ขณะอยากได้ NYX ทุกสีมาครอบครอง เช้าวันนี้ตาก็เหลือบไปเห็นรูปหญิงสาวริมฝีปากสวยงามเต็มไปด้วยสีชมพูสะท้อนแสงใน Twitter ของตัวเองขณะนั้นก็อดไม่ได้ต้องเข้าไปล้วงความลับ ปากสวยจี๊ดของเธอก่อน จึงเป็นที่มาทำให้รู้จักกับแบรนด์เครื่องสำอาง OBBSESSIVE COMPULSIVE COSMETICS : OCC แบรนด์ที่เป็นสุดยอดนวัตกรรมเครื่องสำอางที่มีสีสันให้เลือกให้ผสมเล่นมากที่สุดแบรนด์นึง  นิยมมากในวงการแฟชั่น คุณภาพไม่ต้องพูดถึงในดับระดับโปรเฟสชั่นเนลอยู่แล้ว แรงบันดาลในการสร้างสรรค์แบรนด์นี้มาจากการหาวิธีการแก้ปัญหาการเลือกสี การหาสีที่ต้องการในการแต่งหน้าของช่างแต่งหน้าคู่หนึ่ง แม้แบรนด์นี้จะมีสีสันที่สด มากมายหลาย ทั้งสีเรียบ ไปจนถึงสีที่เรียกได้ว่าจัดจ้าน แต่แบรนด์นี้กับน่าชื่นชมที่เต็มเปี่ยมและแฝงไปด้วยความเมตตา เนื่องจากไม่มีวัตถุดิบใดเกิดขึ้นมาจากการทารุณกรรมสัตว์เลย วัตถุ100%จะเป็นพืช WOW

วันนี้จะมาแนะนำให้รู้จัก LIP หลากสีสันของแบรนด์นี้ที่ส่วนผสมมาจากน้ำมันที่สกัดจากพืชหลากหลายชนิดมารวมกัน สวย ปลอดภัย และเคลือบบำรุงริมฝีปากไปในตัว

ดูสาวต่างชาติเขาสาดสี Swatch ให้เราดูซะก่อน แซ่บมะ !!

NYX ใน WISH LIST ของเราก็ตกกระป๋องไปโดยปริยาย เพราะแบรนด์นี้ใช้ผสมสีกันง่ายกว่าเพราะมาในรูปแบบหลอด เยส !!!!

มาถึง Gallery Swatch สีจากเหล่า Make up addict กันบ้าง กดขยายที่รูปได้เลยค่ะ

ทำไม OCC LIP TAR ถึงเป็น MUST HAVE ITEMS

• สารสกัดส่วนใหญ่มาจากพืช และน้ำมันเหล่าพืชตามธรรมชาติ โดยปราศจากการทารุณทรมานสัตว์
• พิกเมนท์สีเข้มข้น ละเอียด สีจัดจ้าน อิ่มตัวสูง
• มีสีสันมากมายให้เลือก
• ผสมง่ายในรูปแบบการบีบออกมาจากหลอดผสมให้เกิดสีใหม่ได้มากมาย
• น้ำหนักเบา ทาง่าย
• อายุการใช้งานยืน ยาวเพราะไม่ใส่วัตถุกันเสีย กันบูด

ราคา 13 USD หรือ ประมาณ 400-500 บาทไทย

ใครจะนำเข้ามาขาย หรือ จะฝากเพื่อนซื้อ หรือสั่งจากเว็บต่างประเทศก็ตามสะดวกเลย มันเยี่ยมมาก

with love,

Erk-Erk

Reference

www.Temptalia.comhttp://www.eyespice.co.nz/products/lips/occ-lip-tar/http://manduhzxaddiction.blogspot.com/2009/09/lip-tars-anime-katricia-feathered.htmlhttp://frantasticmakeup.com/blog/2009/11/review-occ-lip-tars-w-swatches/http://lunasoeth.blogspot.com/2010/02/occ-lip-tars-review-vs-lime-crime.html

สวัสดีพี่น้อง เมื่อวานข้าเจ้าไปเรียนแต่งหน้า Workshop โดยเครื่องสำอางยอดนิยมในวงการบันเทิงไทย

อย่าง Covermark มากับรองพื้นเนียนขั้นเทพตัวใหม่

COVERMARK MOISTURE VEIL LX

COVERMARK เป็นแบรนด์จากประเทศญี่ปุ่นออกแป้งผสมรองพื้นสูตรพิเศษใหม่ MOISTURE VEIL LX ที่บอกว่าทำให้ผิวนุ่ม นวลเนียน ไร้ที่ติ เปล่งประกายตลอดวัน ด้วยคุณสมบัติพิเศษ

• SANDWICH COMPLEX POWDER ลดเลือนความหมองคล้ำ ผิวสว่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ
• MOIST CHANGE POWDER ทวีความชุ่มชื่น เบาสบาย พร้อมควบคุมความมันส่วนเกิน
• POROUS BEADS อณูแป้งมีความเนียนละเอียดสูงส่งผลให้ผิวเนียนเรียบอย่างสมบูรณ์แบบ
• SPF 32 PA+++ ปกป้องผิวจากแสงแดด สาเหตุแห่งการเกิดกระ ฝ้า และจุดด่างดำ
• ออกมา 6 เฉดสีเพื่อผิวผู้หญิงเอเซียราคา 2,200 บาท วางจำหน่ายแล้ววันนี้ที่เคาน์เตอร์เครื่องสำอาง คัฟเวอร์มาร์ค ตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำ 30 สาขาทั่วไปและศูนย์บริการความงามคัฟเวอร์มาร์ค ทั่วประเทศ

ก็ได้มีโอกาสไปสัมผัสเนื้อแป้งของจริงโดยชูจุดขายว่าเป็นแป้งที่ ..

• มีตัวบำรุง
• ลดน้ำมันส่วนเกิน
• ยิ่งอยู่นาน เจลจำทำให้ใบหน้ายิ่งเปล่งประกาย
• ผงแป้งเมื่อทาลงบนผิวจะกลายเป็นเนื้อครีมนุ่ม
• เป็นรองพื้นแป้งที่ทาแล้วได้ความเนียนชุ่มชื้นเหมือนรองพื้นน้ำ

• เท่าที่ลองรู้สึกเหมาะกับผู้หญิงที่ ..
• ต้องการรองพื้นที่ปกปิดค่อนข้างดี
• ต้องการรองพื้นที่ช่วยควบคุมความมันได้ดีในระดับนึง
• ต้องการรองพื้นที่ช่วยให้ตัวเองดูดีในภาพถ่ายสวยงาม หน้าผ่องเด้ง จากการออกงานกลางคืน งานสังคม
• ต้องการรองพื้นที่ให้ความเนี๊ยบ (รองพื้นมีสีเข้ม)
• ต้องการรองพื้นแบบแป้งพัฟ แต่อยากได้อารมณ์ชุ่มชื้นนวลเนียนเหมือนรองพื้นแบบครีม
• ต้องการรองพื้นที่ละเอียด แต่ไม่ต้องการให้ผิวหน้ารู้สึกหนักอึดอัดผิวเหมือนรองพื้นน้ำ

คุณจะเหมาะมาก ..

เอิ๊กรู้สึกว่าเหมาะมากกับพวกที่ต้องการถ่ายรูปกระทบแสงแฟลชแสงไฟ แสงแดด เพราะรองพื้นจะมีเฉดสีเข้มกว่าผิวแม้ขาวสุด จะรับปริญญา จะแต่งงาน จะไปงานพรอม บายเนียร์ โอเคนะคะสวยดี แต่เอิ๊กไม่ค่อยชอบ ล้างยากไปนิด ;pและเก็บ Tips & Tricks การแต่งหน้าส่วนอื่นมาเพียบ

ไว้แชร์ในคราวต่อไปคราวนี้มี ยามาเนะซัง เทรนเนอร์สอนแต่งหน้าจากญี่ปุ่นมาคุมเลยทีเดียว สำหรับอาจาร์ยสอนแต่งหน้าได้แก่คุณ กล่องขวัญ จาก COVERMARK และพี่ทุกคนความรู้เอี๊ยดขอบอกว่าหน้าตาดีทุกคนด้วย ฮาสำหรับนางแบบหน้าใสน่ารักไม่แพ้กัน เป็น

น้อง Porsche

ต้องขอขอบคุณโครงการสปส. “โครงการเสริมสร้างประสบการณ์ความสวย” จาก

จาก คุณเก๋OHLA คุณปูเป้PUPESOSWEET คุณโอ๋CHADALEAM

Beauty Blogger ที่เป็นอีกหนึ่งกลุ่ม POPULAR ในประเทศไทยสำหรับการแชร์ประสบการณ์สวยงามของพวกเขา

เผอิญมีคนไม่ได้มา เราจึงได้รับโอกาสนั้น ขอบคุณท่านนั้นดวยไม่รู้ใคร ฮา

รูปภาพบางส่วนรายงานสดจาก TWITTER ติดตามเพิ่มเติมได้ที่ www.twitter.com/erk_erk

ผลการทดลอบรองพื้นตัวนี้ผ่านไป 2 ชม. และ 9 ชม.

ไม่ได้ซับมัน ไม่ได้ยุ่งกับมันเลย 😀 ประมาณนี้

พบกันใหม่กับ Beauty Diary เรื่องถัดไปค่ะ

การรักษาผิวหน้าให้คงไว้ซึ่งสภาพปกติ ไร้ปัญหาผิว โดยเฉพาะการใช้ชีิวตประจำวันของเราสมัยนี้วนเวียนอยู่กับมลภาวะที่คอยคุกคามผิวเราตลอดเวลา ดังนั้น จะแต่งหรือไม่แต่งหน้า เราจึงควรมีการทำความสะอาดใบหน้าให้สะอาดหมดจด ป้องกันปัญหาผิวที่จะตามมาโดยที่ไม่ทันตั้งตัวนะคะ

สำหรับเอิ๊กในวันที่เราแต่งหน้า ก็เป็นวันที่เราขี้เกียจมากที่จะล้างหน้าเช่นกัน เพราะมันต้องมากกว่าปกติ 1-3 เท่าสำหรับรอบทำความสะอาด และบางทีเป็นการตัดปัญหาการทำความสะอาดไม่ดีพอ ก็อาจจะเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ทำความสะอาดผิวหน้าแบบ “ล้ำลึก” เพราะเอิ๊กผิวอุดตันง่าย เป็นสิวง่าย ในวันปกติอาจจะใช้ cleanser ที่มีขายตามท้องตลาด ในลักษณะน้ำนม เพราะเราผิวบอบบ้างหลักในการเลือกซื้อเราต้องสังเกตุผิวเราให้เป็น รู้ให้ดี รู้ให้จริง เรียนรู้แค่ไม่นาน แต่ใช้ดูแลตัวเองได้ตลอด ถ้าวันไหนรู้สึกใบหน้าตัวเองสกปรกมากก็จะเลือกผลิตภัณฑ์ที่ทำความสะอาดแบบล้ำลึกในที่นี่ เช่นเวลาที่มีการแต่งหน้าจัด จะเลือกในลักษณะ น้ำมันทำความสะอาดผิว ที่ไม่อุดตันผิว ทำความสะอาดได้หมดจด ไม่ว่าจะเป็นเครื่องสำอางแบบน้ำติดทนนาน หรือ ครีมกันแดด SPF สูงๆ ซึ่งอุดมไปด้วยเคมีที่สามารถตกค้างกับผิวเราได้ รวมถึงน้ำมันเคลือบผิวที่ล้นออกมาบนใบหน้าเรา เพื่อเปิดผิวให้เราได้ใช้ cleanser เป็นเจลล้างหน้าอีกรอบต่อไป กันสิวอุดตันที่มากขึ้น กันหน้าหมองเมื่อเซลล์บางจุดเสื่อมสภาพกรณีที่เราทำความสะอาดผิวไม่หมด เกิดเป็นสารตกค้าง

มาล้างหน้าเล่นกันดีกว่า เมื่อก่อนใช้ oil ทำความสะอาดหน้าของ SHU UEMURA ตอนนี้ชอบ

PRECLEANSE ของ DERMALOGICA ใช้ก่อนล้างหน้าด้วยเจลล้างหน้าอีกรอบ ในวันที่จัดหนัก

น้ำมันสีใส แต่ไม่อุดตัน เพราะสกัดจากพืชพรรณธรรมชาิติ กับผิวที่ลงกันแดดและรองพื้นไว้

[จำไว้ว่าอย่านอนดึก หน้าโทรม และรูขุมขนจะกว้าง เพราะเวลานอนเป็นเวลาที่ผิวเรามีการซ่อมแซมตัวเอง

และรูขุมขนจะเปิดเพื่อรับครีมบำรุงระหว่างเวลาเรานอน ]

ขั้นตอนที่ 1 บีบใส่มือ นวดวนให้ทั่วใบหน้า ซอกหู ไรผม คาง ใต้คาง เอาให้ทั่ว ย้ำ !

ขั้นตอนที่ 2 หยดน้ำลงไปนิดหน่อย วนให้จากOilกลายเป็นน้ำนมมีฟอง ถูให้ทั่วใบหน้าอย่างเบามือให้ทั่ว

ขั้นตอนที่ 3 วิดน้ำเข้าสู่ผิวหน้า อย่างหลั่นล้า ฮา เอาให้เกลี้ยงนะคะ ซอกผม ใต้คาง ลูบน้ำที่ไหลลงมาจากด้านบน

ออกให้หมด เดี๋ยวจะบ่นทำไมฉันเป็นสิวที่คาง !

ขั้นตอนที่ 4 ซับผิวหน้าด้วยทิชชู่หรือสำลีให้สะอาด [เอิ๊กไม่ไว้ใจผ้าเช็ดตัว 555] ได้ผิวหน้าที่แท้จริงของเรามาแล้ว

สังเกตุว่า ผิวก่อนล้างดี สว่างกว่า แต่เราต้องยอมรับความจริง ฮา

อย่าลืมตามด้วย TONER และ ครีมบำรุง รีบเข้านอน เพื่อผิวที่งดงามจะได้เป็นของเราแทน

คริคริ

เนื่องจากมีคนขอมาเยอะมาก เพราะคนถามเยอะไปทำอะไรหน้าหาย [สิวถล่ม ลอกคราบ] แล้ว

วันนี้เอิ๊กเลยขอมาแชร์ประสบการณ์การรักษาสิวตลอดเวลากว่า 10 ปีที่ผ่านมาเอิ๊กเคยเป็นสิวหนัก 3 หนในชีวิต 

สำหรับช่วงอายุ 12 ปี 13 ปี และ ปัจจุบันที่ผ่านมา ได้ลองผิด ลองถูกลองมั่ว ลองเดามาหมดแล้ว

จนสำหรับตัวเองวันนี้เอิ๊กก็รู้วิธีดูแลตัวเองที่จะรับมือกับสิว เวลาเป็นสิวมันไม่ได้ถึงกับหายขาด 

แต่ก็ช่วยให้มันจาก และ จางไปได้อย่างสบาย มีทั้งหมด 3 แนวทางด้วยกัน

• ทางที่ลองปฏิบัติด้วยตัวเอง
• ทางที่พึ่งพา ปรึกษา เลือกใช้ตัวยา โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
• ทางวิทยาการทางการแพทย์ คลื่นแสง คลื่นวิทยุความถี่ต่ำ

สภาพผิว : ผิวผสม T มัน U แห้ง

ปัญหาผิว : กระกรรมพันธุ์ , ผิวแพ้ง่าย, ผิวแห้งลอกเป็นประจำ, สีผิวไม่สม่ำเสมอ,

สิวเสี้ยน สิวอุดตันเยอะ, รูขุมขนกว้าง, จุดแดง & จุดด่างดำเล็กน้อย

• เป็นสิวหนักครั้งแรก อายุ 12 ปี = เพราะแพ้ครีมแบรนด์ชั้นนำตามห้าง เพราะเชื่อโฆษณา
• เป็นสิวหนักครั้งที่สอง อายุ 13 ปี = เพราะไปหาครีมหน้าขาวตามห้างมาประโลม ตามเพื่อน ผลคือแก้มเน่าไปด้วยสิว
• เป็นสิวหนักครั้งที่สาม อายุ 2x ปี ปัจจุบัน ปีที่ผ่านมา = เพราะ “ที่กดสิว” + “มือตัวเอง”

“เวลาเป็นหนักจะจิตตกมาก ไม่อยากออกไหน เจอใคร ทำอะไร เพราะรู้สึกเหมือนคนไม่สบาย “

เริ่มเลยแล้วกันนะคะ เริ่มจาก ..

การรักษาด้วยแพทย์ คือ การไปหาหมอผิวหนังตามคลินิค ให้หมอเป็นคนดูอาการผิวบนใบหน้า และจ่ายยาทา ยาทาน กับการเป็นสิวหนักครั้งแรกช่วงอายุ 12 ปี และ ตลอดมา กับ ยาตัวเดิมๆ คุณหมอคนเดิม ร้านเดิม ที่เดิม สาขาเดิม ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ มีซิกแซกไปใช้อย่างอื่น ไปลองหาหมอร้านอื่นบ้างแต่พอมีปัญหาเยอะก็กลับไป และ ก็หาย  วนเวียนอยู่อย่างนี้ สนนราคาค่ารักษา เฉลี่ยไม่เกินครั้งละ 1000 บาท ต่อเดือน ถูกสุดก็ 600 บาท ยาทาชุดนึงใช้ได้ 2 อาทิตย์ ตกกระปุกละ 70 + บาท ถือว่าคุ้มค่า เพราะมันก็หาย แต่ใช้ไปสักพัก หน้าเอิ๊กจะดีมากขึ้นกว่านั้นไม่ได้ ไม่รู้ทำไม ต้องสลับเปลี่ยนไปใช้ครีมที่ตัวเองเลือกเองบ้าง แล้วก็ค่อยกลับมาใหม่ หน้าตาแพคเกจไม่สวย เพราะเอิ๊กเน้นที่ตัวยา และคุณภาพยา แล้วคิดดู 10 กว่าปี ก็ยังคงเป็นยาตัวเดิมๆ เปลี่ยนอยู่ 1-3 ตัวเบื่อไหม ? [ เบื่อมาก ]

การรักษาด้วยตัวเอง คือ เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลสิวด้วยตัวเอง ตามสภาพผิว และปัญหาที่เกิดขณะนั้น มารักษาด้วยตัวเองดีที่สุดอีกทีตอนโต เพราะเอิ๊กเริ่มรู้ทันสื่อ รู้ทันผิวตัวเองแล้ว เอิ๊กก็เริ่มจะคัดเลือกสิ่งที่เหมาะกับผิวเอิ๊กได้ สนนราคาตั้งแต่ หลักสิบ หลักร้อย หลักพัน เน้นเหมาะกับผิวเอิ๊ก หายจริง เห็นผลจริงเท่านั้นกับผิวเอิ๊ก ใช้ทั้งหมดก็มีหลายกลุ่ม Cleanser / Toner / Anti Acne Bacteria / Moisture / Serum / Mask / Sunscreen [คลิกขยายที่รูป] เอาความจริงเอิ๊กต้องใช้ทั้งหมดตลอดเวลาตามรูปที่ถ่ายมาด้านล่างไหม บอกเลยไม่จำเป็น …

หลักสำคัญ

1. หน้าสะอาดหมดจด
2. ผลัดเซลล์เสื่อมสภาพสม่ำเสมอ เดือนละ 2-4 ครั้ง
3. ผิวต้องมีความชุ่มชื้น
4. ไม่เอามือจับหน้าบ่อย ไม่นอนดึก ไม่ทานน้ำตาลมากจนเกินไป

ที่ใช้ก็อาจจะเหลือแค่ 3 ตัว จากในทุกตัวที่ต้องใช้ก็ได้สำหรับเอิ๊ก ถ้าผิวไม่ได้อักเสบ ไม่มีรอยอะไร ..

ทุกตัวข้างบนผ่านการทดสอบมาโดยผิวเอิ๊ก ซึ่งเป็นผิวที่แพ้ง่าย เป็นสิว และต้องการความอ่อนโยน รวมถึงมีแผลรอยดำ รอยแดงที่อยากจะดูแล ก็ใช้ได้หมด ไม่ระคายเคือง ยกเว้นพวก AHA BHA เลิกใช้แล้วค่ะ เน้น Scrub แทน

แต่ขอ Recommended Acne Item ส่วนตัวที่ดีที่สุด ที่อาจจะไม่เปลี่ยนใจไปแน่นอนสำหรับเอิ๊ก

1. Toner : Klean&Klear = ตามที่ทุกคนเข้าใจมันคือน้ำเกลือเอาไว้ล้างคอนแทคเลนส์ แต่มันโคตรดี ดีมาก ในราคาที่ถูกมากเช่นกัน เอิ๊กใช้แทนโทนเนอร์ เพราะใช้โทนเนอร์ของแบรนด์ต่างๆ มันมีแอลกอฮอล์ ผิวเอิ๊กจะรูขุมขนกว้างทันทีที่ตื่นมาอีกวัน แน่นอนมันช่วยทำความสะอาดผิวอักเสบที่เป็นสิวของเอิ๊กได้อย่างอ่อนโยน ช่วยกระชับรูขุมขนเวลาแช่เย็นจัดแล้วนำมาโปะ ใช้ล้างตาก็ได้ ไม่แสบไม่มีสเตรียรอยด์
2. Mask : ผงไข่มุก = มีสรรพคุณนึงช่วยรักษาสิว ช่วยทำความสะอาดรูขุมขน ช่วยลดรอยแดง รอยดำได้ ส่วนตัวคือช่วยในเรื่องความกระจ่าง แต่ไม่ได้ชอบยี่ห้อนี้ ยี่ห้อที่ซื้อมาตอนแรก ไม่รู้จะฝากใครซื้อ มันเป็นสิ่งเดียวที่ต้อง Made in China เท่านั้น ถึงดี หน้าจะขาวขึ้นหลังพอก แต่จะแห้ง ต้องบำรุง
3. Sunscreen : KA Whitening UV protection spf50 สีPastel เป็นกันแดดที่ป้องกันการเกิดสิว ไม่มีน้ำมัน ไม่อุดตัน สีเนื้อบางๆ ทาแล้วหน้าจะนวลขึ้นเล็กน้อย ซื้อตามโฆษณาเพราะมันมีสีเนื้อนี่ละ พออ่านฉลาก โอววววว มันเกิดมาเพื่อคนเป็นสิวง่ายอย่างฉัน ลองซักหน่อย ใช้Rocแล้วแสบหน้ามาก ใช้Murad ก็ดีแต่ไม่มีสี เอิ๊กชอบแบบผสมสีเนื้อมากกว่า
4. Anti Acne Bacteria : รมย์รวินท์ ยาค่าเชื้อสิว อ่อนโยนมาก ไม่ลอก ไม่แสบ  ทาก่อน2-5นาที แล้วล้างออกก่อนอาบน้ำ
5. Anti Acne Bacteria : มาดามเฮง ที่แต้มสิวที่จะไม่มีวันเปลี่ยนใจ สิวอักเสบ สิวหนอง เทพมาก ตัวอื่นทิ้งลงขยะ ตัวยาแปลกตาเพราะเป็นน้ำมันสกัด แต่มันเป็นน้ำมันที่ไม่อุดตัน และทำให้สิวอักเสบแดงยังไม่มีหัวยุบ และหัวหนอง หนองหลุดไปโดยไม่ต้องกด กับราคา 150 บาท กับระยะเวลาที่ใช้งานได้ มันยอดเยี่ยมมากสำหรับการรักษาสิวในปีที่ผ่านมาของเอิ๊ก
6. Serum : Dermalogica Soothing protection spray สำหรับผิวแพ้ง่ายน้ำสีเหลืองใส ขวดนี้ขาดไม่ได้เช่นกัน หลังล้างหน้าเช็ดน้ำเกลือเช้าเย็น หน้ามันจะมีแห้งบ้าง ลงสเปรย์ตัวนี้ไป หน้าจะดูมีน้ำชุ่ม ลื่น เหมือนมันกันน้ำไม่ให้ออกจากผิวเอิ๊ก ส่งผลให้ทาครีม แต่งหน้าง่ายขึ้น

การรักษาด้วยวิทยาการทางการแพทย์ คลื่นแสง คลื่นวิทยุความถี่ต่ำในที่นี่เนื่องจากเอิ๊กเป็นหลายเม็ด อักเสบหลายเม็ด ทิ้งรอยหลายเม็ด แล้วก็ยังไม่เลิกกดสิว จึงพึ่งพา เลเซอร์ ทรีทเมนท์ และ PHONO ทรีทเมนท์ เข้ามาช่วยนอกจากการรักษาด้วยตัวเอง และ หาแพทย์ผิวหนังร่วมด้วยเป็นบางครั้ง เป็นการรักษาตลอดเวลา 3 เดือนในปีที่ผ่านมา สนนราคา พันต้นๆต่อครั้ง – หมื่นกว่าเป็นคอร์ส แล้วแต่สถาบัน เรื่องจริงคือโปรโมชั่นเจ๋งที่สุดทุกสถาบัน รอไปเลย ฮา

** ทุกภาพถ่ายจาก BB 9700 ไม่แต่งภาพ เพราะจะได้มีมาตรฐานในการเห็นความเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน เที่ยงตรง

3 ภาพล่างคือใบหน้าก่อนเกิดเมื่อเดือน พฤษภาคม 53 ที่ผ่านมา มีรอยแดง รอยดำเป็นปกติ

ภาพบนคือ อายุ 13 ขวบ ที่ใบหน้ารักษาหายดีแล้ว ไร้สิว แต่ยังไม่เข้าใจ

กับการใช้สารป้องกันแสงแดด ว่ามันดีอย่างไร หลังจากเลิกสนใจความขาวแล้ว

จาก 13 พ.ค 53 – 26 มิ.ย 53 เวลาจุดเริ่มต้นสาเหตุของการเป็นสิวมาจาก ที่กดสิว นี่เอง

ในเวลาเดือนกว่า ก็ได้รับผลจากการกดสิวเอง ทั้งแผล รอยแดง รอยบุ๋ม สิวอักเสบ

วิธีการรักษาสิวของเอิ๊กช่วงนี้นี้คือ กดสิวเองด้วยที่กดสิว / มาร์สหน้าให้ความชุ่มชื้น Etude / พอกหน้ารักษาสิวด้วยผงไข่มุก

26 มิ.ย 53 – 25 ก.ค 53 นอกจากสิวอักเสบที่มาเรื่อยๆจากการกดสิวด้วยที่กดสิว ยังตามมาด้วยรอยแดงเก่าที่ยังไม่หาย

25 ก.ค 53 – 6 ส.ค. 53 เริ่มเห็นผลพลอยได้จากการกดสิว ชัดเจนขึ้น มัน sad มาก หลุม บ่อ ปะทุ อักเสบ รอยระบม ช้ำแดง

บอกตรงๆรับตัวเองไม่ได้  คลิปนี้ทำตอนช่วงเกิดเหตุพอดีค่ะ

6 ส.ค. 53 – 15 ส.ค. 53 ยังคงรักษาด้วยตัวเองแบบเดิมแต่เริ่มพอกผงไข่มุกนานขึ้น ทั้งคืน ผลคือหน้าแห้ง รอยจาง สิวยุบตัวเร็ว

หลังจากนั้นไม่กี่วัน เนื่องจากความพยายามมันเห็นผลช้า จึงหันเข้าสู่การทำเลเซอร์โดยไปปรึกษาคุณหมอที่ PAI ก่อนที่แรก

ค่าใช้จ่ายสูงต่ำ ขึ้นกับสถาบัน โปรโมชั่น เครื่องมือ บางทีแพงเพราะมีชื่อเสียง บางทีแพงเพราะเครื่องแพง บางทีแพงเพราะคุณหมอมีชื่อเสียง แตกต่างกันไป ศึกษาเงื่อนไขเหล่านี้ให้ดี

ก่อนทำ ได้มีการตรวจวิเคราะห์ผิวหน้าของเอิ๊ก

เห็นแทบชอคสลบ กรุณาดูป้ายเหลือง ขวาล่างสุด นั่นคือเชื้อสิวค่ะคุณ

นอกจากกระใต้ผิวที่อนาคตจะมาทำให้ช้ำใจ ยังมีเชื้อสิวน่ากลัวมหาศาล

สรุป เลเซอร์รอบแรก จัดไป 2 หัวเลเซอร์ แต่ละที่ชื่อเรียกเลเซอร์เหมือนกันบ้าง คล้ายกันบ้าง ไม่เหมือนกันบ้าง

E-light / Gentle Yag

E light : กระชับรูขุมขน กระตุ้นคอลลาเจนในการสร้างผิวใหม่ที่ดีขึ้นมา

Gentle Yag : ฆ่าเชื้อสิวที่คุณเห็นเมื่อกี้นี่ละ

15 ส.ค. 53 – 20 ส.ค. 53 ก่อนทำเลเซอร์ก็รักษาเอง พอกหน้าด้วยไข่มุก AHA BHA วุ่นวายไปหมด

หน้าแห้งมาก จนมาถึงวันทำเลเซอร์ 25 ส.ค. 53 สังเกตุรอยดีขึ้นเยอะ

ช่วงนี้ใช้ผลิตภัณฑ์เติมน้ำให้ผิวคละสูตรกันของ Murad ผิวดูแห้งน้อยลง ดูชุ่มชื่นขึ้นมาก

ตอนนี้เริ่มเลิกกดสิวแล้ว หาที่กดสิวไม่เจอ ฮา

25 ส.ค. 53 – 31 ส.ค. 53 เลเซอร์มา 5วันสังเกตุว่ารอยสิวดูดีขึ้น หน้าถูกกระตุ้นคอลลาเจนจนเริ่มดูชุ่มชื่นขึ้น โอวเลิศ

[ ดีใจเพราะขณะนั้นยังไม่รู้ถึงสิ่งที่ตามมา ..]

31 ส.ค. 53 – 4 ก.ย. 53 หน้าดูขาวขึ้น แต่หนักใจ รอยยังไม่ยอมหายไปง่ายๆ ทีตอนทำไม่คิด !

ประกอบกันช่วงนั้นทางรมย์รวินท์คลินิคได้เปิดกิจกรรมให้คนเป็นสิวที่อัดอั้นตันใจได้ระบาย ถ้าสิวหายจะดีแค่ไหน จะรู้สึกยังไง เปิดให้มาเล่นเกมส์ โดยของรางวัล คือ ทรีทเมนท์ รักษาสิว 1 ครั้ง 690 บาท 10 รางวัล และคอร์สเลเซอร์ ทรีทเมนท์ รักษาสิว 17,000 บาท 1 รางวัล

พีรญาก็ร่วมเล่นไป ปรากฎอีกไม่กี่วันได้อีเมลล์ตอบกลับมา เปิดดูก็ยังงง ดูแล้วคนได้รางวัลไม่มีชื่อเอิ๊ก ส่งมาทำไม ??

สรุปชื่อพีรญา อยู่ยอดบนสุด ขอบคุณมากที่สุดในโลกเลยค่ะ กับรางวัลที่ 1 เลเซอร์ โฟโน กด ฉีด ยา 10 ครั้ง

โดย รมย์รวินท์คลินิค

โปรนี้ตกอยู่ครั้งละ 1,700 บาทไทย ปกติที่นี่ราคาค่อนข้างสูงพอสมควร เอิ๊กเลยได้มีโอกาสรักษายาวจนจบคอร์ส

โดยเอิ๊กก็มีการซื้อยาที่อยากได้เพิ่มมาลองเองด้วย เช่นพวกวิตามิน E

6 ก.ย. 53 – 12 ก.ย. 53 รอยก่อนมารักษา หลังจากฆ่าเชื้อสิวไป 1 ครั้ง กระตุ้นคอลลาเจนไป 1 ครั้งกับ PAI

12 ก.ย. 53 กรี๊ดดดดดด คุณหมอกดสิวหนู รอยเพิ่ม โอววว ใจสลาย ตอนนั้นเหี่ยวมาก

อารมณ์ความวัวยังไม่ทันหาย ความควายก็เข้ามาแทรก ถ้าไม่หายไม่ยอมจริงๆด้วยนะคะ T_T

และตามด้วยเลเซอร์ GENTLE YAGฆ่าเชื้อสิวอีกรอบ และทำ PHONO ทรีทเมนท์ เติมความชุ่มชื้นให้ผิวขาวใส เป็นการเปิดผิว

ทำให้เห็นผลของการเลเซอร์เร็วขึ้น

12 ก.ย. 53 – 16 ก.ย. 53 โอว รอยดูจางลง  คิดในใจจะหายไหมน๊อ อยากหายๆ

19 ก.ย. 53 – 28 ก.ย. 53 กลับมาฆ่าเชื้อสิวด้วย GENTLE YAG อีกรอบ คราวนี้เพิ่มลดรอย RB มาด้วย น่าจะคือ Vbeam ลดรอยแดง J และ ตามด้วย PHONO ทรีทเมนท์ สีสันรอยสิวสวยขึ้นอ่อนลง ใจชื้นละ มีแววได้สวยเหมือนเดิม ฮา

1ต.ค. 53 – 2 ต.ค. 53 คือไม่ให้หมอคนไหนกดสิวแล้ว พอค่ะ J เลเซอร์ตัวเดิม ฆ่าเชื้อ GENTEL YAG และ RB ลดรอยแดง

ตามด้วย PHONO ทรีทเมนท์

5 ต.ค. 53 – 11 ต.ค. เลเซอร์ GENTLE YAG + RB และ PHONO ทรีทเมนท์ เหมือนเดิม

สีจางแล้ว แต่หน้าดูหมอง เดี๋ยวจะบอกนะเพราะอะไร

ก่อนจะไปต่อ การทำเลเซอร์ สิ่งหนึ่งที่คุณต้องรู้ไว้ ที่หมอไม่เคยบอก แต่เอิ๊กจะบอกคุณ คือ หน้าคุณจะแห้งมากที่สุด คัน และ ผิวไวต่อแสงมาก เนื่องจากมีการกระตุ้นคอลลาเจนแบบเร่งด่วนทำให้การเรียงตัวของเซลล์ผิวเรียงตัวผิดปกติ จึงเกิดโอกาสที่ผิวหน้าไม่แข็งแรง เกิดสภาวะการปกป้องแสงที่เสื่อมถอยลง รู้ไหม ว่ารู้ได้ยังไง เพราะดิฉันคันหน้ามากกกกกกกกกกกกกกกกก นึกว่า หิดมาสิงสถิตที่หน้า และ

ตรวจผิวรอบสองกับ Work Shop Oriental ปรากฎว่า

สังเกตุป้ายแดง ความไวแสงเพิ่มจาก 84 > 206

สังเกตุป้ายเหลือเชื้อสิว 450 > 85

ดังนั้นหมอทุกคนไม่โกหกแน่นอน กับการฆ่าเชื้อสิว หายไปเยอะจริง

แต่สิ่งที่หมอบอกคุณเบาเบาว่า คุณควรทากันแดดด้วย

หมอไม่บอกว่าผิวคุณจะไวต่อแสงมาก อันเป็นผลให้เอิ๊กหน้าหมองบ่อย เดี๋ยวหมองเดี๋ยวหาย

เดี๋ยวหาย เดี๋ยวหมอง และ คันโคตะระ ถึงขนาดต้องโบกแค่ vitamin Eหลอดละ 100 กว่าบาท

รวมถึง ว่านหางจรเข้ หลอดละ 50 กว่าบาท แค่นั้น 2 หลอด ใช้อะไรไม่ได้เลย บอบบางมาก คันเคยอมากค่ะ

เอิ๊กจึงเริ่มหันมากันแดดมากขึ้น อยู่บ้านก็ทาแบบ spf15 เพราะต้องนั่งหน้าคอม

11 ต.ค. – 16 ต.ค. เห็นแววแล้ว กลับมาขาวใส รอยเลือนไปมาก ความมั่นใจเริ่มกลับมาเรียกน้ำย่อย

โดยการเริ่มไม่แต่งหน้าแล้วเดินออกนอกบ้าน อย่างสบายใจ

17 ต.ค. – 21 ต.ค. ตัดสินใจทำรอบสุดท้าย กับ GENTEL YAG + RS รอบนี้จัดการรอยดำด้วย RS

และ PHONO ทรีทเมนท์ เหมือนเดิม

พอละ รอให้หายคันก่อน เพราะรอยจางไปมากแล้ว ยังไม่หมดคอร์สยังเหลืออีก แต่พักแล้ว

24 – 27 – 29 ต.ค. 53 ตามลำดับไหล่ รอเวลาให้จางไปเอง ช่วงนี้ก็ใช้ยาหมอที่เคยหา ความคันน้อยลง

29 ต.ค. 53 – 4 พ.ย 53 และไปวิบัติอีกที ตอนไปลอกสิวเสี้ยนแล้วแพ้ที่ร้านหมอประจำ ฮา หน้ามันบอบบางอยู่

รักษาเองไม่หาย เลยกลับไปหาหมอร้านเดิม หาย – – “

4 พ.ย. 53 – 3 ธ.ค. 53 – 13 ธ.ค. 53 – 6 ม.ค. 53

เหตุการณ์ที่ผ่านมา มันช่างเป็นช่วงเวลาที่ทรมาน และ ก็ได้กลับขึ้นมามีความสุขอีกครั้ง มันปลง

จนวันนี้ “เอิ๊กไม่แต่งหน้าออกจากบ้านมาทำงานเลย “ เพราะอยากให้ผิวได้พักผ่อนมากที่สุด

ให้ออกซิเจนไหลเวียนสู่ผิวได้ดีที่สุด แต่งเวลาฝึกแต่งหน้า ไปงานพิเศษ

รวมไปถึงการเลิกใส่คอนแทคเลนส์บิ๊กอายในวันธรรมดาไปเลย

Back to Basic และวันที่พิเศษของเอิ๊กก็จะพิเศษมากขึ้น เพราะหน้าเอิ๊กจะแปลกไปจากทุกวัน

NOW ทุกวันนี้มีความสุขมาก ในการจัดการกับสิว และ ขอเป็นกำลังใจให้กับทุกคนในการรักษาสิวค่ะ

เอิ๊กยังหายได้ คุณก็ต้องหายได้ ถ้ารู้จักสังเกตุผิวตัวเอง

ได้ลองคิดวิเคราะห์ถึงสาเหตุที่แท้จริงอาจจะมีอยู่แค่หนึ่งหรือมากกว่า

ตั้งแต่ นอนดึก ใช้ผลิตภัณฑ์ไม่ถูกกับสภาพผิว ล้างหน้าไม่สะอาด

ชอบทานน้ำตาลไปกระตุ้นให้ผิวอักเสบ และอีกมากมาย

ที่สำคัญต้องรู้จักจด บันทึก การเปลี่ยนแปลงของตัวเอง เพื่อที่จะรู้ว่าอะไรคือสาเหตุที่แท้จริง

ต้องขอขอบคุณคุณพริม I-spa ที่ส่งชุดรักษาสิวมาให้ลองรักษา และ Workshop 

ที่ได้มีโอกาสไปร่วมจากการเล่นเกมส์ก็ดีจากการที่เขาเชิญก็ดีไม่ว่าจะเป็น Murad , Oriental Princess, 

Dermalogica , Clinique เองให้เอิ๊กได้รู้จักผิวตัวเองแบบชัดเจนถ่องแท้มากขึ้น รู้เท่าทันผลดี

ผลเสียของการรักษาหลายๆแบบ และที่สุด ต้องขอบคุณกิจกรรมดีดีจากทางรมย์รวินท์คลินิคให้เอิ๊กได้มีโอกาสกลับมาเหมือนเดิม 

และ ดีกว่าเดิมอีกครั้ง ขอบพระคุณมากค่ะ

ย้อนเวลากลับไปได้จะไม่กดสิวเลยค่ะ

24 ม.ค. 54

สิว จ๋า ลาก่อนนะ :p ไว้เจอกันไหน ภพหน้าหน้าหน้าหน้าหน้า นะ

หวังว่าคงเป็นประโยชน์บ้างซักเล็กน้อยก็ยังดีค่ะ

See You !!!!!!

เห็นร้านคุณยุ้ยออกขนาด MMU ไซส์กลางมา คงจะมีหลายคนชอบ โดยเฉพาะคนชอบลองแต่ยังไม่อยากได้ไซส์ที่ใหญ่ไปสำหรับพวกรองพื้น ตัวเอิ๊กเอง รองพื้นต้องมีหลายเฉด แต่ไม่เคยมีไซส์ใหญ่เลย เพราะรองพื้นก็เปลี่ยนตลอด บางวันช่วงนั้นขาว ช่วงนี้หน้าคล้ำดำลง ก็ปรับเปลี่ยนหมุนเวียนไปเรื่อยๆ ร้านคุณยุ้ยที่ชอบสุดตั้งแต่ได้ลองมา จะเป็นพวกแป้งหน้าฉ่ำ เพราะมันวาวมาก หน้าดูอิ่มใส แต่ไม่ต้องสืบหา เพราะร้านนี้ผลิตแนว Limited Edition แล้วก็จะหายไป ต้องรีบโกยตอนออก จะมากันเป็น collection วาวจับตา แล้วแวบไป บลัชรุ่นหลังจะกากเพชรวิ๊งมาก แนวคนชอบชิมเมอร์ ดูใสประกายวาวๆ แต่กากเพชรจะร่วงหายไวมาก มารอบนี้ได้ลองรุ่นใหม่เนื้อวาว ใส ประกาย สไตล์เกาหลี ยังลุ้นอยู่จะติดผิวดีไหม พวกประกาย หรือจะแอบหลุดไป

ได้มา 4 กระปุกในราคา 280 บาทไทย ระยะเวลาการใช้

สำหรับพวก Blush On บอกเลยว่าปัดได้นานมาก แบรนด์ไทยให้เยอะมาก

สำหรับหลายๆร้าน ร้านนี้อัดเต็ม ได้มา 3 เนื้อด้วยกัน

1. Satin เนื้อวาวใส ประกายมุก สไตล์สาวกิมจิ
2. Clear Matte จะธรรมชาติมาก ถ้าเลือกใช้สีสำหรับเนื้อด้าน เพราะเมื่อบัฟลงผิวจะเหมือนสีแก้มเรา
3. Bronzer มาแนวประกายโทนน้ำตาล จะสวยมากเวลาอยู่บนหน้าสาวผิวน้ำผึ้ง

ภาพนี้ได้ขโมยมาจากทางร้าน ฮา ไม่ได้ถ่ายเองนะคะ เนื้อพองร่วนเห็นเงาวาวสำหรับเนื้อซาติน เห็นความละเอียดสำหรับเนื้อแมท ชอบม๊า ชอบม๊า เวลาดูรูปผงจะรู้สึกเฉยมาก แต่ไปถูกใจตอนลงปาดบนผิวในหน้าสินค้า

ประเดิมด้วยเนื้อ Clear Matte สี MOPPET ออกแนวส้มเนียนละเอียดติดผิว ไม่วาว ไม่ประกายแต่มีความเป็นธรรมชาติ

ต่อด้วยเนื้อ Satin สี BOSSA สีนี้ขายดีสุด ออกแนวส้มหวานประกายวาว แนวเกาหลี ขอบอกว่ารุ่นใหม่ๆ ประกายในเนื้อบลัชอึดกว่าที่ผ่านมามาก ประทับใจ ถูออกแล้วความวาวยังคงวาวอยู่ สำหรับเอิ๊กสวยดีค่ะสีนี้ แต่ถ้าว่าชอบสุดไหมคงไม่ ส่วนตัวชอบออกแนวสีพีช

ต่อกันที่เนื้อ Satin สี DISCO อีกสี สีนี้ชมพูหวานมาก เวลาอยู่บนหน้าจะออกอมส้มพีช สวยมาก สีน่ารักเหมือนเจ้าหญิงเลยรุ่นนี้วาวเลื่อมมาก น่าจะชื่อสี daisy หวานมาก อิอิ

สีนี้เนื้อ ซาติน และชิมเมอร์กระจายกับ Bronzer สี MAYA สีใหม่ สวยโฮก ชอบสีโทนน้ำตาลของร้านนี้มันออกแนวผู้ดี เกือบทุกน้ำตาลเลย ชอบมาก 🙂

ยืนเรียงหน้ากระดานให้เพื่อนๆได้ชมกัน .. พอไหวไหม กับ Mineral Make up ประเทศไทย

🙂 สำหรับเอิ๊ก คุณภาพที่พัฒนาของประเทศเรา ก็ขยับขึ้นเรื่อยๆ รอดูต่อไปว่าปีนี้จะมีอะไรของร้านไหนออกมาโดยรวมร้านนี้ปรับบลัชตอนนี้ เนื้อบลัชนอนจากวาว สวย ความทนก็มีมากขึ้นกว่าแต่ก่อน

Diamond Body Lotion โลชั่นบำรุงผิวแนวกลิ่นอายอโรมาหอมอ่อน ขวดที่3 นี้

ปรับสูตรใส่วิตามินเพิ่มใหม่ ที่ทำให้ผิวกระจ่างใสมากขึ้น ปกติใช้เพราะกันแดด

และเป็นแบบปรับผิวขาวไปในตัว แต่รอบล่าสุด ไปดำน้ำเฝ้าปลาการ์ตูนมา ดำขึ้นมาก

ออกแนวผิวน้ำตาลไหม้ และหมอง เลยลองทดสอบดู ผลปรากฎตัวนี้ขาวขึ้นเห็นได้ชัด

คือผิวสีอ่อนลง 1 ระดับ แต่เท่าฉีดกับโดฟกลูต้าคงไม่ใช่ ก็คงต้องพยายามทางอื่นกันต่อไป

แต่ไม่ฉีด และ ไม่ทานกลูต้าแน่นอน เพราะตัวเองเป็นคนดำง่ายกลัวว่าดูแลไม่ดี แล้วกลับไป

ดำหนักกว่าเดิม ตอนนี้ก็คล้ำอยู่ แต่คล้ำน้อยลง เพราะเราถ่ายรูปฟัน หน้า ผิวเราทุกวัน

เอามาสังเกตุดูความเปลี่ยนแปลงไป

อิอิ ดีที่ราคา 580 บาทเท่าเดิมไม่ขึ้นราคา ฮา ถ้าเป็นไปได้อยากให้ออกสูตรแต่ละสภาพผิว ผิวแห้ง ผิวมัน ผิวเป็นสิว และมีspfซัก 50 555+  ปกป้องยาวนานตลอดวัน lol โอวววววววววววววววววว

ปัญหาผิวแน่นอน แห้งเป็นกระ สีผิวไม่เรียบ ผิวหมอง ผิวคล้ำ ในรูปคือขาวขึ้นหน่อยแล้ว ประมาณ 1 ระดับแถบวัดสีผิวแบบว่าไม่เอาแล้วทะเลใต้สวยมาก และดำมากเช่นกันล่อซะเครียดไปนานเลย

จะลอกคราบแล้วค่ะ แห้งขนาดเห็นเป็นดวงเลย 2-3 วันที่ผ่านมาเลยประโลม BABY OIL ซัดเข้าไปในผิว เอิ๊กดื่มน้ำน้อยมากด้วยเลยผิวไม่สวย เวลาไปไหน เลยต้องใช้พวกครีมปรับสีผิวเข้าช่วย พร้อมกันกันแดด และร่ม ต่อไปนี้จะไม่ละเลยแล้ว เพราะบางทีก็เดินหลั่นล้าท้าแดด แต่คนเป็นกระ ต้องท่องไว้ว่า เราไม่มีสิทธิ์ปล่อยผิวเราถูกแดดถ้าไม่จำเป็น มันไม่ใช่แค่มะเร็งผิวหนัง แต่จุดน้ำตาลจะมาอีกเยอะ คิดในแง่ดี เหมือนฝรั่ง ฮา

เนื้อครีมรุ่นนี้ลื่นขึ้น ไม่หนืดและข้นเหมืิอนรุ่นก่อน ทาง่ายขึ้น แต่นวดหน่อยเวิคกว่่า วอร์มอัพไปที่ฝ่ามือถูๆ จะซึมดียิ่งขึ้น แต่ ………..

จะบอกว่าถ้าผิวแห้ง เลิกมองไปได้เลยค่ะ ยังใช้ไม่ได้

พอทาแล้วอย่างที่บอกว่าจะเคลือบให้ผิวดูขาวอวบนวล เหมือนเคลือบไข่มุก แต่ ………. ผิวแห้งต้องพับโครงการนี้ไปก่อนจนกว่าจะหายทาให้เห็นเทียบกัน บางทีรู้สึกว่ารุ่นนี้ล้างแล้วเหมือนยังคงเคลือบพอกผิวไว้ ไม่รู้สาเหตุนี้รึเปล่า ผิวถึงขาวขึ้นเวลาล้างออกแล้วใช้ไปซักพัก แต่ไม่ได้มากขนาดที่รับประทานกลูต้าอย่างที่บอก ตอนนี้เอิ๊กก็ยังไม่พอใจ คงจะหาวิธีอื่นเสริมไปเรื่อยๆ ยังคงคล้ำอยู่

ที่บอกว่าผิวแห้งห้ามเพราะ ตอนใช้มีช่วงนึงผิวแห้ง ตัวนี้ถามถึงเรื่องความชุ่มชื้นไม่มี หรือ น้อยมากคนผิวปกติ ผิวมัน ใช้ได้หน้าจะลื่น ละเอียดเลยทีเดียว เอิ๊กผิวแห้งหลังจากประโคมเบบี้ ออยล์ถึงกลับมาใช้ได้ตามปกติเหมือนเดิมไม่ลอก 😀 ฮี่ฮี่ อยากขาววววววววววทำไงดี แบบไม่กินไม่ฉีด ฮา ละโมภ :p

ได้เจลกำจัดขนสมุนไพรมา เนื่องจากอยาก Wax มาก แม่เลย

มอบมาให้ 3 หลอดด้วยกัน หลอดละ 390 + กว่าบาท โดยที่เรา

ยังไม่เคยมีโอกาสได้เห็นวิธีการ Wax จริงๆ แม่บอกคนเข้าคิวยาว

ในงาน OTOP ที่ผ่านมา

และนี้คือที่เราได้มา ขนาดกล่องปานกลาง ใช้กับขามากสุดประมาณ 2 ครั้ง

สรุปตามสรรพคุณที่บอกมา เอิ๊กว่าเอิ๊กคงทำไม่เป็นมั๊ง อ่านแล้วอาจจะมีขั้นตอนอะไรผิด

ทิ้งไว้ 5 นาที แสบมาก แสบมากจริงๆ เช็ดออก ตกสะเก็ดแผลเลย

เลยต้องยกให้คนอื่นไป ใช้ไม่ถึงครึ่งหลอดเลย

เลยอยากจะบอกทุกคนที่อยากจะลองกำจัดขนด้วยวิธีนี้ ถ้าทำไม่เป็น

อย่าเลือกวิธีนี้เลย ขนหลุดไม่หมดด้วย แล้วเวลาเช็ดออกย้อนขน เจ็บ

แสบ ตกสะเก็ดเป็นแผลหลายจุดเลยค่ะ ต้องระวังมาก กรด แม้จะเป็นแค่

ฺ“กรดผลไม้”ก็อันตรายมากเช่นกัน ขนาดอ่านแล้วอย่างละเอียด

ทำไม่ได้ และ ได้แผลมาด้วย

สังเกตุขนที่ขึ้นมา ก็บางลงใช่ แต่แข็ง และเข้มขึ้น  เนื่องจากมันหลุดไม่หมด ก็ขึ้นไม่พร้อมกันค่ะ

เป็น WAVE นึกเสียว่า เป็นแฟชั่น ขนไม่เท่า เก๋ค่ะไม่มีใครอยากเหมือนด้วย ฮา ไม่เอาแล้วพอค่ะ 🙂

ไม่รู้จะมีใครแอบโรคจิตเหมือนเราไหม ชอบกัดเล็บเวลาเล็บสั้นแต่ถ้าเล็บยาวจะไม่เป็น

เอิ๊กชอบไว้เล็บยาวตั้งแต่ตอนมหาลัย เล็บแข็งแรง ไม่ฉีกไม่หักง่าย ไม่เคยต่อจริง

ชอบไปPaintบ้างถ้ามีโอกาส ส่วนมากซื้อกากเพชรมาโรยเล่นเอง ประหยัดเงิน [ฮา]

ติดแค่ 2 ฉึก เพชรเม็ดเท่ามดข้างละ 3 เม็ด คิดฉัน 400 บาท ตะไบเล็บเรา

ซะเลือดออกเลย ทำในร้านไฮโซด้วยนะ พอเลย จำเทคนิคมาซื้ออุปกรณ์เล่นเอา

จ่ายแพงกว่า แต่ใช้ได้นานสุดยอดไปเลย พวกอุปกรณ์ สนุกเพลิน

ประยุกต์มาติดอย่างอื่นได้ด้วย 🙂 ฮี่ฮี่

และ ในชีวิตเคยติดเล็บปลอม 3 ครั้ง การที่จะติดเล็บปลอมคือ

เวลาที่เล็บสั้น แล้วเราก็แทะซะจนไม่เหลือต่อ แล้วบังเอิญเราต้องออกงาน

งานแต่ง งานพบญาติ งานเจอผู้ใหญ่ เวลายกมือไหว้ หยิบจับอะไร

มันดูไม่งาม ผู้หญิงมือสวย เล็บสวย มันก็เป็นอะไรอย่างหนึ่งที่น่ามอง

ดูเพลิน หรือ ไม่ต้องเล็บสี แต่สะอาด ไม่มีขี้เล็บดำคาอยู่ก็โอเคนะ ยังไหว

รอบนี้มีสัมภาษณ์งาน เล็บกุดมาก แล้วต้องชี้นิ้วในงานที่ต้อง Present

ไม่อยากต่อให้เปลืองเพราะเดี๋ยวมันก็ยาวแล้ว ถ้าเราอดทนไม่กัด

วันนี้เลยมาแนะนำ สำหรับคนที่ต้องการมีมือที่สวยงาม เล็บยาวเรียว

เพื่อออกงานที่สำคัญได้ทันเวลา และกระเป๋าสตางค์ไม่ฉีกโดยไม่จำเป็น

 อุปกรณ์

1. เล็บปลอมใส หรือ ขุ่นแล้วแต่ชอบ หรือจะใช้แบบแต่งแล้วยิ่ง Work
2. กาวติดเล็บปลอม
3. ตะไบเล็บ / ที่ตัดเล็บ
4. กากเพชรสีที่ชอบ [ควรเลือกให้เข้าคอนเซ็ปต์งาน]
5. ยาทาเล็บทั้งสี และ ใส

ที่พูดมาเอิ๊กซื้อเล็บปลอม และ กาวติดเล็บได้ในราคา 120 บาทไทย ที่ ไดโซะ

เพราะยาทาเล็บ และ กากเพชรมีอยู่แล้ว รวมกันแล้วไม่เกิน 200 บาทไทยแน่นอน

วิธีเสกเล็บยาวสวยทันใจเพื่องานสำคัญ

1. ใช้เล็บปลอมที่ได้เตรียมมา ทาบขนาดกับเล็บของเรา
2. ตัดเล็บปลอมให้ได้ความยาวที่เราพอใจ ตะไบให้โค้งรับกับตอเล็บของเรา
3. ใช้กาวหยดลงไปตรงส่วนที่จะติด พยายามหยดกาวตรงกลางส่วนเล็บที่จะติดไว้ เพราะเวลาติดมันจะราบพอดี
4. ทาบเล็บปลอมที่หยดกาวเรียบร้อย ไปกับเล็บจริง กดไว้ให้แน่น 30 – 60 วิ
5. ทาสีเล็บ จะใส จะสี ตามต้องการ
6. โรยกากเพชร
7. ปิดท้ายด้วยยาทาเล็บใสอีกรอบ

สวยงามสมใจ ถ้าโรยกากเพชรยากก็ทาสีก็พอ ใครจะทาสีที่เล็บปลอมก่อนติดก็ได้

ใครเซียนแล้วก็ติดก่อนแล้วทา 🙂

เอิ๊กเลือกสีขาว เพราะเข้าได้มากกว่าหลายชุด หลายสีที่เอิ๊กมีค่ะ

คิดเผื่อไว้หลายงาน

นอกจากการดูแลใบหน้า รูปลักษณ์ บุคลิคภาพ ร่างกาย จิตใจ และ สุขภาพ

ก็จำเป็นอย่างยิ่ง สุขภาพในที่นี้หมายถึงสุขภาพโดยรวมของร่างกายทั้งหมดนะคะ

สำหรับวันนี้จะมาพูดถึงเรื่องเส้นผมที่หลายคนอาจหลงลืมหรือละเลยว่านอก

จากการทำสีผมสวย เก๋ แล้ว ดัด ยืด โกรก ไดร์ แต่งทรงแล้ว เราควร

มีการบำุรุงอย่างล้ำลึกเข้มข้นเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ หรืออย่างน้อย

2-3 วันต่ออาทิตย์

จำไว้ว่า ...

การมีสีผมสวย

การมีผมสั้น ผมยาวสวย

การมีผมเป็นลอน ผมตรง ผมเป็นคลื่นสวย

การมีผมจัดทรงสวย

ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งดี .. เสริมความมั่นใจให้เราก้าวขาออกจากบ้าน

ส่วนตัวเอิ๊กเองเป็นคนดูแลเรื่องผมตัวเองสม่ำเสมออยู่แล้ว คือ การไม่ทำร้ายหนังศีรษะในการทำสีผมบ่อยๆ ไม่ไดร์ ไม่หนีบ

ไม่ดัดพร่ำเพรื่อ เพราะผมเราไม่ได้เป็นคนผมสวย ทำอะไรก็ไม่เป็นไร เงา และ ชุ่มชื่น ดูมีน้ำอยู่ตลอดเวลา เป็นคนผมแห้ง

อย่างเดียวเพราะหนังศีรษะมันต้องสระผมทุกวัน อยู่ไม่ค่อยได้ มันจึงเป็นผมเส้นใหญ่ที่แห้ง และจะกระด้างมากหลังจากทำ

สีผมสวยๆ เสร็จ แต่จะมีการดูแลอย่างสม่ำเสมอ โดยการเลิกใช้ครีมนวด แต่เปลี่ยนมาใช้ทรีทเมนท์แทน

วิธีการใช้ทรีทเมนท์ของเอิ๊กตามที่อ่านตำรากูรูหลายท่านมา อย่างเช่น ตั๊กมยุรา

คือ ..

จะชโลมเลยโคนผมออกมา 3-4 นิ้ว และ จะค่อยบีบนวดตรงปลายให้อาหารผมกับมันแค่นี้เอง ง่ายมาก ถ้าว่างหน่อยก็

หมักผมด้วยทรีทเมนท์ เอาผ้าชุดน้ำชุบน้ำอุ่นโพกศีรษะไว้ แล้วใส่หมวกคลุมผมอาบน้ำ ทำอย่างอื่นไปด้วย ถึงเวลาล้างผม

ทั้งหอมทั้งนุ่ม :) และมีสุขภาพดีค่ะ

เมื่อวันที่ 15 ธันวาปีที่แล้วที่ผ่านมาก็ได้มีโอกาสเข้า Workshop Blinetest Shampooโดยตอนแรกจะยังไม่มีการบอก

ชื่อผลิตภัณฑ์เชื่อไหมว่าคนอื่นเขารู้กันหมด แต่เอิ๊กคนเดียวไม่รู้ เพราะมัวแต่นั่งหลงไหลกับบรรยาการภายในร้านที่จัดขึ้น

ที่ RCA แถวพระราม9เป็นร้านทำผมสไตล์ Victorian ผสมกลิ่นอายฝรั่งเศสอย่างร้าน Libertish Salon Café’

โดยมี Stylist ชื่อดัง อย่าง คุณเชอร์รี่ ทิพย์ระวี ภู่ไชย เจ้าของร้านคนงาม

คือเก่งและโปรมากด้านเส้นผม นอกจากจะรู้เกี่ยวกับเส้นผมเป็นอย่างดีไม่ว่าจะตัด แต่ง ทำสี ดูแล

เปลี่ยนแปลงสภาพเส้นผมจากตรงเป็นลอน จากลอนเป็นตรง

ยังรู้ถึงเซลล์ภายในเส้นผม โดยจบสถาบันชื่อดังมาจากเมืองนอก โดยในวันงาน

ให้ข้อมูลอย่างแน่น พร้อมแนะนำวิธีการดูแลเส้นผมให้พวกเราเป็นอย่างดี งานวันนี้มีคุณ เก๋ ชลลดา เมฆราตรี

มาทำหน้าที่เป็นพิธีกรขี้เล่น อารมณ์ขัน และ ชีสวยเลิศมากทั้งสองคนเลยค่ะ

คุณเชอรรี่สีผมเหมือนเจนี่ เทียนมาก และดูมีวอลลุ่ม รวมถึงสุขภาพเส้นผมใช้ได้เลยในขณะที่ทำสีผมที่ต้องใช้

เปอร์ออกไซด์สูงขนาดนี้ ยังคงมีความนุ่ม และที่สำคัญเธอทำผมเอง ว้าวววววววว !

และที่ขาดไม่ได้ ที่เราได้มางานนี้เพราะไปลงทะเบียน เพราะอยากเจอ Beauty Blogger คุณแม่ยังสวย

ท่านนึงเนื่องจากเจอในงานอื่นมองระยะไกล สวยกว่าในกล้องมาก นอกจากรูปร่างที่เพอร์เฟค บุคลิคภาพ

น้ำเสียง ความสดใส ไม่น่าเชื่อสำหรับอายุหลักเลข 3 เพราะดูอ่อนเยาว์ ผิวดี และเฟิร์มมาก

สำหรับคุณ โบว์

คุณเก๋ชลลดาเห็นคุณโบว์ยังต้องออกปากชม เพราะเขาสวยมากจริงๆ หุ่นเป๊ะกว่าพี่เก๋ ฮา

สวยคนละสไตล์เรียกว่ามาไม่ผิดหวังเลย ได้มอง ได้เรียนรู้ เรื่องราวความสวยความงาม

ชอบมาก

ภายในงานมีการตรวจเช็คสภาพเส้นผมของแต่ละสาวกัน

อย่างละเอียดส่วนมากก็ได้รับคำชมไปตามๆกัน ว่า "แห้ง" 

ซึ่งเป็นปกติของปัญหาสาวไทยส่วนใหญ่มีการสอนเช็คว่า

สภาพเส้นผมแบบนี้มัน หรือ แห้ง หรือ ธรรมดารวมถึง

การสอนดูแลการบำรุงหนังศีรษะด้วยตัวเอง ทุกคนก่อน

จะได้รับการทดสอบจากแชมพูตัวใหม่ ซึ่งเคลมว่า 

"สูตรใหม่ที่เข้มข้นและมากไปด้วยวิตามิน"ซึ่งดี

ต่อสุขภาพเส้นผมของสาวผมแห้งทั้งหลาย 

เมื่อทดสอบสภาพเส้นผมเสร็จแล้วก็ได้เวลาไปผ่อน

คลายหนังศีรษะโดยการสระผมบนเตียงสระนุ่มๆ

บรรยากาศสลัว ๆ ชวนหลับไหล และต่อด้วยการ

ไดร์จัดแต่งทรงที่เข้ากับใบหน้า และ ความสวย

ของแต่ละคน GAGAGAGAGA !! 

[ กระโถนไหม ? ]

หลังจากนั้นก็พามาหลั่นล้า ไดร์ผมจัดทรงให้พริ้วสวย หลังจากอัดวิตามินเข้มข้นลงบนเส้นผมก็มาเปลี่ยนเสื้อผ้า แต่งหน้ากันใหม่

โดยมีFashion Stylist อย่างพี่เก๋เป็นคนเลือกชุดให้เข้ากับบุคลิคภาพของผู้หญิงแต่ละคน ทุกคนก็เริ่มมีความสดใส มั่นใจ

กันขึ้นมากพอผมสวยแต่งตัวสวย  แล้วเริ่มจะอ้าปากคุยกับคนข้างๆโดยอัติโนมัติ เพราะความมั่นใจมันมาสิงจริงๆค่ะคุณ

หลังจากนั้นก็ถึงเวลามาทายชมพูปริศนากันแล้ว คราวนี้ก็ตอบได้เสียงดังฟังชัดกันทุกคนว่า "แพนทีน" ไม่ใช่ตีนของแพนนะคะ

ฮา เราก็เป็นสาวกมาตลอดตั้งแต่เด็กเนื่องจากรู้สึกถึงความนุ่ม ลื่นของเส้นผมเวลาใช้ พอสูตรใหม่นี้ก็สปริงกันเลย ผมเด้งมาก

มัดแล้วไม่ค่อยเป็นรอยเลย เงาวิงค์ สะท้อนกับประกายแดด

สีผมเราเจิดไหม จะได้เวลาทำใหม่แล้ว พอสระไปมันก็อ่อนลงๆ แดงเชียว

ไม่ต้องสวย ไม่ต้องเริศ ก็ทำได้ถ้ามั่นใจ !

เมื่อสวยแล้วก็ต้องมาชักภาพร่วมกับบุคคลผู้เป็นแรงบันดาลใจและสร้างคุณเชอร์รี่มากับตัวเอง

"คุณแม่พี่เชอร์รรี่"สวยอลังการมาก ฮา รู้แล้วว่าคุณลูกสวยเลิศเชิดมาจากใคร

จริงๆแล้วเพราะคุณแม่พี่เชอร์รี่นั่นเอง คิคิ

เมื่อสวยตั้งแต่หัวจรดเท้ามั่นใจแล้ว ก็ต้องมาโพสภาพเป็นที่ระทึก เอ้ย ระลึกซักหน่อย

สวยกันทุกคนเลย โฮะ โฮะ

with พี่โบว์คนสวยที่ทำให้เราอยากมาเจอตัวจริง สมใจมาก

ยังมีอีก 2 ท่านไหนงานได้แก่สาว FEONALITA และ CINNAMONGAL

สุด HOT 2 สาวไม่ต้องพูดถึงเจอกันหลายครั้งแล้ว ประทับใจไม่แพ้กันค่ะ :)

นอกจากงานเขียนที่เราเห็นในสื่ออนไลน์ต่างๆนั้น ตัวจริงอยู่ด้วยสนุกและเพลินมากกว่าเยอะ

ปิดท้ายด้วย Make Up ในวันนั้นของเรา ใส ใส ใส ใส ใสหัวไป ฮา

แล้วพบกันใหม่ค่ะ

Free TextEditor

TARGET : ชาย หญิง วัยรุ่น วัยทำงาน ที่ประสบปัญหาสภาพผิวหน้าเป็นสิวอักเสบ สิวธรรมดา สิวอุดตัน สิว ฯ 

ORIENTAL PRINCESS BEAUTY TIPS :

1. ต้องเรียนรู้ที่จะขจัดปัญหาสิวตั้งแต่ต้นตอ เริ่มตั้งแต่อาหาร ที่ควรหลีกเลี่ยงเวลาเป็นสิว ได้แก่ น้ำตาล
2. เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับสภาพผิวที่แพ้ง่าย ผิวไว ให้ถูกต้อง
3. ควรเลือกแต่งหน้าโดยเลือกดูส่วนผสมที่เป็น OIL FREE ทำให้ผิวไม่เกิดปัญหาอุดตันของต่อมไขมัน 

สิวลิขิต .. ลิขิตสิว สู่ผิวใส  เรียนรู้ที่จะดูแลตนเองระหว่างเป็นสิวได้อย่างไร กับ Workshop ดีดีจาก Oriental Princess สิวเป็นอาการผิวหนังอักเสบชนิดหนึ่ง ที่ปัจจัยในการเกิดมีมากมายหลายขนาน ขึ้นกับประเภทผิว และ สภาพผิวของแต่ละคน

เจอกันอีกแล้ว กับเครื่องตรวจสภาพผิวด้วยรังแสง UV ให้เห็นถึงปัญหาผิวที่ซ้อนอยู่ชั้นลึกสุด และ เครื่องตรวจสภาพความมันของผิว ผิวแห้ง ผิวธรรมดา ผิวผสม ล้วนแต่สามารถเกิดสิวได้หมด

หลังจากทำเลเซอร์บอกได้เลย ใครเคยดูตอนเก่าๆ เชื้อสิวที่เคยไปเช็คที่ PAI LASER ก่อนเริ่มทำเลเซอร์มีเยอะกว่านี้มาก แต่สิ่งที่ได้กลับมาหลังจากไปทำเลเซอร์นั่นคือ ผิวหน้าไวต่อแสงมากยิ่งขึ้น เซลล์ผิวใหม่ที่ขึ้นมาทดแทนหลังจากการทำเลเซอร์ ตาข่ายผิวยังกำลังสร้างความแข็งแรงอยู่ โอววววววววววววววววววววววววว คนจะทำเลเซอร์ต้องเตรียมตัวดูแลผิวจุดนี้ด้วย มาก !

งานนี้ยกกันมาเปิดเผยเคล็ดลับผิวใส ผิวสวยกันหลายท่านด้วยกัน คุณอภัยพร ศรีสุข ผู้จัดการฝ่ายการตลาด OP ชุดขาวล่างขวา มาเปิดงานตอนเริ่มต้น ตัวจริงน่ารักมาก เหมือนตุ๊กตาเลย คุณโต้ง สมโชค เจริญโชคทรัพย์ เมคอัพกูรูชื่อดัง แต่งหน้าเร็วและเข้าใจง่ายมาก และยังมี คุณพิมพ์วดี อากีลาร์ นักโภชนาการ จากโรงพยาบาลสมิติเวช พร้อมเคล็ดลับการดูแลตนเองด้วยอาหาร และแนะนำเมนูสุขภาพสำหรับสาวยุคใหม่ หน้าฝรั่ง น่ารัก คล่องพูดเก่ง ความรู้ปึก !

ล้างหน้าเสร็จก็ละเลงด้วยเซ็ทเครื่องสำอางค์ OP เต็มสูบ ของเข้าครบครัน น่าเล่น น่าลองมาก ทุกอย่างนำมาให้ลองเป็นชิ้นใหม่หมด สด จาก Shop กันเลยทีเดียว

หมวยเอิ๊กก็ลองเล่นอย่างสนุกสนาน บันเทิง เริงอารมณ์ อยู่คนเดียว เขาแต่งหน้าสดใสไหมตะเอง >< " ฮา ชอบ Workshop นี้มาก ความรู้เพียบ Tipsความสวยแน่น

นอกจากแนะนำการใช้ผลิตภัณฑ์เซ็ทดูแลสิวอย่างเป็นระบบแล้ว ยังแนะนำเมนูปราบสิว กินได้ทุกวัน สุขภาพดีหุ่นสวย อย่างส้มตำด้วย อร่อยที่สุด ได้ความรู้ไปดูแลตัวเองที่บ้าน และ กลัวน้ำตาลไปซักระยะเลย น้ำตาลตัวแรงทำให้ผิวอักเสบเป็นสิว ใครชอบคาร์โบไฮเดรตขัดขาว แป้ง น้ำตาล น้ำหวาน ทอฟฟี่ ขนม ขนมปัง ระวังสิว !

แล้วเราก็ได้นำพา ชุดรักษาสิวเต็มสูตร 1 เซ็ทอย่างเป็นระบบ เพื่อกลับไปดูแลผิวอักเสบที่กำลังเป็นสิวของพวกเรา เท่าที่ลองศึกษาก็มีทั้งคนที่ใช้ถูก และ ไม่ถูก คนที่ไปกับเราถามเขาเขาบอกว่าใช้ดี เขาชอบมาก ส่วนเรายังอยู่ในความดูแลของหมอ ยังไม่ได้ลองเลยเพื่อน ๆ ใครลองแล้วก็มาแชร์กันได้ วันนี้ OP เอาใจเราไปเต็ม 100 ดูแลดีมาก ทั่วถึงทุกคน ขอบคุณที่เป็นห่วงเรื่องสิวของสาวๆ อย่างพวกเรา และ กระซิบนิดว่า ผลิตภัณฑ์นี้ สกัดจากธรรมชาตินะคะ ใครอย่างลอง อาจเริ่มจาก เซ็ทแรก โดยซื้อแชรกับเพื่อน 4 คนได้ 1 อาทิตย์หน้าจะรู้แล้ว ว่าเราโอเคไหมกับชุดนี้ 🙂 ขอให้สวย ผิวใสกันทุกคนนะคะ with love, erk-erk 

Free TextEditor

งานนี้มีกรรมการเป็นนักแสดง ตลก หมอดู ช่างแต่งหน้า VJ ดัง ๆ มาหลายท่านตั้งแต่ พี่ม้าอรนภา,VJ วุ้นเส้น, ตอง ภัครมัย, มาริสา, หมอช้าง,พี่ตุ๊กกี้,คุณอุ้ม wOW ดารา เยอะเนอะ

><" ไปทำกัน 

TARGET : ผู้หญิงทุกสภาพผิวที่มีปัญหาผิวขาดความชุ่มชื้น

DERMALOGICA BEAUTY TIPS :

1. การขัดและผลัดเซลล์ผิวเป็นสิ่งที่ควรทำ และ ควรบำรุงตามด้วยมอยเจอไรเซอร์เข้มข้นเพื่อเติมความชุ่มชื้นที่หายไป
2. การมาส์กหน้าเป็นการบำรุงที่เติมความชุ่มชื้นแบบเร่งด่วนที่เยี่ยมยอดและเห็นผลไว ภายในไม่กี่นาที
3. ควรขยี้เนื้อครีมด้วยอุ้งนิ้วมื้อทั้งห้าเพื่อให้เนื้อครีมแตกตัวก่อนใช้นิ้ววางเบา ๆ ลงบนผิวหน้าให้ทั่ว
4. ผิวคนไทยส่วนใหญ่ด้วยอากาศ ทำให้ทุกสภาพผิว แห้ง มัน ธรรมดา ผสม สามารถประสบปัญหาผิวขาดความชุ่มชื้น แห้ง กร้าน ลอก ได้

Workshopเก๋ๆ เพื่อผิวสวยบริสุทธิ์ และ ชุ่มชื้นกับ Dermalogica by OHLA งานนี้ต้องขอขอบคุณ BLOGGER สาวสวยอย่างพี่เก๋OHLA เป็นอย่างสูงที่มอบที่ว่างเพื่อให้เอิ๊กได้ไปนั่งฟังการบรรยาย และ ทดลองดูแลผิวด้วยตัวเราเองกับแบรนด์ดัง หรู อย่าง DERMALOGICA ซึ่งสรรพคุณเทียบเท่าเวชสำอางของแพทย์เลยทีเดียว20 ปีที่ผ่านมา หน้าจะบ่งบอกถึงความเป็น PROFESSIONAL ที่ DERMALOGICA พยายามจะทำให้ทุกคนได้มีผิวพรรณที่ดีขึ้นได้เป็นอย่างดีั 

หน้าเราอาจจะเหียกหน่อยแต่เซลฟ์ไม่แคร์สิวใดใด ไม่แต่งหน้าไป กันแดด จบ ! ดิฉันรักผิวค่ะ งานนี้สนุกมากเพราะได้ความรู้ใหม่ๆเป็น Tips ด้านบนที่เอิ๊กจำมาบอกต่อ เก็บกันไปไว้ใช้นะคะ จะได้มีผิวพรรณเนียนนุ่มกันทุกคน งานนี้ได้พี่ไก่คนเก่งของแบรนด์ เป็นEDITOR DERMALOGICA เลยนะฮึ มาสอน บอก เล่าต่อ ให้เราได้มีวิชาเพิ่มความสวยติดตัวไปดูแลตัวเองที่บ้าน พี่ไก่ และ ทีมงานใส่ใจดีมากค่ะ ขอบคุณมาก สำหรับความรู้ดีดี ควบคู่กับความสนุกสนานในการทดลองผลิตภัณฑ์ใหม่ๆไปกับเพื่อนๆอีกหลายชีวิต ณ ห้องนั้น

แอบกระซิบว่ากันแดด กับ Soothing Serum เลิศขั้นเทพ ฉีดเพิ่มความชุ่มชื้น ลงกันแดด ลงแป้งเด็ก ชีวิตสวยแบบเบา ๆ ติดเนียนเลยค่ะพี่น้อง ลองมาแล้นนนนนนนนนนนน จ๊วบบบบบบบบบบบบบบบบ รักมาก เพราะได้มาครองด้วย 3 ตัว ฮา

ใครอยากไป WORKSHOP ดูแลผิวสวยแบบพวกเราได้ สามารถคลิกไปกด LIKE อ่านในหน้า Wall โลดนะจ๊ะ ขอให้สวยวัน สวยคืนกันทุกคน YES YES YES ! http://www.facebook.com/pages/Dermalogica-Thailand/

Free TextEditor

Jingle bells Jingle bells Jingle all the way
Oh! What fun is it to ride in a one-horse open sleigh Hey!

เย่ใกล้จะถึงวันคิดมากของเราแล้ว เฮ้ คิดมากจงเจริญ ฮา

จะคริสมาสต์แล้ว แล้วก็ปีใหม่ ใครกำลังเล็งมองหาเซ็ทของขวัญแด่น้องสาว เพื่อนสาว พี่สาว ครูสาว ลูกค้าสาวๆ คงไม่มีใครปฏิเสธความสวย โดยเฉพาะการที่เรามีผิวสวย และ สุขภาพดีได้ .. คลินิคเป็นอีกแบรนด์นึง ที่ทำเอาใครหลายคนรู้สึกชุ่มชื้น ชุ่มฉ่ำ หลังจากได้รับการปรนนิบัติผิวกับผลิตภัณฑ์ดีๆ การันตีอ่อนโยนไม่แพ้แต่ละตัวของ Clinique นะคะ ไปเว็บแถวพารากอนมาเห็นมีเซ็ทที่น่าสนใจหลายเซ็ทที่จัดขึ้นเพื่อตอบแทนลูกค้าในเซ็ท MERRYCLINIQUE มีตั้งแต่มินิเซ็ทราคา 1200 บาท – 3700 บาท มีทั้งน้ำหอม สกินแครฺ์ เครื่องสำอางประทินผิว ทั้ง for women และ for men สนใจไปลองแวะชมก่อนได้ เพราะเคาท์เตอร์ใหม่สวยงามมาก เก๋ ใส สบายตา โดยเฉพาะมุมช่วยตัวเอง ฮา เย้ย มุมที่เราลองฝึกทา เติม แต่งผิว โดยมีเทรนเนอร์ดีดี แนะนำเราในวิธีที่ถูกต้อง เป็นการเรียนรู้ที่ดูน่าสนุกมาก

แถบบนกับล่างสุดหมดเร็วมาก ใครสนใจห้ามพลาด เช็ครายละเอียดก่อนได้ สินค้าตัวไหนเก๋โดนใจ แล้วค่อยไปสอยของจริง คลิกเลย http://www.clinique.co.th/th/events/merry_clinique_2010/index.php

ส่วนวันคริสมาสต์ของเรามีซานตารีน่าที่น่ารักและใจดี ให้ของขวัญกับเราแล้วละขอบคุณคุณเอ๋จาก Clinique มากค่ะ ที่มอบเซ็ทของขวัญให้กับพวกเรากลุ่ม Beauty Blogger ได้มีความสุขในวันคริสมาสต์ และ นำข่าวคราวสวยๆงามๆมาแบ่งปันกับเพื่อนให้ได้ทราบกัน

ของเอิ๊กได้เป็น Set Party Day To Night สวยมันเข้าไปทั้งวันทั้งคืน ฮา ยกเซ็ท มูลค่า 1,800 บาท ไว้ว่างเมื่อไหร่จะมาทำ How To ให้ชมกันค่ะ

Free TextEditor

Free TextEditor