Archive | FACE

REVIEW : NO.7 INSTANT VITALITY EYE-ROLL อายโรลออนดูแลผิวรอบดวงตาที่อ่อนล้า


ลาภลอยมากได้นางเอก อาย โรลออน ( EYE ROLL-ON) มากลิ้งถนอมผิวรอบดวงตา

No.7 INSTANT VITALITY EYE ROLL-ON

ช่วยดูแลดวงตาที่เหนื่อยล้า หมองคล้ำ และ ไขมันที่ก่อให้เกิดถุงใต้ตา

ภายใน 4 สัปดาห์ สูตรอ่อนโยน

เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ได้ลองผลิตภัณฑ์สกินแคร์บำรุงผิวรอบดวงตาแบบลูกกลิ้งเพราะปกติที่มีใช้แบบครีมอยู่และเด่นไปกว่านั้น คือ มันเป็นลูกกลิ้งอายโรลออนที่มีทั้งหมด3หัวด้วยกันกรี๊ดสลบของเล่นใหม่ช่างอลังการงานสร้างมาก 15 มิลลิกรัม กับราคา 450 บาท

แพคเกจของอายโรลออนเป็นหลอด สีชมพูเบจ และ เป็นลูกกลิ้ง 3 หัว

เนื้ออายโรลออนตัวนี้จะเป็น สีชมพูมุกเลื่อม สีน่ารักมาก ผู้หญิงทั้งหลายอาจจะชอบสีแบบนี้

เวลาบีบเนื้ออายโรลออนออกมา จะผุดขึ้นมาจากลูกกลิ้ง 3 หัว

วิธีใช้ เวลาที่เราทา เราจะลากไปทิศทางเดียว หัวตา > หางตา ไม่ลากย้อนไปย้อนมา ให้เหี่ยวเล่นนะคะ

เวลาทามันจะเย็นสะใจมาก คือปกติครีมให้ไม่ได้แบบนี้ ด้วยความที่ใช้ลูกกลิ้งเป็นตัวส่งส่วนผสมเข้าไปในผิวรอบดวงตา มันเลยเย็น และ เป็นการนวดลดถุงใต้ตาไปในตัวด้วย โชคดีที่ไม่ทีถุงใต้ตา แต่ตาบวมบ่อย เวลาเล่นเน็ตหนักๆ ซึ่งเป็นชีวิตประจำอยู่แล้วที่ชอบใช้ดวงตาหนัก นอนก็ดึก T^T

ส่วนผสมเด็ดๆทั้งหลายก็จะมีตั้งแต่

Water Base / Glycerin / Mica / Caffeine / D-panthenol / Vitamin B 5 / Vitamin C / Hesperidin methyl chalconegx / Peptide/ Palmitoyl Tetrapeptide-7 /Chrysin


รู้จักแค่บางตัว เช่น Water base มีน้ำเป็นส่วนประกอบพื้นฐานแทนพวกแอลกอฮอล์ / Mica ช่วยกระจายแสงรอบดวงตาหลังทา / Caffeine ช่วยลดไขมันสะสมรอบดวงตา ต้านริ้วรอย / Vitamin C ทำให้ผิวบริเวณนั้น กระจ่าง ต้านอนุมูลอิสระ ส่วนตัวอื่นๆเดี๋ยวไว้ไปหาข้อมูลเพิ่มเติม เพราะส่วนตัวเห็นสูตรอ่อนโยน ก็กล้าลองแล้วค่ะ

ผลลัพธ์ ใช้มา 22 วัน เกือบ 1 เดือน เท่าที่เห็นชัด ดวงตาที่ใช้งานหนักมาก ที่ดูบวม และ ช้ำ สีความช้ำน้อยลงจากเกือบม่วงแดง ก็กลายมาเป็นสีแดงอมชมพู ดวงตาที่ตุ่ยบวมก็ลดความบวมลงได้ เพราะทารอบดวงตาเลย มันเลยช่วยไม่มีถุงใต้ตา แต่เปลือกตาบนบวม ก็เห็นผลดีเหมือนกัน


COOL : การออกแบบผลิตภัฑณ์ที่เป็นลูกกลิ้ง ยิ่ง3หัว ยิ่งกระจายส่วนผสมรอบดวงตาได้กว้างขึ้น ให้ความสดชื่นเย็น ความผ่อนคลายมากกว่าการใช้นิ้วนวดโดยตรง มันจะรู้สึกสบาย เวลาไถลูกกลิ้งเบาๆไปบนดวงตาทั้งบนและล่าง เป็นการกระตุ้นการหมุนเวียนของน้ำเหลือง รวมถึงของเสียที่สะสมจนทำให้เกิดการบวม ส่วนผสมหลายอย่างส่งผลให้ดวงตาที่เหนื่อยและดูช้ำจนถึงคล้ำ กลับมาดูดี ช้ำน้อยลง สดใสขึ้น ดูมีน้ำมีนวล และใช้ง่ายไม่ต้องบีบครีมใส่นิ้ว แล้วมานวด แล้วไปล้างมืออีกรอบ คือ จะไม่เหนอะหนะนิ้วมือเลย ชอบนวัตกรรมตรงนี้

UNCOOL : เมื่อมีข้อดี ก็อาจจะพบข้อด้อย ด้วยตัวหัวลูกกลิ้งนี่เอง ต้องมั่นใจว่าทำความสะอาดรอบดวงตาปราศจากเครื่องสำอาง และ ฝุ่นละอองดีแล้ว ไม่อย่างนั้น มันจะกลิ้งเอาสิ่งสกปรกที่ตกค้างบริเวณผิวรอบดวงตากลับเข้าไปอีก เพราะมันกลิ้งวนกลับไปกลับมา เมื่อสิ่งสกปรก โดยส่วนผสมใหม่ๆในหลอดอะไรจะเกิ๊ดดดดด

ใช้ต่อเนื่องกันทุกวันจนหลอดผอม น่าสงสาร ใช้ดีคิดว่าจะซื้อใช้ต่อค่ะ เพราะมันใช้ง่าย และ เห็นผลดีสำหรับตาตัวเองค่ะ

อีกอย่างซื้อได้ง่ายที่ BOOTS


XOXO


 

Posted in EYES, REVIEWComments (0)

Q&A ใต้ตาคล้ำ & ถุงใต้ตา กำจัดมันออกไปอย่างไร ???

 

พูดถึงเรื่องใต้ตาคล้ำ ถุงใต้ตา หลายคนมีปัญหาบ่อยมาก จนตอบแล้วตอบอีก เลยทำให้อ่านเลย 🙂 ไวดี ส่วนตัวใต้ตาคล้ำมากช่วงเวลาที่ใช้ดวงตาหนัก ไม่หลับไม่นอน เหี่ยวบ้าง แอบขยี้แรงๆบ้าง ต่อไปไม่ทำแล้ว ดูในรูปสิมีเหี่ยวๆละ ฮ่า

เพราะผิวหนังใต้ตาเป็นบริเวณที่บางที่สุดในร่างกาย และยังไม่มีต่อมไขมันที่จะคอยหลั่งไขมัน ( sebum ) เพื่อรักษาความชุ่มชื้น จึงมีแน้วโน้มที่จะแห้งกร้านง่ายกว่าผิวบริเวณอื่นๆ อีกด้วย จึงต้องการการดูแลเป็นพิเศษ

เอาละ มาเข้าใจถึงสาเหตุกันดีกว่า ครีมตัวไหนใช้ดีใช้เหมาะคงบอกไม่ได้ ต้องไปหารีวิวกันเอง และ สังเกตุส่วนผสมที่กำลังจะให้สังเกตุค่ะ ..

 

 

 

 

 

สาเหตุการเกิดรอยคล้ำรอบดวงตา

3 ข้อหลักๆ

  1. โครงสร้างของกระดูกหน้า คนที่โหนกแก้มสูง และตาลึก มักจะมีปัญหาผิวหนังบริเวณใต้ตายุบลงไปนิดหน่อย ทำให้เห็นเป็นรอยเขียวๆคล้ำใต้ตา ปัญหานี้แก้ไม่ค่อยได้เพราะว่าเป็นปัญหาของโครงสร้างกระดูกของหน้า
  2. กรรมพันธุ์ เป็นรอยคล้ำที่เป็นกรรมพันธุ์ แบบนี้หายได้
  3. หลอดเลือดใต้ตาขยายมากผิดปกติ ใต้ตาคนเรามีหลอดเลือดฝอยอยู่ ถ้ามันบวมมากไปก็จะเห็นคล้ำๆใต้ตา สาเหตุมีได้หลายสาเหตุ ตั้งแต่ ขาดธาตุเหล็ก หรือขาดสารอาหาร, นอนน้อย, นอนดึก , ใช้สายตาโหด , บุหรี่ , ชา-กาแฟ, ภูมิแพ้ , บางทีลดความอ้วนมากไป หลอดเลือดมันอยู่ของมันดีๆ แต่ว่าไขมันบริเวณนั้นน้อยลงมันก็เลยเห็นชัดขึ้น ,สูบบุหรี่ , มีถุงใต้ตาเยอะไปเวลาเจอเงาทำให้เหมือนดวงตาคล้ำ ฯลฯ

วิธีแก้ไข

ถ้าเป็นเพราะสาเหตุที่ 1. ใช้วิธีปกปิด ถ้าเป็นตาคล้ำเพราะว่าโครงกระดูกหน้ารูปร่างเป็นแบบนั้น วิธีนี้จะเป็นวิธีแก้ทางเดียว คือหา concealer ที่เหมาะสมทาปิดเอา concealer ที่เหมาะสมก็จะเป็นสีเหลือง หรือเหลืองปนส้มอ่อนๆ เพื่อที่จะได้แก้สีเทาปนน้ำเงินปนม่วงของเงาใต้ตาน่ะค่ะ (ตาคล้ำสาเหตุอื่นใช้วิธีนี้แก้แบบชั่วคราวก่อนออกจากบ้านได้เช่นกัน)

ถ้าเป็นเพราะสาเหตุที่ 2. ใช้สารเคมี สำหรับคนที่ตาคล้ำแบบกรรมพันธุ์ หรือว่า hyper-pigmentation จะเป็นกลุ่มที่รักษาได้ง่ายที่สุดเพราะว่าสามารถทำให้รอยคล้ำนั้นหายไปได้ และ พวกครีมที่ขายตามห้าง หาง่ายๆ ส่วนมากจะใช้ได้ดีกับรอยคล้ำใต้ตาที่เกิดจาก hyper-pigmentation ส่วนใหญ่ รอยคล้ำที่เกิดจากสาเหตุอื่นๆ บางทีอาจจะใช้ไม่ได้ผลเพราะว่าต้นเหตุของการเกิดรอยคล้ำยังคงอยู่ เช่นนอนน้อย, ขาดสารอาหาร, ภูมิแพ้ ถ้าไม่รักษาที่ต้นตอ ต่อให้ครีมดีอย่างไรมันก็ไม่หายไป การแก้ไขแบบใช้สารเคมีนั้นก็เหมือนกับการใช้ whitening น่ะค่ะ คือใช้สารแบบที่หาซื้อได้เองและเป็นส่วนผสมอยู่ในครีมทาใต้ตาที่หาได้โดยทั่วไปก็คือ Arbutin / Kojic acid / AHA ฯลฯ

ถ้าเป็นเพราะสาเหตุที่ 3. ใช้เลเซอร์รักษา เหมาะกับคนที่เกิดรอยคล้ำใต้ตาเพราะว่าหลอดเลือดมันขยายมากไป และก็รักษาใต้ตาดำแบบที่เกิดจากเม็ดสีมากไปก็ได้ โดยการทำ laser บางตัวจะทำให้ผิวชั้นบนที่มีรอยคล้ำนั้นหลุดออกไป บางตัวก็ออกแบบมาเพื่อใช้กับเส้นเลือดฝอยๆ บางตัวก็ส่งผลทำลายเมลานินสีคล้ำบริเวณที่มันมีมากเกินไปทำให้ผิวหายมีสีดำ การรักษาด้วย เลเซอร์ ค่อนข้างจะแพง ไม่ใช่ว่าทำปุ๊บหายปั๊บ ต้องให้เวลาผิวฟื้นตัวด้วย ทำแล้วจะมีรอยแดงๆหลังทำไปสักพักแล้วแต่สุขภาพของคุณเองด้วยว่าฟื้นตัวเร็วแค่ไหนนะคะ ส่วนชนิดเลเซอร์มีมากมายหลายชนิด ตั้งแต่ Fractional Resurfacing – Fraxel Laser / IPL / ND YAG ส่วนจะเลือกใช้ชนิดไหนคงต้องขึ้นอยู่กับปัญหาสาเหตุที่แท้จริง โดยแพทย์จะเป็นผู้วินิจฉัยการเลือกชนิดของเลเซอร์ในการแก้ปัญหาเอง


หากใครพบสาเหตุที่แท้จริงก็รีบแก้ปัญหาที่ต้นตอซะ .. สำหรับส่วนผสมใน EYE CREAM ที่แพทย์แนะนำให้หัดสังเกตุจะมีในเรื่อง Vitamin K ที่ช่วยให้การไหลเวียนเลือดบริเวณใต้ดวงตาดีขึ้น / Vitamin C ช่วยกระตุ้นคอลลาเจน ลดจำนวนเม็ดสีในผิวและเป็น Antioxidant ต่อต้านความเสื่อมโทรมต่างๆ/ Retinol ช่วยกระตุ้นคอลลาเจน/ Argireline ช่วยลดริ้วรอย เป็นต้น


หลายสาเหตุที่สามารถแก้ไขได้ด้วยตัวเอง เช่น

  • รอยคล้ำใต้ตาที่เป็นเพราะการนอนดึกบ่อยๆ หรือโหมทำงานหนัก หรือใช้สายตามากเกินไป ควรพักสายตาหากรู้สึกล้าหรือเริ่มแสบตา โดยเฉพาะถ้าทำงานที่ต้องใช้สายตาเพ่งด้วย ควรหยุดพักสายตาทุก 2 ชั่วโมง โดยการหลับตาหรือมองไปไกลๆสัก 5 – 10 นาที เพื่อคลายอาการอ่อนล้าของกล้ามเนื้อตา
  • หากเป็นภูมิแพ้หรือมีอาการคัดจมูกบ่อยๆ ควรหาสาเหตุหรือพบแพทย์ด้านภูมิแพ้ เมื่อรักษาจนอาการแพ้ต่างๆดีขึ้นแล้ว รอยคล้ำใต้ตาก็จะจางลงไปเอง
  • คนที่ต้องออกแดดบ่อยๆ ควรใช้โลชั่นกันแดดเป็นประจำ หรือสวมแว่นกันแดดเพื่อช่วยปกป้องดวงตาและผิวรอบดวงตา เพราะนอกจากอายุแล้ว แสงแดดยังคงเป็นจำเลยที่หนึ่งของความเสื่อมโทรมของผิวทุกชนิดเสมอ
  • อาจลองรักษาผิวใต้ตาเองด้วยวิธีง่ายๆเหมือนที่เคยเห็นในทีวี เช่น ฝานแตงกวาเย็นๆ หรือใช้ช้อนแช่เย็น มาปิดรอบดวงตาสัก 15 นาที แตงกวาซึ่งมีน้ำเป็นส่วนประกอบหลักมากกว่า 90% จะส่งผ่านความเย็นช่วยให้หลอดเลือดบริเวณใต้ตาหดตัว ลดการคั่งของน้ำและหลอดเลือดดำในผิวหนังได้ชั่วคราว นอกจากนี้แตงกวายังมี เอนไซม์, สารไกลโคไซด์ และกรดอะมิโนบางชนิด ที่ช่วยให้ความชุ่มชื้นและเพิ่มความสดชื่นให้กับผิวได้ทันที

ยี่ห้อไหนใช้ดีต้องไปหาอ่านส่วนผสม และ REVIEW กันตามเว็บนะจ๊ะ

SKINCARE ตัวไหนใช้ดีมาดูกัน 🙂

แถมเว็บให้อีกที่นึง

www.besteyecreams.org

 

สาเหตุการเกิดถุงใต้ตา

มี 2 อย่าง

  1. เกิดการสะสมของไขมันที่รอบดวงตา
  2. เกิดการสะสมน้ำอยู่บริเวณรอบดวงตา

อาการ : ปวดบริเวณเบ้าตา ปวดที่ต้นคอ รู้สึกดวงตาล้าเหนื่อย มีอาการตาแห้ง รอยดำคล้ำที่ตา หรืออาจมีรอยบวมเป็นถุงใต้ตาโปนออกมาให้เห็นได้อย่างชัดเจน

การรักษา :

1. ผ่าตัดเอาถุงไขมันใต้ตาทิ้งไป แต่ไม่นานก็จะเริ่มเกิดการสะสมไขมันและน้ำขึ้นอีก ผิวค่อยๆอ่อนแอตามอายุที่เพิ่มขึ้น ทำให้มีริ้วรอยหมองคล้ำเกิดขึ้นต่อไปเรื่อยๆ

2. ฉีดBotulinum Toxin บริเวณใต้ตาเพื่อลดขนาดถุงใต้ตา ผลไม่ถาวร ต้องฉีดทุก 3-8 เดือน

3. ใช้เวชสำอางสกินแคร์ ที่มีสารโปรตีนอนุภาคเล็กอย่าง อะเซติลเตตราเปปไทด์ 5 ( Acetyl Tetrapeptide 5 ) มีคุณสมบัติช่วยชะลอ ความเสื่อม ช่วยกระตุ้นในการสร้างคอลลาเจน อีลาสติน เพราะจะช่วยลดรอยบวม รวมทั้งการเกิดถุง ใต้ตา และรอยคล้ำได้เป็นอย่างดี เนื่องจากสามารถปรับการไหลเวียนของโลหิตและน้ำเหลืองให้เกิดความสมดุล ขับถ่ายของเสียให้ออกไปจากเซลล์ผิวได้ ที่สำคัยคือ สามารถช่วยลดการสะสมไขมัน และน้ำที่เกิดขึ้นรอบๆดวงตาได้ผลเป็นอย่างดี

ในการดูแลถุงใต้ตา หมั่นหาวิธีนวดกดจุดดวงตาที่ถูกต้อง ใช้สายตาไม่หักโหมมาประกอบการรักษาขั้นต้น เพื่อเสริมให้ดวงตาแข็งแรง ไม่มีน้ำ และ ไขมันสะสมรอบดวงตาด้วยนะคะ



รียบเรียงใหม่ – erk-erk.com

ที่มาข้อมูลกิตติมศักดิ์

– นพ.ธีระชัย วรัญญูรัตนะ, DSc&MSc.Dermatology(UK) แพทย์สยามเลเซอร์ คลินิก

– พ.ญ. พิสุทธิพร ฉ่ำใจ

– คุณ : รำเพย เจ้าของร้าน 2ndskinmineral




Posted in EYES, HOW TO, Q&AComments (0)

OVERVIEW : การยกเครื่องหน้า กระชากวัย ด้วยการทำ THERMAGE

โชคดีที่วันนึงมีโอกาสได้ใกล้ชิดหมอผิวหนัง เริ่มจากจุดเริ่มต้นไปปรึกษาปัญหาสิวเมื่อหลายเดือนก่อน .. ข้อดีของการได้พบหมอผิวหนังที่เป็นอาจารย์ อาจารย์หมอเวลาจะมีคำถามอะไร จะได้คำตอบที่ต่อยอดไปยังเรื่องอื่นๆ ไม่หวงความรู้ ไม่กั๊กความรู้ อย่างผู้ช่วยศาสตราจารย์แพทย์หญิง รังสิมา หรือคุณหมอเพ็ญ ที่เป็นทั้้งอาจารย์ และ หมอผิวหนังเลเซอร์ ประจำโรงพยาบาลศิริราชซึ่งเป็นโรงพยาบาลที่รักษาพระอาการประชวรของในหลวง และอีกท่านคือศาสตราจารย์นายแพทย์ วรพงษ์ มนัสเกียรติ ที่พร้อมจะตอบคำถามข้อสงสัยให้กับคนไข้ขี้สงสัยอย่างเอิ๊กเองอยู่ตลอดเวลา รวมถึงนักเรียนอีกมากมายของคุณหมอทั้งสอง แม้ขณะที่ยังไม่ได้เป็นคนไข้เลยก็ตาม ดังนั้นอย่าแปลกใจใน BANNER ด้านขวามือที่ติดให้กับ ISKYCENTER.COM ด้วยความสมัครใจ ไม่มีสิ่งตอบแทน แต่อยากจะทำ ตั้งแต่ที่รู้จัก และขอข้อมูลคุณหมอมาบรรยาให้ทุกคนได้อ่านในนี้ตั้งแต่วันแรก ศูนย์ผิวหนังและศัลยกรรมเลเซอร์นี้เกิดจากแรงบันดาลใจของบรรดาแพทย์เลเซอร์ผิวหนังที่เห็นตรงกัน อยากทำสถาบันเลเซอร์ที่มีมาตรฐานสากล ดูแลผิวหนังที่เริ่มต้นอย่างถูกวิธี เหมาะสม พร้อมกับคนไข้ต้องได้เรียนรู้กลับไป เลยอยากให้มีคนได้รู้สึกเหมือนกัน ว่าหนทางสว่างในชีวิตที่เกี่ยวกับผิวหนัง มันควรจะเกิดเพราะความรู้ ไม่ใช่แค่เพราะการรักษา คุณหมอจะคอยสอนเรื่องที่เราถาม เราอยากรู้ และ ทำให้เราพัฒนาตัวเองโดยการมองถึงสาเหตุของการเกิดมากกว่าปัญหาที่เป็น ไม่ได้ไปรักษานานแล้ว แต่นำคำสอนมาประยุกต์คือหาเหตุแล้วแก้ให้ตรงจุด ต่อให้เลเซอร์จะช่วยแก้ปัญหา ยังไงต้องมีการทายา และ การใช้ชีวิตก็สำคัญมากกว่าสิ่งอื่นใด ..

 

เมื่อหลายเดือนก่อนไปรอคิวคุณหมอยิง VBEAM รักษารอยแดง คุณหมอมีคนไข้ที่มีปัญหาเรื่องความหย่อนคล้อยของใบหน้า และต้องการปรับรูปหน้า มารักษาด้วยเครื่องยกกระชับเครื่องหน้าใหม่ให้ดูอ่อนเยาว์เรียกว่า THERMAGE โดยมีแพทย์ผิวหนังที่ผ่านการอบรมระยะสั้นจากศิริราชขอเข้าไปดูงานด้วย .. และเอิ๊กเองก็เป็นหนึ่งคนที่ได้รับอนุญาติจากคุณหมอเพ็ญให้สามารถติดตามเข้าไปดูได้ด้วยเช่นกัน เพราะคนไข้เป็นผู้ใหญ่ที่คุณหมอสนิทและเป็นกันเอง บรรยากาศจึงเป็นไปด้วยความรู้ บวกความสนุก เคยได้ยินคุณหมอเล่าว่าห้อง THERMAGE เป็นเครื่องมือที่ปล่อยคลื่นความถี่วิทยุที่แพงที่สุด สามารถคืนความอ่อนเยาว์ให้กับมนุษย์ได้ลดลง 2-5 ปีหรือมากกว่านั้น ขึ้นกับความหย่อนคล้อยของใบหน้า อายุที่จะเริ่มทำ ก็ขึ้นอยู่กับถ้าเริ่มริ้วรอย ผิวเริ่มหย่อนไม่ตึงอยู่เยอะก็คงเหมาะ แอบวาดฝันไว้อยากเก็บเงินทำให้แม่เหมือนกันค่ะ เหี่ยวเหลือเกิน ….. (ชีเล่นมาดูแลตัวเองตอน 50 กว่า สายไปไหม อย่าไปบอกแม่นะ ทุกวันนี้ก็ประเคนครีมบำรุงอยู่ ใช้แพงกว่าลูกอีก ฮาฮา)

 

เอิ๊กเข้าไปไม่ได้จดมานะคะ เพราะตั้งใจฟัง และ ตั้งใจชมการสาธิตการรักษาด้วยเครื่อง THERMAGE ให้กับผู้ใหญ่ท่านนี้อยู่ ยอมรับว่าตื่นเต้นมาก เพราะไม่เคยเห็นมาก่อน ว่ามันจะยกยังไง ในจินตนาการคือ นึกว่าจะเหมือนเครื่องเตารีด แล้วนาบไปที่หน้าแล้วยกดึงขึ้นมาต้านแรงโน้มถ่วง ทุกอย่างผิดหมด ……….. ( ตั้งแต่เริ่มจินตนาการแล้ว )

หลังจากนี้จะเป็นข้อมูลที่อ่านมาจากหลายๆที่ และ สรุปเองตามใจฉัน 🙂

 

THERMAGE CONCEPT คือ “ กระชากวัยรักษาความหย่อนคล้อย และปรับรูปหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัด แค่ครั้งเดียว รวดเร็วไม่ถึงชั่วโมง กลับบ้านได้ ผลอยู่ยาว 2 ปี “ (คิดเอง :p)

คุณเคลลี่ทำที่คลินิคแห่งนึงไม่หน้าว่าหน้าแกเป๊ะมากค่ะ นึกว่าไปดึงไหนมา ที่แท้ THERMAGE

THERMAGE คืออะไร เทคโนโลยีคลื่นวิทยุ ที่ทำให้เกิดความร้อนส่งผ่านลึกไปยังชั้นหนังแท้ เพื่อทำให้คอลลาเจนที่มีอยู่กระชับตัว และช่วยให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใหม่ด้วย ส่งผลให้ทั้งคอลลาเจนเก่าและคอลลาเจนใหม่ใต้ผิวหนังที่ถูกสร้างขึ้น ทำให้ผิวหนังมีความยืดหยุ่น เรียงตัว กระชับได้รูปขึ้น มีสุขภาพผิวดีขึ้น สุขภาพผิวแข็งแรง และผิวเรียบเนียน ริ้วรอยลดลง

(การยิง THERMAGE จะยิงเรียงตามตารางสเกลผิวหนังที่ละช่องๆ แล้ววนกลับมาซ้ำที่เดิมจนถึงจำนวนที่กำหนดไว้ จะมีการลอกลายบนผิวหนังก่อนยิง สำหรับแพทย์ที่ชำนาญการลอกลายก็ไม่จำเป็น จะมีเทคนิคการจัดวางได้เท่ากันอย่างมหัศจรรย์โดยไม่ต้องมีตารางสเกล)

THERMAGE ยกเครื่องส่วนไหนได้บ้าง เยอะมาก ตั้งแต่ ใบหน้า โดยเฉพาะคิ้ว ดวงตา แก้ม และคาง ลำคอ หน้าทอง แขน ขา มือ

( ต้องแปะแผ่น grounding pad เพื่อให้เครื่องสามารถปล่อยคลื่นความถี่วิทยุไปยังบริเวณที่ต้องการรักษาได้ )

THERMAGE กับ ผลลัพธ์ที่่ได้ บริเวณที่ได้รับการรักษายกกระชับ เข้ารูปมากขึ้นทันทีหลังทำและค่อยๆดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผลจะเห้นชัดตั้งแต่ 3 เดือนขึ้นไปหรือเร็วกว่านั้น

( หลังยิงรอบดวงตา หนังตาดูกระชับยกสูงฝั่งซ้าย เทียบกับฝั่งขวาที่ยังไม่ได้ยิง )

ใบหน้า ลำคอ – ได้สัดส่วน ได้หน้าเรียวขึ้น ผิวหน้าดีขึ้น เรียบเนียนขึ้น ตึงขึ้น อ่อนวัย เด็กลง หาแฟนง่ายกว่าเก่า (ล้อเล่น:p)

ตา – แก้ปัญหาหนังตาตก ห้อย รอยตีนกา ไม่เฟิร์ม รอยทีนกา ริ้วรอยตามวัยที่เราไม่อยากจะมี แก้ปัญหาเปลือกตาที่เริ่มจะไม่ตึง

แขน – ท้องแขนที่ไม่เรียบ ห้อย ก็จะเฟิร์ม ดึ๋งดั๋งมากขึ้น

มือ – มือที่มีริ้วรอยไม่เรียบ ก็จะตึงขึ้นจนคนเริ่มเดาอายุไม่ถูก

หน้าท้อง – หน้าท้องที่หย่อนคล้อย โดยเฉพาะหลังจากการคลอดบุตร ก็กระชับขึ้น

ขา – โดยเฉพาะส่วนเขา เรียบเนียน ตึงขึ้น

 

THERMAGE กับ EFFECT หลังทำ บวมแดงที่ผิวซึ่งจะหายไปภายใน 2-3 ชม. ไม่มีบาดแผล รักษาครั้งเดียว กลับบ้านได้ รอดูผลเดือนที่ 3 เป็นต้นไป บางคนอาจช้าหรือเร็วขึ้นกับการตอบสนองของร่างกายของเราด้วยนะคะว่าจะสามารถสร้างคอลลาเจนใหม่ และเรียงตัวคอลลาเจนเก่าได้เร็วแค่ไหน และผลลัพธ์อยู่ยาวถึง 24 เดือน หรือ 2 ปี

( รูปของคนไข้ที่ ISKY อันนี้ขออนุญาตเก็บภาพมาค่ะเป็นบุุคคลมีชื่อเสียงเลยไม่ขอเอาลงทั้งหน้า แต่จะให้สังเกตุด้านซ้ายทำแดงบวม รูขุมขนพองขยาย แต่ร่องแก้มถูกยกขึ้นสูงกว่าด้านขวาแล้วเล็กน้อย ภาพนี้หลังทำทันที ถ่ายเลย )

THERMAGE กับความปลอดภัย FDA อเมริกา และ ไทยแลนด์บ้านเรา วางใจได้ เครื่องนึงแพงมาก ราคาหลายล้าน

(หัวTips ที่ใช้ยิง ใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้ง คนต่อคน ก็ต้องแยกเฉพาะเจาะจง ใครจะยิงกี่ Tips กี่ Shot ต้องตามดุลยพินิจแพทย์ และตามความคล้อยของบริเวณที่ทำด้วยค่ะ จะยิงเป็น SHOT ไปหลายร้อยครั้งภายใน 1 ชั่วโมง หัว Tips ที่ใช้ยิงก็จะมีหลายขนาดเช่นกัน )

 

THERMAGE กับ ความเจ็บตอนทำ เท่าที่เห็นมาคือ มีการปรับระดับความอุ่นที่คนไข้ทนไหว ยิ่งร้อนยิ่งดี เป็นสัญญาณว่าใต้ผิวหนังเราตอบสนองแล้วนะและความร้อนเหล่านี้จะส่งผ่านลึกไปใต้ชั้นผิว เพื่อเสริมสร้างคอลลาเจนให้ดึ๋งดั๋ง กระชับ จะอุ่นแบบคนไข้ทนไหวและจะสลับกับเจลเย็นทุกครั้งที่มีการยิงลงไป โดยที่คุณหมอจะถามว่าร้อนไปไหมคะตลอดเวลาที่ทำ จะเป็นการยิงทีละครั้ง แต่ละครั้งแช่ไว้ 1 วิ ยิงตั้งแต่ 300 – 900 ครั้ง หรือมากกว่าขึ้นกับบริเวณที่จะทำ

 

ข้อดี

  • ตึงอย่างเห็นได้ชัดทั่วหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัดภายในระยะเวลาไม่กี่เดือน
  • มีความเป็นธรรมชาติของใบหน้ามากกว่าการผ่าตัดยกดึงจนใบหน้าดูแปลกไป คือ ตึงขึ้นเป็นธรรมชาติ
  • ทำครั้งเดียว เห็นผลยาว 2 ปี
  • แต่งหน้าได้เลยหลังทำ
  • ไม่ทำให้หน้าบางลง
  • ทำได้หลายส่วนในร่างกาย

ข้อเสีย

  • แพงเหมือนกันราคาหมื่นปลาย ถึง หลักแสนปลาย แต่ถ้าเฉลี่ยเป็นเดือนพอรับไหว และเป็นตัวเลือกน่าสนใจ
  • ต้องให้หมอที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านผิวหนังและเลเซอร์ทำเท่านั้น

ทางเลือกอื่นในการยกเครื่องหน้าใหม่

  • มันยังมีตัวเลือกอื่นๆอีกซึ่งต้องศึกษาให้ละเอียด ตั้งแต่เจ้าพวก Ulthera ร้อยทอง

คำแนะนำจากคุณหมอ

– การได้ผลขึ้นกับ 4 องค์ประกอบ ประสิทธิภาพของเครื่องTHERMAGE + ระดับคลื่นความถี่ที่ยิงลงไป + ช็อตในการยิงกี่ครั้ง + การตอบสนองของคนไข้

– หัวทิวป์ในการยิง ใช้ครั้งเดียว ไม่ใช้ซ้ำ ของใครของมัน และต้องเหมาะสมกับพื้นที่บริเวณที่จะทำ

 

ถามว่าวันนี้อายุ 20 ต้นๆ ดีใจไหมที่รู้เร็ว ดีใจเพราะจะได้เก็บเงินรอเลย คนเรามันก็ร่วงโรยไปตามสังขารแต่คงไม่มีใครอยากจะดูสูงวัยเท่าไหร่ก็พยายามเท่าที่พยายามได้ ตอนนี้ก็รักษาสิวอยู่เล็กน้อย และ รอยดำแดงอีกพอสมควร เราจะได้พบกันใหม่เร็วๆนี้ กับเรื่องอะไรที่เอิ๊กคิดว่าเป็นประโยชน์จะนำมาเขียนเล่าอีกนะคะ

XOXO

แหล่งข้อมูล

– ผู้ช่วยศาสตราจารย์แพทย์หญิง รังสิมา วณิชภักดีเดชา

– คนไข้THERMAGEที่ ISKYCENTER

– SOLTA MEDICAL THERMAGE POWER POINT

– ภาพคุณเคลลี่จาก ดีเอ็นเอสกินคลินิค

 

 

Posted in BEAUTY TECHNOLOGY, FACE, THERMAGEComments (0)

Q&A สกินแคร์ยี่ห้อไหนดี เครื่องสำอางตัวไหนเวิค มาดู !!!

สำหรับคำถามยอดฮิตที่ตัวเองเจอมาตลอดเวลาเกือบ 2 ปีนั้นคือ

ผิวแบบนี้ใช้สกินแคร์ยี่ห้อไหนดี งบมีเท่านี้ เครื่องสำอางตัวไหน เวิค !!!!!!!

วันนี้เราจะมาเคลียร์ประเด็นร้อนที่ค้างคาหัวใจใครหลายคนให้ชัดเจน

ก่อนอื่นด้วยความเป็นที่เป็นคนที่ชอบเรื่องราวความสวยความงามมาตลอด มีอะไรก็ศึกษา เรียนรู้ เติมเต็มในปัญหาที่ตนเองอยากรู้เป็นส่วนใหญ่ จะว่าการมาเป็นนักเขียนเป็นกูรูเกี่ยวกับเรื่องความงาม ตอบได้ทุกคำถาม คิดว่าไม่ใช่ เพราะยังรู้น้อยมากในวงการนี้ ความเป็นจริงคือไม่ได้รู้ไปหมดทุกอย่างเกี่ยวกับเรื่องความสวยความงาม 555555 ดังนั้น หลายคำถามตอบไม่ได้ อย่าแปลกใจ อย่าน้อยใจ อย่าเสียใจ แต่พยายามจำตอบให้ได้มากที่สุดเท่าที่รู้

ความรู้ก็หาง่ายมาก ตีซี้กับ GOOGLE คุณจะฉลาดได้มากกว่าเดิมหลายร้อยเท่า

คนที่ถามคำถามนี้ได้กับเอิ๊ก คงต้องเป็นคนที่มีสภาพผิวเหมือนกันมากที่สุด เพราะเอิ๊กถนัดที่จะรู้เรื่องของผิวตัวเองอย่างละเอียด

  • ถ้าคุณเป็นคนผิวแห้งมาก ถึงมากที่สุด
  • ถ้าคุณเป็นคนผิวแพ้ง่าย คือ มีผื่นแดง บวม เวลาแพ้เครื่องสำอาง หรือสกินแคร์
  • ถ้าคุณเป็นคนผิวระคายเคืองง่าย หรือ SENSITIVE SKIN คือ ถ้ามีการระคายเคืองสิวจะขึ้นเม็ดเล็กๆมีน้ำใสๆอยู่ข้างใน
  • ถ้าคุณเป็นคนที่สิวขึ้นง่าย ทุกชนิด
  • ถ้าคุณมีผิวตามนี้ทั้งหมด คุณสามารถ ถามเราได้อย่างไม่เกรงใจใน FANPAGE

สำหรับคนที่ไม่ได้มีสภาพผิวตามนี้เอิ๊กกี้ได้เตรียมหนทางเลือกไว้ให้คุณผู้หญิงและคุณผู้ชายแล้ว

สำหรับปัญหาโลกแตก ใช้ครีมตัวไหนดี ใช้เครื่องสำอางตัวไหนเวิค !!

ในทุกประเทศจะมีเว็บไซด์เพื่อจัดรวมการ REVIEW สกินแคร์ และ เครื่องสำอางไว้ เพื่อเป็นประโชยน์กับคนที่กำลังมองหาทางเลือกใหม่ให้กับผิว

COOL เราสามารถรู้ได้ว่าคนส่วนใหญ่ในประเทศของเรา เค้าใช้อะไรกันส่วนมากแล้วบอกว่าดี จะมีการจัดอันดับไว้ให้เห็น

UNCOOL ต้องดูเปรียบเทียบกันหลากหลายเว็บ เพราะแน่นอน เมื่อเป็นที่รวมตัว ก็ย่อมต้องมีผู้สนับสนุนเนื้อหาในแบบที่เป็นเจ้าของ สกินแคร์ หรือ เครื่องสำอางแบรนด์ใดแบรนด์หนึ่ง และมันเป็นแค่กลุ่มคน ไม่ใช่คนทั้งโลก ดังนั้น วิจารณญาณสำคัญที่สุดค่ะ

ดังนั้น กรุณาดูเปรียบเทียบหลากหลายเว็บไซด์ในด้านความเห็น และเสริทหาความเห็นจากใน GOOGLE ร่วมด้วย จะเป็นการดีมาก ของดีไม่จำเป็นต้องแพง และของถูกไม่จำเป็นต้องดีทุกอย่าง ขอแค่มันใช้แล้วถูกกับเราดีกว่า

ขอแนะนำเว็บไซด์ REVIEW สกินแคร์ และ เครื่องสำอางรายใหญ่ของประเทศไทยมีทั้งหมด 3 เจ้าด้วยกันไม่เรียงลำดับความนิยม

1. http://www.vanilla.in.th/

2. http://www.jeban.com/reviews.php

3. http://www.cosmenet.in/

และพิเศษสำหรับคนที่เป็นสิวไปดูรีวิวกันที่นี่เลย ชอบมากกก

4. http://www.acnethai.com

ขอแถมด้วยเผื่อใครอยากได้ความเชื่อมัน บางแบรนด์ที่ฮิตทั่วโลกก็จะมีREVIEWทุกประเทศ แต่ขอยกตัวอย่างเว็บที่ชอบ 2 เว็บนะคะ

http://www.makeupalley.com/

http://www.totalbeauty.com/

ส่วนตัวจะหาโดย Search จาก GOOGLE ร่วมด้วยค่ะเพื่อความมั่นใจในการเสียตังค์ ฮ่าๆ

ไม่ใช่ว่าไม่รัก หรือไม่อยากตอบ เวลาคนให้แนะนำ แต่ถ้าเกิดแพ้ จะรู้สึกผิดมาก อีกอย่างยังรู้น้อยมากนะคะรู้ดีคือผิวแบบตัวเอง เลยอยากให้ทุกคนไปตั้งใจค้นคว้าเพื่อทำความรู้จักกับผิวตัวเองเรื่อยๆจะได้เก่ง เป็นกูรูของตนเองได้อย่างดี 🙂

สนับสนุนให้ทุกคนดีทั้งรูปลักษณ์และฉลาดที่จะเรียนรู้เพื่อตัวเองค่ะ <3

XOXO

Posted in FACE, MAKE UP, Q&A, SKIN CAREComments (6)

REVIEW การฉีดสาร BOTULINUM TOXIN หน้าเรียว รอบ2

ตั้งแต่เล็กจนโตมา ยี่สืบกว่าปี ก็มีคนชื่นชมและวิจารณ์กับแก้มใหญ่ๆกลมๆของตัวเอง บางครั้งก็รู้สึกดี บางครั้งก็รู้สึกเซไปกับน้ำลายคนอื่นบ่อยครั้ง .. เพราะไม่ใช่ทุกคนที่จะมีจิตวิทยาในการพูด อย่างเช่น คำว่า ” หน้าอืด หน้าบวม หน้าบาน แก้มใหญ่ แก้มบวม ” …….. คนพูดสนุก แต่คนฟังไม่ได้รู้สึกด้วย เป็นความหลังที่ใส่ลิ้นชักไปแล้ว

เพราะเวลาโตขึ้น ความคิดของคนเราก็จะเปลี่ยนไป

ใจเย็นลง คิดเยอะขึ้น รู้ว่าอะไรควรใส่ใจ อะไรควรปล่อยวาง 🙂

สมัยก่อนรู้จักคำว่าศัลยกรรม ก็คืออะไรที่เกี่ยวกับ มีด การเย็บ การผ่าตัด อะไรที่น่ากลัว อะไรที่ต้องใช้เงินมากมาย เด็กอยู่จึงรู้สึกว่ามันห่างไกลมาก

 

 

สมัยนี้ต้องยอมรับว่ามนุษย์มีความสามารถที่น่าทึ่งหลายอย่างในการสร้างเทคโนโลยีทำให้ทุกอย่างมันง่ายขึ้น เร็วขึ้น สบายขึ้น จ่ายน้อยลง เห็นผลเร็วขึ้น ที่สำคัญเทคโนโลยีการแพทย์ทำให้คนเราเจ็บตัวน้อยลง แผลเล็กลง พักฟื้นไม่กี่ชั่วโมงก็สามารถกลับบ้านได้ แต่สิ่งหนึ่งที่คนเราควรเรียนรู้ไปพร้อมๆกับมันก็คือ ” การศึกษาหาข้อมูลให้ละเอียดก่อนที่จะทำอะไรลงไป ” โดยเฉพาะในโลกยุคที่ไม่มีพรมแดนในการหาความรู้ ในเรื่องที่มันอยากเกินตัวเอง ก็อย่าเชื่อในสิ่งที่เห็น อย่าเชื่อใครจนหมดใจ จนกว่าจะได้รู้ข้อมูลมามากพอนะคะ ขอให้ทุกคนโชคดีในเรื่องการตัดสินใจได้อย่างถูกต้อง

 

สำหรับวันนี้ในการ REVIEW ก็เป็นเรื่องที่เอิ๊กไม่คุ้นเคย ไม่ถนัด และไกลตัวมาก อย่างการฉีดสาร BOTULINUM TOXIN ซึ่งจริงๆมันก็คือสิ่งแปลกปลอมเข้าภายในอวัยวะของร่างกายตนเอง ก่อนที่เอิ๊กจะตัดสินใจฉีด อาจจะหาข้อมูลมาได้เพียงด้านเดียวคือ BOTULINUM TOXIN TYPE A เอาไว้ทำอะไร สั้นๆมันก็คือ สารสกัดโปรตีนบริสุทธิ์จากเชื้อแบคทีเรีย ที่จะมีระยะเวลาสลายไปตามกาลเวลา ไม่ใช่ว่าจะไม่มีพิษเลยแต่เราต้องใช้ในปริมาณหลายร้อยขวดถึงจะเกิดอันตราย ในความเป็นจริงด้านความงามเราใช้ไม่เกิน 2 ขวดอย่างมาก 1 ขวดก็เสร็จสิ้นแล้ว กับการสร้างความมั่นใจให้กับใบหน้า ไม่ว่าจะลดริ้วรอยอันไม่พึงประสงค์ ลดขนาดอวัยวะให้มันเล็กลง ลดขนาดกล้ามเนื้อแนวขากรรไกร

สิ่งสำคัญมากที่สุด อีกเรื่องคือการเลือกแพทย์ ดีนะที่มันเป็นเรื่องชั่วคราว ไม่ใช่เรื่องถาวรไม่งั้นคงต้องน้ำตาตกใน

 

วิธีการฉีดสาร BOTULINUM TOXIN เพื่อลดขนาดกล้ามเนื้อแนวขากรรไกร (หน้าเรียว) ก็คงแล้วแต่เทคนิคของแพทย์แต่ละท่าน ส่วนมากก็จะฉีดบริเวณแนวขากรรไกร ซึ่งสารพวกนี้นับเป็น UNIT จะฉีดกี่ UNIT คุณหมอจะเป็นคนพิจารณาเอง การเลือกยี่ห้อสารชนิดนี้ก็แล้วแต่งบดุลในกระเป๋าตังค์เราด้วย เพราะยี่ห้อต่าง ราคาก็ต่าง ที่ฮิตในไทย คงมี 3 ยี่ห้อใหญ่ซึ่งผ่านอย.และอยู่มายาวนานตั้งแต่ 4 – 10 ปีขึ้นไป ได้แก่ BOTOX (USA) / DYSPORT (EUROPE) / NEURONOX (KOREA)

ก่อนฉีด

รอบแรกที่เอิ๊กฉีดเป็นของ BOTOX จำนวน 50 UNIT ผลที่ได้เห็นผลชัดภายใน 3 สัปดาห์ (ซึ่งจำนวนUNIT&การเห็นผลแต่ละคนต่างกันมากนะคะ)

หลังฉีด ผ่านมา 1 เดือนกว่า แก้มหายไปเลยทั้งที่ไม่ได้ไปทำอะไรกับแก้ม เป็นผลพลอยได้ที่ปรารถนามาก แต่มุมปากตกข้างนึง รอยยิ้มแปลก ดูแหย ทั้งที่ยิ้มปกติเลย รู้สึกขาดความมั่นใจไปหลายเดือนมาก

หลังฉีด ผ่านมา 5 เดือนกว่า ใบหน้าเริ่มกลับมาปกติสำหรับรอยยิ้ม แต่หน้าไม่ได้มีขนาดเท่าแต่แรก

 

จนกระทั่งครบ 6 เดือนเป็นเวลาที่คนส่วนใหญ่บอกว่า BOTULINUM TOXIN สลาย จึงไปจัดมาครั้งที่ 2 คราวนี้ได้คุณหมอที่หาข้อมูลมาอย่างดีฉีด คุณหมอแนะนำให้ใช้ของเกาหลี หรือ NEURONOX โดยให้เหตุผลในการฉีดว่ามีปัญหาเรื่องมุมปากตก ของเกาหลีจะมีขนาดโมเลกุลจะเล็กกว่า BOTOX (USA) การกระจายตัวน้อยกว่าจะได้ไม่ไปกระทบกับผลข้างเคียงเดิมคือมุมปากไม่เท่า และผลคือ ไม่มีผลกระทบใดเกิดขึ้นรอยยิ้มกลับคืนสู่ความเป็นธรรมชาติ

UNCOOL NEURONOX ที่พบซึ่งคุณหมอบอกว่าอาจจะเห็นผลช้าประมาณ 2 เดือน ตอนนี้ผ่านมา 3 อาทิตย์กว่าไม่รู้สึกว่ามันเล็กลงอย่างเห็นได้ชัดเหมือนครั้งแรกเดี๋ยวครบ 2 เดือนจะมาเล่าให้ฟังอีกครั้งนะคะ

COOL ไม่ปวดเวลาเคี้ยวเนื้อแข็งๆ ของแข็ง ปกติเมื่อก่อนเมื่อยมากทรมานมาก บางครั้งหัวเราะมากๆก็เมื่อยขากรรไกร ตอนนี้ไม่เป็น มีความปกติสุข

ส่วนความหวังอยากให้มันเล็กลงเยอะๆ รอบนี้ลุยไป 60 UNIX แต่คุณหมอเก่งมาก ใบหน้าดูสมดุลสมส่วนมาก เทียบกับที่ผ่านมา รอบหน้าคงไม่เปลี่ยนแพทย์แล้วค่ะ ราคาไม่แน่ใจที่อื่นเป็นยังไง ที่นี่ 50 UNIT อยู่ที่ 8,000 บาท ของเอิ๊กก็เพิ่มเงินนิดหน่อย เอิ๊กฉีด โบท็อคและฟิลเลอร์ที่เดี่ยวกันนะคะ ฉีดที่ ISKY CENTER กับคุณหมอรังสิมา

 

การดูแลหลังการฉีด (หาข้อมูลมาจากบทความทางการแพทย์หลายๆเว็บไซด์)

1. ห้ามโดนความร้อน อบไอน้ำ

2. ห้ามทำเลเซอร์ นวดหน้า ขัดหน้า ทรีทเมนท์ภายใน 2 สัปดาห์แรก

3. ห้ามดื่มแอลกอฮอล์เพราะอาจสลายฤทธิ์ยา

4. ห้ามนอนราบภายใน 4 ชั่วโมงหลังทำ

5.ห้ามเคี้ยวหมากฝรั่ง เนื้อแข็งๆ (จะช่วยยืดระยะเวลาตัวยาออกไปให้อยู่นานขึ้น)

อาจมีอย่างอื่นอีกมั๊งไม่แน่ใจ แต่ตามนี้เราปฎิบัติตามอย่างเคร่งครัด 🙂

 

ขอให้ใบหน้าสวยใส จงเป็นของทุกคนค่ะ 😀 แล้วพบกันใหม่กับบทความหน้า

XOXO

Posted in BEAUTY TECHNOLOGY, BOTOX, FACEComments (20)

REVIEW AVIANCE ADVANCED BRIGHTENING BIO CELLULOSE MASK มาส์คฟื้นฟูผิวล้ำลึกเร่งด่วยภายใน 5 วัน

 

XOXO

Posted in FACE, REVIEWComments (2)

GET THE RIGHT START ! : ข้อมูลก่อนทำโบท็อกซ์ และ REVIEW การทำโบท็อกซ์หน้าเรียว 6 เดือน

การฉีด BOTULINUM TOXIN รอบ2 เพราะได้ระยะเวลา อีกนับนึงคือแก้ปัญหามุมปากตกข้างนึง แคบข้างนึง ได้ความรู้เยอะมาก ” ตั้งแต่ก่อนอื่นต้องเรียกอยากถูกต้องว่า BOTULINUM TOXIN ไม่ใช่ BOTOX เนื่องจากชื่อ BOTOX เป็นชื่อยี่ห้อของสาร BOTULINUM TOXIN ทางฝั่งอเมริกา เหมือนเครื่องถ่ายเอกสารซีรอก (มาจากยี่ห้อฟูจิซีรอก) เป็นผลพลอยได้ทำให้ชื่อแบรนด์กลายเป็นคำเรียกติดปาก ถือว่า แบรนด์ประสบความสำเร็จมาก  “

ตอนนี้เท่าที่รู้เมืองไทยผ่าน อย. มา 3 ประเทศ อเมริกา ยุโรป เกาหลี ดังนั้นศึกษาให้ดี และความเข้าใจผิดอีกอย่างคือ ยี่ห้อไหนดีที่สุด ความจริงแล้ว การรู้เรื่องระบบกล้ามเนื้อสำคัญ เพราะมันแบ่งเป็นมัด และวางเรียงตัวแต่ละส่วนบนใบหน้าไม่เหมือนกัน แพทย์เท่านั้นใช้เทคนิคไหนฉีดแก้ปัญหาให้เรา และ ยี่ห้อมีส่วนในเรื่องของโมเลกุลการกระจายตัวด้วย ยิ่งกระจายตัวมาก โอกาสออกผลอาจจะเยอะ แต่ถ้าพลาดไปก็เป็นแบบเอิ๊กค่ะ ” คือมุมปากตก มุมปากแคบข้างนึง “

วันที่ 12 เมษายน 54 – ฉีดรอบแรก

วันที่ 10 ตุลาคม 54 – ฉีดรอบสอง (ยังรึวิวไม่ได้)

การเห็นผล – ใบหน้า และการตอบสนองแต่ละคนไม่เหมือนกัน เอิ๊กมักจะเห็นผลตั้งแต่ 3 อาทิตย์เป็นต้นไป และยี่ห้อไม่แน่ใจว่าจะมีผลไหม ยังไงเดี๋ยวได้ทราบกันวันที่ 1 พย. นี้ถ้ายังไม่ได้ผล แสดงว่าใบหน้าเอิ๊กตอบสนองกับ BOTULINUM TOXIN ยี่ห้อที่ 2 ช้า รอบนี้ไปทำที่ ISKYCENTER ฉีดกับผู้ช่วยศาสตราจารย์ รังสิมา โดยตรง วันเดียวกับที่ฉีด FILLER ราคาทั้ง 3 ยี่ห้อ แตกต่างกันไป เอิ๊กฉีดยี่ห้อที่เหมาะกับเอิ๊กซึ่งคุณหมอแนะนำมาในการแก้ปัญหามุมปากตกไม่ให้เกิดซ้ำอีก ทุกวันนี้ส่องกระจกทุกวัน ดูว่ารอยยิ้มตัวเองเปลี่ยนรึเปล่า สำหรับการฉีดแล้วเกิดปัญหาอะไร CLICK

เมื่อได้มีโอกาสไปฉีดกับระดับอาจารย์เลยขออนุญาตสัมภาษณ์เพิ่มเติมเป็นวิทยาทานให้กับตัวเองและคนอื่นที่สนใจเพิ่มเติมค่ะ สำหรับคลิปวีดีโอเกือบทุกชิ้นของเอิ๊ก อาจไม่สนุก แต่อัดแน่นไปด้วยความตั้งใจ และ พยายามให้คนที่ดูได้รับประโยชน์ในแต่ละครั้งค่ะ และครั้งนี้ก็เช่นกัน คิดคำถามเอง แม้คุณหมอเองมีเวลาน้อยมากเพราะไปธุระต่อ แต่คุณหมอก็ให้เวลาสัมภาษณ์ 30 นาที 2 เรื่องเลย FILLER และ BOTULINUM TOXIN

บทสัมภาษณ์ผู้ช่วย ศาสตราจารย์ รังสิมา วณิชภักดีเดชา

1.การฉีด BOTULINUM TOXIN ทราบว่าต้องรู้จักกล้ามเนื้อเป็นอย่างดี อยากทราบว่าสาขาเกี่ยวกับกล้ามเนื้อเรียนยากไหมคะ ?

2. คุณหมอเริ่มฉีดโบทอกมานานแล้วรึยังคะ ?

3. BOTULINUM TOXIN คืออะไรทั้งแน่แง่สุขภาพและความงาม

4.ส่วนมากคนไข้ที่มาฉีดสาร BOTULINUM TOXIN เขามีปัญหาตรงจุดไหนกันเป็นส่วนใหญ่

5. BOTOX กับ FILLER ทำงานต่างกันยังไงคะ

6. ก่อนจะเริ่มฉีด BOTULINUM TOXINควรรู้เกี่ยวกับเรื่องอะไรบ้างคะ

7. BOTULINUM TOXIN ก่อให้เกิดผลข้างเคียงไหมระยะสั้นหรือยาวไหมคะ เพราะหนูเองมุมปากตกข้างนึง

8. ถ้าเกิดเหตุการณ์สุดวิสัยฉีด BOTULINUM TOXIN แล้วผิดพลาด ใบหน้าไม่เท่ากัน มีวิธีแก้ไขไหมคะ

9. ทราบมาว่าโบทูลินัมทอกซินมีหลากหลายยี่ห้อ ยี่ห้อไหนดีที่สุดคะ

10. มีอายุเท่าไหร่ถึงเริ่มทำได้ค่ะ

11. อยากให้คุณหมอฝากคำแนะนำสำหรับคนที่สนใจเรื่องโบทอกซักนิดคะ

12. เคล็ดลับการดูแลผิวพรรณใบหน้าและลำตัวของคุณหมอ เพราะคุณหมอผิวสวย ออร่าประกาย เนียนมากทั้งที่ไม่เคยรับประทานกลูต้า สืบมาแล้ว


ต้องขอขอบพระคุณผู้ช่วยศาสตราจารย์ รังสิมา วณิชภักดีเดชาสำหรับข้อมูลอันเป็นประโยชน์เหล่านี้มากค่ะ

 

 

 

ก่อนไปจัดภาพนิ่งให้นิดนึง REVIEW การทำ BOTULINUM TOXIN รอบแรกที่ไม่ฉีดกับคุณหมอนะคะ พอใจมากที่สุดในแง่ใบหน้าเล็ก

 

 

ฉีดจริง

ก็ไม่ได้เอาแก้มออกนะคะ ยังมีอยู่ BABY FAT เราหวงอยู่แล้ว 🙂

 

 

 

XOXO

 

 

มีคำถามอะไรขอให้ทิ้งไว้ที่ FANPAGE นะคะ

Posted in BEAUTY TECHNOLOGY, BOTOX, FACE, REVIEWComments (1)

GET THE RIGHT START ! : REVIEW การฉีดฟิลเลอร์คาง และสิ่งที่คุณควรรู้ก่อนทำฟิลเลอร์

 

 

 

 

ย้อนไปเมื่อหลายอาทิตย์ก่อนระหว่างนั่งดูคุณนกตีสิบกับรูปลักษณ์โฉมใหม่ที่เธอได้พยายามจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง เพียงเพราะโดนผู้ชายห่วยๆคนนึงทิ้งไปเพราะว่าเธอสวยน้อยกว่าผู้หญิงคนใหม่ .. หลังจากเห็นโฉมหน้าหลังศัลยกรรมยกเครื่องหน้าใหม่ ตัวเองเหมือนโดนสะกด หลังจากวันนั้นใช้เวลาทุกวันเป็นเวลาหลายอาทิตย์ในการเข้า เว็บสังคมออนไลน์ที่เกี่ยวกับการทำศัลยกรรมของไทยเรานี่ละ มีผู้คนมากมายมาแลกเปลี่ยนความคิดเห็น พูดคุย แนะนำ และ เผยภาพก่อน – หลังการทำศัลยกรรม


ทุกวินาทีทำให้เราคิดเรื่องที่ไม่เคยคิด อยากในเรื่องที่เคยคิดว่าจะไม่ทำเพียงเพราะเวลาเราเห็นอะไรที่ดูดี เราก็อยากจะดูดีบ้าง ทั้งที่ตัวเองก็ควรจะภูมิใจที่มี 32 ประการครบ ทุกอย่างน่าจะพอดี ก่อนหน้านี้ 6 เดือน ก็โดนกระแสการทำโบทูลินัมทอกซินจากรุ่นพี่ใน Facebook คนนึงเป็นคนมีชื่อเสียง เธอเป็นคนที่สวย มีเสน่ห์ น่ารัก และเป็นคนมีแก้ม หลังจากเธอไปทำโบทูลินัมทอกซิน ลดขนาดกล้ามเนื้อแนวขากรรไกรมาก็กลับมา ” สวยโคตร ” ความรู้สึกโชคดีของผู้สาวแก้มใหญ่ก็มาถึงคือ ” อยากบ้าง อะไรบ้าง “


ตอนนั้นก็รู้สึกว่าโชคดีที่ตอนดัดฟันแล้วไม่ยอมถอนฟันเพียงเพราะให้ใบหน้าดูเรียวลงเนื่องจาก แอบคิดว่า พอถึงเวลาที่เราแก่ฟันเรามันก็ร่วงอยู่แล้ว ถ้าถอนเยอะไป แล้วตอนแก่จะเหลืออะไรให้หลอ จะเค้ียวข้าวลำบากไหม (คิดการณ์ไกลมาก) ก็ยอมหน้ากลมมา 23 ปี มามีประสบการณ์การทำ โบทูลินัม ทอกซิน ตอนอายุ 23 ปี 11 เดือน แล้วมันเกี่ยวอะไรกับฟิลเลอร์ คือ ขอท้าวความก่อนก้าวเข้าสู่สังเวียนการทำศัลยกรรมขนาดย่อม ?

โดยเริ่มจากการอยากมีใบหน้าที่เรียวยาว เนื่องด้วยเวลาถ่ายรูปอะไรก็แล้วแต่ที่มีตากล้อง จะโดนบังคับทำร้ายจิตใจ ให้ก้มหน้า แบนหน้าให้เอียงให้มากที่สุด ก้มแทบคางจะติดกับเหนียงที่คออยู่แล้ว .. เพราะเค้าบอกว่าเรา ” หน้าบาน “


เกลียดคำพวกนี้มาก ” หน้าบาน หน้ากลม หน้าอ้วน หน้าอืด “ คิดในใจ

(ทำไมอะไรกับตูนักหนาวะ)

เลยไปอัดโบทูลินัมทอกซินเข้าที่กล้ามเนื้อแนวขากรรไกร เนื่องด้วยอาชีพพนักงานเอกชน เงินเดือนน้อยนิด เนื่องด้วยความต้องการอยากดูแลแม่ให้ดี เลยยกเงินเดือนให้แม่ครึ่งนึง ดูแลค่าใช้จ่ายในบ้านเกือบทุกอย่างยกเว้นค่าน้ำ เราก็เลยมองหาเรื่องราคาเป็นอันดับหนึ่ง แต่ยาต้องคุณภาพสุด ดีที่สุด เลยไปจบที่โรงพยาบาลรัฐบาลที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง (ขอไม่บอกนะคะ เพราะเดี๋ยวเขาเสียหาย) ด้วยคำแนะนำจากพี่สาวที่เรารู้จักและนับถือ พี่เขาจะเป็นคนแนะนำสิ่งที่ดีให้เราตลอด


สรุปได้ราคาต่ำกว่าคลินิคปกติเกือบครึ่ง ” วิธีการคือไปถึง ไปนอนที่เตียงแล้วมีนร.แพทย์ยืนเรียงดูตอนเราฉีด (คือไม่ทราบมาก่อน) เราก็รีบนอน แล้วเขาผสมตัวยาเสร็จ แล้วนำหมึกมาจิ้ม ทำมาร์คไว้ก่อนว่าจะฉีดตรงไหน ประมาณ 5 จุด หลังจากนั้นก็ฉีดเข้าใบหน้าเรา 5 ครั้ง โดยไม่ได้มีการโปะยาชา (เพราะมันราคาถูกไงคะ) เรารู้สึกว่าปวดมาก เวลายามันวิ่งเข้ากล้ามเนื้อ เสร็จปุ๊บ คือให้ลงจากเตียงแล้วกลับบ้านได้ “


สรุปคือเรียวสมใจมาก แต่มันมีผลกระทบซึ่งสำหรับตัวเรารู้สึกโชคดีคือมันจะสลายแน่นอน 6 เดือน แต่ตอนนั้นต้องทนกับการมีรอยยิ้มที่ ” มุมปากตกไปข้างนึง “ มุมปากไม่เท่ากัน แก้มข้างนึงแคบ ข้างนึงปกติ เหตุเกิดเพราะมีคนทัก โดยส่วนตัวไม่รู้เลย

ก่อนทำเป็นคนที่รอยยิ้มมีความสมดุลอยู่แล้ว พอหลังทำสังเกตุมุมปาก และขอบร่องแก้มไม่เท่ากัน ชีวิตจริงเห็นชัดกว่านี้ เพื่อนทักมาคำนึง ” ทำไมยิ้มแปลกไป ” “ทำไมยิ้มเหมือนเสแสร้ง”

คือคนยิ้มเนี่ย งง ฉันยิ้มของฉันปกติ

ส่วนปัจจุบัน กลับมาจะครบ 100 % แล้วค่ะ แต่รู้สึกว่าหน้าไม่ใหญ่เท่าตอนแรกก่อนฉีด


คือตอนแรกอาจจะพบว่าคางไม่ค่อยมี หน้าดูมีแก้มและผสมเหลี่ยมนิดๆพออินเทรนด์ แต่หลังโบทูลินั่มทอกซิน ค้นพบว่าตัวเองมีความสุขมากในการดำเนินชีวิต แม้ไม่ใช่ดารา หรือ บุคคลมีชื่อเสียง แต่ไม่ขอปฎิเสธว่าอยากเป็นคนที่ดูดีคนนึง ดังนั้นเพื่ออะไรก็ได้ที่ทำแล้วดูดีเข้ารูปขึ้นเราก็ยอม


มาเข้าเรื่องที่ฟิลเลอร์ เมื่อก่อนอาจจะหาข้อมูลมาน้อยว่าโบทูลินั่มทอกซิน ผลกระทบมันคืออะไร ของเราโดนในแง่ที่มุมปากข้างนึงตก ไม่ถึงกับปากเบี้ยว ดังนั้น สำหรับโบทูลินั่มทอกซิน ทำต่อไปเรื่อยๆแน่นอนค่ะ แต่คงไม่ใช่ที่เดิมแน่นอนค่ะ ตอนนี้จะเลือกเอกชนที่มีความเป็นส่วนตัวไม่ต้องไปนอนให้ใครเห็น ( อายมาก )


ฟิลเลอร์ก็มาอยากทำให้คางตัวเองดูยาวขึ้นเพราะเห็นคนอื่นทำ ทั้งที่พอหน้าเรียวแล้วก็จะดูมีคางเรียวยาวเอง แต่ก็อีกนั้นแหละ ดูทีวี เสพย์สื่อมากไป มากไปจริงๆ ถึงขนาดโทรไปถามที่ๆจะไปทำว่ามีบริการฉีดเสริมให้คางยาวไหมคะ พอเค้าบอกว่ามี ไม่ใช่ว่าเราจะไปทำเลย เราก็ยังนั่งอยู่ในโลกเว็บออนไลน์ทำศัลยกรรมต่อ ดูและพิจารณา ถามจิตถามใจ ” จะเอาไหม ? ” สรุปก็ไปจัดซัก 1 เข็มฉลองน้ำท่วม


ทีนี้มารู้จักก่อนว่าไอเจ้า ” ฟิลเลอร์ “ คืออะไร

” ฟิลเลอร์ หรือ ไฮยาลูรอนิก แอซิด หรือ ไฮยารูรอน เป็นสารประกอบน้ำตาลเชิงซ้อนที่มาเรียงต่อกันเป็นสาย ในผิวเราหนังของคนเราตามธรรมชาติจะมีสารนี้อยู่เป็นปกติ ซึ่งสารนี้มีคุณสมบัติในการดึงดูดน้ำ ทำให้ผิวหนังอิ่มเอิบ อวบอิ่ม มีความยืดหยุ่น ”

(ที่มา : http://www.p10surgery.com/)

โอเครู้ประมาณนี้นะเดี๋ยวจะงง ยิ่งคนทำอ่านมากจะงงมาก เลยเอาพอดีดี แต่สิ่งที่กังวลคือผลกระทบ เดี๋ยวเหมือนน้องโบทูลินั่มทอกซินอีก

รอบนี้ถามคุณหมอเลยค่ะ ไม่รอแล้ว ถามตรงๆแบบขอความจริงจะได้ตัดสินใจถูก ตรงข้อมูลอันเป็นประโยชน์นี้ต้องกราบขอบพระคุณ ผู้ช่วยศาสตราจารย์รังสิมา ที่ให้ข้อมูลในครั้งนี้เพื่อการเผยแพร่เป็นความรู้สำหรับที่อยากทราบข้อมูล หรือคนที่สนใจคิดจะทำ





หลังจากได้รู้ข้อมูลเสร็จจัดไปกับคางใหม่เดี๋ยวนั้นเลย หลังจากนอนไม่หลับเป็นเดือน เอาซะจะได้เลิกบ้า (ฮ่า ) รอบนี้จัดที่ ISKY และทำกับคุณหมอรังสิมานี่ละค่ะ เพราะพนักงานบอกว่าคุณหมอคนไข้มาฉีดเยอะมาก นึกในใจ ทำไมเราไม่เคยถาม ทั้งที่ไปให้คุณหมอยิงเลเซอร์บ่อย – – ” ฟิลเลอร์ราคาพอกับโบทอกเลย ราคาแล้วแต่ยี่ห้อ แล้วแต่สถานที่ ที่เคยถามมาไม่ควรเกิน 15,000 บาท จะแพงมากไป ของที่นี่ก็มี 2 ราคา 2 ยี่ห้อ 11,000 กับ 14,000 บาท เรื่องยี่ห้อไม่ได้ศึกษา ศึกษาแต่หมอ และผลกระทบ เพราะกลัวมากกลัวเจอแบบโบทูลินั่ม รอบก่อน


ไปถึงก็มีพี่ๆพนักงานให้ไปทำความสะอาดใบหน้า ไม่เคยมาล้างหน้าที่นี่เลย เพราะทำเลเซอร์ไปแบบเปลือยสุดชีวิต คุณหมอเป็นลมทุกครั้ง ฮ่าๆ


ที่ล้างหน้ามีตั้งแต่สูตร แพ้ง่าย ผิวธรรมดา ผิวมัน ของเราต้องล้างขวดขาวใสโลด เชื่อไหมว่าเป็นโรคกลัวแพ้ แม้กับของหมอเองก็ระแวงก่อนอะไรที่ไม่เคยใช้ ใช้แต่น้อย แล้วล้างน้ำเยอะๆ 5555555555

ระหว่างรอคุณหมอ ก็ให้พี่เมย์สุดที่เลิฟ ถ่ายรูปให้หน่อยจะนำไปลงบลอค พี่ๆพนักงานก็มาทายาชา ตื่นเต้นมากไม่เคยโดน โดนซะ รอไป 1 ชั่วโมง หลับรอ 🙂

วันนี้จัดเต็มค่ะ ฟิลเลอร์คางยาว โบทูลินั่มทอกซินหน้าเรียว


คำแนะนำก่อนทำ คุณหมอไม่อยากให้ทำ อยากให้ทำอย่างเดียวก่อนคือ โบทูลินัมทอกซินเนื่องจากมันหมดฤทธิ์ของเก่าแล้วเลย 6 เดือนแล้วพอดี อยากให้รอดูผลแล้วค่อยเติมฟิลเลอร์ที่คางจะได้พอดี เพราะถ้าคางยาว แต่มันจะดูยาวกว่าเดิมอีกถ้าเกิดหน้าเรียวเข้าที่แล้วและมันจะดูเหมือนหนู แต่คนไข้ดื้อ อยากดูเลย เพราะมันไกลด้วย มาไม่บ่อย เพราะคุณหมอคนไข้เยอะ  T^T

คุณหมอก็บอกแค่ว่า หมอเติมให้นิดเดียวนะคะ เอาธรรมชาติที่สุด เอาเล็กๆ ระหว่างฉีดขนาดโปะยาชาเป็นเวลานาน แต่มันปวดมาก มือคุณหมอนิ่มมาก แล้วคุณหมอก็พูดเสียงนุ่มๆ สะกดจิตเราตลอดเวลา ว่าจะเสร็จแล้วนะ อีกนิดนึง อีกนิดนึงนะ ใกล้แล้ว อีกนิดเดียว ตัวเราเองหลับตาปี๋ มันปวดจริงๆนะคะ รู้สึกแค่ตัวยามันวิ่งเข้ามาจึงปวด ไม่ถึง 5 นาทีทุกอย่างเรียบร้อยด้วยฝีมือการปั้นคางของคุณหมอรังสิมา

เป็นไงคะ หลังทำมันบวมเลยทันที ตอนนี้ยังไม่เข้าที ต้องรอประมาณ 5 วันห้ามโดนอะไรร้อนๆ ห้ามนวด ขัด หรือทำอะไรกับใบหน้า แต่งหน้าได้ปกติ ไม่มีแผลใหญ่ มีแผลคือรอยเข็ม รูเท่าจิ๊มิ๊มดแดง

แล้วมันก็หายบวมในที่สุดหลังจากนั้น 10 วัน คือ ตัวเองดูไม่ออก แต่เมื่อถ่ายคลิปเห็นชัดมากค่ะ

วัดให้เห็นกันไปเลย ยาวขึ้นแบบมันดูเป็นวงรีเลย อยากให้โบทูลินัมออกฤทธิ์ไวไว จะได้ดูเห็นชัดกว่านี้แน่นอน

ดูคลิปนี้แล้วจะรู้ว่าคางเปลี่ยนไป


สรุปรอบหน้าจะทำฟิลเลอร์คางอีกหรือไม่ คิดว่า “อาจจะทำ หรือ อาจจะไม่ทำ” 50/50 เพราะเมื่อใดก็ตามที่หน้าดูเรียว คางก็ยาวขึ้นมาเอง ขอคิดอีกที ก็มันปวดนี่นา (ฮา)


หวังว่าคงถูกใจใครหลายคนนะคะ ในการเปิดเผยเคล็ดลับ ที่แก้มหายไปบางคนอาจจะบอกว่าแบบเดิมดีกว่า แต่เรามีความสุขกับแบบนี้มากกว่า นั้นทำเถอะ เพราะเราต้องเห็นหน้าตัวเองทู๊กวันนนนนนนนนนนน

XOXO



คราวหน้ามาต่อกันที่ BOTOX ถ้ามันเห็นผล ถ้ามันยังก็ฟังสัมภาษณ์ของคุณหมอไปก่อน เป็นคนไข้ แล้วก็ขอคุณหมอเป็นนักเรียนด้วยให้คุณหมอสอนทุกอย่างเลย 🙂



Posted in BEAUTY TECHNOLOGY, CHEEKS, CHIN, FACE, REVIEWComments (4)

GET THE RIGHT START ! ตรวจสภาพผิวเพื่อรอคุณหมอปรุงครีมบำรุงผิวของตัวเองคนเดียว :)

วันนี้ก็นำทุกคนเข้ามาสู่เรื่องราวของผิวพรรณเช่นเคย ปีที่ 2 และ ปีหน้าปีที่ 3 เอิ๊กจะเน้นเขียนเรื่องราวความสวยความงามที่ชื่นชอบ และเรื่องราวความสวยความงามด้านอื่นที่ตัวเองสนใจ อยากรู้ อยากศึกษาเพิ่มเติมเพื่อนำมาแบ่งปันเพื่อนๆนะก๊ะ

อันนี้เป็นบทความที่ดองไว้เกือบ 2 เดือนเกี่ยวกับความประทับใจส่วนตัวในเรื่องของการตรวจสภาพผิวเพื่อหาแนวทางการบำรุงผิว การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ และการหาแนวทางป้องกันผิวแต่ละแบบได้อย่างเหมาะสม เพราะปัญหาผิวพรรณมีหลากหลาย ตั้งแต่ สิว จุดด่างดำ ความหมองคล้ำ รอยแผลเป็น รอยแดงรอยดำ แผลตื้น แผลหลุม ผิวที่มีริ้วรอย

ถ้าเรารู้ว่าเรามีผิวแบบไหน เราจะสามารถดูแลตัวเองได้อย่างถูกต้องในแง่ของการศึกษาหาข้อมูลเพิ่มเติม ประกอบกับหาอ่านคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญ คำแนะนำของเพื่อนมาประกอบกับการตัดสินใจโดยมีความรู้เป็นคลังข้อมูลส่วนตัวเป็นพื้นฐานก็จะทำชีวิตเราเดินทางได้ถูกต้อง บำรุงผิวได้ถูกจุดมากขึ้น ปัญหาผิวที่ว่ายากก็จะดีขึ้นหรือหายไปด้วยตัวของเราเอง แค่เพียงเราใส่ใจ เปิดใจที่จะเรียนรู้ เราก็สามารถจะดูแลตัวเองได้ดีในระดับนึงทีเดียว

ถ้าถามว่าตอนนี้ดูแลผิวหน้ายังไงต้องบอกว่าส่วนหนึ่งงดยาทุกชนิด และมุ่งหน้ามาสู่ระดับการรักษาที่บ้านด้วยตัวเองตั้งแต่ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ เน้นอ่อนโยน ธรรมชาติ หรือแนวสมุนไพรไทยเป็นหลัก แต่อีกแง่หนึ่งยังคงต้องพึ่งแพทย์ที่เชี่ยวชาญเฉพาะด้านกับการใช้ Cosmetic Laser Surgery มาดูแลรอยแผลบ้าง กรณีถ้ามันเยอะมากจนทนไม่ไหว เพราะเมื่อเกิดสิวเมื่อไหร่ เมื่อนั้นถ้าเม็ดใหญ่ก็ย่อมมีแผลแดงทิ้งไว้ และประกอบกับนิสัยชอบเค้นสิว (กรุณาอย่าทำตาม)
การรักษาที่ISKYตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้เป็นเวลาเดือนกว่าปลายสิงหาเดือนนี้เดือนตุลา  การที่ได้เข้าไปคลุกคลีกับแพทย์ผิวหนังทำให้ความสนใจส่วนตัวเปลี่ยนไป อยากรู้เรื่องราวเกี่ยวกับผิวหนังมากขึ้นและแนวทางการรักษาทุกกรณี การที่จะเลือกแพทย์สิ่งหนึ่งเป็นตัวตัดสินใจ นั้นก็คือ ผิวพรรณ ของแพทย์ที่รักษา แพทย์คนไหนมีผิวพรรณที่สดใส ไร้สิวฝ้า แทบไม่ต้องบอกสิ่งใด เราจะเชื่อโดยอัตโนมัตเพราะเราถือว่าแพทย์ท่านนั้นดูแลตัวเองได้ดีมาก ไม่แปลกถ้าจะบอกอะไรแล้วคนไข้อย่างเราจะเชื่อ แต่อย่างที่บอกถ้าเป็นปัญหาผิวของเราควรมีการสังเกตุตัวเองร่วมด้วย สิ่งไหนที่คุณหมอท่านสอน คุณหมอท่านบอก จะมาหาข้อมูลอ่านเพิ่มเติมเอาเองตลอด เพราะครั้งแรกที่ปรึกษา คุณหมอท่านก็บอกเราแล้วว่าคนไข้ควรมีการศึกษาเพิ่มเติมร่วมกันการรักษาจึงมีประสิทธิภาพ

และในการตรวจสภาพผิวครั้งนี้ตรวจเพื่อ “ ปรุงยาสูตรเฉพาะ หรือ เวชสำอางครีมบำรุงสำหรับคนแต่ละคน “ ในห้องกระจกใส ซึ่งทีนี่มองว่าเพราะผิวของคุณไม่เหมือนผิวของใคร ดังนั้นการที่จะทำสวยแต่ละครั้งก็ต้องมีการเริ่มต้นหรือทำอย่างถูกวิธี ซึ่งเป็นแนวคิดจากทีมแพทย์ทั้งหมดของที่นี่ที่ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ นั่นเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้รู้สึกว่าที่นี่แตกต่างจากทุกที่ที่เคยหามาทั้งหมด 5-6 ที่ ไม่แน่ใจว่ามีที่ไหนอีกหรือไม่ ถ้าใครเห็นว่ามีก็แชร์ได้นะคะ


ในความทรงจำตลอด 12 ปีที่ผ่านมาในการเดินเข้าออกคลินิคผิวหนัง หรือสถาบันรักษาผิวหนัง เป็นปกติที่ทุกสถาบันหรือคลินิคผิวหนังจะจ่ายยาตามสูตรมาตรฐานตามสภาพผิวหรือปัญหาผิวที่เกิดขึ้นโดยให้ยาหรือครีมใช้กับคนไข้ที่มีลักษณะสภาพผิวที่คล้ายคลึงกัน บางตัวเหมือนกัน บางตัวต่างกัน เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการรักษาสำหรับคนไข้แต่ละคน
สำหรับการรักษาที่ISKYจะคล้ายกับทุกที่คือมีตัวยาเวชสำอางพื้นฐานให้กับคนไข้แบ่งตามสภาพผิวตั้งแต่ผิวมัน ผิวผสม ผิวธรรมดา ผิวแห้ง ผิวแพ้ง่าย เช่นกัน ที่แตกต่างคือ นอกจากการตรวจสภาพผิวอย่างละเอียดด้วยการฉายแสงดูปัญหาภายใต้ชั้นผิว ก็จะมีการตรวจสภาพผิวภายนอกที่จับต้องได้ด้วย ตรวจสีผิว ตรวจสภาพผิว ความยืดหยุ่นของผิว ฯลฯ เพื่อที่จะวิเคราะห์และสั่งการปรุงยาพิเศษที่เหมาะกับเราที่สุดเพื่อนำไปบำรุง เสริมความแข็งแรงของผิว และแก้ปัญหาผิวที่เรามีอยู่อย่างถูกต้องและเหมาะสมตรงจุดที่สุด


เริ่มโดยหลังจากการปรึกษาคุณหมอเรียบร้อย ก่อนจ่ายยาคุณหมอจะถามถึงสภาพผิว ในกรณีที่ผิวระคายเคืองแพ้ง่ายอย่างเอิ๊ก มองด้วยตาเปล่าอาจจะรู้ว่าแห้ง คุณหมอจะให้ตรวจด้วยเครื่องตรวจสภาพผิวเพิ่มเติมเพื่อดูว่าจำเป็นจะต้องสั่งยาครีมบำรุงปรุงพิเศษให้ไหม ซึ่งคุณหมอจะจุดสูตรให้เภสัชกรในห้องกระจกจัดการทำขึ้นมาให้เรา ในการตรวจเครื่องตรวจจะมีหน้าตาเป็นแบบนี้ หลายสิ่งระโยงระยาง


1. ตรวจสีผิว (PIGMENT/MELANIN)
ในกรณีนี้คุณหมอจะตรวจสีผิว สีผิวเราสีผิวแบบไหน ขาว น้ำตาล น้ำผึ้ง น้ำหมึก (ล้อเล่น) และแนะนำค่าครีมกันแดดที่เหมาะสม ซึ่งคุณหมอทำเป็น Chart ออกมาให้คนไข้ดูง่ายและเข้าใจเวลาคุณหมอได้อธิบาย
คุณหมอวิเคราะห์ออกมาว่า “ ผิวประมาณ17 นี่ค่อนข้างขาวเลย บอกได้เลยว่า spf ต้องสูงนิดนึง เพราะว่าผิวค่อนข้างไวแดด เป็นผิวขาว “



2. ตรวจความยืนหยุ่นของผิว (ELASTICITY)
ตัวเครื่องจะดูดผิวบนหน้าของเราเป็นวูบนึงเบาเบาเพื่อเช็คความเด้งดึ๋ง ดูดแล้วปล่อยออกมาขึ้นกราฟหน้าจอ
คุณหมอวิเคราะห์ออกมาว่า “ ค่าเปอร์เซ็นต์ค่อนข้างดีเลย คือคนที่อายุน้อยๆอย่างเนี้ย 24 เนี่ยจะต้องยืดหยุ่นประมาน 55-70 หนูยืดหยุ่นไปประมาณเจ็ดสิบกว่า ถือว่าดีมาก หยุ่นเท่ากับเด็กอายุน้อยกว่า 20 แสดงว่าความยืดหยุ่นของผิวหนังเนี่ยดี อย่างเงี้ยไม่มีปัญหาความยืดหยุ่น ”


3. ตรวจความชุ่มชื้นของผิวหนัง (MOISTURE)
กรณีนี้โดนหนัก เพราะผิวแห้งมาก
คุณหมอวิเคราะห์ออกมาว่า “ความชุ่มชื้น อย่างนีั้บอกได้ว่าแห้ง คนที่ไฮเดรชันดีดี มาดูนี่ ดูผิวพี่นะ นี่ก็แห้งเหมือนกันแต่อยู่ในระดับ 36 37 ของเอิ๊ก 33 แต่คิดดูพี่อายุมากกว่าหนูเท่าไหร่ หนูถือว่ามีสภาพผิวที่ค่อนข้างแห้ง ตามตำแหน่งแต่ละตำแหน่งไม่เหมือนกัน มีวัดช่วงหน้าผาก แก้มร่วมด้วย ของเอิ๊กนี่ หน้าผาก25 แห้งละ อย่างเราเนี่ยผิว พี่แนะนำมอยซ์เจอไรเซอร์ที่ดีเนี่ยสำคัญ เวลาเราปรุงครีมพิเศษให้คนไข้ เมื่อเราเทสารลงไปเราจะเติมให้ความชุ่มชื้นของครีมให้มันมากขึ้น ในกรณีที่ผิวมันแห้งมาก เราอาจจะเติมกลุ่มที่เป็นวิตามินอี โอเมก้า วิตามินเอ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นในครีมนั้น สำหรับครีมของหนูๆอาจจะต้องใช้ครีมประเภทนี้ เพราะผิวหนูแห้งมาก ต้องมีการปรุงครีมพิเศษเพื่อบำรุงเฉพาะ แต่เนื่องจากปัจจุบันยังมีปัญหาสิว พี่ก็ยังไม่แนะนำให้ทาครีม ควรจะเอาสิวให้หมดก่อน ซึ่งความมันอาจทำให้สิวนั้นแย่ลง เพราะฉะนั้นพี่จึงคิดว่าอย่าเพิ่งเอาครีมกลับไปใช้ เอาสิวให้เวิร์คก่อน”


4. ตรวจความมัน (SKIN OIL&SEBUM)
อันนี้ได้คะแนน 1 เต็ม 100 ฮา หน้าเหี่ยวแห้ง T^T
คุณหมอวิเคราะห์ออกมาว่า “วัดความมันของผิวหนัง อันนี้เราวัดเป็นค่า ไขมันก็น้อย หน้าไม่มัน อย่างเนี่ยน้อยมาก พี่ถึงบอกว่าว่าผิวแห้งก็เกิดจากสิวได้ มะกี้วัดจากแก้มน้อยกว่า 30 นี่ซุปเปอร์แห้ง นี่1 โหหห พี่จึงรุ้ว่าคนไข้กลุ่มนนี้จึงต้องการอะไรที่พิเศษแน่ เพียงแต่ว่าอาจจะไม่เหมาะกับการปรุงครีมให้ตอนนี้ี้ ควรรักษาสิวให้ดีก่อน และคนไข้ที่ผิวแห้งมากไม่ควรใช้วิตามินซี มันทำให้ระคายเคืองมากขึ้นเป็นตุ่มขาวๆ เป็นเพราะว่าผิวเราแห้งมาก ไปเจออะไรที่มันระคายเคือง ยิ่งหนักกว่าเดิม มอยส์เจอร์ที่ดีเนี่ยเหมาะสำหรับเราแน่นอน แต่เราต้องเลือกใช้ “


5. ตรวจขยายผิวหนังหรือเส้นผม
อันนี้เห็นสิว เห็นแผลชัดมาก กลัวค่ะ เห็นแล้วอึ๋ว
คุณหมอวิเคราะห์ออกมาว่า “ อันนี้จะเป็นตัวขยาย เราจะให้คนไข้ดูสภาพผิวอีกอย่าง เนี่ยพี่จะให้ดู อะเลือกตำแหน่ง เลือกตรงที่เปนสิวจะเป็นยังไง เครื่องนี้จะใช้ในการวิจัย เพราะฉะนั้นเราก้ออยากจะทำให้คนไข้โดยเฉพาะ สมมุติจุดด่างดำ อยากเห็นรอยแผลเปนสิว ปัญหาเกิดได้จากทุกสภาพผิว เช่น คนไข้ที่มีจุดด่างดำเยอะ ต้องการปรุงยาเป็นพิเศษ จะเอากลับก็ใส่ส่วนผสมให้มันขาวมากขาวน้อย พวกไวท์เทนนิ่งทำนองนี้ “


ผลสรุปออกมาแล้วว่ายังคงไม่มีสิทธิ์กับครีมปรุงพิเศษเนื่องจากผิวหนังอักเสบอยู่ (สิว)
ยืนเกาะห้องกระจกดูของคนอื่นต่อไปก่อน


สรุปครีมปรุงพิเศษเฉพาะบุคคลคือ ? (ฟังจากคุณหมอเลยดีกว่าค่ะ)

หลักเราจะปรุงสำหรับปัญหาหลัก ๆ มี 3 อย่าง
– ผิวแพ้ง่าย
– ปัญหาจุดด่างดำ กระ (ต้องการให้ผิวขาวขึ้น)
– รอยเหี่ยวย่น
แต่เราก็มีสำหรับผิวทุกประเภท

ครีมที่ปรุงสำเร็จเฉพาะบุคคล ดีตรงที่ว่า เราสามารถเลือกเนื้อครีมที่เหมาะกับผิวของเรา และปัญหาที่เราต้องการแก้ได้อย่างตรงจุด ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคนมีปัญหาผิวแห้งและผิวแพ้ง่าย เราสามารถเลือกครีม base สำหรับคนไข้ที่ผิวแพ้ง่าย แล้วเราสามารถเติมสารเพื่อให้ความชุ่มชื้นในปริมาณที่เหมาะสมลงไป ถ้าผิวแห้งน้อย เราก็เติมน้อย แห้งมากเราก็เติมมาก คนไข้ที่ผิวแห้งน้อย ถ้าได้ครีมบำรุงผิวที่มันเกินไป ก็อาจเกิดปัญหาได้ เพราะฉะนั้นการปรุงครีมเฉพาะบุคคล ก็จะทำให้คนไข้ได้ครีมที่เหมาะสมกับตัวเองจริง ๆ
ทุกคนสามารถมาตรวจสภาพผิวและระบุปัญหาที่ต้องการแก้ไขกับแพทย์ แพทย์ก็จะสามารถจัดสูตรของครีมที่เหมาะสมกับคนไข้คนนั้น ๆ ได้ บางทีคนไข้เข้าใจว่าตัวเองผิวมัน แต่พอตรวจด้วยเครื่องตรวจสภาพผิวแล้ว อาจพบว่าตัวเองผิวแห้งก็ได้ .. ผู้ช่วยศาสตราจารย์แพทย์หญิงรังสิมา วณิชภักดีเดชา



หวังว่าเราคงจะหายเร็วๆนี้นะคะ มันก็ขึ้นมาเรื่อยๆ เพราะสิวอุดตันของเก่า สู้กันต่อไป ทาเคชิ

กล้องใหม่ถ่ายรูปแล้วผิวเนียนสวยหลอกดวงตาผู้คนมาก ฮี่ฮี่

Posted in ACNE, BEAUTY TECHNOLOGY, FACE, LASERComments (4)

GET THE RIGHT START ! : VBEAM กับการรักษารอยแดงหลังจากสิวหายไปให้ได้ผลอย่างรวดเร็ว

(อวดรางวัลชิ้นแรกจากการเขียนBeauty Blogมาเป็นเวลา 1 ปี 10 เดือนหน่อยฮับ รองชนะเลิศอันดับ1 Beauty&Shopping ของ Thailand Blog Awardดีใจมว๊ากขอบคุณเพื่อนๆที่โหวตให้ด้วยนะคับ)

คนไข้ : เอิ๊ก – เอิ๊ก

ลักษณะสภาพผิ : ผิวแห้งสุดขีดโดยเฉพาะบริเวณ U โซน แก้ม แก้มด้านข้าง ทำให้ระคายเคืองกับทุกสิ่งที่มากระทบใบหน้าได้ง่ายมาก

โรคผิวหนังที่เป็: ผิวอักเสบบริเวณหน้าผาก / เป็นสิวอุดตัน 70% ของใบหน้าหนักไปทางบริเวณ T โซน / มีสิวเสี้ยนบริเวณจมูก / มีสิวอักเสบเกิดขึ้นบ่อยบริเวณหน้าผาก

สาเหตุ และ พฤติกรรมที่ทำให้เป็นโรค : นอนดึก นอนเช้า / ทานอาหารหวาน มัน รสจัด นมชอบทานมากต้องทานทุกวัน ทั้งที่รู้ว่ามันทำให้เกิดสิวอุดตัน / การชำระล้างสารเคมีแชมพู ครีมนวด ครีมหมักผม บนศีรษะไม่ค่อยสะอาด / เลือกทำความสะอาดผิวหน้าดีเกินไป สะอาดมากไป หอบเอาความชุ่มชื้นไปหมด น้ำมันไม่มาเคลือบผิวก็ระคายเคืองผิวหน้าง่ายจนเป็นสิวได้อีก

วิธีการรักษ : ปรึกษาแพทย์ผิวหนังโดยตรง / ทานยาปฎิชีวนะ / ทายาเพื่อฆ่าเชื้อ P.acne / ทาครีมบำรุงเพื่อให้ผิวชุ่มชื้รมีน้ำมาหล่อเลี้ยงผิวตามปกติแต่พอดี/ เลเซอร์รักษารอยแดงจากสิวอักเสบที่เพิ่งหายค่อนข้างบ่อย

สถานที่รักษาปัจจุบัน : ISKYCENTER สำหรับการทำเลเซอร์ และ ยาทาฆ่าเชื้อสิวบางส่วน / คลินิคเสนา – สำหรับยาปฎิชีวนะ และ ยาทาสิวอักเสบ สิวเห่อบางส่วน รวมถึงลอกสิวเสี้ยนเมื่อจำเป็น

ราคาแต่ละครั้ง : ขึ้นกับความรุนแรงของปัญหาผิว และ เทคโนโลยี ตั้งแต่หลักร้อยต้นๆ ไปจนถึงหลักพันขึ้นไป



ทุกครั้งที่เราเป็นสิว เราหาคำตอบได้อย่างน้อยประมาณนี้รึเปล่าจ๊ะเด็กๆ

นี่คือสิ่งที่เอิ๊กคอยสังเกตุตัวเอง หลังจากกลับมามีสิวอักเสบรอบสอง สาม สี่ตามมาเป็น มาตรึมจนรับไม่ไหวต้องปรึกษาแพทย์เดือนละหลายครั้ง วันนี้ค้นพบคำตอบที่สมบูรณ์แบบแล้วว่า รอบหลังสุดที่สิวอักเสบเรื้อรังบริเวณหน้าผาก หลัง หน้าอก ศีรษะ เกิดจากการล้างแชมพูไม่สะอาด ต้องขอขอบพระคุณผู้ช่วยศาสตราจารย์แพทย์หญิงรังสิมา ณ ไอสกาย แพทย์ที่ปรึกษาประจำตัวของเอิ๊กมากค่ะที่ได้ให้วิชาการขนาดย่อเวลาขอสอบถามในเรื่องเกี่ยวกับการเกิดสิว และ คอยไล่ตะล่อมถามข้อมูลจากเอิ๊ก จนสรุปได้ว่าอาจจะเป็นเพราะสีผม

ช่วงปลายเดือนสิงหา 54 ปีนี้

ความจริงจะหายสิวแล้วหลายรอบมากเป็นหายเป็นหายไวมากภายใน 1 เดือน โดยเฉพาะกลางเดือนกันยา หายแล้วเหลือรอยนิดหน่อย ตอนแรกดีใจมากแต่แล้วเอาอีกแล้วจนหาสาเหตุเจอจนได้ในที่สุด ดีใจยิ่งกว่าสิวหาย เพราะเราเจอตอแล้ว


ด้วยความโชคดีของตัวเอง หรือความโรคจิตของตัวเองส่วนหนึ่ง คือเป็นคนชอบถ่ายรูปใบหน้าตัวเองทุกวัน (ติดตอนทำBotoxหน้าเรียว และตอนรักษาสิวโดยใช้เลเซอร์เข้ามาช่วยปีที่แล้ว) เพื่อดูผลลัพธ์ของผิวที่เปลี่ยนไปในแต่ละวัน ในเวลาที่มีปัญหาผิว หรือ ต้องการเช็คดูผลลัพธ์หลังจากการทำอะไรบางอย่าง เช่น ใช้ครีมกระชับใบหน้า ลดไขมันข้างแก้ม และอีกสารพัด ที่นักเขียนเพื่อความสวยความงามคนนี้จะหา จะได้มาทดสอบ

ผลปรากฎว่า – การเกิดสิวเกิดก่อนการเปลี่ยนสีผมใหม่ในทุกครั้ง แต่เกิดหลังจากการเริ่มเปลี่ยนแชมพู ทรีทเมนท์เข้มข้นยี่ห้อใหม่ ส่วนตัวยอมรับเป็นคนสระผมเร็ว แล้วไม่เช็ดศีรษะ ไม่เช็ดตัว ปล่อยให้แห้งเอง (ไม่แน่ใจมีใครสอนมาวิชานี้555) ดังนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นโดยที่เดาไปต่างๆนานามาเฉลยด้วยการพบแพทย์และความละเอียดในการบันทึกภาพของตัวเอง ไม่เข้าใจทำไมมาเกิดเอาตอนอายุ 24 ทั้งที่ซกมกมานานแล้ว – – “ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นมาตลอดครึ่งปี คือสิวอุดตันมารุมเร้าที่หน้าผากบ่อยครั้ง จนนึกได้อีกต่อว่าหนังศีรษะเปียกบางครั้งไม่เช็ดแล้วบรรทมเลย รังแคมาเพียบทั้งที่สระผมทุกวันจนตอนหลังยาอะไรก็รักษาไม่อยู่ รู้คนเดียวเงียบๆไม่ได้บอกใคร และที่ทำให้เข้าใจชัดเจนมากขึ้น คือ การเกิดสิวบนแผ่นหลังมาและลามมาหน้าอก อันนี้หนักเลยเพราะไม่เคยเป็น

หลังจากสรุปได้แล้วจึงเปลี่ยนพฤติกรรมบางส่วนใหม่แต่เป็นส่วนที่สำคัญที่สุดคือ .. มีสติกับการสระผมมากขึ้น ฉีดน้ำแรงๆเวลาล้างออก ล้างแบบหมดจด ให้เกลี้ยงกว่าล้างจาน ตั้งใจสระผม นวดผม ล้างผม เชื่อไหม ปาฎิหารย์เกิด สิวอักเสบไม่มา จนกว่าจะได้รับการกระตุ้นอุดตันด้วยวิธีอื่นเช่นแต่งหน้าหลายชั่วโมงกว่าจะล้างจะมาแค่เม็ดเดียวตามปกติ เหมือนที่เมื่อก่อนเคยเป็น สาวนตัวมีการกดสิวร่วมด้วยเลิกยากข้อนี้ และยังกินอาหารต้องห้าม มันก็จะมีสิวประปรายมาบ้าง ตอนนี้เหลือแค่รอยแดงที่เยอะพอสมควรแต่คิดว่ายังไงต้องตั้งใจจัดการได้


ทุกคนต้องหัดค้นหาสาเหตุที่แท้จริงจากพฤติกรรมตัวเองซึ่งเป็นสาเหตุที่แท้จริง โดยเลิกมองที่ปัญหากันนะคะ เพื่อนๆจะพบทางออกเหมือนออกซึ่งเอิ๊กพบเมื่อไม่กี่วันจึงเขียนเรื่องนี้ออกมา เพราะอึดอัดมากที่จะบอกคนอื่นว่าที่เป็นสิวเพราะหมอบอกว่าอาจจะเกิดจาก … แต่อย่าลืมคุณหมอไม่ได้ติดตามเราตลอด 24 ชั่วโมงและเวลาเราเล่าอาการให้คุณหมอฟังบางทีมันครบ หรือ ขาดไปรึเปล่าก็ไม่รู้ แต่วันนี้มั่นใจกับสาเหตุทั้งหมดทั้ง 360 องศา ที่คนไข้เอิ๊ก – เอิ๊ก ได้กระทำตนเองแบบไม่รู้ตัวแล้ว หวังว่าคงเป็นประโยชน์สำหรับแบบฝึกหัด “การมองหาสาเหตุการเกิดสิวจากพฤติกรรมประจำวันของตนเอง “ ในแบบฉบับของเอิ๊กกันแล้วนะคะ หวังว่าคงพอช่วยใครให้อาการดีจนถึงรักษาหายสนิทได้บ้าง

ที่นี่มาเข้าถึง TOPIC สำคัญกว่า ที่HOTมากใน INBOX คือเรื่องของรอยแดงหลังจากการเกิดสิวหายแล้วว่า “ คุณเอิ๊ก พี่เอิ๊ก น้องเอิ๊ก เพื่อนเอิ๊ก รักษาที่ไหน รักษาเท่าไหร่ มียิงเป็นShotไหม แล้วหน้าจะแพ้ไหม จะหายเหรอ ทำไมยิงตั้ง 3 ทีถึงไม่เห็นผล “


เรามาทำความรู้จักกับรอยแดงที่เกิดหลังจากเป็นสิวกัน

ข้อมูลทั้งหมดเกิดจากการอ่านผสมผสาน ของแพทย์ ของนักวิชาการ ของผู้มีประสบการณ์ และ ประสบการณ์ตรงส่วนตัวมารวมกันเป็นคำพูดที่พยายามจะทำให้ทุกคนเข้าใจไปพร้อมๆกัน รวมถึงตัวเองด้วยนะคะ

โดยปกติรอยแผลเป็นจากสิวถ้าไม่ได้มีการทำอะไรกับมันเลย รอยแดงรอยแผลเหล่านั้นที่เกิดจากสิวจะหายไปเอง ค่าเฉลี่ยระยะเวลาการหายประมาณ 3 – 6 เดือน เร็วหรือช้ากว่านั้น ขึ้นกับสภาพผิวของแต่ละคน รวมถึงอายุของผิวพรรณเราด้วยสำคัญมากข้อนี้

รอยแดงจากสิวเกิดจากอะไร ? (Macular erythema) สิวถ้าไม่ได้รักษาถูกวิธี หรือสิวอักเสบมากๆ หลังหายแล้วส่วนมากมักจะทิ้งรอยแผลเป็นไว้เสมอ เนื่องจากปฏิกริยาการอักเสบของสิวทำให้เกิดการทำลายเซลล์ผิวหนังและคอลลาเจนในชั้นหนังแท้ใต้ผิวหนังของเราลงไป ผิวชั้นหนังแท้ซึ่งมีเส้นเลือดเป็นหลักสำคัญที่คอยกำหนดควบคุมการสร้างหรือจัดระเบียบเซลล์อื่นทั้งหมดไม่ว่าจะเป็น โพรงขน ต่อมไขมัน รวมถึงใยคอลลาเจนและใยอีลาสติน รอยแดงนี้เกิดจากการอักเสบ บวม ขยายตัวของเส้นเลือดฝอยลึกลงไปใต้ผิวหนังซึ่งร่างกายสร้างเป็นภูมิลำเลียงขึ้นมาต่อสู้กับเชื้อโรคที่ทำให้เกิดการอักเสบ การที่รอยแดงจะหายไปนั้นก็ต้องรอเวลาให้มันสร้างเนื้อเยื่อที่ถูกทำลายไปให้เกิดใหม่ขึ้นมาเอง แล้วรอยแดงจะค่อยๆจางหายไป ดังนั้นแม้ว่าเพื่อนๆไม่ได้แกะหรือบีบสิวก็ตาม สามารถทิ้งรอยแผลเป็นไว้ได้เสมอ เมื่อมีสิวควรรีบรักษาเพื่อลดการอักเสบของสิวและลดการเกิดแผลเป็นจากสิวที่จะตามมา ในกรณีที่เกิดในคนผิวคล้ำ บางครั้งจะมีลักษณะเป็นรอยสีน้ำตาลหรือดำร่วมด้วย (Postinflammatory Hiperpigmentation) และในบางคนจะมีลักษณะของหนังที่ยุบตัวลงซึ่งเป็นลักษณะเริ่มแรกของการเกิด รอยแผลเป็นชนิดบุ๋มตามมาอีก (Atrophic Scar, Pitted Scar)

การรักษารอยแดงสิวมีกี่วิธี

1. ปล่อยให้หายเองตามธรรมชาติ ให้ร่างกายเราซ่อมแซมตัวเราเอง (อยากหายเร็วก็ต้องเลือกกินอาหารที่มีประโยชน์ อย่าอดหลับอดนอนร่วมด้วย)

2. ทายาที่มีส่วนผสมของสารที่สามารถทำให้สีจางลง เช่น กรดผลไม้ (AHA, BHA) กรดวิตามิน A (RETINOIC ACID), LICORICE, ARBUTIN, VITAMIN C เป็นการผลัดเซลล์ผิวหนังด้านบนชั้นหนังกำพร้า

3. ทานอาหารเสริมจำพวก วิตามิน A, วิตามิน E วิตามิน C เป็นการฟื้นฟูสภาพผิวและเร่งการซ่อมแซมเซลล์ผิวหนังจากภายใน

4. พึ่งนวัตกรรมเลเซอร์ทางการแพทย์รักษารอยแดง รอยคล้ำจากสิว ลดการเกิดแผลเป็นสิว และลบเลือนรอยแผลเป็นที่มีอยู่ หลักจะมีเลเซอร์รักษารอยแดงที่เป็นหลักอยู่ในเมืองไทย คือ V-beam Laser เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและฟื้นฟูสภาพผิวอย่างรวดเร็ว ปลอดภัย สะดวก

5. Photodynamic therapy (PDT)โปรแกรมการรักษาสิวที่ได้ผลรวดเร็วที่สุด รอยดำ รอยแดงสิว แผลเป็นที่เกิดจากสิว เป็นวิธีการใช้เคมีและแสงร่วมกันเพื่อทำให้ต่อมไขมันถูกทำลาย ซึ่งได้ผลเหนือการกินยารักษาสิว เป็นการรักษาผิวมันอย่างดี และให้ความสดใสกับผิวไปในตัว


พรีเซนเตอร์ยาสระผมแพนทีนกำลังยิงเลเซอร์ VBEAM ให้เอิ๊กอยู่ 5555 ล้อเล่นนะคะเป็นคุณหมอประจำตอนนี้ ผู้ช่วยศาสตราจารย์แพทย์หญิงรังสิมา วณิชภักดีเดชา แพทย์ผิวหนังที่ศิริราช และ ISKYCENTER

เอิ๊กเลือกวิธีที่ 4ใช้เลเซอร์ v-beam เพื่อทำลายเส้นเลือดให้ฝ่อไปแล้วกระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อ การใช้เวลายิงเลเซอร์ของเอิ๊กรอยมีแค่ช่วงหน้าผากเป็นหย่อมๆคุณหมอยิงประมาณ 1-2 นาที หลังการรักษาประมาณ 1-2 สัปดาห์ ก็จะสังเกตเห็นว่ารอยแดงใหม่ๆจากสิวจะจางลง ประมาณ 60-70% ส่วนรอยที่มีมาซักพักจะจากประมาณ 20-40% และรอยบุ๋มที่เกิดจากสิวก็สามารถตื้นขึ้นและมีขนาดเล็กลงได้บ้าง หลังการรักษามีเพียงรอยแดงเพิ่มตรงบริเวณที่ยิงใหญ่ขึ้นเล็กน้อยแล้วก็จะจางหายไป ทำแล้วไม่มีแผล ใช้ชีวิต แต่งหน้าได้ตามปกติ


ข้อดี การทำเลเซอร์ทุกชนิดจะได้ผลหรือไม่ ขึ้นกับสภาพอายุผิว ความยืดหยุ่นผิว รวมถึงการตอบสนองของผิวกับเลเซอร์ของแต่ละคนด้วย ส่วนตัวรอยแดงจางไวมาก ทำให้ส่งผลต่อจิตใจคนที่กังวลเป็นอย่างดีเยี่ยมยอด อย่างเร็วที่สุด 1 เดือนหายสนิท อย่างช้าไม่น่าจะเกิน 3 เดือนแต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องไม่เกิดสิวใหม่ให้เป็นรอยแดงเพิ่ม เพราะจะเป็นการเริ่มนับหนึ่งใหม่ และเห็นผลดีมากโดยเฉพาะรอยแผลสิวอักเสบสดๆ รอยแดงใหม่กิ๊ก CONFIRM ว่าเห็นผลดีมาก ไม่ต้องมานั่งทายา ไม่ต้องกินยา ไม่ต้องกินอาหารเสริมเร่งให้แผลหายแต่ถ้ารอยแดงนานหรือถูกแดดจนเปลี่ยนสีเป็นรอยดำต้องใช้เลเซอร์ชนิดอื่น


สังเกตุแผลแก้มซ้ายเป็น 1 วันบีบหนองทะลักแล้วไปยิง พอไปยิงอีกรอบมันจางไวมาก


ข้อเสีย แน่นอนราคาสูงตามความเร็วของผลลัพธ์ ต้องเดินทางไปพบแพทย์ รอยแดงที่อยู่มานานอาจไม่หายสนิทจะจางไปแต่ไม่หมดยังเหลือแดง 10-20% ต้องคอยหลบแดด (เดี๋ยวจะกลายเป็นรอยดำ) การทำเลเซอร์ทุกชนิดไม่ควรถูกแดดโดยตรงเพราะผิวช่วงนั้นเป็นช่วงรักษากำลังบาง เพื่อรอการกระตุ้นคอลลาเจนให้เกิดเซลล์ผิวใหม่ที่แข็งแรงและยืดหยุ่นกว่าเดิม ช่วงนี้ต้องถนอมผิวเป็นพิเศษ ต้องทำหลายครั้งขึ้นไปอย่างน้อยก็ไม่น่าจะต่ำกว่า 3 ครั้ง หรือบางคนจะทำแค่ 1 แล้วรอร่างกายซ่อมแซมตัวเองต่อก็ย่อมได้

ข้อแนะนำ ทำครั้งนึงให้เว้นไป 2 อาทิตย์ เป็นการเว้นระยะการทำเลเซอร์ VBEAM ที่กำลังดีในการกระตุ้นสร้างคอลลาเจน / คุณหมอที่ยิงต้องมีความชำนาญมากในการปรับความยาวคลื่นในการยิง VBEAM ให้เหมาะ แรงกำลังดี แผลจะหายเร็วขึ้นไม่ต้องเสียเงินในการมารักษาหลายรอบ / ถ้าใช้วิธีอื่นร่วมด้วยจะยิ่งหายเร็ว เช่น ทายา ทานอาหารเสริมวิตามินช่วยอีกแรง

 

ศึกบางระจันล่าสุดเป็นแบบนี้

 

ผลการรักษา VBEAM ของเอิ๊ก 1 ครั้งในรอบหลังสุดที่เป็นสิวอักเสบแพร่กระจายเนื่องจากยังไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริง ตอนนี้ทราบแล้วเลยทำร่วมกับการทานยาปฎิชีวนะลดการอักเสบ และ ใช้ยาแต้มสิวอักเสบควบคู่ พร้อมกับเปลี่ยนพฤติกรรมมีสติในการสระผม สาเหตุหลักที่ทำให้หน้าเยินมาครึ่งปีครั้งนี้


มันส์ไหมพี่น้องการขุ้ยสาเหตุสิวสาวในครั้งนี้

ขอประกาศว่าจะไม่มีการยอมแพ้ใดใดทั้งสิ้น “พวกเราจะกลับมาหน้าใส(หัวไป)อีกครั้งแน่นอน”

เพราะมันก็เคยเกิดขึ้นมาแล้ว วันนึงหญิงเอิ๊กต้องเก่งรักษาสิวตัวเองให้ได้โดยไม่ต้องไปพบแพทย์ แต่ไปพบเรื่องอื่นเช่นทำทรีทเมนท์หน้าเด้งๆเบาๆอะไรทำนองนี้ สู้โว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย !!!!!!

เพื่อการกลับมาอีกครั้งของเธอในรูป 555


ใครอยากอ่านเรื่องราวสิวสาวในอดีตของเราเชิญ CLICK

XOXO

รักนะตัวเธอว์

แหล่งข้อมูลอ้างอิง

นพ. สมนึก อมรสิริพาณิชย์

ห้องแป้งพันธุ์ทิพย์

ACNETHAI.com

Blog swiss-jukky ณ Bloggang

Onlyacne.com

Posted in ACNE, BEAUTY TECHNOLOGY, FACE, LASERComments (2)

DR.WORAPONG MANUSKIATTI- หลุมสิว&การแก้ไข ISKYCENTER


ได้รับเกียรติให้สัมภาษณ์เจ้าพ่อรักษาแผลเป็นของเมืองไทย
” ศาสตราจารย์นายแพทย์ วรพงษ์ มนัสเกียรติ “
มือหนึ่งศูนย์เลเซอร์ผิวหนังแห่งศิริราช
– มาพูดถึงแผลหลุมสิว
– วิธีการแก้ไข
– เลเซอร์ที่ใช้แก้ไขหลุมสิว
– การดูแลตัวเองหลังทำเลเซอร์
– ประวัติส่วนตัว
– เคล็ดลับดูแลตัวเองให้อ่อนเยาว์
– ข้อคิดสำหรับคนเป็นสิวและแผลเป็น
– etc. (แสดงข้อมูลน้อยลง)

ขอกราบขอบพระคุณมา ณ ที่นี่ด้วยค่ะ


 

Posted in ACNE, BEAUTY TECHNOLOGY, FACE, LASER, SCARComments (0)

GET THE RIGHT START ! : สิวอุดตัน สิวเสี้ยน จะมีวิธีการรักษาให้หายขาดไหม มาดูกันเลย !

 

 

 

 

“ หมอมักจะคุยกับคนไข้ว่า สมมุติคนไข้เป็นสิวหนึ่งเม็ด ..

ถ้าคุณไม่ทำอะไรเลยมันหายเอง ”

ผู้ช่วยศาสตราจารย์แพทย์หญิง รังสิมา วณิชภักดีเดชา

 แห่งศูนย์เลเซอร์ผิวหนังโรงพยาบาลศิริราช และ ศูนย์ผิวหนัง&ศัลยกรรมเลเซอร์ไอสกาย

 

( ที่มาภาพ : http://www.si.mahidol.ac.th/ )

อีกหนึ่งบุคคลสำคัญในวงการแพทย์ผิวหนังของโรงพยาบาลศิริราช ที่ทำหน้าที่ให้การรักษาคนไข้ที่มีปัญหาผิวหนังด้วยเทคโนโลยีเลเซอร์ อีกหนึ่งแขนงคือการผ่าตัดเกี่ยวกับมะเร็งผิวหนัง และ ยังดำรงตำแหน่งอาจารย์เพื่อให้วิชาความรู้แก่นักเรียนแพทย์ในสาขาตจวิทยา (ผิวหนัง)

และวันนี้เอิ๊กโชคดีมากที่ได้เป็นหนึ่งในคนไข้ที่มารักษาสิวกับคุณหมอแบบไม่รู้ตัวว่าคุณหมอเป็นใคร มีชื่อเสียงในวงการแพทย์ขนาดไหน แค่มีรุ่นพี่เแนะนำต่อกันมาว่าเป็นแพทย์ที่ศิริราชที่เก่งคนนึงลองไปรักษาสิวดูแค่นั้น เพราะเราไม่เคยอยากรู้ว่าแพทย์ที่รักษาเราเป็นใคร แค่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นแพทย์เราก็คิดไปก่อนเลยว่าแน่นอนต้องเก่งและน่าจะหายแน่นอน ถามไปถามมาคือคุณหมอเราเก่งมาก และชอบสอนเพราะเป็นอจ.นักเรียนแพทย์ผิวหนังในศิริราชอยู่แล้ว ดังนั้นคนไข้อย่างเราชอบสงสัย ชอบถามมาก คุณหมอจะมีความสุขมากในการตอบคำถาม ทุกครั้งที่เราไปรักษาเราจึงพยายามขอข้อมูลมาให้มากที่สุดเกี่ยวกับการรักษาสิวเพื่อเป็นประโยชน์กับเพื่อนที่เรารักทุกท่านในที่นี่ โดยแนะนำตัวว่าเป็น blogger คุณหมอถามว่า คืออะไร เป็นยังไง หมอไม่รู้จัก ฮา ก็เลยตอบว่าเป็นนักเขียนออนไลน์ค่ะเกี่ยวกับความสวยความงาม หนูอยากได้วิธีการรักษาสิวไปเขียนได้ไหมคะ คุณหมอเซย์ แน่นอน แบบไม่ลังเล จากนั้นก็เป็นบทความที่ต่อเนื่องกันมาครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 ครั้งแล้วนะคะ

 

ครั้งที่แล้วก่อนจะได้มาเขียนเรื่องนี้ เรามีนัดไปตรวจสิวครั้งที่ 2  หลังจากยิงเลเซอร์ VBEAM รักษารอยแดงไป ตื่น 7 โมงเช้าเพื่อมุ่งหน้าไปศูนย์เลเซอร์ไอสกายเช่นเคย เพราะแถวหนองแขมสายหน่อยรถจะติด อีกอย่างไปศิริราชคนเยอะไป คิวยาว ประวัติอยู่นี่รักษาที่นี่ดีที่สุดสำหรับเรา ไปกับเมย์เช่นเคย เมย์หายสิวแล้ว เดี๋ยวจะเอาภาพมาให้ชม เพราะผิวเมย์ดีแม้อายุปาเข้าไป 30 กว่าแล้ว เรา 24 ผิวยังดูแย่กว่าเขาเลย ผิวนี่มันขึ้นกับกรรมพันธุ์จริงๆ

ไปเสร็จไปนั่งรอในห้องเลเซอร์เบอร์ 4 เช่นเคยสำหรับ Vbeam ก็ไปนั่งเอา IPAD เปลี่ยนสีไฟในห้องเล่น ไฟในห้องสีก็จะเปลี่ยนไปตามภาพเล่นไปซักพักคุณหมอก็เข้ามา เราก็กล่าวถึงหัวข้อถ้าวันนี้หนูยิงเลเซอร์เสร็จอยากจะขอข้อมูลคุณหมอนะคะเกี่ยวกับการรักษาสิวเสี้ยนสิวอุดตัน ความเสียใจหมดหวังก็บังเกิดเมื่อคุณหมอพูดประโยคนึงว่า

 

วิธีที่รักษาสิวเสี้ยน สิวอุดตันทั้งหมดที่จะอธิบายให้ฟัง เป็นแค่วิธีชั่วคราวระยะสั้น หรือระยะยาวเท่านั้น ไม่ว่าจะพยายามลอกผิว ผลัดผิวด้านบนออก ทำเลเซอร์กำจัดขน กระชับรูขุมขน ลดความมัน สุดท้ายแล้วร่างกายก็จะกลับมาเป็นภาวะปกติคือกลับมามีน้ำมัน มีขี้ไคล เกิดการอุดตันได้อีกครั้งเหมือนเดิม เพราะฉะนั้นไม่มีวิธีไหนที่ทำให้ สิวอุดตัน สิวเสี้ยนหายไปอย่างถาวร ยกเว้นการไปเปลี่ยนโครงสร้างของผิวได้

 

สะเทือนใจค่ะ และนอนทำใจรอคุณหมอมายิงเลเซอร์เงียบๆ เฮ้อ อนิจจานึกว่ายังไงต้องมีทางหายแน่นอนตลอดไป แต่ดีใจที่แผลรอยแดงสิวและสิวดีขึ้นเทียบกับรอบที่แล้ว

CLICK

คุณหมอบอกว่าแผลคุณเอิ๊กดีขึ้น 60-70% แล้วค่ะ ถ้าปัญหาแพ้สีผมจบสิวก็น่าจะไป ตอนนี้หน้าผากยังมาอยู่เรื่อยๆ เม็ดเล็กๆเป็นกลุ่ม ก็ทายากันไป



เอาละมาเข้าสู่การสัมภาษณ์พิเศษกับผู้ช่วยศาสาตราจารย์ รังสิมา กับหัวข้อ

” สิวอุดตัน สิวเสี้ยน จะมีวิธีการรักษาให้หายขาดไหม มาดูกันเลย ! “

** ในบทความนี้จะมีการทอดแทรกหรือขยายตัวอย่างบางประโยคสำหรับบางคำพูดของคุณหมอ และใช้คำในสไตล์คนไข้ของเอิ๊กใส่ลงไปให้เพื่อนได้เข้าใจและเห็นภาพกันนะคะ

ก่อนอื่นไปขอยืมรูปจากเว็บอื่นมาเพื่อมาใส่คำอธิบายภาพให้เพื่อนๆเข้าใจไปพร้อมกัน 🙂 น่ารักไหมอ่ะ

ก่อนจะเข้าใจสิว ต้องเข้าใจผิวก่อน ดังนั้นเรามารู้จักผิวหนังเรากันก่อนสั้นๆ ว่ามี 3 ชั้น ชั้นนอกสุดเรียงตามลำดับ หนังกำพร้า หนังแท้ ชั้นใต้ผิวหนัง และสำหรับชั้นใต้ผิวหนังก็มีรากขน มีขน และต่อมไขมัน เอาแค่นี้พอและดูภาพประกอบตามไปค่ะ

  • ผิวหนังกำพร้า คือ ชั้นผิวหนังด้านบนที่มองเห็นด้วยตาเปล่า หรือ ชั้นขี้ไคลที่ผิวหนังตายไปแล้วกำลังจะหลุดออกไป ที่เราพูดกันบ่อยว่าผลัดเซลล์ผิวหน่ะค่ะ คือเราเอาขี้ไคลหรือหนังกำพร้าด้านบนออกไป
  • ขน หรือ รากขน จะโผล่ออกมาบนผิวหนัง บริเวณรากขน จะมีต่อมไขมันติดอยู่
  • เมื่อพูดถึงต่อมบางต่อมจะมีรูเปิดของมันเอง เช่น ต่อมเหงื่อ เวลาเหงื่อออกก็จะมีเหงื่อซึมผุดออกมา ต่างกับต่อมไขมันซึ่งไม่มีรูเปิด แต่ต่อมไขมัน จะหลั่งไขมันออกมาจากรูเปิดบริเวณปากรูขุมขน ไขมันจึงมีความสัมพันธ์กับขนอย่างลึกซึ้ง อย่างทำไมผมคนบางคนถึงมัน เพราะ มันมีรูขุมขนที่มีขนเยอะก็มีต่อมไขมันหลั่งไขมันได้เยอะตามไปด้วย ผมเราถึงมันกว่าหน้าเราได้ หรือหน้าอาจจะไม่มันแต่ผมมันก็ได้ เช่น เวลาไม่สระผมหลายวันน้ำมันผลิตออกมามากโดยไม่มีการชะล้างเอาคราบน้ำมัน คราบไคลออก หัวก็จะเยิ้มในที่สุด
  • ปกติร่างกายคนเราต้องการน้ำมันบนผิวหน้า เพราะถ้าไม่มีน้ำมัน ใบหน้าเราก็จะแห้ง ระคายเคืองต่อสารต่างๆได้ง่ายขึ้น ต่อมไขมันมีหน้าที่ผลิตน้ำมันมาเคลือบบนผิว เปรียบเสมือนเกาะป้องกันผิวหนังจากสิ่งต่างๆที่จะเข้ามา เช่น คนที่มักแพ้อะไรง่าย ผิวมักแห้ง ซึ่งหมายถึงน้ำมันเคลือบผิวน้อย ทำให้สารบางอย่างใช้ทุกวันซึมสู่ผิวได้ง่ายมากขึ้นทำให้เกิดอาการระคายเคือง หรือ แพ้ตามมา
  • คนเราต้องการความมันที่เหมาะสม แต่สภาพผิวของคนเราก็ยังมีความแตกต่างกันไป การที่น้ำมันจะไหลมามากหรือน้อยขึ้นกับแต่ละคน บางคนหลั่งมากก็อาจจะทำให้หน้ามัน หรือที่เราเรียกว่า ผิวมัน การที่ต่อมไขมันหลั่งน้ำมันออกมาน้อยก็อาจจะมีสภาพผิวแห้ง และไม่ว่าจะหน้ามันมากเกินไปก็อาจจะเกิดสิวได้เนื่องจากน้ำมันเมื่อไหลออกมามากมันก็เกิดการอุดตันโดยตัวมันเอง สิวที่เกิดจากผิวมันมักจะเป็น สิวอุดตัน สิวอักเสบ สิวหัวแดงเม็ดใหญ่ๆ ตรงกันข้าม น้ำมันไหลน้อยเกินไปเมื่อรับสารบางอย่างเข้าไปก็เกิดการระคายเคืองเป็นสิวได้เช่นกัน ผิวแห้งอาจมีสิวลักษณะเล็กๆมีหัวบ้าง ไม่มีหัวบ้าง ซึ่งสิวจำพวกนี้เกิดจากการระคายเคือง

 

กลไกการเกิดสิวต้องเข้าใจก่อนว่า ..


“ เชื้อสิวเป็นสิ่งที่ทุกคนมีบนใบหน้าเป็นเรื่องปกติ อาจจะไม่ก่อให้เกิดสิว หรือก่อให้เกิดสิวก็ได้ แต่คนที่มีเชื้อสิวมากแนวโน้มการเกิดสิวในอนาคตก็มากขึ้นตามไปด้วย

สาเหตุเกิดได้หลายอย่าง เป็นอะไรก็ได้ ความเครียด เครื่องสำอาง ฮอร์โมน อาการแพ้ อาหาร ผิวที่สร้างขี้ไคลมากกว่าปกติ ฯลฯ แล้วสาเหตุที่เกิดขึ้นนั้นทำให้บางสิ่งบางอย่างมาอุดตันบริเวณปากรูขุมขน แล้วไปปิดการไหลออกของน้ำมันตรงบริเวณรูเปิดปากรูขุมขน เมื่อน้ำมันที่ต้องไหลออกมาเคลือบผิวหนังออกไม่ได้ สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ไขมันมาเกาะอยู่บริเวณใกล้รูเปิดรูขุมขน C ไขมันที่มารวมตัวกระจุกนั้นจะมีลักษณะเป็นสีขาว หรือสิวอุดตันนี้ เราเรียกว่าสิวหัวปิด (ดูภาพ C ประกอบ) พออุดตันเยอะขึ้นโดยธรรมชาติมันจะเกิดการดันออก ผลักหัวสิวออก เมื่อเกิดการดันออกหัวสิวสัมผัสอากาศส่วนที่อยู่ด้านบนก็จะกลายเป็นสีดำ สิวหัวดำ หรือ สิวหัวเปิด (ดูภาพ B ประกอบ ) ดังนั้นใบหน้าเราจะมีสิวอุดตันที่เป็นทั้งจุดดำ และ จุดขาว

ถ้าเราไม่รักษาสิวอุดตันที่เกิดขึ้นนี้ บริเวณผิวหนังของเราจะมีเชื้อสิวอยู่แล้วทุกคน เชื้อสิว หรือ P.acne เชื้อพวกนี้โตได้ดีด้วยไขมันบนหน้าเรา เมื่อมีน้ำมันมากตรงจุดไหน มันจะไปกัดกินบริเวณนั้น หรือเมื่อน้ำมันออกมาด้านบนรูขุมขนไม่ได้ รวมตัวอัดกันอยู่ เชื้อสิวพวกนี้จะรีบตามไปกัดกินไขมัน ทำให้ผิวบริเวณนั้นของเราอักเสบและเกิดเป็นสิวอักเสบขึ้น เพราะฉะนั้นสำหรับสิวหัวขาวซึ่งเป็นสิวหัวปิดก็จะกลายเป็นสิวอักเสบในที่สุด และร่างกายคนเราก็จะมีการรักษาตัวเองอัตโนมัติ เช่น เมื่อมีแผลร่างกายเราจะตกสะเก็ด ดังนั้นเมื่อเวลาใบหน้าเกิดสิวอักเสบร่างกายจะเกิดการรักษาอัตโนมัต ร่างกายจะไปเรียกตัวฆ่าเชื้อมานั่นก็คือ พวกเม็ดเลือดขาวทั้งหลาย ที่มันอยู่ในร่างกายก็จะเรียกมารวมกัน เกิดการต่อสู้กับเชื้อแบคทีเรียเชื้อสิวทำให้ผิวหนังบริเวณรอบสิวเกิดการบวมแดงขึ้น ถ้าอักเสบแดงแล้วไม่ยุบหายไป ก็หมายความว่าติดเชื้อซึ่งเราจะเห็นในลักษณะเป็นหนอง หนองคือซากของเม็ดเลือดขาว การที่เราเห็นสิวที่เป็นหนอง มักเกิดหลังจากที่ร่างกายพยายามต่อต้านการอักเสบภายในตัวเราเอง ส่วนมากจะต่อต้านชนะเพราะสุดท้ายหนองเหล่านั้นจะหายไป จะหายของมันไปเอง ถ้าเราไม่ไปแคะ แกะ เกา บีบ กด ดัน สิวเม็ดนั้น การอักเสบก็จะดีขึ้นเรื่อยๆ เพราะร่างกายจะมีกระบวนการรักษาตัวมันเอง ร่างกายของเราก็จะกำจัดเชื้อสิวออกไป และรักษาบาดแผลที่มีอยู่ให้หายสนิทเอง นี่เป็นวงจรปกติของร่างกายคนเรา และวงจรการเกิดสิวที่เราเป็นกันอยู่ทุกวันนี้

สำคัญมาก สำหรับการอักเสบ มันมีโอกาสนำมาซึ่งแผลเป็น ไม่ว่าจะ รอยแดง รอยดำ หลุมสิว ถ้าร่างกายเราเกิดแผลบริเวณรอยต่อของชั้นหนังแท้และหนังกำพร้า “ ร่างกายเราจะไม่มีแผลเป็น “ แต่ถ้าร่างกายเกิดแผลบริเวณที่ลึกกว่านั้นในบริเวณหนังแท้ชั้นคอลลาเจนร่างกายเราก็จะเกิดแผลเป็น หรือรอยแดง ซึ่งบางทีทิ้งเวลานานหลายเดือนกว่าจะหาย

ถ้าเราไม่ยุ่งกับสิว ร่างกายเราอาจจะซ่อมแซมจนสิวนั้นหายไปโดยไม่มีรอยเลยก็เป็นได้ แต่ถ้าเมื่อใดก็ตามที่เราพยายามไปเพิ่มความอักเสบของผิวโดยการกด บีบ ดัน แคะ แกะ เกา เค้น ทำให้กระบวนการอักเสบที่เกิดขึ้นครั้งเดียวต้องเกิดหลายครั้ง เนื้อเยื่อเราอักเสบมากขึ้นเรื่อยๆ เม็ดเลือดขาวที่จะมาซ่อมแซมรักษาทำงานหนักมากขึ้น ผิวหนังตรงนั้นเกิดความบอบช้ำ ความอักเสบที่มันเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า มันจะเกิดการติดเชื้อ สิวหัวหนองไม่ได้หมายความว่าหนองจะอยู่ด้านบนเพียงอย่างเดียว บางทีมันไหลย้อนกลับมาบริเวณชั้นใต้ผิวหนังที่ลึกลงมาข้างล่าง ทำให้เกิดการติดเชื้อรุนแรงขึ้น ส่งผลให้การเกิดแผลเป็นได้มากขึ้น เพราะถึงขั้นนี้คอลลาเจนก็ถูกทำลายไปมากการเรียงตัวมันจะเปลี่ยนไปทำให้เราเกิดเป็นแผลชนิด “หลุมสิว” ทันที

เพราะฉะนั้นสิ่งสำคัญที่สุดเมื่อเกิดสิวหมอจะพยายามบอกคุณเสมอว่า “อย่าไปกดสิวหรืออย่าไปทำอะไรเพิ่มขึ้นกับสิวเพราะมันทำให้เกิดการอักเสบเพิ่มขึ้น นอกจากมันทำให้เกิดแผลรอยแดงทิ้งไว้ ยังมีโอกาสทำให้เป็นแผลหลุมมากขึ้นกว่าเดิม”


การรักษาวิธีหลักที่เราใช้กันเป็นประจำ

  1. ทายา ถ้าเป็นสิวอุดตันไม่มาก เมื่อเกิดการอุดตันเช่นสิวหัวขาว หมอจึงมักจะให้ยาเปิดปากรูขุมขนบริเวณนั้น (สลายขี้ไคล้เหนือบริเวณนั้นออก) เมื่อรูขุมขนเปิด สิวจะหายเอง เพราะไขมันจะถูกขับไหลออกเป็นปกติ เช่น กรดวิตามิน A
  2. ทำทรีทเมนท์ ถ้าเป็นสิวอุดตันเยอะ เพื่อใช้ในการผลัดผิวออกเร็วขึ้น เช่น กรดผลไม้ กรอผิวด้วยเกล็ดอัญมณี(พอทำได้) วิธีนี้ต้องทำด้วยความระมัดระวัง เมื่อทำมากขึ้นจะทำให้ผิวแห้ง กลายเป็นผิวหนังระคายเคืองได้ง่าย ก็ทำให้เกิดสิวเห่อขึ้นมาได้เหมือนกัน
  3. ทานยาปฎิชีวนะ ถ้าเป็นทั้งสิวอุดตันและสิวอักเสบ เพราะเริ่มมีการติดเชื้อร่วมด้วย ยากลุ่มนี้จะฆ่าเชื้อ P.acne ได้ดีเช่น คลินดามัยซิน ด็อกซีซัยคลิน
  4. ทานฮอร์โมน ถ้าผู้ที่มีผิวมันเป็นเพศหญิง โอกาสเกิดสิวจะมีมากสำหรับผิวมัน จะต้องมีการปรับสภาพผิว ให้มีสมดุลน้ำมันที่เหมาะสมไม่มากจนเกินไป จนเกิดการอุดตันโดยน้ำมันเคลือบผิวที่มากไปของตัวเอง จะต้องใช้ฮอร์โมนเข้ามาช่วย เช่น ยาคุมกำเนิด จะช่วยให้หน้ามันน้อยลงได้ เพราะความมันเกิดจากการที่มีฮอร์โมนเพศชายเด่น แต่ผู้ชายใช้ไม่ได้
  5. ทานพวกกรดวิตามินเอ ถ้าผู้ที่มีผิวมันเป็นเพศชายหรือเพศหญิง และมีสิวรุนแรงมากจริงๆ ต้องได้รับการปรึกษาจากแพทย์ก่อนรับประทานเพราะเป็นยาอันตราย ทานแล้วปากแห้ง ตาแห้ง เช่น โรแอคคิวเทน เพราะถ้าหน้าไม่ได้มันมาก ไปหารับประทานเองจะทำให้ผิวเกิดการระคายเคือง และกลายเป็นสิวอีกแบบอื่นตามมา
  6. ไม่กดสิว ไม่บีบสิว ไม่แกะสิว ถ้าเรากดไม่เป็นเนื้อเราจะช้ำ เนื้อเยื่อคอลลาเจนเกิดการเรียงตัวผิดปกติเสียหาย ช้ำมากแล้วก็อาจติดเชื้อตามมา เมื่อมันลึกยิ่งขึ้น สุดท้ายมีแผลเป็นตามมา ทั้งรอยแดง รอยดำ หลุมสิว

ทุกวิธีที่รักษาทั้งหมด เป็นแค่วิธีชั่วคราว ไม่ว่าจะพยายามลอกผิว ผลัดผิวด้านบนออก สุดท้ายแล้วร่างกายก็จะกลับมาเป็นภาวะปกติคือกลับมามีน้ำมัน มีขี้ไคล เกิดการอุดตันได้อีกครั้งเหมือนเดิม เพราะฉะนั้นไม่มีวิธีไหนที่ทำให้ สิวอุดตัน สิวเสี้ยนหายไปอย่างถาวร ยกเว้นการไปเปลี่ยนโครงสร้างของผิวได้

การรักษาวิธีเสริม

ตั้งแต่ เลเซอร์ ,IPL, ฉายแสงสีฟ้า ฯลฯ

จะพูดในเรื่องของ “เส้นขน” ขนกับสิว มีความสัมพันธ์ใกล้กัน ยกตัวอย่าง คนบางคนเอาเลเซอร์มารักษาสิวเสี้ยน สิวเสี้ยนแท้จริง คือรูขุมขนถูกอัดแน่นด้วยขนหลายๆๆเส้นมากระจุกในรูเดียวกัน เราจึงใช้เลเซอร์มากำจัดขนอ่อนๆในรูขุมขนเพราะมันทำหน้าที่ได้ดี เมื่อเรากำจัดขนไปจนหมด รูขุมขนเมื่อไม่มีขน รูมันก็เล็กลง สิวเสี้ยนก็จะดีขึ้น (แต่ส่วนใหญ่สิวเสี้ยนจะใช้ยาทาไปก่อน เพราะรูขุมขนมันใหญ่มันอุดตันได้มากทายาให้ค่อยๆผลัดขี้ไคล้ที่หนาที่มาอุดตันให้ค่อยๆหลุดออกไป) เลเซอร์จะเข้ามาช่วยในกรณีที่คนไข้รู้สึกว่ามันเป็นปัญหากับชีวิต ขี้เกียจทายา จึงยอมจ่ายแพงกว่าเพื่อจะยิงขนเหล่านั้นทิ้ง แต่ในงานวิจัยเลเซอร์ช่วยในเรื่องการรักษาสิวเสี้ยนได้ 50-60% เท่านั้น

การรักษาโดยเลเซอร์ด้วยวิธีอื่นในเรื่องการฆ่าเชื้อสิวโดยตรง ยังให้ผลทำให้หน้ามันน้อยลงสำหรับเลเซอร์ที่เหมาะสมเพราะมีการยิงความร้อนลงไปที่ต่อมไขมันโดยตรง ทำให้ต่อมไขมันทำงานน้อยลง

แต่การรักษาด้วยเลเซอร์จำเป็นต้องมายิงเลเซอร์บ่อย อย่างต่ำอาทิตย์ละสองครั้ง แต่สุดท้ายเชื้อสิวมันจะกลับมา เพราะมันเป็นเรื่องปกติที่ใบหน้าทุกคนต้องมีเชื้อสิว ที่เราเลือกฆ่าเชื้อสิวโดยใช้เลเซอร์เนื่องจากเพื่อไม่ให้มีสิวอุดตันอยู่ เมื่อไม่มีสิวอุดตันเชื้อP.acneก็ไม่สามารถมากัดกินน้ำมันบนผิวแล้วทำให้เกิดการอักเสบเป็นสิวเม็ดแดงใหญ่ตามมา

การเปลี่ยนโครงสร้างของผิวโดยการใช้เลเซอร์ แม้ไม่ถาวรแต่อยู่ได้ยาวนานกว่าขึ้นกับสภาพผิวของแต่ละคน เช่นการกำจัดขนก็อาจจะกลับมาอีกในอีกหลายปีถัดไป เพราะคนเรามีอายุมากขึ้นทุกวัน คอลลาเจนเสื่อมสภาพ รูขุมขนก็กว้างขึ้น เราไม่มีทางเอาชนะความแก่ตามธรรมชาติได้ ก็ต้องมาทำซ้ำเรื่อยไป และการเลเซอร์ครั้งนึงเป็นเรื่องต่อเนื่อง และต้องใช้ระยะเวลาต้องมายิงซ้ำ


คำแนะนำ จะเลือกวิธีไหนก็ต้องกลับมาทำซ้ำเหมือนกัน ขึ้นกับระยะเวลาสั้นหรือยาวก็สุดแล้วแต่เราเลือก  เช่น ถ้าเราเลือกทายาก็ให้ทาเป็นช่วงเมื่อผิวบริเวณผลัดออก รูเปิด น้ำมันไหลเวียนปกติ ใบหน้าหายอุดตัน เราก็หยุด เมื่อร่างกายเริ่มกลับมาเป็นปกติ เริ่มอุดตันใหม่ก็กลับมาทายาใหม่ ซ้ำไปซ้ำมา

“สิ่งสำคัญที่หมอย้ำกับคนไข้ที่เป็นสิวว่า เมื่อเป็นสิวแล้ว เราไม่ควรทำอะไรมันเลยจะดีกว่า ปล่อยหน้าที่นี้ไว้ให้หมอทำ เพราะหมอจะเลือกหนทางที่ดีและเหมาะสม และไม่ทำให้เกิดปัญหาผิวอย่างอื่นเพิ่มตามมา ปัญหาของคนไข้เป็นสิวส่วนนึงคือการเกิดรอยหลุมสิวที่กำลังจะตามมา เพราะบางทีคนไข้ไม่เข้าใจอยากจะให้สิวหายไวไว ก็ไปพยายามไปบีบ แคะ แกะ เกาสิว ไปรีดมันออกมา แต่ไม่เข้าใจว่าสิ่งที่กำลังทำอยู่ มันกำลังไปทำให้เกิด หลุมสิวที่มันอยู่กับเราตลอดกาล “

เพราะถ้าหน้าเป็นหลุมแล้วไม่มีวิธีไหนที่คุณสามารถถมมันให้เต็ม มันเป็นการเปลี่ยนโครงสร้างของผิวไปอย่างถาวรเป็นแผลเป็นรักษายากกว่าการเป็นสิว


และแล้วก็จบบทสนทนาไปด้วยความกระจ่างว่านอกจากอย่าบีบสิวให้มันหายเอง แล้วยังค้นพบสัจธรรมแด่ตัวเองและผองเพื่อนกับความหวังในการหาแนวทางรักษา เรื่องสิวเสี้ยน สิวอุดตันว่าไม่มีทางจากไปอย่างถาวร ยกเว้นโครงสร้างผิวเปลี่ยนนั้นหมายถึงเมื่อเราอายุมากขึ้นมันจะเปลี่ยนไปเองตามผิวของเรา

Erk-erk.com ขอขอบพระคุณผู้ช่วยศาสตราจารย์แพทย์หญิง รังสิมา วณิชภักดีเดชา

แห่งศูนย์เลเซอร์ผิวหนังโรงพยาบาลศิริราช และ ศูนย์ผิวหนัง&ศัลยกรรมเลเซอร์ไอสกาย เป็นอย่างสูงในความกรุณาเอิ้อเฟื้อเสียสละเวลาในการให้สัมภาษณ์ความรู้ทางด้านผิวหนังในครั้งนี้ค่ะ









คนที่อ่านจบแล้วเป็นแผลเป็นแล้ว บอกมาเจอบลอคนี้ช้าไป อย่าเสียใจไป และคนที่มีปัญหาแผลเป็น แผลคีรอยแผลปานทั้งหลาย

อาทิตย์หน้าพบกับสัมภาษณ์พิเศษ ” เจ้าพ่อรักษาแผลเป็น ” ของวงการแพทย์ในเมืองไทย

ศาสตราจารย์ วรพงษ์ มนัสเกียรติ สาขาเลเซอร์ผิวหนังเพียงคนเดียวในประเทศไทย

(ที่มาภาพ : http://www.laserandhealthacademy.com )

เป็นหัวหน้าศูนย์เลเซอร์ผิวหนังที่โรงพยาบาลศิริราช

จะมาบอกเล่าเกี่ยวกับแผลหลุมสิว และวิธีการรักษา ซึ่งคุณหมอท่านเองจะโปรดปรานในงานวิจัยมาก

ถนัดเรื่องเลเซอร์รักษาผิวพรรณทุกชนิดที่ถนัดที่สุดคือแผลเป็น และตอนนี้คือเรื่อง ” หลุมสิว “

ที่หลายคนการันตีว่าถ้าแผลเป็น ปาน หลุมสิวต้องยกให้คุณหมอ วรพงษ์เท่านั้น

ใครอยากรู้จักคุณหมอท่านก็ Search Google รอไปก่อนกับ Keyword

manuskiatti

คุณจะพบกับการรักษา และงานวิจัยของศาสตราจารย์ท่านนี้มากมาย

อุ่ยเครื่องให้ดูผลงานการรักษาในการทำเลเซอร์ 2 ครั้งในการรักษาหลุมสิว

(ที่มาภาพ:ผลงานวิจัยเรื่องการรักษาแผลหลุมสิวด้วยเลเซอร์ Erbium:YAG ตีพิมพ์ในวารสาร Dermatologic Surgery ปี 2009 เล่มที่ 35 หน้า 1376-1383)

มีอีกเพียบรอบหน้า เราจะไปเสาะหามาจงได้

XOXO

 

พลาดแล้วเสียใจแน่นอน B)

 


การเขียนบทความนี้ เป็นเจตนารมณ์ ความชอบ และความตั้งใจของผู้เขียนที่อยากจะเผยแพร่ข้อมูลความรู้เกี่ยวกับผิวหนังที่มีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องสิวที่ตนเองประสบอยู่ วิธีแนวทางในการรักษา ตั้งแต่ทายา ทานยา ใช้เลเซอร์เข้ามาในการประกอบการรักษา และอยากแนะนำบุคคลที่เป็นผู้ให้ คนดี คนเก่ง ของสังคมในประเทศไทย ซึ่งหลายคนอาจไม่มีโอกาสได้รู้จัก สำหรับการเขียนทั้งหมดหากเกิดข้อผิดพลาดประการใดในเรื่องการสะกด การใช้ศัพท์แพทย์ หรือข้อผิดพลาดอื่นใดผู้เขียนขอรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว ไม่ขอให้พาดพิงถึงครูบาอาจารย์ผู้มีพระคุณให้ข้อมูลอันมีประโยชน์เหล่านี้มา เพราะบุคคลเหล่านี้เป็นบุคคลผู้มีชื่อเสียงและทำประโยชน์ให้กับสังคมมากมาย

Posted in ACNE, BEAUTY TECHNOLOGY, FACE, LASER, SCARComments (4)

REVIEW : GARNIER PURE ACTIVE รักษาสิวอุดตัน รอยแดง รอยดำที่แผ่นหลัง


ช่วงนี้ผลิตภัณฑ์รักษาสิวออกกันเกลื่อนมากจริงๆจะว่าเกลื่อนก็ไม่ถูก สิวเป็นเรื่องธรรมชาติ ไม่สิเรื่องปกติที่จะไม่มีวันหายไปจากมนุษย์ ตราบใดที่ผิวยังมีรูขุมขน มีการผลิตน้ำมันจากต่อมไขมัน มีเส้นขน ตราบใดโลกนี้ยังมีมลภาวะต่างๆเป็นตัวกระตุ้นทำให้เกิดสิว แต่ไม่ว่าอย่างไร “เราจะทำให้มันไป โอเคไหม ? “


เรามาร่วมมือกันเตะมันออกไป 🙂

สำหรับสูตรกลุ่มดูแลการอักเสบของสิว และ รักษาสิววันนี้ คือ GARNIER PURE ACTIVE หัวใจในการทำงานหลักของมันอยู่ที่ การดูแลรักษาปัญหาผิวเรื้อรังทั้ง 6 ประการ ตั้งแต่ครั้งที่ลองใช้ ได้แก่ปัญหา

  1. สิวอุดตัน
  2. สิวเสี้ยน
  3. รูขุมขนกว้าง
  4. ความมันส่วนเกิน
  5. รอยแดง รอยดำ
  6. สีผิวไม่สม่ำเสมอ



ใน Line PURE ACTIVE มีหลายตัว แต่เราลองแค่ 2 ตัว

  • Multi Action Scrub = โฟมล้างหน้าแบบผสมเม็ดบีส
  • Pimple Roll on = ลูกกลิ้งแต้มสิว

2 ตัวนี้มีส่วนผสมหรือสารที่เหมืือนกันเป็นหลักคือ

  1. ซาลิไซลิค แอซิด จัดการแบคทีเรียและปัญหาสิว ควบคุมความมัน
  2. เฮอร์บารีแพร์ บำรุงผิว ให้ผิวมีสุขภาพดีขึ้น ผลัดเซลล์ผิว ลดเลือนรอยแดงและรอยคล้ำจากสิว

Multi Action Scrub


จะใช้อะไรอ่านฉลากก่อนทุกครั้งนะคะ เผื่อตัวไหนแพ้ก็จด และจำไว้จะได้ไม่ต้องแพ้ซ้ำ แต่ส่วนผสมใน 2 ตัวนี้เอิ๊กนำมาใช้กับแผ่นหลังเนื่องจากสิวอักเสบขึ้นพรึบแพ้สารเคมีบางตัวในยาย้อมผม

Cool สิวอักเสบแห้งไวมาก ดีขึ้นมากแต่เป็นอาการที่ค่อยๆดีขึ้น อาจจะไม่หายไปหมดจากแผ่นหลัง แต่ตุ่มสิวหายอักเสบ และมีขนาดเล็กลง รอยแดงเป็นจ้ำๆเกือบหาย มีสครับไว้ผลัดเซลล์ผิว ทำความสะอาดได้ล้ำลึกมากขึ้น ความมันลดลง สีผิวดูสม่ำเสมอ เรียบเนียนขึ้น

Uncool ไม่เหมาะกับคนผิวแห้งถึงแห้งมากเลยแน่นอน เพราะมีตัวช่วยในการผลัดเซลล์ผิวอย่างเม็ดสครับด้วยอาจทำให้ระคายเคืองและผิวลอกได้ และในเรื่องของสิวเสี้ยนที่ฝังแน่น สิวไม่มีหัว เป็นเรื่องที่กำจัดไม่ง่าย อาจะต้องใช้เวลา หรือต้องใช้วิธีการอื่นเพิ่มเติม

 

Pimple Roll on

Cool เมื่อทำงานคู่กับตัวสครับ ทำให้สิวอักเสบลดลงไปมาก เนื้อเจลไม่อุดตัน มีลักษณะเคลือบเกาะผิว บำรุงสิวไปตลอดคืน ตลอดวัน แพคเกจทันสมัย ไม่เคยใช้อะไรกลิ้งๆแบบนี้ จับถนัดมือ สิวหายพร้อมทำให้รอยสิวเลือนจางไปด้วย

Uncool ในกรณีเวลาที่มันกลิ้งไป เกิดเราทำความสะอาดบริเวณที่เราจะกลิ้งไม่สะอาดหมายความว่า เชื้อโรค หรือแบคทีเรียจะกลิ้งตามเข้าไปด้วยหรือไม่ อาจทำให้คุณภาพลดลงหรือเปล่า ยังคงเป็นข้อสังเกตุ ยังไงแบบหยดน้ำออกมาน่าจะโอเคกว่าในแง่ของการคงคุณภาพตัวสารที่ใช้แต้มสิว


สำหรับภาพสิว BEFORE AFTER ไปชมกันในวีดีโอได้เลยค่ะ 🙂




 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

XOXO




Posted in ACNE, BACK, REVIEWComments (12)

REVIEW MAYBELLINE HYPER DIAMOND LIQUID LINER

Posted in EYES, MAKE UP, REVIEWComments (0)

REVIEW MAYBELLINE CLEAR SMOOTH MINERAL B.B CREAM SPF26 PA+++ เนียนกรึ๊บ

 

Posted in FACE, MAKE UP, REVIEWComments (0)

REVIEW MAYBELLINE LIP SMOOTH COLOR BLOOM ลิปมันเปลี่ยนสี

 

Posted in LIPS, MAKE UP, REVIEWComments (0)

advert

Google

erk-erk.com





BEAUTY MENU

มาคุยกับเอิ๊กได้ที่นี่ทุกวัน ถ้าว่างรีบตอบทุกคำถามค่ะ

INSTAGRAM @wwwerkerkcom

[instagram-feed]

ติดตามบล็อค erk-erk.com อย่างใกล้ชิด

เพียงกรอก Email ตรงนี้เลย

LINE @erk-erk

เพิ่มเพื่อน

Related Sites