Archive | BEAUTY

สิวผดรักษายังไงมีคำตอบ ?

www.erk-erk.com

www.erk-erk.com

www.erk-erk.com

สิวผด สิวผื่น สิวผดผื่น “ เม็ดเล็ก มาง่าย ไปยาก กวนใจ “

 www.erk-erk.com

เป็นอีกปัญหานึงที่ผู้หญิงมีปัญหาเยอะสุด เอิ๊กเคยเป็นเหมือนจะผดขึ้นช่วงนึงตอนนั้นยังหาสาเหตุไม่ได้ ก็ไปหาผศ.พญ. รังสิมาที่ ISKYCENTER ทายาหายแล้วเกลี้ยง พอหายไม่ได้ทา ซักพักเป็นใหม่ เลยคิดให้ดี นึกได้สุดท้ายมารู้ว่าเป็นเพราะ ล้างแชมพูครีมนวดไม่สะอาด ช่วงนั้นจากผด ไปๆมาๆ บางเม็ดอักเสบร่วมด้วย อยากเป็นลมมาก หน้าผากเป็นหลุมตื้นๆ ไม่เรียบไม่กล้าโชว์หน้าผากเลย ตอนนี้หายแล้ว เมื่อสระผมล้างน้ำเยอะๆ ให้เกลี้ยงให้สะอาด และ ใช้แสงเลเซอร์ให้ความร้อนกระตุ้นหลุมตื้นๆทำกับ ศ.นพ. วรพงษ์ ตอนนี้ 98%-99% มองไม่ค่อยเห็นละ เปิดเหม่งโชว์ได้ มั่นใจ

 www.erk-erk.com

รูปตอนเดือนกุมภาพันธ์ 55 รักษามาจนเกือบหายแล้ว สิวผดหน้าผาก

 

 รูปวันที่ 29 เมษา 55 เมื่อวานนี้ ลมพิษและผื่นขึ้นช่วงแก้ม เพราะความร้อนและฝุ่น และเครื่องสำอางผสมกัน

 www.erk-erk.com 

www.erk-erk.com 

สิวผด เป็นยังไง ?

ผื่นเม็ดใสๆเล็กๆ เป็นสิวประเภทนึงที่ชอบขึ้นติดกันหลายๆเม็ด บ่อยครั้งชอบขึ้นที่บริเวณหน้าผาก บางครั้งตอนเช้าหน้ายังเรียบใส อาจขึ้นในช่วงบ่ายก็เป็นได้ และ ถ้าอักเสบอาจจะมีสีแดง มีหนอง หรือ มีอาการคันร่วมด้วยได้ ถ้ารักษาไม่ถูกต้องอาจจะเป็นมากขึ้นได้

 

สาเหตุสิวผด ?

  • แสงแดด
  • ความร้อน 
  • เชื้อรา
  • เครื่องสำอาง อุปกรณ์แต่งหน้าที่ไม่สะอาด เช่น แปรง
  • เช็ดถู นวดหน้า ขัดหน้า หรือ ล้างหน้าบ่อย เช็ดใบหน้าแรง
  • แพ้น้ำ
  • แพ้เหงื่อ
  • สารที่ก่อให้เกิดระคายเคือง เช่น การใช้ยารักษาสิวประเภท Retinoic Acid, Benzoyel , alcohol , Peroxide AHA, BHA เป็นต้น
  • สบู่ หรือ โฟมล้างหน้าที่มีฟองมาก มีการชะล้างสูง หรือใช้ไม่เหมาะกับผิว
  • น้ำอุ่นจัด
  • แชมพู
  • เชื้้อยีสต์, เชื้อรา
  • ภูมิคุ้มกันในร่างกายบกพร่อง อ่อนแอ พักผ่อนน้อย ร่างกายไม่แข็งแรง

 

วิธีดูแลและป้องกันสิวผด

หาสาเหตุให้พบและดูแลเลือกวิธีป้องกันให้เหมาะสม เช่น ถ้าสิวผดจะขึ้นบ่อยเมื่อเจอแสงแดด ก็เลี่ยงแดดซะ หรือ ถ้าสิวผดจะขึ้นตอนแต่งหน้า ให้เปลี่ยนรองพื้น หรือใช้ผลิตภัณฑ์อื่นแทนเช่น BB หรือที่ผ่านการรับรองจากกลุ่มแพทย์ผิวหนัง

 

  • เลี่ยงแสงแดด และ ความร้อน ถ้าต้องทำงานต้องทาครีมกันแดดทุกครั้งที่เหมาะกับสภาพผิว เลือกที่ปราศจากน้ำมัน และไม่ทำให้เกิดสิว ( OIL FREE / NON COMEDOGENIC ) SPF30 PA+++ ขึ้นไป
  • เลิกรบกวนผิวหน้ามากเกินไปไม่ว่าจะ ล้างหน้า ขัดหน้า นวดหน้าพอกหน้า ถูหน้า บ่อยเกินความจำเป็น
  • เลิกใช้อะไรที่รุนแรงกับผิว ทำให้ผิวระคายเคือง
  • แต่งหน้าให้น้อยที่สุด
  • เลิกใช้น้ำอุ่นล้างหน้า
  • นอนหลับพักผ่อนให้เพียงให้ร่างกายได้ซ่อมแซม
  • ไม่เครียดเพราะจะทำให้ภูมิคุ้มกันร่างกายอ่อนแอ
  • ทานผัก ผลไม้ ข้าวไม่ขัดขาว แป้งไม่ขัดขาว ได้กากใย ได้วิตามิน ง่ายต่อการระบาย ช่วยล้างพิษในร่างกาย
  • ใช้แชมพูอ่อนโยน

 

วิธีรักษา

คำเตือน ควรอยู่ในความควบคุมของคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ อย่างแพทย์ผิวหนัง หรือ เภสัชกรยา เพราะครีมบางตัวเป็นยาปฎิชีวนะ หรือ สเตียรอยด์ มีผลข้างเคียงสูงหากซื้อใช้เองโดยไม่ได้รับคำแนะนำ 

ยาปฎิชีวนะบางตัว อาจทำให้ดื้อยา 

ยาที่มีสเตียรอยด์ อาจทำให้หลอดเลือดขยาย หน้าแดง แพ้ง่าย ผิวบอบบางลง สิวจะเห่อขึ้นเต็มและรักษายาก

 

สำหรับคนผิวหน้ามัน ผิวธรรมดา ที่ไม่แพ้ง่าย

  • ตัวยา Benzoyl peroxide % ต่ำ ทาก่อนล้างหน้า 2-5 นาที อาจทำให้เกิดการระคายเคือง ผิวแห้ง หน้าเห่อแดง
  • ตัวยา กรดวิตามิน A (Tretinoin) % ต่ำๆ ทาก่อนนอน อาจทำให้เกิดการระคายเคือง ผิวแห้ง หน้าเห่อแดง หน้าไวแสง

 

สำหรับคนผิวแห้ง ผิวผสมที่มีส่วนแห้ง ผิวแพ้ง่าย

  • ตัวครีมหรือยาที่มีส่วนผสม Resorcinol ที่เป็นครีมหรือแป้งน้ำ
  • ตัวครีมหรือยาที่มีส่วนผสม Selenium Sulfide ทาทิ้งไว้แล้วล้างออกวันละสองครั้ง ละลายหัวสิว สิวอุดตัน สลายเคราติน ลดสิวผด
  • ตัวครีมหรือยาที่มีส่วนผสม Ketoconazole cream ทาก่อนนอน ในกรณีมีสิวผดมาก มีอาการคัน หรือ สิวผดที่เกิดจากเชื้อยีสต์
  • ตัวครีมหรือยาที่มีส่วนผสม Steroid มักใช้ในกรณีแพ้เครื่องสำอาง หรือผิวระคายเคืองขึ้นผื่นเห่อ บวมแดง
  • ตัวครีมหรือยาที่มีส่วนผสม Zinc PCA

 

การทานยาร่วมด้วย

  • หากมีการอักเสบร่วมด้วย อาจต้องทานยาแก้อักเสบ
  • หากมีการคันร่วมด้วย อาจต้องทานยา เช่น KETOTOP

 

การรักษาใช้เวลา

2-4 สัปดาห์ หรือมากกว่านี้ขึ้นกับว่าเป็นมากเป็นน้อย

* ข้อมูลทั้งหมด จากประสบการณ์ตรงที่ครั้งนึงเคยเป็นสิวผดมากและบ่อยจากการแพ้ยาสระผม และ จากการอ่านศึกษาข้อมูลจากเว็บและผู้เชี่ยวชาญทางด้านผิวหนัง รวบรวม และ เขียนขึ้นมาโดยเอิ๊กทั้งหมดค่ะ

แหล่งข้อมูลศึกษาเพิ่มเติม

  • ศ.นพ. วรพงษ์ มนัสเกียรติ
  • ผศ.พญ. รังสิมา วณิชภักดีเดชา
  • พญ.ดลลชา นรินทรางกูร ณ อยุธยา 
  • ผศ.พญ.สุวิรากร โอภาสวงศ์ 
  • ASTVผู้จัดการออนไลน์ 
  • aad.org
  • emedicinehealth.com

Posted in ACNE, SKINComments (1)

รักแร้ดำทำไงดี ปัญหาโลกแตกที่หลายคนไม่กล้าบอกใคร

 

 

 

 

 

 

ที่มา magazine.ayurvediccure.com

ถามจริงเมื่อเห็นภาพนี้ เสียงในใจคิดอะไรอยู่ ?

erk-erk.com 

erk-erk.com

erk-erk.com

erk-erk.com 

erk-erk.com

erk-erk.com

เป็นอีกประเด็นที่ระอุมากใน INBOX ที่เอิ๊กตอบไม่ทันและไม่มีเวลาเช็คเลยช่วงนี้ เนื่องจากมันเป็นเรื่องที่อ่อนไหว คนก็ไม่อยากจะถามให้คนอื่นเห็น บางคนก็มาปรึกษาเรื่องผลิตภัณฑ์ ส่วนตัวไม่เคยใช้อะไรเลย นอกจากล่าสุดสเปรย์ระงับกลิ่นกายที่มีตัวบำรุงอย่างที่เห็น ยังไงก็แล้วแต่วันนี้จึงขอมารวบรวมที่เดียว หนทางจะหลุดพ้นปัญหาผิวใต้วงแขนสีหมองคล้ำทำวิธีไหนได้บ้าง ก่อนอื่นเรามาทราบสาเหตุส่วนมากกันก่อนว่ามันเกิดจากอะไรกันบ้าง ?

erk-erk.com 

erk-erk.com

erk-erk.com

สาเหตุที่ 1 : การโกน

การโกนทำไมถึงทำให้ใต้วงแขนมีสีคล้ำขึ้นก็เพราะว่ามันเกิดการเสียดสีระหว่างใบมืดและผิวของเรา ทุกครั้งที่โกนจะมีเซลล์ที่ตายแล้วหลุดออกไปด้วย ส่งผลให้บริเวณนั้นอ่อนบาง พอโกนซ้ำไปซ้ำมา เกิดการเสียดสี จึงคล้ำลงได้

  • ทางแก้ : เปลี่ยนวิธีกำจัดขนแบบใหม่ จะใช้แบบครีมกำจัดขนที่น่าเชื่อถือก็ได้ / จะแว็กซ์ร้อนแว็กซ์เย็นออกก็ได้ / จะเลเซอร์ก็ได้ / IPL กำจัดขนก็ได้ ที่ไม่ต้องทำร้ายผิวใต้วงแขน 

erk-erk.com 

erk-erk.com

สาเหตุที่ 2 : เซลล์ผิวที่ตายแล้ว

ทั่วร่างกายมีรูขุมขนอยู่เกือบทั่วร่างกาย มีต่อมไขมัน มีการขับเหงื่อ มีการหนาตัวของชั้นขี้ไคลเป็นเรื่องปกติ อีกสาเหตุของใต้วงแขนคล้ำ อาจมาจากเซลล์ผิวที่ตายแล้ว

  • ทางแก้ : ใช้ผลิตภัณฑ์สูตรWhitening เพื่อวงแขนเท่านั้น หรือใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับใต้วงแขนที่มี AHA, LACTIC ACID เป็นต้น

erk-erk.com 

erk-erk.com

สาเหตุที่ 3 : รูขุมขนอักเสบ

เกิดได้หลายอย่างเช่น ถอน โกน ใช้ผลิตภัณฑ์รุนแรงจนทำให้ผิวระคายเคืองบางทีเป็นแผล และเกิดสีคล้ำตามมา ข้อนี้ประสบการณ์ตรงเลยทีเดียว

  • ทางแก้ : เปลี่ยนวิธีการกำจัดขนใหม่เหมือนที่บอกข้อ 1 / อย่าเลือกใช้วิธีการทำอะไรกับวงแขนไม่ว่าจะสครับแรงๆ ผลัดเซลล์ผิวแบบใช้อะไรรุนแรง จะต้องเสียใจไปตลอดแน่นอน ทุกวันนี้เอิ๊กยังไม่หาย เพราะอยากผลัดเซลล์เอา BHA ทาหน้ามาทาใต้วงแขนซึ่งมันแรงมาก ผลปรากฎว่า รักแร้ดำหย่อมนึงข้างเดียว ทายาก็ไม่หาย ว่าจะต้องปรึกษาคุณหมออยู่

erk-erk.com 

erk-erk.com

สาเหตุที่ 4 : น้ำหอมหรือสารบางอย่างที่อยู่ในผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย

ในผลิตภัณฑ์พวกนี้จะมีส่วนผสมอยู่มากมายหลายชนิด ผิวใต้วงแขนเป็นส่วนที่บอบบางมากไม่แพ้ใบหน้า และเป็นบริเวณที่เหงื่อออกง่ายมากที่สุด ควรใช้ที่มีการรับรอง การทดสอบ หรือแพทย์ผิวหนังบางกลุ่มรับรองจะดีกว่า บางทีพวกน้ำหอมในผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายหรือส่วนผสมบางอย่างเมื่อโดนผิวทำปฏิกิริยากับผิว ทำให้คันได้ เกาได้เป็นแผลและทำให้ใต้วงแขนมีสีคล้ำได้ในที่สุด ที่พบบ่อยมากสุดเมื่อสมัยก่อน สมัยนี้ไม่รู้ยังพบกันอยู่ไหม หลายคนมีปัญหากับผลิตภัณฑ์โรลออนรุ่นเก่าๆ ใช้แล้วผลที่ออกมา คือ ใต้วงแขนคล้ำ หรือ ที่เราเรียกกันว่า “เต่าดำ” นั่นเอง มันเซ็งนะ ถ้ามาทำให้ตัวหอม แต่ทำรักแร้เราดำ

  • ทางแก้ : เปลี่ยนแบรนด์ หรือ ใช้ส่วนผสมที่มีการรับรองว่าไม่ทำให้ใต้วงแขนหมองคล้ำ หรือใช้ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติระงับกลิ่นตัวแทน เช่น สารส้ม

erk-erk.com 

erk-erk.com

สาเหตุที่ 5 : การมีน้ำหนักตัว ต่อมอินซูลินทำงานผิดปกติ หรือ ไขมันส่วนเกินมากไปตามข้อพับ 

ด้วยความที่ลักษณะสรีระที่มีส่วนเกินแค่คุณเดินแล้วแขนเสียดสี แค่คุณเดินและขาหนีบเสียดสี ไม่ต้องน้ำหนักตัวเยอะ ใต้วงแขน และ แนวบิกินีก็มีสีคล้ำหมองขึ้นได้

  • ทางแก้ : ลดส่วนเกิน ควบคุมอาหาร / บริเวณหมองคล้ำ อาจทาครีมจำพวก เรตินเอ , ยูเรีย 20% ฯลฯ 

erk-erk.com 

erk-erk.com

สาเหตุที่ 6 : ผิวคล้ำ

เป็นที่ร่างกายผลิตเม็ดสีเมลานินส่วนเกิน แต่ข้อนี้มีโอกาสน้อยที่สุด

  • ทางแก้ : ฉายแสงทำลายเม็ดสีเมลานินหมองคล้ำได้ เช่น ฉายแสง LED หรือ เลเซอร์ทำลายเม็ดสีเมลานินไปเลย 

erk-erk.com 

erk-erk.com

สาเหตุที่ 7 : กรรมพันธุ์

ข้อนี้เป็นเรื่องที่น่าเจ็บปวดเหมือนกัน เพราะเป็นเรื่องที่มียีนส์เป็นตัวกำหนด ก็จะเห็นว่ามีสีคล้ำทั้งต้นคอ ขาหนีบ ข้อพับแขนและขา ตาตุ่ม รวมถึงใต้วงแขน

  • ทางแก้ : อาจจะลองปรึกษาแพทย์ผิวหนังดูก่อนว่ามีวิธีทำยังไงได้บ้างเพื่อจัดการกับจุดนี้ ถ้าไม่ได้จริงๆ อาจใช้รองพื้นที่มีสีตรงกับผิวเข้าช่วยปกปิดให้มีสีผิวสม่ำเสมอ หากวันใดจำเป็นต้องมีวันพิเศษที่ต้องไปค่ะ

erk-erk.com 

erk-erk.com

erk-erk.com


หัวข้อวันนี้แตกประเด็นมาจากทวิตเตอร์ศาสตราจารย์นายแพทย์ วรพงษ์อ่านไปสนุกแต่ไม่จุใจขออนุญาตขยาย
หวังว่าทุกคนคงได้รับประโยชน์ไม่มากก็น้อย ขอให้ใต้วงแขน ขาวใสกันทุกคน

erk-erk.com 

erk-erk.com

erk-erk.com

erk-erk.com 

erk-erk.com

erk-erk.com

Posted in BEAUTY TECHNOLOGY, Q&A, UNDERARMComments (0)

กำจัดขนด้วยเลเซอร์ GENTLE YAG

 

 

 

 

 

เอิ๊กเพิ่งเริ่มกำจัดขนไป 1 ครั้ง จากหลายๆครั้งที่ต้องทำเลยอยากจะเขียนเรื่องนี้แชร์กันหน่อยเผื่อคนสนใจอยากที่จะเลเซอร์ออกไปให้จบ เพราะเอิ๊กมีปัญหาผิวใต้วงแขนเป็นตุ่มไก่จากการถอน เอิ๊กรู้สึกว่ามันทำร้ายผิวทุกครั้งที่ต้องกำจัดขนออกไป อยากให้มันเนียนเลยตัดสินใจทำเลเซอร์ โดยข้อด้อยของมัน คือ ต้องทำหลายครั้ง ถ้าไม่นับเรื่องราคาที่แพง แต่ถ้าทำ ไม่ถึง 10 ครั้งแล้วเนียนไปตลอดชีวิต โอเคเลย

เลเซอร์กำจัดขน และ แสงมีหลายระบบ ตั้งแต่ Alexandrite Laser / Ruby Laser / IPL / ND-Yag laser / Gentle Yag etc.

การเตรียมตัว คือ ปล่อยให้ขนยาว 5555 ขนที่ต้องการเอาออกปล่อยให้ยาว พอไปถึงมือแพทย์ แพทย์จะสั่งโกนขนส่วนบนไป แต่ยังมีรากขนเพื่อให้แสงเลเซอร์วิ่งไปจับให้เกิดความร้อนและเกิดการทำลายได้ ดังนั้นใครคิดจะถอน หยุด หยุด หยุด หยุด เลย เดี๋ยวจะออกไม่หมด (ครั้งแรกเราก็พลาดซะแล้ว อายแพทย์เลยถอนไปเรียบเลย) 

เอิ๊กเลือกวิธี GENTLE-YAG เนื่องด้วยสถานที่ที่ทำ จะมีให้เลือกสองระบบ IPL vs Gentle Yag ไม่แน่ใจชัดเจนว่าแตกต่างกันยังไง แต่มีพี่แนะนำว่า GENTLE YAG อาจจะดีกว่า (มั๊ง) เลยตัดสินใจเลือกวิธี GENTLE YAG ไป คุณหมอที่ทำให้เอิ๊ก คือ คุณหมอ วรทัย เตือนอารีย์ ISKYCENTER คุณหมอก็บอกว่าเลเซอร์จะรู้สึกเจ็บนิดๆ ทุกระบบ

 

ภาพจาก ISKYCENTER

GentleYAG สำหรับหมวดกำจัดขนใช้ได้ส่วนใดบ้าง?

ทั่วร่างกาย ที่เราไม่พอใจ เลือกได้ อันได้แก่ ใบหน้า, ลำคอ, หน้าอก, หลัง, บริเวณแนวบิกินี่, ใต้วงแขน, แขนและขา

 

ใครบ้างใช้ GentleYAG กำจัดขนได้?

ขนที่มีขนในร่างกายเป็นสีน้ำตาลเข้ม หรือ ขนสีดำสนิท ขนสีอ่อนอย่างชาวต่างชาติไม่เหมาะ ดังนั้นเลเซอร์นี้เหมาะกับทุกเพศ ทั้งหญิงและชาย เน้นผิวและสีคนตามแบบฉบับชาวเอเชีย และ แอฟริกา ก็จะสามารถทำได้ดี เห็นผล

 

GentleYAG ปลอดภัยในการกำจัดขนหรือไม่?

อยากฝากไว้ให้ทุกคนถ้าถามได้ ถามเลยว่าเครื่องมือที่แพทย์ใช้ให้เรานั้นผ่าน อย. หรือไม่ ถ้าไม่เราอย่าเสี่ยงจะดีกว่า เพราะการผ่านอย. ของไทย  เครื่องนั้นต้องมีงานวิจัยมารองรับบางส่วนแน่นอน ว่าปลอดภัยสำหรับคนไทย โดยปกติระบบ GentleYAG เป็นเลเซอร์ชนิดนึงที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการกำจัดขนมานานแล้ว และจะปลอดภัยหรือไม่ขึ้นอยู่กับว่าคุณให้ใครทำ มีแฟนเพจคนนึงส่งเรื่องนี้มาปรึกษาว่าทำ IPL แต่ไม่ใช่แพทย์ ผลคือ รักแร้เธอไหม้ และ มีรอยคล้ำตามมา รวมถึงขนส่วนอื่นที่กำจัดด้วย 

 

ผลข้างเคียงจากการกำจัดขนด้วย GentleYAG มีอะไรบ้าง?

หากไม่ใช่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง อาจทำเม็ดสีบริเวณนั้นเข้มขึ้น ด่าง หรือ เป็นรอยดำบริเวณที่เรากำจัดขน ส่วนอาการปกติหลังทำที่เกิดขึ้น คือ รอยแดงหลังทำทันที เพราะเกิดความร้อนที่บริเวณรากขน ลักษณะของผิวหลังเลเซอร์ก็อาจจะแตกต่างกันขึ้นอยู่กับประเภทของผิวและพื้นที่ๆรักษา ส่วนใหญ่ผิวจะแดงเล็กๆ และบวมนิดๆ ไม่กี่ชั่วโมงก็หายไป ส่วนใหญ่หลังทำก็ใช้ชีวิตได้ตามปกติไม่มีปัญหาอะไร แค่ปล่อยขนให้ยาวเพื่อทำครั้งต่อไปก็พอ 555

ดูเธอคนนี้ไปกำจัดขนที่ใบหน้ามาว่าเป็นไงบ้าง

GentleYAG เจ็บไหม?

ส่วนตัวปวดนิดๆตอนปล่อยลำแสง สถานที่พยายาลอาจจะมีการทายาชาให้ก่อน หรือถ้าทนไหวก็อาจไม่ต้องทา มันปวดๆเจ็บๆนิดๆ เพราะทายาชาไปเลยไม่ค่อยจะรู้สึกอะไร ไม่น่ากลัวอย่างที่คนขู่ไว้ 555 สบาย สบาย

ขั้นตอนก่อนการกำจัดขน ?

ต้องปรึกษาแพทย์ก่อนถึงคำแนะนำ ว่าจะเลือกระบบไหนยิงกำจัดขน จะต้องไม่มีแผล หรือ อาการไหม้บริเวณที่ยิง

วิธีการทำงานของGentleYAG ที่ใช้กำจัดขน?

ทายาชาบริเวณที่ทำประมาณ 30 นาที ก็จะเช็ดยาชาออก โกนขนให้เหลือแต่ต่อ รากขนจะช่วยให้ลำแสงเลเซอร์ยิงไปทำลายรากขนได้ง่ายขึ้น และเริ่มทาเจลเย็นบริเวณที่จะทำ สวมแว่นตาที่ปิดสนิทเพื่อป้องกันดวงตาจากแสงเลเซอร์ที่เข้มข้นสูงและจ้ามาก และยิงเลเซอร์แบบไล่ไปจนจบบริเวณซัก 2-4 รอบวนไปวนมา ใช้เวลาประมาณ 5 นาที – ชั่วโมงกว่าขึ้นไป ขึ้นอยู่กับพื้นที่ที่ได้รับการรักษา

ต้องรักษากี่ครั้งขนถึงจะหมดไป?

ปกติทั่วไปเราจะทำเป็นคอรส์ต่อเนื่อง ขึ้นกับความหนา บางของเส้นขน ตั้งแต่ 2-6 เดือนเฉลี่ย หรือมากกว่าขึ้นไป รักษาทุก 4-6 สัปดาห์ ถ้าบริเวณที่ทำมีสีผิวคล้ำ หลังทำอาจมีการทายา หรือ ทำทรีทเมนท์ หรือ บำรุงให้มีสีผิวที่สม่ำเสมอทั่วถึงกัน


การดูแลรักษาหลังการเลเซอร์ GentleYAG?

อาจประคบด้วยน้ำแข็ง ผ้าเย็นลดอาการบวมถ้ามี เราอาจต้องใช้วิธีโกนห้ามถอนให้ขนขึ้นจะได้ยิงง่ายๆและทำลายรากขนให้หมดไป ช่วงสัปดาห์หรือสองสัปดาห์หลังทำ ขนจะขึ้นน้อยกว่าเดิมแบบพอสังเกตุได้เลย ถ้าจบคอรส์ขนไม่ขึ้นแล้วบริเวณนั้นจะเนียน และดูขาวขึ้น เพราะไม่มีขนมาบังด้วย อิอิ รอเวลานั้น ถ้ากำจัดขนที่อาจโดนแสงแดดได้ อย่าลืมทากันแดด SPF30 PA+++ ขึ้นไปทุกวันนะคะ

 

 

COOL : ถ้าขนมันไปแล้ว ก็โอกาสน้อยมากที่จะกลับมาเท่าเดิม ส่วนใหญ่หายไปเลย มีบางคนจะกลับมาแต่แบบหรอมแหรมน้อย ไม่เหมือนเก่า ผิวเนียนขึ้น รูขุมขนแลดูกระชับขึ้น ผิวดูผ่องขึ้นเพราะไม่มีเส้นขนมาบัง ง่าย เร็ว ไปนอนให้แพทย์ยิงจบ กลับบ้านใช้ชีวิตได้ตามปกติ

UNCOOL : ต้องทำหลายที จะให้ดีซื้อตอนโปรโมชั่น จะได้ราคาที่คุ้มค่าที่สุด 

 

 

ถ้าเรากำจัดครบแล้ว เราจะรีบมา REVIEW ทันที ฮี่ๆ

ข้อมูลวันนี้สัมภาษณ์ คุณหมอ วรทัย เตือนอารีย์ ระหว่างยิงกำจัดขนไปจนเสร็จค่ะ

Posted in BEAUTY TECHNOLOGY, LASER, UNDERARMComments (1)

เลเซอร์คืออะไร และเลเซอร์แบบไหนที่เหมาะกับเรา ?

 

 

เลเซอร์คืออะไร และเลเซอร์แบบไหนที่เหมาะกับเรา

จากเรื่องแสงและความงาม วันนี้มาเฉพาะกันที่ “ เลเซอร์ “ ซึ่งเป็นการรักษาที่ฮอตฮิตที่สุดในยุคนี้ก็ว่าได้ เพราะเร็ว ประหยัดเวลา หลายชนิดไม่มีแผล เห็นผล ไม่มีใครรู้ว่าไปทำอะไรมา

ก่อนจะเริ่มทำการรักษาผิวหนังด้วยเลเซอร์ อยากเขียนเรื่องนี้ขึ้นให้ทุกคนได้เข้าใจก่อนว่า เลเซอร์คืออะไร เลเซอร์ชนิดไหนเหมาะกับปัญหาผิวเรา แล้วทำไมต้องเลือกเลเซอร์ ?

เลเซอร์คือ “ แสงชนิดหนึ่งซึ่งมีความจ้าและพลังงานสูงมาก ” ความต่างของเลเซอร์กับแสงชนิดอื่นๆ คือ พลังงานของแสงเลเซอร์สามารถถูกดูดซึมเข้าไปในส่วนประกอบเล็กๆ ภายในเซลล์ผิวหนังได้

เช่น 

  • แสงเลเซอร์บางชนิดสามารถถูกดูดซับเข้าไปในเม็ดสีเมลานิน
  • แสงเลเซอร์บางชนิดถูกดูดเข้าไปในเม็ดเลือด
  • แสงเลเซอร์บางชนิดถูกดูดเข้าไปในเซลล์ที่มีน้ำเป็นองค์ประกอบ 

การทำงานของเลเซอร์ คือ เมื่อแสงเลเซอร์เข้าไปในเซลล์จะทำให้เกิดความร้อนขึ้นในเซลล์นั้นๆทำให้เซลล์นั้นสลายตัวไปในที่สุด ด้วยเทคโนยีนวัตกรรมของเลเซอร์ที่ก้าวหน้าไปเรื่อยๆทำให้สามารถปรับตั้งค่าพลังงานของเครื่องเลเซอร์เพื่อให้เกิดความร้อนขึ้นเฉพาะภายในเซลล์ที่ต้องการเท่านั้น โดยไม่ให้ความร้อนนั้นแผ่กระจายไปถูกเนื้อเยื่อที่ดีรอบ ๆ 

สรุป ข้อดีของเลเซอร์คือ ความสามารถในการทำลายอย่างเฉพาะเจาะจง ทำให้มีโอกาสเกิดผลข้างเคียงน้อยมากหรือแทบไม่มีเลย

เลเซอร์บนโลกมีหลายชนิด ซึ่งการใช้งานและการให้ผลลัพธ์ก็แตกต่างกันด้วย เลเซอร์แต่ละระบบมีสี และ ความยาวคลื่นที่ต่างกัน ซึ่งทำให้ความสามารถในการดูดเข้าไปในเซลล์ก็ต่างกันด้วย (ในปัจจุบันเลเซอร์ยังไม่มีครบทุกความยาวคลื่นเนื่องจากแหล่งแสงยังหายากบางช่วงคลื่น)

 

ปัจจุบันวงการแพทย์ผิวหนังในปัจจุบันมี 5 ชนิดหลัก ๆ ได้แก่

  • เลเซอร์รักษาความผิดปกติของสีผิวและลบรอยสัก
  • เลเซอร์กำจัดขน
  • เลเซอร์รักษาความผิดปกติของหลอดเลือด
  • เลเซอร์กรอผิวชนิดมีแผล
  • เลเซอร์กรอผิวชนิดไม่มีแผล

5 ประเภทที่กล่าวมาก็สามารถรักษารอย โรค หรือ ริ้วรอยต่างประเภทกัน 

หาข้อมูลกันซักนิดก่อนที่จะคิดไปรักษาด้วยเลเซอร์นะคะ แม้จะมีข้อดีที่รักษาได้รวดเร็ว ง่าย บางชนิดไม่มีแผล ไม่ต้องหยุดเรียนหรือลางาน หรือไม่ต้องเฉลยให้ใครรู้ว่าได้ไปทำอะไรมา แต่มันก็มีข้อด้อยอยู่เหมือนกัน

เช่น

  • ถ้าเราถูกแดดจัดมา เราก็ยังไม่เหมาะกับการทำเลเซอร์
  • หลังทำเลเซอร์ใช้ความร้อนสูง เราจะมีผิวหน้าที่แห้งมาก ต้องการๆบำรุงเป็นพิเศษ บางคนไม่รู้ก็นึกว่าใบหน้าตัวเองบางลง แพ้ง่าย ไม่เกี่ยวกัน ความร้อนจะไปช่วยกระตุ้นคอลลาเจน และสร้างให้ผิวแข็งแรงขึ้นไม่กี่เดือนต่อมา
  • ถ้าเราไม่หาข้อมูลให้ดี การจ่ายเงินทำเลเซอร์ค่อนข้างสูง เราอาจได้ผลได้ไม่ดีพอ
  • การเลือกแพทย์ผู้เชี่ยวชาญสำคัญเป็นอย่างมาก หลายคนหน้าไหม้ หน้าด่าง หรือมีแผลเป็น
  • หรือถ้ามองเรื่องสิว เลเซอร์ไม่ใช่คำตอบที่ดีที่สุดเสมอไป สิวที่เป็นระดับปานกลาง ไม่มากจนถึงขั้นเลเซอร์ การทายายังดีที่สุด
[สิวในอดีต รักษาทั้ง ทายา ทานยา กดสิว ฉีดสิว และ เลเซอร์ค่ะ]
 
หากเรารู้ซักนิดว่าเลเซอร์ทำงานยังไง และ ผิวของเราที่มีปัญหานั้นเหมาะกับเลเซอร์ชนิดไหน หลายสถานพยายามไม่บอกเทคโนโลยี หรือ ชื่อระบบเลเซอร์โดยตรง จะจัดเป็นโปรแกรมมากกว่า เช่นชื่อโปรแกรมที่ถามที่ไหนก็ไม่มี มีแต่ที่นี่ที่เดียว ก็เพื่อต้องการให้จำได้แค่ว่า ที่นี่มีที่อื่นไม่มี ถ้าสถานที่พยาบาลนั้นมีจรรยาบรรณมากพอ ต้องกล้าเปิดเผยข้อมูลที่จะใช้รักษาคนไข้ ฝากไว้ให้ทุกคนได้เรียนรู้กันค่ะ

ข้อมูลที่ใช้ประกอบ

หนังสือสวยด้วยเลเซอร์ ผู้เขียน ศ.นพ. วรพงษ์ มนัสเกียรติ

Posted in LASERComments (0)

ผิวไหม้แดดเพราะสงกรานต์ และ สีผิวไม่สม่ำเสมอ Q&A

 

 

สงกรานต์เล่นดึกอาจจะไม่สนุกเท่าตอนกลางวันหรืออย่างไร สาวเจ้าเอ๋ย หนุ่มเจ้าเอ๋ย ถึงชอบเล่นกลางวันกันนัก หลังจากโพสนี่เดี๋ยวจะเขียนเรื่องกันแดด วิธีเลือก วิธีใช้ที่ถูกต้อง วันนี้มาเรื่องการดูแลผิวไหม้แดดหลังสงกรานต์กันก่อน จากทวิตเตอร์ความงามของคุณหมอ รังสิมา คนสวย มาทวิตเรื่องผิวไหม้แดด ซึ่งเป็นเรื่องที่ช่วงนี้คนถามเอิ๊กมากสุด และเอิ๊กเองคงตอบได้ไม่ดี เท่ากับตัวจริงมาเอง จึงนำเอาบทความสั้นๆตามแบบฉบับทวิตเตอร์มาฝากกันค่ะ

  1. ปัญหาผิวหนังเทศกาลสงกรานต์ที่พบได้บ่อย ๆ เช่น ผิวหนังไหม้ สัมผัสสารระคายเคือง เช่น แป้ง แล้วเกิดผื่น ติดเชื้อโรคต่าง ๆ
  2. ถ้าระหว่างการเล่นน้ำทากันแดดน้อยเกินไป จะมีอาการผิวหนังไหม้จากแดด เริ่มจากมีอาการแสบร้อน ผิวหนังบริเวณที่โดนแดดไหม้แดง
  3. บริเวณที่เกิดการไหม้แดดมักเป็นบนใบหน้าช่วงหน้าผาก โหนกแก้ม จมูก และบริเวณละเลยการทาครีมกันแดด เช่น ต้นคอด้านหลัง ใบหู
  4. ผื่นที่เกิดจากแดดไหม้จะเป็นสีแดงมีอาการแสบร้อนช่วงแรก ต่อมาจะเริ่มลอกเป็นขุยสีขาว และผิวจะเปลี่ยนเป็นสีคล้ำขึ้นชัดเจน
  5. อาการผิวไหม้แดด ควรใช้เจลว่านหางจรเข้ after-sun lotion ถ้าไม่มีเอาผ้าชุบน้ำเย็นประคบบริเวณนั้นก่อน บรรเทาอาการแสบร้อน
  6. ไม่ควรใช้ครีมหรือ lotion ที่ทำให้ผิวขาวทาลงบนผิวไหม้แดดที่ยังแดงหรือลอกอยู่ จะทำให้เกิดการแสบร้อนมากขึ้น และดำตามมา
  7. หลังอาการแสบร้อนบรรเทาลง ผิวหนังจะลอกได้ ระหว่างนี้ยังคงใช้เจลว่านหางจรเข้หรือ after-sun lotion ทาก่อนจนกว่าผิวหยุดลอก
  8. เมื่อผิวไหม้แดดหยุดลอก อาจผิวคล้ำขึ้น (เกิดหลังผิวไหม้ประมาณ 1 สัปดาห์)ระยะนี้เริ่มทา moisturizer และครีมกันแดดได้แล้ว
  9. ผิวคล้ำแดดถ้าทาmoisturizer และครีมกันแดดประจำ ผิวจะกลับสู่สีผิวเดิมได้เองภายในเวลา6เดือน-1ปี โดยไม่จำเป็นต้องทำอะไรเลย
  10. ถ้าต้องการให้ผิวที่คล้ำขึ้นกลับเป็นผิวสีเดิมเร็วขึ้น สามารถใช้ครีมที่มีส่วนผสมของกรดผลไม้ arbutin licorice kojic acid ได้
  11. ควรหลีกเลี่ยงการใช้กรดวิตะมินเอบนผิวที่ไหม้แดด เนื่องจากจะทำให้ผิวลอกเพิ่มขึ้น และอาจนำไปสู่การดำคล้ำกว่าเดิมได้
  12. คนเป็นสิวที่ใช้ยาทารักษาสิวอยู่และมีผิวไหม้แดด ควรหยุดใช้ยาทารักษาสิวก่อน เพราะจะทำให้ผิวยิ่งลอก ระคายเคืองและดำตามมา
  13. ถ้าต้องการให้ผิวสีคล้ำกลับมาเป็นสีเดิมเร็ว อาจทำ treatmentกรดผลไม้ ใช้เครื่อง electroporation ผลักวิตซีหรือ transamin
  14. วิธีที่จะทำให้สีผิวกลับมาเป็นสีเดิมได้เร็วที่สุดคือฉายแสง LED ต้องทำสัปดาห์ละครั้งต่อเนื่องกัน 5-10สัปดาห์ แต่ราคาแพง
  15. แต่ไม่ว่าจะใช้วิธีไหนในการเร่งให้สีผิวกลับมา ต้องใช้ moisturizer+ครีมกันแดด และหลบแดดร่วมเสมอ มิฉะนั้นผิวจะคล้ำถาวร
  16. ระหว่างการเล่นน้ำอาจมีคนเอาแป้งหรือสารอื่น ๆ ผสมลงในน้ำ ทำให้เกิดการระคายเคืองที่ผิว เกิดสิว หรือผื่นคันขึ้นได้
  17. ถ้ามีผื่นผิวหนังใด ๆ หลังจากการเล่นน้ำ แนะนำให้พบแพทย์ผิวหนัง ไม่ควรซื้อยาทาเอง เพราะอาจเกิดอาการแพ้ลุกลามตามมาได้
  18. ค้นหาแพทย์ผิวหนังที่มีวุฒิบัตรสาขาผิวหนัง หรือตรวจสอบแพทย์ที่รักษาว่าเป็นแพทย์ผิวหนังได้ที่นี่ http://www.dst.or.th/list_search.php
  19. โรคติดเชื้อแบคทีเรียจะเกิดภายใน 1 สัปดาห์หลังสัมผัสเชื้อโรคที่มากับน้ำแต่การติดเชื้อราจะเกิดโรคหลังจาก1สัปดาห์ขึ้น
  20. ถ้าสงสัยว่ามีการติดเชื้อหลังการเล่นน้ำ ควรพบแพทย์ด่วน เพราะมีเชื้อหลายชนิดที่เข้าตา เข้าจมูก แล้วมีอาการรุนแรงได้
  21. ถ้ามีอาการตาแดง มีไข้ ซึมลง คลื่นไส้อาเจียน ปวดศีรษะ หรือผื่นผิวหนังที่ลุกลามอย่างรวดเร็ว ต้องไปพบแพทย์โดยด่วนที่สุด
  22. แม้ว่าเราสามารถฟื้นฟูผิวไหม้แดดกลับมาเหมือนเดิมได้ก็จริง แต่การทําลายผิวที่เกิดจากแดดได้เกิดขึ้นแล้วไม่สามารถรักษาได้
  23. ผิวที่ถูกทําลายหรือไหม้แดดถึงหายกลับเป็นผิวปกติ แต่จะมีจุดด่างดํา&ริ้วรอยก่อนวัยได้ในอนาคต เป็นผลโดยตรงจากผิวไหม้แดด
  24. การกินอาหารต้านอนุมูลอิสระช่วยป้องกันผิวที่ถูกแดดทําลายได้บ้าง แต่ไม่100% ควรเน้นกินอาหารที่มีวิตซีเช่นผลไม้รสเปรี้ยว
แนะนำเรื่องกันแดดนิดนึงก่อนบทความหน้าจะลงให้อย่างละเอียด ว่าควรใช้กันแดดที่มีทั้ง SPF และ PA เพราะจะสามารถกันได้ทั้ง UVA และ UVB ทาทั่วใบหน้าและลำตัวในปริมาณที่เหมาะสม ใบหน้าประมาณ 1 ข้อนิ้วชี้ ลำตัวประมาณส่วนละ 7 มิลลิกรัม ไม่หนา ไม่บางเกินไป บางไปกันแดดไม่ทั่ว หนาไปไม่ซึมลงผิวอุดตันได้ค่ะ แล้วพบกันกับบทความกันแดดค่ะ 🙂
XOXO

Posted in Q&A, SKINComments (0)

REVIEW – เล็บสีทองเมทาลิควาวกระจก

Posted in NAIL, REVIEWComments (1)

สอนแต่งหน้า หนังสือ สวยเสกได้สไตล์เกาหลี

แนะนำหนังสือที่สนุก อ่านง่าย มือใหม่ต้องมี !!!!

สวยเสกได้ สไตล์เกาหลี

หนังสือนำเนื้อหามาจากบลอคเกอร์ความงามเกาหลี มารวบรวมในรูปแบบการ์ตูน

สนุก คุ้ม น่าอ่าน สนุก ชอบค่ะ 🙂

Posted in BEAUTY, REVIEWComments (0)

BEAUTY TALK – การฉายแสง LED กับช่วยอะไรได้บ้างกับปัญหาผิวหนัง

วันนี้เราจะพูดถึงการฉายแสงสี LED เพื่อรักษาปัญหาผิวพรรณ จากบทความก่อนเป็นเรื่องของแสงและความงามไปแล้ว พูดถึงภายในร่างกายของเราเซลล์บางอย่างสามารถดูดรับพลังงานแสงแต่ละสีได้เพื่อใช้รักษาปัญหาผิวหนัง CLICK

LED คือ อะไร ? Light-Emitting Diode หรือย่อว่า LED

แสงLED หรือ แสง Diode ทำมาจาก Semiconductor คือ ตัวนำไฟฟ้าเป็นสารประกอบหรือธาตุที่สามารถปล่อยแสงได้หลายๆแสงพร้อมกัน เปลี่ยนสีได้ตามสารที่อยู่ข้างใน และภายในจะมีวงจรที่สามารถเปลี่ยนสีหลอด Diode ได้อีกหลากหลายสี เป็นสีรุ้งยังได้เลย ( Rainbow light emitting diode )
แต่ในการใช้ LED มาฉายแสงสีเพื่อช่วยรักษาผิวพรรณ แสง LED ต้องมีความเข้มแสงสูงมากพอระดับ ” จูลล์/ตารางเซนติเมตร “ ต้องใช้พลังงานมากจึงจะทำปฎิกริยากับเซลล์ผิว และนำมาใช้ในการรักษาภาวะบางอย่างของผิวหนังได้ แสงแต่ละสีก็จะสามารถรักษาปัญหาผิวที่แตกต่างต่างกัน และ ต้องมี millicandela rating มาก หรือ ค่าความสว่างมากยิ่งมีประสิทธิภาพมาก (สว่างจนต้องใส่แว่นตาในการทำการรักษา) การรักษาจะทำให้ผิวหนังมีสุขภาพดีขึ้นได้ กำจัดเชื้อแบคทีเรีย การติดเชื้อ หรือ บริเวณผิวหนังที่อักเสบ

วันนี้ขอพูดถึงเครื่องที่เห็นจริงและลองมาก่อน ซึ่งหลักจะมีอยู่ 4 สี

จะฉายเพียงสีเดียว หรือ สลับกันก็ได้เพื่อผลลัพธ์ที่ต้องการ จุดละประมาณ 20 นาทีเป็นต้นไป

  1. แสงสีฟ้า ความยาวคลื่น 470 นาโนเมตร รักษาสิว/ลดการอักเสบของผิวฯลฯ
  2. แสงสีเขียว ความยาวคลื่น 525 นาโนเมตร รักษารอยแดง/รอยดำ/เม็ดสี/อาการแพ้ฯลฯ
  3. แสงสีเหลือง ความยาวคลื่น 590 นาโนเมตร รักษารอยแดง/รอยดำ/สิว/เม็ดสี/ระบบน้ำเหลืองฯลฯ
  4. แสงสีแดง ความยาวคลื่น 640 นาโนเมตร รักษาริ้วรอย/กระตุ้นคอลลาเจน/อาการแพ้/กระชับกล้ามเนื้อฯลฯ
สามารถดูแลได้ทั้ง ผิวแห้ง มัน ธรรมดา ผสม แพ้ง่าย มีสิวอักเสบ สิวเม็ดเล็กๆ

จากการศึกษาพบว่าแสง LED ที่มีความเข้มข้นสูง แต่ละสีมีผลต่อ CELL ในร่างกายที่แตกต่างกันเมื่อมีการรักษาที่ผิวหนัง เช่น สิว รอยแดง รองด่างดำ และ ริ้วรอย จะได้รับผลการรักษาที่ดีเยี่ยมเมื่อใช้สีร่วมกันที่มีความยาวคลื่นตั้งแต่ 470 nm. – 640 nm

 *** การจะได้ผลไหม ขึ้นกับการสร้างของคอลลาเจนในร่างกาย (จะวัดได้จากความยืดหยุ่นของผิวหนัง (ความคล้อย) จะรู้ได้ว่าคนนี้กระตุ้นได้มากน้อยแค่ไหน)
ยกตัวอย่างการฉายแสงเพื่อช่วยทำให้เม็ดสีเมลานินอ่อนลง จะเห็นได้ว่าจะมีแสงสีเขียว กับ แสงสีเหลืองของ LED ที่ช่วยได้
เอิ๊กฉายแสงสีเขียว เหลือง สลับกันที่แขนหนึ่งข้าง เพื่อทำให้เม็ดสีเมลานินสีอ่อนลง ฉาย 20 นาทีที่ ISKYCENTER
เมื่อเม็ดสีผิวถูกฉายแสงไปกระตุ้นเม็ดสีเมลานินที่เข้ม ให้มีความเข้มอ่อนลง ผิวเราจึงดูขาวขึ้นแต่ LED ต้องทำซ้ำๆ ประมาณสัปดาห์ละครั้ง หรือประมาณ 5 ครั้งขึ้นไป เนื่องจากความเข้มของแสงไม่เท่าเลเซอร์ จึงต้องฉายเฉลี่ยทุกอาทิตย์ซ้ำ เพราะต้องให้แสงสะสม จึงคงระดับสีผิวที่อ่อนลงไว้ได้ , แต่ถ้าทำแค่ครั้งเดียว สีผิวจะอ่อนลงครั้งแรกสุดที่สุด และค่อยๆดรอปลงภายใน 1-2 เดือน
การดูแลหลังทำ
– หลบแดด
– ทากันแดดต่อเนื่อง
คนที่ห้ามทำ
– คนที่ผิวเพิ่งไหม้แดดมาใหม่

 

COOL
-ไม่มีแผล
– ไม่มีใครรู้ว่าไปทำอะไรมา

 

UNCOOL
– ต้องทำหลายครั้ง
– ประสิทธิภาพสู้เลเซอร์ไม่ได้

 

สำหรับการรักษาโรคผิวหนังด้วยการฉายแสง LED นั้น เช่น สิว รอยแผลเป็นจากสิว รอยแดง รอยดำ รอยเป็นหลุมตื้นๆ รอยแผลนูนคีลอยด์ กระตุ้นเส้นผม ผิวมีสีอ่อนลง ถือว่ายังเป็นวิธีการใหม่ แต่ผ่านองค์การอาหารและยา (FDA) ของสหรัฐอเมริกาแล้ว เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการแผล ไม่ต้องการพักฟื้นผิวหนัง รับประทานยา หรือ การฉายแสงและความร้อน ไปยังผิวหนังที่อักเสบ

ช่วงนี้ตากแดด ตัวดำกว่าในรูปเยอะเลย ไป LED ดีไหมเนี่ย 5555

แหล่งค้นคว้าเพิ่มเติม

Posted in BEAUTY TECHNOLOGY, LASERComments (1)

DEAR BEAUTY DIARY – Erk-Erk ไปออกรายการ SISTER DAY ช่อง 5

การเดินทางในการทำสิ่งที่รักของเอิ๊ก ค่อยๆเห็นผลทีละเล็ก ทีละน้อย

เอิ๊กดีใจที่ได้เดินในทางที่เอิ๊กรัก และเป็นประโยชน์ต่อคนอื่น

เอิ๊กไม่รู้ว่าเอิ๊กเป็นผู้หญิงที่โชคดีมากแค่ไหน

แต่ทุกๆอย่างเอิ๊กทำด้วยตัวเอิ๊กเอง

เอิ๊กแค่รู้สึกดีที่พ่อแม่เอิ๊กไม่มีเงินทองมากองให้ .. เอิ๊กถึงเป็นคนที่ตั้งใจทำทุกอย่างที่อยากทำสุดชีวิตทุกครั้ง

เอิ๊กทำเอง เอิ๊กหาเอง เอิ๊กดูแลคนที่เอิ๊กรักด้วยตัวเอิ๊กเอง

แค่นี้ก็คงเพียงพอแล้ว กับ คนธรรมดาคนนึงที่พยายามอยากสวยขึ้นในทุกวัน และ คอยช่วยเหลือคนอื่นด้วย (ฮ่า)

สุขสันต์วันเกิดล่วงหน้าตัวเองสำหรับปีนี้ 25 ปี พอดีเลยแล้วกัน

” ว่าแต่พ่อ ลูกไม่เอาไหนของพ่อ วันนี้เอิ๊กทำได้แล้วนะ “

—————————————————————–

พิธีกรรายการ SISTER DAY น่ารัก กันเอง อบอุ่นสมชื่อรายการเลย ขอบคุณที่เชิญเอิ๊กไปนะคะ <3

วันนี้ไม่หลุด CONCEPT BEAUTY BLOGGER 🙂 และ IDENTITY สีชมพูทองไปทั้งชุด เห็นแล้วนึกถึงเว็บเลยใช่ไหมละ :p

XOXO

ขอบคุณที่คุณที่ตามอ่าน และ เป็นกำลังใจให้ค่ะ

Posted in BEAUTY, ERK-ERKComments (0)

BEAUTY TALK – แสงและความงามที่คุณควรรู้ประดับคลังความสวยไว้

 

Read the full story

Posted in BEAUTY TECHNOLOGY, LASERComments (2)

BEAUTY TALK – อยากหน้าเรียวทำยังไงได้บ้าง ? V-SHAPE

Read the full story

Posted in BEAUTY TECHNOLOGY, BOTOX, LASER, THERMAGEComments (0)

REVIEW – รักษาหลุมแผลที่เป็นมา 24 ปี กับเลเซอร์ ERBIUM YAG

 

 

 

 

ผ่านมาเกือบ 1 เดือน กับการรักษาหลุมทรงกล่องที่เป็นมา 24 ปี กับเลเซอร์ ERBIUM YAG กับ ศาสตราจารย์นายแพทย์วรพงษ์ มนัสเกียรติ ซึ่งเชี่ยวชาญเป็นพิเศษทางด้านผิวหนัง เลเซอร์ และ แผลเป็น ที่ทำงานวิจัย เขียนหนังสือ ทางด้านเลเซอร์มาโดยตลอดจนได้รับตำแหน่งทางวิชาการเป็น ศาสตราจารย์ที่อายุน้อยที่สุดในวงการ Cosmetic Laser Surgery และที่ทราบเพราะอ่านทวิตเตอร์คุณหมอเป็นประจำ @DrWoraphong ถึงทราบว่าเป็นหนึ่งในคณะที่ปรึกษา บริษัทเลเซอร์ที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก ต้องเดินทางไปประชุม และบรรยายเกี่ยวกับเลเซอร์หลายประเทศมาก จึงได้ทราบวิทยาการใหม่ๆจากคุณหมอเหมือนกันในการตามอ่าน

 


คุณหมอค่อนข้างผิวดี และมีการดูแลผิวที่ง่าย คือทาครีมกันแดดเสมอ และ ทามอยส์เจอร์ไรเซอร์ให้เพียงพอเวลาที่รู้สึกว่าผิวแห้ง นอกนั้นยังมีการออกกำลังกาย หลังจากที่เคยได้สัมภาษณ์เกี่ยวกับปัญหาหลุมสิว และ แนวทางแก้ไขไปเมื่อหลายเดือนก่อน

ยังไม่มีโอกาสฟังบรรยายเกี่ยวกับเลเซอร์ของคุณหมออย่างจริงจัง ทำให้วันนี้เลยมา REVIEW การทำ ERBIUM YAG ว่าผลการทำเป็นอย่างไรบ้าง เลเซอร์การรักษาหลุมสิว ริ้วรอย แผลเป็น บอกตามตรงว่าค่อนข้างยาก ต้องขออภัยไปศึกษาเพิ่มเติมมาก่อน ถึงจะได้เขียนออกมาทีละชนิด 555555 แค่อ่านไป หัวข้างนึงก็ปวดไป ยากจริงๆค่ะ รู้แค่ว่าได้ยิง VBEAM กับคุณหมอ คุณหมอละเอียดมากๆๆๆๆ ยิงทุกรอยแดง ดูเหมือนเป็นงานที่ง่าย แต่คุณหมอละเอียดจริง นี่อาจจะเป็นหนึ่งเหตุผลให้ประสบความสำเร็จในการทำงานวิจัยหลายๆงานที่ รพ.ศิริราช และ ต่างประเทศ

การทำ ERBIUM YAG มันร้อนมากบริเวณที่ยิง จึงต้องมีการเป่าลมเย็นจัดเข้าช่วยบรรเทา ทำให้ไม่ต้องทายาชา

ERBIUM YAG คืออะไร ?

  • เลเซอร์ที่ใช้พลังงานความเข้มข้นสูง (ร้อน) ช่วยกรอผิว  ( Resurfacing ) ด้านบนในส่วนของผิวหนังกำพร้าออกจะทำให้บริเวณนั้นเรียบขึ้นในระดับนึง 
  • กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ( Collagen remodeling ) หลุมจะตื้นขึ้น ดูเรียบเนียนขึ้น ภายในเวลา 1-3 เดือน
  • การหดตัวของเส้นใยคอลลาเจน ( Collagen contraction ) ทำให้ความกว้างของหลุมสิวหรือริ้วรอยแคบลง ผิวที่หย่อนจะตึง ขึ้น 

 ส่วนต้องทำกี่ครั้งขึ้นกับความตื้นลึกของหลุม หรือ ริ้วรอยที่อาจต้องใช้วิธีการอื่นมาผสมด้วยหรือไม่ต้องดูที่แผลหลุม หรือ ริ้วรอยเป็นหลัก หลังทำทันทีจะให้เกิดแผลถลอกเป็นสะเก็ด ใช้เวลา 4-7 วัน สะเก็ดจะหลุมลอกออกไปเอง หลังทำจะมีอาการบวมแดง 1-2 วัน  บางคนอาจมีน้ำเหลืองซึมถ้าเกิดว่าแผลโดนน้ำ หรืออาจติดเชื้อ จากการดูแลไม่ดี

การดูแลหลังทำ ERBIUM YAG ?

ต้องดูแลแผลอย่าให้แผลแห้ง ของเอิ๊กคุณหมอสั่งให้ทาปิโตรเลียมเจลให้แผลชุ่มชื่นวันละ 3-4 ครั้งจนกว่าสะเก็ดจะหลุด ไม่ให้แผลโดนน้ำประมาณ 7 วัน หรือ หลังจากสะเก็ดหลุดออก ก็สามารถล้างหน้าและทากันแดดอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงแต่งหน้าได้เป็นปกติ อาจต้องดูแลโดยการเลี่ยงแดดจัดเป็นพิเศษประมาณ 2 อาทิตย์เพราะช่วงนั้นผิวบริเวณส่วนนั้นจะอ่อนแอและไวกับสิ่งที่มากระทบ ระหว่างเนื้อเยื่อใหม่กำลังสร้างทดแทนของเก่าที่ลอกออกไป ผิวหนังส่วนที่ทำถ้าเป็นคนผิวขาวอาจจะมีแผลสีชมพูแดง  (erythema) อยู่ประมาณ 3-6 เดือน (เนื้อเยื่อกำลังสร้าง) ถ้าเป็นคนผิวเข้ม อาจมีสีคล้ำ (hyperpigmentation) ประมาณ 3-6 เดือนจึงกลับมาเป็นสีผิวปกติ

 

 สิ่งที่ต้องแจ้งแพทย์ก่อนทำ ERBIUM YAG ?

  • การเป็นแผลคีลอยด์ แผลนูนง่าย
  • เวลามีแผลแล้วแผลหายช้า
  • เคยทานยากลุ่มวิตามินเอมาก่อนภายในระยะเวลา 1 ปี
  • เคยผ่าตัดบริเวณใบหน้า

ก่อน และ หลังทำ ERBIUM YAG รักษาหลุมแผลเป็นที่มีบนใบหน้ามา 24 ปี

 

19/02/12 – 10/02/12

อันดับแรก นอนเร็ว รูขุมขนดีขึ้นอย่างเห็นได้ชุด ตอนไปหาคุณหมอ นอนตี 5 ทุกวัน และแผลที่เห็นชัดคือความแคบของแผลหลุม ความนุ่มนวลของแผลหลุม จากทรงกล่อง กลายเป็นทรงแอ่งกระทะ ตื้นขึ้น 40% ทันทีตั้งแต่ครั้งแรก แต่ได้ผลข้างเคียงคือแผลสีชมพูที่จะอยู่ไปอีกหลายเดือน อันที่จริงเป็นปกติในการทำ Erbium YAG

ซูมให้ดูว่าตื้นขึ้น และ จะตื้นขึ้นอีก เดี๋ยว 3 เดือนมาดูกันใหม่ ขอให้แผลสีชมพูกลับเป็นสีปกติเร็วๆทีเถิ๊ด

 

ภาพรวมของใบหน้าและแผลที่เปลี่ยนไป

ขัดใจสุดคือรอยแดง T^T ไม่ชอบเลย คิดว่าถ้าจะทำครั้งใหม่ต้องขอทำใจก่อน 555 ไม่ชอบรอยแดงเลยค่ะ แต่ชอบที่เห็นผลเลย

 

COOL

สามารถรักษาแผลหลุมที่ไม่ลึกได้ / เห็นผลทันที / 

UNCOOL

ต้องดูแลแผลให้ชุ่มชื่นตลอดวัน / ต้องทำหลายครั้งดูที่ความลึกของแผล / มีแผลสีชมพูระหว่างรอเนื้อเยื่อสร้างตัวเองใหม่นาน 3-6 เดือนกว่าสีผิวจะกลับเป็นปกติ

 

 

 

 

อาทิตย์หน้าจะตั้งใจเขียนอย่างมากเรื่อง ” แสงสี กับ ความงาม “ ว่าจะช่วยมารักษาผิวพรรณได้อย่างไร จะได้เข้าใจว่าเลเซอร์ตัวนั้นทำไมได้ผลเป็นแบบนั้น และตัวเราเองอาจจะเลือกเองถูกก็ได้ ว่าปัญหาผิวแบบนี้ ใช้แสงสีไหน ระดับไหน 🙂

XOXO

Posted in ACNE, BEAUTY TECHNOLOGY, LASERComments (0)

เตือนภัยคอนแทคเลนส์บิ๊กอายรอบ ll และร้านขายคอนแทคเลนส์ที่ไม่ซื่อสัตย์

อยากรู้ร้านเมลล์มาถาม ไม่อยากตัดอนาคตร้านใคร แต่ใครทำสิ่งไหนไว้ย่อมได้สิ่งนั้น

เพราะ ” ของไม่ดี หลอกลวง ขายได้เพียงครั้งเดียว “

mail@erk-erk.com

Posted in CONTACT LENS, ERK-ERK, EYESComments (0)

BEAUTY TALK – หลุมสิวปัญหาใหญ่ รักษาได้กี่วิธี ?

 

 

 

 

 

อะไรทำให้คุณรู้สึกแย่ที่สุดหลังเป็นสิว .. ?

 

 

 

 

 

 

คำตอบนอกจากสิวที่ทำให้เรารู้สึกแย่ แต่มีที่แย่กว่า คือ “ แผลเป็นหลังสิวหาย ” เพราะอะไรนะเหรอ ?!? มันอยู่นานกว่าสิวหน่ะสิ .. มาแล้วบทจะไปก็ไปยาก หากทำใจให้ชินแน่นอนครึ่งปีมันอาจจะไปเอง โดยเฉพาะแผลเป็นหลังจากเกิดจากสิวที่มีสีทั้งหลาย สีดำ สีแดง .. แต่หากว่ามันเป็น “ หลุม ” ล่ะ

 

ตอนนี้ในหัวกำลังย้อนไปโฆษณายุคก่อน ที่เปรียบหน้าคนหลังเป็นสิวบางครั้งก็เหมือนพระจันทร์ ไม่ได้เหมือนที่ความสว่างสไว หรือ กลมเหมือนพระจันทร์ แต่เปรียบรอยแผลหลุมสิว ความไม่เรียบของผิว ช่างเหมือนผิวพระจันทร์เหลือเกิน .. [ โฆษณานี้ชี้ปัญหาแบบโหดร้ายมาก ชิส์ ]

  • รอยแผลหลังจากการเป็นสิวแบ่งได้ 4 แบบ 
  1. รอยแดง
  2. รอยดำ
  3. หลุมสิว
  4. คีลอยด์

 

 

  • หลุมสิวคืออะไร ?

การอักเสบของสิวอย่างรุนแรงถึงชั้นหนังแท้ มักมีหนองร่วมด้วยจึงทำให้คอลลาเจนถูกทำลายและมักมีแผลเป็นหลังสิวหาย จึงเกิดแผลเป็นใต้หนังผิว หรือ เรียกว่าพังผืด ที่ดึงรั้งผิวหนังจนทำให้เป็นหลุม

 

  • หลุมสิว มีที่มาจากอะไรบ้าง ?
  1. การ บีบ แคะ เค้น แกะ เกา ทำให้สิวอักเสบมากขึ้นและทิ้งรอยคล้ำตามมาด้วยหลุม
  2. สิวอักเสบรุนแรง
  3. การติดเชื้อแบคทีเรียลุกลาม
  4. กรรมพันธุ์มีประวัติคนในครอบครัวที่เป็นสิว+แผลหลุมรุนแรง [ จะทิ้งหลุมทันทีเวลาหายเป็นสิว ]

 

เคล็ดลับ

“ เมื่อเป็นสิวอักเสบต้องทำให้หายอักเสบ และ ยุบตัวเร็วที่สุด ” เช่น ทายาฆ่าเชื้อสิว [BENZAC , PANOXLY] / ฉีด [STEROID] / ทานยาปฎิชีวนะ / พบแพทย์ท่องไว้ว่า รักษาสิว ถูกกว่า รักษาแผลเป็น [ หลุม,นูน ]

 

  • การรักษาหลุมสิว ใช้วิธีไม่เหมือนกัน ขึ้นกับ
  1. ชนิดของหลุมสิว
  2. ความลึกของหลุมสิว
  3. ความกว้างของหลุมสิว

 

  • หลุมสิวมี 3 ชนิด
  1. หลุมแอ่งกระทะ [คิดเอง] ROLLING SCAR
  2. หลุมกล่อง BOX SCAR
  3. หลุมนกจิก [คิดเอง] ICE PICK SCAR

 

หลุมแอ่งกระทะ : ลักษณะมองเห็นเป็นส่วนเว้าลงไปเหมือนก้นกะทะ ขอบรอบๆดูนุ่มนวล

หลุมกล่อง : ลักษณะหลุมที่มองเห็นขอบเป็นทรงตรงลึกลงไป คล้ายกล่องทรงวงรี

หลุมนกจิก : ลักษณะมองเห็นเป็นรูเล็กแต่ลึก รักษายากที่สุดกว่าทุกแบบ

 

 

 

  • วิธีการรักษารวบรวมมาในประเทศไทย 

ทุกวิธีช่วยให้หลุมสิวดีขึ้นได้ แต่ยังไม่มีวิธีไหนได้ผล 100% กับหลุมสิวที่รักษายาก ลึก สามารถผสมผสานวิธีแต่ละแบบเข้าด้วยกันได้เพื่อการรักษาที่ดียิ่งขึ้น ที่สำคัญทุกวิธีที่กล่าวต้องศึกษาผลข้างเคียงที่จะตามมาอย่างละเอียด

 

วิธีที่ 1 – กระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจน

  • ทาครีมลบรอยแผลเป็น,ริ้วรอยที่มีส่วนผสมเช่น VITAMIN E, AHA, BHA
  • ทายากลุ่มอนุพันธ์ุของวิตามินA เช่น RETIN A
  • ทานยากลุ่มที่สกัดจากอนุพันธุ์วิตามิน A [RETINOIDS] เช่น Roaccutance, Acnotin, Isotretinoin
  • ฉายแสง LED เช่น GentleWaves, Omnilux
  • ยิงแสง IPL
  • ยิงเลเซอร์ Smooth Beam
  • ยิงเลเซอร์ ND Yag
  • การใช้คลื่นวิทยุ RF เช่น PHONO
  • เหมาะกับหลุมสิวที่ตื้น หลุมสิวใหม่
  • หลุมสิวประเภท หลุมแอ่งกระทะ

 

วิธีที่ 2 – ทำให้เซลล์ผิวด้านบนหลุดลอกออก ร่างกายจึงเกิดการซ่อมแซมและดันหลุมสิวให้ตื้นขึ้นเอง

  • ลอกผิวด้วยกรดผลไม้ที่มีฤทธิ์เป็นกรด AHA , BHA , PHA
  • แต้มกรด TCA
  • กรอผิวด้วยกรดอัญมณี Microdermabrasion
  • เลเซอร์ชนิดมีแผล กรอผิวด้านบนด้วยเลเซอร์ความเข้มข้นสูงร้อนมาก เช่น CO2 / ERBIUM YAG
  • เหมาะกับหลุมสิวที่ตื้น, ลึกปานกลาง
  • หลุมสิวประเภท หลุมแอ่งกระทะ, หลุมกล่อง

วิธีที่ 3 – การทำให้ผิวหนังเกิดอักเสบกระตุ้นให้ร่างกายซ่อมแซมตัวเองโดยสร้างเซลล์ใหม่

  • Dermaroller ใช้ลูกกลิ้งที่เป็นเข็มเล็กๆกลิ้งตามผิวหนังลึกถึงชั้นหนังแท้
  • เลเซอร์ชนิดไม่มีแผล เช่น Fraxel re:store,Fine Scan, Mosaic, Fractional RF
  • เหมาะกับหลุมสิวตื้น ถึง ลึกปานกลาง,
  • หลุมสิวประเภท หลุมแอ่งกระทะ, หลุมกล่อง, หลุมนกจิก

 

วิธีที่ 4 – การเติมเต็มหลุมสิวด้วยสารเติมเต็ม

  • ฉีด Filler [ Hyaluronic Acid ]
  • เหมาะกับหลุมสิวตื้น ถึง ลึกปานกลาง,
  • หลุมสิวประเภท หลุมแอ่งกระทะ

 

วิธีที่ 5 – การตัดผังพืดใต้ผิวหนังบริเวณหลุมสิวออกไป

  • การทำ Subcision ใช้เข็มที่มีใบมีดอยู่ปลายเข็ม เจาะ และ เอาใบมีดตัดพังผืดใต้ฐานหลุมสิว
  • เหมาะกับหลุมสิวลึกปานกลาง, ลึกมาก
  • หลุมสิวประเภท หลุมกล่อง, หลุมนกจิก, หลุมแอ่งกระทะ

 

วิธีที่ 6 – การศัลยกรรมผ่าตัดหลุมสิว

  • ตัดรอยหลุม แล้วเย็บปิดให้ผิวหนังชิดกัน
  • นำผิวหนังส่วนอื่นมาปิดรอยหลุมสิว
  • กรีดผิวหนังเป็นวงรี แล้วเย็บปิด
  • ตัดหลุมสิวแล้วยกขึ้นมาให้ได้ระดับเดียวกับผิวหนัง
  • เหมาะกับหลุมสิวลึกมาก หรือขนาดกว้างใหญ่
  • หลุมสิวประเภท หลุมกล่อง, หลุมนกจิก,

รวบรวมมาแล้วแยกเป็นข้อให้เข้าใจคร่าวๆ  ส่วนลงลึกอ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่ค่ะ

LINK 1 , LINK 2

 

แต่ละวิธีมีข้อดี ข้อเสีย ข้อควรระวังแตกต่างกันไป ควรปรึกษาข้อมูลตามลักษณะของหลุมสิวที่ตนเองมีไว้ก่อนล่วงหน้า ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญได้ทั้ง 3 ด้าน ผิวหนัง เลเซอร์ หรือ ศัลยกรรม สำคัญที่สุดคือทำโดยผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางจริงๆ เพราะอะไรที่อยู่บนหน้า หากพลาดไปจะตราตรึงตามเราไปทุกที่ ส่วนตัวเคยใช้วิธีที่ 1 และ 2 บางข้อในการรักษาหลุมกล่อง , หลุมแอ่งกระทะ

 

ทำให้พบว่า

* การรักษาหลุมสิว ส่วนมากต้องใช้เวลานานอาจจะเป็นปี หลายปี เพื่อรอเวลาที่คอลลาเจนกว่าจะสร้างเซลล์ขึ้นมาใหม่ทดแทน ต้องได้รับการกระตุ้น หรือ ทำหลายครั้งขึ้นไป ขึ้นกับความลึก ชนิดของหลุม การเป็นหลุมจึงเป็นแผลที่รักษายากมากที่สุด มากกว่า รอยแดง รอยดำ พอๆกับแผลคีลอยด์ อาจจะมีโอกาสกลับมาดี แต่ยากมากที่จะถึง 100% โดยเฉพาะ หลุมลึกแบบนกจิก หลุมกล่อง

 

คราวหน้ามาต่อกันด้วยการทำ ERBIUM YAG ทำให้เซลล์ผิวด้านบนหลุดออก โดยการกรอผิวด้วยเลเซอร์ความเข้มข้นสูง ร้อนมาก เป็นเลเซอร์ชนิดมีแผลกับ ศาสตราจารย์นายแพทย์ วรพงษ์ มนัสเกียรติค่ะ

 แผลหลุมเกิดจากเล็บจิกตอนเกิดเป็นแผลหลุมกล่องขนาด 0.4 ซม หลังทำตื้นขึ้น 40% รอให้คอลลาเจนสร้างเซลล์ใหม่น่าจะดีกว่านี้ ภาพนี้หลังทำ 11 วัน และนอนดึก รูขุมขน นกตัวเล็กตกลงไปตายได้เลย กว้างขนาดหนัก นอนดึกไม่เคยดีกับใครเลย T_T

 

 

 

 

 

 

Read the full story

Posted in ACNE, BEAUTY TECHNOLOGY, LASERComments (0)

BEAUTY TALK – เครื่องสำอางหมดอายุ และ วิธีทดสอบอาการแพ้

 

เรื่องใหญ่สำหรับผู้หญิงที่รักและชื่นชอบในการแต่งหน้า หรือ จำเป็นต้องแต่งตามหน้าที่หรืออะไรก็ตามแต่ .. ลองถามตัวเองดูบ้างไหม .. ว่าฉันเคยสังเกตุวันเดือนปีที่ผลิต ฉลาก หรือ วันหมดอายุของเครื่องสำอางที่ฉันซื้อหรือไม่ ?

 

ถ้าตอบว่าเคย .. คุณก็ยังต้องอ่านต่อ

ถ้าตอบว่าไม่เคย .. คุณก็ต้องอ่านมันต่อเพื่อตัวคุณเอง 

 

เอิ๊กตอบว่าไม่ เอิ๊กไม่เคยสนใจดูเลย .. ดังนั้นเอิ๊กคงต้องรวบรวมเขียนและอ่านต่อไปพร้อมกับหลายๆคน พร้อมโยนทิ้งบ้างส่วน ฉึบ (ฮ่า)


เอิ๊กมีเครื่องสำอางไม่เยอะ เพราะทิ้งไปเยอะแล้วเหมือนกัน เดี๋ยวจะทิ้งอีก หลังจากจบบทความนี้ บางอย่างยอมรับว่ามีอาการเสียดาย .. แต่กลัวอันตราย แล้วเป็นโรคอะไรแล้วต้องเสียเงินเสียทองมากกว่าตัดใจทิ้งมันไป แล้วซื้อใหม่ซะ เพื่อสุขภาพ และ อนามัยของผิวตัวเอง

BEAUTY FACT 1 :  อย. ไม่บังคับให้ใส่วันหมดอายุลงในเครื่องสำอาง เพราะอายุขัยของเครื่องสำอางสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามการการถนอม และ เก็บรักษา เช่น เก็บในอุณหภูมิที่พอเหมาะ แห้ง เย็น ไม่ร้อน ไม่ตากแดด ไม่เปิดฝาตากลมจนฝุ่น และ แบคทีเรียลงไป จะทำให้ยืดอายุเครื่องสำอางได้มากขึ้น

BEAUTY FACT 2 : การเก็บเครื่องสำอางในตู้เย็นไม่ใช่การดีเสมอไป เพราะความชื้น ทำให้เครื่องสำอางเสียคุณสมบัติ และ เกิดการแยกชั้นของเนื้อครีมได้

 

โรค หรือ ปัญหาผิวหนังอะไรที่มาพร้อมเครื่องสำอางหมดอายุได้บ้างนะ ?

  • เยื่อบุตาอักเสบ  [ ตาแดง ]
  • เยื่อบุปากอักเสบ
  • อาการอักเสบของผิวต่างๆ เช่น ระคายเคือง ผื่นแพ้ ตุ่มแดงคล้ายสิว
  • ติดเชื่อแบคทีเรีย

 

ปัจจัยใดบ้างที่ทำเกิดปัญหาผิวหนังจากการแต่งหน้า ?

  • เครื่องสำอางหมดอายุ
  • เครื่องสำอางที่ไม่ได้มาตรฐานไม่มีฉลาก หรือ ตราสินค้าที่น่าเชื่อถือ
  • เครื่องสำอางที่ไม่เหมาะกับสภาพผิว มีส่วนผสมที่ทำให้ผิวระคายเคือง
  • พัพฟ์ ฟองน้ำที่ใช้แต่งหน้าที่ไม่ได้ทำความสะอาดมานานเกิน 1 – 4 สัปดาห์

อายุขัยของเครื่องสำอางแต่ละชนิดยาวนานแค่ไหนถึงหมดอายุ ?

  1. ขึ้นกับวันหมดอายุที่ระบุบนฉลาก
  2. ถ้าไม่มีให้นับตั้งแต่วันแรกที่เปิดใช้ [ทำNoteแปะไว้หรือจดไว้] จะมีอายุโดยเฉลี่ยแต่ละประเภทเรียงตามลำดับดังนี้
  3. กลิ่นเปลี่ยน สีเปลี่ยน หน้าตาเปลี่ยน [ ทิ้งทันที ]

BEAUTY NOTED : เครื่องสำอางที่ใช้กับดวงตา หรือ ของเหลวมักไปไวกว่าที่อยู่ในรูปแบบการอัดแข็ง เนื้อแข็ง เพราะด้วยเนื้อของมันเป็นอะไรที่เกิดการสะสมของแบคทีเรียได้ง่ายเวลาที่เราเปิดฝา หรือ ดึงเข้าดึงออก จนลมสามารถลอดผ่านเข้าไปได้

 

  • มาสคาร่า & อายไลเนอร์แบบน้ำ = 3 – 6 เดือน
  • รองพื้น เบส ไพรเมอร์ บีบีครีม ที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบหลัก water-based = 12 เดือน / 1 ปี
  • รองพื้น เบส ไพรเมอร์ บีบีครีม ที่มีไขมันเป็นส่วนประกอบหลัก oil-based = 18 เดือน 
  • คอนซีลเลอร์ = 12 – 18 เดือน
  • ลิปกลอส = 12 เดือน
  • ที่ปัดแก้ม [บลัช ออน] & ที่ทาตา [อายแชโดว์] เนื้อครีม เหลว = 12 – 18 เดือน
  • ที่ปัดแก้ม [บลัช ออน] & ที่ทาตา [อายแชโดว์] เนื้อฝุ่น อัดแข็ง = 24 เดือน / 2 ปี
  • อายไลเนอร์ & ลิปไลเนอร์ เนื้อครีม = 24 เดือน
  • ลิปสติก  = 24 เดือน
  • แป้งอัดแข็งทุกประเภท  = 24 เดือน
  • ครีมบำรุงผิวไม่ใส่สารกันเสีย = 1 – 3 เดือน
  • ครีมบำรุงผิวใส่สารกันเสีย = 12 เดือน
  • น้ำยาทาเล็บ = 12 เดือน
  • น้ำหอม = 18 เดือน

 

BEAUTY NOTED : เครื่องสำอางของเหลว หากไม่สัมผัสด้วยนิ้วโดยตรง แต่เทออกมา ใช้แปรง ฟองน้ำสะอาด จะช่วยยืดอายุได้อีกซักนิด

 

อยากให้ใบหน้ามีผิวสุขภาพดีทั้งที่แต่งหน้ามีกฎเหล็ก 6 ข้อให้จำ

  1. ดูวันหมดอายุของเครื่องสำอางก่อนใช้ ไม่มีก็เขียนลงไปและเริ่มนับตั้งแต่วันที่เปิดใช้
  2. ไม่ใช่เครื่องสำอางที่หมดอายุขัยของมัน
  3. ล้างอุปกรณ์แต่งหน้าให้สะอาด แปรง พัฟ  สม่ำเสมอ 2-4 สัปดาห์ต่อครั้ง
  4. ล้างหน้าให้สะอาดทุกครั้งที่แต่งหน้าอย่างพิถีพิถันและใส่ใจ
  5. เลือกเครื่องสำอางที่เหมาะกับสภาพผิว โดยเฉพาะ รองพื้น ไพรเมอร์ เบส บีบีครีมที่ต้องลงทั่วหน้าทั้งวัน
  6. ไม่ใช่เครื่องสำอาง หรือ อุปกรณ์ แต่งหน้าร่วมกับใครทั้งสิ้น อาจทำให้เกิดการติดต่อเชื่อโรค เช่น เริม

BEAUTY NOTED : ระวังการซื้อเครื่องสำอางเซลล์เพราะอาจทำให้ได้เครื่องสำอางที่ใกล้หมดอายุมาไว้ในครอบครองแทน หรือ ไม่ควรซื้อเครื่องสำอางมาไว้ทีละเยอะๆ เพราะอาจเสื่อมสภาพก่อนจะได้ใช้

 

 

จะรู้ได้อย่างไรว่าเราแพ้เครื่องสำอางที่พึ่งซื้อมา ?

  • ถ้าเริ่มใช้ครั้งแรก แล้วผื่นขึ้น ต้องแยกให้ออกชัดเจน ว่า ระคายเคือง หรือ แพ้
  • ถ้าระคายเคืองจะ คัน คันยิบๆ หรือ ปวดแสบปวดร้อน เป็นแค่ช่วงสั้นๆ ไม่เกิน 10 นาที
  • ถ้าแพ้ใช้ไปซักพักจะเกิดอาการ ทีเป็นได้ตั้งแต่ผื่นแดง บวม ตุ่มน้ำ ขุย ลมพิษ ผื่นดำ ผื่นขาว สิว
  • การระคายเคืองมักเกิดจากส่วนผสมที่มีฤทธิ์เป็นกรด หรือ แอลกอฮอล์ในเครื่องสำอาง คนผิวแห้งมักเกิดอาการระคายเคืองง่าย
  • การแพ้ มักเกิดจาก 1. น้ำหอม  2.สารกันบูด

 

ทดสอบการแพ้เครื่องสำอางอย่างไร ?

  1. ทาทิ้งไว้ที่ท้องแขนตอนกลางคืน ทิ้งไว้ทั้งคืน ทำซ้ำ 1 สัปดาห์ติดต่อกัน ถ้าผื่นขึ้นแสดงว่าแพ้
  2. พบแพทย์ทำ SKIN PATCH TEST ตรวจสอบได้อย่างละเอียดว่าแพ้สารชนิดใดบ้าง จะได้หลีกเลี่ยง

BEAUTY FACT 3 : ผลิตภัณฑ์ที่ระบุว่า “hypoallergic” ไม่ได้หมายความว่าจะไม่ทำให้เกิดการแพ้ เพราะปัจจุบัน อย. ไม่ได้กำหนดชัดเจนว่าต้องทำการทดสอบอะไรบ้าง

BEAUTY FACT 4 : ผลิตภัณฑ์หลายชนิดระบุว่า “แพทย์ผิวหนังรับรอง” หรือ “ผ่านการทดสอบจากแพทย์ผิวหนัง” แต่สมาคมแพทย์ผิวหนังยืนยันว่าไม่เคยรับรองผลิตภัณฑ์ใดทั้งสิ้น

BEAUTY FACT 5 : แม้ว่าจะเคยใช้เครื่องสำอางยี่ห้อนี้มานานแล้ว ไม่ได้หมายความว่าจะแพ้ไม่ได้ เพราะบางครั้งผู้ผลิตอาจมีการเปลี่ยนสูตรเล็กน้อย ทำให้แพ้ได้ หรือ สภาพผิวของเราที่แปรเปลี่ยนตาม อายุ ฤดูกาล ช่วงเวลา ฯลฯ

สารต้องห้ามในเครื่องสำอาง มี 1) ไฮโดรควิโนน 2) ปรอท เราทดสอบได้อย่างไร ?

  • ทดสอบไฮโดควิโนน เอานํ้าสบู่มาถูกับครีม ถ้าครีมเปลี่ยนสีเป็นสีนํ้าตาลดํา แสดงว่ามีไฮโดรควิโนน
  • ทดสอบปรอทในครีม เอาทองแท้มาถูกับครีม ถ้ามีสารปรอทเจือปน ครีมจะเปลี่ยนสีเป็นสีนํ้าตาลดํา

 

 

หวังว่าบทความนี้คงเป็นประโยชน์กับใครได้บ้างนะคะ นำไปใช้เพื่อสุขภาพผิวของเราค่ะ

ขอให้ทุกคนผิวสวย หน้าใสกันทุกคนค่ะ


แหล่งข้อมูล

– ผู้ช่วยศาสตราจารย์ รังสิมา วณิชภักดีเดชา ที่ปรึกษาศูนย์ผิวหนัง&ศัลยกรรมเลเซอร์ไอสกาย

– แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านผิวหนัง แพทย์หญิง แอนเจลา บาวเวอร์ จาก สหรัฐอเมริกา

– Tesco UK magazine

– เดลินิวส์ออนไลน์

– ประสบการณ์ส่วนตัวจากที่เป็นสาวแต่งหน้ามา 8 ปี

 

 

 

 

 

 

 

Posted in BEAUTY, MAKE UP, Q&A, SKIN, SKIN CAREComments (2)

BEAUTY TALK : ยาสีฟันที่ทำให้ฟันขาวทันที อย่าง CLOSE UP WHITE NOW

ระหว่างรอฟันเข้าที่ซัก 6 เดือนก่อน เนื่องจากเคลื่อนฟัน จัดฟันพึ่งจบ จากการที่ได้รบกับฟันเกหุบเข้าด้านในมา 10 ปี 4 รอบพอดีเด๊ะแล้วค่อยตัดสินใจการเลือกวิธีฟอกฟันขาวอีกที ระหว่างทางเลือกที่หามาทั้งหมดที่หลายคนคงได้อ่านแล้วมีทั้งฟันขาวด้วยวิธีที่ง่ายที่สุดถูกที่สุด และยากที่สุดแพงที่สุดให้เก็บข้อมูลกันไป

BEAUTY TALK – รวบรวมวิธีทำให้ “ฟันขาว ” สวย

ระหว่างนี้ก็มีโอกาสได้ทดลองยาสีฟันตัวใหม่จาก CLOSE UP WHITE NOW แบรนด์ส่งมาให้นานแล้ว เทคโนโลยีฟองสีฟ้ามาเคลือบผิวฟันที่เหลืองให้ดูดีขึ้นทันทีหลังใช้ แค่ฟังก็นะ .. อย่างที่บอกว่า ยาสีฟันต้องใช้ระยะเวลา ต้องทำต่อเนื่องนานหลายเดือนถึงจะเห็น และทางที่ดีควรเก็บข้อมูลโดยการถ่ายรูปไว้ด้วย จะได้เห็นความแตกต่างจริงๆ

เราไปหา ADS มาดูว่ามันทำงานยังไง

ประเด็นคือน้อง PHAN ฉายแสง BLUE LIGHT ฟันเลยขาวมากอยู่แล้ว เคยดู REVIEW ของเธอ เธอจะใช้ยาสีฟันนี้ มาทำให้ฟันเธอดูไบรท์ขึ้น ทาลิปสติกก็สวยขึ้น ส่วนตัวคิดว่ามันช่วยเคลือบฟันให้ขาวขึ้นตอนใช้ แต่ไม่ถาวร ต้องแปรงใหม่ทุกวัน

หน้าตากล่องเป็นสีใส ดู HI-SO หน้าตาคล้ายพวกกล่องเจลฟอกฟันเลย ฟ้าๆ ใสๆ ดูแตกต่างจาก whitening สูตรอื่นมาก หรืออาจจะเพราะมันคือWHITE NOW ขาวเลยทันที ขาวเดี๋ยวนี้ ขาวหลังใช้รึเปล่าไม่แน่ใจ ? เขาถึงออกแบบมาแบบนี้

จุดเด่นมันอยู่ตรงนี้

  • การที่ฟันขาวขึ้นเลยทันทีมันเป็นเทคโนโลยี “ฟองสีฟ้า” มาเคลือบผิวฟันขณะที่แปรงอยู่ ตาเราเลยมองเห็นว่าฟันของเราสว่างขึ้นทันทีหลังใช้เลย
  • มี SILICA สารที่ช่วยทำให้ฟันขาว เราจะเห็นสารตัวนี้บ่อยมาก ในสูตร whitening จากประสบการณ์ส่วนตัว

หน้าตายาสีฟันของเราจาก CLOSE UP WHITE NOW กลายเป็น CLOSE UP SLIM NOW แบนแต๊ดแต หลอดเท่าฝ่ามือหมดเร็วเหมือนกัน เพราะใช้ประมาณข้อนิ้วก้อย 1 ข้อ 55

เนื้อเจลสีฟ้าด้านใน – สีขาวด้านนอก เนื้อเจลด้านในที่ผสมกันอยู่นี่ละ เวลาแปรงจะเป็นฟองที่ไปเคลือบผิวฟัน เนื้อฟ้า กับ ฟันเหลืองนวลของเรา เมื่อประกบคู่กันเลย ฟันจะดูเหลืองไบรท์ 55555

ฟองจะมีลักษณะแบบนี้เลยตอนแรกตกใจมาก ปากฟ้าเลย จะติดลิ้นฉันไหม ? ปรากฎไม่ติด แต่แปรงสีฟันแอบมีสีฟ้าติดนิดๆ มันน่าจะติดที่เนื้อฟันแล้วละ สีฟ้าผสมสีเหลืองเลยดูสว่างขึ้น ไม่เชื่อลองใช้ PHOTOSHOP ทำภาพสีขาวขึ้นมาเทสีที่เหลืองเหมือนฟัน แล้วเทสีฟ้า transparent 3%-10% ดูจะรู้ว่าภาพสีเหลืองจางลงจนดูเกือบกลายเป็นสีขาวอมฟ้ามากขึ้น

เคยอ่าน REVIEW เมืองนอกความเห็นก็มีแตกต่าง คนที่ได้ผลเขาก็รู้สึกประทับใจอย่างมาก ส่วนเราใช้มา 20 วัน แปรงวันละ 2 ครั้ง แปรงเร็วๆ รัว แล้วเก็บภาพไว้วันแรกเก็บภาพ ก่อน – หลังใช้ วันสุดท้ายเก็บภาพก่อน -หลังใช้

เนื่องจากวันแรกภาพถูกถ่ายด้วย บีบี เลยเก็บภาพด้วยกล้องตัวเดิม แสงเวลาเดิม อาจมี WB เพี้ยนไปบาง แต่อยากให้ลองดูภาพก่อนหลัง ไม่มีการรีทัช ให้ดูว่าฟันที่เหลืองนวล ถูกฟองฟ้า ฟันเลยอมฟ้านิดๆหลังใช้ เลยเหมือนสว่างขึ้น “ด้วยเทคนิคแม่สี” เลยจริงๆ

แต่จะให้ขาวเลยไหม มันคงไม่ได้ ยาสีฟัน ไม่ใช่เจลฟอกสีฟัน ดังนั้น มันอาจจะเหมาะกับคนที่ไม่ต้องการฟอกให้เสียวฟัน และ พอใจในสีฟันที่มีอยู่แต่อยากให้มันดูสะอาดๆ ดูเหมือนผ่องขึ้น ประมาณคนแต่งหน้าแล้วลง BASE MAKE UP เคลือบผิวให้สว่าง หรือเรียบเนียนขึ้น แต่ยังเห็นผิวตัวเอง ไม่ได้กลบมิดเหมือนรองพื้น พอเห็นภาพไหม ?

COOL : เห็นการทำงานของเทคโนโลยีฟองสีฟ้าทันที ซื้อง่าย ราคาถูก ไม่ทำลายเคลือบฟัน เย็นดี

UNCOOL : ขาวเท่าที่ฟันเราขาวได้ สีจะดูดีกว่าที่เป็น 10-20% / ชั่วคราว ไม่ถาวร / ด้วยส่วนผสมที่ให้ความเย็นสดชื่น มันเผ็ด ถ้าไม่ทานเผ็ด อาจจะเผ็ด 555

นี่คือสีฟันจริงไม่ RETOUCH

คือเคลือบฟันบางมาก เห็นเนื้อฟันเลย และร้าวเป็นรอยร้าวทั้งบนและล่าง เพราะไปถอดเหล็กกับหมออีกคนที่ไม่ใช่หมอจัดฟันร้านเดิมตอนวัยรุ่น เขาตัดแบบไม่ปราณี ดังนั้นเลยไม่อยากจะยุ่งกับฟันมาก ที่เล็งไว้ก็อยากทำเคลือบฟัน แต่ประเด็นต้องเอาหน้าฟันออกหน่อยนึง เลยพับโครงการเป็นที่เรียบร้อย ไว้ว่ากันใหม่ นอกนั้นทุกวิธีดูเหมือนต้องทำไปเรื่อยๆ แต่ฟันขาวแล้วดูดีมากจริงๆ ไม่เชื่อใช่ไหม !

ดูนี่สิ ถ่ายกับน้องแพร น้องแพร ฟันขาวมาก ยิ้มสวยมาก 555 แล้วดูเอิ๊กจิ

แล้วเอิ๊กมีซี่ที่เก อยู่ 1 ซี่ตอนจัดฟัน พอจัดให้ตรง ซี่นั้นเหลืองกว่าซี่อื่น T_T ไม่เป็นไร เราจะหาวิธีที่ปลอดภัยต่อไปในการทำฟันขาว ฟันเอิ๊กยกให้เป็นเรื่องกังวลใจอันดับสองรองจากสิว คือ อยากฟันเรียงสวย และ ขาวด้วย 555555 สู้ไม่ถอยค่ะ

XOXO

Posted in REVIEW, TEETHComments (0)

advert

Google

erk-erk.com





BEAUTY MENU

มาคุยกับเอิ๊กได้ที่นี่ทุกวัน ถ้าว่างรีบตอบทุกคำถามค่ะ

INSTAGRAM @wwwerkerkcom

[instagram-feed]

ติดตามบล็อค erk-erk.com อย่างใกล้ชิด

เพียงกรอก Email ตรงนี้เลย

LINE @erk-erk

เพิ่มเพื่อน

Related Sites