การรักษาสิว รอยแผลเป็นจากสิว และ ฝ้า
- Kobayashi Laser
ทำลายต่อมไขมันที่ผลิตไขมันมากจนเกินไปใต้ผิว ทำให้สามารถแก้ไขปัญหาเรื่องสิวหัวดำได้ และทำให้รูขุมขนกระชับขึ้นได้ แต่ทั้งนี้รูขุมขนจะกระชับหรือไม่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละคนด้วย ซึ่งตามหลักแล้วหากต่อมไขมันผลิตน้ำมันได้น้อยลง ก็จะทำให้รูขุมขนนั้นไม่กว้างขึ้นตามไปด้วย
ระยะเวลาในการรักษา และ จำนวนครั้งในการรักษา
ขึ้นกับสภาพผิวของแต่ละคน แต่โดยปกติการรักษาสิวจะทำการรักษาประมาณ 1-2 ครั้งต่อเดือน และ การกระชับรูขุมชนนั้นจะทำการรักษา 4-5 ครั้งต่อเดือน
- Skin Scaling (การขัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว)
กรณีที่สิวอุดตันแพร่กระจายจนทำให้ใบหน้าไม่เรียบเนียน อาจรักษาได้ด้วยเทคนิคการลอกผิวนี้ การรักษาทำได้โดยการใช้ยาทางเคมี เพื่อลอก และผลัดเซลล์ผิว และเปิดรูขุมขนที่อุดตันออก เพื่อทำให้ผิวที่อักเสบจากการเกิดสิวนั้น สามารถดูดซึมสารอาหารจากยาได้เพิ่มขึ้น หลังจากเข้ารับการรักษาด้วยวิธีนี้แล้ว ผิวก็จะทำการผลัดใหม่ ส่วนที่เคยเป็นสิว อาจจะมีรอยแผลเป็นหลงเหลืออยู่บ้าง แต่เมื่อเวลาผ่านไปก็จะลอกออก และจางหายไปเอง การรักษาวิธีนี้ค่อนข้างสะดวก เพราะสามารถล้างหน้า หรือแต่งหน้าได้ทันที ทำให้ปัญหาผิวหน้าที่เคยเป็นอุปสรรคต่อการดำเนินชีวิตหมดไป โดยส่วนตัวคิดว่าอาจเหมาะกับคนผิวมันมากกว่าผิวแห้ง
ขั้นตอนในการรักษา
ขั้นที่ 1 หลังจากทำความสะอาดผิวอย่างล้ำลึกด้วยคลีนซิ่งแล้ว ก็จะทำการขัดผิวก่อน
ขั้นที่ 2 เพื่อให้การลอกผิวมีประสิทธิภาพมากขึ้น ก็จะลงด้วยโลชั่นที่ทำให้สภาพผิวหน้านั้นแห้งลง
ขั้นที่ 3 หลังจากทำการขัดผิวหน้าทั้งหมด อาจจะรู้สึกเจ็บอยู่บ้าง จะใช้เวลาขั้นตอนนี้เพียงแค่ 30 วินาทีเท่านั้น
ขั้นที่ 4 ประคบด้วยถุงน้ำแข็ง เพื่อลดอาการปวด และความร้อนจากการขัดผิวขั้นที่ 5 เผื่อลดอาการผื่นแดง ให้ประคบด้วยน้ำแข็งทุกๆ 15 นาที และให้ผิวได้ดูดซึมสารอาหารผ่านสกินมาสเตอร์
ขั้นที่ 6 เพื่อฟื้นฟูผิวหน้า หลังจากนั้นอีก 15 นาทีจะทำการมาร์คผิวหน้าด้วยวิตามิน และฉายเลเซอร์ฮีเลียม นีออนอีกครั้งหนึ่ง
ขั้นที่ 7 หลังจากนั้นจึงลงครีมที่ช่วยฟื้นฟูผิว ซึ่งจะแตกต่างกันออกไปตามสภาพผิวแต่ละคน สุดท้ายลงครีมกันแดดอีกครั้งหนึ่ง
ก่อน และ หลังการรักษาด้วยการขัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว
- New Smooth Beam
เลเซอร์นี้จะไปทำลายที่ต่อมไขมันในชั้นผิวโดยตรง ซึ่งเป็นตัวการของการเกิดสิว จะทำการควบคุม และจัดการต่อมไขมันให้ขับไขมันออกมาในระดับที่พอเหมาะ แรกเริ่มจะทำให้ผิวในชั้นหนังกำพร้านั้นอยู่ในสภาพที่เย็นจัดที่สุดด้วยเทคโนโลยี DCD จากนั้นจึงทำการกระตุ้นต่อมไขมันในชั้นหนังกำพร้า และเร่งให้เกิดการผลิตคอลลาเจนในเส้นใยอีลาสติกให้มีความยืดหยุ่นขึ้น ผลลัพธ์คือจะทำให้ต่อมไขมันถูกทำลาย และเกิดการผลิตคอลลาเจนเพิ่มขึ้น ทำให้มีประสิทธิภาพในการรักษาปัญหาผิวหน้าทั้งจากสิว รอยแผลเป็น หรือริ้วรอยต่างๆ ได้เป็นอย่างดีการรักษาปัญหาผิวหน้าด้วยเลเซอร์ชนิดนี้ ได้รับการยอมรับว่ามีประสิทธิภาพยอดเยี่ยมที่สุด ไม่แพ้การรักษาด้วยเลเซอร์ชนิดอื่นๆ จาก FDA การรักษาด้วยเลเซอร์ชนิดนี้จะช่วยลดการเกิดสิวขึ้นอีก ควบคุมต่อมไขมันที่เป็นต้นเหตุของการเกิดสิวในระยะยาว หลังจากการรักษาแล้ว สามารถฟื้นฟูสภาพผิวหน้าได้อย่างรวดเร็ว จึงทำให้สามารถล้างหน้า หรือแต่งหน้าได้ตามปกติ หากรักษาด้วย New Smooth Beam นี้ควบคู่ไปกับเลเซอร์อื่นๆ อย่าง Fraxel Laser และ Affirm Laser ไปพร้อมๆกัน ก็จะทำให้ประสิทธิภาพในการรักษาสูงขึ้น เห็นผลได้อย่างชัดเจนมากขึ้น
- V-Beam Laser
การปล่อยแสงเลเซอร์ไปที่เส้นเลือดในระยะเวลาสั้นๆ บริเวณที่ต้องการรักษา เป็นการรักษาแบบเลเซอร์ที่เหมาะกับการรักษาพวกรอยแผลแดง รอยฟกช้ำต่างๆ ได้เป็นอย่างดี พลังงานดังกล่าวจะถูกดูดซึมเข้าไปในเลือด และเกาะอยู่ตามผนังเส้นเลือด แต่จะไม่ส่งผลหรือเป็นอันตรายใดๆ ต่อร่างกาย และไม่ทำให้ผิวบริเวณที่ถูกเลเซอร์นั้นได้รับผลกระทบแต่อย่างใด เป็นการรักษาที่เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาเส้นเลือดโป่งพอง ไฝ ปานแต่กำเนิด รอยแผลนูน และรอยแผลเป็นแดงต่างๆ
เลเซอร์กระชับรูขุมขนและยกกระชับหน้า
- Affirm Laser
เลเซอร์ในการรักษาผิวชนิดหนึ่ง โดยการใช้ Cap Technology ซึ่งการฉายแสงแต่ละครั้ง จะทำการสร้างอณูเล็กๆ ขึ้นที่ผิวหน้าบริเวณที่ฉายแสงกว่า 1,000 แห่ง เพื่อไปกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนขึ้นในผิว ช่วยในการการกระชับรูขุมยกกระชับใบหน้า รักษาริ้วรอย และรอยแผลเป็นต่างๆ ได้ ช่วยรักษาสิว รอยแผลเป็น รอยแผลไฟลวก โรคจากเม็ดสีผิว กระชับรูขุมขน ริ้วรอย และผิวที่หยาบกร้าน ช่วยให้เกิดการผลิตคอลลาเจนขึ้นใหม่ใต้ผิว ส่งผลให้พวกรอยแผลต่างๆ ลดลงอย่างเห็นได้ชัด สามารถรักษาให้หายขาดได้แม้ทำการรักษาแค่ครั้งเดียว ไม่จำเป็นต้องทำการรักษาหลายรอบเช่นการรักษาในแบบอื่นๆ นอกจากนี้ ยังไม่มีอาการเจ็บปวดจากการรักษามากนัก และผิวยังสามารถฟื้นฟูได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย จำนวนครั้งที่จำเป็นต้องเข้ารับการรักษานั้น อาจจะขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละคนด้วย แต่โดยปกติ ก็จะเห็นผลได้ตั้งแต่การรักษาเพียงครั้งแรกแล้ว ส่วนการรักษาพวกรอยแผล และริ้วรอยต่างๆ นั้นจำเป็นต้องทำการรักษาประมาณ 3-5 ครั้ง (ใช้เวลาประมาณ 3-4 สัปดาห์) จึงจะเห็นผล และหายเป็นปกติ
ก่อน และหลังการทำเลเซอร์กระชับรูขุมขนแบบ Affirm Laser
- CO2 Fractional
เทคโนโลยีกระชับรูขุมขน และ ยกกระชับใบหน้าที่ใช้หลักการทำงานของคลื่นความถี่สูง และเลเซอร์ IR ร่วมกัน แทบจะไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดเลย ช่วยกระตุ้นให้ให้ผิวนั้นสร้างสารอย่างคอลลาเจนขึ้นใหม่
- G-Beam
ช่วยยกกระชับใบหน้า ลดเลือนริ้วรอย กระชับรูขุมขน ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวหนัง ให้ผิวหน้าดูเนียนเรียบ โดยการฉายแสงเลเซอร์เพื่อรักษาผิวหน้าประเภทหนึ่ง โดยการใช้ก๊าซที่เย็นเป็นพิเศษอย่าง DCD ของเลเซอร์ Candela ลงไปที่ผิว เพื่อทำให้ผิวอยู่ในสภาพเย็นจัดอยู่ระยะหนึ่ง จากนั้นจึงฉายเลเซอร์ที่มีความร้อนลงไปรักษาผิวในชั้นหนังกำพร้า แล้วสุดท้ายจึงลงเลเซอร์ G-Beam ขึ้นลงอย่างต่อเนื่อง (เป็นหนึ่งในเลเซอร์ Nd:YAG ประเภทหนึ่ง) จะไปช่วยกระตุ้นอุณหภูมิของผิวหนังในชั้นหนังแท้ให้เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งเมื่ออุณหภูมิในผิวหนังชั้นนี้สูงขึ้นแล้ว ก็จะช่วยกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนขึ้นใหม่ ทำให้ริ้วรอยต่างๆ ดูจางลง ช่วยยกกระชับผิวหน้าที่หย่อนคล้อย กระชับรูขุมขน และทำให้รอยแผลเป็นจากสิวดูจางลง อีกทั้งยังมีประสิทธิภาพในการรักษาเกี่ยวกับโรคที่เกิดจากเม็ดสีผิว ขี้แมลงวัน และกระต่างๆ ได้ด้วย หลังจากทำการรักษาด้วยเลเซอร์ชนิดนี้แล้ว ผิวจะสดใส เต่งตึง และยกกระชับหน้าขึ้นอย่างเห็นได้ชัด นับว่าเป็นวิธีกระชับรูขุมขนและยกระชับหน้าได้เป็นอย่างดี ใช้เวลาเพียงครู่เดียวเท่านั้น และเห็นผลได้ในทันที ไม่มีแม้แต่ความเจ็บปวด หรือรอยแผลเป็น หรือสะเก็ดแผลใดๆ หลงเหลือ สามารถล้างหน้า หรือแต่งหน้าได้ในทันที โดยปกติการรักษาด้วยวิธีนี้จะใช้เวลา สองถึงสี่สัปดาห์ ประมาณ 3-5 ครั้ง และในแต่ละครั้งจะใช้เวลาเพียง 10-20 นาที ส่วนจำนวนครั้งที่ต้องเข้ารับการรักษานั้นจะขึ้นอยู่กับสภาพผิวของผู้เข้ารับการรักษาแต่ละท่านด้วย แต่หากหลังการรักษายังผิวนั้นมีลักษณะบวม หรือแดงขึ้น นั่นก็เป็นเพราะว่าคอลลาเจนที่อยู่ใต้ผิวนั้นกำลังฟื้นฟูอยู่ เมื่อเวลาผ่านไป อาการดังกล่าวก็จะหายไป และกลับเป็นปกติเช่นเดิม
- Relax F
การยกกระชับผิวหน้าด้วยโดยจะเจาะเข้าไปในชั้นผิว แล้วทำการปรับสภาพผิวชั้นหนังกำพร้า โดยจะถ่ายทอดพลังงานความร้อนที่มีความถี่สูงลงไปสู่ผิวชั้นหนังแท้ ทำให้ผิวหนังชั้นหนังกำพร้าสามารถรักษาความเย็นเอาไว้ได้ ส่งผลให้คอลลาเจนในผิวเกิดการหดตัว และเมื่อเวลาผ่านไป ก็จะไปกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ ทำให้ผิวพรรณสดใสขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
เลเซอร์ปรับสีผิวและสภาพผิว
- ไฝ
- กระ
- ขี้แมลงวัน
- ฝ้า
- ปาน
- จุดสีน้ำตาลตามผิวต่างๆ
- C6 Laser Toning
เลเซอร์ชนิดนี้เป็นการพัฒนาประสิทธิภาพเดิมของแนวคิด Q-Switch ในนวัตกรรมเลเซอร์แบบ Nd:YAG ขึ้น โดยการทำ Laser Toning เช่นนี้แพทย์จะทำการฉายเลเซอร์ลงไปยังโครงสร้างผิวโดยตรงเพียงแค่ครู่เดียวเท่านั้น ทำให้ผิวนั้นไม่ได้รับความเสียหาย และเกิดรอยแผลเป็นใดๆ มีประสิทธิภาพในการรักษาโรคที่เกี่ยวกับเม็ดสีผิวต่างๆ สิว หรือรอยแผลเป็นต่างๆ ได้เป็นอย่างดีโดยจะตรงเข้าไปทำลายเซลล์เม็ดสีผิวที่มีปัญหา และกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนขึ้นในผิวใหม่อีกครั้ง เป็นเลเซอร์ที่รวมทุกเทคโนโลยีที่ใช้ในการรักษาปัญหาผิวต่างๆ ทั้งกระชับรูขุมขน ลอกผิว หรือโทนนิ่งเอาไว้ในขั้นตอนเดียว แสงเลเซอร์ชนิดนี้จะตรงเข้าทำลายเซลล์ผิวที่มีปัญหาที่ชั้นล่าง ทำให้มีประสิทธิภาพสูงแม้เป็นการรักษารอยฝ้า หรือกระที่มีสาเหตุมาจากเม็ดสีผิวชั้นล่างก็ตาม
- IPL
รักษาโรคเกี่ยวกับเส้นเลือด เม็ดสีผิว หรือรูขุมขนที่ขยายตัวออกมามากจนเกินไป
- MESOTHERAPY
เป็นการรักษาด้วยการฉีดสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อผิวเช่น ไวท์เทนนิ่ง หรือวิตามินต่างๆ เข้าสู่ชั้นหนังแท้โดยตรง นอกจากจะช่วยให้ผิวขาวขึ้นแล้ว ยังช่วยให้ริ้วรอย หรือปัญหาผิวอื่นๆ ลดลงได้อีกด้วย
- Q-Switch Nd:Yag Laser
เลเซอร์ชนิดนี้จะเข้าไปทำลายเม็ดสีผิวที่มีปัญหาเท่านั้น ที่เกี่ยวกับเม็ดสีผิว และใช้เวลาในการรักษาสั้นมาก
- การรักษาด้วยประจุไฟฟ้า
เป็นการใช้เทคโนโลยีประจุไฟฟ้าที่เป็นศูนย์มาช่วยให้ผิวสามารถดูดซึมวิตามินซีได้สูงขึ้น โดยประจุนี้จะแทรกซึมเข้าไปได้ลึกถึงเม็ดสีผิวที่อยู่ในชั้นหนังแท้ และจะช่วยขจัดเซลล์ผิวที่มีปัญหาออกไป มีประสิทธิภาพในการรักษาฝ้า และกระที่เกิดจากชั้นหนังแท้มีปัญหาซึ่งรักษาได้ยากได้เป็นอย่างดี
- Oxy Jet
เพิ่มออกซิเจนให้แก่ผิว ทำให้ผิวแข็งแรงมากขึ้น โดยการขัดผิวด้วยการพ่นผงคริสตัลละเอียด นอกจากจะทำให้ริ้วรอย รอยเหี่ยวย่น รอยแผล หรือปัญหาผิวอื่นๆ ลดลง และจางไป
- Skin Scaling
ใช้ในการรักษาผิวที่แห้ง และปัญหาผิวอื่นๆ หลังการรักษาด้วยวิธีนี้ ผิวที่เคยเป็นจุดด่างดำต่างๆ จะค่อยๆ ใสขึ้น รวมทั้งริ้วรอยต่างๆ บริเวณรอบปาก ดวงตา และรอยแผลเป็นจากสิวต่างๆ ก็จะหายไปด้วย
เลเซอร์หน้าใสแบบ MULTI-LASER
- สามารถรักษาปัญหาผิวพรรณทุกปัญหาได้พร้อมกันจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
- ได้มาตรฐานการรับรองทั้งแพทย์ และ เครื่องมือ
- คุณหมอสามารถสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษ
- ค่าใช้จ่ายสูงมากกรณีบินไปทำ และ อาจต้องไปซ้ำ กับ บางปัญหาที่ไม่ได้หายในครั้งเดียว
- ไม่ใช่ทุกปัญหาจะได้รับการแก้ไขได้ทั้งหมด บางปัญหาหาย บางปัญหาดีขึ้น บางปัญหาต้องใช้เวลา
- สิ่งสำคัญคือ การดูแลตัวเองหลังการทำเลเซอร์ เช่น การหลบแสงแดด และ ทาครีมกันแดดเป็นประจำ
- ต้องแจ้งประวัติการใช้ยา และ การดูแลผิวหน้าอย่างละเอียด รวมถึงประวัติและเทคโนโลยีการรักษาที่ผ่านมา
เอิ๊กได้ลองรักษาโดยฉายแสงให้หน้าขาวใส ทรีทเมนท์มาร์ค เลเซอร์VBEAM 3 อย่าง
ออกมาเป็นอย่างที่เห็น
ชุ่มชื่น หน้าขาวเด้งดี รูปนี้ประมาณ มีนาคม 2556