Archive | BEAUTY

HOW TO ล้างหน้าตามทฤษฎีแนวขน ลดสิวทุกชนิด

 

คุณหมอสมนึกเจ้าของทฤษฏีล้างหน้าตามแนวขนรักษาสิวตอบมา : 
– “ทุกครั้งที่ต้องทำอะไรกับผิวหนังไม่ว่าจะเป็น
ที่หน้าหรือตัวก็ต้องกระทำ ไปตามแนวโพรงขน
ทั้งหมดครับ”
– สำหรับคนที่บอกว่าล้างหน้าตามแนวโพรงขนแล้วรู้สึกเป็นมากกว่าเดิมนั้นให้อดทนและทำ
ต่อเนื่องหลายเดือนจึงจะเห็นผลส่วนรอยที่ไม่หายอาจจะต้องพบแพทย์เพื่อทำเลเซอร์ครับเพราะการล้างหน้าที่ถูกต้องเป็นเพียงการป้อง
กันและรักษาตามธรรมชาติส่วนสิวที่เคยถูกเจาะหรือฉีดสเตียรอยด์เป็นสิวที่ผิดธรรมชาติอาจต้อง
ใช้ การรักษาอื่นๆเข้าช่วยเหลือครับ

 

ทฤษฎีล้างหน้าตามแนวขนเป็นทฤษฎีที่คิดค้นมานานเกือบสิบปี เป็นการเก็บภาพการพัฒนาสิวแต่ละขั้นจนหลุดออกไปโดยมีการใช้ภาพขยายจากกล้องจิ๋วมาช่วยในการคิดค้น โดย นพ.สมนึก อมรสิริพาณิชย์ ลูกศิษย์ Dr. James J Nordlund ซึ่งท่านเป็นลูกศิษย์ของ Aron Lerner  จาก Yale professor อีกที

 

โพรงขนสำคัญยังไง ?

” เป็นแกนให้ใยคอลลาเจนและอิสลาสตินมายึดโยงเพื่อเชื่อมเป็นเครือข่ายยึดให้ผิวหนังคงสภาพยืดหยุ่นและแข็งแรงดังที่เป็นอยู่ ”

 

โพรงขนบนใบหน้ามีประมาณ 100,000 โพรง

 

ข้อดี

  1. การระบายของน้ำมันและสิ่งสกปรกในโพรงสิวอย่างหมดจด การหลุดลอก จะไม่เกิดจากการหนาตัวของเซลล์ผิวตามมา
  2. การไหลเวียนของเลือดใต้ผิวหนังนั้นเป็นไปตามธรรมชาติ
  3. ฝ้าจะเกิดได้ยากขึ้น
  4. เซลล์ผิวหนังที่อักเสบ
  5. ไม่เกิดการบวมของชั้นผิวบางชั้น การที่เกิดเป็นก้อนอุดตัน สิวอุดตันเช่นนี้ก็เกิดจากการที่เราล้างหน้าวนหรือเอามือไปถูทำให้เนื้อเยื่อจับเป็นก้อนเหมือนกับเราปั้นกระดาษเป็นก้อนแล้วห่อเป็นชั้นๆ การล้างไปตามแนวโพรงขนเพื่อให้เยื่อเหล่านี้จะได้สลายและหลุดออกมาได้ตามธรรมชาติ

 

เวลาเท่าไหร่เห็นผล

ประมาณ 3 เดือน

 

คำแนะนำเหล่านี้ประกอบกับการไม่กด สิว เจาะสิว การแกะ การกด บีบ หรือ เจาะ ก็เป็นการทำลายโครงสร้างเพื่อให้เกิดการถ่ายเท

คำแนะนำ : อาจใช้ร่วมกับการใช้แสงเลเซอร์มาทำให้สิวเล็กลงและเลื่อนออกมาตามแนวโพรงขน

 

 

————————————————————————–

HOW TO นี้อาจจะดูยาว ที่ยาวก่อนที่เราจะได้อะไรที่มีประโยชน์มาเราจำเป็นต้องแสดงความกตัญญูถึงคนให้ข้อมูล

เพราะถ้าไม่มีคนที่คิดค้นทฤษฎีนี้ขึ้นมา คนที่มีปัญหาสิวขณะนี้ก็จะไม่ได้รับรู้การแก้ไขอย่างถูกต้อง

นี่เป็นเหตุผลที่ต้องบอกถึงที่มาอย่างละเอียด เพื่อเคารพถึงที่มาของความรู้นี้ค่ะ 🙂

XOXO

Posted in ACNE, FACE, HOW TO, SKINComments (20)

REVIEW – ครีมบำรุงปรุงพิเศษเพื่อผิวเราคนเดียวโดยเฉพาะ ณ ISKYCENTER

 

กว่าจะได้ครีมที่ผลิตขึ้นมาตามสภาพผิวตัวเอง ISKY SIGNATURE MOISTURIZING CREAM หรือ MY CUSTOMIZED CREAM ที่ทำ TAILOR-MADE ครีมตามสั่ง ก็ทำเอานอนไม่หลับไปหลายเดือน อยากใช้ แต่เป็นสิวเลยต้องรอให้สิวแห้งก่อน รู้สึกว่ามันใหม่มากเนื่องจากในประเทศไทยยังไม่มีที่ไหนทุ่มทุนผลิตให้คนต่อคนแบบนี้ในราคาที่จ่ายไหว เนื่องจากว่าปัจจุบนครีมส่วนมากที่ออกมามักออกมาตามสภาพผิวพื้นฐาน มัน แห้ง ผสม แพ้ง่าย บอบบาง แต่ที่ตรงกับผิวเราที่สุดไม่มีแน่นอน

เจ้าครีมปรุงบำรุงผิวพิเศษเพื่อผิวเราคนเดียวโดยเฉพาะมันเป็นยังไงย้อนไปอ่านบทความเก่ากันได้นะคะ

ตรวจสภาพผิวเพื่อให้คุณหมอปรุงครีมบำรุงเพื่อผิวเราโดยเฉพาะให้

 


 

หลักครีมพวกนี้เกิดมาเพื่อดูแลคนไข้ตามสภาพผิวที่เป็นจริงแล้ว

หลักๆที่เห็น ISKY ให้บริการอยู่มี 3 เรื่องใหญ่

– ผิวแพ้ง่าย
– ปัญหาจุดด่างดำ กระ (ต้องการให้ผิวขาวขึ้น)
– รอยเหี่ยวย่น
แต่ก็ทำได้สำหรับผิวทุกประเภท

มาถึงการเข้าสู่การ REVIEW หลังการใช้เป็นเวลา 2 สัปดาห์ติดต่อกันโดยไม่ได้ใช้ครีมตัวอื่นเลย

ราคาซึ่งถือว่ารับไหวกับ 600-900 ต่อกระปุกยักษ์ขนาด 50 กรัม ข้างหน้ากระปุกมีสโลแกนที่เด่นชัดมาก ” MY SIGNATURE MOISTURIZING CREAM ประมาณว่ากระปุกนี้มันเป็นสัญลักษณ์ประจำตัวเรา ครีมของเราคนเดียวเลย “มันเกิดมาเพื่อเรา”

 

ข้างในเปิดมามีฝาปิดซีลเนื้อครีม กันระเหย กระปุกแข็งแรงสีเทาอะคริลิค เป็นแพคเก็จจิ้งที่ส่วนใหญ่หลายเจ้าที่ผลิตครีมขึ้นมาเป็นแบรนด์ตัวเองมักจะเลือกแพคเกจจิ้งนี้มาบรรจุครีม ซึ่งถือว่าสวย จับถนัดมือ

ซึ่งที่เด่นคือ เนื้อครีมด้านใน สัดส่วน ส่วนผสมตามเนื้อเยื่อและปัญหาผิวที่เรามี โดยเช็คอย่างละเอียดทั้งระดับลึก และภายนอกที่มองเห็น ใช้เพื่อบำรุงแก้ไขตรงจุดนั้น เนื้อครีมสีขาวข้น ไม่เหนียวมาก ซึมเร็ว กลิ่นหอมเย็นมาก (สอบถามว่ามันเป็นกลิ่นของส่วนผสมของสูตรเฉพาะตัวนึง กลิ่นหอม แต่ไม่ทำให้แพ้หรือมีสิว)

และด้านข้างมีฉลาก ซึ่งทุกอย่างมันสดมาก ทำใหม่หมดเลย แม้กระทั่งฉลาก แปะตอนครีมลงกระปุกปิดฝาเรียบร้อย

มาถึงผลลัพธ์ผ่านไป 2 อาทิตย์ กับ ” สูตรบำรุงผิวแพ้ง่าย แห้งมาก และเป็นสิวง่าย “

โดยรวมคือใบหน้ามีความชุ่มชื่นหลังทา ตื่นขึ้นมารู้สึกผิวมันอิ่ม มีน้ำมีนวล ไม่มีสิว ไม่แพ้ บางครั้งรู้สึกผิวมันดีจนขาวขึ้น แต่ไม่ได้ช่วยลดสิวเสี้ยน สิวอุดตัน อันนั้นเป็นปัญหาที่ต้องแก้ไขในอีกส่วนผสมอื่นๆ หลักๆคือบำรุงให้ผิวแห้งกร้าน ดูอิ่มขึ้นไม่แห้ง ผิวดีมันทำให้แต่งหน้าง่ายขึ้นไม่ลอกและเป็นขุย ขอบอกว่านอนเช้าไม่ได้ทาสองวัน ผิวกลับมาแห้งไวมาก เพราะนอนในห้องแอร์ ดังนั้นรู้ตัวว่าผิวแห้งไม่ควรละเลยแม้ซักวัน ไม่งั้นต้องกลับมาเริ่มใหม่

COOL : มันดีถึงที่สุดที่จะมีครีมซักกระปุกที่ทำเพื่อเราคนเดียว เราคงไม่อยากใช้อะไรเหมือนๆใครเท่าไหร่ ถ้าเรารู้ว่าผิวเรามันไม่ค่อยจะถูกกับอะไร เป็นเรื่องใหม่ในเมืองไทย ที่ราคาถือว่าใช้ได้ 600-900 บาท ได้ทราบผลลัพธ์ผิวด้วยว่าแท้จริงแล้วผิวเราเป็นแบบไหน ไม่ต้องมานั่งคิดเอง เห็นกันไปเลย กระปุกใหญ่ใช้ได้นานมาก เอาคัตตอลบัตจุ่มเอา ทาทีละนิดให้เคลือบผิวหน้าพอ ใช้ร่วมกับผลิตภัณฑ์ที่เรามีอยู่ แก้ปัญหาได้ตรงจุดที่มีจริงๆ เหมือนยิงการบำรุงทีเดียวโดนแน่นอน

UNCOOL : คนเป็นสิวเยอะๆ เป็นสิวอยู่หลายเม็ด ยังไม่เหมาะกับการบำรุงทุกชนิด เพราะมีส่วนผสมของน้ำมันอาจไปทำให้อาการผิวอักเสบแย่ลง การที่คนไข้ผิวมีปัญหาเยอะอย่างเอิ๊กบางทีการจะเติมส่วนผสมบำรุงอะไรต้องทำทีละน้อย มันยังใส่ได้ไม่เต็มที่ เช่นน้ำมันบำรุงต่างๆ อาทิ วิตามินอี เนื่องจากมันอาจไปกระตุ้นให้สิวบังเกิดขึ้นอีก ดังนั้นการที่จะใส่ทุกอย่างเต็มสตรีมเป็นเรื่องที่ยาก ต้องค่อยๆทำ เนื่องจากปัญหาของคนไข้มีข้อจำกัดหลายข้อ สถานที่ค่อนข้างไกลบ้านมาก แถวฝั่งธน ยังมีแค่ครีมบำรุง ไม่ได้ผลิตเฉพาะทุกไลน์บำรุง เช่น โลชั่น แอสเซนต์ เซรั่ม เจลล้างหน้า ถ้าแบบนั้นคงเหนื่อยน่าดู คนคงแห่กันไปเยอะกว่านี้ วันนั้นเภสัชกรคงรีบ ตอนแปะสติกเกอร์หน้ากระปุกมันมีรอยนิ้วมือเภสัชในสติ๊กเกอร์ แง๊ๆ อันนี้ความเห็นส่วนตัว อีกนิดมันจะ PERFECT 55555

SUGGESTION : ต้องบำรุงทุกวันห้ามขาด ผิวแห้งเจออะไรเย็นๆ ใช้ชีวิตทุกวันน้ำในผิวมันก็ระเหย ละเลยไม่ได้เลย

หวังว่าคราวต่อไปสิวหายแล้วเราจะได้ลองแบบลดจุดด่างดำ ว้าว ว้าว แต่นี่นอนเช้าสองวันสิวอักเสบมาเลย ฮ่าๆ

ผู้ช่วยศาสตราจารย์แพทย์หญิง รังสิมาเป็นคนสั่งสูตรส่วนผสมให้เภสัชปรุงครีมให้เอิ๊กค่ะ ใช้ดีมากค่ะสำหรับบำรุงผิวแห้งมากของเอิ๊ก

ใครมีคำถามอยากถาม อจ. ถามได้ที่ @DrRungsima ในทวิตเตอร์นะคะ

XOXO

อาทิตย์หน้าเราจะมาพบกันเรื่องของ ” กระ “

Posted in ACNE, REVIEW, SKIN CAREComments (4)

REVIEW : ORIFLAME BLUSH ON สี PERFECT ชมพูเนื้อแมทสดใส

มีโอกาสได้ลอง บลัชออนเนื้อแมท แบรนด์ ORIFLAME

รุ่น PERFECT BLUSH มีทั้งหมดให้เลือก 3 สีด้วยกัน FRESH PINK / CLASSIC ROSE / GLOWING PEACH

สีออกชมพูสดใส / สีพลัมอมชมพูนุ่มๆ/สีพีช เรียงตามลำดับ ที่ลองไปคือสี FRESH PINK

ตลับสีดำมันเงาวับ และได้แปรง BLUSH BRUSH มาลองเป็นขนแพะ ขนค่อนข้างแข็งมากเป็นเอกลักษณ์ของขนสัตว์แท้อยู่แล้ว แต่ขนไม่ค่อยรูป อาจทำให้ระคายเคืองการทำความสะอาดแปรงบ่อยๆ อาจจะทำให้นุ่มขึ้นได้บ้าง แต่รูปทรงกำลังดีกับพวงแก้มเลย เล็กกระชับถนัดมือ ถ้ามีซองมาด้วยจะแจ่มเลย

เนื้อบลัชออนสีไม่มีชิมเมอร์ จะได้ความเป็นธรรมชาติกว่าชิมเมอร์ กลืนกับผิว ติดทน สีน่ารักแต่ไม่ให้เลือกน้อย คือมี 3 เฉดสีเท่านั้น ตลับสวยมีกระจก เล็กๆพกพาสะดวก ORIFLAME มีเครื่องสำอางน่าสนใจเยอะเหมือนกัน

เปิดตลับมาจะเป็นแบบนี้ น่ารักปะอ่ะ ? ><

ทาลงบนแก้มจะได้ลุค หวานแหวว แบ๋วแบ๋วแบบนี้ 🙂

ราคาบลัชออนตลับละ 379 บาท

ราคาแปรงอันละ 198 บาท

COOL : บลัชออนตลับเล็กพกพาสะดวก มีกระจกในตัว สีติดทน มีความเป็นธรรมชาติ / แปรงขนสัตว์ ขนแพะแท้ ด้ามจับยาวถนัดมือ รูปร่างทรงแปรงพอดีพวงแก้มเลย

UNCOOL : บลัชออนมีสีให้เลือกน้อยเกินไป 3 สีเท่านั้น / แปรงปัดแก้มเป็นขนสัตว์แท้ลักษณะเฉพาะตรงนี้อาจจะทำให้รู้สึกระคายเคืองแก้มได้เวลาปัดสีแก้มลงไป ถ้ามีซองมาด้วยจะดีมากเลย ไม่ต้องมานั่งหาซองใส่เพิ่มอีก

แบรนด์นี้เป็นแบรนด์ขายตรงอาจต้องมีในเรื่องของการเป็นสมาชิก สั่งซื้อผ่านแคตตาลอกลงข้อมูลไว้เผื่อใครสนใจ

http://th.oriflame.com/customer-service/show.jhtml?tag=Contact

ที่รู้ๆมีพวกลิปสติก รองพื้นน่าเล่นเยอะเหมือนกัน 🙂

 

 

 

 

 

 

XOXO

 

 

 

Posted in CHEEKS, MAKE UP, REVIEWComments (0)

REVIEW : DERMA E สครับเม็ดคริสตัล & มาส์กเอนไซม์

แบรนด์ Lauress นำเข้าเครื่องสำอางแร่ธาตุเข้ามาไทย 2 ปีกว่าน่าจะได้ ตอนหลังมาผันชื่อร้านใหม่เป็น

PRINCESS OF NATURALS

แล้วนำเข้าสกินแคร์จากธรรมชาติที่ได้รับรางวัลมามากอย่าง DERMA E เป็นผลิตภัณฑ์ worldwide อีกตัวที่มาจากอเมริกา

เน้นธรรมชาติเป็นหลักร้านนี้ และบริการการส่งสินค้ายังรวดเร็ว มีมาตรฐาน มีระเบียบอีกเช่นเคย

เอิ๊กสั่ง LAURESS สีที่หมดไปพร้อมกับสกินแคร์ DERMA E ดูแลผิวมาเนื่องจากจุดเด่นของแบรนด์นี้คือ วิตามิน E เราชอบส่วนตัวเนื่องจากผิวแห้งต้องการบำรุงเป็นพิเศษมาก ได้มาเกือบครึ่งปีแล้วดูท่าทาง แต่ก็มีบางตัวที่ใช้ได้ และ ระคายเคืองเนื่องจากไม่ได้อ่านให้ดีก่อนว่าสำหรับผิวผสม และ ผิวมันแต่รวมๆแล้วถ้าไม่ระคายเคือง บางตัวให้ผลลัพธ์ ผิวสุขภาพดี เต่ง นุ่ม ขึ้นและดูขาวขึ้นคราวหน้าคงต้องลองสูตรที่เหมาะกับผิวแห้งจริงๆ

 

วันนี้มา REVIEW SCRUB & MASK

Microdermabrasion Scrub & Cleansing Enzyme Mask

ตัวสครับละเอียดเล็กมากมากได้รางวัลการันตีด้วย ส่วนมาส์กถ้าใช้กับผิวมันน่าจะเวิค ดูดซับสิ่งสกปรก

มาเริ่มกันที่สครับ เนื้อขาวมีเม็ดสครับเล็กละเอียด กลิ่นน้ำมันที่สกัดจากมะนาวแรงมากค่ะ ธรรมชาติออกมาก ฮ่า

Microdermabrasion Scrub

1,370 bath

ใช้ไปเยอะมากแล้ว ชอบเอามาขัดสิวเสี้ยน รอยแผลสิว และผิวที่ตะปุ่มไม่เรียบเนียนแถวๆๆต้นแขน เนียนนุ่มมาก แต่ขัดทั้งหน้าไม่ได้ เพราะผิวแห้งจะไม่ถูกกับน้ำมันผลไม้เท่าไหร่ อย่างมะนาว มันแรงไป แต่ผิวมันน่าจะเวิคมาก เขาบอกว่าเหมือนทำสปาเองอยู่ที่บ้านผิวจะเนียนใสขึ้น

ดูส่วนผสมจ้า 🙂

เรามาต่อกันที่ มาส์ก เอนไซม์

Cleansing Enzyme Mask

600 BATH

ตัวนี้ใช้ได้กับทุกผิว แต่ยังไงผิวแห้งยังคงไม่ค่อยเหมาะ ระคายเคืองเหมือนกัน เพราะมีเกลือทะเลทิ้งนานจะแห้งมาก แต่รวมๆผิวมันนุ่มมากเลยหลังใช้ เลยใช้เฉพาะที่มันดีกว่า ส่วนผสมหลักจะมี เกลือจากทะเลสาบ Dead Sea , สาหร่ายทะเล , ชาเขียว, Bentonite , และ Kaolin Clays จึงช่วยขจัดพิษที่ผิว ทำความสะอาดผิวล้ำลึก ลดการอุดตัน ลดความมัน ช่วยผลัดให้ผิวดูชุ่มชื้น อ่อนวัย สดใส เรียบเนียนขึ้น เพราะมันลดความมันดังนั้นมาใช้กับผิวแห้งยิ่งแห้ง ยังไงใช้เฉพาะผิวมัน หรือ บริเวณที่มันๆดีกว่า หรือไม่ก็พอกแล้วใช้เวลาทิ้งไว้น้อยลง ความรู้สึกเหมือนผิวมันเบาเลย หน้านุ่มมาก เป็นการดีทอกซ์ผิวล้างเสร็จไม่แห้งตึง

 

ขอใช้ตรงจุดที่มันสุดๆบนใบหน้า คือ จมูก และ คาง อุดมด้วยสิวเสี้ยนเยอะมาก รู้ว่าเอาออกไม่ได้ แต่น่าจะช่วยไม่ให้มันเพิ่ม

 

 

 

 

 

ผลลัพธ์แบบ ZOOM ZOOM ใต้คาง เพราะจมูกเอาไม่ออกสิวเสี้ยน ยิ่งขัดยิ่งออกแต่ไม่หลุดมันแน่นมาก B)

ก่อนทำผิวมีสิวเสี้ยน

หลังสครับขัดทำให้สิวบางเม็ด ” หลุด ” บริเวณขัดเห็นเส้นเลือดฝอยขยายไหมคะแต่เดี๋ยวจะหดตัวอย่าตกใจไป

และ มาส์ก ดูดสิวเสี้ยนจนหัวจะ ” ผุด และ หลุดออกมาอีกเยอะเลย ” ผ่าง ผ่าง

แล้วจะเอาออกต่อยังไง คงต้องเป็นกาวสิวเสี้ยนแล้วละน่าจะดี ฮี่ฮี่

COOL : ชอบส่วนผสมที่ส่วนมากมาจากธรรมชาติ ดังนั้นจะไม่ทำให้เกิดสิวอักเสบ แต่จะมีการเตือนเช่นเกิดเม็ดเล็กๆสะกิดออก มาบอกว่าระคายเคือง บางตัวใช้แล้วผิวนุ่มขาว ว่าจะเลือกใช้ให้ถูกสูตรรอบหน้า น่าจะเวิคมาก แบรนด์นี้ชื่อดังเรื่องวิตตามิน อี คราวหน้าต้องถอยแต่ วิตามินอี

UNCOOL : เมืองไทยยังมีสูตรน้อยกว่าเมืองนอก บางสูตรที่บอกว่าใช้ได้ทุกสภาพผิว บางทีกับผิวแห้ง และ ระคายเคืองง่ายก็อาจจะใช้ไม่ได้ แต่ผิวธรรมดา และ ผิวมันน่าจะประทับใจ

 

 

ไว้โอกาสหน้าจะมารีวิวตัวที่เหลือนะเจ้าคะ 🙂

 

 

 

 

Posted in FACE, MASK, SCRUB, SKIN, SKIN CAREComments (1)

REVIEW : NO.7 INSTANT VITALITY EYE-ROLL อายโรลออนดูแลผิวรอบดวงตาที่อ่อนล้า


ลาภลอยมากได้นางเอก อาย โรลออน ( EYE ROLL-ON) มากลิ้งถนอมผิวรอบดวงตา

No.7 INSTANT VITALITY EYE ROLL-ON

ช่วยดูแลดวงตาที่เหนื่อยล้า หมองคล้ำ และ ไขมันที่ก่อให้เกิดถุงใต้ตา

ภายใน 4 สัปดาห์ สูตรอ่อนโยน

เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ได้ลองผลิตภัณฑ์สกินแคร์บำรุงผิวรอบดวงตาแบบลูกกลิ้งเพราะปกติที่มีใช้แบบครีมอยู่และเด่นไปกว่านั้น คือ มันเป็นลูกกลิ้งอายโรลออนที่มีทั้งหมด3หัวด้วยกันกรี๊ดสลบของเล่นใหม่ช่างอลังการงานสร้างมาก 15 มิลลิกรัม กับราคา 450 บาท

แพคเกจของอายโรลออนเป็นหลอด สีชมพูเบจ และ เป็นลูกกลิ้ง 3 หัว

เนื้ออายโรลออนตัวนี้จะเป็น สีชมพูมุกเลื่อม สีน่ารักมาก ผู้หญิงทั้งหลายอาจจะชอบสีแบบนี้

เวลาบีบเนื้ออายโรลออนออกมา จะผุดขึ้นมาจากลูกกลิ้ง 3 หัว

วิธีใช้ เวลาที่เราทา เราจะลากไปทิศทางเดียว หัวตา > หางตา ไม่ลากย้อนไปย้อนมา ให้เหี่ยวเล่นนะคะ

เวลาทามันจะเย็นสะใจมาก คือปกติครีมให้ไม่ได้แบบนี้ ด้วยความที่ใช้ลูกกลิ้งเป็นตัวส่งส่วนผสมเข้าไปในผิวรอบดวงตา มันเลยเย็น และ เป็นการนวดลดถุงใต้ตาไปในตัวด้วย โชคดีที่ไม่ทีถุงใต้ตา แต่ตาบวมบ่อย เวลาเล่นเน็ตหนักๆ ซึ่งเป็นชีวิตประจำอยู่แล้วที่ชอบใช้ดวงตาหนัก นอนก็ดึก T^T

ส่วนผสมเด็ดๆทั้งหลายก็จะมีตั้งแต่

Water Base / Glycerin / Mica / Caffeine / D-panthenol / Vitamin B 5 / Vitamin C / Hesperidin methyl chalconegx / Peptide/ Palmitoyl Tetrapeptide-7 /Chrysin


รู้จักแค่บางตัว เช่น Water base มีน้ำเป็นส่วนประกอบพื้นฐานแทนพวกแอลกอฮอล์ / Mica ช่วยกระจายแสงรอบดวงตาหลังทา / Caffeine ช่วยลดไขมันสะสมรอบดวงตา ต้านริ้วรอย / Vitamin C ทำให้ผิวบริเวณนั้น กระจ่าง ต้านอนุมูลอิสระ ส่วนตัวอื่นๆเดี๋ยวไว้ไปหาข้อมูลเพิ่มเติม เพราะส่วนตัวเห็นสูตรอ่อนโยน ก็กล้าลองแล้วค่ะ

ผลลัพธ์ ใช้มา 22 วัน เกือบ 1 เดือน เท่าที่เห็นชัด ดวงตาที่ใช้งานหนักมาก ที่ดูบวม และ ช้ำ สีความช้ำน้อยลงจากเกือบม่วงแดง ก็กลายมาเป็นสีแดงอมชมพู ดวงตาที่ตุ่ยบวมก็ลดความบวมลงได้ เพราะทารอบดวงตาเลย มันเลยช่วยไม่มีถุงใต้ตา แต่เปลือกตาบนบวม ก็เห็นผลดีเหมือนกัน


COOL : การออกแบบผลิตภัฑณ์ที่เป็นลูกกลิ้ง ยิ่ง3หัว ยิ่งกระจายส่วนผสมรอบดวงตาได้กว้างขึ้น ให้ความสดชื่นเย็น ความผ่อนคลายมากกว่าการใช้นิ้วนวดโดยตรง มันจะรู้สึกสบาย เวลาไถลูกกลิ้งเบาๆไปบนดวงตาทั้งบนและล่าง เป็นการกระตุ้นการหมุนเวียนของน้ำเหลือง รวมถึงของเสียที่สะสมจนทำให้เกิดการบวม ส่วนผสมหลายอย่างส่งผลให้ดวงตาที่เหนื่อยและดูช้ำจนถึงคล้ำ กลับมาดูดี ช้ำน้อยลง สดใสขึ้น ดูมีน้ำมีนวล และใช้ง่ายไม่ต้องบีบครีมใส่นิ้ว แล้วมานวด แล้วไปล้างมืออีกรอบ คือ จะไม่เหนอะหนะนิ้วมือเลย ชอบนวัตกรรมตรงนี้

UNCOOL : เมื่อมีข้อดี ก็อาจจะพบข้อด้อย ด้วยตัวหัวลูกกลิ้งนี่เอง ต้องมั่นใจว่าทำความสะอาดรอบดวงตาปราศจากเครื่องสำอาง และ ฝุ่นละอองดีแล้ว ไม่อย่างนั้น มันจะกลิ้งเอาสิ่งสกปรกที่ตกค้างบริเวณผิวรอบดวงตากลับเข้าไปอีก เพราะมันกลิ้งวนกลับไปกลับมา เมื่อสิ่งสกปรก โดยส่วนผสมใหม่ๆในหลอดอะไรจะเกิ๊ดดดดด

ใช้ต่อเนื่องกันทุกวันจนหลอดผอม น่าสงสาร ใช้ดีคิดว่าจะซื้อใช้ต่อค่ะ เพราะมันใช้ง่าย และ เห็นผลดีสำหรับตาตัวเองค่ะ

อีกอย่างซื้อได้ง่ายที่ BOOTS


XOXO


 

Posted in EYES, REVIEWComments (0)

Q&A ใต้ตาคล้ำ & ถุงใต้ตา กำจัดมันออกไปอย่างไร ???

 

พูดถึงเรื่องใต้ตาคล้ำ ถุงใต้ตา หลายคนมีปัญหาบ่อยมาก จนตอบแล้วตอบอีก เลยทำให้อ่านเลย 🙂 ไวดี ส่วนตัวใต้ตาคล้ำมากช่วงเวลาที่ใช้ดวงตาหนัก ไม่หลับไม่นอน เหี่ยวบ้าง แอบขยี้แรงๆบ้าง ต่อไปไม่ทำแล้ว ดูในรูปสิมีเหี่ยวๆละ ฮ่า

เพราะผิวหนังใต้ตาเป็นบริเวณที่บางที่สุดในร่างกาย และยังไม่มีต่อมไขมันที่จะคอยหลั่งไขมัน ( sebum ) เพื่อรักษาความชุ่มชื้น จึงมีแน้วโน้มที่จะแห้งกร้านง่ายกว่าผิวบริเวณอื่นๆ อีกด้วย จึงต้องการการดูแลเป็นพิเศษ

เอาละ มาเข้าใจถึงสาเหตุกันดีกว่า ครีมตัวไหนใช้ดีใช้เหมาะคงบอกไม่ได้ ต้องไปหารีวิวกันเอง และ สังเกตุส่วนผสมที่กำลังจะให้สังเกตุค่ะ ..

 

 

 

 

 

สาเหตุการเกิดรอยคล้ำรอบดวงตา

3 ข้อหลักๆ

  1. โครงสร้างของกระดูกหน้า คนที่โหนกแก้มสูง และตาลึก มักจะมีปัญหาผิวหนังบริเวณใต้ตายุบลงไปนิดหน่อย ทำให้เห็นเป็นรอยเขียวๆคล้ำใต้ตา ปัญหานี้แก้ไม่ค่อยได้เพราะว่าเป็นปัญหาของโครงสร้างกระดูกของหน้า
  2. กรรมพันธุ์ เป็นรอยคล้ำที่เป็นกรรมพันธุ์ แบบนี้หายได้
  3. หลอดเลือดใต้ตาขยายมากผิดปกติ ใต้ตาคนเรามีหลอดเลือดฝอยอยู่ ถ้ามันบวมมากไปก็จะเห็นคล้ำๆใต้ตา สาเหตุมีได้หลายสาเหตุ ตั้งแต่ ขาดธาตุเหล็ก หรือขาดสารอาหาร, นอนน้อย, นอนดึก , ใช้สายตาโหด , บุหรี่ , ชา-กาแฟ, ภูมิแพ้ , บางทีลดความอ้วนมากไป หลอดเลือดมันอยู่ของมันดีๆ แต่ว่าไขมันบริเวณนั้นน้อยลงมันก็เลยเห็นชัดขึ้น ,สูบบุหรี่ , มีถุงใต้ตาเยอะไปเวลาเจอเงาทำให้เหมือนดวงตาคล้ำ ฯลฯ

วิธีแก้ไข

ถ้าเป็นเพราะสาเหตุที่ 1. ใช้วิธีปกปิด ถ้าเป็นตาคล้ำเพราะว่าโครงกระดูกหน้ารูปร่างเป็นแบบนั้น วิธีนี้จะเป็นวิธีแก้ทางเดียว คือหา concealer ที่เหมาะสมทาปิดเอา concealer ที่เหมาะสมก็จะเป็นสีเหลือง หรือเหลืองปนส้มอ่อนๆ เพื่อที่จะได้แก้สีเทาปนน้ำเงินปนม่วงของเงาใต้ตาน่ะค่ะ (ตาคล้ำสาเหตุอื่นใช้วิธีนี้แก้แบบชั่วคราวก่อนออกจากบ้านได้เช่นกัน)

ถ้าเป็นเพราะสาเหตุที่ 2. ใช้สารเคมี สำหรับคนที่ตาคล้ำแบบกรรมพันธุ์ หรือว่า hyper-pigmentation จะเป็นกลุ่มที่รักษาได้ง่ายที่สุดเพราะว่าสามารถทำให้รอยคล้ำนั้นหายไปได้ และ พวกครีมที่ขายตามห้าง หาง่ายๆ ส่วนมากจะใช้ได้ดีกับรอยคล้ำใต้ตาที่เกิดจาก hyper-pigmentation ส่วนใหญ่ รอยคล้ำที่เกิดจากสาเหตุอื่นๆ บางทีอาจจะใช้ไม่ได้ผลเพราะว่าต้นเหตุของการเกิดรอยคล้ำยังคงอยู่ เช่นนอนน้อย, ขาดสารอาหาร, ภูมิแพ้ ถ้าไม่รักษาที่ต้นตอ ต่อให้ครีมดีอย่างไรมันก็ไม่หายไป การแก้ไขแบบใช้สารเคมีนั้นก็เหมือนกับการใช้ whitening น่ะค่ะ คือใช้สารแบบที่หาซื้อได้เองและเป็นส่วนผสมอยู่ในครีมทาใต้ตาที่หาได้โดยทั่วไปก็คือ Arbutin / Kojic acid / AHA ฯลฯ

ถ้าเป็นเพราะสาเหตุที่ 3. ใช้เลเซอร์รักษา เหมาะกับคนที่เกิดรอยคล้ำใต้ตาเพราะว่าหลอดเลือดมันขยายมากไป และก็รักษาใต้ตาดำแบบที่เกิดจากเม็ดสีมากไปก็ได้ โดยการทำ laser บางตัวจะทำให้ผิวชั้นบนที่มีรอยคล้ำนั้นหลุดออกไป บางตัวก็ออกแบบมาเพื่อใช้กับเส้นเลือดฝอยๆ บางตัวก็ส่งผลทำลายเมลานินสีคล้ำบริเวณที่มันมีมากเกินไปทำให้ผิวหายมีสีดำ การรักษาด้วย เลเซอร์ ค่อนข้างจะแพง ไม่ใช่ว่าทำปุ๊บหายปั๊บ ต้องให้เวลาผิวฟื้นตัวด้วย ทำแล้วจะมีรอยแดงๆหลังทำไปสักพักแล้วแต่สุขภาพของคุณเองด้วยว่าฟื้นตัวเร็วแค่ไหนนะคะ ส่วนชนิดเลเซอร์มีมากมายหลายชนิด ตั้งแต่ Fractional Resurfacing – Fraxel Laser / IPL / ND YAG ส่วนจะเลือกใช้ชนิดไหนคงต้องขึ้นอยู่กับปัญหาสาเหตุที่แท้จริง โดยแพทย์จะเป็นผู้วินิจฉัยการเลือกชนิดของเลเซอร์ในการแก้ปัญหาเอง


หากใครพบสาเหตุที่แท้จริงก็รีบแก้ปัญหาที่ต้นตอซะ .. สำหรับส่วนผสมใน EYE CREAM ที่แพทย์แนะนำให้หัดสังเกตุจะมีในเรื่อง Vitamin K ที่ช่วยให้การไหลเวียนเลือดบริเวณใต้ดวงตาดีขึ้น / Vitamin C ช่วยกระตุ้นคอลลาเจน ลดจำนวนเม็ดสีในผิวและเป็น Antioxidant ต่อต้านความเสื่อมโทรมต่างๆ/ Retinol ช่วยกระตุ้นคอลลาเจน/ Argireline ช่วยลดริ้วรอย เป็นต้น


หลายสาเหตุที่สามารถแก้ไขได้ด้วยตัวเอง เช่น

  • รอยคล้ำใต้ตาที่เป็นเพราะการนอนดึกบ่อยๆ หรือโหมทำงานหนัก หรือใช้สายตามากเกินไป ควรพักสายตาหากรู้สึกล้าหรือเริ่มแสบตา โดยเฉพาะถ้าทำงานที่ต้องใช้สายตาเพ่งด้วย ควรหยุดพักสายตาทุก 2 ชั่วโมง โดยการหลับตาหรือมองไปไกลๆสัก 5 – 10 นาที เพื่อคลายอาการอ่อนล้าของกล้ามเนื้อตา
  • หากเป็นภูมิแพ้หรือมีอาการคัดจมูกบ่อยๆ ควรหาสาเหตุหรือพบแพทย์ด้านภูมิแพ้ เมื่อรักษาจนอาการแพ้ต่างๆดีขึ้นแล้ว รอยคล้ำใต้ตาก็จะจางลงไปเอง
  • คนที่ต้องออกแดดบ่อยๆ ควรใช้โลชั่นกันแดดเป็นประจำ หรือสวมแว่นกันแดดเพื่อช่วยปกป้องดวงตาและผิวรอบดวงตา เพราะนอกจากอายุแล้ว แสงแดดยังคงเป็นจำเลยที่หนึ่งของความเสื่อมโทรมของผิวทุกชนิดเสมอ
  • อาจลองรักษาผิวใต้ตาเองด้วยวิธีง่ายๆเหมือนที่เคยเห็นในทีวี เช่น ฝานแตงกวาเย็นๆ หรือใช้ช้อนแช่เย็น มาปิดรอบดวงตาสัก 15 นาที แตงกวาซึ่งมีน้ำเป็นส่วนประกอบหลักมากกว่า 90% จะส่งผ่านความเย็นช่วยให้หลอดเลือดบริเวณใต้ตาหดตัว ลดการคั่งของน้ำและหลอดเลือดดำในผิวหนังได้ชั่วคราว นอกจากนี้แตงกวายังมี เอนไซม์, สารไกลโคไซด์ และกรดอะมิโนบางชนิด ที่ช่วยให้ความชุ่มชื้นและเพิ่มความสดชื่นให้กับผิวได้ทันที

ยี่ห้อไหนใช้ดีต้องไปหาอ่านส่วนผสม และ REVIEW กันตามเว็บนะจ๊ะ

SKINCARE ตัวไหนใช้ดีมาดูกัน 🙂

แถมเว็บให้อีกที่นึง

www.besteyecreams.org

 

สาเหตุการเกิดถุงใต้ตา

มี 2 อย่าง

  1. เกิดการสะสมของไขมันที่รอบดวงตา
  2. เกิดการสะสมน้ำอยู่บริเวณรอบดวงตา

อาการ : ปวดบริเวณเบ้าตา ปวดที่ต้นคอ รู้สึกดวงตาล้าเหนื่อย มีอาการตาแห้ง รอยดำคล้ำที่ตา หรืออาจมีรอยบวมเป็นถุงใต้ตาโปนออกมาให้เห็นได้อย่างชัดเจน

การรักษา :

1. ผ่าตัดเอาถุงไขมันใต้ตาทิ้งไป แต่ไม่นานก็จะเริ่มเกิดการสะสมไขมันและน้ำขึ้นอีก ผิวค่อยๆอ่อนแอตามอายุที่เพิ่มขึ้น ทำให้มีริ้วรอยหมองคล้ำเกิดขึ้นต่อไปเรื่อยๆ

2. ฉีดBotulinum Toxin บริเวณใต้ตาเพื่อลดขนาดถุงใต้ตา ผลไม่ถาวร ต้องฉีดทุก 3-8 เดือน

3. ใช้เวชสำอางสกินแคร์ ที่มีสารโปรตีนอนุภาคเล็กอย่าง อะเซติลเตตราเปปไทด์ 5 ( Acetyl Tetrapeptide 5 ) มีคุณสมบัติช่วยชะลอ ความเสื่อม ช่วยกระตุ้นในการสร้างคอลลาเจน อีลาสติน เพราะจะช่วยลดรอยบวม รวมทั้งการเกิดถุง ใต้ตา และรอยคล้ำได้เป็นอย่างดี เนื่องจากสามารถปรับการไหลเวียนของโลหิตและน้ำเหลืองให้เกิดความสมดุล ขับถ่ายของเสียให้ออกไปจากเซลล์ผิวได้ ที่สำคัยคือ สามารถช่วยลดการสะสมไขมัน และน้ำที่เกิดขึ้นรอบๆดวงตาได้ผลเป็นอย่างดี

ในการดูแลถุงใต้ตา หมั่นหาวิธีนวดกดจุดดวงตาที่ถูกต้อง ใช้สายตาไม่หักโหมมาประกอบการรักษาขั้นต้น เพื่อเสริมให้ดวงตาแข็งแรง ไม่มีน้ำ และ ไขมันสะสมรอบดวงตาด้วยนะคะ



รียบเรียงใหม่ – erk-erk.com

ที่มาข้อมูลกิตติมศักดิ์

– นพ.ธีระชัย วรัญญูรัตนะ, DSc&MSc.Dermatology(UK) แพทย์สยามเลเซอร์ คลินิก

– พ.ญ. พิสุทธิพร ฉ่ำใจ

– คุณ : รำเพย เจ้าของร้าน 2ndskinmineral




Posted in EYES, HOW TO, Q&AComments (0)

REVIEW DOVE INTENSE REPAIR 2-STEP TREATMENT ทรีทเม้นท์บำรุงผมล้ำลึก 2 ขั้นตอน

DOVE HAIR SURVIVER KIT – BOOKLET เล่มเล็กๆที่มากับนิตยสารสุดสัปดาห์หน้าปก คุณกบสุวนันท์ รายปักษ์แรกเดือน พย. 54 นี้ (เหลืออีก 2 วันไม่ขายแล้ว) เป็นเล่มที่จะเผยเคล็ดลับการดูแลผมส่วนตัว ของ BLOGGER ผู้หญิงทั้ง 6 คน เผอิญได้รับเกียรติเป็นหนึ่งในนั้น ใครบ้านติดน้ำท่วมออกไปสรรหาไม่ได้ เราก็เลยแปะมาให้โหลด ใครอยากเก็บเป็นคู่มือการดูแลผม 6 สไตล์ก็ไปตามแผงหนังสือที่มี นิตรสารสุดสัปดาห์กันได้ค่ะ ..

REVIEW ภาคต่อจาก HOW TO ทำทรีทเม้นท์บำรุงผมแห้งเสียเร่งด่วนอยู่บ้านด้วยวิธีการง่ายๆ 2 ขั้นตอน

กับ DOVE INTENSE REPAIR 2-STEP TREATMENT


เนื่องจาก TREATMENT ปกติเราลองมาเยอะแล้ว

ขอลองซุปเปอร์ทรีทเมนท์ด้านซ้ายที่มีคำโปรยสุดหรูว่าช่วยคืนความชุ่มชื่นสู่ผมมากกว่าเดิมถึง 2 เท่าบ้าง วิธีการทำไม่ยาก 2 ขั้นตอน ก็ได้ลองมาเป็นระยะเวลา 1 เดือน 6 คู่ด้วยกันใช้อย่างเมามันส์

มาดูหน้าตากันบ้าง ตกราคาคู่ละ 99 บาท ไซด์ใหญ่มี 4 คู่ราคาเซ็ทละ 299 บาท

(คุ้มกว่าในความรู้สึกเหมือนซื้อ 3 แถม 1)

เป็นทรีทเม้นท์ที่ออกแบบมาให้ใช้ภายในคู่เดียวครั้งเดียวให้หมด แต่ความจริงปริมาณการใช้มันขึ้นอยู่กับสภาพเส้นผมของแต่ละคน


DOVE INTENSE REPAIR 2-STEP TREATMENT ไซด์ใหญ่ 4 คู่จะแพคมาในกล่องใสหน้าตาแบบนี้

STEP – 1 หลอดใหญ่สีน้ำเงิน เป็นทรีทเม้นท์ตัวที่มีไฟเบอร์ แอคทีฟส์ ที่บำรุงในแง่ของการเติมโปรตีนให้เส้นผม

วิธีการใช้ STEP – 1 นวดเว้นโคนผม เน้นปลายผมที่แห้ง หรือ ขาดการบำรุงทิ้งไว้ 3 นาทีแล้วล้างออก


STEP – 2 หลอดเล็กสีเทา เป็นทรีทเม้นส์ตัวกักเก็บหรือลิ็อค หรือเคลือบการบำรุงที่เราได้ลงไปขั้นตอนแรกให้นุ่ม มีสุขภาพดี

วิธีการใช้ STEP – 2 ลูบไล้ให้ทั่วเส้นผมเว้นโคนขณะที่ผมหมาด หรือใช้เวลาผมแห้งแล้วแอบฟูก็ได้นะคะ แล้วจัดแต่งทรงตามต้องการ

ข้อแนะนำ * เวลาใช้ใส่ทีละน้อย อย่าเยอะ และ STEP-1 สามารถใช้กับการอบไอน้ำที่บ้านได้สบายด้วยผ้าเช็ดตัวชุบน้ำอุ่นบิดหมาดมาโพกไว้ นิ่ม นุ่ม ลื่น หอมติดผมเลย ส่วน ลีฟออน ใส่เพิ่มความเงาวาวของเส้นผมใส่แค่นิดเดียวก็พอค่ะ มากไปหนังศีรษะจะมันง่าย และล้างให้สะอาดหมดจดทุกครั้งป้องกันปัญหาผิวหนัง หรือหนังศีรษะตามมานะคะ


COOL ผมมีสุขภาพดี จัดทรงง่าย รู้สึกว่ามันนิ่ม นุ่ม ดึ๋งๆ ลื่นด้วย หลอดนึงให้เยอะมาก ใช้ได้ 2-3 ครั้งเลย มีคู่มือชัดเจนอ่านเข้าใจง่าย ทำตามได้ไม่ยาก เพิ่งสังเกตุว่าฝาทรีทเมนท์ที่บิดออกให้กลับหัวฝาลง จะมีปลายจุกแหลมยาว สามารถนำจุกนั้นเสียบปิดรูที่เปิดออกได้ค่ะ ก็สามารถพกไปไหนต่อไหนแม้ใช้ไม่หมดได้แล้วทีนี้

UNCOOL บางครั้งใส่เยอะไป หนังศีรษะมันเร็ว กลิ่นยังหอมสะใจไม่พอ (ฮา) อีกอย่างแพคเกจน่าจะทำเป็นฝาจุกที่เปิดแล้วปิดได้มากกว่า จะได้พกไปไหนต่อไหนได้

เป็นอีกตัวเลือกในการบำรุงผมแห้งเสีย จากคนที่เสพย์ติดการทำเคมีเส้นผมอย่างเรา ทั้งดัด ยืด ทำสีนี่บ่อยสุด รวมถึงอาการแตกปลายที่อยากซ่อนไว้ เพราะยังไม่พร้อมจะเล็ม และคนที่ไม่ชอบออกจากบ้านอย่างเรา แต่อยากดูแลตัวเองได้โดยทำได้ด้วยตัวเอง เซฟเงินในกระเป๋า แต่มีผมสวยเหมือนคนอื่น โอเคนะ ยังไงก็ยังคงต้องใช้กันอีกนาน เพราะกว่าจะกู้ได้มันคงต้องใช้เวลาพอๆกับเราใช้เวลาทำลายผมตัวเอง ส่วนปริมาณและความถี่ในการใช้ผลิตภัณฑ์ขึ้นอยู่กับความยาวและสภาพเส้นผมของแต่ละคน ส่วนเอิ๊กใช้บ่อยเพราะช่วงนี้ผมแห้งกรังมาก หนีบบ่อยไป (ฮา)


ขอให้ทุกคนมีผมสวย เงางาม สุขภาพดี นุ่มลื่นกันทุกคนค่ะ

ใครได้ใช้ไม่ชอบ ชอบยังไงก็มาแชร์กันใน FANPAGE erk-erk.com ได้นะคะ

ยินดีแลกเปลี่ยนประสบการณ์ความสวยความงาม 24 ชั่วโมง ไม่มีวันหยุดราชการ :p

XOXO


สิวหายเมื่อไหร่เจอกันใน MAKE UP HOW TO แน่นอน รอมันหายหน่อยนะ





Posted in HAIR, REVIEWComments (0)

OVERVIEW : การยกเครื่องหน้า กระชากวัย ด้วยการทำ THERMAGE

โชคดีที่วันนึงมีโอกาสได้ใกล้ชิดหมอผิวหนัง เริ่มจากจุดเริ่มต้นไปปรึกษาปัญหาสิวเมื่อหลายเดือนก่อน .. ข้อดีของการได้พบหมอผิวหนังที่เป็นอาจารย์ อาจารย์หมอเวลาจะมีคำถามอะไร จะได้คำตอบที่ต่อยอดไปยังเรื่องอื่นๆ ไม่หวงความรู้ ไม่กั๊กความรู้ อย่างผู้ช่วยศาสตราจารย์แพทย์หญิง รังสิมา หรือคุณหมอเพ็ญ ที่เป็นทั้้งอาจารย์ และ หมอผิวหนังเลเซอร์ ประจำโรงพยาบาลศิริราชซึ่งเป็นโรงพยาบาลที่รักษาพระอาการประชวรของในหลวง และอีกท่านคือศาสตราจารย์นายแพทย์ วรพงษ์ มนัสเกียรติ ที่พร้อมจะตอบคำถามข้อสงสัยให้กับคนไข้ขี้สงสัยอย่างเอิ๊กเองอยู่ตลอดเวลา รวมถึงนักเรียนอีกมากมายของคุณหมอทั้งสอง แม้ขณะที่ยังไม่ได้เป็นคนไข้เลยก็ตาม ดังนั้นอย่าแปลกใจใน BANNER ด้านขวามือที่ติดให้กับ ISKYCENTER.COM ด้วยความสมัครใจ ไม่มีสิ่งตอบแทน แต่อยากจะทำ ตั้งแต่ที่รู้จัก และขอข้อมูลคุณหมอมาบรรยาให้ทุกคนได้อ่านในนี้ตั้งแต่วันแรก ศูนย์ผิวหนังและศัลยกรรมเลเซอร์นี้เกิดจากแรงบันดาลใจของบรรดาแพทย์เลเซอร์ผิวหนังที่เห็นตรงกัน อยากทำสถาบันเลเซอร์ที่มีมาตรฐานสากล ดูแลผิวหนังที่เริ่มต้นอย่างถูกวิธี เหมาะสม พร้อมกับคนไข้ต้องได้เรียนรู้กลับไป เลยอยากให้มีคนได้รู้สึกเหมือนกัน ว่าหนทางสว่างในชีวิตที่เกี่ยวกับผิวหนัง มันควรจะเกิดเพราะความรู้ ไม่ใช่แค่เพราะการรักษา คุณหมอจะคอยสอนเรื่องที่เราถาม เราอยากรู้ และ ทำให้เราพัฒนาตัวเองโดยการมองถึงสาเหตุของการเกิดมากกว่าปัญหาที่เป็น ไม่ได้ไปรักษานานแล้ว แต่นำคำสอนมาประยุกต์คือหาเหตุแล้วแก้ให้ตรงจุด ต่อให้เลเซอร์จะช่วยแก้ปัญหา ยังไงต้องมีการทายา และ การใช้ชีวิตก็สำคัญมากกว่าสิ่งอื่นใด ..

 

เมื่อหลายเดือนก่อนไปรอคิวคุณหมอยิง VBEAM รักษารอยแดง คุณหมอมีคนไข้ที่มีปัญหาเรื่องความหย่อนคล้อยของใบหน้า และต้องการปรับรูปหน้า มารักษาด้วยเครื่องยกกระชับเครื่องหน้าใหม่ให้ดูอ่อนเยาว์เรียกว่า THERMAGE โดยมีแพทย์ผิวหนังที่ผ่านการอบรมระยะสั้นจากศิริราชขอเข้าไปดูงานด้วย .. และเอิ๊กเองก็เป็นหนึ่งคนที่ได้รับอนุญาติจากคุณหมอเพ็ญให้สามารถติดตามเข้าไปดูได้ด้วยเช่นกัน เพราะคนไข้เป็นผู้ใหญ่ที่คุณหมอสนิทและเป็นกันเอง บรรยากาศจึงเป็นไปด้วยความรู้ บวกความสนุก เคยได้ยินคุณหมอเล่าว่าห้อง THERMAGE เป็นเครื่องมือที่ปล่อยคลื่นความถี่วิทยุที่แพงที่สุด สามารถคืนความอ่อนเยาว์ให้กับมนุษย์ได้ลดลง 2-5 ปีหรือมากกว่านั้น ขึ้นกับความหย่อนคล้อยของใบหน้า อายุที่จะเริ่มทำ ก็ขึ้นอยู่กับถ้าเริ่มริ้วรอย ผิวเริ่มหย่อนไม่ตึงอยู่เยอะก็คงเหมาะ แอบวาดฝันไว้อยากเก็บเงินทำให้แม่เหมือนกันค่ะ เหี่ยวเหลือเกิน ….. (ชีเล่นมาดูแลตัวเองตอน 50 กว่า สายไปไหม อย่าไปบอกแม่นะ ทุกวันนี้ก็ประเคนครีมบำรุงอยู่ ใช้แพงกว่าลูกอีก ฮาฮา)

 

เอิ๊กเข้าไปไม่ได้จดมานะคะ เพราะตั้งใจฟัง และ ตั้งใจชมการสาธิตการรักษาด้วยเครื่อง THERMAGE ให้กับผู้ใหญ่ท่านนี้อยู่ ยอมรับว่าตื่นเต้นมาก เพราะไม่เคยเห็นมาก่อน ว่ามันจะยกยังไง ในจินตนาการคือ นึกว่าจะเหมือนเครื่องเตารีด แล้วนาบไปที่หน้าแล้วยกดึงขึ้นมาต้านแรงโน้มถ่วง ทุกอย่างผิดหมด ……….. ( ตั้งแต่เริ่มจินตนาการแล้ว )

หลังจากนี้จะเป็นข้อมูลที่อ่านมาจากหลายๆที่ และ สรุปเองตามใจฉัน 🙂

 

THERMAGE CONCEPT คือ “ กระชากวัยรักษาความหย่อนคล้อย และปรับรูปหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัด แค่ครั้งเดียว รวดเร็วไม่ถึงชั่วโมง กลับบ้านได้ ผลอยู่ยาว 2 ปี “ (คิดเอง :p)

คุณเคลลี่ทำที่คลินิคแห่งนึงไม่หน้าว่าหน้าแกเป๊ะมากค่ะ นึกว่าไปดึงไหนมา ที่แท้ THERMAGE

THERMAGE คืออะไร เทคโนโลยีคลื่นวิทยุ ที่ทำให้เกิดความร้อนส่งผ่านลึกไปยังชั้นหนังแท้ เพื่อทำให้คอลลาเจนที่มีอยู่กระชับตัว และช่วยให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใหม่ด้วย ส่งผลให้ทั้งคอลลาเจนเก่าและคอลลาเจนใหม่ใต้ผิวหนังที่ถูกสร้างขึ้น ทำให้ผิวหนังมีความยืดหยุ่น เรียงตัว กระชับได้รูปขึ้น มีสุขภาพผิวดีขึ้น สุขภาพผิวแข็งแรง และผิวเรียบเนียน ริ้วรอยลดลง

(การยิง THERMAGE จะยิงเรียงตามตารางสเกลผิวหนังที่ละช่องๆ แล้ววนกลับมาซ้ำที่เดิมจนถึงจำนวนที่กำหนดไว้ จะมีการลอกลายบนผิวหนังก่อนยิง สำหรับแพทย์ที่ชำนาญการลอกลายก็ไม่จำเป็น จะมีเทคนิคการจัดวางได้เท่ากันอย่างมหัศจรรย์โดยไม่ต้องมีตารางสเกล)

THERMAGE ยกเครื่องส่วนไหนได้บ้าง เยอะมาก ตั้งแต่ ใบหน้า โดยเฉพาะคิ้ว ดวงตา แก้ม และคาง ลำคอ หน้าทอง แขน ขา มือ

( ต้องแปะแผ่น grounding pad เพื่อให้เครื่องสามารถปล่อยคลื่นความถี่วิทยุไปยังบริเวณที่ต้องการรักษาได้ )

THERMAGE กับ ผลลัพธ์ที่่ได้ บริเวณที่ได้รับการรักษายกกระชับ เข้ารูปมากขึ้นทันทีหลังทำและค่อยๆดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผลจะเห้นชัดตั้งแต่ 3 เดือนขึ้นไปหรือเร็วกว่านั้น

( หลังยิงรอบดวงตา หนังตาดูกระชับยกสูงฝั่งซ้าย เทียบกับฝั่งขวาที่ยังไม่ได้ยิง )

ใบหน้า ลำคอ – ได้สัดส่วน ได้หน้าเรียวขึ้น ผิวหน้าดีขึ้น เรียบเนียนขึ้น ตึงขึ้น อ่อนวัย เด็กลง หาแฟนง่ายกว่าเก่า (ล้อเล่น:p)

ตา – แก้ปัญหาหนังตาตก ห้อย รอยตีนกา ไม่เฟิร์ม รอยทีนกา ริ้วรอยตามวัยที่เราไม่อยากจะมี แก้ปัญหาเปลือกตาที่เริ่มจะไม่ตึง

แขน – ท้องแขนที่ไม่เรียบ ห้อย ก็จะเฟิร์ม ดึ๋งดั๋งมากขึ้น

มือ – มือที่มีริ้วรอยไม่เรียบ ก็จะตึงขึ้นจนคนเริ่มเดาอายุไม่ถูก

หน้าท้อง – หน้าท้องที่หย่อนคล้อย โดยเฉพาะหลังจากการคลอดบุตร ก็กระชับขึ้น

ขา – โดยเฉพาะส่วนเขา เรียบเนียน ตึงขึ้น

 

THERMAGE กับ EFFECT หลังทำ บวมแดงที่ผิวซึ่งจะหายไปภายใน 2-3 ชม. ไม่มีบาดแผล รักษาครั้งเดียว กลับบ้านได้ รอดูผลเดือนที่ 3 เป็นต้นไป บางคนอาจช้าหรือเร็วขึ้นกับการตอบสนองของร่างกายของเราด้วยนะคะว่าจะสามารถสร้างคอลลาเจนใหม่ และเรียงตัวคอลลาเจนเก่าได้เร็วแค่ไหน และผลลัพธ์อยู่ยาวถึง 24 เดือน หรือ 2 ปี

( รูปของคนไข้ที่ ISKY อันนี้ขออนุญาตเก็บภาพมาค่ะเป็นบุุคคลมีชื่อเสียงเลยไม่ขอเอาลงทั้งหน้า แต่จะให้สังเกตุด้านซ้ายทำแดงบวม รูขุมขนพองขยาย แต่ร่องแก้มถูกยกขึ้นสูงกว่าด้านขวาแล้วเล็กน้อย ภาพนี้หลังทำทันที ถ่ายเลย )

THERMAGE กับความปลอดภัย FDA อเมริกา และ ไทยแลนด์บ้านเรา วางใจได้ เครื่องนึงแพงมาก ราคาหลายล้าน

(หัวTips ที่ใช้ยิง ใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้ง คนต่อคน ก็ต้องแยกเฉพาะเจาะจง ใครจะยิงกี่ Tips กี่ Shot ต้องตามดุลยพินิจแพทย์ และตามความคล้อยของบริเวณที่ทำด้วยค่ะ จะยิงเป็น SHOT ไปหลายร้อยครั้งภายใน 1 ชั่วโมง หัว Tips ที่ใช้ยิงก็จะมีหลายขนาดเช่นกัน )

 

THERMAGE กับ ความเจ็บตอนทำ เท่าที่เห็นมาคือ มีการปรับระดับความอุ่นที่คนไข้ทนไหว ยิ่งร้อนยิ่งดี เป็นสัญญาณว่าใต้ผิวหนังเราตอบสนองแล้วนะและความร้อนเหล่านี้จะส่งผ่านลึกไปใต้ชั้นผิว เพื่อเสริมสร้างคอลลาเจนให้ดึ๋งดั๋ง กระชับ จะอุ่นแบบคนไข้ทนไหวและจะสลับกับเจลเย็นทุกครั้งที่มีการยิงลงไป โดยที่คุณหมอจะถามว่าร้อนไปไหมคะตลอดเวลาที่ทำ จะเป็นการยิงทีละครั้ง แต่ละครั้งแช่ไว้ 1 วิ ยิงตั้งแต่ 300 – 900 ครั้ง หรือมากกว่าขึ้นกับบริเวณที่จะทำ

 

ข้อดี

  • ตึงอย่างเห็นได้ชัดทั่วหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัดภายในระยะเวลาไม่กี่เดือน
  • มีความเป็นธรรมชาติของใบหน้ามากกว่าการผ่าตัดยกดึงจนใบหน้าดูแปลกไป คือ ตึงขึ้นเป็นธรรมชาติ
  • ทำครั้งเดียว เห็นผลยาว 2 ปี
  • แต่งหน้าได้เลยหลังทำ
  • ไม่ทำให้หน้าบางลง
  • ทำได้หลายส่วนในร่างกาย

ข้อเสีย

  • แพงเหมือนกันราคาหมื่นปลาย ถึง หลักแสนปลาย แต่ถ้าเฉลี่ยเป็นเดือนพอรับไหว และเป็นตัวเลือกน่าสนใจ
  • ต้องให้หมอที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านผิวหนังและเลเซอร์ทำเท่านั้น

ทางเลือกอื่นในการยกเครื่องหน้าใหม่

  • มันยังมีตัวเลือกอื่นๆอีกซึ่งต้องศึกษาให้ละเอียด ตั้งแต่เจ้าพวก Ulthera ร้อยทอง

คำแนะนำจากคุณหมอ

– การได้ผลขึ้นกับ 4 องค์ประกอบ ประสิทธิภาพของเครื่องTHERMAGE + ระดับคลื่นความถี่ที่ยิงลงไป + ช็อตในการยิงกี่ครั้ง + การตอบสนองของคนไข้

– หัวทิวป์ในการยิง ใช้ครั้งเดียว ไม่ใช้ซ้ำ ของใครของมัน และต้องเหมาะสมกับพื้นที่บริเวณที่จะทำ

 

ถามว่าวันนี้อายุ 20 ต้นๆ ดีใจไหมที่รู้เร็ว ดีใจเพราะจะได้เก็บเงินรอเลย คนเรามันก็ร่วงโรยไปตามสังขารแต่คงไม่มีใครอยากจะดูสูงวัยเท่าไหร่ก็พยายามเท่าที่พยายามได้ ตอนนี้ก็รักษาสิวอยู่เล็กน้อย และ รอยดำแดงอีกพอสมควร เราจะได้พบกันใหม่เร็วๆนี้ กับเรื่องอะไรที่เอิ๊กคิดว่าเป็นประโยชน์จะนำมาเขียนเล่าอีกนะคะ

XOXO

แหล่งข้อมูล

– ผู้ช่วยศาสตราจารย์แพทย์หญิง รังสิมา วณิชภักดีเดชา

– คนไข้THERMAGEที่ ISKYCENTER

– SOLTA MEDICAL THERMAGE POWER POINT

– ภาพคุณเคลลี่จาก ดีเอ็นเอสกินคลินิค

 

 

Posted in BEAUTY TECHNOLOGY, FACE, THERMAGEComments (0)

BEAUTY TALK : แนะนำหนังสือ3เล่ม สำหรับคนที่”อยากผิวสวย หน้าใสไร้สิว” มีประโยชน์มากโดยเฉพาะคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับสิว

หาซื้อได้ตามร้านหนังสือชั้นนำทั่วประเทศ อาทิ SEED นายอินทร์ค่ะ



เคล็ดลับผิวใสสไตล์ญี่ปุ่น (4 สี) = 220 บาท

สิว Solution (2 สี) = 119 บาท

สิว…ซีเคร็ต (ขาว-ดำ) = 160 บาท

 

 

XOXO


Posted in BOOKComments (0)

Q&A สกินแคร์ยี่ห้อไหนดี เครื่องสำอางตัวไหนเวิค มาดู !!!

สำหรับคำถามยอดฮิตที่ตัวเองเจอมาตลอดเวลาเกือบ 2 ปีนั้นคือ

ผิวแบบนี้ใช้สกินแคร์ยี่ห้อไหนดี งบมีเท่านี้ เครื่องสำอางตัวไหน เวิค !!!!!!!

วันนี้เราจะมาเคลียร์ประเด็นร้อนที่ค้างคาหัวใจใครหลายคนให้ชัดเจน

ก่อนอื่นด้วยความเป็นที่เป็นคนที่ชอบเรื่องราวความสวยความงามมาตลอด มีอะไรก็ศึกษา เรียนรู้ เติมเต็มในปัญหาที่ตนเองอยากรู้เป็นส่วนใหญ่ จะว่าการมาเป็นนักเขียนเป็นกูรูเกี่ยวกับเรื่องความงาม ตอบได้ทุกคำถาม คิดว่าไม่ใช่ เพราะยังรู้น้อยมากในวงการนี้ ความเป็นจริงคือไม่ได้รู้ไปหมดทุกอย่างเกี่ยวกับเรื่องความสวยความงาม 555555 ดังนั้น หลายคำถามตอบไม่ได้ อย่าแปลกใจ อย่าน้อยใจ อย่าเสียใจ แต่พยายามจำตอบให้ได้มากที่สุดเท่าที่รู้

ความรู้ก็หาง่ายมาก ตีซี้กับ GOOGLE คุณจะฉลาดได้มากกว่าเดิมหลายร้อยเท่า

คนที่ถามคำถามนี้ได้กับเอิ๊ก คงต้องเป็นคนที่มีสภาพผิวเหมือนกันมากที่สุด เพราะเอิ๊กถนัดที่จะรู้เรื่องของผิวตัวเองอย่างละเอียด

  • ถ้าคุณเป็นคนผิวแห้งมาก ถึงมากที่สุด
  • ถ้าคุณเป็นคนผิวแพ้ง่าย คือ มีผื่นแดง บวม เวลาแพ้เครื่องสำอาง หรือสกินแคร์
  • ถ้าคุณเป็นคนผิวระคายเคืองง่าย หรือ SENSITIVE SKIN คือ ถ้ามีการระคายเคืองสิวจะขึ้นเม็ดเล็กๆมีน้ำใสๆอยู่ข้างใน
  • ถ้าคุณเป็นคนที่สิวขึ้นง่าย ทุกชนิด
  • ถ้าคุณมีผิวตามนี้ทั้งหมด คุณสามารถ ถามเราได้อย่างไม่เกรงใจใน FANPAGE

สำหรับคนที่ไม่ได้มีสภาพผิวตามนี้เอิ๊กกี้ได้เตรียมหนทางเลือกไว้ให้คุณผู้หญิงและคุณผู้ชายแล้ว

สำหรับปัญหาโลกแตก ใช้ครีมตัวไหนดี ใช้เครื่องสำอางตัวไหนเวิค !!

ในทุกประเทศจะมีเว็บไซด์เพื่อจัดรวมการ REVIEW สกินแคร์ และ เครื่องสำอางไว้ เพื่อเป็นประโชยน์กับคนที่กำลังมองหาทางเลือกใหม่ให้กับผิว

COOL เราสามารถรู้ได้ว่าคนส่วนใหญ่ในประเทศของเรา เค้าใช้อะไรกันส่วนมากแล้วบอกว่าดี จะมีการจัดอันดับไว้ให้เห็น

UNCOOL ต้องดูเปรียบเทียบกันหลากหลายเว็บ เพราะแน่นอน เมื่อเป็นที่รวมตัว ก็ย่อมต้องมีผู้สนับสนุนเนื้อหาในแบบที่เป็นเจ้าของ สกินแคร์ หรือ เครื่องสำอางแบรนด์ใดแบรนด์หนึ่ง และมันเป็นแค่กลุ่มคน ไม่ใช่คนทั้งโลก ดังนั้น วิจารณญาณสำคัญที่สุดค่ะ

ดังนั้น กรุณาดูเปรียบเทียบหลากหลายเว็บไซด์ในด้านความเห็น และเสริทหาความเห็นจากใน GOOGLE ร่วมด้วย จะเป็นการดีมาก ของดีไม่จำเป็นต้องแพง และของถูกไม่จำเป็นต้องดีทุกอย่าง ขอแค่มันใช้แล้วถูกกับเราดีกว่า

ขอแนะนำเว็บไซด์ REVIEW สกินแคร์ และ เครื่องสำอางรายใหญ่ของประเทศไทยมีทั้งหมด 3 เจ้าด้วยกันไม่เรียงลำดับความนิยม

1. http://www.vanilla.in.th/

2. http://www.jeban.com/reviews.php

3. http://www.cosmenet.in/

และพิเศษสำหรับคนที่เป็นสิวไปดูรีวิวกันที่นี่เลย ชอบมากกก

4. http://www.acnethai.com

ขอแถมด้วยเผื่อใครอยากได้ความเชื่อมัน บางแบรนด์ที่ฮิตทั่วโลกก็จะมีREVIEWทุกประเทศ แต่ขอยกตัวอย่างเว็บที่ชอบ 2 เว็บนะคะ

http://www.makeupalley.com/

http://www.totalbeauty.com/

ส่วนตัวจะหาโดย Search จาก GOOGLE ร่วมด้วยค่ะเพื่อความมั่นใจในการเสียตังค์ ฮ่าๆ

ไม่ใช่ว่าไม่รัก หรือไม่อยากตอบ เวลาคนให้แนะนำ แต่ถ้าเกิดแพ้ จะรู้สึกผิดมาก อีกอย่างยังรู้น้อยมากนะคะรู้ดีคือผิวแบบตัวเอง เลยอยากให้ทุกคนไปตั้งใจค้นคว้าเพื่อทำความรู้จักกับผิวตัวเองเรื่อยๆจะได้เก่ง เป็นกูรูของตนเองได้อย่างดี 🙂

สนับสนุนให้ทุกคนดีทั้งรูปลักษณ์และฉลาดที่จะเรียนรู้เพื่อตัวเองค่ะ <3

XOXO

Posted in FACE, MAKE UP, Q&A, SKIN CAREComments (6)

REVIEW การฉีดสาร BOTULINUM TOXIN หน้าเรียว รอบ2

ตั้งแต่เล็กจนโตมา ยี่สืบกว่าปี ก็มีคนชื่นชมและวิจารณ์กับแก้มใหญ่ๆกลมๆของตัวเอง บางครั้งก็รู้สึกดี บางครั้งก็รู้สึกเซไปกับน้ำลายคนอื่นบ่อยครั้ง .. เพราะไม่ใช่ทุกคนที่จะมีจิตวิทยาในการพูด อย่างเช่น คำว่า ” หน้าอืด หน้าบวม หน้าบาน แก้มใหญ่ แก้มบวม ” …….. คนพูดสนุก แต่คนฟังไม่ได้รู้สึกด้วย เป็นความหลังที่ใส่ลิ้นชักไปแล้ว

เพราะเวลาโตขึ้น ความคิดของคนเราก็จะเปลี่ยนไป

ใจเย็นลง คิดเยอะขึ้น รู้ว่าอะไรควรใส่ใจ อะไรควรปล่อยวาง 🙂

สมัยก่อนรู้จักคำว่าศัลยกรรม ก็คืออะไรที่เกี่ยวกับ มีด การเย็บ การผ่าตัด อะไรที่น่ากลัว อะไรที่ต้องใช้เงินมากมาย เด็กอยู่จึงรู้สึกว่ามันห่างไกลมาก

 

 

สมัยนี้ต้องยอมรับว่ามนุษย์มีความสามารถที่น่าทึ่งหลายอย่างในการสร้างเทคโนโลยีทำให้ทุกอย่างมันง่ายขึ้น เร็วขึ้น สบายขึ้น จ่ายน้อยลง เห็นผลเร็วขึ้น ที่สำคัญเทคโนโลยีการแพทย์ทำให้คนเราเจ็บตัวน้อยลง แผลเล็กลง พักฟื้นไม่กี่ชั่วโมงก็สามารถกลับบ้านได้ แต่สิ่งหนึ่งที่คนเราควรเรียนรู้ไปพร้อมๆกับมันก็คือ ” การศึกษาหาข้อมูลให้ละเอียดก่อนที่จะทำอะไรลงไป ” โดยเฉพาะในโลกยุคที่ไม่มีพรมแดนในการหาความรู้ ในเรื่องที่มันอยากเกินตัวเอง ก็อย่าเชื่อในสิ่งที่เห็น อย่าเชื่อใครจนหมดใจ จนกว่าจะได้รู้ข้อมูลมามากพอนะคะ ขอให้ทุกคนโชคดีในเรื่องการตัดสินใจได้อย่างถูกต้อง

 

สำหรับวันนี้ในการ REVIEW ก็เป็นเรื่องที่เอิ๊กไม่คุ้นเคย ไม่ถนัด และไกลตัวมาก อย่างการฉีดสาร BOTULINUM TOXIN ซึ่งจริงๆมันก็คือสิ่งแปลกปลอมเข้าภายในอวัยวะของร่างกายตนเอง ก่อนที่เอิ๊กจะตัดสินใจฉีด อาจจะหาข้อมูลมาได้เพียงด้านเดียวคือ BOTULINUM TOXIN TYPE A เอาไว้ทำอะไร สั้นๆมันก็คือ สารสกัดโปรตีนบริสุทธิ์จากเชื้อแบคทีเรีย ที่จะมีระยะเวลาสลายไปตามกาลเวลา ไม่ใช่ว่าจะไม่มีพิษเลยแต่เราต้องใช้ในปริมาณหลายร้อยขวดถึงจะเกิดอันตราย ในความเป็นจริงด้านความงามเราใช้ไม่เกิน 2 ขวดอย่างมาก 1 ขวดก็เสร็จสิ้นแล้ว กับการสร้างความมั่นใจให้กับใบหน้า ไม่ว่าจะลดริ้วรอยอันไม่พึงประสงค์ ลดขนาดอวัยวะให้มันเล็กลง ลดขนาดกล้ามเนื้อแนวขากรรไกร

สิ่งสำคัญมากที่สุด อีกเรื่องคือการเลือกแพทย์ ดีนะที่มันเป็นเรื่องชั่วคราว ไม่ใช่เรื่องถาวรไม่งั้นคงต้องน้ำตาตกใน

 

วิธีการฉีดสาร BOTULINUM TOXIN เพื่อลดขนาดกล้ามเนื้อแนวขากรรไกร (หน้าเรียว) ก็คงแล้วแต่เทคนิคของแพทย์แต่ละท่าน ส่วนมากก็จะฉีดบริเวณแนวขากรรไกร ซึ่งสารพวกนี้นับเป็น UNIT จะฉีดกี่ UNIT คุณหมอจะเป็นคนพิจารณาเอง การเลือกยี่ห้อสารชนิดนี้ก็แล้วแต่งบดุลในกระเป๋าตังค์เราด้วย เพราะยี่ห้อต่าง ราคาก็ต่าง ที่ฮิตในไทย คงมี 3 ยี่ห้อใหญ่ซึ่งผ่านอย.และอยู่มายาวนานตั้งแต่ 4 – 10 ปีขึ้นไป ได้แก่ BOTOX (USA) / DYSPORT (EUROPE) / NEURONOX (KOREA)

ก่อนฉีด

รอบแรกที่เอิ๊กฉีดเป็นของ BOTOX จำนวน 50 UNIT ผลที่ได้เห็นผลชัดภายใน 3 สัปดาห์ (ซึ่งจำนวนUNIT&การเห็นผลแต่ละคนต่างกันมากนะคะ)

หลังฉีด ผ่านมา 1 เดือนกว่า แก้มหายไปเลยทั้งที่ไม่ได้ไปทำอะไรกับแก้ม เป็นผลพลอยได้ที่ปรารถนามาก แต่มุมปากตกข้างนึง รอยยิ้มแปลก ดูแหย ทั้งที่ยิ้มปกติเลย รู้สึกขาดความมั่นใจไปหลายเดือนมาก

หลังฉีด ผ่านมา 5 เดือนกว่า ใบหน้าเริ่มกลับมาปกติสำหรับรอยยิ้ม แต่หน้าไม่ได้มีขนาดเท่าแต่แรก

 

จนกระทั่งครบ 6 เดือนเป็นเวลาที่คนส่วนใหญ่บอกว่า BOTULINUM TOXIN สลาย จึงไปจัดมาครั้งที่ 2 คราวนี้ได้คุณหมอที่หาข้อมูลมาอย่างดีฉีด คุณหมอแนะนำให้ใช้ของเกาหลี หรือ NEURONOX โดยให้เหตุผลในการฉีดว่ามีปัญหาเรื่องมุมปากตก ของเกาหลีจะมีขนาดโมเลกุลจะเล็กกว่า BOTOX (USA) การกระจายตัวน้อยกว่าจะได้ไม่ไปกระทบกับผลข้างเคียงเดิมคือมุมปากไม่เท่า และผลคือ ไม่มีผลกระทบใดเกิดขึ้นรอยยิ้มกลับคืนสู่ความเป็นธรรมชาติ

UNCOOL NEURONOX ที่พบซึ่งคุณหมอบอกว่าอาจจะเห็นผลช้าประมาณ 2 เดือน ตอนนี้ผ่านมา 3 อาทิตย์กว่าไม่รู้สึกว่ามันเล็กลงอย่างเห็นได้ชัดเหมือนครั้งแรกเดี๋ยวครบ 2 เดือนจะมาเล่าให้ฟังอีกครั้งนะคะ

COOL ไม่ปวดเวลาเคี้ยวเนื้อแข็งๆ ของแข็ง ปกติเมื่อก่อนเมื่อยมากทรมานมาก บางครั้งหัวเราะมากๆก็เมื่อยขากรรไกร ตอนนี้ไม่เป็น มีความปกติสุข

ส่วนความหวังอยากให้มันเล็กลงเยอะๆ รอบนี้ลุยไป 60 UNIX แต่คุณหมอเก่งมาก ใบหน้าดูสมดุลสมส่วนมาก เทียบกับที่ผ่านมา รอบหน้าคงไม่เปลี่ยนแพทย์แล้วค่ะ ราคาไม่แน่ใจที่อื่นเป็นยังไง ที่นี่ 50 UNIT อยู่ที่ 8,000 บาท ของเอิ๊กก็เพิ่มเงินนิดหน่อย เอิ๊กฉีด โบท็อคและฟิลเลอร์ที่เดี่ยวกันนะคะ ฉีดที่ ISKY CENTER กับคุณหมอรังสิมา

 

การดูแลหลังการฉีด (หาข้อมูลมาจากบทความทางการแพทย์หลายๆเว็บไซด์)

1. ห้ามโดนความร้อน อบไอน้ำ

2. ห้ามทำเลเซอร์ นวดหน้า ขัดหน้า ทรีทเมนท์ภายใน 2 สัปดาห์แรก

3. ห้ามดื่มแอลกอฮอล์เพราะอาจสลายฤทธิ์ยา

4. ห้ามนอนราบภายใน 4 ชั่วโมงหลังทำ

5.ห้ามเคี้ยวหมากฝรั่ง เนื้อแข็งๆ (จะช่วยยืดระยะเวลาตัวยาออกไปให้อยู่นานขึ้น)

อาจมีอย่างอื่นอีกมั๊งไม่แน่ใจ แต่ตามนี้เราปฎิบัติตามอย่างเคร่งครัด 🙂

 

ขอให้ใบหน้าสวยใส จงเป็นของทุกคนค่ะ 😀 แล้วพบกันใหม่กับบทความหน้า

XOXO

Posted in BEAUTY TECHNOLOGY, BOTOX, FACEComments (20)

REVIEW AVIANCE ADVANCED BRIGHTENING BIO CELLULOSE MASK มาส์คฟื้นฟูผิวล้ำลึกเร่งด่วยภายใน 5 วัน

 

XOXO

Posted in FACE, REVIEWComments (2)

GET THE RIGHT START ! : ข้อมูลก่อนทำโบท็อกซ์ และ REVIEW การทำโบท็อกซ์หน้าเรียว 6 เดือน

การฉีด BOTULINUM TOXIN รอบ2 เพราะได้ระยะเวลา อีกนับนึงคือแก้ปัญหามุมปากตกข้างนึง แคบข้างนึง ได้ความรู้เยอะมาก ” ตั้งแต่ก่อนอื่นต้องเรียกอยากถูกต้องว่า BOTULINUM TOXIN ไม่ใช่ BOTOX เนื่องจากชื่อ BOTOX เป็นชื่อยี่ห้อของสาร BOTULINUM TOXIN ทางฝั่งอเมริกา เหมือนเครื่องถ่ายเอกสารซีรอก (มาจากยี่ห้อฟูจิซีรอก) เป็นผลพลอยได้ทำให้ชื่อแบรนด์กลายเป็นคำเรียกติดปาก ถือว่า แบรนด์ประสบความสำเร็จมาก  “

ตอนนี้เท่าที่รู้เมืองไทยผ่าน อย. มา 3 ประเทศ อเมริกา ยุโรป เกาหลี ดังนั้นศึกษาให้ดี และความเข้าใจผิดอีกอย่างคือ ยี่ห้อไหนดีที่สุด ความจริงแล้ว การรู้เรื่องระบบกล้ามเนื้อสำคัญ เพราะมันแบ่งเป็นมัด และวางเรียงตัวแต่ละส่วนบนใบหน้าไม่เหมือนกัน แพทย์เท่านั้นใช้เทคนิคไหนฉีดแก้ปัญหาให้เรา และ ยี่ห้อมีส่วนในเรื่องของโมเลกุลการกระจายตัวด้วย ยิ่งกระจายตัวมาก โอกาสออกผลอาจจะเยอะ แต่ถ้าพลาดไปก็เป็นแบบเอิ๊กค่ะ ” คือมุมปากตก มุมปากแคบข้างนึง “

วันที่ 12 เมษายน 54 – ฉีดรอบแรก

วันที่ 10 ตุลาคม 54 – ฉีดรอบสอง (ยังรึวิวไม่ได้)

การเห็นผล – ใบหน้า และการตอบสนองแต่ละคนไม่เหมือนกัน เอิ๊กมักจะเห็นผลตั้งแต่ 3 อาทิตย์เป็นต้นไป และยี่ห้อไม่แน่ใจว่าจะมีผลไหม ยังไงเดี๋ยวได้ทราบกันวันที่ 1 พย. นี้ถ้ายังไม่ได้ผล แสดงว่าใบหน้าเอิ๊กตอบสนองกับ BOTULINUM TOXIN ยี่ห้อที่ 2 ช้า รอบนี้ไปทำที่ ISKYCENTER ฉีดกับผู้ช่วยศาสตราจารย์ รังสิมา โดยตรง วันเดียวกับที่ฉีด FILLER ราคาทั้ง 3 ยี่ห้อ แตกต่างกันไป เอิ๊กฉีดยี่ห้อที่เหมาะกับเอิ๊กซึ่งคุณหมอแนะนำมาในการแก้ปัญหามุมปากตกไม่ให้เกิดซ้ำอีก ทุกวันนี้ส่องกระจกทุกวัน ดูว่ารอยยิ้มตัวเองเปลี่ยนรึเปล่า สำหรับการฉีดแล้วเกิดปัญหาอะไร CLICK

เมื่อได้มีโอกาสไปฉีดกับระดับอาจารย์เลยขออนุญาตสัมภาษณ์เพิ่มเติมเป็นวิทยาทานให้กับตัวเองและคนอื่นที่สนใจเพิ่มเติมค่ะ สำหรับคลิปวีดีโอเกือบทุกชิ้นของเอิ๊ก อาจไม่สนุก แต่อัดแน่นไปด้วยความตั้งใจ และ พยายามให้คนที่ดูได้รับประโยชน์ในแต่ละครั้งค่ะ และครั้งนี้ก็เช่นกัน คิดคำถามเอง แม้คุณหมอเองมีเวลาน้อยมากเพราะไปธุระต่อ แต่คุณหมอก็ให้เวลาสัมภาษณ์ 30 นาที 2 เรื่องเลย FILLER และ BOTULINUM TOXIN

บทสัมภาษณ์ผู้ช่วย ศาสตราจารย์ รังสิมา วณิชภักดีเดชา

1.การฉีด BOTULINUM TOXIN ทราบว่าต้องรู้จักกล้ามเนื้อเป็นอย่างดี อยากทราบว่าสาขาเกี่ยวกับกล้ามเนื้อเรียนยากไหมคะ ?

2. คุณหมอเริ่มฉีดโบทอกมานานแล้วรึยังคะ ?

3. BOTULINUM TOXIN คืออะไรทั้งแน่แง่สุขภาพและความงาม

4.ส่วนมากคนไข้ที่มาฉีดสาร BOTULINUM TOXIN เขามีปัญหาตรงจุดไหนกันเป็นส่วนใหญ่

5. BOTOX กับ FILLER ทำงานต่างกันยังไงคะ

6. ก่อนจะเริ่มฉีด BOTULINUM TOXINควรรู้เกี่ยวกับเรื่องอะไรบ้างคะ

7. BOTULINUM TOXIN ก่อให้เกิดผลข้างเคียงไหมระยะสั้นหรือยาวไหมคะ เพราะหนูเองมุมปากตกข้างนึง

8. ถ้าเกิดเหตุการณ์สุดวิสัยฉีด BOTULINUM TOXIN แล้วผิดพลาด ใบหน้าไม่เท่ากัน มีวิธีแก้ไขไหมคะ

9. ทราบมาว่าโบทูลินัมทอกซินมีหลากหลายยี่ห้อ ยี่ห้อไหนดีที่สุดคะ

10. มีอายุเท่าไหร่ถึงเริ่มทำได้ค่ะ

11. อยากให้คุณหมอฝากคำแนะนำสำหรับคนที่สนใจเรื่องโบทอกซักนิดคะ

12. เคล็ดลับการดูแลผิวพรรณใบหน้าและลำตัวของคุณหมอ เพราะคุณหมอผิวสวย ออร่าประกาย เนียนมากทั้งที่ไม่เคยรับประทานกลูต้า สืบมาแล้ว


ต้องขอขอบพระคุณผู้ช่วยศาสตราจารย์ รังสิมา วณิชภักดีเดชาสำหรับข้อมูลอันเป็นประโยชน์เหล่านี้มากค่ะ

 

 

 

ก่อนไปจัดภาพนิ่งให้นิดนึง REVIEW การทำ BOTULINUM TOXIN รอบแรกที่ไม่ฉีดกับคุณหมอนะคะ พอใจมากที่สุดในแง่ใบหน้าเล็ก

 

 

ฉีดจริง

ก็ไม่ได้เอาแก้มออกนะคะ ยังมีอยู่ BABY FAT เราหวงอยู่แล้ว 🙂

 

 

 

XOXO

 

 

มีคำถามอะไรขอให้ทิ้งไว้ที่ FANPAGE นะคะ

Posted in BEAUTY TECHNOLOGY, BOTOX, FACE, REVIEWComments (1)

GET THE RIGHT START ! : REVIEW การฉีดฟิลเลอร์คาง และสิ่งที่คุณควรรู้ก่อนทำฟิลเลอร์

 

 

 

 

ย้อนไปเมื่อหลายอาทิตย์ก่อนระหว่างนั่งดูคุณนกตีสิบกับรูปลักษณ์โฉมใหม่ที่เธอได้พยายามจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง เพียงเพราะโดนผู้ชายห่วยๆคนนึงทิ้งไปเพราะว่าเธอสวยน้อยกว่าผู้หญิงคนใหม่ .. หลังจากเห็นโฉมหน้าหลังศัลยกรรมยกเครื่องหน้าใหม่ ตัวเองเหมือนโดนสะกด หลังจากวันนั้นใช้เวลาทุกวันเป็นเวลาหลายอาทิตย์ในการเข้า เว็บสังคมออนไลน์ที่เกี่ยวกับการทำศัลยกรรมของไทยเรานี่ละ มีผู้คนมากมายมาแลกเปลี่ยนความคิดเห็น พูดคุย แนะนำ และ เผยภาพก่อน – หลังการทำศัลยกรรม


ทุกวินาทีทำให้เราคิดเรื่องที่ไม่เคยคิด อยากในเรื่องที่เคยคิดว่าจะไม่ทำเพียงเพราะเวลาเราเห็นอะไรที่ดูดี เราก็อยากจะดูดีบ้าง ทั้งที่ตัวเองก็ควรจะภูมิใจที่มี 32 ประการครบ ทุกอย่างน่าจะพอดี ก่อนหน้านี้ 6 เดือน ก็โดนกระแสการทำโบทูลินัมทอกซินจากรุ่นพี่ใน Facebook คนนึงเป็นคนมีชื่อเสียง เธอเป็นคนที่สวย มีเสน่ห์ น่ารัก และเป็นคนมีแก้ม หลังจากเธอไปทำโบทูลินัมทอกซิน ลดขนาดกล้ามเนื้อแนวขากรรไกรมาก็กลับมา ” สวยโคตร ” ความรู้สึกโชคดีของผู้สาวแก้มใหญ่ก็มาถึงคือ ” อยากบ้าง อะไรบ้าง “


ตอนนั้นก็รู้สึกว่าโชคดีที่ตอนดัดฟันแล้วไม่ยอมถอนฟันเพียงเพราะให้ใบหน้าดูเรียวลงเนื่องจาก แอบคิดว่า พอถึงเวลาที่เราแก่ฟันเรามันก็ร่วงอยู่แล้ว ถ้าถอนเยอะไป แล้วตอนแก่จะเหลืออะไรให้หลอ จะเค้ียวข้าวลำบากไหม (คิดการณ์ไกลมาก) ก็ยอมหน้ากลมมา 23 ปี มามีประสบการณ์การทำ โบทูลินัม ทอกซิน ตอนอายุ 23 ปี 11 เดือน แล้วมันเกี่ยวอะไรกับฟิลเลอร์ คือ ขอท้าวความก่อนก้าวเข้าสู่สังเวียนการทำศัลยกรรมขนาดย่อม ?

โดยเริ่มจากการอยากมีใบหน้าที่เรียวยาว เนื่องด้วยเวลาถ่ายรูปอะไรก็แล้วแต่ที่มีตากล้อง จะโดนบังคับทำร้ายจิตใจ ให้ก้มหน้า แบนหน้าให้เอียงให้มากที่สุด ก้มแทบคางจะติดกับเหนียงที่คออยู่แล้ว .. เพราะเค้าบอกว่าเรา ” หน้าบาน “


เกลียดคำพวกนี้มาก ” หน้าบาน หน้ากลม หน้าอ้วน หน้าอืด “ คิดในใจ

(ทำไมอะไรกับตูนักหนาวะ)

เลยไปอัดโบทูลินัมทอกซินเข้าที่กล้ามเนื้อแนวขากรรไกร เนื่องด้วยอาชีพพนักงานเอกชน เงินเดือนน้อยนิด เนื่องด้วยความต้องการอยากดูแลแม่ให้ดี เลยยกเงินเดือนให้แม่ครึ่งนึง ดูแลค่าใช้จ่ายในบ้านเกือบทุกอย่างยกเว้นค่าน้ำ เราก็เลยมองหาเรื่องราคาเป็นอันดับหนึ่ง แต่ยาต้องคุณภาพสุด ดีที่สุด เลยไปจบที่โรงพยาบาลรัฐบาลที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง (ขอไม่บอกนะคะ เพราะเดี๋ยวเขาเสียหาย) ด้วยคำแนะนำจากพี่สาวที่เรารู้จักและนับถือ พี่เขาจะเป็นคนแนะนำสิ่งที่ดีให้เราตลอด


สรุปได้ราคาต่ำกว่าคลินิคปกติเกือบครึ่ง ” วิธีการคือไปถึง ไปนอนที่เตียงแล้วมีนร.แพทย์ยืนเรียงดูตอนเราฉีด (คือไม่ทราบมาก่อน) เราก็รีบนอน แล้วเขาผสมตัวยาเสร็จ แล้วนำหมึกมาจิ้ม ทำมาร์คไว้ก่อนว่าจะฉีดตรงไหน ประมาณ 5 จุด หลังจากนั้นก็ฉีดเข้าใบหน้าเรา 5 ครั้ง โดยไม่ได้มีการโปะยาชา (เพราะมันราคาถูกไงคะ) เรารู้สึกว่าปวดมาก เวลายามันวิ่งเข้ากล้ามเนื้อ เสร็จปุ๊บ คือให้ลงจากเตียงแล้วกลับบ้านได้ “


สรุปคือเรียวสมใจมาก แต่มันมีผลกระทบซึ่งสำหรับตัวเรารู้สึกโชคดีคือมันจะสลายแน่นอน 6 เดือน แต่ตอนนั้นต้องทนกับการมีรอยยิ้มที่ ” มุมปากตกไปข้างนึง “ มุมปากไม่เท่ากัน แก้มข้างนึงแคบ ข้างนึงปกติ เหตุเกิดเพราะมีคนทัก โดยส่วนตัวไม่รู้เลย

ก่อนทำเป็นคนที่รอยยิ้มมีความสมดุลอยู่แล้ว พอหลังทำสังเกตุมุมปาก และขอบร่องแก้มไม่เท่ากัน ชีวิตจริงเห็นชัดกว่านี้ เพื่อนทักมาคำนึง ” ทำไมยิ้มแปลกไป ” “ทำไมยิ้มเหมือนเสแสร้ง”

คือคนยิ้มเนี่ย งง ฉันยิ้มของฉันปกติ

ส่วนปัจจุบัน กลับมาจะครบ 100 % แล้วค่ะ แต่รู้สึกว่าหน้าไม่ใหญ่เท่าตอนแรกก่อนฉีด


คือตอนแรกอาจจะพบว่าคางไม่ค่อยมี หน้าดูมีแก้มและผสมเหลี่ยมนิดๆพออินเทรนด์ แต่หลังโบทูลินั่มทอกซิน ค้นพบว่าตัวเองมีความสุขมากในการดำเนินชีวิต แม้ไม่ใช่ดารา หรือ บุคคลมีชื่อเสียง แต่ไม่ขอปฎิเสธว่าอยากเป็นคนที่ดูดีคนนึง ดังนั้นเพื่ออะไรก็ได้ที่ทำแล้วดูดีเข้ารูปขึ้นเราก็ยอม


มาเข้าเรื่องที่ฟิลเลอร์ เมื่อก่อนอาจจะหาข้อมูลมาน้อยว่าโบทูลินั่มทอกซิน ผลกระทบมันคืออะไร ของเราโดนในแง่ที่มุมปากข้างนึงตก ไม่ถึงกับปากเบี้ยว ดังนั้น สำหรับโบทูลินั่มทอกซิน ทำต่อไปเรื่อยๆแน่นอนค่ะ แต่คงไม่ใช่ที่เดิมแน่นอนค่ะ ตอนนี้จะเลือกเอกชนที่มีความเป็นส่วนตัวไม่ต้องไปนอนให้ใครเห็น ( อายมาก )


ฟิลเลอร์ก็มาอยากทำให้คางตัวเองดูยาวขึ้นเพราะเห็นคนอื่นทำ ทั้งที่พอหน้าเรียวแล้วก็จะดูมีคางเรียวยาวเอง แต่ก็อีกนั้นแหละ ดูทีวี เสพย์สื่อมากไป มากไปจริงๆ ถึงขนาดโทรไปถามที่ๆจะไปทำว่ามีบริการฉีดเสริมให้คางยาวไหมคะ พอเค้าบอกว่ามี ไม่ใช่ว่าเราจะไปทำเลย เราก็ยังนั่งอยู่ในโลกเว็บออนไลน์ทำศัลยกรรมต่อ ดูและพิจารณา ถามจิตถามใจ ” จะเอาไหม ? ” สรุปก็ไปจัดซัก 1 เข็มฉลองน้ำท่วม


ทีนี้มารู้จักก่อนว่าไอเจ้า ” ฟิลเลอร์ “ คืออะไร

” ฟิลเลอร์ หรือ ไฮยาลูรอนิก แอซิด หรือ ไฮยารูรอน เป็นสารประกอบน้ำตาลเชิงซ้อนที่มาเรียงต่อกันเป็นสาย ในผิวเราหนังของคนเราตามธรรมชาติจะมีสารนี้อยู่เป็นปกติ ซึ่งสารนี้มีคุณสมบัติในการดึงดูดน้ำ ทำให้ผิวหนังอิ่มเอิบ อวบอิ่ม มีความยืดหยุ่น ”

(ที่มา : http://www.p10surgery.com/)

โอเครู้ประมาณนี้นะเดี๋ยวจะงง ยิ่งคนทำอ่านมากจะงงมาก เลยเอาพอดีดี แต่สิ่งที่กังวลคือผลกระทบ เดี๋ยวเหมือนน้องโบทูลินั่มทอกซินอีก

รอบนี้ถามคุณหมอเลยค่ะ ไม่รอแล้ว ถามตรงๆแบบขอความจริงจะได้ตัดสินใจถูก ตรงข้อมูลอันเป็นประโยชน์นี้ต้องกราบขอบพระคุณ ผู้ช่วยศาสตราจารย์รังสิมา ที่ให้ข้อมูลในครั้งนี้เพื่อการเผยแพร่เป็นความรู้สำหรับที่อยากทราบข้อมูล หรือคนที่สนใจคิดจะทำ





หลังจากได้รู้ข้อมูลเสร็จจัดไปกับคางใหม่เดี๋ยวนั้นเลย หลังจากนอนไม่หลับเป็นเดือน เอาซะจะได้เลิกบ้า (ฮ่า ) รอบนี้จัดที่ ISKY และทำกับคุณหมอรังสิมานี่ละค่ะ เพราะพนักงานบอกว่าคุณหมอคนไข้มาฉีดเยอะมาก นึกในใจ ทำไมเราไม่เคยถาม ทั้งที่ไปให้คุณหมอยิงเลเซอร์บ่อย – – ” ฟิลเลอร์ราคาพอกับโบทอกเลย ราคาแล้วแต่ยี่ห้อ แล้วแต่สถานที่ ที่เคยถามมาไม่ควรเกิน 15,000 บาท จะแพงมากไป ของที่นี่ก็มี 2 ราคา 2 ยี่ห้อ 11,000 กับ 14,000 บาท เรื่องยี่ห้อไม่ได้ศึกษา ศึกษาแต่หมอ และผลกระทบ เพราะกลัวมากกลัวเจอแบบโบทูลินั่ม รอบก่อน


ไปถึงก็มีพี่ๆพนักงานให้ไปทำความสะอาดใบหน้า ไม่เคยมาล้างหน้าที่นี่เลย เพราะทำเลเซอร์ไปแบบเปลือยสุดชีวิต คุณหมอเป็นลมทุกครั้ง ฮ่าๆ


ที่ล้างหน้ามีตั้งแต่สูตร แพ้ง่าย ผิวธรรมดา ผิวมัน ของเราต้องล้างขวดขาวใสโลด เชื่อไหมว่าเป็นโรคกลัวแพ้ แม้กับของหมอเองก็ระแวงก่อนอะไรที่ไม่เคยใช้ ใช้แต่น้อย แล้วล้างน้ำเยอะๆ 5555555555

ระหว่างรอคุณหมอ ก็ให้พี่เมย์สุดที่เลิฟ ถ่ายรูปให้หน่อยจะนำไปลงบลอค พี่ๆพนักงานก็มาทายาชา ตื่นเต้นมากไม่เคยโดน โดนซะ รอไป 1 ชั่วโมง หลับรอ 🙂

วันนี้จัดเต็มค่ะ ฟิลเลอร์คางยาว โบทูลินั่มทอกซินหน้าเรียว


คำแนะนำก่อนทำ คุณหมอไม่อยากให้ทำ อยากให้ทำอย่างเดียวก่อนคือ โบทูลินัมทอกซินเนื่องจากมันหมดฤทธิ์ของเก่าแล้วเลย 6 เดือนแล้วพอดี อยากให้รอดูผลแล้วค่อยเติมฟิลเลอร์ที่คางจะได้พอดี เพราะถ้าคางยาว แต่มันจะดูยาวกว่าเดิมอีกถ้าเกิดหน้าเรียวเข้าที่แล้วและมันจะดูเหมือนหนู แต่คนไข้ดื้อ อยากดูเลย เพราะมันไกลด้วย มาไม่บ่อย เพราะคุณหมอคนไข้เยอะ  T^T

คุณหมอก็บอกแค่ว่า หมอเติมให้นิดเดียวนะคะ เอาธรรมชาติที่สุด เอาเล็กๆ ระหว่างฉีดขนาดโปะยาชาเป็นเวลานาน แต่มันปวดมาก มือคุณหมอนิ่มมาก แล้วคุณหมอก็พูดเสียงนุ่มๆ สะกดจิตเราตลอดเวลา ว่าจะเสร็จแล้วนะ อีกนิดนึง อีกนิดนึงนะ ใกล้แล้ว อีกนิดเดียว ตัวเราเองหลับตาปี๋ มันปวดจริงๆนะคะ รู้สึกแค่ตัวยามันวิ่งเข้ามาจึงปวด ไม่ถึง 5 นาทีทุกอย่างเรียบร้อยด้วยฝีมือการปั้นคางของคุณหมอรังสิมา

เป็นไงคะ หลังทำมันบวมเลยทันที ตอนนี้ยังไม่เข้าที ต้องรอประมาณ 5 วันห้ามโดนอะไรร้อนๆ ห้ามนวด ขัด หรือทำอะไรกับใบหน้า แต่งหน้าได้ปกติ ไม่มีแผลใหญ่ มีแผลคือรอยเข็ม รูเท่าจิ๊มิ๊มดแดง

แล้วมันก็หายบวมในที่สุดหลังจากนั้น 10 วัน คือ ตัวเองดูไม่ออก แต่เมื่อถ่ายคลิปเห็นชัดมากค่ะ

วัดให้เห็นกันไปเลย ยาวขึ้นแบบมันดูเป็นวงรีเลย อยากให้โบทูลินัมออกฤทธิ์ไวไว จะได้ดูเห็นชัดกว่านี้แน่นอน

ดูคลิปนี้แล้วจะรู้ว่าคางเปลี่ยนไป


สรุปรอบหน้าจะทำฟิลเลอร์คางอีกหรือไม่ คิดว่า “อาจจะทำ หรือ อาจจะไม่ทำ” 50/50 เพราะเมื่อใดก็ตามที่หน้าดูเรียว คางก็ยาวขึ้นมาเอง ขอคิดอีกที ก็มันปวดนี่นา (ฮา)


หวังว่าคงถูกใจใครหลายคนนะคะ ในการเปิดเผยเคล็ดลับ ที่แก้มหายไปบางคนอาจจะบอกว่าแบบเดิมดีกว่า แต่เรามีความสุขกับแบบนี้มากกว่า นั้นทำเถอะ เพราะเราต้องเห็นหน้าตัวเองทู๊กวันนนนนนนนนนนน

XOXO



คราวหน้ามาต่อกันที่ BOTOX ถ้ามันเห็นผล ถ้ามันยังก็ฟังสัมภาษณ์ของคุณหมอไปก่อน เป็นคนไข้ แล้วก็ขอคุณหมอเป็นนักเรียนด้วยให้คุณหมอสอนทุกอย่างเลย 🙂



Posted in BEAUTY TECHNOLOGY, CHEEKS, CHIN, FACE, REVIEWComments (4)

GET THE RIGHT START ! ตรวจสภาพผิวเพื่อรอคุณหมอปรุงครีมบำรุงผิวของตัวเองคนเดียว :)

วันนี้ก็นำทุกคนเข้ามาสู่เรื่องราวของผิวพรรณเช่นเคย ปีที่ 2 และ ปีหน้าปีที่ 3 เอิ๊กจะเน้นเขียนเรื่องราวความสวยความงามที่ชื่นชอบ และเรื่องราวความสวยความงามด้านอื่นที่ตัวเองสนใจ อยากรู้ อยากศึกษาเพิ่มเติมเพื่อนำมาแบ่งปันเพื่อนๆนะก๊ะ

อันนี้เป็นบทความที่ดองไว้เกือบ 2 เดือนเกี่ยวกับความประทับใจส่วนตัวในเรื่องของการตรวจสภาพผิวเพื่อหาแนวทางการบำรุงผิว การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ และการหาแนวทางป้องกันผิวแต่ละแบบได้อย่างเหมาะสม เพราะปัญหาผิวพรรณมีหลากหลาย ตั้งแต่ สิว จุดด่างดำ ความหมองคล้ำ รอยแผลเป็น รอยแดงรอยดำ แผลตื้น แผลหลุม ผิวที่มีริ้วรอย

ถ้าเรารู้ว่าเรามีผิวแบบไหน เราจะสามารถดูแลตัวเองได้อย่างถูกต้องในแง่ของการศึกษาหาข้อมูลเพิ่มเติม ประกอบกับหาอ่านคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญ คำแนะนำของเพื่อนมาประกอบกับการตัดสินใจโดยมีความรู้เป็นคลังข้อมูลส่วนตัวเป็นพื้นฐานก็จะทำชีวิตเราเดินทางได้ถูกต้อง บำรุงผิวได้ถูกจุดมากขึ้น ปัญหาผิวที่ว่ายากก็จะดีขึ้นหรือหายไปด้วยตัวของเราเอง แค่เพียงเราใส่ใจ เปิดใจที่จะเรียนรู้ เราก็สามารถจะดูแลตัวเองได้ดีในระดับนึงทีเดียว

ถ้าถามว่าตอนนี้ดูแลผิวหน้ายังไงต้องบอกว่าส่วนหนึ่งงดยาทุกชนิด และมุ่งหน้ามาสู่ระดับการรักษาที่บ้านด้วยตัวเองตั้งแต่ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ เน้นอ่อนโยน ธรรมชาติ หรือแนวสมุนไพรไทยเป็นหลัก แต่อีกแง่หนึ่งยังคงต้องพึ่งแพทย์ที่เชี่ยวชาญเฉพาะด้านกับการใช้ Cosmetic Laser Surgery มาดูแลรอยแผลบ้าง กรณีถ้ามันเยอะมากจนทนไม่ไหว เพราะเมื่อเกิดสิวเมื่อไหร่ เมื่อนั้นถ้าเม็ดใหญ่ก็ย่อมมีแผลแดงทิ้งไว้ และประกอบกับนิสัยชอบเค้นสิว (กรุณาอย่าทำตาม)
การรักษาที่ISKYตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้เป็นเวลาเดือนกว่าปลายสิงหาเดือนนี้เดือนตุลา  การที่ได้เข้าไปคลุกคลีกับแพทย์ผิวหนังทำให้ความสนใจส่วนตัวเปลี่ยนไป อยากรู้เรื่องราวเกี่ยวกับผิวหนังมากขึ้นและแนวทางการรักษาทุกกรณี การที่จะเลือกแพทย์สิ่งหนึ่งเป็นตัวตัดสินใจ นั้นก็คือ ผิวพรรณ ของแพทย์ที่รักษา แพทย์คนไหนมีผิวพรรณที่สดใส ไร้สิวฝ้า แทบไม่ต้องบอกสิ่งใด เราจะเชื่อโดยอัตโนมัตเพราะเราถือว่าแพทย์ท่านนั้นดูแลตัวเองได้ดีมาก ไม่แปลกถ้าจะบอกอะไรแล้วคนไข้อย่างเราจะเชื่อ แต่อย่างที่บอกถ้าเป็นปัญหาผิวของเราควรมีการสังเกตุตัวเองร่วมด้วย สิ่งไหนที่คุณหมอท่านสอน คุณหมอท่านบอก จะมาหาข้อมูลอ่านเพิ่มเติมเอาเองตลอด เพราะครั้งแรกที่ปรึกษา คุณหมอท่านก็บอกเราแล้วว่าคนไข้ควรมีการศึกษาเพิ่มเติมร่วมกันการรักษาจึงมีประสิทธิภาพ

และในการตรวจสภาพผิวครั้งนี้ตรวจเพื่อ “ ปรุงยาสูตรเฉพาะ หรือ เวชสำอางครีมบำรุงสำหรับคนแต่ละคน “ ในห้องกระจกใส ซึ่งทีนี่มองว่าเพราะผิวของคุณไม่เหมือนผิวของใคร ดังนั้นการที่จะทำสวยแต่ละครั้งก็ต้องมีการเริ่มต้นหรือทำอย่างถูกวิธี ซึ่งเป็นแนวคิดจากทีมแพทย์ทั้งหมดของที่นี่ที่ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ นั่นเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้รู้สึกว่าที่นี่แตกต่างจากทุกที่ที่เคยหามาทั้งหมด 5-6 ที่ ไม่แน่ใจว่ามีที่ไหนอีกหรือไม่ ถ้าใครเห็นว่ามีก็แชร์ได้นะคะ


ในความทรงจำตลอด 12 ปีที่ผ่านมาในการเดินเข้าออกคลินิคผิวหนัง หรือสถาบันรักษาผิวหนัง เป็นปกติที่ทุกสถาบันหรือคลินิคผิวหนังจะจ่ายยาตามสูตรมาตรฐานตามสภาพผิวหรือปัญหาผิวที่เกิดขึ้นโดยให้ยาหรือครีมใช้กับคนไข้ที่มีลักษณะสภาพผิวที่คล้ายคลึงกัน บางตัวเหมือนกัน บางตัวต่างกัน เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการรักษาสำหรับคนไข้แต่ละคน
สำหรับการรักษาที่ISKYจะคล้ายกับทุกที่คือมีตัวยาเวชสำอางพื้นฐานให้กับคนไข้แบ่งตามสภาพผิวตั้งแต่ผิวมัน ผิวผสม ผิวธรรมดา ผิวแห้ง ผิวแพ้ง่าย เช่นกัน ที่แตกต่างคือ นอกจากการตรวจสภาพผิวอย่างละเอียดด้วยการฉายแสงดูปัญหาภายใต้ชั้นผิว ก็จะมีการตรวจสภาพผิวภายนอกที่จับต้องได้ด้วย ตรวจสีผิว ตรวจสภาพผิว ความยืดหยุ่นของผิว ฯลฯ เพื่อที่จะวิเคราะห์และสั่งการปรุงยาพิเศษที่เหมาะกับเราที่สุดเพื่อนำไปบำรุง เสริมความแข็งแรงของผิว และแก้ปัญหาผิวที่เรามีอยู่อย่างถูกต้องและเหมาะสมตรงจุดที่สุด


เริ่มโดยหลังจากการปรึกษาคุณหมอเรียบร้อย ก่อนจ่ายยาคุณหมอจะถามถึงสภาพผิว ในกรณีที่ผิวระคายเคืองแพ้ง่ายอย่างเอิ๊ก มองด้วยตาเปล่าอาจจะรู้ว่าแห้ง คุณหมอจะให้ตรวจด้วยเครื่องตรวจสภาพผิวเพิ่มเติมเพื่อดูว่าจำเป็นจะต้องสั่งยาครีมบำรุงปรุงพิเศษให้ไหม ซึ่งคุณหมอจะจุดสูตรให้เภสัชกรในห้องกระจกจัดการทำขึ้นมาให้เรา ในการตรวจเครื่องตรวจจะมีหน้าตาเป็นแบบนี้ หลายสิ่งระโยงระยาง


1. ตรวจสีผิว (PIGMENT/MELANIN)
ในกรณีนี้คุณหมอจะตรวจสีผิว สีผิวเราสีผิวแบบไหน ขาว น้ำตาล น้ำผึ้ง น้ำหมึก (ล้อเล่น) และแนะนำค่าครีมกันแดดที่เหมาะสม ซึ่งคุณหมอทำเป็น Chart ออกมาให้คนไข้ดูง่ายและเข้าใจเวลาคุณหมอได้อธิบาย
คุณหมอวิเคราะห์ออกมาว่า “ ผิวประมาณ17 นี่ค่อนข้างขาวเลย บอกได้เลยว่า spf ต้องสูงนิดนึง เพราะว่าผิวค่อนข้างไวแดด เป็นผิวขาว “



2. ตรวจความยืนหยุ่นของผิว (ELASTICITY)
ตัวเครื่องจะดูดผิวบนหน้าของเราเป็นวูบนึงเบาเบาเพื่อเช็คความเด้งดึ๋ง ดูดแล้วปล่อยออกมาขึ้นกราฟหน้าจอ
คุณหมอวิเคราะห์ออกมาว่า “ ค่าเปอร์เซ็นต์ค่อนข้างดีเลย คือคนที่อายุน้อยๆอย่างเนี้ย 24 เนี่ยจะต้องยืดหยุ่นประมาน 55-70 หนูยืดหยุ่นไปประมาณเจ็ดสิบกว่า ถือว่าดีมาก หยุ่นเท่ากับเด็กอายุน้อยกว่า 20 แสดงว่าความยืดหยุ่นของผิวหนังเนี่ยดี อย่างเงี้ยไม่มีปัญหาความยืดหยุ่น ”


3. ตรวจความชุ่มชื้นของผิวหนัง (MOISTURE)
กรณีนี้โดนหนัก เพราะผิวแห้งมาก
คุณหมอวิเคราะห์ออกมาว่า “ความชุ่มชื้น อย่างนีั้บอกได้ว่าแห้ง คนที่ไฮเดรชันดีดี มาดูนี่ ดูผิวพี่นะ นี่ก็แห้งเหมือนกันแต่อยู่ในระดับ 36 37 ของเอิ๊ก 33 แต่คิดดูพี่อายุมากกว่าหนูเท่าไหร่ หนูถือว่ามีสภาพผิวที่ค่อนข้างแห้ง ตามตำแหน่งแต่ละตำแหน่งไม่เหมือนกัน มีวัดช่วงหน้าผาก แก้มร่วมด้วย ของเอิ๊กนี่ หน้าผาก25 แห้งละ อย่างเราเนี่ยผิว พี่แนะนำมอยซ์เจอไรเซอร์ที่ดีเนี่ยสำคัญ เวลาเราปรุงครีมพิเศษให้คนไข้ เมื่อเราเทสารลงไปเราจะเติมให้ความชุ่มชื้นของครีมให้มันมากขึ้น ในกรณีที่ผิวมันแห้งมาก เราอาจจะเติมกลุ่มที่เป็นวิตามินอี โอเมก้า วิตามินเอ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นในครีมนั้น สำหรับครีมของหนูๆอาจจะต้องใช้ครีมประเภทนี้ เพราะผิวหนูแห้งมาก ต้องมีการปรุงครีมพิเศษเพื่อบำรุงเฉพาะ แต่เนื่องจากปัจจุบันยังมีปัญหาสิว พี่ก็ยังไม่แนะนำให้ทาครีม ควรจะเอาสิวให้หมดก่อน ซึ่งความมันอาจทำให้สิวนั้นแย่ลง เพราะฉะนั้นพี่จึงคิดว่าอย่าเพิ่งเอาครีมกลับไปใช้ เอาสิวให้เวิร์คก่อน”


4. ตรวจความมัน (SKIN OIL&SEBUM)
อันนี้ได้คะแนน 1 เต็ม 100 ฮา หน้าเหี่ยวแห้ง T^T
คุณหมอวิเคราะห์ออกมาว่า “วัดความมันของผิวหนัง อันนี้เราวัดเป็นค่า ไขมันก็น้อย หน้าไม่มัน อย่างเนี่ยน้อยมาก พี่ถึงบอกว่าว่าผิวแห้งก็เกิดจากสิวได้ มะกี้วัดจากแก้มน้อยกว่า 30 นี่ซุปเปอร์แห้ง นี่1 โหหห พี่จึงรุ้ว่าคนไข้กลุ่มนนี้จึงต้องการอะไรที่พิเศษแน่ เพียงแต่ว่าอาจจะไม่เหมาะกับการปรุงครีมให้ตอนนี้ี้ ควรรักษาสิวให้ดีก่อน และคนไข้ที่ผิวแห้งมากไม่ควรใช้วิตามินซี มันทำให้ระคายเคืองมากขึ้นเป็นตุ่มขาวๆ เป็นเพราะว่าผิวเราแห้งมาก ไปเจออะไรที่มันระคายเคือง ยิ่งหนักกว่าเดิม มอยส์เจอร์ที่ดีเนี่ยเหมาะสำหรับเราแน่นอน แต่เราต้องเลือกใช้ “


5. ตรวจขยายผิวหนังหรือเส้นผม
อันนี้เห็นสิว เห็นแผลชัดมาก กลัวค่ะ เห็นแล้วอึ๋ว
คุณหมอวิเคราะห์ออกมาว่า “ อันนี้จะเป็นตัวขยาย เราจะให้คนไข้ดูสภาพผิวอีกอย่าง เนี่ยพี่จะให้ดู อะเลือกตำแหน่ง เลือกตรงที่เปนสิวจะเป็นยังไง เครื่องนี้จะใช้ในการวิจัย เพราะฉะนั้นเราก้ออยากจะทำให้คนไข้โดยเฉพาะ สมมุติจุดด่างดำ อยากเห็นรอยแผลเปนสิว ปัญหาเกิดได้จากทุกสภาพผิว เช่น คนไข้ที่มีจุดด่างดำเยอะ ต้องการปรุงยาเป็นพิเศษ จะเอากลับก็ใส่ส่วนผสมให้มันขาวมากขาวน้อย พวกไวท์เทนนิ่งทำนองนี้ “


ผลสรุปออกมาแล้วว่ายังคงไม่มีสิทธิ์กับครีมปรุงพิเศษเนื่องจากผิวหนังอักเสบอยู่ (สิว)
ยืนเกาะห้องกระจกดูของคนอื่นต่อไปก่อน


สรุปครีมปรุงพิเศษเฉพาะบุคคลคือ ? (ฟังจากคุณหมอเลยดีกว่าค่ะ)

หลักเราจะปรุงสำหรับปัญหาหลัก ๆ มี 3 อย่าง
– ผิวแพ้ง่าย
– ปัญหาจุดด่างดำ กระ (ต้องการให้ผิวขาวขึ้น)
– รอยเหี่ยวย่น
แต่เราก็มีสำหรับผิวทุกประเภท

ครีมที่ปรุงสำเร็จเฉพาะบุคคล ดีตรงที่ว่า เราสามารถเลือกเนื้อครีมที่เหมาะกับผิวของเรา และปัญหาที่เราต้องการแก้ได้อย่างตรงจุด ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคนมีปัญหาผิวแห้งและผิวแพ้ง่าย เราสามารถเลือกครีม base สำหรับคนไข้ที่ผิวแพ้ง่าย แล้วเราสามารถเติมสารเพื่อให้ความชุ่มชื้นในปริมาณที่เหมาะสมลงไป ถ้าผิวแห้งน้อย เราก็เติมน้อย แห้งมากเราก็เติมมาก คนไข้ที่ผิวแห้งน้อย ถ้าได้ครีมบำรุงผิวที่มันเกินไป ก็อาจเกิดปัญหาได้ เพราะฉะนั้นการปรุงครีมเฉพาะบุคคล ก็จะทำให้คนไข้ได้ครีมที่เหมาะสมกับตัวเองจริง ๆ
ทุกคนสามารถมาตรวจสภาพผิวและระบุปัญหาที่ต้องการแก้ไขกับแพทย์ แพทย์ก็จะสามารถจัดสูตรของครีมที่เหมาะสมกับคนไข้คนนั้น ๆ ได้ บางทีคนไข้เข้าใจว่าตัวเองผิวมัน แต่พอตรวจด้วยเครื่องตรวจสภาพผิวแล้ว อาจพบว่าตัวเองผิวแห้งก็ได้ .. ผู้ช่วยศาสตราจารย์แพทย์หญิงรังสิมา วณิชภักดีเดชา



หวังว่าเราคงจะหายเร็วๆนี้นะคะ มันก็ขึ้นมาเรื่อยๆ เพราะสิวอุดตันของเก่า สู้กันต่อไป ทาเคชิ

กล้องใหม่ถ่ายรูปแล้วผิวเนียนสวยหลอกดวงตาผู้คนมาก ฮี่ฮี่

Posted in ACNE, BEAUTY TECHNOLOGY, FACE, LASERComments (4)

GET THE RIGHT START ! : VBEAM กับการรักษารอยแดงหลังจากสิวหายไปให้ได้ผลอย่างรวดเร็ว

(อวดรางวัลชิ้นแรกจากการเขียนBeauty Blogมาเป็นเวลา 1 ปี 10 เดือนหน่อยฮับ รองชนะเลิศอันดับ1 Beauty&Shopping ของ Thailand Blog Awardดีใจมว๊ากขอบคุณเพื่อนๆที่โหวตให้ด้วยนะคับ)

คนไข้ : เอิ๊ก – เอิ๊ก

ลักษณะสภาพผิ : ผิวแห้งสุดขีดโดยเฉพาะบริเวณ U โซน แก้ม แก้มด้านข้าง ทำให้ระคายเคืองกับทุกสิ่งที่มากระทบใบหน้าได้ง่ายมาก

โรคผิวหนังที่เป็: ผิวอักเสบบริเวณหน้าผาก / เป็นสิวอุดตัน 70% ของใบหน้าหนักไปทางบริเวณ T โซน / มีสิวเสี้ยนบริเวณจมูก / มีสิวอักเสบเกิดขึ้นบ่อยบริเวณหน้าผาก

สาเหตุ และ พฤติกรรมที่ทำให้เป็นโรค : นอนดึก นอนเช้า / ทานอาหารหวาน มัน รสจัด นมชอบทานมากต้องทานทุกวัน ทั้งที่รู้ว่ามันทำให้เกิดสิวอุดตัน / การชำระล้างสารเคมีแชมพู ครีมนวด ครีมหมักผม บนศีรษะไม่ค่อยสะอาด / เลือกทำความสะอาดผิวหน้าดีเกินไป สะอาดมากไป หอบเอาความชุ่มชื้นไปหมด น้ำมันไม่มาเคลือบผิวก็ระคายเคืองผิวหน้าง่ายจนเป็นสิวได้อีก

วิธีการรักษ : ปรึกษาแพทย์ผิวหนังโดยตรง / ทานยาปฎิชีวนะ / ทายาเพื่อฆ่าเชื้อ P.acne / ทาครีมบำรุงเพื่อให้ผิวชุ่มชื้รมีน้ำมาหล่อเลี้ยงผิวตามปกติแต่พอดี/ เลเซอร์รักษารอยแดงจากสิวอักเสบที่เพิ่งหายค่อนข้างบ่อย

สถานที่รักษาปัจจุบัน : ISKYCENTER สำหรับการทำเลเซอร์ และ ยาทาฆ่าเชื้อสิวบางส่วน / คลินิคเสนา – สำหรับยาปฎิชีวนะ และ ยาทาสิวอักเสบ สิวเห่อบางส่วน รวมถึงลอกสิวเสี้ยนเมื่อจำเป็น

ราคาแต่ละครั้ง : ขึ้นกับความรุนแรงของปัญหาผิว และ เทคโนโลยี ตั้งแต่หลักร้อยต้นๆ ไปจนถึงหลักพันขึ้นไป



ทุกครั้งที่เราเป็นสิว เราหาคำตอบได้อย่างน้อยประมาณนี้รึเปล่าจ๊ะเด็กๆ

นี่คือสิ่งที่เอิ๊กคอยสังเกตุตัวเอง หลังจากกลับมามีสิวอักเสบรอบสอง สาม สี่ตามมาเป็น มาตรึมจนรับไม่ไหวต้องปรึกษาแพทย์เดือนละหลายครั้ง วันนี้ค้นพบคำตอบที่สมบูรณ์แบบแล้วว่า รอบหลังสุดที่สิวอักเสบเรื้อรังบริเวณหน้าผาก หลัง หน้าอก ศีรษะ เกิดจากการล้างแชมพูไม่สะอาด ต้องขอขอบพระคุณผู้ช่วยศาสตราจารย์แพทย์หญิงรังสิมา ณ ไอสกาย แพทย์ที่ปรึกษาประจำตัวของเอิ๊กมากค่ะที่ได้ให้วิชาการขนาดย่อเวลาขอสอบถามในเรื่องเกี่ยวกับการเกิดสิว และ คอยไล่ตะล่อมถามข้อมูลจากเอิ๊ก จนสรุปได้ว่าอาจจะเป็นเพราะสีผม

ช่วงปลายเดือนสิงหา 54 ปีนี้

ความจริงจะหายสิวแล้วหลายรอบมากเป็นหายเป็นหายไวมากภายใน 1 เดือน โดยเฉพาะกลางเดือนกันยา หายแล้วเหลือรอยนิดหน่อย ตอนแรกดีใจมากแต่แล้วเอาอีกแล้วจนหาสาเหตุเจอจนได้ในที่สุด ดีใจยิ่งกว่าสิวหาย เพราะเราเจอตอแล้ว


ด้วยความโชคดีของตัวเอง หรือความโรคจิตของตัวเองส่วนหนึ่ง คือเป็นคนชอบถ่ายรูปใบหน้าตัวเองทุกวัน (ติดตอนทำBotoxหน้าเรียว และตอนรักษาสิวโดยใช้เลเซอร์เข้ามาช่วยปีที่แล้ว) เพื่อดูผลลัพธ์ของผิวที่เปลี่ยนไปในแต่ละวัน ในเวลาที่มีปัญหาผิว หรือ ต้องการเช็คดูผลลัพธ์หลังจากการทำอะไรบางอย่าง เช่น ใช้ครีมกระชับใบหน้า ลดไขมันข้างแก้ม และอีกสารพัด ที่นักเขียนเพื่อความสวยความงามคนนี้จะหา จะได้มาทดสอบ

ผลปรากฎว่า – การเกิดสิวเกิดก่อนการเปลี่ยนสีผมใหม่ในทุกครั้ง แต่เกิดหลังจากการเริ่มเปลี่ยนแชมพู ทรีทเมนท์เข้มข้นยี่ห้อใหม่ ส่วนตัวยอมรับเป็นคนสระผมเร็ว แล้วไม่เช็ดศีรษะ ไม่เช็ดตัว ปล่อยให้แห้งเอง (ไม่แน่ใจมีใครสอนมาวิชานี้555) ดังนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นโดยที่เดาไปต่างๆนานามาเฉลยด้วยการพบแพทย์และความละเอียดในการบันทึกภาพของตัวเอง ไม่เข้าใจทำไมมาเกิดเอาตอนอายุ 24 ทั้งที่ซกมกมานานแล้ว – – “ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นมาตลอดครึ่งปี คือสิวอุดตันมารุมเร้าที่หน้าผากบ่อยครั้ง จนนึกได้อีกต่อว่าหนังศีรษะเปียกบางครั้งไม่เช็ดแล้วบรรทมเลย รังแคมาเพียบทั้งที่สระผมทุกวันจนตอนหลังยาอะไรก็รักษาไม่อยู่ รู้คนเดียวเงียบๆไม่ได้บอกใคร และที่ทำให้เข้าใจชัดเจนมากขึ้น คือ การเกิดสิวบนแผ่นหลังมาและลามมาหน้าอก อันนี้หนักเลยเพราะไม่เคยเป็น

หลังจากสรุปได้แล้วจึงเปลี่ยนพฤติกรรมบางส่วนใหม่แต่เป็นส่วนที่สำคัญที่สุดคือ .. มีสติกับการสระผมมากขึ้น ฉีดน้ำแรงๆเวลาล้างออก ล้างแบบหมดจด ให้เกลี้ยงกว่าล้างจาน ตั้งใจสระผม นวดผม ล้างผม เชื่อไหม ปาฎิหารย์เกิด สิวอักเสบไม่มา จนกว่าจะได้รับการกระตุ้นอุดตันด้วยวิธีอื่นเช่นแต่งหน้าหลายชั่วโมงกว่าจะล้างจะมาแค่เม็ดเดียวตามปกติ เหมือนที่เมื่อก่อนเคยเป็น สาวนตัวมีการกดสิวร่วมด้วยเลิกยากข้อนี้ และยังกินอาหารต้องห้าม มันก็จะมีสิวประปรายมาบ้าง ตอนนี้เหลือแค่รอยแดงที่เยอะพอสมควรแต่คิดว่ายังไงต้องตั้งใจจัดการได้


ทุกคนต้องหัดค้นหาสาเหตุที่แท้จริงจากพฤติกรรมตัวเองซึ่งเป็นสาเหตุที่แท้จริง โดยเลิกมองที่ปัญหากันนะคะ เพื่อนๆจะพบทางออกเหมือนออกซึ่งเอิ๊กพบเมื่อไม่กี่วันจึงเขียนเรื่องนี้ออกมา เพราะอึดอัดมากที่จะบอกคนอื่นว่าที่เป็นสิวเพราะหมอบอกว่าอาจจะเกิดจาก … แต่อย่าลืมคุณหมอไม่ได้ติดตามเราตลอด 24 ชั่วโมงและเวลาเราเล่าอาการให้คุณหมอฟังบางทีมันครบ หรือ ขาดไปรึเปล่าก็ไม่รู้ แต่วันนี้มั่นใจกับสาเหตุทั้งหมดทั้ง 360 องศา ที่คนไข้เอิ๊ก – เอิ๊ก ได้กระทำตนเองแบบไม่รู้ตัวแล้ว หวังว่าคงเป็นประโยชน์สำหรับแบบฝึกหัด “การมองหาสาเหตุการเกิดสิวจากพฤติกรรมประจำวันของตนเอง “ ในแบบฉบับของเอิ๊กกันแล้วนะคะ หวังว่าคงพอช่วยใครให้อาการดีจนถึงรักษาหายสนิทได้บ้าง

ที่นี่มาเข้าถึง TOPIC สำคัญกว่า ที่HOTมากใน INBOX คือเรื่องของรอยแดงหลังจากการเกิดสิวหายแล้วว่า “ คุณเอิ๊ก พี่เอิ๊ก น้องเอิ๊ก เพื่อนเอิ๊ก รักษาที่ไหน รักษาเท่าไหร่ มียิงเป็นShotไหม แล้วหน้าจะแพ้ไหม จะหายเหรอ ทำไมยิงตั้ง 3 ทีถึงไม่เห็นผล “


เรามาทำความรู้จักกับรอยแดงที่เกิดหลังจากเป็นสิวกัน

ข้อมูลทั้งหมดเกิดจากการอ่านผสมผสาน ของแพทย์ ของนักวิชาการ ของผู้มีประสบการณ์ และ ประสบการณ์ตรงส่วนตัวมารวมกันเป็นคำพูดที่พยายามจะทำให้ทุกคนเข้าใจไปพร้อมๆกัน รวมถึงตัวเองด้วยนะคะ

โดยปกติรอยแผลเป็นจากสิวถ้าไม่ได้มีการทำอะไรกับมันเลย รอยแดงรอยแผลเหล่านั้นที่เกิดจากสิวจะหายไปเอง ค่าเฉลี่ยระยะเวลาการหายประมาณ 3 – 6 เดือน เร็วหรือช้ากว่านั้น ขึ้นกับสภาพผิวของแต่ละคน รวมถึงอายุของผิวพรรณเราด้วยสำคัญมากข้อนี้

รอยแดงจากสิวเกิดจากอะไร ? (Macular erythema) สิวถ้าไม่ได้รักษาถูกวิธี หรือสิวอักเสบมากๆ หลังหายแล้วส่วนมากมักจะทิ้งรอยแผลเป็นไว้เสมอ เนื่องจากปฏิกริยาการอักเสบของสิวทำให้เกิดการทำลายเซลล์ผิวหนังและคอลลาเจนในชั้นหนังแท้ใต้ผิวหนังของเราลงไป ผิวชั้นหนังแท้ซึ่งมีเส้นเลือดเป็นหลักสำคัญที่คอยกำหนดควบคุมการสร้างหรือจัดระเบียบเซลล์อื่นทั้งหมดไม่ว่าจะเป็น โพรงขน ต่อมไขมัน รวมถึงใยคอลลาเจนและใยอีลาสติน รอยแดงนี้เกิดจากการอักเสบ บวม ขยายตัวของเส้นเลือดฝอยลึกลงไปใต้ผิวหนังซึ่งร่างกายสร้างเป็นภูมิลำเลียงขึ้นมาต่อสู้กับเชื้อโรคที่ทำให้เกิดการอักเสบ การที่รอยแดงจะหายไปนั้นก็ต้องรอเวลาให้มันสร้างเนื้อเยื่อที่ถูกทำลายไปให้เกิดใหม่ขึ้นมาเอง แล้วรอยแดงจะค่อยๆจางหายไป ดังนั้นแม้ว่าเพื่อนๆไม่ได้แกะหรือบีบสิวก็ตาม สามารถทิ้งรอยแผลเป็นไว้ได้เสมอ เมื่อมีสิวควรรีบรักษาเพื่อลดการอักเสบของสิวและลดการเกิดแผลเป็นจากสิวที่จะตามมา ในกรณีที่เกิดในคนผิวคล้ำ บางครั้งจะมีลักษณะเป็นรอยสีน้ำตาลหรือดำร่วมด้วย (Postinflammatory Hiperpigmentation) และในบางคนจะมีลักษณะของหนังที่ยุบตัวลงซึ่งเป็นลักษณะเริ่มแรกของการเกิด รอยแผลเป็นชนิดบุ๋มตามมาอีก (Atrophic Scar, Pitted Scar)

การรักษารอยแดงสิวมีกี่วิธี

1. ปล่อยให้หายเองตามธรรมชาติ ให้ร่างกายเราซ่อมแซมตัวเราเอง (อยากหายเร็วก็ต้องเลือกกินอาหารที่มีประโยชน์ อย่าอดหลับอดนอนร่วมด้วย)

2. ทายาที่มีส่วนผสมของสารที่สามารถทำให้สีจางลง เช่น กรดผลไม้ (AHA, BHA) กรดวิตามิน A (RETINOIC ACID), LICORICE, ARBUTIN, VITAMIN C เป็นการผลัดเซลล์ผิวหนังด้านบนชั้นหนังกำพร้า

3. ทานอาหารเสริมจำพวก วิตามิน A, วิตามิน E วิตามิน C เป็นการฟื้นฟูสภาพผิวและเร่งการซ่อมแซมเซลล์ผิวหนังจากภายใน

4. พึ่งนวัตกรรมเลเซอร์ทางการแพทย์รักษารอยแดง รอยคล้ำจากสิว ลดการเกิดแผลเป็นสิว และลบเลือนรอยแผลเป็นที่มีอยู่ หลักจะมีเลเซอร์รักษารอยแดงที่เป็นหลักอยู่ในเมืองไทย คือ V-beam Laser เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและฟื้นฟูสภาพผิวอย่างรวดเร็ว ปลอดภัย สะดวก

5. Photodynamic therapy (PDT)โปรแกรมการรักษาสิวที่ได้ผลรวดเร็วที่สุด รอยดำ รอยแดงสิว แผลเป็นที่เกิดจากสิว เป็นวิธีการใช้เคมีและแสงร่วมกันเพื่อทำให้ต่อมไขมันถูกทำลาย ซึ่งได้ผลเหนือการกินยารักษาสิว เป็นการรักษาผิวมันอย่างดี และให้ความสดใสกับผิวไปในตัว


พรีเซนเตอร์ยาสระผมแพนทีนกำลังยิงเลเซอร์ VBEAM ให้เอิ๊กอยู่ 5555 ล้อเล่นนะคะเป็นคุณหมอประจำตอนนี้ ผู้ช่วยศาสตราจารย์แพทย์หญิงรังสิมา วณิชภักดีเดชา แพทย์ผิวหนังที่ศิริราช และ ISKYCENTER

เอิ๊กเลือกวิธีที่ 4ใช้เลเซอร์ v-beam เพื่อทำลายเส้นเลือดให้ฝ่อไปแล้วกระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อ การใช้เวลายิงเลเซอร์ของเอิ๊กรอยมีแค่ช่วงหน้าผากเป็นหย่อมๆคุณหมอยิงประมาณ 1-2 นาที หลังการรักษาประมาณ 1-2 สัปดาห์ ก็จะสังเกตเห็นว่ารอยแดงใหม่ๆจากสิวจะจางลง ประมาณ 60-70% ส่วนรอยที่มีมาซักพักจะจากประมาณ 20-40% และรอยบุ๋มที่เกิดจากสิวก็สามารถตื้นขึ้นและมีขนาดเล็กลงได้บ้าง หลังการรักษามีเพียงรอยแดงเพิ่มตรงบริเวณที่ยิงใหญ่ขึ้นเล็กน้อยแล้วก็จะจางหายไป ทำแล้วไม่มีแผล ใช้ชีวิต แต่งหน้าได้ตามปกติ


ข้อดี การทำเลเซอร์ทุกชนิดจะได้ผลหรือไม่ ขึ้นกับสภาพอายุผิว ความยืดหยุ่นผิว รวมถึงการตอบสนองของผิวกับเลเซอร์ของแต่ละคนด้วย ส่วนตัวรอยแดงจางไวมาก ทำให้ส่งผลต่อจิตใจคนที่กังวลเป็นอย่างดีเยี่ยมยอด อย่างเร็วที่สุด 1 เดือนหายสนิท อย่างช้าไม่น่าจะเกิน 3 เดือนแต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องไม่เกิดสิวใหม่ให้เป็นรอยแดงเพิ่ม เพราะจะเป็นการเริ่มนับหนึ่งใหม่ และเห็นผลดีมากโดยเฉพาะรอยแผลสิวอักเสบสดๆ รอยแดงใหม่กิ๊ก CONFIRM ว่าเห็นผลดีมาก ไม่ต้องมานั่งทายา ไม่ต้องกินยา ไม่ต้องกินอาหารเสริมเร่งให้แผลหายแต่ถ้ารอยแดงนานหรือถูกแดดจนเปลี่ยนสีเป็นรอยดำต้องใช้เลเซอร์ชนิดอื่น


สังเกตุแผลแก้มซ้ายเป็น 1 วันบีบหนองทะลักแล้วไปยิง พอไปยิงอีกรอบมันจางไวมาก


ข้อเสีย แน่นอนราคาสูงตามความเร็วของผลลัพธ์ ต้องเดินทางไปพบแพทย์ รอยแดงที่อยู่มานานอาจไม่หายสนิทจะจางไปแต่ไม่หมดยังเหลือแดง 10-20% ต้องคอยหลบแดด (เดี๋ยวจะกลายเป็นรอยดำ) การทำเลเซอร์ทุกชนิดไม่ควรถูกแดดโดยตรงเพราะผิวช่วงนั้นเป็นช่วงรักษากำลังบาง เพื่อรอการกระตุ้นคอลลาเจนให้เกิดเซลล์ผิวใหม่ที่แข็งแรงและยืดหยุ่นกว่าเดิม ช่วงนี้ต้องถนอมผิวเป็นพิเศษ ต้องทำหลายครั้งขึ้นไปอย่างน้อยก็ไม่น่าจะต่ำกว่า 3 ครั้ง หรือบางคนจะทำแค่ 1 แล้วรอร่างกายซ่อมแซมตัวเองต่อก็ย่อมได้

ข้อแนะนำ ทำครั้งนึงให้เว้นไป 2 อาทิตย์ เป็นการเว้นระยะการทำเลเซอร์ VBEAM ที่กำลังดีในการกระตุ้นสร้างคอลลาเจน / คุณหมอที่ยิงต้องมีความชำนาญมากในการปรับความยาวคลื่นในการยิง VBEAM ให้เหมาะ แรงกำลังดี แผลจะหายเร็วขึ้นไม่ต้องเสียเงินในการมารักษาหลายรอบ / ถ้าใช้วิธีอื่นร่วมด้วยจะยิ่งหายเร็ว เช่น ทายา ทานอาหารเสริมวิตามินช่วยอีกแรง

 

ศึกบางระจันล่าสุดเป็นแบบนี้

 

ผลการรักษา VBEAM ของเอิ๊ก 1 ครั้งในรอบหลังสุดที่เป็นสิวอักเสบแพร่กระจายเนื่องจากยังไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริง ตอนนี้ทราบแล้วเลยทำร่วมกับการทานยาปฎิชีวนะลดการอักเสบ และ ใช้ยาแต้มสิวอักเสบควบคู่ พร้อมกับเปลี่ยนพฤติกรรมมีสติในการสระผม สาเหตุหลักที่ทำให้หน้าเยินมาครึ่งปีครั้งนี้


มันส์ไหมพี่น้องการขุ้ยสาเหตุสิวสาวในครั้งนี้

ขอประกาศว่าจะไม่มีการยอมแพ้ใดใดทั้งสิ้น “พวกเราจะกลับมาหน้าใส(หัวไป)อีกครั้งแน่นอน”

เพราะมันก็เคยเกิดขึ้นมาแล้ว วันนึงหญิงเอิ๊กต้องเก่งรักษาสิวตัวเองให้ได้โดยไม่ต้องไปพบแพทย์ แต่ไปพบเรื่องอื่นเช่นทำทรีทเมนท์หน้าเด้งๆเบาๆอะไรทำนองนี้ สู้โว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย !!!!!!

เพื่อการกลับมาอีกครั้งของเธอในรูป 555


ใครอยากอ่านเรื่องราวสิวสาวในอดีตของเราเชิญ CLICK

XOXO

รักนะตัวเธอว์

แหล่งข้อมูลอ้างอิง

นพ. สมนึก อมรสิริพาณิชย์

ห้องแป้งพันธุ์ทิพย์

ACNETHAI.com

Blog swiss-jukky ณ Bloggang

Onlyacne.com

Posted in ACNE, BEAUTY TECHNOLOGY, FACE, LASERComments (2)

advert

Google

erk-erk.com





BEAUTY MENU

มาคุยกับเอิ๊กได้ที่นี่ทุกวัน ถ้าว่างรีบตอบทุกคำถามค่ะ

INSTAGRAM @wwwerkerkcom

[instagram-feed]

ติดตามบล็อค erk-erk.com อย่างใกล้ชิด

เพียงกรอก Email ตรงนี้เลย

LINE @erk-erk

เพิ่มเพื่อน

Related Sites