค่อยเข้าที่

แต่ก็เริ่มยกละ เดือน3อาจจะประกอบกับฉีด DIAMOND TOXIN ให้ใบหน้าเรียว

ช่วงนี้ใบหน้ายกกระชับ มลได้รูปแบบเห็นได้ชัด ร่องน้ำหมากยกสูงขึ้น

ด้านข้างจะเห็นผิวลำคอยกสูงขึ้นเช่นกัน

เหนียงเล็กๆเว้าไป จริงๆ 3 เดือนคนทักละ หน้าฟีบ นึกว่าไปทุบหน้าเกาหลีมา

 

 

เดือนที่ 8 ต้องขออภัย หน้าดูบวมๆ อวบๆ เพราะน้ำหนักขึ้นมา 3 โลแต่ให้ดูความยก

หน้าตรง จะเห็นว่ายังมล ได้รูป ไม่มีกระเปาะแก้มห้อย ร่องแก้มยกสูงขึ้นเล็กน้อย

แต่ถ้ามุมมองจากด้านข้างเห็นเลยหน้ายกขึ้น มุมเนื้อแก้มแฟบไม่เกยจมูก

ร่องน้ำหมากยกสูงขึ้นเล็กน้อย เหนียงอาจจะเริ่มมานิดๆเพราะอวบขึ้น 5555

อีกอย่าง ไม่ได้ทำคอ ทำแค่ใต้ใบหน้าเล็กน้อย นี่ถ้าทำคงยกกระจาย

คุณหมอบอกว่าคอเจ็บมาก เลยขอทูลลาคุณหมอก่อน ไม่ไหว

 

 

หลังทำ ULTHERA อาจจะมีอาการรู้สึกบวมใต้ผิว บางคนรู้สึกกดเจ็บนิดๆ

บางคนก็ไม่บวมเลย ดีงาม แต่ของเอิ๊กเหมือนคนผ่าฟันคุดมา

เป็นเรื่องปกติที่ต้องเจอ .. เฉลี่ย 2 อาทิตย์จะค่อยๆกลับมาเป็นปกติ

ผ่านไป1อาทิตย์ เอิ๊กพบว่า การใช้มาส์คหน้า ที่ดูแลเรื่องหน้าเรียวแบบที่ใส่อยู่

หรือ จำพวกเข็มขัดหน้าเรียว รัดไว้ที่ใบหน้าของตัวเองพบว่า

ใบหน้าเข้าที่เล็กลงเร็วขึ้นมาก (ทดลองส่วนตัวคนเดียว)

เพื่อนทักว่าผอมลงหลายคน เปล่าเลย หน้าเล็กลงต่างหาก

ผิวช่วงนั้นยังรู้สึกอักเสบเล็กๆ กดจะช้ำๆมันส์ๆ 555

 

 

เคล็ดลับในการทำ ULTHERA ของเอิ๊กคุณหมอจะดีไซน์ให้โดนไขมันน้อยที่สุดในช่วงแก้ม

ดังนั้นทุกคนจะยังเห็นเอกลักษณ์แก้มของเอิ๊กที่เห็นเหมือนเดิมอยู่

มันจึงต้องมีจอให้เห็นว่าพลังงานมันต้องถึง

ต้องเห็นพลังงานตลอดว่าไปแตะจุดกล้ามเนื้อรึยัง ไม่ใช่ไขมัน

ที่เราควรให้มันอยู่ ผิวจะได้ยังดูเด็ก สดชื่น มีน้ำมีนวล

เพราะอยากให้เอิ๊กเก็บแก้มธรรมชาติไว้ให้ยาวนานที่สุด ❤️

จะจ่ายเงินทั้งทีมันต้องคุ้มเพราะมันแพง


 

8 ปีที่ดูแลผิวด้วยเทคโนโลยีความงามหลากหลายรูปแบบ แต่ยังเก็บเอกลักษณ์

และ ชะลอวัยไปในตัว รูปหน้าอาจจะหดลงตามวัย เราก็พยายามเก็บบางส่วนไว้ให้ดีที่สุด

ตามคนอื่นมากก็ไม่ดี ความสวยอยู่ที่เรามอง แต่ความแก่เราดูแลได้ 🙂

ปีไหนเริ่มห้อย เรามาเจอกันใหม่นะจ๊ะ ULTHERA พี่ละอยากได้ยาสลบตอนทำจริงๆ55

 

ข้อดี

เห็นผลเรื่องผิวยกชัดเจน กรอบหน้าละมุน ความคล้อย ห้อยหายไป

กระตุ้นคอลลาเจนบ้างเล็กน้อยที่พลังงาน 3

ถ้าเราทนพลังงานร้อนลึกๆได้ หน้าจะยกกว่านี้

มีงานวิจัยเพียบ

ไม่ต้องผ่าตัด สวยแบบละมุนธรรมชาติ

ผ่าน USFDA

มีจอให้เห็นว่าพลังงานลงจริง โดนจริง จ่ายจริง ได้จริงตลอดการทำ

 

ข้อด้อย

เจ็บจนร้องขอชีวิตสำหรับเรา

ความแม่นยำและเห็นผลชัดของเทคโนโลยีส่งผลให้ราคาสูง

 

 

 

ขอสรุปเป็นตารางในแบบประสบการณ์ตัวเองนะคะ

 

 

หวังว่าบล็อคนี้คงละเอียดพอให้กับคนที่ตัดสินใจอยู่ รู้ว่าเดินทางไหน

ไม่ก็ปรึกษาหมอค่ะ แต่เอิ๊ก อยากรู้เพื่อจะวางแผนของตัวเองและบอกเลย

พอได้ทำทั้งสองอัน เก็บผลมา 2 ปี มันเข้าใจกว่าที่เราฟังเยอะ

จึงแชร์แบบหมดเปลือกกับประสบการณ์ตรง

ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ และ บทความนี้จะสมบูรณ์แบบไม่ได้

ถ้าไม่มีบรรยายโดย ศาสตราจารย์นายแพทย์ วรพงษ์  ที่นำงานวิจัย

มาเผยแพร่ เพื่อเป็นแรงบันดาลใจ และ

รองศาสตราจารย์แพทย์หญิงรังสิมา ที่ดูแล และ นั่งอธิบายทุกเทคโนโลยี

รวมถึงอัพเดทงานวิจัยความรู้ใหม่ๆให้เอิ๊กได้ติดตามและนำมาถ่ายทอดเสมอ

ขอบพระคุณคุณหมอ และ ขอบพระคุณ ISKYCENTER มากๆค่ะ

 

 

ข้อมูลทั้งหมดถือเป็นลิขสิทธิ์ของ www.erk-erk.com แต่เพียงผู้เดียว

เอิ๊กเรียบเรียงและเขียนเองทั้งหมดอนุญาตให้แชร์เนื้อหาผ่านจากเว็บโดยตรง

และ ขอความกรุณา ไม่คัดลอก ทำซ้ำ ดัดแปลง แก้ไข ข้อความส่วนใดทั้งสิ้นค่ะ

วัน

Posted in BEAUTY TECHNOLOGY, FACE, RADIO FREQUENCY, SKIN, THERMAGE, ULTRASOUNDComments (0)

Protected: ปลูกผม THEME DERMATOLOGIC CLINIC

This content is password protected. To view it please enter your password below:

Posted in BEAUTY TECHNOLOGY, HAIREnter your password to view comments.

เลเซอร์ที่เกาหลี THEME Dermatologic Clinic ย่านกังนัม

 

 

 

 

 

” มาครั้งเดียวรักษาได้ทุกอย่างพร้อมกัน เห็นผลเร็ว ชัดเจน “

นี่คือคอนเซ็ปต์สั้นๆ ง่ายๆหลังจากที่เอิ๊กได้คุยกับคุณหมอ LEE HAK KYU

คุณหมอผิวหนังที่มีชื่อเสียงมากกว่าสิบปีในย่านกังนัม

แห่ง THEME DERMATOLOGY CLINIC อีกหนึ่งส่วนที่ STMSTYLE

ให้บริการในเรื่องการดูแลผิวพรรณโดยเฉพาะ

คำถามเอิ๊ก คือ ทำไมถึงชอบรักษาทั้งหมดในเวลาเดียวกันแบบครั้งเดียว

คุณหมอบอกว่า ” ลูกค้าต่างชาติเยอะ มาทีก็อยากดูแลให้หมด

เห็นผลเร็วชัดเจนกลับไป HAPPY ”

จากความสงสัยของเอิ๊กที่ได้ถามไปนั้น สงสัยมาก เพราะเมืองไทยนิยมรักษาให้

หายทีละอย่าง อีกคำถามคือ เขามาทำอะไรกันส่วนมาก

” ขาวใสไร้สิวฝ้า หน้าตึงกระชับธรรมชาติดูอ่อนเยาว์ “

นั่นเป็นคำตอบช่วงแรกที่เอิ๊กได้ถามคุณหมอไปค่ะ

THEME DERMATOLOGY CLINIC  ให้บริการผิวหนังด้านใดบ้าง

  • Whitening Laser (เลเซอร์ผิวขาว)
  • เลเซอร์หน้าใส
  • เลเซอร์ปรับสีผิวและสภาพผิว
  • เลเซอร์กระชับรูขุมขนและยกกระชับหน้า
  • เลเซอร์สิว, รอยแผลเป็นจากสิว, ฝ้า
  • Multi Laser มาครั้งเดียวทุกปัญหา

โดยเครื่องมือเลเซอร์ผ่านการรับรองFDAและวิจัยมาตรฐานสากล เหมือนศูนย์เลเซอร์ไทยที่ถูกต้องและได้มาตราฐานหลายๆตัว เอิ๊กไปดูแล้วมีหลายตัวที่นิยมและใช้เหมือนกันต่างกันแค่ตรงมาทีเดียว พยายาม จบทุกปัญหาให้หมด ในเวลาไม่นาน ครั้งเดียวอาจได้ผลเท่านี้ ก็มาซ้ำให้ครบทุกปัญหาอีกไม่กี่รอบก็จะดีขึ้น จนถึงหาย

นี่คือเครื่องเลเซอร์บางส่วนที่เขาใช้ จะบอกว่าเยอะมาก ห้องนึงเห็นหลายตัวอยู่ในห้อง

เดียวกันเลยจนแทบเต็มพื้นที่มีแค่เตียงนอนและที่หมอยืนหรือนั่งยิงเลเซอร์

บรรยากาศของที่นี่

บทสัมภาษณ์คุณหมอผิวหนัง LEE HAK KYU 


รูปแบบการรักษาของ THEME DERMATOLOGY CLINIC 

จุดเด่น คือ ถ้าคนนึงที่เข้ามารักษาผิว เขาจะไม่มารักษาเป็นอย่างๆ เช่น รักษาสิว รักษาฝ้า ทีละอย่าง แต่แพทย์จะเป็นคนดูปัญหาโดยรวมๆ ที่เป็นปัญหาผิวปัจจุบันทั้งหมด แล้วแพทย์จะประเมินเพื่อทำการรักษาทุกอย่างไปพร้อมๆ กันในครั้งเดียวที่มา เพื่อทำให้ผิวพรรณดูดีขึ้นไปเลยทีเดียว ไม่ใช่มารักษาทีละอย่าง หรือ รักษาปัญหานี้เสร็จหายดีก่อน ค่อยรักษาอีกปัญหานึง เช่น ถ้ารักษาสิว ก็รักษาไปเรื่อยๆ พอสิวหายก็ต้องกลับมาพบหมอใหม่และบอกหมอว่ามีรอยด่างดำด้วย รูปแบบการรักษาจึงเป็นแบบผสมผสานทุกอย่างเข้าไว้ด้วยกัน พร้อมกัน และการรักษาต้องเห็นผลรวดเร็วชัดเจนด้วย

THEME DERMATOLOGY CLINIC เปิดบริการมากี่ปี

13 ปี

อุปกรณ์มีครบทุกปัญหาผิวพรรณไหมคะ เพราะบางครั้งไม่ครบ เช่นถ้ามีหลายสาขาก็ลากเครื่องไปมาระหว่างสาขา

จากการที่เปิดมานานกว่าสิบปี ที่นี่มีให้บริการทุกปัญหา และ เครื่องพร้อมที่นี่ ไม่ต้องลากไปลากมา

ที่บอกว่าสามารถเห็นผลได้ค่อนข้างชัดเจน และ ไว ทำไมถึงทำการรักษารูปแบบนี้

เนื่องจากว่าที่นี่ มีลูกค้าเกาหลีเป็นปกติที่อยู่ที่นี่พวกเขาก็อาจจะมีเวลาที่จะเข้ามารับการบริการหรือการรักษาได้บ่อยๆ แต่ที่นี่ก็มีลูกค้าต่างชาติเยอะทั้งจากเอเชียเอง ประเทศใกล้เคียง หรือ ทางฝั่งตะวันตกเอง ซึ่งในกรณีที่เป็นลูกค้าต่างชาติอาจจะมีเวลาที่สั้นและกระชับเพื่อรับการรักษา ทางทีมแพทย์จึงพัฒนาวิธีการและเทคนิคในการใช้เลเซอร์หลายๆ อย่างเข้ามาประกอบกัน เข้ามาร่วมกันในการรักษา เพื่อทำให้เวลาในการรักษามันสั้นลงและก็เห็นผลเร็วขึ้น นี่ก็เลยเป็นเหตุผลพิเศษว่าทำไมจึงนิยมรักษาครั้งเดียวทุกปัญหา และ ต้องเห็นผลไว ชัดเจนเพื่อบริการให้ลูกค้าต่างประเทศนั่นเอง

ที่นี่มีบริการทางด้านเลเซอร์ผิวพรรณอะไรบ้าง

ก็คือที่นี่จริงๆ แล้วก็จะมีบริการที่เรียกว่าแบ่งออกเป็นสองส่วนชัดๆ ก็คือด้านรักษาผิวพรรณแล้วก็เป็นด้านของผม ในส่วนของผิวพรรณหลักๆ เลยก็จะเป็นลักษณะในส่วนของฉีดผิวขาว ทำให้ผิวขาวขึ้น แล้วส่วนที่สองก็จะเป็นเรื่องของการลดเลือนริ้วรอยเป็นหลักๆ นะคะในส่วนอีกส่วนที่แบ่งออกมาก็คือ จะเป็นในส่วนของเส้นผมที่จะดูแลในเรื่องผมร่วงและก็ปัญหาเส้นผมต่างๆ ค่ะ ซึ่งก็จะมีการใช้เลเซอร์ชนิดต่างๆ อย่างเช่นผิวขาวก็จะเป็นเลเซอร์ชนิดนึง แต่ถ้าเป็นริ้วรอยก็อาจจะเป็นในลักษณะของลิฟติ้ง ก็อาจจะเป็นเลเซอร์ในส่วนของยูเทร่าอะไรก็แล้วแต่ใช้หลายๆ อย่างผสมกัน

แพทย์ที่นี่มีกี่ท่าน จบเฉพาะทางไหมคะ เพราะคนไทยเลือกแพทย์เฉพาะทาง เนื่องจากความปลอดภัยและประสบการณ์

ประมาณ 5 ท่าน พนักงานประมาณ 40 ท่าน จะมีเป็นแพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนัง สองท่าน แล้วที่เหลืออีกสามท่านจะเป็นแพทย์ที่ทำด้านศัลยกรรมความสวยความงามเพราะว่าที่นี่ก็มีส่วนศัลยกรรมอีกอย่างคือศัลยกรรมปลูกผม

บริการยอดนิยมของคนเกาหลีที่นี่คือ

ริ้วรอยหรือการฉีดผิวขาว แม้ว่าคนเกาหลีจะดูขาวอยู่แล้วแต่คนที่อยากขาวขึ้นก็มี ส่วนมากคนที่รักษาจะเป็นผู้หญิงซะมากกว่า ขาวใสก็อาจจะเป็นปัญหาหลังจากเป็นสิวเพราะว่าคนที่เป็นสิวมากๆ สิ่งที่ตามมาคือริ้วรอย รอยแผลเป็น หรือบางคนก็อาจจะเป็นในเรื่องกระ เรื่องฝ้า แต่ตอนนี้ ณ ปัจจุบันที่ฮิตสุดที่นี่คือจะเป็นเรื่องของผมเพราะว่าปัญหาในเรื่องของหัวล้านตรงนี้เป็นอะไรที่กำลังเป็นปัญหามากของประเทศเกาหลี เพราะฉะนั้นคนก็มารักษาเรื่องผมเยอะมากเหมือนกัน

ปัญหาผิวที่ยาก ที่เคยรักษา

ก็คือจริงๆ ถ้าพูดถึงปัญหาผิวตอนนี้มันมีเยอะมากจริงๆ และไม่ใช่ทุกปัญหาจะสามารถแก้ไขได้ แต่อย่างปัญหาง่ายๆ อย่าง สิวหรืออะไรแบบนี้แน่นอนใครๆ ก็รักษาได้ แต่ถ้าพูดถึงปัญหาที่มันยากๆ มันก็มีหลายอย่างเหมือนกัน มีเยอะเลยแต่ไม่ใช่ทุกอย่างจะแก้ไขได้ บางอย่างแก้ได้บางอย่างแก้ไม่ได้ แต่แพทย์ที่นี่ก็จะพัฒนาเทคนิคต่อไปเรื่อยๆ เพื่อให้วันนึงสามารถดูแลทุกปัญหาให้เต็มที่และเห็นผลดีมากที่สุด เช่น เรื่องของการปลูกผมเป็นต้นก็พัฒนาเทคนิคจนกระทั่งใช้วิธีมีการเอาผมตัวเองกลับมาปลูกได้ มีการตัดจากด้านหลังศีรษะเองแล้วก็เอามาปลูกด้านหน้า โดยปลูกด้วยรากผม ก็ต้องคุยกันตรงๆว่าก็ยังมีปัญหาผิวหลายอย่างที่ยังแก้ไขไม่ได้

เลเซอร์ทำให้ผิวบาง ผิวแห้ง มีฝ้า กระ ขึ้นจริงหรือเปล่า

ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับเรื่องทำเลเซอร์มีอยู่เยอะเลย เช่น ถามว่าทำเลเซอร์ทำให้ผิวบางจริงมั้ย ถ้าทำอย่างถูกต้องเรื่องทำให้ผิวบางลง ไม่จริง อย่างคนที่มารักษาริ้วรอยเขาก็มารักษาแค่เฉพาะริ้วรอยด้านบนไม่ได้กระทบกระเทือนต่อความหนาของชั้นผิวเพราะยังไงผิวก็ไม่ได้บางลงไปกว่าเดิม แต่ถ้าสมมติเจอกรณีที่ใช้วิธีการทำที่ผิดพลาดก็อาจจะทำให้ผิวบางลงได้ หรืออย่างอาทิเช่น  อาจจะทำแล้วมีรอยดำขึ้นมาชั่วคราวก็เป็นเรื่องที่เป็นไปได้

ผิวไวแสงขึ้นจริงมั้ยคะ เห็นเขาบอกว่าหลังทำเลเซอร์ต้องกันแดดเยอะถ้าโดนแดดฝ้ากระจะมาขึ้นเร็วกว่าเดิม

เลเซอร์ที่ช่วยกรอผิว ขัดลอกเซลล์ผิวที่ตายแล้วก็อาจจะไม่ถึงกับไวแสงมากนัก แต่ทางที่ดีก็คือเวลาที่ออกแสงแดดการลงครีมกันแดดเป็นเรื่องที่ดีที่สุดที่จะทำได้แต่เนื่องจากเลเซอร์จริงๆ แล้วไม่ใช่แค่กรอผิวด้านบนออก กรอผิวออกส่วนบนแต่ก็มีการสร้างเซลล์ผิวใหม่ขึ้นมาด้วยเพราะฉะนั้นมันจะขึ้นมาทดแทนผิวเดิมได้ ดีที่สุดเวลาที่ออกแดดก็ทาครีมกันแดดกันไว้ด้วย

 

 

 

 

 

การบริการด้านผิวพรรณมีอะไรบ้าง

วิธีทำให้ผิวขาวใส

  • ฉีดผิวขาว
  • ทานอาหารเสริม หรือ ยาที่มีส่วนทำให้เม็ดสีเข้มอ่อนลง
  • เลเซอร์ IPL และ การฉายแสง
  • การทำทรีทเมนท์ , มาส์ค

เอิ๊กทำทรีทเมนท์หน้าชุ่มชื่น ขาวเด้งอยู่ฮะ ชุดคนไข้สีชมพู เตียงเขียว ><

โดยทุกอย่างจะอยู่ในการดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อความปลอดภัยของผู้เข้ามารับบริการ

 

การรักษาสิว รอยแผลเป็นจากสิว และ ฝ้า

  • Kobayashi Laser 

ทำลายต่อมไขมันที่ผลิตไขมันมากจนเกินไปใต้ผิว ทำให้สามารถแก้ไขปัญหาเรื่องสิวหัวดำได้ และทำให้รูขุมขนกระชับขึ้นได้ แต่ทั้งนี้รูขุมขนจะกระชับหรือไม่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละคนด้วย ซึ่งตามหลักแล้วหากต่อมไขมันผลิตน้ำมันได้น้อยลง ก็จะทำให้รูขุมขนนั้นไม่กว้างขึ้นตามไปด้วย

 

ระยะเวลาในการรักษา และ จำนวนครั้งในการรักษา

ขึ้นกับสภาพผิวของแต่ละคน แต่โดยปกติการรักษาสิวจะทำการรักษาประมาณ 1-2 ครั้งต่อเดือน และ การกระชับรูขุมชนนั้นจะทำการรักษา 4-5 ครั้งต่อเดือน

 

  • Skin Scaling (การขัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว)

 

กรณีที่สิวอุดตันแพร่กระจายจนทำให้ใบหน้าไม่เรียบเนียน อาจรักษาได้ด้วยเทคนิคการลอกผิวนี้ การรักษาทำได้โดยการใช้ยาทางเคมี เพื่อลอก และผลัดเซลล์ผิว และเปิดรูขุมขนที่อุดตันออก เพื่อทำให้ผิวที่อักเสบจากการเกิดสิวนั้น สามารถดูดซึมสารอาหารจากยาได้เพิ่มขึ้น หลังจากเข้ารับการรักษาด้วยวิธีนี้แล้ว ผิวก็จะทำการผลัดใหม่ ส่วนที่เคยเป็นสิว อาจจะมีรอยแผลเป็นหลงเหลืออยู่บ้าง แต่เมื่อเวลาผ่านไปก็จะลอกออก และจางหายไปเอง  การรักษาวิธีนี้ค่อนข้างสะดวก เพราะสามารถล้างหน้า หรือแต่งหน้าได้ทันที ทำให้ปัญหาผิวหน้าที่เคยเป็นอุปสรรคต่อการดำเนินชีวิตหมดไป โดยส่วนตัวคิดว่าอาจเหมาะกับคนผิวมันมากกว่าผิวแห้ง

ขั้นตอนในการรักษา

ขั้นที่ 1    หลังจากทำความสะอาดผิวอย่างล้ำลึกด้วยคลีนซิ่งแล้ว ก็จะทำการขัดผิวก่อน

ขั้นที่ 2    เพื่อให้การลอกผิวมีประสิทธิภาพมากขึ้น ก็จะลงด้วยโลชั่นที่ทำให้สภาพผิวหน้านั้นแห้งลง

ขั้นที่ 3    หลังจากทำการขัดผิวหน้าทั้งหมด อาจจะรู้สึกเจ็บอยู่บ้าง จะใช้เวลาขั้นตอนนี้เพียงแค่ 30 วินาทีเท่านั้น

ขั้นที่ 4    ประคบด้วยถุงน้ำแข็ง เพื่อลดอาการปวด และความร้อนจากการขัดผิวขั้นที่ 5    เผื่อลดอาการผื่นแดง ให้ประคบด้วยน้ำแข็งทุกๆ 15 นาที และให้ผิวได้ดูดซึมสารอาหารผ่านสกินมาสเตอร์

ขั้นที่ 6    เพื่อฟื้นฟูผิวหน้า หลังจากนั้นอีก 15 นาทีจะทำการมาร์คผิวหน้าด้วยวิตามิน และฉายเลเซอร์ฮีเลียม นีออนอีกครั้งหนึ่ง

ขั้นที่ 7    หลังจากนั้นจึงลงครีมที่ช่วยฟื้นฟูผิว ซึ่งจะแตกต่างกันออกไปตามสภาพผิวแต่ละคน สุดท้ายลงครีมกันแดดอีกครั้งหนึ่ง

ก่อน และ หลังการรักษาด้วยการขัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว

  • New Smooth Beam

เลเซอร์นี้จะไปทำลายที่ต่อมไขมันในชั้นผิวโดยตรง ซึ่งเป็นตัวการของการเกิดสิว จะทำการควบคุม และจัดการต่อมไขมันให้ขับไขมันออกมาในระดับที่พอเหมาะ แรกเริ่มจะทำให้ผิวในชั้นหนังกำพร้านั้นอยู่ในสภาพที่เย็นจัดที่สุดด้วยเทคโนโลยี DCD จากนั้นจึงทำการกระตุ้นต่อมไขมันในชั้นหนังกำพร้า และเร่งให้เกิดการผลิตคอลลาเจนในเส้นใยอีลาสติกให้มีความยืดหยุ่นขึ้น ผลลัพธ์คือจะทำให้ต่อมไขมันถูกทำลาย และเกิดการผลิตคอลลาเจนเพิ่มขึ้น ทำให้มีประสิทธิภาพในการรักษาปัญหาผิวหน้าทั้งจากสิว รอยแผลเป็น หรือริ้วรอยต่างๆ ได้เป็นอย่างดีการรักษาปัญหาผิวหน้าด้วยเลเซอร์ชนิดนี้ ได้รับการยอมรับว่ามีประสิทธิภาพยอดเยี่ยมที่สุด ไม่แพ้การรักษาด้วยเลเซอร์ชนิดอื่นๆ จาก FDA การรักษาด้วยเลเซอร์ชนิดนี้จะช่วยลดการเกิดสิวขึ้นอีก ควบคุมต่อมไขมันที่เป็นต้นเหตุของการเกิดสิวในระยะยาว หลังจากการรักษาแล้ว สามารถฟื้นฟูสภาพผิวหน้าได้อย่างรวดเร็ว จึงทำให้สามารถล้างหน้า หรือแต่งหน้าได้ตามปกติ หากรักษาด้วย New Smooth Beam นี้ควบคู่ไปกับเลเซอร์อื่นๆ อย่าง Fraxel Laser และ Affirm Laser ไปพร้อมๆกัน ก็จะทำให้ประสิทธิภาพในการรักษาสูงขึ้น เห็นผลได้อย่างชัดเจนมากขึ้น

 

 

  • V-Beam Laser

การปล่อยแสงเลเซอร์ไปที่เส้นเลือดในระยะเวลาสั้นๆ บริเวณที่ต้องการรักษา เป็นการรักษาแบบเลเซอร์ที่เหมาะกับการรักษาพวกรอยแผลแดง รอยฟกช้ำต่างๆ ได้เป็นอย่างดี  พลังงานดังกล่าวจะถูกดูดซึมเข้าไปในเลือด และเกาะอยู่ตามผนังเส้นเลือด แต่จะไม่ส่งผลหรือเป็นอันตรายใดๆ ต่อร่างกาย และไม่ทำให้ผิวบริเวณที่ถูกเลเซอร์นั้นได้รับผลกระทบแต่อย่างใด เป็นการรักษาที่เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาเส้นเลือดโป่งพอง ไฝ ปานแต่กำเนิด รอยแผลนูน และรอยแผลเป็นแดงต่างๆ

 

 

เลเซอร์กระชับรูขุมขนและยกกระชับหน้า 

  • Affirm Laser 

เลเซอร์ในการรักษาผิวชนิดหนึ่ง โดยการใช้  Cap Technology ซึ่งการฉายแสงแต่ละครั้ง จะทำการสร้างอณูเล็กๆ ขึ้นที่ผิวหน้าบริเวณที่ฉายแสงกว่า 1,000 แห่ง เพื่อไปกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนขึ้นในผิว ช่วยในการการกระชับรูขุมยกกระชับใบหน้า รักษาริ้วรอย และรอยแผลเป็นต่างๆ ได้ ช่วยรักษาสิว รอยแผลเป็น รอยแผลไฟลวก โรคจากเม็ดสีผิว กระชับรูขุมขน ริ้วรอย และผิวที่หยาบกร้าน ช่วยให้เกิดการผลิตคอลลาเจนขึ้นใหม่ใต้ผิว ส่งผลให้พวกรอยแผลต่างๆ ลดลงอย่างเห็นได้ชัด สามารถรักษาให้หายขาดได้แม้ทำการรักษาแค่ครั้งเดียว ไม่จำเป็นต้องทำการรักษาหลายรอบเช่นการรักษาในแบบอื่นๆ  นอกจากนี้ ยังไม่มีอาการเจ็บปวดจากการรักษามากนัก และผิวยังสามารถฟื้นฟูได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย จำนวนครั้งที่จำเป็นต้องเข้ารับการรักษานั้น อาจจะขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละคนด้วย แต่โดยปกติ ก็จะเห็นผลได้ตั้งแต่การรักษาเพียงครั้งแรกแล้ว ส่วนการรักษาพวกรอยแผล และริ้วรอยต่างๆ นั้นจำเป็นต้องทำการรักษาประมาณ 3-5 ครั้ง (ใช้เวลาประมาณ 3-4 สัปดาห์) จึงจะเห็นผล และหายเป็นปกติ

ก่อน และหลังการทำเลเซอร์กระชับรูขุมขนแบบ Affirm Laser

 

  • CO2 Fractional 

 เทคโนโลยีกระชับรูขุมขน และ ยกกระชับใบหน้าที่ใช้หลักการทำงานของคลื่นความถี่สูง และเลเซอร์ IR ร่วมกัน แทบจะไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดเลย ช่วยกระตุ้นให้ให้ผิวนั้นสร้างสารอย่างคอลลาเจนขึ้นใหม่

  • G-Beam

ช่วยยกกระชับใบหน้า ลดเลือนริ้วรอย กระชับรูขุมขน ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวหนัง ให้ผิวหน้าดูเนียนเรียบ โดยการฉายแสงเลเซอร์เพื่อรักษาผิวหน้าประเภทหนึ่ง โดยการใช้ก๊าซที่เย็นเป็นพิเศษอย่าง DCD ของเลเซอร์ Candela ลงไปที่ผิว เพื่อทำให้ผิวอยู่ในสภาพเย็นจัดอยู่ระยะหนึ่ง จากนั้นจึงฉายเลเซอร์ที่มีความร้อนลงไปรักษาผิวในชั้นหนังกำพร้า แล้วสุดท้ายจึงลงเลเซอร์ G-Beam ขึ้นลงอย่างต่อเนื่อง (เป็นหนึ่งในเลเซอร์ Nd:YAG ประเภทหนึ่ง) จะไปช่วยกระตุ้นอุณหภูมิของผิวหนังในชั้นหนังแท้ให้เพิ่มสูงขึ้น  ซึ่งเมื่ออุณหภูมิในผิวหนังชั้นนี้สูงขึ้นแล้ว ก็จะช่วยกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนขึ้นใหม่ ทำให้ริ้วรอยต่างๆ ดูจางลง ช่วยยกกระชับผิวหน้าที่หย่อนคล้อย กระชับรูขุมขน และทำให้รอยแผลเป็นจากสิวดูจางลง อีกทั้งยังมีประสิทธิภาพในการรักษาเกี่ยวกับโรคที่เกิดจากเม็ดสีผิว ขี้แมลงวัน และกระต่างๆ ได้ด้วย หลังจากทำการรักษาด้วยเลเซอร์ชนิดนี้แล้ว ผิวจะสดใส เต่งตึง และยกกระชับหน้าขึ้นอย่างเห็นได้ชัด นับว่าเป็นวิธีกระชับรูขุมขนและยกระชับหน้าได้เป็นอย่างดี ใช้เวลาเพียงครู่เดียวเท่านั้น และเห็นผลได้ในทันที ไม่มีแม้แต่ความเจ็บปวด หรือรอยแผลเป็น หรือสะเก็ดแผลใดๆ หลงเหลือ สามารถล้างหน้า หรือแต่งหน้าได้ในทันที  โดยปกติการรักษาด้วยวิธีนี้จะใช้เวลา สองถึงสี่สัปดาห์ ประมาณ 3-5 ครั้ง และในแต่ละครั้งจะใช้เวลาเพียง 10-20 นาที ส่วนจำนวนครั้งที่ต้องเข้ารับการรักษานั้นจะขึ้นอยู่กับสภาพผิวของผู้เข้ารับการรักษาแต่ละท่านด้วย แต่หากหลังการรักษายังผิวนั้นมีลักษณะบวม หรือแดงขึ้น นั่นก็เป็นเพราะว่าคอลลาเจนที่อยู่ใต้ผิวนั้นกำลังฟื้นฟูอยู่ เมื่อเวลาผ่านไป อาการดังกล่าวก็จะหายไป และกลับเป็นปกติเช่นเดิม

  • Relax F 

การยกกระชับผิวหน้าด้วยโดยจะเจาะเข้าไปในชั้นผิว แล้วทำการปรับสภาพผิวชั้นหนังกำพร้า โดยจะถ่ายทอดพลังงานความร้อนที่มีความถี่สูงลงไปสู่ผิวชั้นหนังแท้ ทำให้ผิวหนังชั้นหนังกำพร้าสามารถรักษาความเย็นเอาไว้ได้ ส่งผลให้คอลลาเจนในผิวเกิดการหดตัว และเมื่อเวลาผ่านไป ก็จะไปกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ ทำให้ผิวพรรณสดใสขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

 

 

เลเซอร์ปรับสีผิวและสภาพผิว

  • ไฝ
  • กระ
  • ขี้แมลงวัน
  • ฝ้า
  • ปาน
  • จุดสีน้ำตาลตามผิวต่างๆ

 

  • C6 Laser Toning

เลเซอร์ชนิดนี้เป็นการพัฒนาประสิทธิภาพเดิมของแนวคิด Q-Switch ในนวัตกรรมเลเซอร์แบบ Nd:YAG ขึ้น โดยการทำ Laser Toning เช่นนี้แพทย์จะทำการฉายเลเซอร์ลงไปยังโครงสร้างผิวโดยตรงเพียงแค่ครู่เดียวเท่านั้น ทำให้ผิวนั้นไม่ได้รับความเสียหาย และเกิดรอยแผลเป็นใดๆ มีประสิทธิภาพในการรักษาโรคที่เกี่ยวกับเม็ดสีผิวต่างๆ สิว หรือรอยแผลเป็นต่างๆ ได้เป็นอย่างดีโดยจะตรงเข้าไปทำลายเซลล์เม็ดสีผิวที่มีปัญหา และกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนขึ้นในผิวใหม่อีกครั้ง เป็นเลเซอร์ที่รวมทุกเทคโนโลยีที่ใช้ในการรักษาปัญหาผิวต่างๆ ทั้งกระชับรูขุมขน ลอกผิว หรือโทนนิ่งเอาไว้ในขั้นตอนเดียว แสงเลเซอร์ชนิดนี้จะตรงเข้าทำลายเซลล์ผิวที่มีปัญหาที่ชั้นล่าง ทำให้มีประสิทธิภาพสูงแม้เป็นการรักษารอยฝ้า หรือกระที่มีสาเหตุมาจากเม็ดสีผิวชั้นล่างก็ตาม

  • IPL

รักษาโรคเกี่ยวกับเส้นเลือด เม็ดสีผิว หรือรูขุมขนที่ขยายตัวออกมามากจนเกินไป 

  • MESOTHERAPY

เป็นการรักษาด้วยการฉีดสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อผิวเช่น ไวท์เทนนิ่ง หรือวิตามินต่างๆ เข้าสู่ชั้นหนังแท้โดยตรง นอกจากจะช่วยให้ผิวขาวขึ้นแล้ว ยังช่วยให้ริ้วรอย หรือปัญหาผิวอื่นๆ ลดลงได้อีกด้วย

  • Q-Switch Nd:Yag Laser

เลเซอร์ชนิดนี้จะเข้าไปทำลายเม็ดสีผิวที่มีปัญหาเท่านั้น ที่เกี่ยวกับเม็ดสีผิว และใช้เวลาในการรักษาสั้นมาก

  • การรักษาด้วยประจุไฟฟ้า

เป็นการใช้เทคโนโลยีประจุไฟฟ้าที่เป็นศูนย์มาช่วยให้ผิวสามารถดูดซึมวิตามินซีได้สูงขึ้น โดยประจุนี้จะแทรกซึมเข้าไปได้ลึกถึงเม็ดสีผิวที่อยู่ในชั้นหนังแท้ และจะช่วยขจัดเซลล์ผิวที่มีปัญหาออกไป มีประสิทธิภาพในการรักษาฝ้า และกระที่เกิดจากชั้นหนังแท้มีปัญหาซึ่งรักษาได้ยากได้เป็นอย่างดี

  • Oxy Jet

เพิ่มออกซิเจนให้แก่ผิว ทำให้ผิวแข็งแรงมากขึ้น โดยการขัดผิวด้วยการพ่นผงคริสตัลละเอียด นอกจากจะทำให้ริ้วรอย รอยเหี่ยวย่น รอยแผล หรือปัญหาผิวอื่นๆ ลดลง และจางไป

  • Skin Scaling

ใช้ในการรักษาผิวที่แห้ง และปัญหาผิวอื่นๆ หลังการรักษาด้วยวิธีนี้ ผิวที่เคยเป็นจุดด่างดำต่างๆ จะค่อยๆ ใสขึ้น รวมทั้งริ้วรอยต่างๆ บริเวณรอบปาก ดวงตา และรอยแผลเป็นจากสิวต่างๆ ก็จะหายไปด้วย

 

เลเซอร์หน้าใสแบบ MULTI-LASER

การใช้เลเซอร์เฉพาะทางหลายๆตัวช่วยแก้ไขปัญหาผิวหน้าโดยรวม ได้แก่ การผลัดเซลล์ผิวหน้าให้ขาวใส การลดจุดด่างดำ กระชับรูขุมขน และยกกระชับหน้า การใช้เลเซอร์โดยรวมกว่า 7 ประเภทจะช่วยให้สามารถแก้ไขปัญหาผิวหน้าและฟื้นฟูผิวหน้าให้ดีขึ้นได้ภายในครั้งเดียว
ข้อดี
  • สามารถรักษาปัญหาผิวพรรณทุกปัญหาได้พร้อมกันจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
  • ได้มาตรฐานการรับรองทั้งแพทย์ และ เครื่องมือ
  • คุณหมอสามารถสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษ 
ข้อเสีย
  • ค่าใช้จ่ายสูงมากกรณีบินไปทำ และ อาจต้องไปซ้ำ กับ บางปัญหาที่ไม่ได้หายในครั้งเดียว
ข้อแนะนำ
  • ไม่ใช่ทุกปัญหาจะได้รับการแก้ไขได้ทั้งหมด บางปัญหาหาย บางปัญหาดีขึ้น บางปัญหาต้องใช้เวลา
  • สิ่งสำคัญคือ การดูแลตัวเองหลังการทำเลเซอร์ เช่น การหลบแสงแดด และ ทาครีมกันแดดเป็นประจำ
  • ต้องแจ้งประวัติการใช้ยา และ การดูแลผิวหน้าอย่างละเอียด รวมถึงประวัติและเทคโนโลยีการรักษาที่ผ่านมา

 

เอิ๊กได้ลองรักษาโดยฉายแสงให้หน้าขาวใส ทรีทเมนท์มาร์ค เลเซอร์VBEAM 3 อย่าง

ออกมาเป็นอย่างที่เห็น

ชุ่มชื่น หน้าขาวเด้งดี รูปนี้ประมาณ มีนาคม 2556

 

ข้อมูลทั้งหมดถือเป็นลิขสิทธิ์ของ www.erk-erk.com แต่เพียงผู้เดียว ซึ่งเอิ๊กเรียบเรียงและเขียนเองทั้งหมดอนุญาตให้เผยแพร่ต่อได้โดยให้เกียรติลงเครดิต และขอความกรุณาคนไทยด้วยกันไม่ดัดแปลง แก้ไข ข้อความส่วนใดทั้งสิ้นนะคะ กราบขอบพระคุณล่วงหน้า ตั้งใจทำมาก อยากให้คนไทยที่มีความคิดที่จะทำศัลยกรรมได้อ่านอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจ ทำให้เข้าใจง่าย ใส่ความคิดตัวเองลงไปบ้าง ภาษาส่วนตัวตัวเอง แต่ไม่เปลี่ยนแปลงความจริงที่เกิดขึ้น

ที่มาส่วนประกอบข้อมูล รูปภาพ

บทสัมภาษณ์คุณหมอ LEE HAK KYU โดยเอิ๊กเป็นผู้สัมภาษณ์

บทความที่นำมาดัดแปลงจาก STMSTYLE.COM

ประสบการณ์จากการทำเลเซอร์ ทรีทเมนท์ส่วนตัว จากประสบการณ์จริง

 

Posted in BEAUTY TECHNOLOGY, SKINComments (0)

ISKYCENTER สาขา 3 THE COAST บางนา

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

พาทัวร์ ISKYCENTER สาขา 3 THE COAST บางนา ที่เน้นในเรื่องการทำ 

BODY TREATMENT เป็นหลัก ส่วนที่นี่จะมีอะไรบ้างวันนี้เอิ๊กจะพาทัวร์กันค่ะ

ถ้ามาจากรถไฟฟ้าจะง่ายลง BTS บางนา เดินย้อนมาที่ THE COAST และ ISKY หาง่ายมาก

จะอยู่ข้างสำนักงานคอนโด THE COAST เลย ส่วนตัวเอิ๊กว่ามุมนั่งรอของคนไข้อาจจะไม่เยอะ

และ ตอนกลางวันอาจจะร้อนมาก ทั้งพนักงานรวมถึงคนไข้เอง เนื่องจากทางด้านหน้าจะสู้กับ

แสงแดดที่ส่องลงมา

แต่พื้นที่ด้านในค่อนข้างกว้าง และ ลึก มีห้องTREATMENTหลายห้องรองรับคนไข้ที่มา

ใช้บริการได้หลายคนอยู่ ที่นี่ค่อนข้างบรรยากาศดีเงียบ และ สงบมาก ชอบที่อยู่ใกล้

ศูนย์กลางค้า THE COAST บางทีเดินมาทานอาหาร และ เข้าห้องน้ำได้ง่ายเพราะใน

ศูนย์อาจไม่มีห้องน้ำ

ที่นี่พึ่งเปิดตัวได้ไม่นาน ผู้จัดการสาขาแจ้งว่า เฟอร์นิเจอร์กำลังนำมาลงเพื่อรอเปิด

GRAND OPENING อย่างเป็นทางการปลายเดือนมกราคม และ แน่นอนเอิ๊ก

จะไปแสดงความยินดี กับ บ้านหลังที่2 สาขา 3 ของเอิ๊กแน่นอน 55555555555

เขายังไม่เชิญแค่รู้ว่ายังไงก็จะไปเป็นกำลังใจให้ศูนย์ ISKYCENTER ทุกสาขา

ในกรุงเทพเพื่อขอบคุณที่ดูแลเอิ๊กอย่างดีมาตลอด 3 ปีทั้งผิวหน้า รูปร่างรวมถึง

ส่วนเกินต่างๆ กราบขอบพระคุณมากค่ะ

เข้ามาถึงด้านหน้าเวลาเราเดินเข้าไปจะไปกรอกประวัติ หรือ สอบถามค่ารักษา

พยาบาลได้ก่อนล่วงหน้าที่นี่ค่ะ 

มาแล้วกรอกประวัติให้เรียบร้อย ที่ต้องเพิ่มสำหรับสาขานี้ คือ “น้ำหนัก และ ส่วนสูง”

 

ที่นี่จะมี BODY TREATMENT สำหรับการดูแลเรื่องส่วนเกิน ความหย่อนคล้อย ไม่กระชับ

การระบายของเสียของต่อมน้ำเหลือง หรือ อาการบวมน้ำ และ จะมี FACIAL TREATMENT

ที่มีคนใช้บริการเยอะ รวมถึงเลเซอร์แต่อาจต้องมีการนัดหมายก่อนล่วงหน้าสำหรับการ

ทำเลเซอร์ IPL หรือ เทคโนโลยีกระชับเช่น THERMAGE บนใบหน้า ฯลฯ

 ที่นี่จะมีจ่ายยาสำหรับผิวหนังปกตินะคะ แต่จะไม่มีครีมบำรุงผิวที่ปรุงสดพิเศษตามสภาพผิ

เหมือนว่าอนาคตอันใกล้มาก จะเป็นเรื่องของการทำระบบ NUTRITION จัดหมวดหมู่

สารอาหารที่เหมาะสมให้กับร่างกายเพื่อดูแลรูปร่างคุณหมอที่เอิ๊กอยากแนะนำให้พบ

เจอที่สุดที่ศูนย์นี้ในเรื่องแรงบันดาลใจการดูแลสุขภาพ คนแรกฝ่ายหญิง คุณหมอนุสรา

และ อีกท่าน คุณหมอ วรพงษ์ หรือ ศาสตราจารย์วรพงษ์ แต่เอิ๊กไม่แน่ใจว่าสองท่านเข้า

ที่นี่ไหม อาจจะต้องโทรสอบถามเพิ่มเติม เพราะทั้งสองท่านเอิ๊กได้รู้จักในอีกมุมในการ

ดูแลรูปร่าง และ สุขภาพตัวเอง เพราะคุณหมอสองคนชอบออกกำลังกาย ส่วนคุณหมอ

นุสรา ต้องให้นิยามว่า เป๊ะมากกกกกกกกก ดูแลอาหารการทาน + วินัยการ

ออกกำลังกาย ส่วนเรื่องเทคโนโลยีแน่นอนนาทีนี้ไม่มีใครเกิน รองศาสตราจารย์

รังสิมา เพราะว่าเธอลองเองมาทุกเทคโนโลยีก็จะทราบข้อดีข้อด้อยของแต่ละตัว

แบบลึกซึ้งมาก

หลังจากที่กรอกประวัติ เราก็จะถูกเรียกมาห้อง CONSULTATION ROOM มาพบ

แพทย์เพื่อที่แพทย์จะสอบถาม ถึงปัญหา และ การดำเนินชีวิตประจำวันเพื่อที่จะวางแผน

และ จัด TREATMENT ที่เหมาะสมให้ หรือ มาพบเพื่อปัญหาผิวหนัง เลเซอร์ก็ห้องนี้

เช่นกันค่ะ เนื่องจากเอิ๊กหามาทุกอย่างที่ตัวเองกังวล

ส่วนใหญ่เอิ๊กก็จะพบและให้แพทย์

ดูความคืบหน้าของ TREATMENT ที่เคยทำ หรือ ปัญหาผิวที่เกิด ส่วนใหญ่ สิว

รอยสิว ฝ้า มีแค่นั้นวนไปวนมา ถ้าส่วนรูปร่าง มีปัญหาหุ่นลูกแพร์ ก็จะให้คุณหมอ

ดูแลช่วงร่างให้สวยในสรีระที่เราทำได้ เพราะเราไม่สวย และ หุ่นช่วงล่างอวบมาก่อน

การตกแต่งเหมือน 2 สาขาแรกเลยโทนฟ้าขาวสว่าง โล่ง สบายตา และ

มีสีแดงเล็กๆ ที่โลโก้ป้ายไฟหน้าห้อง TREATMENT ทุกห้อง

ถ้าใครมีการทำอะไรบนใบหน้า หรือ ต้องล้างหน้าก็ต้องเชิญห้อง MAKEUP ROOM

อยากแนะนำให้เพิ่มไดร์ และ หวีเหมือนบางที และ อาจมีแป้งเด็กด้วย อิอิ เพราะบางที

ใส่หมวกคลุมผม ถอดออกจะไม่ได้ทรงเดิม มันเศร้ามาก จะได้ว่าศูนย์เลเซอร์ที่เกาหลีจะมีหวี

และ แป้งด้วย ^^

ที่นี่มีพิเศษคือ การเก็บภาพก่อนหลัง การทำเทคโนโลยีทุกตัวที่เกี่ยวกับ BODY

ถ้าใครทำเกี่ยวกับหน้า และ อยากถ่ายก็สามารถแจ้งได้ค่ะ จำเป็นมาก

เพื่อดูการเปลี่ยนแปลง

จะถ่ายทุกมุม 360 องศา บนพื้นหลังสีเดียวกัน มีการช่างน้ำหนักด้วย

และ คนไข้ในวันนี้จะเป็นใครไปไม่ได้ หลังจากดูแลผิวหน้าสาขาชิดลม และ หนองแขม

ก็เดินทางมาถึง ISKYCENTER สาขา 3 ต้องขอใช้บริการ BODY ซะหน่อย เห็นต้นขา

ของฉันไหม ……….. ผู้จัดการสาขานี้สวยเข้ม เฮฮา คุยสนุก 55555 คุณดาวจะดูแลเอิ๊ก

ตลอดเวลาเอิ๊กไป เพราะเอิ๊กจะเยอะ 555555 เยอะในเรื่องชอบถาม มีคำถามเยอะ

จำไมตลอดเวลา ดังนั้นคนตอบคำถามได้ดีสุดรองจากแพทย์ คือ ผู้จัดการสาขานะคะ

ก็ผลัดกันแลกเปลี่ยนข้อมูล เอิ๊กจะทำเทคโนโลยี ZELTIQ มาบ่อยมาก ซึ่งแพงและได้

ผลจริงในการฆ่าเซลล์ไขมันส่วนเกินสำหรับคนผอม หรือ อวบ แต่อ้วนอาจจะไม่เหมาะ

คุณดาวก็พึ่งลองเทคโนโลยี ULTRASONIC ไป ก็จะผลัดกันเล่าความเจ็บ และ เทียบ

ผลกัน เทคโนโลยีเลเซอร์ค่อนข้างแพงสำหรับ BODY หรือ แม้แต่ FACIAL เองในการ

เห็นผล แต่ที่แน่ๆ มีงานวิจัยรองรับทุกตัวที่เอิ๊กทำในเรื่องของผลลัพธ์ และ ไม่ใช่ทำจบ

ต้องดูแลตัวเองไปอีกตลอดชีวิตในเรื่องอาหาร และ ออกกำลังกายเพื่อสุขภาพค่ะ

 

ตัวอย่างห้อง BODY TREATMENT : MED2 เทคโนโลยีกระชับรูปร่างที่เอิ๊กเคยลอง

ผลซึ่งเห็นเลยทันทีหลังทำ เหมาะสำหรับคนน้ำเหลืองไม่ค่อยดี บวมน้ำช่วยให้ระบบภายใน

ไหลเวียนดีขึ้น แต่ถ้าให้กระชับ และ ไขมันมีขนาดเล็กลง 4-6 ครั้งน่าจะเห็นผล

ตัวนี้เสริทหาผลลัพธ์ใน GOOGLE ได้ค่ะ เคยลอง 3-4 ครั้ง แต่ก็คิดว่า

ชอบตัวอื่นที่ฆ่าไขมันไปเลยมากกว่า 55555 สำหรับเซลล์ลูไลท์ หน้าท้องย้วย

เครื่องนี้จัดการดีค่ะ

ตัวอย่างอีกห้อง กับเทคโนโลยี ULTRASOUND ฆ่าไขมันตัวล่าสุด ที่ปล่อยความร้อน

เป็นส่วน โดยมีงานวิจัยที่พุง 1 ครั้ง 1 นิ้ว แต่ก็มีข้อจำกัดสำหรับคนที่ชั้นไขมันต้องบีบออกมา

หนา 1 นิ้ว และ ไม่อ้วนนะจ๊ะ เอาไปว่าอ้วนมาก ออกกำลังกาย คุมอาหารให้ลงจนเหลือ

ส่วนเกิน ค่อยพึ่งเทคโนโลยี พูดจริงจัง จะได้ไม่เสียตังค์โดยใช่เหตุนะคะ เจ็บมากนะตัวนี้

ช้ำนานอยู่เป็นอาทิตย์ ข้อดีไม่มีแผลผ่าตัด แต่เอิ๊กไม่ลองเด็ดขาด ทนเจ็บไม่ไหว 😛

TRI LIPO : ใครแก้มเยอะ ไม่ชอบฉีดสารโดยที่ยังไม่ผ่านอย. อัญเชิญตัวนี้ ทำหลายครั้งอยู่

แต่ข้อดีที่ต่างคือ แก้ม และ หน้ากระชับ เพราะความร้อนไปกระตุ้นคอลลาเจน เอิ๊กลอง 2 ครั้ง

แต่ตัวเองมีปัญหาอาการบวมน้ำนี่สิ เลยคิดว่านวดหน้าด้วยเครื่องที่บ้านดีกวา

ปัญหามันอยู่ที่ร่างกายเราด้วยที่ระบบไหลเวียนของเหลวเราไม่ค่อย WORK ดังนั้น

เทคโนโลยีพวกฆ่าไขมัน กระชับอะไรถึงได้ผลบ้างบางวัน ไม่ได้บ้างบางวันเพราะตัวเราเอง

ส่วนเครื่องนี้เครื่องใหม่ ไม่เคยได้ทดสอบ ช่วยเรื่องการไหลเวียนของเหลวในร่างกาย

คุณหมอบอกว่ามาลองไหม ต้องใส่ชุดอวกาศ อิอิ แต่ทำหลายครั้งหน่อยก็อาจจะขอ

ศึกษาหลักการก่อน 🙂 ก็ทั้งหมดเป็นแค่เครื่องบางส่วนที่ไม่รวม FACIAL TREATMENT

พระเอกของที่นี่สำหรับเอิ๊ก คือ เจ้านี้ ตัววัดดัชนีมวลร่างกายที่แท้จริง เคยได้ยินไหม BMI วัดค่าหามวลไขมัน กล้ามเนื้อ น้ำในร่างกายที่ทุกสถาบันในการดูแลรูปร่างควรแสดงความรับผิดชอบแต่แรก โดยการมีเจ้านี่ในสถาบัน เพื่อแสดงความจริงใจ ซื่อสัตย์ และ จำเป็นต่อคนไข้ บางคนอ้วนไขมันจริงไหม หรือ หนักกล้ามเนื้อ หรือ บางคนหนักน้ำในร่างกายเครื่องมือนี้สำคัญมาก โดยจะวัดความหนาแน่นโดยความต่างศักย์กระแสไฟฟ้าทั่วร่างกาย โดยมีการหนีบขั้วแม่เหล็กที่มือ และ เท้า

 

 

ต่างจากเครื่องที่เราไปยืนชั่งแน่นอนให้ความแม่นยำค่อนข้างสูง แต่อาจจะต้องปัสสาวะ

ให้เรียบร้อยซักพัก และ อย่าพึ่งดื่มน้ำก่อนมาวัด ราคาเครื่องนี้ เกือบแสนห้า O.o แอบมา

สืบราคาตกใจตัวจิ๋วเดี๋ยว ราคาอลังมาก คุณภาพน้องเขาแน่น 5555

ผลก็จะออกมา เพื่อนำไปให้แพทย์เป็นคนอ่านให้ฟังนะคะ อยากดูของเอิ๊กไหม อย่างที่คิดเลย

และ รองศาสตราจารย์รังสิมา แพทย์ประจำวันก็อ่านค่าให้เอิ๊กฟัง ซึ่งผลเป็นไปตามที่เรา

เคยสงสัยกัน ในเรื่องการระบายน้ำหรือของเหลวในร่างกายของเอิ๊ก “ไม่ดี” ทำให้บางวัน

หน้าหด หน้าอ้วน ระหว่างวัน ขาเล็ก ขาใหญ่ระหว่างวัน ทางแก้ถาวรยังไม่มี เทคโนโลยี

ก็อาจจะต้องลองดูแต่ก็อยู่ได้เป็นระยะ กรณีนี้เพื่อให้เลือกเทคโนโลยีให้เหมาะสม

ซึ่งบางคนอาจไม่ต้องทำอะไรเลยก็ได้ อย่างเอิ๊กอาจจะลองเทคโนโลยีบางตัวเพื่อให้

ระบบการไหลเวียนของเหลว ระบายดีขึ้นแต่ก็ทำหลายครั้ง เอิ๊กอาจจะตัดสินใจไม่ทำ

ก็ได้ แล้วไปเลือกวิธีบีบนวด และ ออกกำลังกายเอา

มากกว่านั้นก็เป็นเรื่องของพลังงานอาหารที่เราควรทานในวันปกติ หรือ วันที่ไม่ได้

ใช้แรง เพื่อวางแผนในการคุมอาหารในบางคน ถ้าตั้งใจลด ก็ต้องเอาพลังงานออก

เท่าไหร่ต่อวันก็ว่าไป ต้องทานน้อยแค่ไหนก็ว่าไป และ ยังบอกได้ถึงระบบการเผาผลาญ

บางคนเข้าใจว่าระบบการเผาผลาญต่ำ แท้จริงก็ปกติเพียงแต่เห็นคนทานเท่าไหร่ไม่อ้วน

ก็เอามาเทียบกับตัวเอง บางคนอาจจะเป็นไทรอยด์บางชนิดมาเช็คระบบการ

เผาผลาญต่ำจริงๆ เขาก็ต้องวางแผนการทานอาหารควบคู่ไปด้วย จุดนี้สำคัญบอกเลย

เอิ๊กหุ่นลูกแพร ไขมันน้อย กล้ามเนื้อน้อยจริง จนคุณหมอไม่อยากให้ทำอะไรแล้วแต่เอิ๊ก

เดินทางปั้นรูปร่างตัวเองมาจนใกล้นาฬิกาทรายมากกจนอยากเดินต่อให้สุด แน่นอน

เหลือช่วงล่างทำ ZELTIQ ไป อย่างที่เอิ๊กเคยบอก และ เอิ๊กมั่นใจว่าเขียนคนแรกในไทย

ว่าโครงสร้างร่างกายของเราเปลี่ยนได้ด้วยอะไรบ้างลองอ่านดูค่ะ

CLICK

คุณหมอวางแผ่นเจล แล้วนำหัวที่เหมาะสมมาวาง ใครจะทำต้นขาบอกเลยรอต้นปีหน้า

มีหัวที่ออกแบบมามีความยาวเหมาะสมที่นี่ที่แรกในประเทศไทยแน่นอนกล้าการันตี

เพราะที่นี่มีผู้หญิงคนนี้ที่ทำงานวิจัยตัวนี้อย่างจริงจังและคิดว่ากำลังจะส่งเพื่อเข้า

ตีพิมพ์บทความวิจัยในวารสารวิชาการระดับชาติและระดับนานาชาติเร็วๆนี้

อยากบอกว่าคุณหมอเป็นยอดหมอ เป็นอาจารย์ เป็นรองศาสตราจารย์ไฟแรงสูง

ตลอดเวลาเป็นไอดอลในการทำงานของเอิ๊ก และในการใช้ชีวิตรับใช้สังคม

ใครจะรู้บ้างว่าคุณหมอชอบช่วยคนไข้มะเร็งผิวหนัง แกถนัดผ่าตัดด้วย

และ เลเซอร์รักษาคนไข้เด็กปานโอตะแต่กำเนิดที่ไม่มีเงินรักษาที่รพ. ศิริราช

ถ้าใครรู้จักแกจะบอกว่าแกเป็นคน ACTIVE มาก ขยัน และ ชอบเรียนรู้

และ เดินทางบรรยายในหลายประเทศต่อเดือนแก่แพทย์ชาวต่างชาติ โดยมี

สไลด์บรรยายเป็นผลงานคนไข้ในงานวิจัยต่างๆของแกเอง ชอบขอแกดูเพราะ

เป็นคนไข้เป็นคนไทย เห็นแล้วจะมโนภาพตัวเองได้หากมีปัญหาใกล้เคียงกัน

แล้วคุณหมอก็สอนหนังสือข้างเตียงตามเคย เพราะเอิ๊กคือบล็อคเกอร์ขี้สงสัย 55555555

คุณหมอจะชอบพูดเล่นเสมอ รักษาคนไข้เจ็บ แต่คนไข้ก็ยิ้มและยกมือไหว้ตลอดเวลา 😀

เอิ๊กยิ้มไม่ออกหน้าเบ๊ 555 ก็ยกมือไหว้ขอบพระคุณคุณหมอที่รังสรรค์ความงามให้

ตอนนี้ ZELTIQ มีหัวสำหรับพุง แขน แต่สามารถนำมาวางกับขาได้บางจุด

แต่หัวจะออกมาใหม่สำหรับขาเลย แต่ถ้ารอบหน้าเอิ๊กขอคิดดูก่อนนะคะ เพราะรอบนี้ใกล้

กระดูกเจ็บระบมตรมตรอมไปข้างละ 1 ชั่วโมงเต็ม 555 และทุกอย่างก็กลับสู่ปกติไม่มีใครรู้

รอผล 3 เดือน เดี๋ยวเราจะกลับไปถ่ายรูป AFTER อีกครั้ง สำหรับไขมันที่ตายไป20-25%

ประเด็นตอนนี้คือ ทำยังไงกับอาการระบายของเหลวในร่างกายได้บ้างนอกจาก

ออกกำลังกาย และ รู้แล้วว่าถ้าอยากน้ำหนักน้อยควรทานแค่กี่ แคลอรี่ ต่อวัน

เปิดโลกพีรญาอีกแล้ว 26 ปีไม่เคยรู้มาก่อน แค่เดา และ พูดให้คนอื่นฟังว่า

ตัวเองเป็นคนบวมน้ำวันนี้สรุปแล้วว่า “จริง” แง แง แง แง แง แง แง

ขอบพระคุณทุกท่าน ณ ISKYCENTER ที่ดูแลเอิ๊กในวันนี้

ไว้เอิ๊กพามาทัวร์อีกรอบถ้าที่นี่เสร็จสมบูรณ์นะคะลากันไปด้วยบรรยากาศ

ยามค่ำคืน เอิ๊กมาที่นี่ที่ไหร่ไม่เคยต่ำกว่า 3-5 ชั่วโมง ตอบไม่ได้ว่าทำไม

หรือ เพราะคำถามที่ไม่มีที่สิ้นสุดของตัวเอง และ คำตอบที่ได้เยอะไม่สิ้นสุดเช่นกัน

XOXO

INFO

www.iskycenter.com

www.facebook.com/iskycenter

Posted in BEAUTY TECHNOLOGY, LASER, RADIO FREQUENCYComments (0)

REVIEW – EXILIS ll เทคโนโลยีกระชับใบหน้าตัวล่าสุด ครั้งที่ 1

 เอิ๊กมั่นใจว่าเขียนเทคโนโลยีนี้ในไทยคนแรก

ขอบพระคุณสำหรับความไว้ใจจาก ISKYCENTER

ที่ให้เอิ๊กได้ไปเก็บข้อมูลของเทคโนโลยี EXILIS II ตัวนี้ค่ะ

 

อยากทราบจุดเริ่มต้นของเทคโนโลยี EXILIS II

          Monopolar radiofrequency (RF) เป็นเทคโนโลยีที่ได้รับการยอมรับมานานกว่า 10ปีแล้วที่รู้จักกัน ซึ่งให้ผลดีของการยกกระชับและลดเลือนริ้วรอย ซึ่งจัดว่าเป็นเทคโนโลยียกกระชับผิวหน้าที่ดีที่สุด ณ เวลานี้ ก็มีเครื่องหลายอย่างมาก เช่น THERMAGE ซึ่งก็จะลงลึกระดับกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนของผิว แต่เทคโนโลยีไม่เคยหยุดนิ่ง ก็จะมีเครื่องรุ่นใหม่มาตลอด อย่างเช่นเทคโนโลยี  ULTHERA ซึ่งใช้เทคโนโลยีUltrasound จะมีผลกับบริเวณกล้ามเนื้อส่วนบน เมื่อเทคโนโลยีกระชับตอนนี้ที่ดีสุดคงหนีไม่พ้น THERMAGE และ ULTHERA

          สำหรับ EXILIS ออกมานานประมาณ 2 ปีกว่าแล้ว เป็นการรวมเทคโนโลยีที่ดีที่สุดสำหรับการยกกระชับใบหน้าตอนนี้ที่มีอยู่ในโลกก็คือ Monopolar radiofrequency (RF)กับUltrasoundมารวมกัน และ ก็มีการพัฒนาเรื่องของความเจ็บปวด ให้มีระบบการปรับค่าพลังงานอัตโนมัตตามความหนาบางของผิวหนัง ไม่ต้องใช้ยาชาจึงทำให้กลายเป็นตัว EXILIS ตัวนี้ขึ้นมา เมื่อเทคโนโลยีMonopolar radiofrequency (RF)บวกกับเทคโนโลยีUltrasound แน่นอนว่าก็จะไปช่วยในเรื่องของการกระตุ้นการสร้างของคอลลาเจนตามธรรมชาติ ยกกระชับได้ทุกส่วนยกเว้นใบหู เพื่อทำทำให้ผิวตึงขึ้น ผิวจะดูเรียบเนียนขึ้น และ ที่สำคัญไม่ทำให้เกิดอันตราย ไม่มีแผล และ ไม่เจ็บปวดอีกต่อไป 

สื่อเมืองนอกกล่าวไว้ถึงตัว EXILIS คร่าวๆคือใช้ยกกระชับผิวได้ทุกส่วน

และกว่า 50 % เห็นผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นในการทำเพียงหนึ่งครั้ง * และต้องทำต่อเนื่อง

ในอีกสองสัปดาห์ถัดมา เราก็จะเริ่มเห็นถึงความแตกต่างภายใน 1 เดือน

 

EXILIS ตอนนี้รุ่น 2 เป็นรุ่นล่าสุด พัฒนาจากรุ่น 1 ในเรื่องอะไรบ้าง

  1. จำนวนครั้งในการที่ต้องทำต่อเนื่อง รุ่น 1 ทำ 4 ครั้งแต่ละครั้งห่าง 2 สัปดาห์ รุ่น 2 ทำแค่ 2 ครั้งแต่ละครั้งห่าง 2 สัปดาห์
  2. พลังงานจากรุ่น 1 มีค่าพลังงานอยู่ที่ 50 วัตต์ รุ่น 2 เพิ่มขึ้นไปเป็น 90 วัตต์ ผลลัพธ์ต้องดีกว่าแน่นอน
  3. ปรับพลังงานสูงต่ำแบบอัจฉริยะแบบอัตโนมัต โดยจะมีตัว Ultrasoundที่ใช้วัดอุณภูมิตามความหนาบางของผิวหนังแต่ละส่วนที่ไม่เท่ากัน และมันจะปล่อยพลังงานให้เหมาะสมทุกส่วนของอวัยวะ นี่คือ ส่วนที่จะไม่ทำให้เราเจ็บปวด เช่นถ้าปล่อยพลังงานเท่ากันทั้งหน้า บริเวณกระดูกเราจะเจ็บมาก ดังนั้นมันจะวัดและปล่อยให้เหมาะสม เราจึงไม่เจ็บ

หลักการปล่อยพลังงานของ EXILIS II

คือ ปล่อย Monopolar radiofrequency (RF)กับUltrasound พร้อมกันโดย เทคโนโลยี Ultrasound จะเป็นตัวสนับสนุนพลังงานของ Monopolar radiofrequency (RF) ซึ่งเป็นพลังงานหลัก อย่างที่เราทราบกันถึงความเจ็บปวดของการทำ THERMAGE เวลายิงลงไปที่ผิวมันจะร้อนและเจ็บ จะมีระดับในความทนได้ของคนไข้แต่ละคน แต่ยิงลงลึกได้มากพลังงานสูงได้มาก ผลมันก็ดีมากตามกัน ดังนั้นอย่าแปลกใจที่ีคนที่มีความหย่อนคล้อยมองตาเปล่าเท่ากัน แต่ผลลัพธ์ในการทำ THERMAGE ต่างกัน ทั้งนี้ขึ้นกับพลังงานที่เขาสามารถรับได้ด้วย EXILIS จึงใช้จุดเด่นของเทคโนโลยี Ultrasound มาคอยเสริมซึ่งจะช่วยทำให้ผิวสามารถรับพลังงาน  Monopolar radiofrequency (RF) ที่สูงขึ้นได้ หมายความว่าจะยิงด้วยพลังงาน  Monopolar radiofrequency (RF) ที่สูง ผิวก็จะรับได้เพราะมีเทคโนโลยี Ultrasound คอยเสริมโดยการสั่นสะเทือนกระจายพลังงานไปให้ทั่วทุกบริเวณพร้อมๆกัน จะทำให้กลายเป็นรู้สึกว่าเหมือนใช้หินร้อนกลมๆกลิ้งให้ความอุ่นทั่วใบหน้า ไม่มีความเจ็บปวดใดใดทั้งสิ้น แต่ก็ยังมีในเรื่องของระดับพลังงานที่เรารับได้อีกเช่นกัน เช่นความร้อนไปเราอาจจะไหวแค่เท่านี้ และ แน่นอนว่า ยิ่งพลังงานสูงมาก ผลลัพธ์ย่อมเห็นชัดกว่า

การดูแลตัวเองก่อนทำ – หลังทำ EXILIS ll

ดื่มน้ำเยอะๆก่อนเพราะเนื่องจาก Monopolar radiofrequency (RF) มันเป็นความร้อน ระหว่างทำอาจทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื่น เราควรดื่มน้ำให้เยอะเพื่อให้ผิวหนังของเราทนกับพลังงานสูงๆได้ดีขึ้น ยิ่งดื่มน้ำมากก็จะรู้สึกยิ่งสบายผิว และแนะนำให้ดื่มน้ำมากๆหลังจากที่ทำด้วย เพื่อให้ผิวอิ่มน้ำ จะไม่มีแผล ไม่เจ็บปวด แค่หน้าแดดนิดนึง และ จะหายไปเพียงไม่ถึงชั่วโมง แต่จะรู้สึกกระชับบริเวณที่ทำ ก็สามารถทากันแดด ทาครีม แต่งหน้าได้เหมือนเดิม ใช้ชีวิตกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติทันที

จำนวนครั้งที่ทำ EXILIS ll

รุ่นใหม่คอรส์นึงจะต้องทำ 2 ครั้งทั้งหมด ทำครั้งแรก และ ทิ้งระยะห่างกัน 2 สัปดาห์ ทำครั้งที่สอง เป็นอันเรียบร้อย

ผลจะคงอยู่เฉลี่ยประมาณ 12 เดือน

นอกจากความหย่อนคล้อยที่มากน้อย และ การรับพลังงานได้เป็นตัวที่จะส่งผลถึงผลลัพธ์ที่ออกมา อีกส่วนคือผลลัพธ์จะเต็มที่ๆสุด ก็ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองเช่น ไม่ออกไปโดนแดดจัด เพราะมันจะทำลายคอลลาเจนที่มีอยู่แล้ว การดื่มแอลกอฮอล์ รวมถึงการนอนดึกที่ทำให้เกิดอนุมูลอิสระ พูดง่ายๆ ก็คือการดูแลตัวเองหลังทำก็สำคัญมากในการใช้เทคโนโลยีกระชับ แต่โดยเฉลี่ยแล้วประมาณ 12 เดือนที่คงสภาพกระชับอยู่

อายุที่เหมาะสมกับการทำ EXILIS ll

คนที่เริ่มมีปัญหาเรื่องความหย่อนคล้อยของผิวก็สามารถมาทำได้เลยค่ะ เช่น แก้มห้อยย้อย ไขมันแก้มเยอะ ดังนั้นอย่าแปลกใจ ที่มีเด็กอายุยังไม่ถึง 20 แต่มีปัญหาเรื่องผิวหย่อนคล้อยก็เริ่มมาทำกัน หรือ จะเป็นที่รู้จักกันคือ เหนียง ช่วงไขมันใต้คอ

 

EXILIS ll เห็นบอกว่าทำได้ทุกส่วนยกเว้นหู

ทำได้ทุกส่วนของร่างกายจริงๆ ยกเว้นใบหู เพราะหูไม่หย่อนคล้อย ทำได้ทั้งตัว แต่ที่ฮิตเมืองนอกมากสุด คือทำยกกระชับหน้าอก เนื่องจากไม่อยากศัลยกรรม สำหรับคนที่ไม่ได้หย่อนคล้อยขนาดหนัก และ อีกส่วนที่นิยมทำคือคอ เพราะคอมีเนื้อที่บาง การใช้ THERMAGE จะเจ็บมากทนแทบไม่ไหว พอปรับพลังงานน้อย ผลลัพธ์ที่ได้ก็ไม่คุ้มกับเงินที่เสีย EXILIS ll ปรับสูงสุดแล้วบางทีคนไข้ยังรู้สึกอุ่นสบายอยู่เลย

 ระยะเวลาในการทำ EXILIS ll

ต้องใช้เวลาในแต่ละโซนค่ะ เช่นใบหน้า ก็จะแบ่งหน้าทั้งหมด 8 โซน แล้วเราก็แบ่งทำทีละโซน โดยที่ให้พลังงานในแต่ละโซนอย่างสม่ำเสมอและใช้เวลานานพอเพราะถ้าน้อยไปมันอาจจะไม่เห็นผลดี

 

ผลพลอยได้ของ EXILIS ll

จะเป็นเรื่องของผิวที่ดูเรียบเนียนเต่งตึงขึ้น อย่างที่บอกว่าหลักการกระชับนั้นจะทุ่มเทไปกับการสร้างคอลลาเจนใหม่ให้เกิดขึ้นแบบไม่เจ็บปวดอีกต่อไป

สรุปคือผลที่ได้จาก EXILIS ll ทั้งหมดจะมีผลลัพธ์ในด้านไหน   

  • การยกกระชับ
  • ริ้วรอยตื้นขึ้น ลดลง
  • กระตุ้นเรื่องการไหลเวียนโลหิตดังนั้นสภาพผิวโดยรวมจะดีขึ้น 
  • ปิดรูขุมขน เพราะฉะนั้นผิวก็จะเนียนขึ้น
ราคา
80,000 บาท ต่อคอร์ส [ 2 ครั้งจบ ]

 เอาละ 10 ปากว่าไม่เท่าตาเห็น สำหรับเทคโนโลยีนี้อย่างที่บอก

เน้นยกกระชับ ยิ่งหย่อนคล้อยมากยิ่งเห็นผลลัพธ์ชัดเจน

แม่เป็นตัวแทนผิวหย่อนคล้อยมากในวัย 60 ปี

เอิ๊กเป็นตัวแทนเรื่องแก้มที่สามารถกระชับได้อีก 26 ปี

บอกเลยว่าก่อนทำจะไม่เห็นผลของเอิ๊กชัดเพราะเอิ๊กชัดอยู่แล้ว

มาดูแม่เอิ๊กกันคนที่ผิวหย่อนคล้อยหลังทำจะเป็นยังไง

จะมี 2 หัวนะคะ คือ สำหรับทำหน้า และ สำหรับทำตัว

นอกจากดื่มน้ำเยอะๆก่อนทำก็ต้องแปะแผ่น grounding pad

เพื่อให้เครื่องสามารถปล่อยพลังงานไปยังบริเวณที่ต้องการรักษาได้ ทั้งหลังคุณแม่ ซ้าย

และ คุณลูก ขวา

ขั้นตอนต่อมาทาเจลเย็นให้สบายเวลาปล่อยพลังงานซึ่งเราจะรู้สึกอุ่นถึงอุ่นมากและ

ทำให้การกลิ้งของหัว EXILIS ll ไหลลื่นขึ้น

แบ่งหน้าเป็นโซนๆ และเริ่มกลิ้งหัว EXILIS ll แบบช้าๆ ละเอียดๆ ให้ทั่วถึงทุกอณูของโซนนั้น

ถ้ายังรู้สึกว่าทนความอุ่นไหวก็สามารถปรับพลังงานเพิ่มขึ้นได้ เพราะเราจะเห็นผลได้ดีกว่า

แต่ถ้าไม่ไหวก็สามารถลดระดับพลังงานได้เหมือนกัน

ถ้าผู้ที่หย่อนคล้อยมากก็จะทำไล่ลงคอไปด้วย แต่เอิ๊กมีเหนียงก็มีเก็บเหนียงใต้คางนิดนึง

ทำเสร็จหน้าแม่เอิ๊กแดงมาก เพราะใช้พลังงานสูงเกือบที่สุด เอิ๊กเอาน้อย เอาแบบอุ่นสบาย

เท่าที่ไหว อีกอย่างเอิ๊กทานน้ำไม่เยอะมากเท่าไหร่ แม่ดื่มน้ำเยอะ ชีไหวตลอด ดูหน้าเอิ๊กหลังทำ

ปกติมาก ชิวไปเลย ก็แต่งหน้าได้ปกติ แต่รู้สึกหน้ามันตึงๆยังไงไม่รู้ ฮ่าๆๆๆๆ มันรู้สึกยกๆ

แม้มองด้วยตาเปล่าไม่เห็น แต่มันตึงๆมุมปาก ยังกับมาส์คหน้าไว้

เอิ๊กขออนุญาตเชิญดูผลงานหน้าแม่เอิ๊กก่อนผู้ที่ต้องเห็นผลหลังทำชัดกว่าเอิ๊กแน่นอน

เพราะท่านคล้อยมาก นี่คือ ครั้งแรกหลังทำทันที ต้องทำอีกครั้งภายในสองอาทิตย์ที่จะถึง

และรอดูผลนับจากการทำครั้งสุดท้าย ไป 1 – 3 เดือน เชิญเพื่อนแม่ ติดตามผลได้

ใน 3 เดือนนับจากนี้ เอิ๊กได้เก็บผลไว้ส่วนนึงแล้ว

นี่คือภาพที่วัดให้เท่ากันตั้งแต่ตำแหน่งตา ถึง ขนาดของปากให้พอดีกันในมุมเดิม เห็นอะไรไหม

เอิ๊กเห็นแล้วตอนนี้ แต่ยังไม่แน่ใจว่าใช่หรือไม่ เลยต้องขีดเส้นวัดอีกทีให้แน่ใจเพราะบางทีตา

อาจจะเหล่ หรือ เอียงได้

ผลคือแน่ๆ เกิดการหดตัวของคอลลาเจนทันทีหลังทำ หน้ามีขนาดแคบลง

แบบมองตาเปล่าภาพแรกก็เห็น ซึ่งวันนี้ผ่านมา 7 วัน หน้าแม่เอิ๊กดูแคบลง แต่เรื่องกระชับ

เอิ๊กต้องรอทำครั้งที่ 2 ให้เสร็จก่อน และ รอเก็บผลอีกทีภายหลัง 1-3 เดือน

ข้อดี

  • ไม่เจ็บ
  • ไม่มีแผล ไม่ต้องพักฟื้น
  • แต่งหน้า ทาครีม ออกแดดได้ตามปกติ
  • ยกกระชับได้เหมือนกัน รวมถึงผิวหย่อนคล้อยกับคนที่อายุยังน้อย
  • ได้ความกระชับแบบเป็นธรรมชาติ
  • ผลพลอยได้คือผิวที่ดูเรียบตึง เนียนขึ้น

ข้อด้อย 

  • ราคาสูง
  • ต้องทำ 2 ครั้งถึงจบคอร์ส
  • ยังเป็นการผสมผสานเทคโนโลยียกกระชับตัวแม่ที่อาจจะแบ่งความเจ๋งมาอย่างละส่วน แต่ไม่ทั้งหมด ผลคงสู้เทคโนโลยีอย่าง THERMAGE และ ULTHERA ไม่ได้ แต่ก็ยกกระชับได้ในระดับนึงทีเดียว
  • การคงอยู่เฉลี่ย 12 เดือน น้อยกว่า THERMAGE และ ULTHERA 
ข้อแนะนำ
  • หย่อนคล้อยไม่มาก และ กลัวเจ็บ แต่อยากหน้ากลับมาดูเรียบตึง ผิวดูเนียน ริ้วรอยดูลดลงแบบเป็นธรรมชาติ เครื่องนี้เหมาะ
  • ใครกลัวเจ็บจาก THERMAGE และ ULTHERA เครื่องนี้เหมาะ
  • อายุน้อยที่มีเหนียง หน้าแก้มคล้อย เครื่องนี้เหมาะไม่หนักจนเกินไป แต่ก็ราคาแรงอยู่พอสมควร ทางที่ดีติดตามโปรโมชั่นสำหรับคนที่อายุไม่มาก จะคุ้มมาก

ผลลัพธ์ของ EXILIS ของฝรั่งบางส่วน เห็นแล้วเอาแม่ไปจัดโดยด่วน

 

มาลุ้นผลกันอีก 3 เดือนนะคะ <3

XOXO

 

Posted in BEAUTY TECHNOLOGY, EYES, FACE, RADIO FREQUENCY, REVIEW, THERMAGEComments (0)

BEAUTY TALK – เทคนิคการฉีดโบทูลินูมทอกซินแนวกรามสำหรับคนที่ฉีดบ่อย

ISKYCENTER ขณะที่กำลังจัดการกับกล้ามเนื้อกรามที่เคี้ยวข้าวให้ฟีบลง

แก้มก็อาจจะไม่เกี่ยวเพราะเป็นไขมัน วันนี้ึคุณหมอรังสิมา อาจารย์แพทย์

และเป็นอาจารย์ของเอิ๊ก ก็ทำการฉีดโบทูลินูมทอกซินให้เหมือนเคย รอบนี้มากับความรู้ใหม่

” เวลาที่คนไข้ฉีดโบทูลินูมทอกซินบริเวณแนวกรามบ่อย

บางครั้งเราอาจจะคลำไม่เจอกล้ามเนื้อแนวกราม เพราะกรามเล็กลง “

เป็นการให้ความรู้ ที่คุณหมอได้บอกเอิ๊กไว้ว่ามันเป็นเทคนิคส่วนตัวของคุณหมอคือ

จะใช้นิ้วดันขอบกล้ามเนื้อกรามไว้ ดังภาพให้คนไข้กัดฟัน กล้ามเนื้อกรามจะแข็งขึ้นมานิดนึง

แล้วจึงทำการฉีดโบทูลินูมลงไป เพื่อให้เกิดความแม่นยำ ได้ประสิทธิผลดี

เพราะการกดบางที ถ้ามีทั้งไขมัน และ กล้ามเนื้ออาจจะคลำพบได้ยาก

(คุณหมอว่าหนูรึเปล่าคะ 555555555555 หนูไขมันเยอะ)

จึงใช้นิ้วดันประคองไว้ขอบกระดูกไว้ เพราะกล้ามเนื้อมักจะยึดเกาะกับกระดูกเสมอ

จึงปลอดภัย ถูกตำแหน่งที่ต้องการ และไม่เกิดอันตราย หรือ ผลข้างเคียงเช่น ปากเบี้ยวตามมา

ขอบพระคุณคุณหมอมากค่ะ

^______________^

Posted in BOTOX, HOW TOComments (0)

เซลล์ไขมันเล็กลงกระชับสัดส่วนด้วย FREEZE VENUS

หาวิธีลดแก้มมาได้อีก 1 อะฮี่อะฮี่ 5555555
lol [ ขำแบบถูกอกถูกใจ ]

เทคโนโลยีคลื่นวิทยุ RF แบบ 4 – 8 ขัั้ว
โดยปล่อยพลังงานความร้อนวิ่งกระจายแบบทั่วถึงสลับขั้วไขว้กันไปมาได้
และ ลงลึกกว่า ปกติเคยแนะนำการทำ TRILIPO [ RF แบบ 3 ขั้ว ]
ในการทำให้เซลล์ไขมันเล็กลง สำหรับ 3 ขั้วนั้นดีอยู่แล้ว
เพียงแต่ความร้อนของ 3 ขั้วจะวิ่งหากันเป็นขั้วต่อขั้วเท่านั้น
จะไม่สลับขั้วไขว้กันไปมา ทำให้เหลือพื้นที่ด้านในตรงกลาง
ที่ความร้อนไม่ได้ส่งผ่านไปถึง จึงทำให้เกิดเทคโนโลยี FREEZE
ที่เป็น 6-8 ขั้ว ส่งพลังงานได้ทั่วถึงสลับขั้วไขว้กันไปมาได้
ความร้อนจึงกระจายตัวทั่วโดยรอบ และ ลงลึกกว่า
ผลลัพธ์ย่อมเห็นผลชัดเจนดีกว่า
 
หลักการ TRILIPO ส่งผ่านความร้อน 3 ขั้วโดยจะมีตัว MUSTLE
ที่ช่วยยกชั้นไขมันขึ้นมาเพื่อปล่อยความร้อนให้เซลล์ไขมันเกิดการเผาผลาญจนขนาดเล็กลง
และ เมื่อการจัดเรียงตัวใหม่ รูปหน้าก็จะกระชับ
และมีขนาดเล็กลงเนื่องจากเซลล์ไขมันมีขนาดเล็กลง CLICK อ่านเพิ่มเติม
 
หลักการ FREEZE ซึ่งถูกออกแบบมาแบบ 6-8 ขั้วโดยผสมผสาน
กับELECTRO MAGNETICหรือคลื่นแม่เหล็กช่วยสามารถกระตุ้นการทำงาน
ของผิวบริเวณนั้นให้เซลล์พัฒนาการทำงานได้ดีขึ้น และจุดเด่นสุดคือ
ให้วิ่งแบบสุ่มไขว้กันสลับขั้วไปมาให้ส่งผ่านความร้อนขั้วต่อขั้วด้วย
และวิ่งสลับขั้วไปมาจนไม่เหลือพื้นที่ว่างจุดไหนที่ไม่เกิดความร้อน
ดังนั้นตรงกลางก็ถูกความร้อนเต็มๆทั้งร้อนเร็ว และ ร้อนเยอะในวงกว้างกว่า
การรักษาจึงเจ็บน้อย และ คงความร้อนให้ทำงานได้นานกับเซลล์ไขมัน
ผลลัพธ์จึงดีกว่ามาก
8 ขั้วทำบริเวณใบหน้า – ลำตัว
4 ขั้วทำบริเวณดวงตา
 
บริเวณที่สามารถทำได้
  • รอบดวงตา
  • ใบหน้า
  • ลำตัว
 
ข้อดี
  • การวิ่งของพลังงานคลื่นวิทยุให้ความร้อนทำให้เกิดผลหลายอย่าง กระชับ ลดริ้วรอย สร้างคอลลาเจน ลดขนาดเซลล์ไขมัน ลดเซลล์ไลท์ ทำให้ผิวเรียบเนียน ยืดหยุ่น มีสุขภาพดีขึ้น กระชับสัดส่วน
  • มีการผสมผสานคลื่นแม่เหล็กช่วยให้เซลล์พัฒนาการทำงานดีขึ้น
  • ผลลัพธ์เห็นชัดตั้งแต่ครั้งแรกในบริเวณที่ไม่ใหญ่มากเช่นไขมันบนใบหน้า
  • ความร้อนของคลื่นวิทยุสามารถส่งผ่านได้ทั่วถึง เร็ว
  • ไม่มีแผล กลับบ้านได้ ไม่ต้องพักฟื้น ไม่มีใครรู้ว่าไปทำอะไรมา
 
ข้อด้อย
  • ร้อนกว่า TRILIPO หลายเท่า
  • ถ้าตั้งค่าไม่ดีมีโอกาสไหม้ได้
  • ต้องทำบ่อย ต่อเนื่องเพื่อคงสภาพ
  • ไม่สามารถกำจัดเซลล์ไขมันได้ แค่ช่วยลดขนาดให้เล็กลง
  • ไม่สามารถแทนการออกกำลังกาย
ผลลัพธ์
บริเวณไม่ใหญ่ก็สามารถสังเกตุได้ตั้งแต่ครั้งแรก สามารถทดสอบโดยการทำครึ่งนึง ไม่ทำครึ่งนึง แล้วเปรียบเทียบกัน
 
อายุ
เริ่มตั้งแต่ 20 เป็นต้นไปที่เริ่มมีส่วนสะสมของไขมัน ส่วนเกิน ส่วนที่ไม่กระชับ หรือ หย่อน คล้อย ตามใบหน้า ลำตัว
 
ความต่อเนื่อง
4-6 ครั้งต่อเดือน หลังจากนั้นลดปริมาณลงได้ 10 ครั้งก็จะเริ่มเห็นผลที่ชัดเจนขึ้น
 
ไม่รู้จะพูดอะไรหลักจากทำบทความนี้จบ นอกจากคำว่าอยากทำ เพราะไม่อยากให้เอาเซลล์ไขมันออกไป แค่อยากให้มันกระชับ และ เล็กลงได้ชั่วคราว เพราะถ้าเอาออกกลัวใบหน้าฟีบ และ เปลี่ยนไป 🙂
 
ที่มาข้อมูล
  • เทปสัมภาษณ์แพทย์หญิง นุศรา วงศ์รัตนภัสสร แพทย์ที่ปรึกษา ISKYCENTER
ที่มารูปภาพ
  • http://beatitudemedspa.com/venus-freeze-skin-tightening.html,americanhealthandbeauty.com,4everyoungclinic.com,medishape.com.my,http://www.cosmediclist.com/
 

Posted in BEAUTY TECHNOLOGY, CHEEKS, CHIN, FACE, LIPO, RADIO FREQUENCYComments (0)

E-PRIME เทคโนโลยียกกระชับผิวหย่อนคล้อยที่ล้ำกว่า THERMAGE

E-PRIME เทคโนโลยี RF คลื่นวิทยุยกกระชับลดความหย่อยคล้อย
ที่ล้ำกว่า THERMAGE
ปัจจุบันถ้าให้พูดถึงเทคโนโลยียกกระชับที่ได้ความเป็นธรรมชาติมากกว่าการศัลยกรรมผ่าตัดดึงใบหน้าคลื่นวิทยุขั้วเดียว เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ให้ผลลัพธ์รองลงมาจากการศัลยกรรมผ่าตัดดึงหน้า แต่ผลลัพธ์ที่ได้นั้นย่อมน้อยกว่ามาก ระยะเวลาการเห็นผลนานกว่าแบบค่อยเป็นค่อยไปอย่างน้อยสำหรับ THERMAGE เองใช้เวลาประมาณ 3-6 เดือนขึ้นกับช่วงอายุและริ้วรอยจึงจะมองเห็นผลที่ค่อยๆชัดขึ้น และ อยู่ยาวนานประมาณ 12-18-24 เดือน แต่ด้วยทำไมถึงยังคงเป็นทางเลือกสูงอีกหนึ่งตัวเลือก เพราะให้ความเป็นธรรมชาติ ไม่มีใครสามารถรู้ได้ว่าไปทำอะไรมา ไม่มีแผลเป็น และ เมื่อทำเสร็จสามารถกลับบ้านได้ ไม่ต้องพักฟื้น แต่งหน้าได้ตามปกติ และไม่ใช่การผ่าตัดที่ทำให้เกิดบาดแผล สำหรับคนไม่สะดวกในการผ่าตัด
 
ก่อนจะเกิด E-PRIME ได้มีงานวิจัยที่ทางรพ.ศิริราชได้จัดทำขึ้น เกี่ยวกับการเสียบเข็มลงไปบนผิวหนัง ว่าหากเสียบลงไปเฉยๆ จะก่อให้เกิดผลลัพธ์ กระตุ้นคอลลาเจน หรือ ยกกระชับอะไรได้บ้าง ปรากฎว่าไม่มีผลลัพธ์ใดๆเกิดขึ้ เมื่อตัดชิ้นเนื้อออกมาดู คราวนี้จึงมีการทำวิจัย โดยการเสียบปลายเข็มลงบนผิวหนัง และ ปล่อยความร้อนลงสู่ปลายเข็ม ผลปรากฎว่า เกิดการกระตุ้นคอลลาเจนจีงเกิดการกระชับของผิวขึ้นได้
 
www.erk-erk.com
หลักการทำงาน E-PRIME
www.erk-erk.com
 เหตุผลที่ E-PRIME ออกมา เนื่องจากผลลัพธ์ที่เกิดผลของ THERMAGE
อาจจะใช้เวลาหลายเดือน จึงเกิดแนวคิดทำให้ความร้อนลงไปลึกขึ้นผ่านปลายเข็ม
แต่หลักการทำงานนั้น COPY Thermage มาเลยเพียงแต่ลงลึกและ เห็นผลดีกว่า
เป็นเทคโนโลยีคลื่นวิทยุ ที่ทำให้เกิดความร้อนผ่านปลายเข็มที่สอดลงไปใต้ผิวหนัง
และความร้อนโดยคลื่นวิทยุนั้นจะถูกส่งผ่านลงลึกไปยังชั้นหนังแท้ส่วนลึก
เพื่อทำให้คอลลาเจนที่มีอยู่กระชับตัว และช่วยให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใหม่ด้วย  
ทำให้ผิวหนังมีความยืดหยุ่น เรียงตัว กระชับได้รูปขึ้น มีสุขภาพผิวดีขึ้น
สุขภาพผิวแข็งแรงขึ้น และผิวเรียบเนียนขึ้น ริ้วรอยลดลงได้
ทั้งนี้ขึ้นกับความลึกของริ้วรอย ความหย่อนคล้อยของผิว
อายุ และการตอบสนองของผิว ซี่งจุดเด่นจะอยู่ที่การเห็นผลดีกว่า
และ เร็วกว่า THERMAGE 1-2 เท่า และก็จะดีขึ้นเรื่อยๆ ในค่าใช้จ่ายที่เท่าๆกัน
เพียงแต่จุดด้อยที่มองเห็นตอนนี้ คือ ความเจ็บที่มากกว่าเนื่องจาก
ต้องมีการสอดเข็มลงไป และ ก่อนการทำต้องมีการฉีดยาชาลงไป 
www.erk-erk.com
www.erk-erk.com

Microneedle RF จะเป็นเข็มขนาดเล็กมากๆ จำนวน 5 คู่แต่ละคู่จะแบ่งเป็นสองขั้ว คือขั้วบวก กับขั้วลบ จิ้มลงไปในชั้นผิวที่ระดับความลึกประมาณ 1-2 มิลลิเมตร แล้วปล่อยพลังงานความร้อนลงไปที่ปลายเข็ม ทั้งนี้ในเข็มแต่ละขั้วจะมี Feedback Control เพื่อควบคุมให้ได้อุณหภูมิตามที่ตั้งไว้เพื่อให้ได้ค่าที่เท่ากันทุกเล่ม ซึ่งโดยทั่วไปจะใช้อุณหภูมิที่ประมาณ 60-70 องศาเซลเซียส เพื่อกระตุ้นคอลลาเจน

www.erk-erk.com

www.erk-erk.com
 
อายุที่เหมาะสม
35 – 60 ปี คือเริ่มมีริ้วรอย และ ความหย่อนคล้อยเกิดขึ้น บริเวณร่องแก้ม ปาก แนวกราม เหนียง
 
เพศ
ได้ทั้งชาย และ หญิง
 
ผลลัพธ์
มักจะเริ่มปรากฎเดือนแรก เต็มที่คือหกเดือนแรก และ อยู่ยาวถึง 2 ปี
www.erk-erk.com
 
ข้อดี
  • ได้ความเป็นธรรมชาติในการยกกระชับ
  • ไม่มีใครดูออกว่าไปทำอะไรมา
  • เห็นผลรวดเร็วกว่าเทคโนโลยี RF ตัวอื่น
  • ผลลัพธ์อยู่ประมาณ 2 ปี 
  • ความร้อนให้ผลพลอยได้คือผิวดูแข็งแรง ยืดหยุ่นและดูมีสุขภาพดี
  • ไม่ต้องผ่าตัด ดมยาสลบ 
 
ข้อด้อย
  • ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงมาก
  • ไม่กระชับเท่าการศัลยกรรมผ่าตัดดึงหน้า
  • เจ็บ ต้องฉีดยาชา และ ปล่อยพลังงานลงผ่านปลายเข็ม
  • อาจมีอาการบวมอยู่ซักระยะ
ที่มาข้อมูล
  • เทปสัมภาษณ์ พญ.นุสรา วงศ์รัตนภัสสร

ที่มารูปภาพ

  • mapperleypark.co.uk,stclaircosmetic.com,syneron-candela.co.uk,Iskycenter.com,americanhealthandbeauty.com

Posted in BEAUTY TECHNOLOGY, FACE, LASER, THERMAGEComments (0)

ELECTROPORATION ผลักวิตามินลงสู่ผิว

 

การนำส่งตัวยา วิตามิน สารอาหารทางผิวหนังเป็นอีกทางเลือก นอกเหนือจากการรับประทานยา และ ฉีดยา เป็นวิธีที่สะดวก ไม่เจ็บเหมือนการใช้ยาฉีด และเป็นการหลีกเลี่ยงการถูกทำลายยาจากกรดและน้ำย่อยในระบบทางเดินอาหารเวลาเราทานเข้าไป ข้อจำกัดคือ ต้องเป็นตัวยาที่มีเพียงไม่กี่ชนิดที่สามารถซึมผ่านผิวหนังและมีประสิทธิภาพในการรักษา ความจริงวิธีการส่งผ่านสารอาหาร วิตามิน ลงสู่ผิวหนังนั้นเราทำได้หลายวิธี แต่วันนี้จะเลือกวิธี ELECTROPORATION มาเล่าสู่กันฟัง เพราะ สามารถในการเพิ่มสารอาหาร หรือ วิตามิน ผ่านผิวหนังได้อย่างชัดเจน ใช้ระยะเวลาออกฤทธิ์สั้นใช้กับตัวสารอาหารที่มีคุณสมบัติแตกต่างกันได้หลายชนิด เช่น Q10,Hormone, DNA, Vaccine และ Peptide และ การกระตุ้นกระแสไฟฟ้าเป็นจังหวะก็สามารถทำให้สารอาหารผ่านผิวหนังได้อีกเป็นเวลานาน สามารถควบคุมปริมาณยาได้

Electroporation

Electroporation เป็นวิธีการส่งผ่านสารอาหารที่จำเป็นต่อผิวแม้สารที่มีโมเลกุลใหญ่ก็ทำได้ เช่น คอลลาเจน,วิตามินC,Hyaluronic Acid,Q10 เข้าสู่ผิว ส่งผลให้ ผิวหน้าสดใสและมีสุขภาพดีขึ้นได้อย่างรวดเร็ว โดยมีความปลอดภัยสูง จะผลักลงผิวโดยผ่านสารที่มีประจุไฟฟ้าในรูปไอออน + และ ไอออนลบเข้าสู่ผิว ส่งผลให้โครงสร้างชั้นไขมันที่เนื้อเยื่อหุ้มเซลล์เกิดการเปลี่ยนแปลงชั่วขณะโดยเปิดช่องว่างชั่วคราวประมาณ 1-2 วินาที เมื่อผิวชั้นบนสุดเกิดรูทำให้เพิ่มการซึมผ่านของผิวจึงลงลึกและดีกว่ามือทา ผลได้พอๆกับการฉีดสารอาหารลงบนผิว “อารมณ์เปิดผิวชั่วคราว” เปิดแล้วใส่สารอาหารดีดี แล้วมันก็ปิดเองหลังจากใส่เสร็จ ลงลึกกว่ามือทาประมาณ 95% เพราะผิวไม่ยอมให้อะไรซึมผ่านลงไปง่าย ประสิทธิภาพจะชัดเจน และ เห็นผลไวกว่ามือทามาก วิตามินสามารถส่งผ่านไปภายในเซลล์ และระหว่างเซลล์ได้มากขึ้น ไม่ทำให้ค่า PH ของผิวเปลี่ยน ไม่ทำให้ผิวบาง

 

การเตรียมตัวก่อนทำ

ถ้าสภาพผิวแข็งแรงอยู่แล้วก็สามารถปรึกษาแพทย์ผิวหนังและทำได้เลยทันที หลังจากทำความสะอาดใบหน้าให้เรียบร้อยหมดจด ไม่ทาอะไร เวลาทำ จะรู้สึกเหมือนกล้ามเนื้อมันกำลังออกกำลังกาย คล้ายมันกำลังหดตัวยืด หดตัวยืด ไม่เจ็บ ระยะเวลาประมาณ 30 นาที การทำก็ประมาณ 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ แต่ครั้งแรกเราจะเริ่มรู้สึกได้ว่าผิวดูชุ่มชื่น ดูมีน้ำมีนวล สุขภาพดี เพราะมันผลักลงไปลึก โดยแพทย์ผิวหนังจะตรวจสภาพผิวหน้าและเลือกวิตามิน หรือ สารบำรุงผิวให้เหมาะสมกับสภาพผิวหน้าและปัญหาที่ต้องการแก้ไขของแต่ละบุคคล

 

ข้อดี

  • เปิดผิวออกชั่วคราวเพื่อให้ตัวยาซึมผ่างลงสู่ใต้ผิวได้ลึกกว่ามือ
  • ไม่ต้องเจ็บตัวเหมือนกับการฉีดสารอาหารลงสู่ผิว
  • ช่วยดูแลปัญหาผิวพรรณหลายจุด เช่น จุดด่างดำ ปัญหาผิวแห้ง ริ้วรอยเล็ก
  • ประสิทธิภาพดี เห็นผลไวกว่าการทาครีมลงสู่ผิว
  • เพิ่มการไหลเวียนของเลือด
  • ช่วยให้ออกซิเจนไปเลี้ยงผิวได้ดีขึ้น
  • ผิวสุขภาพดี ยืดหยุ่น นุ่มนวลขึ้น
  • ผลักสารโมเลกุลใหญ่ได้
ข้อด้อย
  • การซึมของตัวสารอาหารวิตามิน อาจลงลึกไม่เท่ากับการฉีดลงไป

 

Derma Pore

[ ภาพ : http://www.akaraclinic.com/derma-pore.php ]

วิธีการส่งตัวยา สารอาหาร หรือ วิตามิน ของ ELECTROPORATION / PHONO/IONTO
ELECTROPORATION จะส่งสารอาหารโดยการเปิดรูทางเดินตั้งแต่ชั้นขี้ไคลถึงระดับเซลล์ทำให้ตัวยาซึมผ่านลงไปได้ขณะที่ Ionto และ Phono ไม่มีการเปิดทางเดินของยาก่อน ดังนั้นตัวยาจึงสามารถผ่านลงไปใต้ผิวเล็กน้อยเท่านั้น – akaraclinic –

 

ประเภทของสารอาหาร หรือ วิตามิน หรือ ตัวยาที่ใช้ส่งผ่าน
ELECTROPORATION สามารถส่งผ่านตัวยาได้ทุกประเภทไม่ว่าจะโมเลกุลเล็กหรือใหญ่ ทั้งที่มีประจุหรือไม่มีประจุในขณะที่ IONTO สามารถส่งผ่านตัวยาที่มีประจุเท่านั้นและ PHONO ไม่สามารถส่งผ่านตัวยาที่มีขนาดใหญ่มากได้
การดูแลหลังการทำELECTROPORATION

  • ไม่มีอาการบวมแดง
  • แต่งหน้า ทาครีม ได้ตามปกติ
  • ทากันแดดสม่ำเสมอเป็นประจำ

 

ELECTROPORATION จะใช้ผลักสารที่ช่วยเรื่องอะไรบ้าง

  • หน้าขาวกระจ่างใสขึ้น
  • ลดรอยคล้ำจากฝ้า และกระ ปรับสีผิวให้เนียนเรียบเสมอกัน
  • ยกกระชับใบหน้า และลำคอ

ผลลัพธ์
  • ลบเลือนผิวแตกลาย
  • เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว
  • เพิ่มการไหลเวียนของเลือด นำพาวิตามินและสารอาหารที่จำเป็น ต่อผิวให้ซึมซาบเข้าสู่ผิวได้โดยตรง
  • เพิ่มความสดใสและขาวเนียนของใบหน้า
  • ควรทำต่อเนื่องทุก 2-4 อาทิตย์ 5-10 ครั้ง

 

ส่วนตัวเคยทำทั้ง PHONO และ IONTO แต่ตัวนี้ไม่เคยลอง รู้สึกว่าแค่ PHONO ผิวก็ดีขึ้นมากเลย เขาบอกอันนี้ดีกว่า PHONO หลายเท่า แล้วจะมารายงานผลนะคะ 😀 เอิ๊กว่าเอิ๊กเหมาะกับการทำทรีทเมนท์ตัวนี้ เพราะตอนนี้ผิวแข็งแรงในระดับนึงแล้ว ฮ่าๆๆๆ

 แหล่งข้อมูล

– www.iskycenter.com

– Akara Clinic

 

 

 

Posted in BEAUTY TECHNOLOGY, SKINComments (0)

เส้นเลือดขอดกับแนวทางการรักษาจากแพทย์ผิวหนัง

 

 

 

 

 

เส้นเลือดขอด อีกปัญหาผิวหนังที่กวนใจ

วิธีการรักษาอาจเลือกจากขนาดของเส้นเลือดเป็นหลัก

ว่าจะฉีดยา เลเซอร์ หรือ ผ่าตัด รวมถึงใช้ทุกวิธีผสมผสาน

เพื่อให้ได้ผลดีที่สุด และ เหมาะสมถูกต้อง

เส้นเลือดขอดเกิดจาก

หลอดเลือดดำโป่งพองขึ้นจนเห็นว่าปูดขึ้นมา บางครั้งมีอาการปวดร่วมด้วย และมีหลายขนาดตั้งแต่เล็ก ๆ ฝอยๆ จนถึงขนาดเท่านิ้วโป้ง เพราะปกติหลอดเลือดดำนำเลือดกลับไปสู่หัวใจในทิศทางเดียวเหมือนถนนวิ่งทางเดียว (ONE WAY) โดยมีลิ้นหลอดเลือดดำบังคับให้เลือดเดินทางเดียว แต่ในคนที่มีเส้นเลือดขอดเกิดจากการที่ลิ้นเหล่านี้เสีย มีการทำงานที่ผิดปกติ หรือ อ่อนแอลง จึงทำให้มีหลอดเลือดดำไหลย้อนกลับมา ส่งผลให้มีความดันสูงขึ้นในหลอดเลือดดำที่ขาและทำให้มีการโป่งพองในหลอดเลือดดำ โรคเส้นเลือดขอดมักพบได้ในผู้หญิงและสามารถถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้ จะพบเป็นมากหลังตั้งครรภ์ รวมถึงการยืนมาก และ การมีน้ำหนักเพิ่มมากขึ้นจนขาอาจจะรับน้ำหนักไม่ไหว คนที่ชอบยกของหนักเป็นประจำ

เส้นเลือดขอดพบได้บริเวณไหนบ้าง

ชัดเจนที่พบบ่อยบริเวณน่อง แขน ขา สะโพก

วิธีป้องกันเบื้องต้น

 งดใส่เสื้อผ้าแน่นคับรัดติ๊ว โดยเฉพาะบริเวณเอว และ ต้นขา ขา น่อง เพราะมันกดเส้นเลือดดำที่ขา ทำให้เลือดไหลเวียนไม่ดี ไม่รัดเข็มขัดแน่นไป ไม่ใส่กางเกงชั้นในรัดเกินไป ไม่ให้รัดทั้งสะโพก ไม่ให้รัดทั้งต้นขา

 อย่ายืน นั่งนานๆ ควรขยับบ้าง เช่นเดินบ้าง ขยับร่างกายบ้าง ไม่นั่งไขว้ขา มีผลต่อการไหลเวียนเลือดช้าลง 

❤ ออกกำลังกายกล้ามเนื้อน่อง ยืนตรง เขย่งเท้าขึ้นลงช้า 30 ครั้ง ขึ้นบรรไดแทนการใช้ลิฟต์ เดินเร็วๆสม่ำเสมอ เพื่อให้กล้ามเนื้อแข็งแรง และ เพิ่มการไหลเวียนของเส้นเลือดให้ดียิ่งขึ้น รวมถึงการออกกำลังกายอื่นด้วย เช่น เดินเร็ว ว่ายน้ำ ให้ร่างกายส่วนร่างมีเพิ่มระบบไหลเวียนเลือดได้ดียิ่งขึ้น รวมถึงการหายใจเข้า ออก ให้ถูกต้องขณะออกกำลังกาย

 ถุงน่อง ที่ออกแบบมาเพื่อสุขภาพ รัด กด เส้นเลือดดำให้แฟบลงได้ แพทย์สามารถแนะนำได้ว่าเป็นชนิดไหน บางครั้งใส่หลังการรักษาเส้นเลือดขอดด้วยเพื่อไม่ให้เส้นเลือดขอดกลับมาอีก

 นอนยกเท้าสูงเหนือหัวใจ ทำครั้งละ 10-15 นาที ทำให้เส้นเลือดดำไหลกลับมาส่วนบนของร่างกายได้ดีขึ้น หากไม่มีโอกาสนอน ก็ใช้เท้าวางบนม้านั่งหรือที่พักเท้าแทนได้ในระดับหนึ่ง

 อย่าปล่อยให้น้ำหนักตัวมากเกินไป โดยเฉพาะบุคคลที่มีรูปร่างช่วงล่างเล็ก นอกจากจะทำให้คุณปวดขา และ ยังเพิ่มโอกาสการเป็นเส้นเลือดขอดได้ง่ายมากยิ่งขึ้น

ใส่รองเท้าที่แบน เตี้ย ลดการเกร็งตัวของบริเวณน่อง ทำให้การไหลเวียนเลือดดีขึ้น

 ดื่มน้ำสะอาดตลอดวัน ช่วยคุมน้ำหนัก 

อาบน้ำเย็น เลี่ยงน้ำอุ่น น้ำร้อน หันมาใช้น้ำเย็นในการอาบน้ำ ช่วยให้หลอดเลือดดำหดตัว 

วิธีรักษา

  1. เลเซอร์ เหมาะกับการรักษาเส้นเลือดขอดที่มีขนาดไม่เกิน 3 มล. หรือพูดง่ายๆเส้นเลือดเล็กๆ หรือ ระดับเส้นเลือดฝอย ชนิดเลเซอร์ที่ใช้ เช่น GENTLE YAG / VBEAM
  2. ฉีดยา หรือ Sclerotherapy เหมาะกับการรักษาเส้นเลือดขอดขนาดเท่าไส้ดินสอ 
  3. ผ่าตัด เหมาะกับการรักษาเส้นเลือดขอดที่มีผลข้างเคียง บวม ปวด ผื่นขึ้น มีแผล อักเสบ เลือดออก อาการใดอาการหนึ่ง ก็มีตั้งแต่ผ่าบริเวณขาหนีบหรือหลังเข่าเพื่อตัดและผูกเส้นเลือด อีกวิธีตัดเส้นเลือดดำที่ลิ้นในหลอดเลือดผิดปกติทั้งเส้น เพื่อป้องกันการเกิดซ้ำ วิธีสุดท้ายผ่าตัดเอาเส้นเลือดขอดที่ลึกออกทั้งเส้น 

❤ เลเซอร์

วิธีนี้ก็จะรักษาเส้นเลือดขอดขนาดเล็ก ฝอย เส้นผ่าศูนย์กลาง  1-3 มิลลิเมตรไม่เกิน จะยิงเลเซอร์ที่ใช้รักษาเส้นเลือดดำและเส้นเลือดแดงปล่อยพลังงานลงไปทำลายเส้นเลือดขอดที่เราไม่ต้องการ ไม่เจ็บ ไม่มีแผลหลังทำแต่อาจจะดูแดงๆซักไม่กี่ชั่วโมง รอยแดง ก็จะหายไป

❤ ฉีดยา SCLEROTHERAPY ขนาดต้องไม่ใหญ่มากประมาณไส้ดินสอ จะฉีดตัวยาบางอย่างที่ผสมกันแล้ว ฉีดเข้าไปยังขั้วเส้นเลือดขอดที่มีปัญหา หลังจากนั้นตัวยาจะไหลจากต้นขั้วไปยังรากที่แตกแขนง กระจายตัวไปจนสุดทำให้บางเส้นหายไปในทันที บางเส้นอาจจะต้องใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ ถึงจะเริ่มเห็นว่าเส้นเลือดขอดลีบเล็กลง แล้วอาจจะต้องกลับมาฉีดซ้ำซัก 1-2 ครั้ง เส้นเลือดขอดก็จะหายไป วิธีนี้ อาจจะต้องใส่ถุงน่องเฉพาะที่เอาไว้รัด ไม่ให้เกิดการกลับมาของเส้นเลือดขอดเป็นระยะเวลา 3 วัน ฉีดแล้วหายไปเลย ใช้เวลาทำนานมาก แพทย์จะต้องใช้การเพ่งสายตาเพื่อฉีดเข้าไปทีละเส้น เจ็บ และมักจะไม่มีการฉีดยาชา

❤ ผ่าตัด

1. Surgical Exploration ผ่าบริเวณขาหนีบหรือหลังเข่าเพื่อตัดและผูกเส้นเลือด

2. Surgical Stripping ตัดเส้นเลือดดำที่มีลิ้นในหลอดเลือดผิดปกติออกทั้งเส้น เพื่อป้องกันการเกิดซ้ำ

3. Surgical Removal ผ่าตัดเอาเส้นเลือดขอดที่ลึกออกทั้งเส้น

4. การผ่าตัดด้วยคลื่นความถี่วิทยุ ความเจ็บปวดจากการผ่าตัดปกติน้อยลง และ ผลข้างเคียงน้อยลง

 

 

❤ รับประทานอาหารเสริมสมุนไพรสกัด อาทิ เปลือกสน เมล็ดองุ่น เป็นตัวต่อต้านอนุมูลอิสระ ทำให้เนื้อเยื่อหลอดเลือดแข็งแรง ลดอาการปวดบวมของเส้นเลือดขอด เพิ่มการไหลเวียนเลือด

 

❤ สวมถุงนุ่งที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับรัดขาเพื่อป้องกันเส้นเลือดขอด ลดการปวด บวม บวมน้ำ และ ป้องกันปัญหาเส้นเลือดของกลับมาเกิดใหม่ได้ ซึ่งกรณีสวมถุงน่องนี้ อาจจะต้องได้รับคำแนะนำปรึกษาจากแพทย์ว่าเหมาะสมกับการใส่ไหมสำหรับเส้นเลือดขอด และ ขนาดที่เป็นอยู่ มีทั้งสองขนาด ขนาดที่ส่วนถึงเข่า หรือ สูงถึงต้นขา และควรสวมใส่ตั้งแต่ตอนเช้า ก่อนขาจะค่อยๆบวมน้ำเหลืองขึ้นในตอนเย็น


 

ถ้ากรณีเป็นมาก มีหลากหลายขนาด อาจใช้หลายวิธีผสมผสานกัน

และ อาจมีการทำ อัลตราซาวนด์เพิ่มด้วยเพิ่มให้การมองเห็นภาพเส้นเลือดมันชัดลึกลงไปใต้ผิว

ทั้งสำหรับเส้นเลือดขอดที่ลึกลงไป หรือ ดูการกระจายตัวของเส้นเลือดขอด

ทำให้การรักษาแม่นยำขึ้น อาจทำทั้งก่อน และ หลังทำ

แหล่งข้อมูล
– เทปสัมภาษณ์ พญ. นุสรา วงษ์รัตนภัสสร
– nuvelaesthetica.com,harbinclinic.com,http://www.miamivascular.com/,
http://www.varistop.com/foamsclerotherapy/,drgouletveinclinic.com,

Posted in BEAUTY TECHNOLOGY, LASERComments (0)

ขี้แมลงวัน & ไฝ เกี่ยวอะไรกับมะเร็งไฝ

ขี้แมลงวัน & ไฝ

คนไทยชอบเอาออกโดยเฉพาะบนใบหน้าเพราะ

  1. ทำให้ภาพรวมรูปลักษณ์ดูไม่ดีเท่าที่ควร
  2. คนไทยเชื่อเรื่องดวง
ขณะนี้มี 2 วิธีหลักที่จะนำออก
  1. กรดTCA
  2. เลเซอร์
ทั้งสองวิธีมีข้อดีข้อด้อยต่างกัน
กรด ดี ถูก เสีย อาจทำให้เป็นแผลเป็น และ เกิดแผลในวงกว้างมากกว่าเดิม เป็นหลุม
เลเซอร์ ดี สามารถเลือกบริเวณเอาออกได้แม่นยำ ด้อย ต้องเป็นแพทย์ผู้ชำนาญเพื่อเลี่ยงการตั้งค่าพลังงานพลาด เพราถ้าพลาดจะทำให้เกิดการไหม้ หรือ ถ้าเอาออกมากไปเป็นหลุม
คุณหมอ นุสรา วงษ์รัตนภัสสร บอกว่าไฝ หรือ ขี้แมลงวันเกิดจากความผิดปกติของการสร้างเม็ดสีเหมือนกันในทางการแพทย์ ไฝอาจจะนูน ขี้แมลงวันอาจจะเล็กและเรียบ ไม่จำเป็นที่จะต้องเอาออก เพราะจะได้ไม่เสี่ยงต่อแผลเป็นโดยไม่จำเป็น ขี้แมลงวันเราอาจจะไม่ได้เห็นผลข้างเคียง แต่ไฝเม็ดใหญ่ และ นูนอาจจะมีรากไฝที่ลึกกว่าการเอาออกอาจจะทำให้เกิดแผลเป็นได้ง่าย โดยเฉพาะตามลำตัว อาจจะทำให้เกิดแผลเป็น คียลอยด์ ส่วนที่ต้องระวังของไฝที่มีอยู่มีการเปลี่ยนแปลง เพราะนั่นอาจเป็นที่มาของมะเร็งไฝ

 

มะเร็งไฝ Melanoma

เกิดจากเซลล์สร้างสีผิว melanocyte การที่จะเข้าใจโรคนี้ท่านจะต้องเข้าใจโครงสร้างของผิวหนัง เป็นมะเร็งผิวหนังชนิดหนึ่งที่แพร่กระจายเร็วมาก

โครงสร้างของผิวหนัง 

  • ผิวหนังเป็นอวัยวะที่ห่อหุ้มร่างกายทำหน้าที่ป้องกัน ความร้อน แสง การติดเชื้อ ควบคุมอุณหภูมิของร่างกาย และสร้างวิตามินดีผิวหนังประกอบด้วยเซลล์สองชั้น

  • ชั้น epidermis เป็นชั้นนอกสุดประกอบด้วยชั้นบนสุดเป็น squamous เซลล์รองลงมาได้แก่ basal cell โดยมี melanocyte อยู่ใต้ subcutaneous

  • ชั้น dermis เป็นชั้นที่อยู่ของ ต่อมขน ต่อมเหงื่อ ต่อมไขมัน หลอดเลือด

 

Melanocyte และ ไฝ Mole

melanocyte เป็นตัวสร้างสีผิว melanin เมื่อผิวถูกแสงทำให้สีผิวเข็มขึ้น ไฝเป็นกลุ่มของ melanocyte ที่อยู่รวมกันมักเกิดในช่วงอายุ 10-40 ปี อาจจะแบน หรือนูน สีอาจเป็นสีชมพู หรือสีน้ำตาล รูปร่างกลม หรือวงรีไฝมักจะไม่เปลี่ยนแปลงขนาดหรือสีตัดออกแล้วไม่กลับเป็นซ้ำ

 

Melamoma

เป็นมะเร็งที่เกิดจากเซลล์ melanocyte ที่แบ่งตัวนอกเหนือการควบคุมของร่างกาย ถ้าเกิดที่ผิวหนังเรียก cutaneous melanoma เกิดที่ตาเรียก ocular melanoma โดยทั่วไปเกิดบริเวณลำตัว ขา ถ้าคนผิวดำมักเกิดที่เล็บ โดยทั่วไปมะเร็งแพร่กระจายไปยังต่อมน้ำเหลืองและอาจพบที่อวัยวะอื่นๆได้เรียก metastasis melanoma


ปัจจัยเสี่ยงของการเกิดมะเร็ง

  • ประวัติครอบครัวเป็นมะเร็งไฝ จะมีความเสี่ยงเพิ่มมากกว่า 2 เท่าดังนั้นสมาชิกในครอบครัวควรได้รับการตรวจจากแพทย์
  • Dysplastic nevi ไฝที่มีลักษณะชิ้นเนื้อแบบนี้จะมีโอกาสเป็นมะเร็งสูง
  • เคยเป็น melanoma
  • ภูมิคุ้มกันอ่อนแอ เช่น AIDS
  • มีไฝจำนวนมาก เช่นมากกว่า 50 เม็ดจะมีโอกาสเป็นมะเร็งมาก
  • แสง ultraviolet ควรสวมเสื้อแขนยาวและหมวกเพื่อกันแสง ควรหลีกเลี่ยงแสงแดดเวลา 10-16.00 น.ควรทาครีมกันแสงร่วมด้วย
  • เคยถูกแสงจนไหม้เมื่อวัยเด็ก ดังนั้นควรป้องกันไม่ให้เด็กสัมผัสแสงแดด
  • สีผิว ผิวขาวมีโอกาสเกิดมะเร็งได้ง่ายกว่าผิวคล้ำ
4 ข้อสังเกตไฝดีหรือร้าย จากสัญลักษณ์จำง่าย ๆ A B C D 
มาจาก Asymmetry เป็นการสังเกตความสม่ำเสมอของสีไฝ หากในเม็ดเดียวกันมีทั้งสีเข้มและอ่อนควรเข้าพบแพทย์

B คือ Border เปรียบให้เป็นการสังเกตขอบเขตของเมลาโนมา แม้จะปรากฏให้เห็นไม่ค่อยชัดเจน แต่ให้พยายามดูว่ามีรอยหยัก รอยนูน ที่สูงต่ำไม่เท่ากันหรือไม่

C ย่อจาก Color ให้สังเกตลักษณะสี ถ้าเข้มมาก หรือดำมาก จัดว่าเป็นอันตราย

D หรือ Diameter ต้องดูขนาด หากขยายใหญ่เกิน 6 มิลลิเมตร จำเป็นต้องพบแพทย์เพื่อตรวจหาความผิดปกติ

อย่างไรก็ตาม กระบวนการรักษา แพทย์จะวินิจฉัยจากการตัดชิ้นเนื้อหรือไฝไปตรวจทางพยาธิวิทยา หากพบว่า เป็นมะเร็งไฝ แพทย์จะการกระจายของเมลาโนมาต่อไป ก่อนทำการผ่าตัดรักษา.

อาการของมะเร็งไฝ

อาการเริ่มแรกมักเริ่มเกิดการเปลี่ยนแปลง ขนาด สี รูปร่าง ขอบ บางรายอาจมีอาการคัน มีขุยหากเป็นมากขึ้นอาจมีการเปลี่ยนแปลงของความแข็ง หากพบมะเร็งเริ่มต้นการรักษาจะหายขาด แต่หากรุกลามเข้าใต้ผิวหนังมะเร็งอาจแพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่น

 

 


หากแพทย์สงสัยว่าไฝที่เห็นว่าจะเป็นมะเร็งแพทย์จะตัดก้อนนั้นส่งพยาธิแพทย์ตรวจด้วยกล้องจุลทัศน์ หากก้อนนั้นใหญ่มากแพทย์จะตัดเพียงบางส่วนส่งตรวจ ถ้าพบเซลล์มะเร็งแพทย์จะตรวจพิเศษเพิ่มเพื่อตรวจดูว่ามะเร็งแพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่นหรือยังการวินิจฉัย

การรักษา

หลังจากวินิจฉัยและทราบการแพร่กระจายของโรคแพทย์จะวางแผนการรักษา ก่อนการรักษาควรจดบันทึกคำถามเพื่อถามแพทย์ดังตัวอย่าง

  • การวินิจฉัยของแพทย์
  • มะเร็งแพร่กระจายไปหรือยัง
  • ควรจะรักษาด้วยวิธีใดดีที่สุด และแพทย์เลือกวิธีใด
  • โอกาสที่จะประสบผลสำเร็จมีมากหรือไม่
  • เราจะทราบอย่างไรว่าการรักษาได้ผล
  • การรักษาจะสิ้นสุดเมื่อใด
  • จะดูแลตัวเองระหว่างการรักษาอย่างไร
  • ผลข้างเคียงของการรักษามีอะไรบ้าง
  • จะเจ็บปวดหรือไม่ และจะใช้ยาอะไรในการควบคุม
  • หลังการผ่าตัดต้องรักษาอย่างอื่นหรือไม่

วิธีการรักษา

  1. การผ่าตัด เป็นการรักษามาตรฐานแพทย์จะพยายามตัดเนื้อร้ายออกให้หมดร่วมทั้งต่อมน้ำเหลืองที่ใกล้เนื้อร้าย ถ้ามะเร็งแพร่กระจายไปอวัยวะอื่นแพทย์จะให้การรักษาอย่างอื่น
  2. เคมีบำบัด เป็นการให้สารเคมีเพื่อฆ่าเซลล์มะเร็งโดยอาจเป็นยากินหรือยาฉีด
  3. รังสีรักษาเป็นการฆ่ามะเร็งเฉพาะที่โดยเฉพาะมะเร็งที่แพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่น เช่น สมอง ปอด ตับ
  4. การสร้างภูมิคุ้มกัน อาจให้ภูมิโดยการฉีด เช่นการให้ interferon หรือ interleukin โดยการกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิขึ้นมาเช่นการฉีดวัคซีน

ผลข้างเคียงของการรักษา

  1. การผ่าตัด อาจทำให้เกิดแผลเป็นบางรายเกิด keloid การตัดต่อมน้ำเหลืองอาจทำให้ขาหรือแขนบวม
  2. เคมีบำบัด การให้เคมีบำบัดอาจให้เกิดโลหิตจาง ติดเชื้อง่าย หรือเลือดออกง่าย ผมร่วง
  3. รังสีรักษา ทำให้ผมบริเวณที่ฉายรังสีร่วง อาจมีอาการอ่อนเพลีย
  4. การสร้างภูมิคุ้มกัน อาจมีอาการปวดเมื่อตามตัวเบื่ออาหาร ท้องร่วง

 

แหล่งข้อมูล 

สัมภาษณ์ พญ. นุสรา วงษ์รัตนภัสสร

http://www.siamhealth.net/public_html/Disease/cancer/melanoma.htm

ญ.พู่กลิ่น ตรีสุโกศล แพทย์ผิวหนังและภูมิแพ้ โรงพยาบาลพญาไท 2

Posted in BEAUTY TECHNOLOGY, SKINComments (0)

ลดแก้มด้วยวิธีที่ 3 – TRILIPO คลื่นความถี่วิทยุแบบ 3 ขั้ว

อยากให้แก้มลดลงแต่ไม่เคยคิดว่าจะมาลงเอยด้วยวิธีนี้

บอกตรงๆว่าไม่ค่อยเชื่อมั่นว่าจะได้ผลกับใบหน้า ทั้งที่มันมีหัวไว้ทำกับใบหน้าและดวงตา

TRILIPO คือ คลื่นวิทยุ RFที่มี 3 ขั้ว ไว้ปล่อยพลังงานความร้อนเพื่อกระชับ

ช่วยกระชับสัดส่วนทั่วร่างให้ผลดีรองจากหัวเดียวซึ่งราคาก็ถูกกว่าหัวเดียวมาก

คลื่นวิทยุดังๆในเรื่องยกกระชับคือ THEMAGE แต่แพงกว่าเกือบยี่ิสิบเท่า

” หลักการทำงาน “ ปล่อยคลื่นความถี่วิทยุเป็นความร้อนไปทำหน้าที่ออกกำลังกายกระชับกล้ามเนื้อชั้นลึก ไขมันเมื่อโดนความร้อน โดนกระชับเซลล์ในไขมันก็แตกตัว ทำให้น้ำในเซลล์ไขมันถูกขับออกมา ภายหลังเกิดการจัดเรียงตัวของไขมันใหม่ ก็จะกระชับขึ้น หลักการของมันมีประมาณนี้ ความร้อนของ RF ลงไปลึกมากถึงชั้นไขมัน ซึ่งเลเซอร์หลายตัวลงไปไม่ถึง ที่เป็นจุดเด่นคือไม่มีแผล ไม่เจ็บ แต่เห็นผลเหมือนกัน

หน้าที่มีทั้งหมด 3 อย่าง

  1. ออกกำลังกายกล้ามเนื้อ
  2. กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
  3. เร่งกระบวนการเผาผลาญไขมันเฉพาะส่วน

 

หน้าตาของ TRILIPO มีหลายขนาด ไว้ทำตัว ทำหน้า ทำตา ก็จะมีขนาดเล็กลงไปเรื่อยๆ

หมอทำให้ไม่ได้เสียค่าใช้จ่ายนะคะ เอิ๊กก็ไม่ทำ เพราะอย่างที่บอกดูหน้าตาก็ไม่หน้าจะทำได้อันแค่เนี๊ยะลดแก้มได้ 555 (สมัยความรู้เรื่อง RF ยังไม่มี) จนพี่คนนึงเป็นลูกค้า มาชมให้ฟังว่าซื้อสองคอร์สแล้ว แต่เขาซื้อตอนโปร ทำได้ถูกมากเปรียบลด 50% ราคาตอนลดอยู่ที่ประมาณครั้งละ 1600 ทั่วใบหน้า คือแบบว่า ถูกกว่าฉีด LIPO MESO บลาบลาๆ ซึ่งเจ็บมากต่หลักการเดียวการ ต้องทำต่อเนื่อง หลายครั้งเหมือนกัน คือถ้าปล่อยให้อ้วนมันก็กลับมาใหม่ เขาพูดรอบแรกเราก็เฉย พี่เขาหล่อ หน้าเรียวเล็กอยู่แล้ว จนเห็นพี่สาวสุดที่รักทำ ตกใจนึกว่าศัลยกรรม 5555 หน้ามีแก้ม แฟบไปเลย แต่เขาทำต่อเนื่อง ส่วนเอิ๊กขอลองความรู้สึก และ อยากรู้ไขมันช่วงแก้มเราตอบสนองรึเปล่า เลยลองไป 1 ครั้ง

ทำที่ ISKYCENTER ที่เก่าเวลาใหม่ 555 ทำกับคุณนุชค่ะ เขาบอกว่าเก่งสุดแล้วสำหรับ TRILIPO

ขอโทษที่จำไม่ได้ว่ากี่นาทีเพราะหลับอะ 555 นอนกรนเก๋ๆ เขาจะทำความสะอาดใบหน้าให้เราด้วยคลีนซิ่งสำหรับผิวเรา (ของเอิ๊กแพ้ง่าย) แล้วมีเจลสองตัวให้เลือกคือ กลีเซอรีน กับ เจลก่อนลง IPL เอิ๊กใช้ตัวหลัง แต่ยังไงผิวเอิ๊กยังมีการระคายเคืองขึ้นหลังทำไม่ เจล ก็ คลีนซิ่ง หน้าเอิ๊กแพ้ง่ายจริงๆ บางทีจะบอกว่าไปทำอะไรที่ศูนย์ความงาน คลินิค หรือ เลเซอร์ ถ้าผิวแพ้ง่ายเตรียมอุปกรณ์ล้างหน้าไปเลย หรือไปเวิร์คช็อปแต่งหน้าที่ไหนก็ตามพกไป !!!! 

  • ทำความสะอาดใบหน้า ใต้ตา บริเวณที่จะทำ
  • ลงเจล IPL ให้เครื่องไหลลื่น และ ปล่อยพลังงานได้ไม่มีสะดุด
  • วนไปให้ทั่วใบหน้า
  • วนไปใต้ดวงตา ถ้าทำดวงตาด้วย
  • ซับหน้าด้วยกระดาษทิชชู่
รอผลลัพธ์ซัก 1 เดือน บางคนก็เห็นเลย  ของเอิ๊กเป็นแบบนี้ ….
ก่อนทำก็ไม่ได้ใหญ่แต่ช่วงข้างแก้มห้อย 5555 แก่แล้วก็แบบนี้แหละ ที่รู้สึกได้ ใต้ตาเรียบไปเลยเป็นอาทิตย์ก่อนจะกลับมาเหมือนเดิม เพราะไม่ได้ซ้ำ การทำซ้ำต้องเดือนละ 4 ครั้ง ซักระยะ ค่อยทิ้งช่วงเดือนละครั้งสองครั้งได้ นี่ทำครั้งเดียวคิดว่ามันเลยเห็นผลทันทีไม่ชัด
หลังทำ 1 เดือน อย่างที่เคยบอกเอิ๊กมีปัญหาเรื่องระบบหน้าบวมน้ำ วันดีคืนดี เช้าหน้าใหญ่ เย็นหน้าเล็ก เช้าเล็ก กลางวันอืด เย็นเล็ก คือถ้าทานโซเดียมเยอะมันขึ้นอืดทันที ดังนั้น ตอน1เดือนยังวัดไม่ได้ ความรู้สึกคือ ส่วนห้อยข้างแก้ม ดูไม่ห้อย แต่อืดนี่โซเดียมจัดช่วยไม่ได้ล๊า ~
1 เดือน 6 วัน วันนี้หน้าเรียวขึ้นนะ 5555 บอกแล้วแล้วแต่วัน แต่นอนตะแคงเลยย้อย
สรุปดูเอาเอง .. ไม่รีทัชรูปร่างนะคะ ขยายกันไปเลย
[ปล . ขอร้องโปรดอย่านำรูปไปทำอะไรในเชิงพาณิชย์ ขึ้นโรงพักบ่อยไปแจ้งความก่อนขึ้นศาลมันเหนื่อยจ๊ะที่รัก]
เอิ๊กว่ามันดูไข่มากขึ้น ความห้อยด้านข้างลดลง แต่หน้าดูเต็มๆมากกว่ารูปแรก สำหรับ 1 ครั้งทั้งที่ควรจะทำหลายครั้ง คุณหมอบอกให้มาซ้ำๆๆๆ 5555 ยังเลย ยังไม่มีเวลา เอิ๊กว่ามันเก็บที่ห้อยได้ดีนะ
วันนี้ทำงานหนักไม่ได้ทานข้าว หน้าหันข้างนี่แบบ ลืมหน้าเก่าไปเลย 😀 ปลื้มมมมลึ่ม แค่นี้ละพอล่ะ
เต็มตัวก่อนไปอีกซักรูป เพื่อให้ดูโดยรวมของใบหน้าค่ะ
สรุป สำหรับใบหน้าครั้งละ 4000 บาท / ครั้ง ซื้อเป็นคอร์สก็ถูกกว่าหน่อย ถ้าซื้อตอนโปรสบายตัวสุด แต่ยังไม่มีวี่แว่วจะกลับมา 55
ข้อเสีย ต้องทำบ่อยหลายครั้ง / ค่าใช้จ่ายสูง 4,000 บาท แต่ละครั้งไม่รวมดวงตา / ต้องเสียเวลา / ไขมันที่ออกไปแค่ทำให้เซลล์ไขมันเล็กลง ไม่ได้หายไป ถ้าอ้วนก็กลับมาใหม่ / ทำช่วงโบทูลินูมทอกซินไปแล้วไม่ได้ ความร้อนทำให้สลายไว
ข้อดี ไม่เจ็บ สบายที่สุดเมื่อเทียบกับวิธีอื่น / ผ่าน FDA ทั้งไทยและเทศ / ลงลึกถึงชั้นไขมัน / บางคนเห็นผลตั้งแต่ครั้งแรก / คิดว่าถ้าทำต่อเนื่อง ไขมันฟีบแน่ๆ / ทำได้ทั้งตัว / ลดเฉพาะส่วนที่อยากลด
 
XOXO
ไว้คราวหน้าลองลดต้นขา 5555 บางวันบวม บางวันไม่บวม โอยร่างกายฉัน ยังไงกันเนี่ย
ปล. ดูเป็นแนวทาง อย่าถึงขนาดเดือดร้อนแล้วมาทำเลยนะคะ โดยเฉพาะน้องๆหนูๆ น๊า <3

Posted in BODY, CHEEKS, RADIO FREQUENCY, THERMAGEComments (3)

ฝ้า รักษายังไง ?

 

 

ฝ้า หรือ รอยดำขนาดใหญ่ที่อยู่บนหน้า จะรักษายังไงติดตามกัน 🙂

ฝ้าเกิดจากอะไร

  1. แสงแดด (ปัจจัยหลัก)
  2. ฮอร์โมนมีการเปลี่ยนแปลง เช่น ขณะตั้งครรภ์ , ใกล้จะหมดประจำเดือน , รับประทานยาคุม
  3. กรรมพันธุ์

ลักษณะฝ้า

ขึ้นเป็นรอยน้ำตาล หรือ ดำ หรือ เทาปนน้ำเงิน เป็นเงากว้าง เช่นตามโหนกแก้ม หน้าผาก จมูก เหนือริมฝีปาก

ฝ้ามี 3 ประเภท

  1. ฝ้าตื้น จะมองเห็นเข้ม ชัด รักษาง่ายกว่าฝ้าลึก
  2. ฝ้าลึก จะมองเห็นบางเบา เป็นเงา สีคล้ำๆ เลือนๆ รักษายากกว่าฝ้าตื้น
  3. ฝ้าผสม ทั้งฝ้าลึก & ฝ้าตื้น ก็จะรักษาฝ้าตื้นก่อนฝ้าลึก

ฝ้าเกิดขึ้นเมื่ออายุเท่าใด

20 ปลายๆขึ้นไป เพราะเริ่มเกิดการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน / และการโดนแสงแดดมาเป็นเวลานานเริ่มส่งผล

สีผิวกับการเกิดฝ้า

คนที่มีสีผิวคล้ำมีโอกาสเกิดฝ้ามากกว่าคนที่มีสีผิวขาว เราจึงพบฝ้าในคนเอเชียมากกว่า คนแถบตะวันตก

การรักษาฝ้า

เริ่มต้นด้วยตัวเอง คือ ทากันแดด และ พบแพทย์เพื่อทายาที่แพทย์สั่งจ่ายได้เท่านั้น

  • สำคัญที่สุดและต้องเปลี่ยนแปลงไปตลอดชีวิต คือ การใช้สารกันแดดทุกวันให้พอเหมาะ และ ถูกต้อง SPF 30-50 ขึ้นไป และ PA +++ ขึ้นไป และปริมาณต้องเหมาะสม สำหรับทาหน้าถ้าเป็นเนื้อน้ำ ใช้เท่าเหรียญ 10 บาท 1 เหรียญ 2 ครั้ง ถ้าเหลือเยอะ ให้รอซักพักแล้วทาซ้ำอีกรอบได้  ถ้าเป็นเนื้อครีมให้บีบ 2 ข้อนิ้วชี้ จะได้ประมาณ 2 กรัมสำหรับทาหน้า ถ้าลำตัวใช้ถึงส่วนละ 7 กรัมขึ้นไป ถ้าอยู่ในกิจกรรมกลางแดด ต้องเลือกกันแดดที่กันน้ำ WATER PROOF , WATER RESISTANT และทาซ้ำทุก 2 ชั่วโมง รวมถึงการที่เหงื่อออกมากก็ต้องทาซ้ำ ปัจจุบันบางยี่ห้อก็ออกมาให้ทาทับเครื่องสำอางได้
  • ทายา ที่สามารถลอกผิวส่วนบนออก ฝ้าจึงแลดูจางลง (รักษาฝ้าตื้นได้ดี)
  • ทายา ที่ยับยั้งการสร้างเม็ดสีเข้ม ฝ้าจึงแลดูจางลง (รักษาฝ้าลึกได้ดี)
  • การทำทรีทเมนท์ด้วย AHA ลอกเซลล์ผิวด้านบน
  • การผลักวิตามินเข้าสู่ผิวหนังโดยเครื่อง
  • การฉายแสง LED สีเขียว เหลือง ผสมกัน ช่วยในการลดการสร้างเม็ดสีได้ ข้อเสีย ทำบ่อย ทำต่อเนื่อง
  • การเลเซอร์ ไม่ควรใช้ โดยเฉพาะคนผิวสองสี หรือ ผิวสีเข้ม เพราะผลข้างเคียงจะทำให้ฝ้าดำมากขึ้น รวมถึงรอยดำ

การทายารักษาฝ้ามีข้อควรระวัง เนื่องจากสารควบคุมที่ใช้รักษา อาจมาในรูปแบบสารไฮโดรควิโนน หรือ ปรอท ไฮโดรควิโนนนั้นแพทย์เท่านั้นถึงสั่งจ่ายได้เท่านั้น แต่ยังมีจำหน่ายกันอยู่ซึ่งอาจอยู่ในปริมาณที่สูงเกินกว่า อย. กำหนด และบางครั้งอาจเป็นปรอทผสม  ซึ่งดูดซึมเข้าสู่ร่างกายโดยง่ายเป็นพิษกับตับและไต รวมถึงกล้ามเนื้อ ถ้าสะสมในร่างกายเป็นเวลานานอาจทำให้เสียชีวิต ดังนั้น หากอยากซื้อยาทาฝ้าเอง เช็คเลขที่จดแจ้งขึ้นทะเบียนกับ อย. เป็นสำคัญ และกรุณานำเลขนั้นมาเช็คได้ในเว็บ FDA ทุกครั้งเพื่อความปลอดภัย ไม่ใช่แค่ยาทาฝ้า

การรักษาฝ้าให้ได้ผลดีที่สุด คือ การทากันแดด และ หลบแดดไปตลอดชีวิต ไม่ว่าฝ้า กระ มีสิทธิ์กลับมาได้ใหม่ตลอดเวลา รวมถึงใบหน้าที่ดูอายุมากกว่าอายุจริง เพราะ UVA ทำลายลึกไปยังเซลล์ผิวชั้นลึก ควรหัดทากันแดดทุกวันให้เป็นนิสัยค่ะ 🙂 EE 

เขียนและเรียบเรียงโดย erk-erk.com

 

ขอบพระคุณเนื้อหา

– แกะเทปสัมภาษณ์ ผศ. พญ. รังสิมา วณิชภักดีเดชา

– รูป laskinmd dot com

– pharmacy.mahidol.ac.th/thai/knowledgeinfo.php?id=14

Posted in BEAUTY TECHNOLOGY, FACEComments (0)

อยากหน้าเรียวทำอย่างไร ? รวมรวบวิธีทำหน้าเรียว ภาค 2

หลังจากที่ดูภาค 1 ของคุณหมอ อภิรุจ กันแล้ว

ภาค 2 ขอเป็นตัวเอิ๊กเอง และ สัมภาษณ์จากคุณหมอ รังสิมา อีกท่าน

ขอบพระคุณคุณหมอทุกท่านด้วยค่ะ

บทความนี้ขออนุญาตแนะนำตามสไตล์คนไข้ และ สิ่งที่ได้เรียนรู้มาจากคุณหมอทุกท่านนะคะ รวมถึงวิธีการใหม่ๆที่จะนำมาเล่าด้วยค่ะ 🙂 ไม่ได้สนับสนุนให้ใครทำ แต่เป็นการแชร์ประสบการณ์ที่เราได้ผ่านมาและมีความสุขขึ้นกับมันอย่างปลอดภัยค่ะ 

ในอดีตการอยากทำหน้าเรียวคงไม่ได้แพร่หลาย และ วิธีการก็ไม่ได้มากมายเหมือนอย่างตอนนี้ ใครที่อยากหน้าเรียวก็คงหมดสิทธิ์ ใครอยากทำจริงก็คงต้องศัลยกรรมตัดกรามอย่างเดียว หรือ ไม่ก็จัดฟัน ถอนเยอะๆ พอขยับฟันให้เข้าไป หน้าก็ดูเรียวเล็กขึ้น แต่ในความเป็นจริงแล้ว ไม่ใช่ทุกคนที่สามารถตัดกระดูกแนวกรามได้ เพราะไม่ใช่ทุกคนที่มีกระดูกแนวกรามขนาดใหญ่ และไม่ใช่ทุกคนที่จะถอนฟันออกเยอะได้ เพราะบางคนก็ฟันน้อยอยู่แล้ว สังเกตุได้ง่ายๆ ฟันบางคนถอนแล้ว พอดัดเสร็จคล้ายคนแก่ ฟันงุ้มเข้าไปเยอะ ซึ่งไม่ค่อยจะคุ้มเท่าไหร่ โชคดีที่เอิ๊กรอ 55555555555 รอเป็นสิบปี เดี๋ยวจะรออีก คิดว่าต้องมีวิธีที่ง่ายและไม่เจ็บและเหมาะกับเอิ๊กแน่นอน

วัตถุประสงค์เอิ๊กคือ ทำยังไงก็ได้ให้แก้มดูน้อยลง ปกติแก้มเยอะขั้นอืด หน้าอืด และ อยากให้หน้าดูเรียว คางดูยาวกว่านี้

สภาพร่างกายเอิ๊กเป็นคนที่บวมน้ำง่าย จะออกหน้า ออกขา ดังนั้น เช้าบวม-เย็นหด เช้าหด-เย็นบวม นี่คือข้อจำกัดของร่างกายเอิ๊ก ทางแก้หากร่างกายเยอะ แสดงว่าทานน้ำน้อย และ ทานโซเดียม หรือ ขอรสจัด เค็ม ผงชูรสเยอะ ต้องรีบทานน้ำ หน้าจะหดลงกลับสู่สภาพปกติ ดังนั้นจะทำวิธีไหนก็ไม่ถาวรภายในวันเดียวกัน 5555555 เศร้านะ

 เมื่อทราบสิ่งที่ต้องการ – ข้อจำกัดของร่างกายของแต่ละคน สิ่งสำคัญที่สุดที่ต้องทราบ ..

อยากหน้าเรียวโครงสร้างใบหน้าเราเป็นแบบไหนหน้าถึงไม่เรียว

1. กระดูก โหนกสูง กระดูกกรามใหญ่

2. กล้ามเนื้อช่วงมัดแนวกรามใหญ่

3. คางสั้น หน้าเลยดูสั้น

4. ไขมันกระพุ้งแก้มเยอะ

 

จะมี 4 สาเหตุนี้ที่ทำให้เราเองอาจจะรู้สึกไปเองว่าหน้าดูไม่เรียว ทั้งนี้จะดูเรียวขึ้นมากน้อยขึ้นกับหน้าของแต่ละคน และวิธีการที่เลือก รวมถึงปริมาณในการทำของแต่ละวิธี เมื่อทราบแล้ว เราไปดูกันดีกว่า สาเหตุ 1-4 เราจะใช้วิธีไหนได้บ้าง บางคนวิธีเดียวจบ บางคนต้องผสมผสานกันหลากหลายวิธี 

1. กระดูก โหนกสูง กระดูกกรามใหญ่

 หากเป็นสาเหตุนี้จะต้องใช้วิธีศัลยกรรมปรับแต่งกระดูก ไม่ว่าจะตัด เหลา

ข้อดี หน้าเราก็จะดูเรียวลงแบบเห็นได้ชัด / ค่าใช้จ่ายเพียงครั้งเดียวผลถาวรตลอดไป

ข้อด้อย หากเราไม่ชอบเราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงกลับมาเป็นแบบเดิมได้ / ต้องได้แพทย์ที่เก่งและเข้าใจสรีระโครงสร้างใบหน้าเราดีพอ รู้ว่าจุดไหนที่สามารถที่ทำให้เราพอใจ / ราคาสูง


2. กล้ามเนื้อช่วงมัดแนวกรามใหญ่

วิธีนี้ปัญหาจะอยู่ที่บริเวณกล้ามเนื้อมัดแนวกราม หากเอามือวางแนบสนิทบนใบหน้าแล้วลองกัดฟันแน่นๆ พบว่ามีกล้ามเนื้อปูดขึ้นมาจนรู้สึกและคลึงโดนได้ กล้ามเนื้อบริเวณแนวกรามช่วงนี้ จะสามารถฉีดโบทูลินูมทอกซินให้กล้ามเนื้อส่วนนี้ลีบเล็กลง หรือ เป็นอัมพาตชั่วคราวได้ ใบหน้าก็จะเรียวลง เพราะกล้ามเนื้อมัดนั้นฟีบเล็กลงไป

ข้อดี หากไม่ชอบใบหน้าที่เล็กชอบแบบเดิมปล่อยไว้ 3-6 เดือนก็จะกลับมาเป็นแบบเดิม / ราคาสูงหลักพันถึงหมื่นกว่าๆ แต่ไม่เท่าผ่าตัด

ข้อด้อย กว่าจะเห็นผล 1-1.30 เดือน เต็มที่ 3 เดือน / ต้องได้แพทย์ที่เชี่ยวชาญเรื่องกล้ามเนื้อบนใบหน้าจริงๆ เพราะว่าบางคนฉีดแล้วปากเบี้ยว มุมปากตก (เอิ๊กเคย) /  ต้องฉีดซ้ำทุก 3-6 เดือน จากนั้นถ้าฉีดบ่อยอาจอยู่นานขึ้นเป็นปี

3. คางสั้น หน้าเลยดูสั้น

วิธีนี้จบลงด้วยการศัลยกรรมคางให้ดูยางไม่ว่าจะเป็นด้วยซิลิโคน กระดูกตัวเอง หรือ ฉีดฟิลเลอร์ 

ศัลยกรรม

ข้อดี ราคาไม่ได้แพงมากไปกว่าการทำฟิลเลอร์มากนัก / เจ็บครั้งเดียวก็จะอยู่นานซึ่งขึ้นกับการดูแล / การเสริมด้วยกระดูกตัวเองอาจจะแพงกว่า แต่ความเนียนจะดี และ ธรรมชาติกว่าซิลิโคน

ข้อด้อย เกิดการผ่าตัด / เจ็บ / ต้องพักฟื้น / ถ้าไม่พอใจ หรือ เกิดปัญหาอาจจะต้องผ่าตัดเอาออก

ฟิลเลอร์

ข้อดี ปั้นรูปทรงได้ตามชอบ / ไม่ต้องพักฟื้น / ไม่ชอบก็ปล่อยให้สลายไปเองถ้าเป็นฟิลเลอร์ชนิดไม่ถาวร / ธรรมชาติกว่าเมื่อเวลาผ่านไป 1-3 เดือนจะเริ่มเข้ารูป / ไม่เจ็บเท่าศัลยกรรม 

ข้อด้อย สลายไปภายในเวลา 6-12 เดือน / บางทีถ้าเราอยากทำศัลยกรรม บริเวณที่เราทำฟิลเลอร์ต่อให้เมื่อสลายไปหมด แต่เวลาที่ฟิลเลอร์อยู่อาจมีการสร้างพังผืดของเนื้อเยื่อในร่างกายเราขึ้น เราจึงต้องขูดมันออกก่อนทำศัลยกรรมจริง / ถ้าต้องฉีดบ่อยตลอดถือว่าแพงกว่าการทำศัลยกรรม

4. ไขมันกระพุ้งแก้มเยอะ

สัญลักษณ์ของความเป็นเด็ก ความอ่อนเยาว์ ซึ่งหลายๆคนชอบ แต่บางคนคงอยากมีช่วงเวลาโตเป็นสาวกันบ้าง 555 ก็ไม่ได้เอาออก แต่เราทำให้มันเล็กลงได้แบบถาวรถ้าเราไม่อ้วนขึ้น และ ไม่ถาวร ทำได้ 4 วิธี 1. ลดน้ำหนัก 2. คลื่นวิทยุ RF 3. ดูดเซลล์ไขมันออก (ACCULIFT) 4. ผ่าตัดเอาถุงไขมันช่วงแก้มออก buccal fat

ลดความอ้วน หากใครเมื่อผอมลงหน้าก็เล็กลงก็ลดน้ำหนักซะ

ข้อดี ไม่เสียเงิน / ถ้าลดถูกวิธีก็ได้เรื่องสุขภาพดี / ใส่เสื้อผ้าได้หลากหลาย / คล่องตัวมั่นใจขึ้น

ข้อด้อย ถ้าลดหักโหม จากสวยจะกลายเป็นซูบ

คลื่นวิทยุ RF หากใครตัวเล็กแต่หน้าใหญ่ลดน้ำหนักก็ไม่ลง แสดงว่าไขมันกระพุ้งแก้มคุณเยอะ buccal fat คลื่นวิทยุมีหลายตัวล่าสุดเพิ่งลอง trilipo เป็นคลื่นวิทยุสามขั้ว สามหัว อาจไม่ดีเท่าหัวขั้วเดียว แต่ถูกกว่า และ ถ้าหน้าไม่ได้หย่อนคล้อยคอลลาเจนเสื่อม แต่มีปัญหาแค่ไขมันจะกำลังดี

ข้อดี ไม่เจ็บเลย ไม่เหมือนฉีดสลายไขมันอันนั้นยังไม่ผ่าน อย. และ FDA / อาจแพ้เจลได้

ข้อด้อย ต้องทำบ่อย / ทำบ่อยจะเริ่มเห็นผลชัดขึ้น 4-10 ครั้งขึ้นไป / อ้วนอีกก็กลับมาอีกได้ ไม่ถาวร

ดูดไขมัน ACCULIFT ดูดเซลล์ไขมันออกไปเลย จะสอดเข็มเล็กๆมากๆเข้าไปแล้วดูด มักใช้ในคนอายุ 40 ขึ้นไปที่สภาพใบหน้าหย่อนคล้อยร่วมด้วย

ข้อดี เซลล์ไขมันน้อยลงถาวร ถ้าอ้วนอีก ก็ไม่กลับมาอีกเท่าตอนเซลล์ไขมันเยอะ

ข้อด้อย เจ็บ / หน้าบวมเป็นเดือน / เข็มไม่สะอาด อาจจะติดเชื้อ  / ความชำนาญของแพทย์สำคัญมาก

ศัลยกรรมผ่าตัด เอาถุงไขมันกระพุ้งแก้มออ

ข้อดี ถุงไขมันออกไปขนาดใหญ่ในคราวเดียว / ผลชัดเจนแจ่มแจ้ง / แผลด้านในปาก

ข้อด้อย แพง เสี่ยงต่อการใบหน้าสองข้างไม่เท่ากัน โอกาสสะสมใหม่มี

 

ราคา ค่าใช้จ่ายคิดว่าหลายคนอยากรู้แต่ขอโทษที่ไม่ได้ถามมาให้เพราะแต่ละที่ราคาไม่เหมือนกันเลย นำไปเสริทหาข้อมูลเรื่องราคาต่อเอานะคะ ส่วนเอิ๊กเองทำแค่ 3 อย่างคือ เป็นคนกล้ามเนื้อกรามใหญ่ ใช้วิธีโบทูลินูม ทอกซิน ซึ่งทำติดต่อกันเรื่อยมา / คางสั้น ฟิลเลอร์ แค่ครั้งเดียว/ แก้มยุ้ย เคยทั้งฉีดและTRILIPO ตอนหลังคิดว่าคงจะทำแค่คลื่นวิทยุ RF อย่างเดียวเพราะไม่เจ็บ เคยทำครั้งเดียวแล้วชอบมาก วันนี้เลยนำมาแชร์แต่วิธีที่ปลอดภัยแล้วกันนะคะ  อยากอ่านต่อว่าทำที่ไหนกับใครเสริทกลางบล็อคerk-erk.com ว่าหน้าเรียว เอิ๊กบันทึกไว้ทุกท่าน ตั้งแต่คุณหมอรังสิมา คุณหมออภิรุจ คุณหมอเจี๊ยบ ทั้งสามท่านทำดีหมด ทุกคนมีศิลปะเป็นของตัวเอง สไตล์ของแต่ละคนไม่เหมือนกันค่ะ ชอบทุกคน เพราะทุกคนแก้ปัญหาให้เอิ๊กได้แบบปลอดภัยหมด ดังนั้นอย่าถามว่าที่ไหนดีกว่ากัน ดีหมด แต่เลือกเอาแบบเดินทางสะดวก และ อยากทำกับใครดีกว่า หวังว่าคงได้ประโยชน์กัน ทั้งนี้จะได้ผลมากน้อยขึ้นกับแต่ละคน และไม่อยากให้คนที่ยังขอสตางค์คุณพ่อคุณแม่รีบร้อนนัก รอเราทำงาน หาข้อมูล เตรียมใจ เตรียมสตางค์พร้อมไม่เดือนร้อนใครแล้วค่อยลงมือดีกว่า มาแชร์ไม่ได้ชวนเสียตังค์นะ 5555  แค่อยากแบ่งปันประสบการณ์ที่ตัวเองรู้สึกดี ทุกวันนี้ใครจะชอบเอิ๊กแบบไหน แต่เอิ๊กชอบที่เอิ๊กเป็นเอิ๊กในวันนี้ เอิ๊กที่เป็นคนที่พัฒนาตัวเองขึ้นกว่าเมื่อวานในทุกๆด้าน เลี้ยงดูครอบครัว เป็นคนดีของแม่ เอิ๊กโอเคกับชีิวิตละ 😀 สวยอย่างปลอดภัย ก็ขอให้ไม่เดือดร้อนใครด้วยค่ะ <3

2010 ด้านบน

2012ด้านล่าง

XOXO

Posted in BEAUTY TECHNOLOGY, BOTOX, CHIN, HOW TOComments (4)

ตอบทุกปัญหาการทาและทานคอลลาเจนเพื่อผิวสวย

วันนี้เราจะมาพูดคุยกันถึงเรื่องรับทานคอลลาเจน ทาคอลลาเจน อะไรก็ตามที่เกี่ยวกับคอลลาเจน

ว่าความจริงมันได้ผลหรือไม่ เรื่องนี้เอิ๊กไม่เชี่ยวชาญ ดังนั้นต้องอัญเชิญ

แพทย์ผิวหนังผู้ทรงคุณวุฒิตอบคำถามข้อนี้ค่ะ 🙂

คอลลาเจนเอ๋ยเจ้าคืออะไรกันหนอ ?

คอลลาเจนคือเส้นใยโปรตีนชนิดนึงในร่างกายของเรา ทำหน้าที่เชื่อมเซลล์แต่ละเซลล์เข้าด้วยกัน เนื่องจากคอลลาเจนมีประมาณ 1 ใน 3 ของโปรตีนภายในร่างกายจึงมีแรงสปริงตัวทำให้ผิวหนังกระชับ เต่งตึง แข็งแรง เรียบเนียน ยืดหยุ่น คอลลาเจนพบได้ในผิวชั้นหนังแท้ และ พบได้ในอวัยวะด้วยเช่น ผังผืด (Fascia), กระดูกอ่อน (cartilage), เส้นเอ็น (ligaments), ข้อต่อ (tendons),กระดูก (bone)

หน้าตาเจ้าคอลลาเจน ดูเป็นเส้นใยระโยงระยางระยวยเต็มไปหมด

 คอลลาเจนมีอยู่ในร่างกายตามธรรมชาติ

เมื่อเราเกิดมาก็มีการสร้างคอลลาเจนในร่างกายตามธรรมชาติอยู่แล้ว แต่คอลลาเจนนั้นก็เป็นไปตามสังขารมนุษย์ เมื่ออายุที่เพิ่มมากขึ้นเลย 20-25-30 ปี การผลิตก็จะลดน้อยลงทีละนิดทีละนิด อย่างช้าๆทุกปี ทำให้เราเห็นตามวัฎจักรมนุษย์ เมื่อทุกคนเกิด ทุกคนโต ทุกคนก็ต้องแก่ และตายไปในที่สุด แม้เราพยายามยึดวัยมากเท่าไหร่ เมื่อเราอายุมากขึ้น ร่างกายเราก็จะกระตุ้นได้ยากมากขึ้นเท่านั้น 

ปัจจัยที่เร่งให้คอลลาเจนเสื่อมสภาพ

ตัวการที่ร้ายแรงที่สุด คือ แสงแดด โดยเฉพาะ UVA จะลงลึกถึงชั้นผิวหนังแท้ ทำให้เกิดอนุมูลอิสระทำลายเส้นใยคอลลาเจน มิหนำซ้ำ กระ ฝ้า เม็ดสี สีผิวไม่สม่ำเสมอก็ตามมา และเมื่อคอลลาเจนเสื่อมเราก็แค่แก่เร็วขึ้นเท่านั้นเอง

คอลลาเจนเสื่อมรู้ได้ยังไง ?

ผิวหนังแท้ของเราจะแบ่งเป็น 2 ระดับ หนังแท้ชั้นตื้น หนังแท้ชั้นลึก ชั้นตื้นจะมีคอลลาเจนน้อยกว่าชั้นลึก จุดสังเกตุแรก หากคอลลาเจนหนังแท้ส่วนตื้นเสื่อม ริ้วรอยจะมา รูขุมขนกว้างมากๆทั้งที่ไม่ได้หน้ามัน นอนดึก แต่กว้างแบบสุดพลังก็เกี่ยว หากคอลลาเจนเสื่อมที่ผิวหนังชั้นลึก ผิวพรรณของเราที่เคยจับแล้วดึ๋ง เต่งตึง ก็จะจับแล้วยวบยาบ กดแล้วยุบย้วย กว่าจะคืนสู่สภาพต้องใช้เวลา ยกตัวอย่างคุณย่า คุณตา คุณปู่ คุณยายของพวกเรา ผิวพรรณจะเริ่มไม่เรียบตึง


อยากสร้างคอลลาเจนใหม่อยากแก่ช้าทำไง ?

1. ฉีดสารคอลลาเจน [ แต่โอกาสแพ้สูง ] & ฉีดสารHyarulonic acid ให้อุ้มน้ำ ผิวจะดูอิ่ม เต่งตึงทันที

2. กระตุ้นการสร้างผิวใหม่ เช่น ให้ความร้อนลงไปยังชั้นหนังแท้ [ เลเซอร์ ] , ทำให้ผิวเกิดแผลเล็กๆ , ลอกผิวด้วยสารเคมี

แล้วการทาน & ทาคอลลาเจนล่ะ ?

  • สำหรับการทาด้วยมือ บอกตรงนี้เลยว่าไม่มีครีมตัวไหนสามารถซึมลึกผ่านลงชั้นหนังกำพร้า หรือ ชั้นขี้ไคลไปได้ เพราะผิวเราวิเศษมีการป้องกันตัวเองจากสิ่งแปลกปลอมอยู่แล้ว
  • สำหรับการทานร่างกายมีระบบการย่อยที่ซับซ้อนหลายขั้นตอน ทานคอลลาเจนเข้าไป เจอย่อยไปเรื่อยๆก็เหลือเพียงเศษเสี้ยวกลายเป็นกรดอะมิโน (โอเค) ไป คงไม่ได้ไปทำให้เต่งตึง เปล่งปลั่งขึ้นได้ ร่างกายไม่สามารถดูดซึมโมเลกุลที่มีขนาดใหญ่อย่างคอลลาเจนได้ หรือ ถ้าได้อย่างที่คุณหมอว่าก็คือทานไปจะไปพอกจุดไหนก็ไม่ทราบได้ 
อยากรักษากลไลสร้างคอลลาเจนในร่างกายให้ยาวนานขึ้นทำยังไง ?
ปกติก็สร้างเองในร่างกายอยู่แล้วเพียงแต่ลดลงทีละเล็กน้อยเมื่ออายุ 25 ขึ้นไป แต่หากอยากให้กลไลร่างกายยังสร้างได้ดีอยู่ไม่ลดลงไปมาก ก็รับประทานอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่ / ออกกำลังกายสำคัญมากเพราะต้านอนุมูลอิสระ อนุมูลอิสระนั้นทำให้เซลล์ในร่างกายเสื่อม คอลลาเจนก็เสื่อมไปด้วย / และนอนให้ตรงเวลา อย่านอนดึกแบบเอิ๊ก เพราะเวลากลางคืนเป็นเวลาที่ผิวหนังซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ลองนอนหัวค่ำทุกวัน หน้าดีขึ้นแน่นอน
จากใจนะ จะทานอะไร จะทาอะไรหาข้อมูลให้ดี โดยเฉพาะข้อมูลทางวิชาการ โดยเฉพาะอะไรที่นำเข้าสู่ร่างกาย   
และในความรู้สึก ” การออกกำลังกายนั้น ไม่ว่าในรูปแบบไหน ชะลอวัยได้เรื่องจริง “
อ่าน ฟัง หาข้อมูล แล้วเขียนเอง หากผิดพลาดประการใดติได้ค่ะ <3

Posted in BEAUTY TECHNOLOGY, SKINComments (0)

advert

Google

erk-erk.com





BEAUTY MENU

มาคุยกับเอิ๊กได้ที่นี่ทุกวัน ถ้าว่างรีบตอบทุกคำถามค่ะ

INSTAGRAM @wwwerkerkcom

[instagram-feed]

ติดตามบล็อค erk-erk.com อย่างใกล้ชิด

เพียงกรอก Email ตรงนี้เลย

LINE @erk-erk

เพิ่มเพื่อน

Related Sites