Archive | BEAUTY

REVIEW งานผิวปังหน้าใสระดับเซลล์ กับ10 ไอเท็มเด็ด | erk-erk

เป็นวิธีที่ใช้มาตลอดสำหรับงานผิวสำคัญ งานใหญ่ของชีวิต
มีความสุขเวลาเห็นผิวตัวเองมีสุขภาพดีโดยไ­ม่ต้องแต่งผิวก็ยังดูดี
ยิ่งแต่งยิ่งง่าย ซูมกล้องเข้าออกไม่ค่อยนอย 555555
เอามาฝาก ไม่เคยเปิดเผยแบบคลิปเลย

Posted in REVIEW, SKIN, SKIN CAREComments (0)

จัดฟันในไทยมีกี่ประเภท เจาะลึกกันนิด

 

 

จัดฟันแบบไหนดี วันนี้เอาข้อมูลมาฝาก เพราะเอิ๊กกำลังจะจัดรอบสุดท้ายแล้ว

สำหรับคนที่จัดฟันอยู่แล้ว กำลังจะจัด แบบไหนมีข้อแตกต่างอย่างไร

จุดดี จุดด้อย ราคาโดยประมาณ

เผื่อจะได้ตัดสินใจกันให้ดียิ่งขึ้น เพราะบางทีคุณหมอก็ไม่ได้มีเวลามาอธิบายให้เราฟัง

 

 

วันนี้ได้ทันตแพทย์ชื่อดังทางทวิตเตอร์ ” ทันตแพทย์ วุฒิพงษ์ เหล่าอมต “

หรือ คุณหมอชิว แห่ง SMILE BY ISKY

คุณหมอเชี่ยวชาญทางด้านการจัดฟันมาก

ซึ่งเอิ๊กกับคุณหมอสนิทกัน รู้จักกันมา หลายปีแล้วจากทวิตเตอร์รอบสุดท้ายก็ต้องจัดกับ

PERFECTIONIST อย่างคุณหมอ  เพราะเอิ๊กก็อยากให้เป๊ะที่สุด

 

 [ ก่อน – หลัง จัดฟันของคนไข้ 3 คน ]

 

 


การจัดฟันยังคงเป็นที่นิยมเสมอมา ทุกศตวรรษ จะเปลี่ยนก็แค่เพียงมีเครื่องมื
หรือวิธีการหลากหลายมากขึ้นเพื่อตอบโจทย์คนไข้ รวมถึงแต่ละที่
ก็มีโปรโมชั่นการผ่อนที่ทำให้คนไข้ง่ายต่อการเลือกรับบริการมากขึ้น
ซึ่งเมื่อก่อน 10 ปีที่แล้ว เอิ๊กต้องวางเงินเป็นก้อนหลักหมื่นเลย
แค่สำหรับการจัดฟันติดแน่นธรรมดา
 
ถ้าให้พูดเรื่องเป้าหมายเท่าที่ผ่านการจัดฟันมาทั้งสองแบบ ไม่ว่าจะติดแน่น
และ ถอดได้ ส่วนตัวมุมมองของเอิ๊ก คือ 
 
1. เพื่อสุขภาพของโครงสร้างฟันที่เหมาะสมไว้ใช้ในการบดเคี้ยวอาหาร
2. เพื่อความเป็นระเบียบ เรียงตัวสวยงาม
3. ก็แฟชั่นอะ ติดเหล็กยังนิยมในหมู่วัยรุ่นเสมอ ตั้งแต่ยุค พี่โบ TRIUMPHS KINGDOM
4. มโนว่าหน้าจะเรียว จมูกจะโด่งขึ้น เดี๋ยวจะอธิบายให้ฟังว่ามันจริงหรือไม่
 
 
10 ปีที่แล้ว รูปเดียวที่มี สมัยติดเหล็ก
 


” การจัดฟันที่ดี และ สวยงาม เราจะดูที่การเรียงตัวของฟัน
ดูที่ปลายฟันซึ่งจะยาวเรียงต่อกันไปเป็นเส้นโค้งอย่างสวยงาม”
 

 

เครื่องมือจัดฟัน จะอาศัยอยู่ในปากเราตั้งแต่ 3 เดือน ถึง หลายปีขึ้นไป ขึ้นกับชนิด และ ความยากง่ายของคนไข้

แบ่งง่ายๆออกเป็น 2 ประเภทกว้าง ๆ 

  • แบบติดแน่น
  • แบบถอดได้ 

แบบติดแน่น

หมายถึงเครื่องมือจัดฟันจะติดแน่นบนซี่ฟัน คนไข้ไม่สามารถถอดออกมาด้วยตนเองได้ เครื่องมือนี้เรียกว่า “แบรคเกต” (bracket) ตรงกลางมีช่อง (slot) แนวนอนสำหรับใส่ลวดจัดฟันเข้าไป

ข้อดี

  • เคลื่อนที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพเพราะติดแน่นเกิดแรงเคลื่อนที่ตลอดเวลา ดีกว่าการจัดฟันทุกแบบ 
  • เคลื่อนฟันได้แบบทุกมิติ ทั้งแนวหน้าหลัง (ฟันเหยิน) คนที่ฟันยาวกดให้สั้นลง คนที่ฟันสั้นกดให้ยาวลง หรือบิดซ้ายขวา 
  • การปรับรากฟันก็สามารถทำได้โดยที่ตัวฟันอยู่ที่เดิมก็ทำได้เช่นกัน

ข้อเสีย

  • มองเห็นได้ชัด
  • มีคราบกาวซึ่งเวลาเอาออกถ้าเอาออกไม่หมดอาจเกิดเป็นคราบ เป็นดวงเห็นได้ชัด โดยเฉพาะหลังฟอกสีฟัน
  • หากแปรงฟันไม่สะอาดเวลาจัดฟันเวลาถอดเหล็กออกอาจทำให้เกิดคราบด่างขาวตามรอยแบรคเกต
  • เวลาถอดเครื่องมือต้องระวังทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ไม่อย่างนั้นฟันอาจร้าวได้เช่นกัน
  • อาจจะรู้สึกรำคาญ หรือ เกิดบาดแผลเวลาลวดด้านในเกี่ยวกระพุ้งแก้มได้
  • เศษอาหารติดได้ง่าย มีคราบจุลินทรีย์ง่าย ต้องแปรงให้สะอาดอย่างทั่วถึง มิฉะนั้นอาจจะมีฟันผุและเหงือกอักเสบ-มีกลิ่นปาก

 

  

แบรคเกตยังอาจแบ่งออกอีกเป็นแต่ละชนิดดังนี้ 

1. แบรคเกตโลหะ (เป็นโลหะผสม)
เรียกง่ายๆ มันคือ แบรคเกตธรรมดายอดนิยมเห็นทุกศตวรรษ จะมีร่องให้ใส่ยางลงไปเพื่อล็อกแบร็กเก็ตกับลวดให้อยู่ติดกัน หลักการเคลื่อนฟันจำเป็นต้องใช้ยาง (สีสัน,สีใส)  (elastic module, o-ring) เป็นตัวรัดลวดให้อยู่ติดกับแบรคเกต และพระเอกสำคัญ คือ “เจ้าลวดจัดฟัน” ที่เมื่อถูกรัดโดยยาง มันจะเกิดแรงกระทำให้เกิดการเคลื่อนที่ต่อซี่ฟันแต่ละซี่ผ่านแบรคเกต โดยยางซึ่งมันจะฝืดทำหน้าที่คอยกดลวดอยู่ ฟันจะเคลื่อนมันโดยการที่ต้องค่อยๆเอาชนะแรงเสียดทานจุดนี้ ราคาการจัดฟันจะต่ำสุด ในบรรดาติดแน่นทั้งหมด 30,000 – 50,000 + บาท ขึ้นกับสถานประกอบการ

 

 

 

2. แบรคเกตแบบสีเหมือนฟัน
หลักการเคลื่อนฟันเหมือนตัวแบรคเกตโลหะธรรมดาทุกประการ ในอดีตทำมาจากพลาสติกซึ่งไม่ค่อยแข็งแรง พังง่าย และ ติดสีจากอาหารและเครื่องดื่มจนเหลืองได้ง่าย แต่ปัจจุบันทำจากเซรามิคซึ่งมีความใส ทะลุไปเห็นถึงสีฟันธรรมชาติของคนไข้แต่ละคนจึงเลียนแบบสีฟันได้ดีกว่า จุดเด่น แข็งแรง เลียนแบบสีฟันดีกว่า และ มีความแข็งแรง จุดด้อย ด้วยความแข็งแรงของวัสดุ เวลาการสบฟัน เวลากัดฟันมาโดนแบรคเกต ฟันอาจมีสึกกร่อนได้ จึงระวังมากสำหรับคนไข้ที่สบฟันลึก อาจจะมีการติดแบบเซรามิคแค่ข้างบน ข้างล่างทำแบบแบรคเกตธรรมดาไป อยู่ที่เวลาแกะแบรคเกตออกจากฟันต้องระมัดระวังสูงเพราะอาจมีผลต่อเคลือบฟันได้ เนื่องจากเซรามิกค่อนข้างแพง ราคาในการจัดฟันประเภทนี้ก็สูงขึ้นไปด้วย ถึงมันอาจจะดูแข็งแต่มันก็เปราะง่าย ต้องใช้คีมถอดพิเศษที่ผลิตออกแบบมาสำหรับเขาเอง 

 

 
 

3. แบรคเกตโลหะเปิดปิดได้เพื่อล็อคลวดเอาไว้ได้ด้วยตัวเอง
ความพิเศษของแบรคเกตคือในตัวจะเปิดปิดเพื่อล็อคลวดจัดฟันได้ด้วยตัวเองคล้ายท่อ (เรียกว่าระบบ self-ligating bracket) ทำให้ไม่ต้องใช้ยาง ( O-Ring สีสัน) มีความเสถียรกว่า ฟันเคลื่อนเร็ว เรียงเสียดทานน้อย เวลามาพบหมอ หมอจะมีเครื่องมือที่ใช้ปิดเปิดแบรคเกตโดยเฉพาะ การที่ฟันเคลื่อนที่เร็วเพราะช่องที่ใส่ลวดเวลามองจะมีลักษณะคล้ายท่อ ไม่มีแรงเสียดทาน ฟันจึงเคลื่อนตัวผ่านง่ายมาก ซึ่งจากการจัดฟันแบบแบร็กเก็ตธรรมดา จะมียางซึ่งฝืดคอยกดอยู่ กว่าฟันจะเคลื่อนมันต้องเอาชนะแรงเสียดทานตรงนี้ มีหลายแบรนด์ แต่เอาจริงคนไทยที่ดังๆ และ รู้จักก็ยี่ห้อ DAMON มากสุดที่ถูกพูดถึง (มันคือชื่อแบรนด์ ไม่ใช่ชื่อชนิดการจัดฟันนะคะ) ต้นทุนการผลิตละเอียดขนาดนี้ก็ต้องแพงค่ะ ราคาประมาณ 50,000 – 80,000 ++ ขึ้นกับสถานประกอบการ 

 

[ สำหรับจุดเขียวบนแบรคเกตคือตัวไกด์สำหรับคุณหมอเพื่อเพิ่มความแม่นยำในการติด

ลงบนผิวฟันได้มากขึ้น ซึ่งแบรคเกตธรรมดาไม่มี ]

 

 

4. แบรคเกตสีเหมือนฟันเปิดปิดได้เพื่อล็อคลวดเอาไว้ได้ด้วยตัวเอง
หลักการคล้ายตัวที่เป็นโลหะ ข้างบน แต่ผลิตด้วยวัสดุสีเหมือนฟัน และ แน่นอนมันจะแพงขึ้นไปอีก ราคา 80,000 + ขึ้นกับสถานประกอบการ

 


 

การเปิดปิดสำหรับแบรคเกตที่เปิดปิดได้ทั้งแบบโลหะ และ วัสดุสีเหมือนฟัน

จะมีที่เปิดปิดเฉพาะ และ มีลวดจัดฟันเฉพาะ ซึ่งคุณภาพจะเกรดดีมาก

 

 

 

5. แบรคเกตโลหะเพื่อจัดฟันด้านใน (Lingual Orthodontics)
ถูกออกแบบมาเพื่อจัดฟันด้านในโดยเฉพาะ สำหรับที่อยากจัดฟันแต่ไม่พร้อมจะให้คนอื่นเห็นเหล็ก และ ไม่มีวินัยพอที่จะใส่แบบถอดได้ แพงที่สุดในบรรดาการจัดฟันติดแน่น ราคา 120,000 – 180,000 + บาท

 

 

 

พระเอกในการเคลื่อนฟันในระบบจัดฟันแบบติดแน่นคือ “ลวด”

 

ลวดจัดฟันมี 3 ชนิด
 
แบรคเกตทำหน้าที่ถ่ายทอดแรงจากลวดไปไว้บนฟัน แต่สิ่งที่ทำหน้าที่เคลื่อนฟันจริงๆ คือ ลวด 
 
1 .ลวดนิเกิ้ลไทเทเนียม (Nickle-Titanium – NITI)
คุณสมบัติ เป็นลวดที่ดัดไม่ได้ เพราะเป็นลวดที่จำรูปร่างตัวเองได้ ( SHAPE-MEMORY) ไม่ว่าจะดัดยังไงมันจะคอยดันตัวเองกลับสู่รูปร่างเดิมของมัน นี่คือเหตุผลว่าทำไมฟันที่ซ้อนเกเมื่อใส่ลวดพวกนี้เข้าไป ฟันจึงค่อยๆคลี่คลายจนเรียบสวยได้ เพราะลวดจะคอยดึงฟันให้เคลื่อนกลับมาโค้งตามรูปเดิมของลวดนี้เอง เนื่องจากลวดจะต้องอยู่ติดกับแบรคเกต เพื่อถ่ายทอดแรงให้ฟันเคลื่อนที่ ดังนั้น เวลาลวดเคลื่อนจึงทำให้แบรคเกตเคลื่อนที่ตามไปด้วย
 
 
 
2. ลวดสเตนเลสสตีล (Stainless Steel – SS)
คุณสมบัติ เป็นลวดที่ดัดได้ แรงจากลวดชนิดนี้จะมีมากกว่า แข็งกว่า ใช้กับฟันที่เริ่มคลายจากการซ้อนเก
มันกำลังจะเรียบแล้ว และ ต้องการกดฟันบางจุดให้เข้ามานิดนึง ก็ต้องใช้ทักษะในการดัดลวดเพื่อให้ลวดออกแรงกับฟันที่เราต้องการให้มันเคลื่อน 
เอาไว้แต่งรูปร่าง หรือ เก็บรายละเอียด (ถึงแม้ว่าการจัดฟันแบบดามอนทางบริษัทอาจเคลมว่าไม่ต้องใช้ลวดแบบดัดลักษณะนี้ แต่บางครั้งคุณหมอต้องมีศิลปะใน
การวิเคราะห์ เพื่อใช้ดัดลวด แล้วใช้กับการจัดฟันแบบดามอน ซึ่งก็มีลวดสเตนเลสสตีลของดามอนโดยเฉพาะเช่นกัน โดยที่ราคาค่อนข้างสูง)
 
 
 
3. ลวด (LS – TITAN) เป็นลวดแบบ 2 IN 1
มีคุณสมบัตทั้งดัดได้และดัดไม่ได้ อยู่ในลวดเส้นเดียวกัน เลือกท่อนที่ต้องการจะดัดและไม่ดัดได้
เพียงแต่ตอนที่ต้องการดัดเราต้องมีคีมไฟฟ้าเพื่อช่วยในการดัด ราคาสูงมาก
กรณี ที่ต้องการแก้ไขฟันของคนไข้เร็วๆ เช่น คนถอนฟัน ฟันหายไป ต้องการให้มันชิดเร็วๆ
 

 
” การจัดฟันที่เรียงตัวกันไม่สวย ก็จะเริ่มจากลวดนิเกิ้ลไทเทเนียมเส้นเล็กก่อน
แล้วค่อยเขยิบไปเส้นใหญ่ เพื่อทำให้คนไข้ไม่บาดเจ็บ ไม่ปวดมาก “

 

ยังมีกลไกการเปิดช่องว่างระหว่างฟัน
อาจมีการใช้สปริงที่ทำมาจากนิเกิ้ลไทเทเนียมซึ่งมันจะคอยยื
ให้กลับมาในสภาพเดิมของมัน จึงช่วยดันให้เกิดที่ว่างของช่องฟันตามที่เราต้องการ

หรือ จะเป็นกลไกการเคลื่อนของฟัน ก็อาจมีการดัดลวดเพื่อเพิ่มความนุ่มนวล
ในการเคลื่อนของลวดด้วย
 

การจัดฟันยังมีอุปกรณ์อีกหลายชิ้นที่นำมาใช้ในการจัดฟันด้วย ไม่ว่าจะเป็น 

หมุด ตะไบ คีม ฯลฯ


 

แบบถอดได้

หมายถึงเครื่องมือจัดฟันที่คนไข้ถอด-ใส่ได้ด้วยตนเอง

ข้อดี

  • ที่ทำความสะอาดง่ายทั้งฟัน และ เครื่องมือจัดฟัน
  • เวลาเข้าสังคมไม่ต้องการให้ใครเห็นก็สามารถถอดได้ชั่วคราว
  • สามารถถอดเพื่อรับประทานอาหารได้สะดวก
ข้อด้อย
  • ความสามารถในการเคลื่อนฟันอาจจะไม่ได้รวดเร็ว และ ไม่ได้ทุกทิศทางเหมือนเครื่องมือแบบติดแน่น
  • ต้องใช้ความร่วมมือจากคนไข้สูงมากในการใส่ให้ครบชั่วโมงที่กำหนดมิฉะนั้นอาจไม่ได้ผล
 

เครื่องมือจัดฟันแบบถอดได้แบ่งออกเป็น 2 ชนิด ได้แก่ 

 

1. เครื่องมือจัดฟันแบบถอดได้แบบดั้งเดิม 

ซึ่งประกอบไปด้วยอะคริลิค และ ลวด เครื่องมือที่ใช้แรงเคลื่อนฟันจากลวดสปริงที่ทันตแพทย์จัดฟันทำการดัดเอาไว้

 

 

 

2. เครื่องมือจัดฟันแบบถอดได้ชนิดพลาสติกใสครอบลงไปบนฟันทุกซี่

โดยเมื่อใส่เครื่องมือจัดฟันชนิดนี้แล้วจะมีแรงดันฟันไปตามทิศทางที่กำหนด เคลื่อนที่ทีละนิดประมาณ 0.25 มิลลิเมตร แบรนด์ดังที่เรารู้จักกันดี INVISALIGN เป็นชื่อยี่ห้อของเครื่องมือการจัดฟันแบบใส จุดเด่น มองไม่เห็นว่ากำลังจัดฟันอยู่ ทุกอย่างทำแล้วบันทึกเก็บในระบบขั้นตอน ลักษณะ WORLD WIDE ครอบคลุมในระดับสากล เห็นภาพได้ชัด เป็น3D สามารถปรับแก้ ตรวจก่อนที่จะยืนยันชิ้นงาน INVISALIGN ได้ ที่เครื่องมือค่อนข้างมีราคาแพงเพราะใช้เทคโนโลยีชั้นสูงเข้ามาในการทำอย่างละเอียด ทุกอย่างถูกทำผ่านระบบคอมพิวเตอร์ ยังรวมถึงเวลาที่เครื่องมือ เสียหาย ทำให้ทันตแพทย์สามารถดูจุดที่เสียหาย แล้วสั่งชิ้นงานที่ต่อเนื่องกันมาให้อย่างโดยง่าย อีกทั้งต้องส่งแบบพิมพ์ฟันคนไข้ไปยังห้องแล็บต่างประเทศ อีกทั้งยังสามารถสั่งทำแก้ไขได้อีก 1 รอบในกรณีที่ฟันไม่สวยสมบูรณ์แบบตามที่ได้วางแผนกันไว้ ราคาเริ่มตั้งแต่ 95,000 – 180,000 ++ บาท ระยะเวลาในการจัดฟันมีตั้งแต่ต่ำสุด 3 เดือนกว่า – เป็นปี แล้วแต่ความยากง่าย และ ชนิดของ INVISALIGN ขึ้นกับสถานประกอบการ และ ก็มีอีกแบบที่ไม่ได้ใช้ระบบคอมพิวเตอร์ในการทำ แต่ใช้แรงงานมนุษย์เป็นคนสร้างเครื่องมือขึ้น และ ปรับตำแหน่งฟันบนปูนหล่อแบบจำลองฟันของคนไข้ ราคาจะถูกกว่ามาก แต่ความละเอียด และ การเคลื่อนฟันจะจำกัดกว่ามากๆ (ประสบการณ์ตรง) ราคาตั้งแต่หลักพัน ถึง หลักหมื่นต้นๆ

 


 

การละลายของรากฟันจะละลายไปเลยอย่างถาวร ไม่ยาวขึ้น
สาเหตุส่วนใหญ่จะมาจาก
การได้รับการกระทบกระเทือน บาดเจ็บ เช่น อุบัติเหตุ
การจัดฟัน ก็อาจจะทำให้รากฟันละลายไปได้บ้าง อาจมีการ X-RAY ดูทุก 6 เดือน
ขึ้นกับตัวบุคคล บางคนก็เป็นคนที่รากฟันละลายง่าย 
เช่น คนที่เคยมีการรักษารากฟันมาก่อน

 
 

เครื่องมือการจัดฟันทั้งหมดที่นำมาให้อ่านกัน
จะเน้นไปที่เครื่องมือที่ทำให้เกิดการเคลื่อนที่ของฟันยังไม่รวมเครื่องมือที่ใช้คงสภาพฟัน
หรือ เครื่องมือที่ทำให้เกิดการเคลื่อนที่ของขากรรไกรนะคะ เดี๋ยวจะสับสนกัน 🙂 

 

 

 

จัดฟันจมูกโด่งจริงหรือไม่

เพราะว่าริมฝีปากมันยุบเข้าไป จมูกเด่น เห็นชัด เลยดูว่าจมูกโด่ง

มันเป็นภาพลวงตาของมิติองศา อวัยวะใบหน้า

 

จัดฟันหน้าเรียวจริงหรือไม่

ที่เรียวเพราะว่าฟันเกิดการเคลื่อนเปลี่ยนตำแหน่ง อาจเคี้ยวข้างลำบากขึ้นไม่ได้ใช้งาน

หน้าก็อาจเรียวขึ้น หรือ การจัดฟัน กรามเปลี่ยนององศา ใบหน้าอาจดูยาวขึ้นนิดนึงได้

 

 

 

ใครที่รอคอย REVIEW การจัดฟันแบบ INVISALIGN I7 ซึ่งเอิ๊กมั่นใจมากว่า

ยังไม่เคยมีใคร REVIEW ในเมืองไทย และ เอิ๊กจะเป็นคนแรก ที่จะมาเล่าเกี่ยวกับ

ระบบการจัดฟันแบบใส แบรนด์ INVISALIGN ทั้งหมด เหตุใดถึงแพงซึ่งถือว่า

เป็นการจัดฟันรอบสุดท้ายของเอิ๊กที่ HI-END ในเรื่องเทคโนโลยีมากสุด พูดแล้วตื่นเต้น

เพราะ ครั้งนี้เอิ๊กมีส่วนร่วมในการออกแบบแผนการรักษาความสวยงามของฟันที่

จะเรียงตัวกันกับคุณหมอ (ซึ่งเป็นจุดเด่นของ INVISALIGN) เป็นการจัดฟันแบบเดียว

ที่ทำให้เราเห็นอนาคตตอนจบที่สวยงามของฟันเรา รอนะครับ เดี๋ยวมาต่อ 😀

 

 

 
 

 

ที่มาข้อมูล
ทันตแพทย์ วุฒิพงษ์ เหล่าอมต
ศูนย์ทันตกรรม SMILE BY ISKY
 
 
แหล่งรูปภาพเพิ่มเติม

Posted in TEETHComments (0)

รีวิวยืดผม MARK THAWIN น้ำยาญี่ปุ่น

1 ปีกว่าที่รอคอยหลังจาก ฟอกผมไป 
คือ ปกติไม่มีร้านไหนจะทำให้ เพราะทุกคนรู้อยู่แล้วว่าผมมันตาย แห้ง เสียรุนแรง
ทำได้ดีสุดคือตัดทิ้ง แต่เอิ๊กอยากตื่นมาแล้วผมฟูน้อยลง สวยเลย แค่หวี แล้วรอให้แห้ง
จึงขอร้องอยากทำมาเกินกว่า 10 ครั้ง ผมก็ยาวมากลางหัวแล้ว ตอนนี้ พี่แจ้ และ น้องปลั๊ก
แห่ง MARK THAWIN ก็อนุญาตซักที เย่
แต่ข้อแม้ทำใจยอมรับด้วยเพราะผมมันตายแล้ว มันก็อาจจะพังกว่าเดิมได้
ครั้งนี้นอกจากยืดผม ยังมีการอัดทรีทเมนท์ DEEP LAYERS จากญี่ปุ่นด้วย 5 ขั้นตอน
เพราะสภาพผมมันแย่มาก สงสัยพี่ช่างใหญ่ของเราจะหลงรักแบรนด์ญี่ปุ่นมาก
เลือกทุกอย่างให้เอิ๊กเป็นแบรนด์ ญี่ปุ่นหมดเลย
น้ำยายืดก็เป็นของญี่ปุ่น MOLTOBENE เช่นกัน เขาบอกว่ามันอ่อนโยนกว่าทางยุโรป
มีสูตรผมเสียหนัก กับ สูตรผมแข็งแรง
สำหรับตัวทรีทเมนท์ที่อัดลงไป หลักการทำงาน
Deep Forest Salon DEEP LAYER สุดยอด Treatment
สำหรับผู้ที่ต้องการความชุ่มชื้นเท่านั้น! หัวมันอาจไม่เหมาะ
จะเน้นฟื้นบำรุงผมแห้งเสียรุนแรงแล้ว และ มีกลิ่นที่หอม “แมกโนเลีย” และกลิ่น “มัสก์”
อันนี้คือเสร็จแล้วใช่เวลาเกือบ 5 ชั่วโมงเต็ม เงางาม ไดร์มาค่ะ
ห้ามสระผม 2 วันนี้คือสภาพผมที่สระแล้ว และ ไดร์ให้แห้ง จะเห็นว่าปลายแห้งอยู่แต่ยอมรับได้
โคตรตรงเลยผม 555555 ถูกใจมาก เดี๋ยวจะลองหวีแล้วไม่ไดร์ร้อน ใช้ลมเย็นบ้างว่าจะเป็นไง
ราคาทางร้านอยู่ที่ 12,000 บาท
ทรีทเมนท์ 3,500 – 5,500 บาท
ซึ่งหลายคนอาจจะมองว่าราคาค่อนข้างสูง ไม่แปลกเลยเพราะร้านค่อนข้าง HI-END มาก
อย่างที่เคยได้ REVIEW ไป ละเอียดละออมาก และ ทำสีผมไม่เสียเลย

ใครแจ้งว่ามาจากเอิ๊ก ทางร้านสัญญาจะทำทรีทเมนท์ 3,500 – 5,500 บาท ให้ฟรี 🙂

โดยรวมพอใจมากค่ะ ไม่หยอยหยิกเลย ผมตรงแล้ว งดทำสี 2 เดือนว่ากันใหม่ ช่วงนี้บำรุงไป
ไว้มาอัพเดทอีกนะคะ <3

Posted in HAIRComments (0)

PREVIEW : Garnier Ageless White Anti-Aging + Whitening Miracle Cream SPF 21 PA ++ ริ้วรอย และ ความขาวไปด้วยกันได้

 
 
 
 
 
 
 
วันนี้มาเขียน PREVIEW ให้กับตัว Garnier Ageless White
Anti-Aging + Whitening Miracle Cream SPF 21 PA ++
ตัวนี้ออกมาซักระยะ คนที่เลือกใช้หรือมองหาสกินแคร์ที่ดูแลเรื่องริ้วรอย [ ANTI – AGING ]
แต่แถมเรื่องการปรับสภาพสีผิวให้ดูขาวกระจ่างใสมาด้วย [ WHITENING ]
คงคุ้นตาสูตรนี้ดี พรีเซนเตอร์สวยและเลอค่าเหนือการเวลามาก กับ แอฟ ทักษอร
 
CONCEPT : สำหรับคนที่มองหาวิธีการจัดการกับเรื่องริ้วรอย แต่มี WHITENING เสริมด้วย
โดยบางทีไม่ต้องมีริ้วรอยแล้วถึงมาเลือกใช้ เราใช้ก่อนได้เพื่อดูแลผิวให้อ่อนเยาว์ยาวนาน
ยิ่งอายุ 20 กลาง –  ปลาย ๆ นี่เริ่มเฝ้าระวังได้แล้วค่ะ จะได้ไม่ต้องมานั่งรักษาภายหลัง
มันยากกว่ามาก และ บางทีมันก็ไม่เหมือนเดิม
 
 
” เมื่อวัยเด็ก วัยรุ่น วัยทำงานตอนต้น
จะแสดงสีหน้าแบบไหนใบหน้าก็กลับมายืดหยุ่นราบเรียบดังเดิม
พอวัยที่เพิ่มมากขึ้น คอลลาเจนเสื่อมสภาพลงไปทุกปี ชั้นหนังกำพร้าที่บางลง
การแสดงสีหน้า กลับทำให้เกิดรอยพับย่น ที่ลึกและชัดขึ้น นี่เรียกว่าเป็นริ้วรอยธรรมชาติ
ที่เกิดจากแสดงสีหน้า และ ช่วงวัยที่เพิ่มมากขึ้น “
 
 
 
 
ริ้วรอยมี 3 แบบ
 
ริ้วรอยที่เกิดจากแสงแดด วิธีป้องกัน
ทากันแดด
ใส่หมวก
กางร่ม
เลี่ยงแดดเท่าที่ทำได้

ริ้วรอยที่เกิดจากการใช้กล้ามเนื้อแสดงสีหน้า วิธีป้องกัน
ฝึกยิ้มหน้ากระจกยังไงไม่ให้เกิดตีนกา แล้วก็ไม่ย่นจมูก
ไม่ขมวดคิ้ว ไม่มีอารมณ์โกรธ
ใส่แว่น หรือ คอนแท็คเลนส์ จะได้ไม่ต้องเหลือกคิ้ว,หยีตาบ่อย ไม่เกิดรอยย่นหน้าผากหรือตีนกาเร็ว
การออกกำลังกาย ช่วยให้ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ จิตใจสบาย ลดความเครียด ส่งผลดีทางอ้อม
 
ริ้วรอยที่เกิดจากวัย วิธีป้องกัน 
ยังไงก็มา ทำใจ ชะลอให้ช้าลงได้ตาม 2 รอยย่นด้านบน
 
 ” สำหรับริ้วรอยน้อย ๆ  ไม่มาก : สามารถซื้อผลิตภัณฑ์ครีมที่มีส่วนผสมของกรดวิตามินเอ
ซึ่งมีงานวิจัยรับรองว่าสามารถลดริ้วรอยได้จริง และ กรดผลไม้มาทา
จะช่วยการลอกเซลล์ด้านบนออกไป และ กระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่เร็วขึ้น
ซึ่งกรดวิตามินเอมีงานวิจัยรองรับในการรักษาริ้วรอยตื้นๆได้จริง
เพราะฉะนั้นก็จะทำให้ริ้วรอยเล็ก ๆ หายไปได้ ซึ่งอาจต้องให้เวลาในการใช้ต่อเนื่องนิดนึง “
 

ซึ่ง 1 ในสารสำคัญในเรื่อง Anti- Aging ของ 

Garnier Ageless White
Anti-Aging + Whitening Miracle Cream SPF 21 PA ++ ก็มีผสมอยู่
 
 

 
ทันทีที่ใช้ 1 สัปดาห์ที่เขาบอกไว้ถ้าใช้ต่อเนื่อง คือ จุดด่างดำจะจาง/ลดเลือนลง สีผิวจะสม่ำเสมอขึ้น
และ ถ้าใช้ต่อเนื่องนานถึง 1 เดือน ริ้วรอยจะลดเลือน และ ผิวจะดูอ่อนเยาว์ลง
 
 
 
 
หลอดมาในสีขาวแดง พอดีมือ ราคา 379 บาท 50 มล. และ 109 บาท 15 มล. 
 
 
จุดเด่น  

Garnier Ageless White

 

Anti-Aging + Whitening Miracle Cream SPF 21 PA ++
ตัวนี้จะมีส่วนผสมเด่นๆ คือ สารสกัด 9 อย่าง ที่สกัดมาจากธรรมชาติ
  • ขิง
  • โปรตีนข้าว 
  • โปร-เรตินอล 
  • อีอาร์ 195 
  • อากาเนีย สไปโนซ่า เคอร์เนล
  • วิตามินบี 5
  • วิตามินอี
  • วิตามินบี
  • วิตามันซีจี
คิดว่าเหมาะกับคนที่ยังไม่มีริ้วรอยแต่เตรียมตัวก่อน และ คนที่เริ่มมีริ้วรอยแรกเริ่ม
อารมณ์ 20 ปลายๆ ไปจนถึง 30 ต้นๆ
 
 
ด้านหลังจะพูดถึงเทคโนยีที่มีครั้งแรกคือ เทคโนโลยี AUTO-FIT
เนื้อครีมสูตรพิเศษนี้เวลาใช้จะเข้าได้กับทุกสีผิวทันทีที่ใช้
ไม่ว่าผิวสีโทนไหนความหมองคล้ำก็ดูลดลง พร้อมเผยผิวกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ
 
 
ด้านหน้ากล่อง จะมีเขียนระบุไว้ว่า ผ่านการทดสอบโดยแพทย์ผิวหนัง
DERMATOLOGICALLY TESTED
 
 
ด้านหลังจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับส่วนผสมหลัก 9 ชนิดจากธรรมชาติ ที่ใช้
 
 
ขอซูมให้เห็นส่วนผสมชัดๆนะคะ สำหรับใครที่กังวลเรื่องน้ำหอม และ แอลกอฮอล์
ตัวนี้มีผสมอยู่ในปริมาณนึง
 
 

ตัวนี้เป็น Anti-Aging Cream ที่สนับสนุนให้ผู้หญิงอย่างเราได้เลือกใช้

แม้จะยังไม่ได้เกิดริ้วรอย พูดง่ายๆ ยิ่งใช้เร็วยิ่งได้ผลลัพธ์ดี เพราะผู้หญิงที่อายุ 20 ปลายๆ

ใช้เพียงแค่ไวท์เทนนิ่งอาจไม่พอ นี่คือเรื่องจริง

[ อายุเท่านี้ควรเริ่มใช้ Anti-Aging ได้เลย ไม่ต้องรอให้มันเกิดก่อน เพราะจะรักษายาก ]

 

 
จะมา PREVIEW เนื้อให้ดูนะคะ หลอดจะประมาณนี้เวลาอยู่ในมือพกใส่กระเป๋าได้
 
 
ด้านหลัง เอิ๊กคิดว่าตัวนี้จะเหมาะกับ DAY CREAM มากกว่า เพราะมี SPF อ่อนๆผสมอยู่ด้วย
ยังไงก็แนะนำให้ใช้กันแดดเพิ่มเติมด้วยค่ะ เมืองไทยแดดแรงมาก
 
 
ตอนที่ได้เริ่มบีบเนื้อครีม จะเป็นเนื้อครีมสีขาวขุ่น มองด้วยตาเปล่าดูหนัก
 
 
พอได้ลองเกลี่ยเนื้อครีม จะรู้สึกว่าเนื้อมันเบากว่ามองด้วยตา มีความชุ่มชื้น และ พอเกลี่ยไป
เพียงไม่กี่นาที ก็มีการเปลี่ยนสีจนเนียน กลืนลงไปกับผิว มีการปกปิดในระดับที่โอเค
ผิวดูเนียนขึ้นทันที
 
ขอซูมภาพชัดๆ อีกทีนะคะ
 
 
ส่วนตัวบอกเลยว่าสำหรับสีผิวเอิ๊กจะขาวกว่าครีมพอสมควร หลังใช้อาจจะดูสีผิวดรอปลงไป
ส่วนเนื้อสัมผัส ผิวจะชุ่มชื้น ไม่หนัก เรียบเนียนขึ้น
 
 
สรุป
 
ข้อดี
ส่วนผสมจากธรรมชาติหลายชนิด
ราคาสบายกระเป๋าสำหรับ ANTI-AGING สำหรับผู้เริ่มต้นหันมาดูแล
หาซื้อง่ายตามห้าง ซุปเปอร์มาร์เก็ต ฯลฯ
สามารถเปลี่ยนเป็นสีเนื้อและเรียบเนียนอำพรางริ้วรอยจางๆของผิวได้ทันทีหลังทา
มีการทดสอบกับแพทย์ผิวหนัง
มีระยะเวลาที่เราจะเริ่มสังเกตการเปลี่ยนแปลงของริ้วรอยได้
มีผสมกันแดดอ่อนๆ
เกลี่ยง่าย เนื้อไม่หนัก
เป็นหลอดใช้ง่ายพกใส่กระเป๋าได้
 
ข้อด้อย
มีน้ำหอม & แอลกอฮอล์ สำหรับคนที่แพ้
สีของเนื้อครีมอาจจะไม่พอดีกับผู้หญิงที่ผิวขาว ถึง ขาวมาก
 
 
 
วันนี้มา PREVIEW แค่นี้ก่อน พบกันใหม่บล็อคหน้า รักนะ <3
 
 
รายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.garnierthailand.com 

Posted in SKIN CAREComments (0)

HOW TO : ทำผมลอนเซ็กซี่สำหรับผมยาว

วีดีโอสอนทำผมลอนให้กับผมยาวมาแล้วจ๊ะ
ไปลองทำกันดูนะ

XOXO
Erk-Erk

Posted in HAIRComments (0)

REVIEW เรืองฤทธิ์ บีเคเค สาขา4 ที่สยามแสควร์ 1 กับ ทรีทเมนท์ KERASTASE

 

 

 

 

 

ชั้น 6 สยามแสควร์ 1 โซน WINTER กับการเนรมิตที่กว่า 300 ตารางเมตร

เป็น HI-END SALON อย่างหรูหรา มีระดับ กับ RUENGRIT BKK [ เรืองฤทธิ์ บีเคเค]

 

ที่นี่เป็นสาขาที่ 4 ชื่อนี้คงไม่มีใครไม่รู้จัก เพราะ 30 ปีที่ผ่านมา

อ.เรืองฤทธิ์  เกตุเลขา  ผู้ก่อตั้งกับ 3 สาขาแรก  

ภายใต้แบรนด์ เรืองฤทธิ์ แฮร์เดรสซิ่ง อะคาเดมี่ 

สาขาแรกสยามแสควร์ซอย 11 , สาขาแฟชั่นไอซ์แลนด์ รามอินทรา ,

และ สาขาเซนทรัลฯ แจ้งวัฒนะ

 

ชื่อเสียง และ ความศรัทธาในวงการซาลอนเป็นที่รู้จักกันดีอยู่แล้ว

 

วันนี้ได้รับเกียรติมาเขียนบทความพาชมสาขาใหม่ล่าสุดที่เป็น RUENGRIT BKK

ชื่อใหม่ที่พ่วง บีเคเค มาด้วยเพราะเขาต้องการเปิดต้อนรับตลาด AEC ในอนาคตอันใกล้นี้

ภาพลักษณ์ที่นี่จึงต้องดูทั้งเชี่ยวชาญ มีประสบการณ์ หรูหรา สวยงาม เพื่อเป็นหน้าเป็นตา

ให้กับคนไทย นำเสนอ และ ให้บริการกับชาวต่างชาติด้วย

 

วันนี้คุณโน้ต ชาคริต  ทายาทคนเดียวของ อ.เรืองฤทธิ์  

ผู้บริหารร้านสาขา 4 เรืองฤทธิ์ บีเคเคก็มาต้อนรับเองเลย

[ แอบสงสัยและสังเกตทรงผมเจ้าของร้านซาลอนชื่อดังส่วนใหญ่ถ้าไม่ทำสีผมฉูดฉาด

ก็จะเป็นลุคที่มีสไตล์คลาลสิคแบบเน้นสีผมธรรมชาติไปเลย สงสัยส่วนตัว อิอิ ]

 

 

บริเวณในร้านด้านหน้า ถ้ามองเข้ามาจะเน้น MOOD & TONE สีเป็นโทนครีมเทา-เงิน ดำ

CONCEPT SEE THROUGH ซึ่งเน้นกระจกใส มองเข้ามาในร้านโปร่งโล่งสบายตา

 

 

การตกแต่งเป็นแบบสไตล์ MODERN CONTEMPORARY EUROPEAN

แบบคลาสสิคและร่วมสมัย

ภาพของซาลอนที่มีห้องโถงใหญ่โต สว่างไสวไปด้วยดวงไฟสีอบอุ่น

 

 

ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์หรู เช่น แชนเดอเลียร์ดวงใหญ่กลางร้าน

นาฬิกาที่ดูโมเดิร์นคลาสสิค ชอบมาก ><

เพิ่มเติมพิเศษตามแบบฉบับซาลอนหรูก็จะมีโซนเครื่องดื่มบาร์น้ำไว้ให้บริการในร้าน

 

 

เจ้าของกล่าวว่า

“ผมอยากเห็นทุกครั้งที่ลูกค้าเข้ามาใช้บริการแล้วมีความสุข เพื่อนที่มากับลูกค้าก็ชอบ

ช่างผมก็ชอบ เป็นที่ที่รู้สึกผ่อนคลายไม่อึดอัด”

 

แต่น้ำผลไม้เขาอร่อยจริงๆ 2 แก้วรวด วันนั้น

 

 

 

 

สิ่งที่พิเศษของที่นี่ นอกจากผลิตภัณฑ์ HI-END อย่าง KERASTASE [ เคเรสตาส ]

ที่เขาเลือกใช้เป็นหลักในการทำทรีทเมนท์ ที่นี่จะมีห้องทำทรีทเมนท์ VIP

จุดเด่นที่มีเทคโนโลยี กล้องที่สามารถซูมขยายได้หลายร้อยเท่า เพื่อเช็คสภาพหนังศีรษะ

เส้นผมอย่างละเอียดให้ตรงกับปัญหาเส้นผมของลูกค้ามากที่สุด ห้องนี้ก็จะปลอดกลิ่น

 

คือ บางทีลูกค้าที่ตั้งครรภ์ก็อยากจะมีโมเมนท์อยากทำสวย ทำสีคงไม่เหมาะอยู่แล้ว

ก็ต้องเป็นทรีทเมนท์ในห้องที่บรรยากาศดี สงบ ไม่มีกลิ่นเคมีรบกวน หรือ

คนที่ชอบความเป็นส่วนตัวแบบเอิ๊ก เอิ๊กชอบมาก 

 

 

ห้องนี้รองรับได้ประมาณ 3 ท่าน

ภายในห้องนี้ ONLY KERASTASE ค่ะ ไม่ว่าจะแชมพู คอนดิชันเนอร์ ทรีทเมนท์มาส์ค

และ ตัวเซ็ท จัดแต่งทรงผมทุกตัว เอิ๊กก็ใช้มาแล้วหลายสูตร คุณภาพดีมากอยู่แล้ว

 

 

ที่นี่ก็มีทรีทเมนท์เข้มข้นอย่าง ฟูซิโอ-โดส ไว้บริการ เนื่องจากมีการตรวจเส้นผม หนังศีรษะ

อย่างละเอียด ทรีทเมนท์ก็ควรต้องบำรุงตามเส้นผมจริงๆ บวกกับเทคนิคการนวดแบบ K

[ นวดแบบ K ก็คือนวดแบบ KERASTASE อ่านว่า เค-เรส-ตาส ]

การทำทรีทเมนท์แบบนี้เป็นการ CUSTOMIZED เฉพาะลูกค้าแต่ละคนจริงๆ

ซึ่งทรีทเมนท์ที่เข้มข้นมาก ค่อยๆนวดคลึงบำรุงซึมลึกในชั้นผม และ ส่วนใหญ่คนที่จะวิเคราะห์

และ เลือกทรีทเมนท์ให้เราได้ ก็ต้องเป็น “ช่างผมมืออาชีพ” ค่ะ

 

 

 

  • Concentre Pixelist – ชมพู 

เน้นความเงางาม ให้ประกายกับผมทำสี สีผมเด่นชัดยาวนาน

  • Concentre Oleo-Fusion – ส้ม 

เน้นความชุ่มชื้นกับผมที่แห้งกระด้าง

  • Concentre Densifique – ทอง 

เน้นเพิ่มวอลุ่มกับเส้นผมที่บาง ลีบแบน

  • Concentre Vita-Ciment – เขียว 

เน้นซ่อมแซมโครงสร้างเส้นผมอย่างล้ำลึกที่ผ่านเคมีมาอย่างหนัก

 

ช่างผมผู้เชี่ยวชาญของเอิ๊กในวันนี้คุณอ่ายนะคะ น่ารักมากๆ เก่งสุดๆ

สัมภาษณ์เขายาวมาก 5555 ใจรักในความสวยความงามด้านเส้นผมของจริง

และ กว่าจะมาเป็น 1 ในสุดยอด ของช่างผมที่เรืองฤทธิ์ บีเคเค ที่นี่

 

กฎ คือ ทุกคนที่จะมาเป็นสุดยอดที่นี่ต้องผ่านการคัดตัว และ WORKSHOP เข้มข้น

ตามสไตล์ RUENGRIT ARTISTIC TEAM ทั้งฝีมือ ภาพลักษณ์ เป๊ะตามแบบฉบับที่วางไว้

ของ RUENGRIT HAIRDRESSING ACADEMY

รวมถึงต้องผ่านการอมรมผลิตภัณฑ์จากสถาบัน

ที่นี่ไม่รู้คัดหน้าตา และ อายุรึเปล่า ทุกคนดู สดใส บุคลิกโดดเด่น มีสไตล์ที่แตกต่าง ชัดเจน

และ ฉะฉาน เรียกได้ว่า มืออาชีพจริงๆ

 

 

กำลังโดนจะโดนตรวจสภาพเส้นผม ด้วยกล้องขยายอย่างละเอียด คือ เอาตรงๆ

กลัวคุณอ่ายเห็นไข่เหา 555555555555 ดูหน้าตาเอาละกัน หน้าตาบ่งบอกว่า “จะดีหรอคะ?”

 

หัวใจการทำทรีทเมนท์ที่ดีของ KERASTASE ก็ต้องวิเคราะห์ให้ชัดเจน ปัญหาที่มีของลูกค้า

จะได้หมดไป

 

 

 

กล้องที่วัด วิเคราะห์ได้ละเอียด ทั้งหัวล้านไหม หัวขี้แพ้ไหม ขนาดเส้นผม เกล็ดผม น้ำมัน

ความหนาแน่นของเส้นผมที่ขึ้น ความชุ่มชื้น ฯชฯ

 

กล้องก็จะมาเริงร่าบนหนังศีรษะของเรา และ เส้นผม สะพรึงกันไป ตั้งแต่หัวล้าน T_T

เพราะชอบรวบผมตึง ไม่เอาอีกแล้ว นี่ก็เลยเปลี่ยนแสกผมด้วย

 

 

ซูมชัดมาก จนมองไกลๆ นึกว่าขาแมลงสาบ ผมฉันเหรอเนี่ย ? โอวววว ไม่อยากจะเชื่อเลย

 

 

คุณอ่ายยิ้มนิดนึง บอกเจอแล้วไข่เหา 5555 ไม่ใช่นะคะ ที่เห็นขาวๆคือ พวกสเปรย์แต่งผม

เอิ๊กรักษาความสะอาดดีค่ะ

 

 

การทำทรีทเมนท์สูตรเข้มข้นนี้ ที่เป็น CUSTOMIZED TREATMENT เฉพาะบุคคลจริงๆ

ก็จะมีตัวหลัก CONCENTRE + ด้วยตัว BOOSTER

ให้ตรงกับปัญหาผม ราคาจะเริ่มที่ 2,500 บาท และ ถ้าจะเพิ่ม  BOOSTER ก็ตัวละ 500 บาท

 

รอบนี้ ผมเอิ๊กขาดความเงางาม ก็เอาขวดสีชมพู ช่วยเรื่องความเงาเป็นขวดหลัก

และ ใส่ BOOSTER ทั้งฝาส้ม ผมแห้ง และ ฝาเขียว โครงสร้างผมถูกทำร้ายจากเคมี ลงไป

ทั้งหมดทรีทเมนท์อย่างเดียวก็จะเท่ากับ

2,500 [ฝาชมพู + ฝาส้ม ] + 500 [ ฝาเขียว ]= 3,000 บาท

เอาจริงๆ ราคาโอเคเลย เพราะมีการวิเคราะห์ผมด้วย เราจะได้เลือกใช้แชมพูเองได้ถูกต้อง 

 

 

คุณอ่ายก็ไม่พักเลย อธิบายทุกตัว ตั้งแต่เลือกใช้แชมพู และ ทรีทเมนท์มาส์กสูตรใหม่

ที่จะทำวันนี้ให้เอิ๊กด้วย

 

 

ขวดสีชมพูเป็นหลัก แล้วหยด BOOSTER สีส้ม สีเขียวลงไป คือ มันเข้มข้นสุดๆ 

 

 

แบ่งผม และ นวดแบบ K สวยๆ นวดแบบปอยบางๆ ผมหนา คุณอ่ายบอกจะเป็นลม 5555

 

 

นวดเสร็จก็ลงทรีทเมนท์มาส์คก่อนเข้าเครื่องอบไอน้ำ 15 นาที แล้วไปล้างออก

ขอเล็มหน้าหมา เอ้ย หน้าม้านิดนึง อยากสวย คุณอ่ายตัดสวยมาก

คนตัดน่ารัก คนถูกตัดก็น่ารัก 555555555 ที่นี่เขาดังเรื่องการออกแบบทรงผม ก็ลองซักนิด

กลับบ้านจะได้สบายใจที่ได้ตัด 555

 

 

ตัดเสร็จก็ไดร์ และ ม้วนโรลไฟฟ้า

 

 

ผมนุ่ม นิ่ม เงา สุขภาพดีฝุดๆ 

 

 

มายืนชักภาพหน้าเคาท์เตอร์ RUENGRIT BKK ซะหน่อย นี่ไม่มีเวลามากไม่งั้น

จะขอลองดัด DIGITAL PERM ที่นี่ดัง ก่อนออกมา ก็เห็นสาวนางนึง โตงเตงเครื่องดัด

อลังการอยู่

 

คุณอ่ายมาอธิบายเกี่ยวกับแชมพู เพิ่มความเงาของ KERATASE ให้เอิ๊กฟัง และ คุณโน๊ต

มอบให้เอิ๊กกลับมาสระผม และ ทำทรีทเมนท์ที่บ้าน ขอบคุณนะคะ เล่นเรียบร้อย ผมนุ่มมาก

 

กรี๊ด ถ่ายกับ อจ.เรื่องฤทธิ์ และ คุณโน๊ตพร้อมกันเลย ใครยังไม่เคยเห็น อจ. เอารูปมาฝากแล้ว

 

จะให้ดูผมสวยๆ แต่หน้าใหญ่ไปนิดนึง โทษทีค่ะ 😛 อิอิ

วันนี้ต้องขอลาไปก่อนพบกันใหม่ บล็อคหน้า สวัสดีค่ะที่รัก

ใครเคยจ่ายเงินทำทรีทเมนท์ผมตามสภาพศีรษะ&เส้นผมเราจริงๆไหม ?

 
 
ตอนนี้ถ้าใครอยากลองบอกมาจากเอิ๊ก ลด50% นะคะถึงวันที่ 15 สิงหาคม 2558
 
และ 50 คนแรกที่ไปเขาจะให้ travel size สำหรับผลิตภัณฑ์ KERASTASE มูลค่า 500 บาทกลับบ้านด้วย

 

ใครยังทราบข้อมูลไม่จุใจ อัญเชิญไปกดไลค์กันที่

www.facebook.com/Ruengrithairdressingbangkok  

www.facebook.com/ruengritschool        

หรือ โทร.02-252-3312


Posted in HAIR, REVIEWComments (0)

REVIEW : GARNIER UV COMPLETE สูตรบางเบาพิเศษ SPF50PA++++

 

 

 

 

 

 

 

 

มา REVIEW กันแดดสูตรบางเบาพิเศษของ GARNIER

GARNIER UV COMPLETE WHITEN & PROTECT DAILY SUNSCREEN

SPF 50+/PA++++

 

ขอ REVIEW ในแง่ของเนื้อสัมผัสจริงหลังจากที่ใช้งาน 12 ชั่วโมงใน 1 วันนะคะ

ส่วนประสิทธิภาพอาจจะต้องใช้งานนานแล้วจะมาเล่าใหม่ 😀

 

จุดเด่นหลักตามในโฆษณาบอกไว้คือ 

เหมาะกับสภาพผิวที่ต้องการปกป้อง และ ฟื้นบำรุงอย่างคอมพลีท

ลดการเกิดผิวหมองคล้ำ จุดด่างดำ ฝ้าแดด และริ้วรอยก่อนวัย

 

  •  

 

 

 

 

 

มาดูของจริงกัน

เอิ๊กไปถอยจากวัตสันหลอดละ 259 บาทในขนาด 30 มิลลิกรัม จะมีให้เลือกสองส

สีธรรมชาติ NATURAL [ ขาว ]

สีเบจ BEIGE [ เนื้อ ]

 

สีธรรมชาติจะอยู่ในแพคเกจด้านนอกเป็นสีฟ้าสดใส

 

สีเบจแพคเกจด้านนอกจะเป็นสีส้มสดใส

 

 

พอเอาออกมาจากแพคเกจถ้ายืนหันหน้าให้สังเกตุที่รูปไข่มุกกลมๆ จะเขียนสีที่ต่างกันไว้

หลอดพกพาง่าย เบา ขนาดพอดีมือ

 

ด้านหลังของหลอดกันแดด

 

เนื้อผลิตภัณฑ์ของจริงเทียบให้ดู 2 สี สีขาว กับ สีเนื้อ

 

สีขาวเกลี่ยง่าย ซึมไวลงไปกับผิว เนื้อมีความเบา แต่มีความชุ่มชื่นอยู่ประมาณ 25-30%

เหมาะสำหรับคนที่ต้องการให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้น แต่เป็นธรรมชาติ ผิวจะดูผ่องขึ้น

 

สีเนื้อจะเกลี่ยง่ายเช่นกัน และ มีความชุ่มชื่นเท่ากัน

เหมาะสำหรับคนที่ต้องการให้ผิวดูเรียบเนียนปกปิดเบาๆขึ้นเล็กน้อย สีผิวไม่เปลี่ยน

 

ภาพซูม สีขาวเน้นความกระจ่างใสผ่อง

สีเนื้อเน้นความเนียนปกปิดขึ้นมา

 

ขอลองสีขาวให้ดูภายใน 12 ชั่วโมงว่าพอครบ 12 ชั่วโมงที่ทาลงไปสภาพผิวเป็นอย่างไรบ้าง

ปกติจะเลือกใช้กันแดดไม่ใช้อะไรง่ายๆ เพราะปัญหาเรื่องการแพ้ และ อุดตัน

แต่สำหรับสูตรนี้ ประทับใจที่ไม่มีน้ำหอม และ อ่อนโยน สามารถใช้ได้ทุกสภาพผิว

มีน้ำเป็นส่วนประกอบที่เยอะสุด ถึงจะมี ALCOHOL ไม่มาก

แต่ก็มีพวกวิตามินอีที่ให้ความชุ่มชื้น ส่วนตัวถึงบอกว่าเนื้อบางเบาขึ้นแต่ก็มีความชุ่มชื่นอยู่

ตัวเองเป็นคนผิวแห้งพอทา ดูได้จากรูปใช้สีขาวธรรมชาติ ผิวจะดูผ่อง อิ่ม

ผิวสุขภาพดีขึ้นแบบธรรมชาติ รูขุมขนดูละเอียดขึ้น

เป็นไพรเมอร์ก่อนแต่งหน้าได้ดีสำหรับตัวเอง

ก่อนลงบีบีทับลงไปอีกชั้น

 

เทียบก่อน – หลัง ซ้ายหลัง ขวาก่อน คือ จะเห็นได้ในเรื่องของความกระจ่างของผิว

รูขุมขนที่ถูกเบลอขึ้นเล็กน้อย สีผิวสม่ำเสมอขึ้น

ไม่แสบตา บางแบรนด์ทาใกล้ตาจะแสบ แต่รู้สึกไม่หนักหน้า แต่ก็ยังไม่ถึงกับแห้งไปเลย

ชุ่มชื้นอยู่ค่ะ (ปากข้ามไปช่วงนี้ทานน้ำน้อยอีกแล้ว)

 

เอิ๊กแต่งหน้าตั้งแต่สายๆ 11.00 น. ตอนแต่งหน้า ลงรองพื้นง่าย ผิวไม่ลอก ดูเรียบเนียน

ออกจากบ้าน 13.30 น.

ไปหาขนมทานนั่งคุยเล่น ถ่ายรูปจนเกือบ 17.00 น.

ผิวก็ยังสวยอยู่ ฮ่าๆ 

 

 

อิ่มท้องแล้วก็เดินทางไปร้านเช่าสูท รถติดมากออกจากร้านเวลาประมาณ 18.00 น.

ผ่านไปหลายชั่วโมง หน้าเริ่มฉ่ำขึ้นนิดนึงเพราะบีบีที่ใช้มันฉ่ำ เงา แต่ก็ไม่ลอก ไม่ดรอป 

 

 

ถึงร้านแล้ว ยังไม่ได้เติมหน้าเลย จะ 19.00 น ตอนนี้ไม่เติมอะไร

ผิวแบบนี้ค่ะ แนวเกาหลี แนวโปรด ฮ่าฮ่า

 

กลับมาถึงคอนโดก็เกือบ 20.00 น.

มานั่งอ่านหนังสือที่คอนโดอีก 2-3 ชั่วโมง ตอนนี้หน้าเริ่มฉ่ำมากขึ้นเรื่อยๆ คางมีหลุดไปบ้าง

แต่โดยรวมทั้งหน้ายังแน่นอยู่

 

กลับบ้านถึงแถวลาดพร้าว 23.48 น. เลยเวลา 12 ชม. มาแล้ว คางลอกไปนิดนึงค่ะ

เพราะแอบหลับบนรถ นอนกอดตุ๊กตา ก็ถูไปมา น้ำลายยืดนิด ไลเนอร์ก็มีย้อยๆหน่อย

 

12 ชั่วโมงเรา ผ่านไปด้วยดี ไม่น่าเชื่อ ว่าทาแล้วไม่ต้องเติมหน้าระหว่างวันเลย

ตอนแรกไม่กล้าลอง

ปรากฎว่าเนื้อดีมากๆ ทีเดียว ขอสรุปผลรีวิวเลย

 

ข้อดี

ราคาถูก คุ้มค่ามาก ถ้าเทียบกับคุณภาพ หาซื้อง่ายมาก

เนื้อดีบางเบาขึ้นมาก แต่ก็ให้ความชุ่มชื่น ผิวดูไบรท์ อิ่ม แต่ไม่หนักผิวหน้า

เป็นสารกันแดดความเสถียรสูง ทำให้ประสิทธิภาพกันแดดยาวขึ้น

มีวิตามินอีสารต้านอนุมูสอิสระ บำรุงผิวในตัว

เนื้อเกลี่ยง่าย ซึมไว ไม่เป็นคราบระหว่างวัน

อ่อนโยน ไม่มีน้ำหอม ใช้ได้ทุกสภาพผิว

 

ข้อด้อย

เนื่องด้วยยังมีความชุ่มชื้นอยู่บ้าง ถ้าเป็นคนหน้ามันมากๆ

แล้วชอบกันแดดเนื้อแห้งสนิทก็อาจจะรู้สึกได้

 

 

ปล. เอิ๊กไม่แพ้ สิวไม่ขึ้น หน้าสภาพดีทุกประการ ดีใจมาก

เย่ๆๆๆๆๆ

Posted in REVIEW, SKIN CAREComments (0)

HOW TO แก้ปัญหาเหงือกสีคล้ำ ด้วยเลเซอร์ Q-Switched Nd: YAG Laser

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

             ปัญหาเหงือกดำ คล้ำ (Black Gums) .. ปัจจุบันนี้สามารถรักษาให้หายได้นะ รู้ยัง ? สำหรับ 1 ในวิธีวันนี้จะขอมาเล่า เรื่องการรักษาเหงือกสีเข้ม คล้ำ ด้วยเลเซอร์ Q-Switched Nd: YAG Laser บทความนี้จะขออนุญาตินำมาจากคลินิค SMILE BY ISKY เอามาลง ร่วมถึงรูปคนไข้จริง เพื่อประกอบบทความค่ะ


 

                                     

                        ทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการใช้เลเซอร์ภายในช่องปาก ได้กล่าวไว้ว่า สาเหตุของเหงือกสีคล้ำนั้นเกิดจากกรรมพันธุ์ การสูบบุหรี่ และพบได้ปกติในคนที่มีผิวสีคล้ำ โดยทั่วไปคนทุกคนจะมีเซลล์สร้างเม็ดสี อยู่ที่ผิวหนังและเหงือกอยู่แล้ว เพียงแต่การผลิตเม็ดสีที่เรียกว่า เมลานิน(Melanin) จะมีจำนวนมากน้อยต่างกัน คนที่มีการสร้างเมลานินน้อย ผิวจะขาว และเหงือกมีสีชมพู คนที่มีเมลานินมาก ผิวและเหงือกจึงเป็นสีคล้ำ ฉะนั้น คนที่เหงือกคล้ำ ก็เป็นลักษณะธรรมดา ของคนผิวคล้ำนั่นเอง แต่ในบางกรณีคนที่ผิวขาวอาจมีการผลิตเม็ดสีปริมาณมากเฉพาะบริเวณเหงือกได้ ซึ่งการปรับเปลี่ยนเหงือกสีคล้ำ ดำ ให้เป็นสีชมพูก็สามารถทำได้

                         สีของเหงือกคนเรา เป็นผลรวมจากขนาดและปริมาณเส้นเลือดฝอยส่วนผิวเหงือก ความหนาของเยื่อบุผิวเหงือก และปริมาณของเม็ดสี ซึ่งเม็ดสีตามธรรมชาติที่ทำให้เหงือกมีสีอ่อนหรือสีคล้ำได้แก่ เมลานิน แคโรทีน และออกซีฮีโมโกลบิน พบว่า “เมลานิน” เป็นตัวกำหนดสำคัญที่จะทำให้เหงือกมีสีอ่อน หรือคล้ำ ซึ่งสัมพันธ์มากกับสีผิว อธิบายให้เข้าใจง่ายคือ คนที่มีสีผิวอ่อนหรือขาว มักจะมีเหงือกชมพูซีด ส่วนคนที่มีผิวเข้มหรือคล้ำ มักจะมีเหงือกสีเข้มเช่นกัน

 

                        โดยเหงือกที่มีสีเข้มคล้ำมักเป็นที่บริเวณฟันหน้า และจะเห็นชัดมากหากคน ๆ นั้นมีภาวะยิ้มเห็นเหงือก (gummy smile) การมีเหงือกสีเข้มคล้ำ ไม่ได้เป็นภาวะที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ ยกเว้นในรายที่มีสาเหตุเกี่ยวกับโรคอื่น ๆ ชัดเจน เช่น ความผิดปกติของต่อมไร้ท่อ กลุ่มอาการ Albright กลุ่มอาการ Peutz-Jeghers ซึ่งทำให้เกิดภาวะเหงือกมีสีเข้มคล้ำได้เช่นกัน โดยมากความกังวลของคนที่มีเหงือกสีเข้มคล้ำ คือ เรื่องความสวยงามเวลายิ้ม การยิ้มซึ่งถือเป็นการสื่อสารที่ทรงประสิทธิภาพอย่างนึงไม่ว่าจะต่อตนเองหรือผู้อื่น

 

ปัจจัยการเกิด ริมฝีปาก-เหงือกคล้ำ
     1. ลักษณะเฉพาะบุคคล โดยพบว่า คนผิวคล้ำจะมีเหงือกและริมฝีปากสีเข้มมากกว่าคนผิวขาว 
     2. การสูบบุหรี่
     3. ผู้ที่สุขภาพไม่สมบูรณ์ เช่นเลือดจาง เจ็บป่วยเรื้อรัง ผู้ป่วยระยะฟื้นไข้ ปริมาณเลือดที่ไหลมาเลี้ยงริมฝีปาก และเหงือกมีน้อย จึงทำให้ริมฝีปาก และเหงือกดูซีดเซียว หรือผู้ป่วยเป็นโรคหัวใจที่เลือดมีความเข้มข้น ก็จะทำให้ริมฝีปากดูคล้ำกว่าคนปกติได้ 
     4. ยาบางชนิด ก็เป็นสาเหตุทำให้เกิดปฏิกิริยาแพ้แดดได้ เช่น เบาหวาน ยาขับปัสสาวะ ยารักษาเชื้อรา ยารักษาหวัดหรือโรคภูมิแพ้ 
     5. การแพ้ ยาสีฟันและน้ำยาบ้วนปาก รวมถึงลิปสติก
     6. ลิปสติก ซึ่งสารประกอบที่ทำให้เกิดปัญหาที่สุดคือ สี กลิ่น น้ำหอม ลาโนลิน (ที่ให้ความชุมชื้น) และสารกันบูด 
     7. สิ่งแวดล้อมรอบตัว อุณหภูมิ อาจมีผลทำให้ริมฝีปากเปลี่ยนแปลงได้ เช่นช่วงที่อากาศหนาวเย็น ปากอาจจะมีสีคล้ำขึ้น เพราะเส้นเลือดหดตัว

 

 

                   ปัจจุบันมีวิธีการรักษามากมาย ตั้งแต่วิธีผ่าตัดศัลยกรรมตัดเหงือก ทั้งด้วยใบมีดและด้วยความเย็นจัด ซึ่งอาจก่อให้เกิดความรู้สึกเจ็บ ไม่สบายเหงือก และเกิดแผลที่ต้องรอระยะเวลาให้หาย จนถึงวิธีที่รวดเร็ว ไม่เกิดแผล และมีงานวิจัยรับรองว่าได้ผลทางคลินิกที่ดี อย่างการใช้เลเซอร์ ซึ่งมีเลเซอร์หลายชนิดที่ถูกนำมาใช้ในการรักษาภาวะเหงือกมีสีเข้มคล้ำ เช่น CO2 Laser, Erbium YAG Laser , Diode Laser ไปจนถึง Q-Swithed Nd: YAG Laser

เลเซอร์ที่มีประสิทธิภาพดีที่สุดในการรักษาภาวะเหงือกมีสีคล้ำคือ Q-Switched Nd: YAG Laser เนื่องจากเป็นเลเซอร์ที่สามารถทำลายเซลล์สร้างเม็ดสี และเม็ดสีเมลานินได้โดยตรง ซึ่งเม็ดสีจะจางลงอย่างชัดเจนภายหลังการรักษาเพียง 1 ครั้ง ต่างกับเลเซอร์ชนิดที่มีฤทธิ์ในการกรอผิว ”  

 

                   วันนี้จะมาพูดถึงเลเซอร์ Laser ที่เอาไว้ใช้ฟอกสีเหงือก รักษาเหงือกดำ ที่มีใน SMILE by iSKY คือ Q-Switched ND-Yag Laser และเป็นเลเซอร์ที่ไม่ทำให้เกิดแผล ไม่มีการถลอกของเหงือก เป็นการทำลายเมลานิน (เม็ดสี) และฆ่าเซลล์กำเนิดเม็ดสี (เมลาโนไซต์) จึงทำให้การรักษาเหงือกเข้มคล้ำหรือเหงือกดำด้วยเครื่องเลเซอร์ชนิดนี้ ให้ผลลัพธ์ที่ถาวร ไม่เจ็บ และรวดเร็ว แตกต่างจากการใช้เลเซอร์แบบถลอกผิวเหงือกออก เพราะเหงือกอาจจะกลับมามีสีคล้ำได้ใหม่เพราะเซลล์กำเนิดเม็ดสีไม่ได้ถูกฆ่า

 
* Q-Switched ND-Yag เป็นเครื่องที่มีราคาแพง ไม่ค่อยพบตามศูนย์ทันตกรรม แต่ที่ SMILE by iSKY เรามีเครื่องนี้เพราะทางศูนย์ผิวหนัง iSKY ใช้สำหรับรักษากระ จุดด่างดำอยู่แล้ว เราจึงสามารถผนวกเทคโนโลยีชั้นสูงนี้ไว้สำหรับการรักษาในช่องปากด้วย เพื่อความสมบูรณ์แบบของคนไข้

 

หลักการ คือ พลังงานของเลเซอร์จะถูกเลือกดูดซับโดยเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดสี(เมลาโนไซต์) และเม็ดสี(เมลานิน) เท่านั้น โดยเซลล์ชนิดอื่น ๆ จะไม่ตอบสนองต่อพลังงานของเลเซอร์เลย เลเซอร์ชนิดนี้จึงปลอดภัย ไม่เจ็บ ไม่เกิดแผล และเมื่อเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดสี และเม็ดสีดูดซับพลังงานจากเลเซอร์เข้าไป มันก็จะถูกทำลายอย่างถาวร อาจต้องทำประมาณ 3 ครั้ง ขึ้นกับความเข้มคล้ำของเหงือก

ขั้นตอน

  1. เริ่มต้นจากการใส่เครื่องมือช่วยในการถ่างอ้าริมฝีปาก
  2. แพทย์จะเป่าลมเย็นลงไปบนเหงือกบริเวณที่จะทำเลเซอร์ เพื่อลดความรู้สึกเจ็บระหว่างการทำ
  3. มีการตกสะเก็ดซึ่งใช้ระยะเวลาราว 7 วัน
  4. มีการนัดมาติดตามผล และ ทำซ้ำประมาณ 1-3 ครั้ง ภายในระยะเวลาห่างกันประมาณ 1 เดือน

 

ภาพคนไข้หลังการรักษาด้วย Q-Switched Nd: YAG Laser 1 ครั้ง

ที่ SMILEBYISKY    

 

การดูแลรักษาหลังจากการฟอกสีเหงือกด้วยเลเซอร์

              ภายหลังทำเลเซอร์จะมีแผลตกสะเก็ดบริเวณเหงือกในตำแหน่งที่ทำเลเซอร์ ระหว่างนี้ผู้ป่วยไม่ควรรับประทานอาหารรสจัด เช่น เปรี้ยวจัดหรือเผ็ดจัด และงดสูบบุหรี่ รวมถึงการดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด สามารถแปรงฟันได้ตามปกติ แต่ไม่ควรใช้น้ำยาบ้วนปาก เพราะจะทำให้แผลหายช้าโดยที่สะเก็ดจะหลุดไปภายในระยะเวลา 1 สัปดาห์ หลังสะเก็ดหลุด จะเห็นได้ชัดว่าเหงือกมีสีจางลง การทำเลเซอร์รักษาเหงือกสีคล้ำ อาจต้องทำ 1-3 ครั้ง ในระยะเวลาห่างกัน 1 เดือน

 

                   “ในรายที่สูบบุหรี่นั้นถ้าทำการฟอกสีเหงือกไปแล้วและกลับไปสูบบุหรี่อีก เหงือกก็จะกลับมาคล้ำได้เร็วกว่ากรณีปกติเพราะในบุหรี่นั้นมีสารที่กระตุ้นให้มีการผลิตเม็ดสีเกิดขึ้นมาใหม่ นอกจากนั้นยังมีสารตะกั่วเจือปนอยู่ด้วยทำให้เกิดแถบคล้ำบนเหงือกที่เรียกว่า lead line แต่ก็สามารถทำการฟอกสีเหงือกซ้ำได้ ซึ่งไม่ได้มีการกำหนดระยะเวลาแน่นอนว่าในแต่ละคนนั้นสามารถทำได้กี่ครั้งเพราะเซลล์ยังมีการสร้างเม็ดสีผิวอยู่ “

 

สนนราคาตอนนี้ 1 คอร์ส 3 ครั้ง คอร์สละ 15,000 บาท

 

 
 

** บทความโดย รศ.พญ.รังสิมา วณิชภักดีเดชา และ ทพ.วุฒิพงษ์ เหล่าอมต **

Reference :

  1. http://laser-surgery-bangkok.com/
  2. http://pixshark.com/healthy-gums-vs-gingivitis.htm 
  3. www.familydentalclinic.com.au
  4. http://www.siammedia.org/articles/dental/20110225.php

Posted in REVIEW, TEETHComments (0)

REVIEW HAIR PRO BY WATSONS

 

 

 

 

ไม่มี สารกันเสียชนิดพาราเบน ( paraben free )

ไม่มี มิเนอรัลออยล์

ไม่มี ซิลิโคน

ไม่มี สารดูดซับรังสียูวี 

ไม่มี สีสังเคราะห์ 

ไม่มี โซเดียม ลอริล ซัลเฟต (SLS) 

ไม่มี โซเดียมลอริล อีเทอร์ ซัลเฟต (SLES )

 

จุดเด่นที่จะไม่มี 7 สารดั่งกล่าวในผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมที่กำลังจะพูดถึง

ได้ทดสอบ และ เขียน REVIEW ให้กับผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมตัวใหม่ล่าสุด !

ของทาง WATSONS ชื่อเซ็ทว่า HAIR PRO BY WATSONS

ความจริงมีเทคโนโลยีที่น่าสนใจอีก แต่เผอิญเป็นคนที่แพ้ง่าย

เจอจุดเด่นเรื่องไม่มีสารที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองจึงนำมาพูดถึงก่อน

เผื่อบางคนมีปัญหาหนังศีรษะ ทุกวันนี้ยังต้องใช้ยาสระผมตามแพทย์สั่ง

หรือ ยาสระผมที่มีตัวยาพิเศษที่ต้องซื้อในร้านยา เลยคิดว่านี่ก็เป็นอีกตัวเลือกค่ะ

 

 

HAIR PRO BY WATSONS ผลิตภัณฑ์ทั้งเซ็ทนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น

ประเทศที่มีผลิตภัณฑ์บำรุงผมเยอะมากอีกประเทศนึงในโลก

คนญี่ปุ่นส่วนใหญ่ที่ทำสีผม ผมยังดูสุขภาพดี เงาอยู่เสมอ

 

 

ไม่สระผมมา 3 เดือนเพื่อการทดสอบนี้เลยโดยเฉพาะ 55555555555

ล้อเล่นนะคะ แต่ก็ต้องทิ้งผมไว้ให้ต้องถึงเวลาดูแลกันนิดนึง

 

ผลิตภัณฑ์เซ็ทนี้ จุดเด่น

♠ นอกจากไม่มีสารก่อระคายเคือง 7 ชนิด

♠ เอกสิทธิ์พิเศษ นาโนรีแพร์อีแอล NANO REPAIR™-EL

ซึ่งเป็นสารสกัดจากธรรมชาติ 100% บำรุงผมเส้นต่อเส้น

♠ เทคโนโลนี HEAT ACTIVE ซึ่งทำให้เวลาที่ผมโดนความร้อนเวลาเราจัดแต่งทรงผม

ไม่ว่าจะไดร์ หนีบ ดัดโรลร้อน ม้วนผม ฯลฯ พูดง่ายๆ เมื่อมีความร้อนเกิดขึ้นที่เส้นผม 

จะมีสารที่เข้าบำรุงผมเส้นต่อเส้น

♠ สารสกัดจาก HYBRID RICE & GREEN TEA จากญี่ปุ่น

ช่วยเรื่องทำให้ผมดูเงา นุ่ม ชุ่มชื้น สุขภาพดี

 

– อารมณ์เหมือนฉันสระ เซ็ทผมเอง ก็เหมือนช่างผมทำให้ ลองนึกเวลาเราไปสระที่ร้าน

หนังศีรษะจะดูสะอาด ผมที่เซ็ทมาก็พริ้ว เงา ลื่น หอม อยู่ทรงดีจัง เขาจึงคิดค้นนวัตกรรมนี้มา

เพื่อจะให้เรารู้สึกทำเองได้ แต่เสร็จแล้วอารมณ์เหมือนร้านทำให้ –

 

 

 

HAIR PRO BY WATSONS จะมี 5 ชิ้นด้วยกัน

 

HEAT ACTIVE SHAMPOO ขนาด 520 ml.

แชมพูทำความสะอาดเส้นผม หนังศีรษะทุกวัน อ่อนโยน ไม่มีสารตกค้าง

ราคา 390 บาท

 

 

HEAT ACTIVE TREATMENT ครีมนวดขนาด 520 ml.

ทรีทเม้นท์บำรุงผมหลังสระทุกวัน ฟื้นฟูผมเสียระดับแกนผม ให้ความนุ่ม ลื่น เงา

ราคา 390 บาท

 

 

HEAT ACTIVE MASK ขนาด 200 ml.

มาส์กบำรุงพิเศษถึงแกนผม ฟื้นฟูผมเสียให้เงา จัดทรงง่าย ชุ่มชื้นมีชีวิตชีวา

ราคา 390 บาท

 

 

HEAT ACTIVE HAIR SERUM ขนาด 100 ml.

เซรั่มบำรุงผมลูบบำรุงโดยไม่ต้องล้างออก หรือ

ใช้หมักผมก่อนสระ ฟื้นฟูเส้นผมให้มีชีวิตชีวาพร้อมจัดทรง

ราคา 320 บาท

 

 

HEAT ACTIVE HAIR MIST ขนาด 200 ml.

สเปรย์บำรุงเส้นผม ไม่ต้องล้างออก ใช้ได้ทั้งผมเปียก และ ผมแห้ง

ก่อนจัดแต่งทรงผม ฉีดก่อนนอนให้ผมนุ่มลื่นไม่ชี้ฟูหลังตื่นนอนได้เช่นกัน

ราคา 320 บาท

 

 

ทั้งหมด 5 ตัวเอิ๊กได้ลอง ประมาณ 4 ตัวด้วยกัน

ก่อนอื่นเลย แวบแรกที่เห็นผลิตภัณฑ์ สีแดง ขวดดูหรูหรามาก แต่มองแล้วดูออก

ว่าเป็นแนวญี่ปุ่นแน่นอน พอเห็นฉลากมีภาษาญี่ปุ่นก็ยิ่งชัด

ด้วยสีแดงที่ใช้ตอนแรกนึกถึง การบำรุงเข้มข้น ล้ำลึก มีเทคโนโลยีจัดแต่งทรงผม

แบบขั้นเทพ แต่ที่คิดไม่ถึงคือ ” ส่วนผสมที่สกัดจากธรรมชาติ 100% และ

ไม่มีสารที่ก่อการระคายเคืองสูงถึง 7 ชนิด ” ดูหน้าตาเขาเลิศ แรง ด้วยสีที่ช้ในใจคิดว่า

ไม่น่าจะคำนึงถึงการรักษ์โลก และ ห่วงใยสุขภาพคนมากขนาดนี้

 

ทุกอย่างประทับใจ ยกเว้นสิ่งหน่ึงส่วนตัวคือกลิ่น ต้องบอกไว้เลยว่าสูตรนี้ทั้งหมด

ทุกเพศใช้ได้ เรื่องกลิ่น UNISEX มากโดยส่วนตัวที่ดม จึงทำให้ถ้าคนที่ชอบอะไรหอมหวาน

ราวดอกไม้ฟรุ๊งฟริ๊ง สูตรนี้ไม่ตอบโจทย์ เขาน่าจะทำมาเพื่อมวลชนที่ใช้ได้ทุกเพศ

จะมีน้ำหอม ที่เป็นกลิ่นกลางๆ เน้นสุขภาพหนังศีรษะ เน้นสุขภาพเส้นผมจริงจัง

 

 

HEAT ACTIVE SHAMPOO แชมพูเป็นเนื้อเจลใส ขวดใหญ่มาก

นวดๆไปจะรู้สึกว่าผมนิ่ม สระประมาณ 3 รอบ

กลิ่นฟุ้งกระจาย แพคเกจเป็นขวดปั้ม กดง่าย ควบคุมปริมาณที่จะไหลออกง่าย 

 

 

HEAT ACTIVE MASK ผมอาการหนัก แห้งเสีย เลยต้องบำรุงด้วยมาส์ก ทิ้งไว้ 2-3 นาที

เนื้อเข้มข้นมาก บีบนวดลงไปโดยเว้นโคน 5-10 เซนติเมตร

 

 

HEAT ACTIVE HAIR MIST ลงสเปรย์บำรุงเส้นผมโดยฉีดเป็นละอองฝอยน้ำใสใสให้ทั่ว

แล้วเอิ๊กจะใช้ไดร์เป่าให้ละอองกระจายตัวก่อนที่จะจบด้วยขั้นตอนสุดท้ายนั่นคือลงเซรั่ม

ตัวสเปรย์นี้ลองสระแล้วมาดูเช้าวันใหม่ ผมไม่ฟูเลย ถ้าใครผมฟูลองฉีดก่อนนอนดูค่ะ

 

 

HEAT ACTIVE HAIR SERUM ใช้เป็นลีฟออนที่ไม่ต้องล้างออกก่อนทำผม

ตัวนี้ ลูบให้ทั่ว ทิ้งไว้ ก่อนที่เอิ๊กจะไปเริ่มม้วนผมด้วยความร้อนระดับสูง

ทิ้งไว้พักใหญ่เหมือนกัน เพื่อสังเกตุว่าสุขภาพผมหลังสระเป็นยังไง

ที่เห็นได้คือ ผมเงาอันดับ 1 นุ่ม และ ลื่น รองลงมาจริงๆ

 

 

แล้วก็มาทำผมด้วยโรลม้วนผม ตัวทำลอนตัวนี้เอิ๊กตั้งความร้อนอยู่ระดับ 180 ซึ่งสูงมาก

แต่ลอนตัวนี้จะขึ้นไวทุกครั้ง เวลาที่ผมเสียแห้ง วันนี้ขึ้นไม่เร็วมาก

แสดงว่าผมชุ่มชื้นกว่าทุกครั้ง แต่สังเกตุความเงา

เส้นผมเงาขึ้นแบบเห็นด้วยตาเปล่าเลย

 

 

นี่คือผมที่จัดแต่งความร้อนสูงเรียบร้อยแล้ว อันนี้ไม่แน่ใจเรื่องการอยู่ทรงทั้งวันมันจะ

ยาวนานกว่าปกติไหม เพราะปกติโรลตัวนี้ลอนจะอึดมากๆ ที่รู้สึกน่าจะเป็นช่วงใช้แชมพู

มาส์ก สเปรย์ เซรั่มเสร็จมากกว่าที่เห็นชัด ในเรื่องของสุขภาพผมที่เงา นุ่ม และ ลื่นขึ้น

 

 

ข้อดี

เหมาะกับทุกคน โดยเฉพาะคนที่รักสุขภาพเส้นผม และ หนังศีรษะ

ไม่มีสารที่ทำให้หนังศีรษะและผิวระคายเคือง 7 อย่าง

สารสกัดจากธรรมชาติ เน้นการบำรุงผมเส้นต่อเส้น (เอกสิทธิ์พิเศษ)

เทคโนโลยี HEAT ACTIVE เจอความร้อนยิ่งบำรุง เหมาะกับคนชอบจัดแต่งทรงผม

กลิ่นแบบ UNISEX ใช้ได้ทั้ง 2 เพศ

หาซื้อง่ายที่ WATSONS ทุกสาขาทั่วประเทศไทย

ถึงจะนำเข้ามาจากญี่ปุ่น แต่ราคาสู้ไหว ขวดใหญ่ค่อนข้างคุ้มเงินในหลายตัว

เห็นผลทันทีในเรื่องของเส้นผมที่เงาขึ้น นุ่ม ชุ่มชื่นขึ้น

อ่อนโยน ถนอมผิว และ ศีรษะผู้ใช้

มีขวดเล็กไว้สำหรับพกพา

 

ข้อด้อย

กลิ่นมีกลิ่นเดียวให้เลือก

สำหรับคนที่ผมลีบแบนอยู่แล้วในบางตัวที่ทำให้ผมเรียบ ไม่ชี้ฟู ก็อาจจะไม่เหมาะ

 

 

 

 

อีก 1 นวัตกรรมทางด้านเส้นผมที่อยากแนะนำให้ทุกคน ทุกเพศที่ใส่ใจสุขภาพหนังศีรษะ

ต้องไปลองกันค่ะ <3

 

Posted in HAIR, REVIEWComments (0)

REVIEW : ของดีที่ใช้แล้วชอบใช้แล้วสวยเดือนกุมภา 58 Erk-Erk’s Favorite beauty item on FEB 2015

 

Posted in MAKE UP, REVIEW, SKIN CAREComments (0)

REVIEW : ของดีที่ใช้แล้วชอบใช้แล้วสวยเดือนมกรา 58 Erk-Erk’s Favorite beauty item on JAN 2015

ของรางวัลแจกไปแล้วนะคะ รอลุ้นเดือนมีนาคมนะคะ

Posted in MAKE UP, REVIEW, SKIN CAREComments (0)

REVIEW ผ่าตัดฟันคุดแบบดมยาสลบที่ SMILE BY ISKY

 

 

 

 

 

 

คำถาม ผ่าตัดฟันคุดสามารถดมยาสลบได้ไหม

คำตอบ คือ ได้นะคะ ในเมืองไทยมีหลายโรงพยาบาล

 

 

 

ครั้งนี้เอิ๊กได้รับการดูแลในการผ่าตัด และ พักฟื้นทั้งหมดโดย

คลินิค SMILE BY ISKY และ โรงพยาบาลวิชัยเวชฯลฯหนองแขม

 

 

 

 

 

 

เรื่องของฟันคุด

 

[ ฟันคุดเอิ๊กมีทั้งหมด 4 ซี่ อยู่ลึกทุกซี่ บางซี่ยาก และ อยู่ลึกมาก ลองดูด้านบน ]

 

ฟันคุดคืออะไร ?? 

                    ฟันคุดหมายถึงฟันซี่ใด ๆ ก็ตามที่ไม่สามารถขึ้นสู่ช่องปากได้ตามปกติ ด้วยสาเหตุต่าง ๆ เช่น มีเนื้อที่ว่างในขากรรไกรไม่พอที่จะให้ฟันซี่นั้นขึ้นได้ หรือหน่อฟันในกระดูกมีตำแหน่งผิดปกติ อาจไปอยู่ใต้รากฟันซี่ข้างเคียงเมื่อถึงเวลาจะขึ้นสู่ช่องปากจึงขึ้นไม่ได้เพราะติดสิ่งกีดขวาง

                    ฟันซี่ที่มักพบบ่อยว่าเป็นฟันคุด คือฟันเขี้ยวบน และฟันกรามใหญ่ซี่ที่สามล่างและบน ซึ่งคนไข้ที่มาพบคุณหมอที่คลินิกส่วนมากจะมีข้อสงสัยเกี่ยวกับฟันคุดที่เป็นฟันกรามล่างซี่สุดท้ายกันมาก ในที่นี้จึงขอให้รายละเอียดเกี่ยวกับฟันซี่นี้เป็นพิเศษนะคะ

                    ก่อนอ่านบทความลองอ้าปากกว้างหน้ากระจกแล้วลองนับฟันกรามใหญ่ล่างดู หากเรามีอายุมากกว่า 12 ปีควรจะเห็นฟันกรามใหญ่ล่างสองซี่ติดกัน แต่ทราบไหมคะว่าที่จริงแล้วเรายังมีฟันกรามใหญ่ล่างอีกซี่ที่แอบซ่อนอยู่ในขากรรไกร รอเวลาถือกำเนิดสู่ช่องปาก ฟันกรามใหญ่ซี่ที่สามล่าง มีระยะเวลาขึ้นสู่ช่องปากตามธรรมชาติเมื่อเรามีอายุประมาณ 18-21 ปี ฝรั่งจะเรียกฟันซี่นี้ว่า “wisdom tooth” เพราะเป็นฟันที่ขึ้นในช่วงอายุที่คนเราเปลี่ยนจากวัยเด็กเป็นวัยผู้ใหญ่ ในกรณีที่เรามีที่ว่างด้านหลังฟันกรามมากพอ และหน่อฟันอยู่ในตำแหน่งและมีทิศทางการขึ้นสู่ช่องปากถูกต้อง ฟันกรามใหญ่ซี่ที่สามล่างนี้ก็จะขึ้นสู่ช่องปากได้ตามปกติ เราก็จะไม่มีปัญหาเป็นฟันคุดที่ซี่นี้ แต่คนส่วนใหญ่จะมีที่ว่างในขากรรไกรไม่เพียงพอให้ฟันซี่นี้ขึ้นได้ เมื่อเข้าสู่วัยรุ่นช่วงอายุ 18 ปีเป็นต้นไปอาจจะพบว่ามีฟันคุดที่ฟันกรามซี่ที่สามล่างนี้ได้

                    เราอาจรู้ว่ามีฟันคุดโดยบังเอิญจากการมาตรวจเอกซ์เรย์เพื่อการจัดฟัน หรืออาจรู้เพราะมีอาการปวด บวม ติดเชื้อ อ้าปากได้น้อยลง หรือเป็นหนองที่กรามล่างท้ายสุดก็ได้

 

การรักษาเมื่อมีปัญหาปวดฟันคุด 

                    คือต้องเอาฟันคุดออก อาจจะด้วยการถอนออกตามปกติหากฟันคุดซี่ดังกล่าวโผล่ขึ้นสู่ช่องปากได้บางส่วนแล้ว แต่โดยมากต้องผ่าตัดฟันคุดออก โดยคุณหมอจะตรวจวินิจฉัยในช่องปากและยืนยันตำแหน่งฟันคุดจากฟิล์มเอกซ์เรย์ ฟันคุดที่อยู่ในตำแหน่งลึกเข้าไปในขากรรไกรจะผ่าตัดออกได้ยากกว่า สิ่งที่สำคัญมากก็คือการดูแลตัวเองหลังจากผ่าตัดฟันคุดออกไป เพราะจะทำให้อาการปวดและบวมหายเป็นปกติได้เร็ว

 

การห้ามเลือด

                    หลังจากคุณหมอเย็บแผลและให้กัดผ้าก๊อซเพื่อห้ามเลือดแน่นพอประมาณเป็นเวลา 1-2 ชั่วโมง และให้กลืนเลือดและน้ำลาย ห้ามอมเลือดไว้ในปากหรือบ้วนเลือดและน้ำลายออกมา เพราะจะเป็นการกระตุ้นให้เลือดไหลออกมาอีกและหยุดไหลยาก หลังคายผ้าก๊อซออกอาจพบเลือดซึมจากแผลเพียงเล็กน้อยได้เป็นปกติ และเลือดอาจซึมได้ถึง 24 ชั่วโมง อาจเปลี่ยนผ้าก๊อซที่ทันตแพทย์ให้ต่ออีก 1 ชั่วโมง แต่ต้องล้างมือให้สะอาดเพื่อหลีกเลี่ยงการติดเชื้อ เพราะผ้าก๊อซที่ให้เพิ่มไปเป็นผ้าก๊อซที่ฆ่าเชื้อไว้แล้วห้ามบ้วนน้ำแรง ๆ ในช่วง 3 วันหลังผ่าฟันคุดโดยเด็ดขาด เพราะจะทำให้ลิ่มเลือดตามธรรมชาติที่ช่วยอุดปิดปากแผลหลุดออกมา และจะทำให้กระดูกเบ้าฟันติดเชื้อได้ หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหรือยกของหนัก รับประทาน หรือ ดื่มของร้อนจัด และ เผ็ดจัด และ ห้ามดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ และ ห้ามสูบบุหรี่ เพราะจะกระตุ้นให้เลือดไหลได้

 

การลดอาการบวม

                    ให้ประคบน้ำแข็ง โดยใช้ผ้าห่อก้อนน้ำแข็งประคบที่แก้มข้างที่ผ่าตัดฟันคุดมา โดยประคบ 30 นาทีแล้วพักประมาณ 15 นาที ควรประคบไว้ตลอด 24 ชั่วโมงแรกเพื่อลดการบวม และ ช่วยห้ามเลือด ห้ามอมน้ำแข็งไว้ในปากเพราะไม่ได้ช่วยในเรื่องการห้ามเลือด อีกทั้งน้ำแข็งอาจมีเหลี่ยมมุมที่คมซึ่งจะบาดปากแผล และความสกปรกของน้ำแข็งจะทำให้แผลติดเชื้อได้ คนไข้อาจพบการบวมมากที่สุดในวันที่ 3 หลังผ่าตัดฟันคุด ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ ยกเว้นว่าจะบวมมาก และ มีไข้รวมทั้งเจ็บปวดแผลมาก ให้รีบกลับมาพบทันตแพทย์

 

การทำความสะอาดช่องปาก

                    สามารถแปรงฟันได้ตามปกติ แต่ให้ระมัดระวังและแปรงเบาเป็นพิเศษเมื่อเข้าใกล้แผล การไม่แปรงฟันจะทำให้ในบริเวณแผลมีคราบจุลินทรีย์ (ขี้ฟัน) สะสมหมักหมมจนเกิดกลิ่นปากและการติดเชื้อที่แผลได้ หลังจาก 3 วันแรกให้ใช้น้ำเกลือ หรือ น้ำสุกอุ่น 1 แก้วผสมกับเกลือป่นสะอาดที่มี อย. 1 ช้อนชา กลั้วปากเบา ๆ เพื่อช่วยชะเศษอาหารและลดจำนวนเชื้อโรคที่อยู่ใกล้บริเวณแผล

 

การรับประทานยา

                    ต้องรับประทานยาตามคำแนะนำของทันตแพทย์อย่างเคร่งครัด โดยยาฆ่าเชื้อ (ยาปฏิชีวนะ) ต้องรับประทานให้หมดแม้จะไม่มีอาการปวดแผลแล้วก็ตาม เพื่อไม่ให้เกิดการดื้อยา ส่วนยาแก้ปวดให้ทานเมื่อปวดเท่านั้น ยาฆ่าเชื้อหรือยาปฏิชีวนะอาจก่อให้เกิดการแพ้ยาในบางรายได้ โดยอาจมีการหอบ เป็นลม หายใจไม่ออก เกิดลมพิษทั่วตัว หากมีอาการดังกล่าวให้หยุดยาทันทีและรีบไปโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดทันที 

 

การรับประทานอาหารและการดำเนินชีวิต

                    สามารถทำงานได้ตามปกติ ยกเว้นการยกของหนัก และ การออกกำลังกายหนัก ๆ ดื่มน้ำสะอาดและรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยหลีกเลี่ยงอาหารแข็ง อาหารเผ็ดจัด และ ร้อนจัด เมื่อครบ  7 วันให้กลับมาตัดไหมโดยทันตแพทย์จะช่วยตรวจการหายของแผลว่าเป็นไปตามปกติหรือมีภาวะแทรกซ้อนใด ๆ เกิดขึ้นหรือไม่ และจะได้แก้ไขให้ได้อย่างถูกต้อง

บทความโดย ทพ. วุฒิพงษ์ เหล่าอมต 

 

 

 

บทความด้านบนเป็นหลักการที่เกี่ยวกับการผ่าตัดฟันคุดนะคะ

สำหรับต่อไปนี้จะเป็น ประสบการณ์ตรงจากการดมยาสลบเพื่อผ่าฟันคุดให้ได้อ่านกัน

เอิ๊กผ่ากับคุณหมอที่ SMILE BY ISKY โดยผ่าตัดในโรงพยาบาลวิชัยเวชฯหนองแขม

 

สาเหตุที่เอิ๊กเลือกดมยาสลบ เป็นเพราะว่า เอิ๊กไม่ทราบมาก่อนว่าหลักการของการดมยาเป็น

อย่างไร รู้แต่ว่าทำได้ จนตอนหลังเพิ่มมาทราบว่า การดมยา เราจะหยุดหายใจชั่วขณะในเวลา

ที่เราหลับไป โดยจะมีคุณหมอวิสัญญีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญคอยสอดท่อช่วยหายใจให้ออกซิเจน

ดูแลเราอยากใกล้ชิดตลอดการผ่าตัด และ คอยปลุกจนเราฟื้นเมื่อเสร็จสิ้นการผ่าตัด

 

เอิ๊กมีความกลัวค่อนข้างมาก เกี่ยวกับการผ่าตัด ไม่ว่าจะเป็นการกรีด เย็บ และ

กรณีฟันของเอิ๊กมีความยากอยู่ในงาน ซึ่งแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะต้องทำการกรอกระดูกกราม

ของเอิ๊กทั้ง 4 มุม เพื่อไปนำพา ฟันคุดทั้ง 4 ซี่ของเอิ๊กออกมา ต้องการเอาออกพร้อมกัน

ไม่อย่างนั้นเอิ๊กก็ต้องถือหยุดงานไปประมาณเกือบ 2 อาทิตย์ เพราะงานส่วนใหญ่จะต้อง

เห็นหน้า อยากเจ็บรอบเดียวจบ สรุปสั้นๆ กลัวมาก หัวหดจริงๆ ขี้ขึ้นสมองเลย

อีกเหตุผลที่ต้องเอาออกทั้งที่ยังไม่ได้ปวด เพราะเอิ๊กวางแผนจัดฟันรอบสุดท้ายค่ะ

 

การดมยาสลบเผื่อผ่าฟันคุด คงไม่ใช่ทุกกรณีที่มีสิทธิ์จะได้ทำ ขึ้นกับความเหมาะสมของ

แต่ละบุคคล และ บุคคลนั้นต้องไม่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ โรคไต โรคความดันสูง

โรคหอบหืด / ประวัติการใช้ยา / การมีประจำเดือนส่วนใหญ่แพทย์จะไม่ให้ทำเพราะ

อ่อนเพลียอยู่แล้ว / ประวัติการแพ้ยา / ประวัติดมยาสลบครั้งก่อนถ้ามี / อาจมี X-RAY

เพิ่มเติม และ การตรวจสุขภาพเพิ่มเติม

 

 

เอิ๊กยื่นประวัติตรวจสุขภาพที่เอิ๊กปีนี้ให้เขาก่อนเลย โชคดีมากที่ได้ตรวจไว้

มาโรงพยาบาลเช้ามาก ถึง 6 โมง แพทย์นัด 9 โมง ตื่นเต้นมาก

หลักๆ มาถึงก็วัดความดัน ชั่งน้ำหนัก ส่วนสูง กรอกประวัติให้เรียบร้อย

 
        

 

จากนั้นก็เตรียมเปลี่ยนเสื้อผ้า และ ทางโรงพยาบาลจะมีบุรุษพยาบาลมาเข็นรถให้นั่ง

 

เข้าห้องผ่าตัด ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมากๆ เอิ๊กเจาะน้ำเกลือทางข้อมือ

 

หลังจากนั้นเอิ๊กจะต้องสูดหายใจลึกๆ หลังจากวิสัญญีแพทย์เอาที่ครอบมาให้ค่อยๆหายใจ

กลิ่นเหมือนยานิดหน่อย ดมไปประมาณ 5 วิ เอิ๊กท่องชินบัญชรฉบับสั้นเสร็จ

เอิ๊กก็ไม่รู้เรื่องอะไรอีกเลย

 

 

เอิ๊กไม่เคยเห็นตัวเองในสภาพการดมยามาก่อน แต่ด้วยความที่สนิทกับคุณหมอ

จึงขออนุญาตถ่ายจากมุมไกล เอาจริงๆ ตกใจหน้าตาตัวเองตอนหลับไปแล้วมาก

ดูเหมือนคนหลับลึกระหว่างสอดท่อช่วยหายใจให้ออกซิเจนตลอดเวลาในการผ่าตัด

 

คุณหมอที่ได้ผ่าตัดให้เอิ๊ก ท่านค่อนข้างเก่งมาก วินิจฉัยก่อนเลย ข้างไหนจะบวมมากบวมน้อย

และ เตือนเรื่องรอยแผลมุมปาก ก่อนเอิ๊กสลบ ซึ่งเอิ๊กก็ยังนึกไม่ออก ว่ามันจะเป็นแผล

ลักษณะไหน แต่ฝั่งที่ยาก คือ ซ้ายบน รู้เพียงแค่ว่าบวมมากหน่อยแน่นอนหลังทำ ทุกซี่อยู่ลึก

ในกระดูกหมดเลย พอเจอคุณหมอ ค่อนข้างใจเย็น และ พูดน้อย และ เอิ๊กก็ไม่กล้าถามมา

ในใจกลัวมาก กลัวการผ่าตัด กลัวตื่นมาแล้วรู้สึก เลยต้องใช้ความศรัทธาและสงบ

 

 

 

ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี หมดเวรหมดกรรมกันแล้วสำหรับฟันคุด

 

การเรียกให้ตื่น ค่อนข้างตกใจ เพราะทางพยาบาลและวิสัญญีแพทย์ต้องใช้เสียงที่ดัง

พอสมควร จะต่างจากตอนเอิ๊กไปเกาหลี ซึ่งเขาเรียกชื่อเอิ๊กลำบาก เขาจะเน้นเขย่าตัวแรงๆ

เอาตรงๆ เจอเรียก คุณเอิ๊กๆๆๆ เมื่อเรื่องด่วนมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆ แบบไม่เคยได้ยิน

เหมือนนางเอกในละครสลบอะ นึกออกปะ >< ผมตกใจ ตื่นไว รู้สึกตัวเร็วมากครับ

พักดูอาการแปปเดียว คือ กลับห้องได้

 

ผลคือการผ่าฟันคุดเอิ๊กไม่รู้สึกเจ็บเลย ไม่รู้เพราะฤทธิ์ยาชารึเปล่า

แต่สิ่งที่เจ็บมาก คือ คอ ที่ต้องสอดท่อช่วยหายใจ และ ระหว่างเราผ่าตัด คอเราก็ขยับ

คือ เจ็บมาก แบบกลืนน้ำลายทรมาน และ มุมปากรู้สึกแล้ว คือ มันตึง เหมือนมียาชาทั้งทั้ง

ริมฝีปาก อ้าปากได้น้อยมาก ๆ จริง

 

สิ่งที่ประทับใจ ไม่ต้องกัดผ้ากอซ เลือดแทบไม่มี มีแค่ซึมๆ โชคดีมากๆ ทั้งๆที่ผ่าถึง 4 ซี่

ไม่มีซี่ไหนมีอาการงอแงเลย คุณหมอที่ทำให้เชี่ยวชาญทางด้านศัลยกรรมกระดูก

ไม่แน่ใจว่ามีเทคนิคอะไรถึงทำให้เลือดที่มันควรจะไหล มันไม่ไหลเลย

แต่ต้องประคบเย็นต่อไป 24 ชม. ผ่า 9 โมง ออกมา 11 โมง

นี่คือความเปลี่ยนไปภายในไม่กี่ชม. หน้าตึงจวนจะแตก

 

เอาจริง ฟันคุด ดีกว่า รักคุด นี่คือโฉมหน้าของสาวสวยทั้ง 4 ขนาดไม่ใช่เล็กๆนะ บายบาย

 

ทางรพ. วิชัยเวชฯหนองแขม เตรียมห้อง VIP ให้เอิ๊กพักฟื้น 1 คืนแต่ถ้าใครอยากกลับก็

กลับได้นะคะ ห้อง VIP ใหญ่มาก คืนละ 6,900 บาท รวมค่าบริการทุกอย่างแล้ว

 

เหมาะสำหรับคน ญาติเยอะ เพราะมาเยี่ยม ที่นั่งเพียบ 

อันนี้มีพี่ๆ มาเยี่ยม ก็มาออกันฝั่งเตียงคนไข้ อีกฝั่งก็ยังมีโซฟา ให้นั่งดูทีวีได้อีก

 

 

ห้องน้ำ 2 ห้องแยกกันสบายๆ

ประตู 2 ห้อง เผื่อคนไข้หลับก็เข้าอีกประตูได้ แบ่งโซนกันได้ด้วยม่าน คือ โรงแรมเลย

มีมุมนั่งทานอาหารอีก คือ กว้างพอสมควร  พยาบาลดูแลดี มาวัดความดันตลอด

 

 

 

ขอบคุณทาง SMILE BY ISKY / ISKYCENTER / และ รพ. วิชัยเวชที่มาเยี่ยมนะคะ

เกรงใจมาก แค่ผ่าฟันคุดเอง 555555555555555555555 ขอบพระคุณสำหรับการดูแลค่ะ

 


ทานโจ๊ก 4 วัน เริ่มเคี้ยวของนิ่มๆได้วันที่ 5 นี่ก็คือมื้อแรกวันที่ 5 แต่ไม่อร่อยเลย ยังระบบอยู่

สรุปวันที่ 6 กำลังดี เคี้ยวได้แล้วเพลินๆ หน้ายุบลง 7 วัน เหมือนเดิม


 

ช่วงแรกใช้แปรงอันนี้แปรงฟัน แปรงสีฟันเด็กอ่อน เหตุผลคือ อ้าปากไม่ได้ มันลำบากมาก

วันที่กว่าปากจะอ้าได้กว้าง วันที่ 7 คือต้องพยายามอ้าปากกว้างๆ ตั้งนิ้ว3นิ้ว แล้วเอาเข้าไป

ในปากให้ได้ ฝึกให้อ้าให้ได้ แรกๆเมื่อยมาก แต่ต้องทำนะคะ

 

เนื่องจากติดสงกรานต์เอิ๊กจึงได้ตัดไหมประมาณ 2 ทิตย์กว่าให้หลัง

มาที่รพ.วิชัยเวชฯหนองแขม

 

แต่ตัดไหมที่ SMILE BY ISKY เลยวันนี้ ก็เข้ามาตึกด้านในสุด ขึ้นลิฟท์ชั้น 3

 

ด้านล่างชั้น 2 คือ ISKYCENTER ด้านบนคือ SMILE BY ISKY

 

ระหว่างรอคุณติดคนไข้จัดฟัน ที่นี่คุณหมอจัดฟันเก่งหลายท่าน เลยเก็บบรรยากาศมาให้ชม

 

ออกแนว GALAXY แยกเป็นแต่ละดาวไป

 

มีมุมเฉพาะเด็กเล็กที่พ่อแม่พามาด้วยก็ให้มาเล่นห้องนี้รอ

 

การตกแต่งค่อนข้างมีสีสันแนว COLORFUL ทำให้เราไม่ค่อยกลัวที่จะทำฟัน

แต่เอาจริง เห็นกรรไกรคุณหมอจะตัดไหม ก็กลัวค่ะ 55555555

วันนี้คุณหมอพิงค์ตัดไหมให้ค่ะ มันไม่ได้เจ็บแต่เสียวๆ ไหมละลาย คือเส้นหนาใหญ่

รำคาญพอสมควร เราชอบเผลอเอาลิ้นไปดุนเล่น กว่าจะละลายอาจจะนานจึงมาตัดออกก่อน

เหงือกปิดสนิทเป๊ะมาก ไม่มีรูกวนใจให้ข้าวตกลงไป เพราะบอกแล้วว่าอยู่ลึก

หมอจึงต้องเอาเหงือกมาเย็บปิดกลับ

 และ แล้ววันนี้ก็พาไปด้วยดี สรุปประสบการณ์ผ่าฟันคุดที่ต้องดมยาสลบของเอิ๊กแต่เพียงเท่านี้

 

ดมยาสลบบอกเลยว่าเหมาะกับ

คนที่จำเป็นจริงๆ เคสยากๆๆมากๆ และ มีหลายซี่หน่อยก็จะสมควรกว่า

คนที่กลัวเหลือเกิน กลัวเลือด กลัวการผ่าตัด แต่ก็ต้องเอาออก

 

วันที่ 1 ทานได้แต่โจ๊ก ทานยาฆ่าเชื้อ ยาแก้ปวดตามปกติ ไม่เจ็บไม่ปวดอันใด

เจ็บแต่คอ เจ็บแต่มุมปาก อ้ากว้างไม่ได้ บ้วนปากด้วยน้ำเกลือทุกวันจากนี้

 

วันที่ 3 เริ่มมีสะเก็ดที่มุมปาก ยาแกะ หมั่นทาวาสลีน ทานยา ทานอาหารอ่อน

แผลไม่เจ็บไม่ปวด แต่วันนี้ หน้าโย้แบบสุดๆ แก้มโย้ออกมา เอาตรงๆ ตลกมาก

คอเจ็บอยู่ คือ T_T จิบน้ำอุ่น งดน้ำเย็น ทานยาขมตราใบโพธิ์ ยาหวานน้ำเต้าทอง

 

วันที่ 6 เริ่มทานได้ มุมปากฝึกอ้าให้กว้าง กว้างเข้าไว้ สามนิ้วตั้งตรงสอดเข้าไป เอาเข้าให้ได้

คอไม่ค่อยเจ็บแล้ว เริ่มเคี้ยวได้แล้ว ทานยาตามปกตินะคะจนกว่าจะครบ 7 วัน

สำหรับยาฆ่าเชื้อ แผลก็ไม่ปวดเหมือนเดิม

 

วันที่ 7 หน้ายุบพอดี บอกเลยว่าคุ้มมาก เพราะยังไงก็ต้องทนทานอาหารอ่อน และ เจ็บมุมปาก

อยู่ดี เอาออก 4 ซี่รอบเดียวจอด ไม่ได้แย่ หรือ โหดอะไรขนาดนั้น คือ ไหว แผลไม่ปวดเลย

ทรมานแค่คอ กับ มุมปากนี่ละ

 

และ ไม่ขอดมยาสลบเพื่อผ่าตัดอะไรอีกแล้ว ถ้าไม่จำเป็น

ขอบคุณพระคุณ SMILE BY ISKY และ รพ. วิชัยเวชฯหนองแขมที่

ช่วยผ่าตัดและดูแลเป็นอย่างดี

 

สรุปค่าผ่าตัดถามมาให้แล้วนะคะ แพคเกจผ่าตัดรวมดมยา 25,000 บาท

ค่าโรงพยาบาล 1 คืนของเอิ๊ก VIP 6,900 บาท (ถ้านอนก็เลือกแบบห้องได้)

 

แค่วันที่ 2 หน้าเราก็ใกล้กันแล้ว

บายบาย


Posted in REVIEW, TEETHComments (0)

ที่สุดสกินแคร์รักษาสิวแห่งปี 2014 by erk-erk

 

 

 

Posted in REVIEW, SKIN CAREComments (0)

REVIEW AVENE เซ็ทผิวขาวผิวบอบบางผิวแพ้ง่าย

วันนี้จะขอนำข้อมูลเรื่อง “ผิวแพ้ง่าย ผิวบอบบาง ผิวอ่อนแอ” มาแบ่งปันกันนะคะ

เอิ๊กเองเป็นบุคคลที่มีลักษณะแบบนี้ปนอยู่ ดังนั้นการเลือกใช้สกินแคร์จึงต้องละเอียด

ในการดูส่วนผสมที่อาจจะทำให้ผิวระคายเคืองได้ และ วันนี้จะเป็นข้อมูลผิวหนังทั้งหมด

จากแบรนด์ AVENE ในสาขาประเทศไทย ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่เอิ๊กได้รับมาในวันเปิดตัวในไทย

และ ซื้อใช้ซ้ำต่อเอง จะมารีวิวให้อ่านสำหรับตัวที่เอิ๊กใช้กันค่ะ

รูปนี้เป็นรูปสภาพผิวจริง ไม่มีการรีทัช หลังการใช้ต่อเดือน 1 เดือนเพื่อทำรีวิวปกติจะใช้สลับไป

สลับมาแต่อยากให้ได้อ่านข้อมูลจริงจัง ช่วงนั้นไม่ว่าจะไปทำงานที่ไหน ต่างประเทศก็จะหอบไป

เพื่อให้การรีวิวจากประสบการณ์ตรงของเอิ๊กได้ผลออกมาอย่างตรงไปตรงมามากที่สุด

 

ผิวบอบบางและไวต่อสิ่งกระตุ้นแบ่งได้ 3 ระดับ

เราสามารถดูจากช่องสิ่งที่ต้องการเพื่อนำไปเลือกใช้สกินแคร์ปกติที่เราใช้อยู่ได้นะคะ

สำหรับแบรนด์ AVENE จุดเด่นในส่วนผสมหลักของเขาคือน้ำแร่ ซึ่งมีคุณสมบัติรักษา

โรคผิวหนังหลากหลายประเภท มีงานวิจัยรองรับ และ มีศูนย์วารีบำบัดเพื่อเปิดรักษาคนที่

มีปัญหาทางด้านผิวหนังโดยเฉพาะ ต้นกำเนิดมาจากฝรั่งเศส ถูกค้นพบเมื่อ 250 กว่าปีมาแล้ว

เมื่อครั้งนึง ม้าตัวนึงที่มีปัญหาผิวหนังอย่างรุนแรง ได้ลงไปแช่ตัวในน้ำแร่ กลับพบว่าผิวหนัง

ของม้าดีขึ้นจนหาย หลังจากนั้นจึงถูกนำมารักษาในคน จนกระทั่งถึงขั้นค้นคว้า ทำวิจัย

ทำเป็นอุตสาหกรรมใหญ่ สร้างแบรนด์ ขายทั้งในและนอกประเทศจนมีชื่อเสียงมาจนทุกวันนี้

ดังที่สุด คือ น้ำแร่ ในฝรั่งเศสแบรนด์นี้คือเบอร์ 1 แต่เพราะไม่ชอบทำการตลาดผ่านสื่อ

จึงจะมีชื่อเสียงเฉพาะในวงการแพทย์ผิวหนัง และ คนไข้ที่มารักษา และ คนในประเทศ

ฝรั่งเศสส่วนใหญ่ อันนี้ก็เป็นเรื่องของการตลาดส่วนตัวของเขา ส่วนตัวเอิ๊กไปดูงานแบรนด์นี้มา

ที่ฝรั่งเศส ยิ่งใหญ่ อลังการ มีระบบ ระเบียบ มาตรฐาน ความปลอดภัย พนักงาน โรงงาน

เครื่องจักรมาตรฐาน ISO ตามแบบฉบับการยอมรับในระดับสากล

 

คุณสมบัติของน้ำแร่ 

❀ ช่วยให้ผิวรู้สึกผ่อนคลาย 

❀ ช่วยลดอาการระคายเคือง คัน

❀ ช่วยลดอาการอักเสบของผิว

❀ ผื่นแพ้ 

❀ หลังการโกนหนวด 

❀ ผื่นผ้าอ้อมเด็ก  

❀ หลังออกแดด 

❀ หลังท้าทรีทเมนต์ 

❀ หลังการออกกำลังกาย 

❀ ฉีดน้ำแร่ก่อนแต่งหน้าเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นบนใบหน้า และให้ครีมบำรุงผิวหน้าซึบซาบเข้าสู่ผิวได้ดียิ่งขึ้น 

❀ Fix Make up ให้ติดทนทน โดยฉีดพรมให้ทั่วพอประมาณหลังการทาแป้ง ทิ้งไว้สักพัก แล้วเอาทิชชู่ซับเบา ๆ เนื่องจากตัวน้ำแร่จะช่วยดูดซับความมันบนใบหน้าออกมา พร้อมท้าให้แป้งและรองพื้นติดทนนาน  

*** หากใช้อย่างต่อเนื่องจะพบว่าผิวจะเรียบเนียน นุ่ม ชุ่มชื่นขึ้น ริ้วรอยลดลง แลดูอ่อนเยาว์ 

 

ใช้ได้กับผิวที่มีลักษณะนี้ 

✿ สามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิว เพื่อการบ้ารุง เพิ่มความเนียนนุ่ม ชุ่มชื้นคืนสู่ผิว 

✿ ผิวที่มีอาการคันทุกชนิด 

✿ ผิวที่มีเป็นโรคผิวหนัง เช่น โรคผิวหนังอักเสบ Eczema, Atopic Dermatitis และผิวที่มีปัญหาสิว เป็นต้น 

✿ ใช้หลังการผ่าตัด หรือหลังการท้าเลเซอร์ผิว 

 

คุณสมบัติน้ำแร่ของเขานอกเหนือจากข้อดีข้างบน

ยังมีส่วนที่บอกว่าแตกต่างจากคนอื่นคือมีแร่ธาตุที่ตกค้างบนผิวน้อยมาก

ด้านล่างหยิบมาบางตัวอย่างที่เป็นงานวิจัยที่ AVENE ได้ตีผิวลงในวารสารแพทย์

ในการดูแลปลอบประโลมผิวที่มีปัญหาต่างๆ

AVENE มีทั้งหมดประมาณ 6 สูตรด้วยกัน

1. กลุ่มผลิตภัณฑ์ลดเลือนริ้วรอย


2. กลุ่มผลิตภัณฑ์ควบคุมความมัน และ ผิวเป็นสิวง่าย

3. กลุ่มผลิตภัณฑ์ผิวกระจ่างขาว และ ผิวที่มีรอยแผล

4. กลุ่มผลิตภัณฑ์สำหรับผิวแห้ง ผิวขาดความชุ่มชื้น

5. กลุ่มผลิตภัณฑ์สำหรับผิวบอบบาง แพ้ง่าย

 

6. กลุ่มผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดด

ส่วนตัวลองมาอย่างละนิด อย่างละหน่อยของสูตรนั้น สูตรนี้ ชอบหลายตัว เช่น มาส์กหน้า

ผิวบอบบาง ตัวทำความสะอาดใบหน้าสูตรน้ำ นอกนั้นจริงจังสุด คือ เซ็ทผลิตภัณฑ์สูตร

SENSITIVE WHITE ชื่อบอกอยู่แล้ว ว่าปรับสภาพผิวให้ขาวกระจ่างสำหรับผิวบอบบาง

 

 

พร้อมรึยังเริ่มรีวิวแล้วนะ !!!!!!!!!!!

เรียงซ้ายไปขวา

1. น้ำแร่ EAU THERMALE THERMAL SPRING WATER [ทุกสภาพผิว]

2. SENSITIVE WHITE LOTION [กลุ่ม SENSITIVE WHITE]

3. ELUAGE EYE CONTOUR CARE [กลุ่มสูตรลดร้ิวรอย]

4. SENSITIVE WHITE ESSENCE [กลุ่ม SENSITIVE WHITE]

5. SENSITIVE WHITE CREAM [กลุ่ม SENSITIVE WHITE]

 

**จริงๆจะมี 3 ตัวสำหรับผิวแห้ง LOTION/ESSENCE/CREAM ผิวมันจะเป็นเนื้อFLUID

ด้านหลังก็จะเป็นส่วนผสม คำเตือนภาษาฝรั่งเศส แต่ซื้อในไทยจะมีฉลากไทยแปะไว้

ที่กล่องทุกขวดมีกล่องหมด ยกเว้นน้ำแร่ จะซีลพลาสติกมาอย่างดี และ อาการออกแบบขวด

น้ำแร่ทำให้สิ่งสกปรกเข้าไปไม่ได้ ไม่มีวันหมดอายุ ดังนั้นใช้ได้ตลอดชีวิต ข้อเสียก็ไม่สามารถ

แบ่งใส่ขวดนั้นนี้ได้ ข้อดีใช้ได้ตลอดคุณภาพเหมือนเดิม

หลายคนที่เริ่มเสพย์ติดน้ำแร่บอกเลยว่าจะเริ่มชอบที่จะลงน้ำแร่ก่อนซักครู่ซับแล้วตามด้วย

สกินแคร์ขั้นตอนต่อไป เพราะนำพาครีมให้ซึมได้ดียิ่งขึ้น พร้อมด้วยเติมความชุ่มชื้นและแร่ธาตุ

ที่มีประโยชน์ ปลอบประโลมผิวอักเสบที่มีอาการอยู่ได้ดียิ่งขึ้น

วิธีใช้ ฉีดพ่นให้ห่างจากผิว 10-15 เซนติเมตร ทิ้งไว้ซักครู่แล้วซับให้แห้ง

ตามด้วย EYE CREAM หรือ LOTION ก็ได้ เอิ๊กเลือก LOTION เนื้อเบาสุดลงก่อน

ตัวนี้เป็นน้ำใสมีความข้นเล็กๆที่เราจะรู้สึกได้ เน้นเหยาะไม่กี่หยด แล้วใช้ฝ่ามือตบเบามือ

ให้ทั่วใบหน้า ไม่มีกลิ่น ไม่มีสี ไม่มีแอลกอฮอล์ ดังนั้นถ้าใครชอบอะไรที่มีกลิ่นอาจจะไม่เหมาะ

ทำมาเพื่อผิวแพ้ง่าย

SENSITIVE WHITE LOTION เอิ๊กหยด 4-5 หยด หน้าใหญ่นิดนึง

แล้วตบเบามากๆให้ทั่วใบหน้า ทิ้งไว้ซักครู่ค่อยตามตัวต่อไป

EYE CREAM ตัวนี้ เป็นตัวที่อยู่ในสูตรลดริ้วรอยอย่างเดียว เนื้อครีมสีเหลืองอ่อน

บีบนิดเดียว เนื้อเบาค่ะ ไม่เหนียวไป

ELUAGE EYE CONTOUR CARE วิธีใช้ บีบที่นิ้วนางหรือนิ้วก้อยเม็ดเล็กๆ

แล้วค่อยกดซับเบาๆจากหัวตาไปหางตา จนครีม กลืนและซึมไป

ตามด้วยเนื้อ ESSENCE หรือ SERUM ตัวนี้เข้มข้นขึ้นมาหน่อย สีเหลืองอ่อนแต่เนื้อ

ไม่หนักเลย ทั้งสูตรให้ความชุ่มชื้นแบบรู้สึกได้ทุกตัว

SENSITIVE WHITE ESSENCE วิธีใช้ บีบออกมาพอให้ใช้ได้ทั่วใบหน้าแต้ม 5 จุด

แล้วค่อยๆกดเบาๆให้ทั่วใบหน้า หรือ ใครจะเกลี่ยก็ได้ค่ะ

ตัวสุดท้ายเนื้อเข้มข้นสุด เป็น CREAM แต่ก็ยังเบาสบายผิวอยู่

เป็นเนื้อครีมที่เราจะมาละเลงเป็นตัวฟินาเล่

SENSITIVE WHITE CREAM วิธีใช้ เหมือน ESSENCE เด๊ะเลย วิธีเดียวกันไป COPY ได้

 

 

เอิ๊กได้ทั้ง 5 ตัวนี้มาในราคา 3000++ บาท นี่คือ ราคา SALE

ตอนงาน THAILAND BEST BEAUTY กระเป๋าตังค์ยิ้มเลย สบายกระเป๋า ราคาจะอยู่ที่

หลักร้อยปลายๆ ถึงหลักพันต้นๆ ต่อ 1 ชิ้น การใช้ตัวนึงก็ใช้ได้นาน เพราะเราไม่ได้บีบเยอะ

ยิ่งโลชั่น ใช้จนลืมว่าซื้อมานานแล้ว

 

ข้อดี

ในทุกตัวผสมส่วนผสมจากน้ำแร่ ดังนั้นช่วยเรื่องปัญหาผิวทุกตัว

ราคารับได้กับคุณภาพ และ ปริมาณ

แพคเกจเฉพาะน้ำแร่ออกแบบมาดี รักษาคุณค่าของน้ำแร่ไว้ได้ตลอดไป

เนื้อเบาไม่เหนียวมาก

ใช้ได้ทุกสภาพผิว โดยเฉพาะผิวแพ้ง่าย ผิวเป็นสิว หรือ ผิวพึ่งเลเซอร์มา

ให้ความชุ่มชื่นดีมาก ในแง่บำรุง ให้ความสมดุลผิว ดีให้คะแนนเต็ม

 

ข้อเสีย

อาจต้องใช้นานมั๊ง ใช้สูตรไวทเทนนิ่ง ส่วนตัวไม่ได้รู้สึกว่าผิวขาวขึ้น ฝ้าหาย กระจาง

หาซื้อตามร้านยา และ โรงพยาบาลเป็นส่วนใหญ่

แพคเกจอื่นที่ไม่ใช่น้ำแร่ ตัวอักษรเลือนหาย ตกบางอย่างมีฝาแตกได้ พลาสติก


ใช้มาเดือนนึงผิวเราก็เป็นเยี่ยงนี้แลลลลลลล ชอบที่ให้ความชุ่มชื่น และ เนื้อไม่หนักมาก

คล้ายครีมฝั่งเอเชีย เทือกเกาหลี คือ ไม่อุดตัน ให้คุณภาพการบำรุง โดยหน้าไม่หนักครีม

” อีก 1 แบรนด์ที่ RECOMMENED 2014 สำหรับผิวแพ้ง่าย

เป็นไอเท็มที่ซื้อซ้ำในการบำรุงจริงๆ และ ดูแลผิวช่วงผิวอ่อนแอ อักเสบจริงๆ “

Posted in REVIEW, SKIN CAREComments (0)

PREVIEW มาตรฐานใหม่ของครีมกันแดด แค่SPFและPA คงไม่พออีกต่อไป ต้องปกป้อง LONG UVA ที่ทำร้ายลึกถึงระดับ DNA

 
 
 
 
 
 
 
 
วันนี้มีโอกาสได้ทำบทความเกี่ยวกับเรื่องกันแดดให้กับ LOREAL PARIS
ในการเป็นตัวแทนสาวไทย ย้ำเตือนถึงผลกระทบที่เกิดจากรังสี UV หรือ แสงแดดของบ้านเรา
เรียกว่าถ้าทุกครั้งที่เอิ๊กได้รับเชิญออกเป็นวิทยากรแนะนำเรื่องสุขภาพผิว สิ่งเดียวสำคัญที่เอิ๊ก
จะฝากไว้ให้กับทุกคนในงาน เรียกได้ว่าเป็น “การลงทุนให้กับสุขภาพผิวของเราในระยะยาว”
ได้เป็นอย่างดีนั่นก็คือเรื่อง “การใช้กันแดดอย่างเป็นประจำต่อเนื่องทุกวัน”
 

เพราะแสงแดดเป็นศัตรูตัวร้ายอันดับหนึ่งของสุขภาพผิว

เป็นต้นเหตุให้เกิดริ้วรอยก่อนวัย ผิวหย่อนคล้อย ขาดความกระชับ รวมถึงจุดด่างดำ ฝ้ากระ

 
มาตรฐานกันแดดที่ผ่านมาให้สังเกตุสัญลักษณ์การป้องกันที่คุ้นเคย
SPF = สัญลักษณ์ป้องกันรังสี UVB
PA = สัญลักษณ์ป้องกันรังสี UVA
ยิ่งมีเครื่องหมายบวก + ต่อท้ายจำนวนมากเท่าไหร่การป้องกันยิ่งสูง
 

 

แต่มาตรฐานใหม่ในการเลือกกันแดดยุคใหม่นี้ที่เปลี่ยนไป

คือ การให้ความสําคัญกับสารกันแดดที่เราเลือกใช้นั้น

ต้องสามารถป้องกันรังสี UVA ชนิด LONG UVA ได้ดี “

UVB = 5% Shot UVA = 20%  Long UVA = 75%
แม้รังสี UV ที่ฉายลงมามีผลกระทบกับสุขภาพผิวหนังของเรา
ถ้าคิดเป็น 100% ในด้านของแสงUV จะมี UVB เพียง 5% นอกนั้น SHORT UVA 20%
และ LONG UVA 75% เป็นความรู้เพิ่มเติมที่หลายคนอาจไม่เคยทราบมาก่อน
 
 
SHORT UVA
  • ซึมลึกลงสู่ผิวหนังส่งผลกระทบระยะยาว ริ้วรอยก่อนวัย พัฒนาไปสู่มะเร็งผิวหนัง
LONG UVA
  • ซึมลงสู่ผิวหนังได้ลึกมากที่สุดในบรรดา UV ทั้งหมด ก่อให้เกิดความเสียหายอย่างรุนแรงทั้งในแง่ของสีผิวที่ดำคล้ำเสียสะสมฝังตัวอยู่ภายในรอวันที่จะโผล่ขึ้นมา อย่างกระ ฝ้าลึก ผิวหนังที่กร้าน ยังรวมไปถึงการทำลายโครงสร้างของผิวหนังภายในระดับ DNA ทำลายคอลลาเจน ทำให้เกิดริ้วรอย ผิวหนังที่หย่อนคล้อย และ ส่งผลให้เรามีผิวชราที่เกิดจากแสงแดด

จากการค้นคว้าและวิจัยจาก ลอรีอัล ปารีส โดยผู้เชี่ยวชาญด้านผิวพรรณพบว่า

ผิวสามารถดูแก่ขึ้น 6 ปี ใน 6 เดือน เพราะรังสี LONG UVA และ UVA/B 

 

 
UVA ที่โดนผิวเราไม่มีทางหายไปมันจะซึมลึก
และผิวเราจดจำไว้อย่างดีเมื่อถึงเวลานึงผลกระทบจะโผล่ออกมา
 
 

ดังนั้นมาตรฐานใหม่ในการเลือกกันแดดยุคใหม่นี้ที่เปลี่ยนไป

คือ การให้ความสำคัญกับสารกันแดดที่เราเลือกใช้นั้น

ต้องสามารถป้องกันรังสี UVA ชนิด LONG UVA ได้ดี

 
 
การใช้กันแดด เราต้องทำเป็นประจำให้เป็นนิสัย เร่ิมต้นตั้งแต่วัยเด็ก
จะดีมาก เพราะเอิ๊กเคยมีปัญหาเป็นฝ้าในวัยอายุ 25 ปี จากการที่มีเม็ดสีผิวปกติง่ายในเรื่อง
ของกรรมพันธุ์ และ มี BROWN SPOT เยอะมากจากการตรวจสภาพผิว * ตามสถาบันดูแล
ความงาม ตอนนี้ยังไม่ได้ตรวจซ้ำ เป็นคนที่กระเต็มโหนกแก้มมาก่อน กระตื้นยังพอแก้ได้พอ
เป็นฝ้าแล้วไม่ต้องการให้คนอื่นต้องมาเป็นเหมือนกัน เลยมักจำย้ำเรื่องนี้บ่อยมาก
 
 
ตอนรักษาไปแล้วซักระยะ เห็นแก้มเป็นเงาดำดำไหมคะ ? ตอนแรกดวงใหญ่มากทั้งโหนกแก้ม
ฝ้าลึกรักษายากมาก และ มีโอกาสกลับมาได้ตลอดเวลา เพราะแบบนี้เอิ๊กถึงกลัวแดดมาก
ไม่ใช่แค่เพราะกลัวแก่ แต่หน้าด่าง สีผิวไม่สม่ำเสมอ เป็นฝ้า สิวอักเสบ สิวทิ้งรอยดำฝัง
เหตุผลอีกหลายประการ ฯลฯ  😥
 
 
 
จาก CHART จะเห็นว่า UVA ซึมลึกลงไปกว่ามาก ดังนั้นสมการที่คุณหมอผิวหนังรู้จักกันดี คือ
UVA = AGING ผิวมีอายุแก่ก่อนวัย
UVB = BURNING ผิวไหม้ ดำ คล้ำ เสีย
 
เอิ๊กทำชาร์ตสรุปมาให้เข้าใจโดยง่ายเป็นภาษาไทยนะคะ SAVE เก็บไว้ดูเพื่อให้เข้าใจได้ค่ะ
 
 
 
 
 
 
 
เอาละสรุปไปแล้วสั้นๆง่ายๆทำไม ” เราจึงต้องใช้กันแดดทุกวันเป็นประจำตลอดไป “

และต้องเลือกกันแดดทั้งทีไม่ใช่แค่ SPF หรือ PA แต่ต้องปกป้อง LONG UVA

ที่ทําร้ายลึกถึงระดับ DNA ด้วย

เนื่องจากวันนี้มาเขียนบทความให้
LOREAL PARIS และได้กันแดดมาจากทางแบรนด์
จึงมา PREVIEW ให้ดูกัน
 
 

 

 สูตรนี้จุดเด่นคำโปรยมีอยู่ว่า
LOREAL PARIS UV PERFECT AQUA ESSENCE SPF 30/ PA +++
ปกป้อง LONG UVA ลึกถึงระดับ DNA เป็นหนึ่งในครีมกันแดดมาตรฐานใหม่
ที่สามารถป้องกันได้ครบทั้งรังสี UVA UVB แล้วยังสามารถป้องกันรังสี LONG UVA
ที่เป็นตัวการทำให้เกิดริ้วรอยที่ยากจะแก้ไขได้ดียิ่งขึ้น
รักษาไฟโบบลาสต์ใต้ผิว (ไฟโบบลาสต์ทำให้ผิวยังกระชับและเต่งตึง)
 
เนื้อผลิตภัณฑ์จะค่อนข้างชุ่มชื่นซึ่งมีน้ำค่อนข้างเยอะ
เป็นเนื้อ ESSENCE แบบน้ำ
 
 
ด้านหลังกล่อง จะพูดถึงจุดเด่นของสารกรองรังสี Mexoryl™ SX/XL
เป็นลิขสิทธิ์ของ LOREAL โดยบอกไว้ว่าป้องกันแดดได้ยาวนาน 12 ชั่วโมง
จุดเด่นอีกอย่างคือ มีสารแอนตี้ออกซิเดนท์ เสริมการปกป้องผิวจาก UVA
ทั้ง SHORT UVA และ LONG UVA ป้องกันผิวจากมลภาวะ
รวมถึง มีสาร ADENOSINE ลดเลือนริ้วรอย และ บำรุงผิว
 
 
ด้านข้างระบุส่วนผสมชัดเจน จะนำด้วยน้ำเป็นหลัก จะมีแอลกอฮอล์ และ น้ำหอมด้วย
 
 
สูตรนี้พัฒนามาเฉพาะผิวของคนเอเชีย
 

 ขนาด 30 มิลลิกรัม ราคาถ้าจำไม่ผิด คือ 339 บาท

 

เนื้อสัมผัส สีขาวขุ่นชุ่ม หลังทาที่มือ จะดูผ่อง และ ฉ่ำน้ำ 
 
 
วิธีการทำกันแดด
LOREAL PARIS UV PERFECT AQUA ESSENCE SPF 30 UVB UVA PA +++


โพสรูปผิวให้ดูแบบไม่ได้ RETOUCH จะให้ดูว่าฝ้าจางไปจนแทบมองไม่เห็นแล้ว
แต่ยังมีจุดด่างดำจากสิวอยู่บ้าง และ กระเล็กน้อยค่ะ 🙂 
 
เขย่าค่ะ ซัก 3-5 ครั้งให้ส่วนผสมมันกลมกลืนกัน 
 
 
 

ในการทาครีมกันแดดอย่างถูกวิธีหลายๆคนยังทาครีมกันแดดในปริมาณที่น้อยเกินไป

อาจทำให้ปกป้องผิวของเราไม่เต็มที่อย่างน้อยต้องใช้ทั้งหมด 2 ข้อนิ้วชี้

หรือประมาณ 1ช้อนชาค่ะ และ เราอาจจะแบ่งทาโดยเริ่มทา 1 ข้อนิ้วชี้รอบแรกก่อน

 
 
 
เกลี่ยบนปลายนิ้วมือ จะได้ไม่ถูกซึมหายไปในมือหมด
 
 
 
แต้มตามจุดต่างๆบนใบหน้า และ ใช้มือกดเบาๆให้ครีมกันแดดแนบลงบนผิว เกลี่ยอย่างเบามือ 
 
 
 
รอบแรกผ่านไป 
 
 
 
รอบ 2 จะบีบอีก 1 ข้อนิ้วชี้สุดท้าย
 
 
 
รอบ 2 อาจจะเน้นไปยังบริเวณที่เรามีปัญหาก่อน เช่น กระ ฝ้า รอยดำ
หรือบริเวณที่เราเป็นแผล หรือ ทำเลเซอร์มา เพราะมันจะไวแสง 
และ ลงให้ทั่วใบหน้า โดยใช้มือกดเบาๆให้ครีมกันแดดแนบลงบนผิว
เกลี่ยอย่างเบามืออีกครั้ง
 
 
 
ครีมกันแดดก็จะซึมลงไป ทิ้งไว้ 5-10 นาที และ เราก็สามารถแต่งหน้าได้เลย
 
 
 
สิ่งที่เราหลายคนลืมจะดูแลผิวหนังอีกส่วนหนึ่งที่บอบบาง ก็คือ บริเวณลำคอ
อย่าลืมลงกันแดดที่คอด้วยค่ะ ส่วนกันแดดลำตัวก็ให้ใช้สำหรับลำตัวโดยเฉพาะ หรือ
จะใช้กันแดดที่ใช้กับใบหน้าก็ได้ แต่จะสิ้นเปลืองค่ะ
ปล. กันแดดสูตรนี้ตอนทาจะรู้สึกเย็น ดูผิวฉ่ำน้ำ ชุ่มชื้นทาแล้วหน้าจะไบรท์ขึ้น เกลี่ยง่าย
 
 
หวังว่าวันนี้คงได้เรียนรู้ในการกันแดด และ การทากันแดดแบบบทความให้เห็นภาพกันได้
ไม่มากก็น้อยอยากให้ทุกคนผิวสวยหน้าใส กันทุกคนค่ะ 🙂
 
 
ส่วนตัวเอิ๊กอยากให้ทดสอบ SKINCARE ทุกตัวก่อนค่ะ อาจจะเป็นบริเวณเล็กของใบหน้า
เพราะผลิตภัณฑ์อาจจะมีส่วนผสมของALCOHOL และ FRAGRANCE
ความเห็นส่วนตัวเหมาะกับการออกไปทำงานออฟฟิต
ไปเรียนในห้องเรียน และ ทุกกิจกรรมที่ไม่ได้ออกแดดจัดโดยตรงมากๆ 

 

  

 
 
* เกร็ดความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับครีมกันแดด
 
❤ UVA มีตลอดปี แม้ในวันที่มีเมฆ หรือ แม้ในที่ร่ม
❤ UVA ส่งผลต่อสุขภาพผิวในระยะยาวมาก หาสารกันแดดปกป้องให้ดียิ่งขึ้น
❤ สารต้านอนุมูลอิสระบางตัวที่ใส่ในครีมกันแดดเพื่อช่วยให้การป้องกันรังสี UVA ดียิ่งขึ้น
❤ ในโลกนี้ไม่สามารถป้องกันUV ได้100% เราอาจทาไม่ทั่ว มันมีโอกาสรั่ว
❤ การกันแดดควรทำควบคู่ไปกับการหลบแดดในเวลาที่แดดจัด + กางร่ม + ใส่หมวก
+ ทากันแดดซ้ำหากเหงื่อออก
❤ กันแดดควรทาซ้ำทุก 2-3 ชม. เพราะสารกันแดดจะเสื่อมลงเมื่อถูกแดด และ อาจหลุดถ้าเหงื่อออก หรือ โดนน้ำ
❤ กันแดดสูตร water proof สามารถกันน้ำได้80นาที /water resistance กันได้40นาที
❤ แดดข้างหน้าต่างน่ากลัวเช่นกันเพราะมีรังสี UVA สามารถสะท้อนเข้ามาได้
❤ การไม่ถูกแดดเลยจะทำให้เราอาจขาดวิตามินDได้ แต่สามารถทานผัก ปลา นม
น้ำมันปลา ฯ ทดแทนได้
❤ โดนแดดจัดโดยไม่ป้องกันตลอด มีโอกาสเสี่ยงเป็นมะเร็งผิวหนัง
❤ ร่มสามารถกันได้แค่UVB แต่ไม่กันรังสี UVA
❤ เสื้อผ้าที่พอจะกรองแสงUVได้ ต้องหนา ตาข่ายถี่ๆจนแสงลอดไม่ได้
สีดำกันแดดได้ดีกว่าสีอื่น
❤ กันแดดมีสองชนิด เคมีคอล & ฟิสิคอล
❤ กันแดดเคมีคอล จะดูดแสง ทำให้แพ้ได้ เป็นสิวได้ และ เสื่อมสลายได้ง่าย
❤ กันแดดฟิสิคอล จะสะท้อนแสง ไม่แพ้ ไม่เป็นสิว ไม่เสื่อมสภาพง่าย
❤ กันแดดส่วนใหญ่จะผสม ฟิสิคอล และ เคมีคอล เข้าด้วยกับเพื่อให้ได้คุณภาพที่เหมาะสม และ เหมาะกับสภาพผิว
❤ เสื้อผ้าถ้าโดนน้ำจะกรองแสงได้น้อยลง
❤ ค่ากันแดดพื้นฐานในไทย คือ SPF 30 PA +++
 
   
 
 
วันนี้ลาไปก่อนนะคะ พบกันใหม่ บล็อคหน้า จุ๊บ  
 
 
 
 

 

Posted in REVIEW, SKIN, SKIN CAREComments (0)

REVIEW ไดร์ถนอมเส้นผมสุดล้ำ PHILIPS MOISTURE PROTECT กับ เทคโนโลยีวัดความชุ่มชื้นของเส้นผม และ ปรับอุณหภูมิอัตโนมัติ

 

 

HELLO ! ได้ไดร์ตัวล่าสุดของทางแบรนด์ PHILIPS

มาทดสอบความ HI-TECH กับ เทคโนโลยีเซนเซอร์วัดความชุ่มชื้นของเส้นผม 

และ ปรับอุณหภูมิอัตโนมัติทำให้ผมไม่เสียความชุ่มชื่นเนื่องจากโดนความร้อนเกินขนาด

เลยมาสภาพผมตอนนี้ ที่หลังจากทำ BRAZILIAN BLOW-OUT 

ไปเดือนกว่าเริ่มกลับสู่สภาพความเป็นจริง คือ เริ่มแห้ง

เพราะสระผมทุกวัน และ มีการว่ายน้ำ แต่ถือว่าอาการยังไหวอยู่

 

 

ผมหมาดที่รอการไดร์ให้แห้ง ระหว่างรอให้หมาดอีกนิดเอิ๊กจะไปเปิดกล่อง

ไดร์เป่าผม  PHILIPS MOISTURE PROTECT กัน เป็นอีกหนึ่งแบรนด์

ที่อยากแนะนำสำหรับผู้หญิงที่รักสุขภาพเส้นผม เอิ๊กลองมา 3 ครั้ง ก่อนมาทำ REVIEW

คือ ลองจับสภาพเส้นผมเองหลังไดร์ ให้คนอื่นจับ เพื่อให้ผลออกมาตรงในแบบฉบับ

ตัวเองมากที่สุด สำหรับไดร์เป่าผมตัวนี้ ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 3,990 บาท

ราคาจะสูงกว่าตัวที่เอิ๊กใช้อยู่ เพราะเทคโนโลยีมันต่างกันเยอะ ตัวนี้จุดเด่นชัดเจน คือ 

เซนเซอร์ที่วัดความชื้นเส้นผม และ มีการปรับอุหภูมิความร้อนอัตโนมัติให้พอดีกับสภาพ

ความชื้นในเส้นผมของเรา เช่น ถ้าผมใกล้แห้ง อุณหภูมิความร้อนก็จะถูกปรับให้ลดลง

โดยที่เราไม่ต้องไปยุ่งกับมัน ผลคือ ผมแห้งเร็ว และ สุขภาพเส้นผมก็ถูกถนอมอย่างดี

 

 

คือ หน้ากล่องเราก็จะเห็นรูปตัวไดร์ทันที ความรู้สึกแรกที่เห็น คือ ดูหรูหรา ดูสวย ดูแพง

ดูน่าถนุถนอม ดูไปดูมาเหมือนเครื่องประดับ ด้วยรูปทรง & สีเมทาลิคแชมเปญ โรสโกลด์ด้วย

ปกติไดร์ที่ใช้อยู่จะมีสีดำ หรือ สีสัน หรือ เวลาไปที่ร้านส่วนมาก ถ้าไดร์คุณภาพหน่อย

การออกแบบอาจจะสีเงิน-แดง ดำ จะเน้นสมบุกสมบันเพราะต้องใช้งานหนักมาก

 

 

ไดร์เป่าผมตัวนี้ CONCEPT คือ ” MOISTURE PROTECT “ หรือ

การปกป้องรักษาความชุ่มชื้นของเส้นผม

: อันนี้จากโบรชัวร์ผลิตภัณฑ์ :

รักษาโมเลกุลน้ำตามธรรมชาติของเส้นผมเพื่อเส้นผมเงางามมีสุขภาพดี มีเซนเซอร์ MoistureProtect ใช้เทคโนโลยีอินฟราเรดเพื่อวินิจฉัยเส้นผมของคุณแล้วปรับอุณหภูมิเพื่อรักษาโมเลกุลน้ำตามธรรมชาติ ด้วยนวัตกรรมเซนเซอร์
ทำให้สามารถรักษาความชุ่มชื้นของเส้นผมได้สูงถึง 65% (วัดหลังทำการเป่าผม 5 นาที 2013)


 

เทคโนโลยี MoistureProtect
• รักษาความชุ่มชื้นได้อย่างสมบูรณ์ด้วยเซนเซอร์ที่เป็นเอกลักษณ์ทรงผมที่จัดแต่งทรงอย่างสวยงาม
• การปรับสภาพเส้นผมด้วยไอออนป้องกันไฟฟ้าสถิตเพื่อเส้นผมเงางาม ไม่ชี้ฟู ติดตั้งง่าย
• การตั้งค่าความเร็วได้หกระดับ และสามารถปรับอุณหภูมิได้เพื่อการควบคุมเต็มรูปแบบ
• ลมเป่าเย็นเพื่อจัดแต่งทรงผม

เทคโนโลยีการดูแลเส้นผม
• การควบคุมความร้อนสมบูรณ์แบบด้วยนวัตกรรมเซนเซอร์
• ปกป้องเส้นผมจากการใช้ความร้อนที่สูงเกินไป

ข้อมูลทางเทคนิค
• แรงดันไฟฟ้า: 220-240 V
• ขนาดวัตต์: 2100-2300 วัตต์
• ความยาวสายไฟ: 2.5 เมตร
• มอเตอร์: DC
• ความเร็วการเป่าผมแห้ง 120 กม./ชม.
• ใช้กับแรงดันไฟฟ้าได้ 2 ระบบ: ไม่มี

เทคโนโลยีการดูแลเส้นผม
• MoistureProtect
• การถนอมดูแลโดยปล่อยประจุไอออน

การบริการ
• รับประกันทั่วโลก 2 ปี

คุณสมบัติ
• ลมเย็นชั่วขณะ
• การตั้งค่าอุณหภูมิ 6 ระดับ

อุปกรณ์เสริม
• หัวเป่าปากแคบ: หัวเป่ากระจายลม


 

 

 สัญลักษณ์ในการดูแลปกป้องเส้นผม และ คุณลักษณะพิเศษตามนี้

 

 

เรามาดูภายในกล่องกัน

 

 
เปิดมาเราจะเห็นตัวไดร์สวยงาม สีขาว – เมทาลิคแชมเปญ ขาวสวยหรูหรา คิดว่าถ้าผู้หญิง
หลายคนเห็นแล้วต้องชอบมันดูมีเสน่ห์ ส่วนตัวรู้สึกเหมือนเครื่องประดับอย่างที่บอก
และ ฝากระดาษสีม่วงครอบอุปกรณ์ที่เหลือ พร้อม CONCEPT ที่ระบุว่า
” MOISTURE PROTECT “
 
 
ภายในจะมีตัวครอบเพื่อเป่าลมทั้งสองแบบ 1. แบบกระจายลม
กับ 2. ควบคุมลมอย่างแม่นยำเพื่อทำให้ผมแห้ง 3. คู่มือ ใบรับประกัน 2 ปี ทั่วโลก
 
 
อุปกรณ์สำคัญโดยรวม ตัวไดร์ และ ตัวครอบเป่าลม 2 หัวสำคัญ
 
 
สีม่วงที่มีการออกแบบให้นำมาแซม เพิ่งรู้ตอนเรียนจิตวิทยา สีที่หรูหราที่สุด คือ สีม่วง
มันทำให้เวลาเราใช้อะไรเกี่ยวกับสีม่วงมันดู Elegance ดูสง่า ดูมีเสน่ห์
 
 
สัญลักษณ์บนไดร์มีหลายตัว แนะนำอ่านคู่มือก่อนใช้งาน หรือ อ่านบล็อคเอิ๊ก อิอิ ก่อนใช้
 
 
หัวปล่อยลมของไดร์ PHILIPS MOISTURE PROTECT
 
 
ด้านหลังเป็นตะแกรง กรองเศษฝุ่น เศษอุปกรณ์ตกแต่งทรงผม เศษผม
 
 
เราสามารถถอดออกมาทำความสะอาดได้ง่ายมาก ๆ
 

 

หน้าตาตัวครอบแบบกระจายลม

 

 
หน้าตาตัวครอบแบบเป่าลมให้แม่นยำขึ้น ใช้เวลาเป่าผมให้แห้งทีละช่อ
หรือเป่าที่แกนม้วนทีละแกน ให้ความร้อนทำให้ผมเป็นลอนได้เช่นกัน ทำบ่อย 🙂
 
 
 
 มาดูเมนูการใช้ไดร์ว่าสัญลักษณ์อะไรหมายถึงอะไรบ้าง  
 
 
 
ถึงเวลาที่จะเป่าผม แต่เอิ๊กจะขอแบ่งผมเป็น 2 ฝั่ง เพื่อสัมผัสผมหลังไดร์
ของเทคโนโลยีถนอมเส้นผมที่ไดร์ PHILIPS MOISTURE PROTECT
มีด้านขวา และ ด้านซ้าย จะเลื่อนระดับ และ เมนูไดร์ที่ต่างกัน 
 
 
เริ่ม
 
 
 
เมื่อใช้มือถือจับเวลาดูประมาณ 3 ครั้งที่ได้ทดสอบ ผมแบ่ง 2 ข้าง เท่าๆกัน 
 

 

ข้างซ้าย คือเป่าเพื่อแห้งจริงจัง แห้งไวมาก ไม่เกิน 4 นาทีสำหรับผมของเอิ๊ก

ข้างขวา ใช้ทุกเทคโนโลยีเมนูที่ช่วยปกป้องความชุ่มชื้นของเส้นผมที่มี อาจจะใช้เวลานานกว่า ประมาณ 5 นาทีกว่าๆ

 

มองด้วยตาเทียบลำบากมาก มองตาเปล่า ทั้งสองข้างไม่ชี้ฟู 
ส่วนตัวก่อนสัมผัสเส้นผมด้านขวา รู้สึกว่าไดร์ได้เรียบกว่า 
ไม่มีการใช้หวีนะคะ คือ สระเสร็จ แล้วลองใช้ไดร์เลยจะดูความลื่น ใช้นิ้วสางเอา 
 
 
ส่วนข้างที่ดูชุ่มชื่นเกิดเงาเยอะกว่า เอิ๊กก็รู้สึกว่าข้างขวาอีกเช่นกัน
แต่สุดท้ายมองตาเปล่าดูลำบาก ด้วยเพราะสภาพเส้นผมของตัวเอิ๊กเอง
พอสัมผัสก็ให้อีกคนสัมผัสแต่ไม่บอกว่าข้างในเราใช้เมนูไดร์อะไร
เพราะไม่อยากคิดเองสรุปคือความให้สัมผัสที่ดีกว่าในเรื่องของความลื่น
เรียงเส้นมากกว่าเล็กน้อย 
 
คราวนี้ลองอีกวิธีให้เห็นภาพชัด คือ ม้วนให้ขึ้นลอนเพื่อดูเงา
 
 
ข้างขวาดูเกิดเงามากกว่าเล็กน้อย แสดงว่ามีความชุ่มชื้นที่ดีกว่า 
 

ลองถือขนาดกล่องใหญ่บนมือให้ดู 

 
ขนาดมือถือไดร์ กับ ฝาครอบเป่าลมแบบแม่นยำประมาณนี้
ปกติไม่ชอบไดร์ผมเลย ขี้เกียจกว่าจะแห้ง
จิตใต้สำนึกโหยหวนอยากมีคนไดร์ให้จังเลยยยยยยยยย 55555
สุดท้ายก็ต้องไดร์เองตลอดเพื่อสุขภาพ  และ สุขภาพหนังศีรษะที่ดี ไม่เป็นเชื้อรา
เมื่อก่อนคือเด็กๆ เปียกแล้วนอนเลย กราบสวัสดีรังแคมาเยือนทันที
 
 
ตัวครอบกระจายลม ขนาดบนมือ ไม่ใหญ่มาก
 
 
 
ซื้อมาอย่าลืมกรอกรายละเอียดการรับประกันด้วยนะคะ
 
สรุปการใช้งานไดร์ PHILIPS MOISTURE PROTECT 
ข้อดี มีเทคโนโลยีถนอมความชุ่มชื่นของเส้นผม ทั้งตัวเซนเซอร์ที่ตรวจจับความชื้นของเส้นผมและปรับความร้อนอัตโนมัต , ปรับพลังงานได้หลายระดับ , ปิดเกล็ดผม , ลดอาการชี้ฟูของเส้นผม , ผมเรียบและสัมผัสลื่นขึ้นกว่าปกติ , BODY สวย หรู ดูแพง จุดนี้ขึ้นกับรสนิยม แต่ส่วนตัวชอบเพราะ สวย ดูสะอาด ดูพรีเมียม , อุปกรณ์ครอบคลุมการไดร์ผมพื้นฐาน , ด้านหลังทำความสะอาดเศษฝุ่น เศษผมง่าย , ผมแห้งไว ในโหมดปกติ ความร้อนดีมากทีเดียว
ข้อด้อย เมนูมันเยอะเหมือนกันส่วนตัว , ใช้เวลาเรียนรู้ความสัญลักษณ์ไฮเทคนิดนึงเพื่อปกป้องผม , สีขาวด้ามจับดูสวยมาก แต่ถ้าใช้งานไปนานๆ ถ้าเรามือเลอะมาจับ ตัวไดร์บริเวณสีขาวก็จะเลอะง่าย ต้องทำความสะอาดด้ามจับด้วย , ราคาสูงกว่าไดร์ที่มีอยู่หลายตัว 555 แต่ด้วยคุณภาพที่ต่าง
 
 
มองผ่านๆ อาจรู้สึกว่าสองฝั่งผมเหมือนกัน แต่ถ้าสัมผัสจะรู้ว่าแตกต่างกันจนรู้สึก
 
 
หวังว่าคงจะได้ประโยชน์ในการเลือกซื้อไดร์ถนอมเส้นผมกันนะคะ
ขอบพระคุณทาง PHILIPS มากที่ให้เอิ๊กได้มีโอกาสทดสอบเทคโนโลยี และ
ทำ REVIEW ให้กับไดร์ตัวนี้
– รัก –

Posted in HAIR, REVIEWComments (0)

advert

Google

erk-erk.com





BEAUTY MENU

มาคุยกับเอิ๊กได้ที่นี่ทุกวัน ถ้าว่างรีบตอบทุกคำถามค่ะ

INSTAGRAM @wwwerkerkcom

[instagram-feed]

ติดตามบล็อค erk-erk.com อย่างใกล้ชิด

เพียงกรอก Email ตรงนี้เลย

LINE @erk-erk

เพิ่มเพื่อน

Related Sites