Archive | BEAUTY

ISKYCENTER สาขา 3 THE COAST บางนา

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

พาทัวร์ ISKYCENTER สาขา 3 THE COAST บางนา ที่เน้นในเรื่องการทำ 

BODY TREATMENT เป็นหลัก ส่วนที่นี่จะมีอะไรบ้างวันนี้เอิ๊กจะพาทัวร์กันค่ะ

ถ้ามาจากรถไฟฟ้าจะง่ายลง BTS บางนา เดินย้อนมาที่ THE COAST และ ISKY หาง่ายมาก

จะอยู่ข้างสำนักงานคอนโด THE COAST เลย ส่วนตัวเอิ๊กว่ามุมนั่งรอของคนไข้อาจจะไม่เยอะ

และ ตอนกลางวันอาจจะร้อนมาก ทั้งพนักงานรวมถึงคนไข้เอง เนื่องจากทางด้านหน้าจะสู้กับ

แสงแดดที่ส่องลงมา

แต่พื้นที่ด้านในค่อนข้างกว้าง และ ลึก มีห้องTREATMENTหลายห้องรองรับคนไข้ที่มา

ใช้บริการได้หลายคนอยู่ ที่นี่ค่อนข้างบรรยากาศดีเงียบ และ สงบมาก ชอบที่อยู่ใกล้

ศูนย์กลางค้า THE COAST บางทีเดินมาทานอาหาร และ เข้าห้องน้ำได้ง่ายเพราะใน

ศูนย์อาจไม่มีห้องน้ำ

ที่นี่พึ่งเปิดตัวได้ไม่นาน ผู้จัดการสาขาแจ้งว่า เฟอร์นิเจอร์กำลังนำมาลงเพื่อรอเปิด

GRAND OPENING อย่างเป็นทางการปลายเดือนมกราคม และ แน่นอนเอิ๊ก

จะไปแสดงความยินดี กับ บ้านหลังที่2 สาขา 3 ของเอิ๊กแน่นอน 55555555555

เขายังไม่เชิญแค่รู้ว่ายังไงก็จะไปเป็นกำลังใจให้ศูนย์ ISKYCENTER ทุกสาขา

ในกรุงเทพเพื่อขอบคุณที่ดูแลเอิ๊กอย่างดีมาตลอด 3 ปีทั้งผิวหน้า รูปร่างรวมถึง

ส่วนเกินต่างๆ กราบขอบพระคุณมากค่ะ

เข้ามาถึงด้านหน้าเวลาเราเดินเข้าไปจะไปกรอกประวัติ หรือ สอบถามค่ารักษา

พยาบาลได้ก่อนล่วงหน้าที่นี่ค่ะ 

มาแล้วกรอกประวัติให้เรียบร้อย ที่ต้องเพิ่มสำหรับสาขานี้ คือ “น้ำหนัก และ ส่วนสูง”

 

ที่นี่จะมี BODY TREATMENT สำหรับการดูแลเรื่องส่วนเกิน ความหย่อนคล้อย ไม่กระชับ

การระบายของเสียของต่อมน้ำเหลือง หรือ อาการบวมน้ำ และ จะมี FACIAL TREATMENT

ที่มีคนใช้บริการเยอะ รวมถึงเลเซอร์แต่อาจต้องมีการนัดหมายก่อนล่วงหน้าสำหรับการ

ทำเลเซอร์ IPL หรือ เทคโนโลยีกระชับเช่น THERMAGE บนใบหน้า ฯลฯ

 ที่นี่จะมีจ่ายยาสำหรับผิวหนังปกตินะคะ แต่จะไม่มีครีมบำรุงผิวที่ปรุงสดพิเศษตามสภาพผิ

เหมือนว่าอนาคตอันใกล้มาก จะเป็นเรื่องของการทำระบบ NUTRITION จัดหมวดหมู่

สารอาหารที่เหมาะสมให้กับร่างกายเพื่อดูแลรูปร่างคุณหมอที่เอิ๊กอยากแนะนำให้พบ

เจอที่สุดที่ศูนย์นี้ในเรื่องแรงบันดาลใจการดูแลสุขภาพ คนแรกฝ่ายหญิง คุณหมอนุสรา

และ อีกท่าน คุณหมอ วรพงษ์ หรือ ศาสตราจารย์วรพงษ์ แต่เอิ๊กไม่แน่ใจว่าสองท่านเข้า

ที่นี่ไหม อาจจะต้องโทรสอบถามเพิ่มเติม เพราะทั้งสองท่านเอิ๊กได้รู้จักในอีกมุมในการ

ดูแลรูปร่าง และ สุขภาพตัวเอง เพราะคุณหมอสองคนชอบออกกำลังกาย ส่วนคุณหมอ

นุสรา ต้องให้นิยามว่า เป๊ะมากกกกกกกกก ดูแลอาหารการทาน + วินัยการ

ออกกำลังกาย ส่วนเรื่องเทคโนโลยีแน่นอนนาทีนี้ไม่มีใครเกิน รองศาสตราจารย์

รังสิมา เพราะว่าเธอลองเองมาทุกเทคโนโลยีก็จะทราบข้อดีข้อด้อยของแต่ละตัว

แบบลึกซึ้งมาก

หลังจากที่กรอกประวัติ เราก็จะถูกเรียกมาห้อง CONSULTATION ROOM มาพบ

แพทย์เพื่อที่แพทย์จะสอบถาม ถึงปัญหา และ การดำเนินชีวิตประจำวันเพื่อที่จะวางแผน

และ จัด TREATMENT ที่เหมาะสมให้ หรือ มาพบเพื่อปัญหาผิวหนัง เลเซอร์ก็ห้องนี้

เช่นกันค่ะ เนื่องจากเอิ๊กหามาทุกอย่างที่ตัวเองกังวล

ส่วนใหญ่เอิ๊กก็จะพบและให้แพทย์

ดูความคืบหน้าของ TREATMENT ที่เคยทำ หรือ ปัญหาผิวที่เกิด ส่วนใหญ่ สิว

รอยสิว ฝ้า มีแค่นั้นวนไปวนมา ถ้าส่วนรูปร่าง มีปัญหาหุ่นลูกแพร์ ก็จะให้คุณหมอ

ดูแลช่วงร่างให้สวยในสรีระที่เราทำได้ เพราะเราไม่สวย และ หุ่นช่วงล่างอวบมาก่อน

การตกแต่งเหมือน 2 สาขาแรกเลยโทนฟ้าขาวสว่าง โล่ง สบายตา และ

มีสีแดงเล็กๆ ที่โลโก้ป้ายไฟหน้าห้อง TREATMENT ทุกห้อง

ถ้าใครมีการทำอะไรบนใบหน้า หรือ ต้องล้างหน้าก็ต้องเชิญห้อง MAKEUP ROOM

อยากแนะนำให้เพิ่มไดร์ และ หวีเหมือนบางที และ อาจมีแป้งเด็กด้วย อิอิ เพราะบางที

ใส่หมวกคลุมผม ถอดออกจะไม่ได้ทรงเดิม มันเศร้ามาก จะได้ว่าศูนย์เลเซอร์ที่เกาหลีจะมีหวี

และ แป้งด้วย ^^

ที่นี่มีพิเศษคือ การเก็บภาพก่อนหลัง การทำเทคโนโลยีทุกตัวที่เกี่ยวกับ BODY

ถ้าใครทำเกี่ยวกับหน้า และ อยากถ่ายก็สามารถแจ้งได้ค่ะ จำเป็นมาก

เพื่อดูการเปลี่ยนแปลง

จะถ่ายทุกมุม 360 องศา บนพื้นหลังสีเดียวกัน มีการช่างน้ำหนักด้วย

และ คนไข้ในวันนี้จะเป็นใครไปไม่ได้ หลังจากดูแลผิวหน้าสาขาชิดลม และ หนองแขม

ก็เดินทางมาถึง ISKYCENTER สาขา 3 ต้องขอใช้บริการ BODY ซะหน่อย เห็นต้นขา

ของฉันไหม ……….. ผู้จัดการสาขานี้สวยเข้ม เฮฮา คุยสนุก 55555 คุณดาวจะดูแลเอิ๊ก

ตลอดเวลาเอิ๊กไป เพราะเอิ๊กจะเยอะ 555555 เยอะในเรื่องชอบถาม มีคำถามเยอะ

จำไมตลอดเวลา ดังนั้นคนตอบคำถามได้ดีสุดรองจากแพทย์ คือ ผู้จัดการสาขานะคะ

ก็ผลัดกันแลกเปลี่ยนข้อมูล เอิ๊กจะทำเทคโนโลยี ZELTIQ มาบ่อยมาก ซึ่งแพงและได้

ผลจริงในการฆ่าเซลล์ไขมันส่วนเกินสำหรับคนผอม หรือ อวบ แต่อ้วนอาจจะไม่เหมาะ

คุณดาวก็พึ่งลองเทคโนโลยี ULTRASONIC ไป ก็จะผลัดกันเล่าความเจ็บ และ เทียบ

ผลกัน เทคโนโลยีเลเซอร์ค่อนข้างแพงสำหรับ BODY หรือ แม้แต่ FACIAL เองในการ

เห็นผล แต่ที่แน่ๆ มีงานวิจัยรองรับทุกตัวที่เอิ๊กทำในเรื่องของผลลัพธ์ และ ไม่ใช่ทำจบ

ต้องดูแลตัวเองไปอีกตลอดชีวิตในเรื่องอาหาร และ ออกกำลังกายเพื่อสุขภาพค่ะ

 

ตัวอย่างห้อง BODY TREATMENT : MED2 เทคโนโลยีกระชับรูปร่างที่เอิ๊กเคยลอง

ผลซึ่งเห็นเลยทันทีหลังทำ เหมาะสำหรับคนน้ำเหลืองไม่ค่อยดี บวมน้ำช่วยให้ระบบภายใน

ไหลเวียนดีขึ้น แต่ถ้าให้กระชับ และ ไขมันมีขนาดเล็กลง 4-6 ครั้งน่าจะเห็นผล

ตัวนี้เสริทหาผลลัพธ์ใน GOOGLE ได้ค่ะ เคยลอง 3-4 ครั้ง แต่ก็คิดว่า

ชอบตัวอื่นที่ฆ่าไขมันไปเลยมากกว่า 55555 สำหรับเซลล์ลูไลท์ หน้าท้องย้วย

เครื่องนี้จัดการดีค่ะ

ตัวอย่างอีกห้อง กับเทคโนโลยี ULTRASOUND ฆ่าไขมันตัวล่าสุด ที่ปล่อยความร้อน

เป็นส่วน โดยมีงานวิจัยที่พุง 1 ครั้ง 1 นิ้ว แต่ก็มีข้อจำกัดสำหรับคนที่ชั้นไขมันต้องบีบออกมา

หนา 1 นิ้ว และ ไม่อ้วนนะจ๊ะ เอาไปว่าอ้วนมาก ออกกำลังกาย คุมอาหารให้ลงจนเหลือ

ส่วนเกิน ค่อยพึ่งเทคโนโลยี พูดจริงจัง จะได้ไม่เสียตังค์โดยใช่เหตุนะคะ เจ็บมากนะตัวนี้

ช้ำนานอยู่เป็นอาทิตย์ ข้อดีไม่มีแผลผ่าตัด แต่เอิ๊กไม่ลองเด็ดขาด ทนเจ็บไม่ไหว 😛

TRI LIPO : ใครแก้มเยอะ ไม่ชอบฉีดสารโดยที่ยังไม่ผ่านอย. อัญเชิญตัวนี้ ทำหลายครั้งอยู่

แต่ข้อดีที่ต่างคือ แก้ม และ หน้ากระชับ เพราะความร้อนไปกระตุ้นคอลลาเจน เอิ๊กลอง 2 ครั้ง

แต่ตัวเองมีปัญหาอาการบวมน้ำนี่สิ เลยคิดว่านวดหน้าด้วยเครื่องที่บ้านดีกวา

ปัญหามันอยู่ที่ร่างกายเราด้วยที่ระบบไหลเวียนของเหลวเราไม่ค่อย WORK ดังนั้น

เทคโนโลยีพวกฆ่าไขมัน กระชับอะไรถึงได้ผลบ้างบางวัน ไม่ได้บ้างบางวันเพราะตัวเราเอง

ส่วนเครื่องนี้เครื่องใหม่ ไม่เคยได้ทดสอบ ช่วยเรื่องการไหลเวียนของเหลวในร่างกาย

คุณหมอบอกว่ามาลองไหม ต้องใส่ชุดอวกาศ อิอิ แต่ทำหลายครั้งหน่อยก็อาจจะขอ

ศึกษาหลักการก่อน 🙂 ก็ทั้งหมดเป็นแค่เครื่องบางส่วนที่ไม่รวม FACIAL TREATMENT

พระเอกของที่นี่สำหรับเอิ๊ก คือ เจ้านี้ ตัววัดดัชนีมวลร่างกายที่แท้จริง เคยได้ยินไหม BMI วัดค่าหามวลไขมัน กล้ามเนื้อ น้ำในร่างกายที่ทุกสถาบันในการดูแลรูปร่างควรแสดงความรับผิดชอบแต่แรก โดยการมีเจ้านี่ในสถาบัน เพื่อแสดงความจริงใจ ซื่อสัตย์ และ จำเป็นต่อคนไข้ บางคนอ้วนไขมันจริงไหม หรือ หนักกล้ามเนื้อ หรือ บางคนหนักน้ำในร่างกายเครื่องมือนี้สำคัญมาก โดยจะวัดความหนาแน่นโดยความต่างศักย์กระแสไฟฟ้าทั่วร่างกาย โดยมีการหนีบขั้วแม่เหล็กที่มือ และ เท้า

 

 

ต่างจากเครื่องที่เราไปยืนชั่งแน่นอนให้ความแม่นยำค่อนข้างสูง แต่อาจจะต้องปัสสาวะ

ให้เรียบร้อยซักพัก และ อย่าพึ่งดื่มน้ำก่อนมาวัด ราคาเครื่องนี้ เกือบแสนห้า O.o แอบมา

สืบราคาตกใจตัวจิ๋วเดี๋ยว ราคาอลังมาก คุณภาพน้องเขาแน่น 5555

ผลก็จะออกมา เพื่อนำไปให้แพทย์เป็นคนอ่านให้ฟังนะคะ อยากดูของเอิ๊กไหม อย่างที่คิดเลย

และ รองศาสตราจารย์รังสิมา แพทย์ประจำวันก็อ่านค่าให้เอิ๊กฟัง ซึ่งผลเป็นไปตามที่เรา

เคยสงสัยกัน ในเรื่องการระบายน้ำหรือของเหลวในร่างกายของเอิ๊ก “ไม่ดี” ทำให้บางวัน

หน้าหด หน้าอ้วน ระหว่างวัน ขาเล็ก ขาใหญ่ระหว่างวัน ทางแก้ถาวรยังไม่มี เทคโนโลยี

ก็อาจจะต้องลองดูแต่ก็อยู่ได้เป็นระยะ กรณีนี้เพื่อให้เลือกเทคโนโลยีให้เหมาะสม

ซึ่งบางคนอาจไม่ต้องทำอะไรเลยก็ได้ อย่างเอิ๊กอาจจะลองเทคโนโลยีบางตัวเพื่อให้

ระบบการไหลเวียนของเหลว ระบายดีขึ้นแต่ก็ทำหลายครั้ง เอิ๊กอาจจะตัดสินใจไม่ทำ

ก็ได้ แล้วไปเลือกวิธีบีบนวด และ ออกกำลังกายเอา

มากกว่านั้นก็เป็นเรื่องของพลังงานอาหารที่เราควรทานในวันปกติ หรือ วันที่ไม่ได้

ใช้แรง เพื่อวางแผนในการคุมอาหารในบางคน ถ้าตั้งใจลด ก็ต้องเอาพลังงานออก

เท่าไหร่ต่อวันก็ว่าไป ต้องทานน้อยแค่ไหนก็ว่าไป และ ยังบอกได้ถึงระบบการเผาผลาญ

บางคนเข้าใจว่าระบบการเผาผลาญต่ำ แท้จริงก็ปกติเพียงแต่เห็นคนทานเท่าไหร่ไม่อ้วน

ก็เอามาเทียบกับตัวเอง บางคนอาจจะเป็นไทรอยด์บางชนิดมาเช็คระบบการ

เผาผลาญต่ำจริงๆ เขาก็ต้องวางแผนการทานอาหารควบคู่ไปด้วย จุดนี้สำคัญบอกเลย

เอิ๊กหุ่นลูกแพร ไขมันน้อย กล้ามเนื้อน้อยจริง จนคุณหมอไม่อยากให้ทำอะไรแล้วแต่เอิ๊ก

เดินทางปั้นรูปร่างตัวเองมาจนใกล้นาฬิกาทรายมากกจนอยากเดินต่อให้สุด แน่นอน

เหลือช่วงล่างทำ ZELTIQ ไป อย่างที่เอิ๊กเคยบอก และ เอิ๊กมั่นใจว่าเขียนคนแรกในไทย

ว่าโครงสร้างร่างกายของเราเปลี่ยนได้ด้วยอะไรบ้างลองอ่านดูค่ะ

CLICK

คุณหมอวางแผ่นเจล แล้วนำหัวที่เหมาะสมมาวาง ใครจะทำต้นขาบอกเลยรอต้นปีหน้า

มีหัวที่ออกแบบมามีความยาวเหมาะสมที่นี่ที่แรกในประเทศไทยแน่นอนกล้าการันตี

เพราะที่นี่มีผู้หญิงคนนี้ที่ทำงานวิจัยตัวนี้อย่างจริงจังและคิดว่ากำลังจะส่งเพื่อเข้า

ตีพิมพ์บทความวิจัยในวารสารวิชาการระดับชาติและระดับนานาชาติเร็วๆนี้

อยากบอกว่าคุณหมอเป็นยอดหมอ เป็นอาจารย์ เป็นรองศาสตราจารย์ไฟแรงสูง

ตลอดเวลาเป็นไอดอลในการทำงานของเอิ๊ก และในการใช้ชีวิตรับใช้สังคม

ใครจะรู้บ้างว่าคุณหมอชอบช่วยคนไข้มะเร็งผิวหนัง แกถนัดผ่าตัดด้วย

และ เลเซอร์รักษาคนไข้เด็กปานโอตะแต่กำเนิดที่ไม่มีเงินรักษาที่รพ. ศิริราช

ถ้าใครรู้จักแกจะบอกว่าแกเป็นคน ACTIVE มาก ขยัน และ ชอบเรียนรู้

และ เดินทางบรรยายในหลายประเทศต่อเดือนแก่แพทย์ชาวต่างชาติ โดยมี

สไลด์บรรยายเป็นผลงานคนไข้ในงานวิจัยต่างๆของแกเอง ชอบขอแกดูเพราะ

เป็นคนไข้เป็นคนไทย เห็นแล้วจะมโนภาพตัวเองได้หากมีปัญหาใกล้เคียงกัน

แล้วคุณหมอก็สอนหนังสือข้างเตียงตามเคย เพราะเอิ๊กคือบล็อคเกอร์ขี้สงสัย 55555555

คุณหมอจะชอบพูดเล่นเสมอ รักษาคนไข้เจ็บ แต่คนไข้ก็ยิ้มและยกมือไหว้ตลอดเวลา 😀

เอิ๊กยิ้มไม่ออกหน้าเบ๊ 555 ก็ยกมือไหว้ขอบพระคุณคุณหมอที่รังสรรค์ความงามให้

ตอนนี้ ZELTIQ มีหัวสำหรับพุง แขน แต่สามารถนำมาวางกับขาได้บางจุด

แต่หัวจะออกมาใหม่สำหรับขาเลย แต่ถ้ารอบหน้าเอิ๊กขอคิดดูก่อนนะคะ เพราะรอบนี้ใกล้

กระดูกเจ็บระบมตรมตรอมไปข้างละ 1 ชั่วโมงเต็ม 555 และทุกอย่างก็กลับสู่ปกติไม่มีใครรู้

รอผล 3 เดือน เดี๋ยวเราจะกลับไปถ่ายรูป AFTER อีกครั้ง สำหรับไขมันที่ตายไป20-25%

ประเด็นตอนนี้คือ ทำยังไงกับอาการระบายของเหลวในร่างกายได้บ้างนอกจาก

ออกกำลังกาย และ รู้แล้วว่าถ้าอยากน้ำหนักน้อยควรทานแค่กี่ แคลอรี่ ต่อวัน

เปิดโลกพีรญาอีกแล้ว 26 ปีไม่เคยรู้มาก่อน แค่เดา และ พูดให้คนอื่นฟังว่า

ตัวเองเป็นคนบวมน้ำวันนี้สรุปแล้วว่า “จริง” แง แง แง แง แง แง แง

ขอบพระคุณทุกท่าน ณ ISKYCENTER ที่ดูแลเอิ๊กในวันนี้

ไว้เอิ๊กพามาทัวร์อีกรอบถ้าที่นี่เสร็จสมบูรณ์นะคะลากันไปด้วยบรรยากาศ

ยามค่ำคืน เอิ๊กมาที่นี่ที่ไหร่ไม่เคยต่ำกว่า 3-5 ชั่วโมง ตอบไม่ได้ว่าทำไม

หรือ เพราะคำถามที่ไม่มีที่สิ้นสุดของตัวเอง และ คำตอบที่ได้เยอะไม่สิ้นสุดเช่นกัน

XOXO

INFO

www.iskycenter.com

www.facebook.com/iskycenter

Posted in BEAUTY TECHNOLOGY, LASER, RADIO FREQUENCYComments (0)

REVIEW & HOW TO : SATINIQUE ผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพเส้นผมจาก AMWAY

” นิยามของผมที่มีสุขภาพดี จะมีน้ำหนัก อ่อน นุ่มสลวย

เงางามเป็นประกาย  จัดทรงง่าย “

เส้นผมที่งอกยาวออกมาคลุมศีรษะ คือ เซลล์ที่ตายแล้ว

อายุเส้นผมเฉลี่ยต่อเส้นประมาณ 36 เดือน หรือ 3 ปี

และ ต่อมรากผมจะลดจำนวนลงเมื่ออายุมากขึ้น

♥ บางคนตกใจผมที่เคยสวยเจอเคมีมากเสียแล้วเสียเลย

♥ บางคนตกใจมีอายุมากขึ้นผมบาง

♥ บางคนตกใจทุกวันผมร่วงตลอด

ข้อความข้างต้นคร่าวๆ คือ ความจริงที่เกี่ยวกับเส้นผมนะคะ ที่หลายคนต้องทำความเข้าใจไว้เพื่อที่จะได้ทราบว่า

ตัวเองมีปัญหาตรงจุดไหน ส่วนไหนเป็นธรรมชาติของเส้นผม ส่วนไหนที่เราสามารถที่จะบำรุงเพิ่ม และแก้ไข

เส้นผมเรามีสุขภาพที่ดีขึ้นได้ ทั้งที่ยังมีปัจจัยอีกมากที่มีผลต่อสุขภาพเส้นผมของเรา ทุกคนก็ต้องทำความเข้าใจ

ตรงจุดนี้ด้วย .. จะได้ไม่ตกใจ และ แก้ไขก่อนเกิดปัญหา 🙂

ดูแลผมยังไงดีให้มีสุขภาพที่ดีขึ้น หรือ ดีอยู่แล้วก็ดียิ่งขึ้นไปอีก

  1. ใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับสภาพเส้นผม และ  เส้นผมมีทั้ง แห้ง มัน ธรรมดา เหมือนผิวหน้าเลยต้องดูแลให้เหมาะกับสภาพเส้นผม ปัญหาเส้นผม หนังศีรษะ บางคนโชคดีสภาพผมธรรมดา หนังศีรษะก็ไม่มันไม่แห้ง เส้นผมชุ่มชื่น ดูแลง่าย ส่วนบางคนก็อาจต้องมีการดูแลแยก เช่น ถ้าหนังศีรษะมัน แต่ เส้นผมอาจจะแห้งก็ได้ บางครั้งก็อาจต้องดูถึงค่าความเป็นด่างสมดุล PH BALANCE เช่น ทรีทเมนท์ หรือ ครีมนวด จะทำให้ผมชุ่มชื่นขึ้น
  2. นวดหนังศีรษะเวลาสระผม ด้วยอุ้งนิ้วมือ ไม่เกาเพราะเดี๋ยวจะเป็นแผล การนวดเลือดไหลเวียน และน้ำมันตามธรรมชาติเคลือบดูเลี้ยงเส้นผมได้ดีขึ้น
  3. ไม่หวีผมตอนเปียก ถ้าหวีควรใช้หวีซี่ห่าง [มาก] จะลดการขาด และ ร่วงของผม
  4. ใช้ผลิตภัณฑ์ปกป้องความร้อน เวลาไดร์ผม หนีบผม ก็ช่วยลดการเสียของเส้นผมได้ระดับนึง
  5. ไดร์หรือเป่าผม ควรเป่าจากบนลงล่าง ด้านบนอาจจะเป่าแบบร้อน ส่วนเส้นผม ปลายผมเป่าด้วยไดร์เย็น เกล็ดผมจะเรียงตัว ทำให้ผมเงา ไม่ชี้ฟู
  6. ทานอาหารบำรุง เน้นพวกวิตามินบี ผัก ผมไม้ ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอ
  7. ไม่ตากแดดจัด ถ้าออกแดดให้กางร่ม หรือ สวมหมวกทุกครั้ง
  8. ใช้เคมีเท่าที่จำเป็น และ ทิ้งช่วงให้ผมได้พักบ้าง บางคนดัด ย้อม ในเวลาเดียวกัน ผมเสียสุดๆ จะฟื้นบำรุงยากมาก
 ปัจจัยอะไรบ้างที่มีผลต่อการมีสุขภาพผมที่ดี
  1. โครงสร้างเส้นผมตามธรรมชาติ เช่น เม็ดสีผม โครงสร้าง ผมตรง ผมหยักโศก ผมหยิก
  2. ฮอร์โมน เช่น ฮอร์โมนจากต่อมไทรอยด์ทำให้ผมงอกเร็ว สเตียรอยด์ฮอร์โมนยับยั้งการงอกของผม
  3. อาหาร เช่น วิตามินบี ทำให้เส้นผมเจริญเติบโต วิตามินเอถ้าทานมาผมจะงอกช้า
  4. อากาศ มลภาวะ มีผลโดยตรงกับสภาพเส้นผม สังเกตุหลังสระผมแล้วไปโดนควัน ผมจะแห้ง กระด้าง
  5. สภาพบางอย่างของโรค เช่น การขาดโปรตีน ผมเปราะบาง ขาด,ร่วงง่าย  
  6. สารเคมี ไดร์ ยืด ดัด ย้อม ความร้อน การใช้ผลิตภัณฑ์ที่รุนแรงกับหนังศีรษะ และ เส้นผม
  7. ผมแตกปลาย และ ไม่ยอมเล็มทิ้ง หวังว่าจะมีอะไรทำให้ผมหายแตกปลายได้ คำตอบคือ ไม่มี
  8. หวีผมตอนผมเปียก ผมจะขาดและร่วงง่ายมาก
  9. นอนทั้งที่ผมไม่แห้ง เป็นการมาของเชื้อรา รังแค ทำให้บุคลิกเสีย
  10. โดนแสงแดดจัด มีผลทั้งสุขภาพเส้นผม และ การเปลี่ยนไปของเม็ดสีผม

เส้นผมมี 4 ชั้น

ผิวนอก เนื้อผม แกนผม รากผม

 


1.  ผิวนอก [Cuticle]  ชั้นนอกของเส้นผม โปร่งแสงไม่มีสี เป็นเกล็ดใสเรียงซ้อนกันเหมือนเกล็ดปลา เรียกว่า keratinized cell ล้อมรอบเส้นผม ส่วนประสำคัญของชั้นนอกจะมีคีราตินชนิดแข็ง (hard keratin)เป็นส่วนใหญ่ ่ทำให้เส้นผมแข็งแรง ป้องกันการซึมผ่านของสิ่งสกปรกที่จะเข้าไปทำลายเส้นผม และปกป้องชั้นเนื้อผม ไม่ให้สูญเสีย ความชุ่มชื้น, เม็ดสี, น้ำมันตามธรรมชาติ ทำให้ผมดูเป็นเงา

 

เกล็ดผมปิดเรียงตัวสวย vs เกล็ดผมเปิดเรียงตัวไม่เป็นระเบียบ

ผมที่สุขภาพดี : เกล็ดผมจะปิดและเรียงตัวกันดี แต่ผมที่เริ่มแห้งเสีย หรือ เสียอย่างหนัก เกล็ดผมจะฉีกขาด แล ะไม่สามารถเรียงตัวปิดได้ ทำให้เกล็ดผมไม่สามารถปกป้องความชุ่มชื้นภายใน และ จะทำให้แห้งเสียมากขึ้นหากไม่มีการบำรุง

เกล็ดผมจะเปิดก็ต่อเมื่อ :
  • โดนความร้อน
  • ความชื้นจากธรรมชาติ
  • ความชื้นจากเคมีบางตัว

2.เนื้อผม [Cortex]  ชั้นที่หนาที่สุด ประกอบด้วยเซลล์เส้นใยเรียงอัดกันแน่นตามยาว เป็นแหล่งรวม ของเม็ดสี [ตัวกำหนดสีผม] มีช่องอากาศ โปรตีน เคราติน และเส้นใยโปรตีน เป็นส่วนกำหนดโครงสร้างตามธรรมชาติ ทำให้ผมมีความนิ่ม ยืดหยุ่น

 

3.แกนผม [Medulla]  เกิดจากโปรตีน และไขมัน ผมที่มีสภาพแข็งแรงจะพบแกนผม ผมเส้นเล็กมักไม่มีแกนผม

 

4. รากผม [har root] ฝังในเนื้อเยื่อหนังศรีษะ เรียกว่า ต่อมรากผม[hair follicle] และต่อมรากผมแต่ละต่อมจะมีปุ่มปลายแหลม 1 อัน [papilla] และมีต่อมผลิตน้ำมัน [sebaceous gland] ปุ่มนี้มีความสำคัญมากต่อการเจริญเติบโตของเส้นผมเพราะมีเลือดและเส้นประสาทมาเลี้ยง ทำให้เซลล์์รากผมแบ่งตัว และ เกิดเซลล์ใหม่ของผมขึ้นเรื่อยๆ คนที่หัวล้านสาเหตุ คือ เซลล์ของปุ่มปลาย แหลมนี้ตายหรือฝ่อ ผมจะขาดอาหาร หลุดร่วง จึงไม่มีการงอกใหม่ และ ต่อมน้ำมัน สร้างน้ำมันออกมาหล่อลื่นทำให้เส้นผมอ่อนนุ่ม มันเงาคนที่ผมแห้งเพราะต่อมน้ำมันสร้างน้ำมันออกมาน้อยเกินไป ตรงกันข้ามถ้าต่อมน้ำมันทำงานมากเกินไป จะทำให้เส้นผมมัน

ไม่ค่อยได้เขียนเรื่องผมจริงจัง แต่ตอนนี้ผมเสียจากการทำสี และ ยืดอย่างเป็นทางการ 55555555

ประกอบกับมีผู้สนับสนุนส่งผลิตภัณฑ์ดูเส้นผมที่ถูกทำลายจนมีสุขภาพที่แย่ลง หรือ ขาดการบำรุง

มาให้ทดสอบ ก่อนหน้านี้มีหลายชั่ววูบมาก อยากตัดผมที่แตกปลาย และ ขาดง่ายออกจากการ

ยืดร้านที่ใช้น้ำยาที่ทำร้ายเส้นผมเรามาก ประกอบกับความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ในการหาความรู้เรื่อง

น้ำยายืดโครงสร้างเส้นผมก่อนหน้านั้น ทำให้ผมเอิ๊กเสีย และ สุขภาพแย่มากกว่าครึ่งศีรษะ ขาด

แบบว่าง่ายสุดๆ มันไม่หลุดทั้งราก แต่ขาดได้ตั้งแต่ ช่วงต้น กลาง ปลาย ส่งผม ให้มีผมเกิดใหม่

เป็นจำนวนมาก ข้อดี อายุเราไม่เยอะ ผมเรางอกง่าย โตไว แต่ผมเอิ๊กถ้าส่องแสง จะมีหลายชั้น

จะตัดก็เสียดาย อุตส่าห์ไว้มาตั้งนาน ผมยาวก็ทำได้ทรง และ เรามั่นใจว่าผมยาวเข้ากับรูปหน้า

เราได้มากกว่า เลยสองจิตสองใจ ผมแบบไร้ซึ่งน้ำหนัก ฟู ถ้าส่องใกล้ๆ ปลายนี่น่าสงสารสุดๆ

ขนาดเล็มไปบ่อยมาก มันก็ยังไม่หมด อย่างว่า ของเก่าที่เคยไว้ยาว เสียหายหมดเลย บทเรียน

ราคาแพง จำไว้ดีดีนะคะสาวๆ จะทำอะไรที่เป็นเคมีกับเส้นผมต้องคิดให้เยอะ

ผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการของเราวันนี้เป็นแบรนด์ SATINIQUE ซาทินิค

เปิดตัววางขายไปตั้งแต่ 29 ตุลาคม 2556 ที่ผ่านมาทุกสูตรเลยค่ะ ในตอนแรกที่ฟังนั้น

ชื่อแบรนด์ไม่คุ้มเคย จนกระทั่งทราบว่าเป็นแบรนด์นึงในเครือ AMWAY ซึ่งหลายคน

ทราบถึงชื่อเสียง ประวัติที่มีมายาวนาน และ คุณภาพกันดีอยู่แล้ว ผลิตภัณฑ์ดูแล

เส้นผม SATINIQUE ก็เป็นอีกแบรนด์ที่เอิ๊กได้มาทดสอบกันในช่วงนี้ ก็จะมีหลายสูตร

ตามสภาพเส้นผมและ มีทั้งของผู้หญิง ผู้ชาย

แบรนด์ SATINIQUE เขาบอกว่าเน้นดูแลทั้งด้านสุขภาพ ความงาม และเส้นผม 3 อย่างรวมเข้าด้วยกัน

จึงสร้างสรรค์จนเป็นนวัตกรรมใหม่สำหรับส่วนผสมที่จำเป็นและสำคัญ เพื่อสุขภาพผมที่ดี

จุดเด่น : คือ เอนเนอร์จูฟTM  เป็นสิทธิบัตรสูตรเฉพาะของแบรนด์ SATINIQUE หลักที่สำคัญจะประกอบด้วย สารพลังประจุบวกของลิพิด (ไขมัน) กับ ครีเอทิน ที่ช่วยกันเสริมประสิทธิภาพความแข็งแรงให้กับเส้นผม ทำให้เส้นผมมีสุขภาพดีขึ้น และมีกรดไขมัน 18-เอ็มอีเอ ที่ให้ความเรียบลื่นแก่เส้นผม รวมถึงเทคโนโลยีการผลิต

 

ก่อนใช้ vs หลังใช้

การทำงานของ เอนเนอร์จูฟTM

ก่อนใช้ :  ผมที่ถูกทำร้าย ทำให้ลิพิดในเส้นผมลดลง เส้นผมอ่อนแอ ไม่ค่อยเห็นแสงเรืองรองสะท้อนจากเส้นผม

หลังใช้ : เส้นผมเดียวกัน เอนเนอร์จูฟจะซึมผ่านเข้าเนื้อผม[cortex] เพื่อเพิ่มความเงางามมีประกาย สุขภาพผมดี

และแข็งแรง จนเห็นเป็นแสงเรืองรองสะท้อนอย่างชัดเจน

ก่อนใช้ vs หลังใช้

                                                  ก่อนใช้ : เส้นผมถูกทำลายจากความร้อนและการทำสี

                                                  หลังใช้ : ผมเสียที่ได้รับการดูแลด้วยเอนเนอร์จูฟเพียงหนึ่งครั้ง เส้นผมเรียบลื่นและแข็งแรงขึ้น

เอิ๊กลองสูตรนี้ SATINIQUE GLOSSY REPAIR ทั้งตัว SHAMPOO & CONDITIONER และมาส์ค

SATINIQUE REVITALIZING MASK ทั้ง3ผลิตภัณฑ์นี้ สำหรับDAMAGED, COLOR-TREATED HAIR

หรือ สภาพเส้นผมที่เสีย-เสียมาก และ ผ่านการทำสี ไม่แน่ใจว่ารู้ได้อย่างไรว่าเอิ๊กประสบปัญหาแก้ไม่ตกเรื่องนี้อยู่

มาดูคำโปรยของ SATINIQUE กันก่อนเข้าสู่ REVIEW ตามการใช้และผลลัพธ์จริง 

SATINIQUE GLOSSY REPAIR : SHAMPOO & CONDITIONER

ซาทินิค กลอสซี่ รีแพร์ สูตรปราศจากสารซัลเฟต ฟื้นบำรุงผมเสียและผมทำสีให้สุขภาพผมดี เงางาม  พร้อมมอบสีผมเด่นชัด ลดการซีดจางของสีผม โดดเด่นด้วยการปลดปล่อยพลังเอนเนอร์จูฟ™ ที่ได้รับสิทธิบัตรเฉพาะของซาทินิค  ประกอบด้วยสารบำรุงประจุบวก ที่ช่วยให้เส้นผมสวยมีชีวิตชีวาและเสริมประสิทธิภาพความแข็งแรงให้แก่เส้นผมจากโคนจรดปลาย  พร้อมสารสกัดจากทับทิมและเมล็ดองุ่น ช่วยบำรุงให้สุขภาพเส้นผมแข็งแรง ฟื้นสภาพเส้นผมให้กลับมีชีวิตชีวา

 

 

 

SATINIQUE REVITALIZING MASK

ซาทินิค รีไวทัลไลซิ่ง มาส์ค ช่วยบำรุงให้สุขภาพผมดี แข็งแรงขึ้นถึง 6 เท่า* ฟื้นบำรุงและป้องกันผมแตกปลาย พร้อมปกป้องเส้นผมจากความเสียหายที่จะเกิดขึ้น  โดดเด่นด้วยการปลดปล่อยพลังเอนเนอร์จูฟ™ ที่ได้รับสิทธิบัตรเฉพาะของซาทินิค  ประกอบด้วยสารบำรุงประจุบวก ที่ช่วยให้เส้นผมสวยมีชีวิตชีวาและเสริมประสิทธิภาพความแข็งแรงให้แก่เส้นผมจากโคนจรดปลาย  พร้อมสารสกัดจากเมล็ดองุ่นและน้ำมันเมล็ดคูคุย ช่วยปกป้องผมจากมลภาวะและดูแลให้เส้นผมสุขภาพดีและชุ่มชื้น

*เมื่อใช้รีไวทัลไลซิ่ง มาส์ค ร่วมกับชุดผลิตภัณฑ์แชมพู คอนดิชันเนอร์

เข้าสู่ช่วง HOW TO และ REVIEW ทั้ง 3 ตัวนี้ของเรากัน

ก่อนหน้านี้เอิ๊กมา WORKSHOP ที่โรงแรงโหมดสาธรเลยอยากลองมาพักดู เลยพาน้องสาวมานอนด้วยกันที่นี่เลย

ถ่ายรีวิวชิ้นนี้กับอย่างสนุกสนาน ฟองฟอด บ้านไม่มีอ่าง เลย สนุกสนาน แช่กันตัวเปื่อยเลย ทำรีวิว + ฮาวทูไปด้วย

เพื่อแชร์ให้เห็นว่าเอิ๊กสระผม และ มีวิธีการดูแลเส้นผมยังไงบ้าง หลังจากที่ผมเสีย และ ทำสีไป ก็ดูแลมาตลอดแต่

ผมคือเซลล์ที่ตายแล้ว และ โดนทำร้ายอย่างหนักมาก ก็ดีขึ้นบ้าง แต่บางวันก็แห้งมาก เพราะต้องไปถ่ายรายการ

ผมแห้งไม่ทัน และ ต้องทำผมที่กอง ก็มีทั้งขาด เป่า และ โดนความร้อนจากอุปกรณ์ทำผมบ่อยครั้ง ตั้งแต่ตอนนี้ไป

จะพกสเปรย์ทำความร้อนละ ไม่ไหว แตกปลายก็เล็มไปยังไม่หมด เพราะมันยาวมากที่เสียหาย ดังนั้นผมงอกใหม่

สุขภาพดี หลั่นล้ามาก ปลายผมหงอยเหงามากฟื้นฟูไม่ค่อยได้ผลมากนัก หมักทรีทเมนท์ทุกชนิดยังอาการไม่ค่อย

จะสู้ดี และ ไม่รวมถึงผมขาด

SATINIQUE สูตร GLOSSY และ REVITALIZING MASK หน้าตาของจริงแพคเกจสีชมพูเลือดหมู

SATINIQUE GLOSSY REPAIR : SHAMPOO

SATINIQUE GLOSSY REPAIR : SHAMPOO เนื้อผลิตภัณฑ์จะขุ่น เหลว กลิ่นอ่อนๆ ความรู้สึกเอิ๊กว่า

คล้ายกลิ่นน้ำมันมะพร้าวอ่อนๆนิดๆ ส่วนตัวอาจไม่ค่อยชอบกลิ่นของแชมพูเท่าไหร่เป็นความชอบส่วนตัว

SATINIQUE GLOSSY REPAIR : SHAMPOO ส่วนผสมสำคัญหลังขวด

SATINIQUE GLOSSY REPAIR : CONDITIONER

SATINIQUE GLOSSY REPAIR CONDITIONER  : เนื้อผลิตภัณฑ์เข้มข้นมากเทียบเท่าทรีทเมนท์บางยี่ห้อ

SATINIQUE GLOSSY REPAIR CONDITIONER : ส่วนผสมสำคัญ

SATINIQUE REVITALIZING MASK

SATINIQUE REVITALIZING MASK : เนื้อเข้มข้นแบบสุดพลัง เนื้อแน่นมากกกกกกกกกก

SATINIQUE REVITALIZING MASK : ฉลากด้านหลัง รวมถึงประเทศที่ผลิต ผลิตอเมริกา

SATINIQUE REVITALIZING MASK : หน้าตากล่อง ฉลากบนกล่อง จะมีเครื่องหมายรับรองต่างๆ

เอิ๊กจะใช้ทั้ง 3 ตัว ในการทำ HOW TO และ REVIEW นะคะจะเริ่มด้วยการ

สระผมให้สะอาด ด้วยน้ำเย็น หรือ น้ำอุณหภูมิธรรมดา เพื่อป้องกันความชุ่มชื่นระเหย และ สูญเสียความเงาไป

หลังจากนั้นตามด้วย  SATINIQUE GLOSSY REPAIR SHAMPOO 

ในที่นี้สระผม 2 รอบ และ นวดด้วยอุ้งมือเน้นบริเวณ ไม่เกา หนังศีรษะ หรือ กระตุ้นรากผมเป็นพิเศษ

“สำหรับยาสระผม” เพื่อช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือด การงอกของเส้นผม และ ทำให้น้ำหล่อเลี้ยง

มาเลี้ยงเส้นผมให้ผมไม่กระด้างดูเงาขึ้น

ในส่วนของการบำรุงบริเวณเส้นผม ปลายผมอย่างเข้มข้นเพื่อให้รู้สึกในคราวเดียว เอิ๊กจะขอทดสอบทั้ง 2 อย่าง

คือ SATINIQUE GLOSSY REPAIR CONDITIONER กับ SATINIQUE REVITALIZING MASK

หรือ ครีมนวด และ มาส์ค โดยแบ่งผมไป 2 ข้างให้มีจำนวนเท่าๆกัน

จะเริ่มจาก  SATINIQUE REVITALIZING MASK ก่อน โดยเท หรือ ค่อยกระเทาะจากอุ้งมือให้เนื้อมาส์คไหล

ออกมาให้พอดี กับ จำนวนเส้นผม จะไม่นวดบนหนังศีรษะเด็ดขาด เว้นจากโคนไปเลยประมาณ 5 – 10 เซนติเมตร

นวดเน้นปลายผมซัก1นาที หรือ ส่วนที่เสียของเส้นผม และ เก็บมัดยางหลวมๆขึ้นไปก่อน 1 ข้าง

 อีกข้างแน่นอนตามด้วย  SATINIQUE GLOSSY REPAIR CONDITIONER เทพอประมาณ

นวดเหมือนมาส์ค เน้นปลายผมและเก็บขึ้นไปหลวมๆ ด้วยยางเหมือนเดิม

ADVANCE หน่อยก็หมักผมด้วยผ้าขนหนูอุ่นแทนการอบไอน้ำ หรือ จะใส่หมวกคลุมผมก็ได้

แล้วก็ทิ้งไว้ซัก 15 -30 -60 หรือนานกว่านั้น ได้หมดเช่นกัน

 ทิ้งไว้ซักพัก ล้างออกให้สะอาด เน้นบริเวณขอบหน้า ขอบผมแถวหน้าผาก และ ก้มศีรษะ อย่าให้โดนหลัง เพราะ

หลายคนก็สามารถอุดตันและเป็นสิวที่หน้าอก หรือ แผ่นหลังได้ เอิ๊กใช้วิธีนี้ สิวไม่ค่อยขึ้นอีกเลยล ตอนแรกเพียบ

หาที่หายใจของรูขุมขนไม่ได้ ซับเอาน้ำออก ไม่ขยี้ๆๆๆแรงนะคะ ผมจะขาด และ ร่วงเอา และ ถ้าไม่ซับไม่ได้

น้ำที่เปียกแฉะ ก็นำมาซึ่ง เชื่อรา ณ หนังศีรษะของท่านได้ เป็นห่วงจริงๆ

ไดร์ผมให้แห้งด้วยลมเย็น หรือ ถ้ารีบนอน ลมร้อนที่โคนผม เพราะผมที่งอกขึ้นมาจะมีสุขภาพที่ดี และ แข็งแรง และ

ลมเย็นที่ปลายผม เป่าตั้งแต่โคนลงมาให้เกล็ดผมเรียงตัว บางทีเอิ๊กก็นั่งแช่หน้าพัดลมเพราะไม่อยากให้ผมโดน

ความร้อน หรือ เปลืองไฟกับไดร์ 555555 เปล่าหรอกขี้เกียจเมื่อยแขนคับ ตั้งแต่ส่วนที่เสียลงมา เอิ๊กจะรอให้ผมแห้ง

และ หวีทีเดียวด้วยแปรงซี่ห่าง หรือ แปรงที่ถนอมเส้นผม และ หนังศีรษะ

[ แค่หวีผม และ ไดร์เย็นธรรมดาแค่นั้นค่ะ ]

ผลลัพธ์ : เมื่อใช้ทั้งแชมพู คอนดิชั่นเนอร์ และ มาส์ค ร่วมกัน ความรู้สึกแรกของเอิ๊กคือ ผมเงา ลื่น และ นิ่มมาก

มีน้ำหนัก ทิ้งตัวดีขึ้นมากกก พอมันเงาสีผมเวลาโดนไฟมันก็เป็นประกายมากขึ้น ส่วนกลิ่นเราไม่ได้กลิ่นชัด

เพราะเราชินกลิ่น แต่พอลงมาจากข้างบน แม่บอกผมหอมมากกกกกก ถามว่าไปทำอะไรมาหรือ เดินผ่านน้อง

น้องบอกหอม ใช้อะไรอะ 555 ส่วนคุณแฟนให้ลองจับ แกบอกว่า ทำไมมันนิ่มกว่าเมื่อก่อนใช้อะไรกลิ่นหอมดี

รวมถึงให้เพื่อนสาวลูบจับเส้นผมทั้งสองข้าง เทียบความรู้สึกกัน หลายคนชอบฝั่ง แชมพู + มาส์คแต่สำหรับเอิ๊ก

[ ผมที่ขาดของเอิ๊กจากตอนแรกที่ยืดมา และทำสี ทำให้ผมไม่แข็งแรง

ความจริงช่างผมแนะนำให้ตัดทิ้งหมดเลย พอใช้แล้วผมเงา จัดเรียงตัวสวย ]

ชอบแชมพู + คอนดิชันเนอร์ มากกว่าเพราะรู้สึกว่าเนื้อคอนดิชั่นเนอร์ก็เข้มข้นแล้ว และ ลองสระทิ้งไว้ไม่สระผม

2 วันผมยังนิ่ม และ ส่วนปลายผม ยังมีกลิ่นหอมติดทนมาก และ มีความนิ่มมากอยู่ ทั้งที่ใช้เทคนิคนี้กับทุกแชมพู

คอนดิชันเนอร์ และ มาส์ค ตอนแรกเอิ๊กแค่ลองแต่ไม่ได้คิดอะไร นั่งทำงานมัดผมไปกลิ่นยังหอมลอยมาเลยพอ

จับก็นิ่ม ลื่นเหมือนเดิม ประมาณวันที่ 3 หลังจากโดนมลภาวะ ประกอบกับการฉีดสเปรย์ มูส ทำผมลอน เอิ๊กก็

เลยต้องสระ ทนไม่ไหว 55555555 แต่ผมดูแข็งแรง สุขภาพดีขึ้น แบบเห็นได้ และ สัมผัส มัน GLOSSY จริงๆ

[ ZOOM – ZOOM  ซูม ซูม ปลายผมดีขึ้น ความแห้เสียแตกปลาย ดูดีขึ้น]

ชอบมากกว่า สูตร GLOSSY ของแบรนด์อื่น เพราะสิวไม่ขึ้น และ หอมอึด รวมถึง ผมคงสภาพสุขภาพได้

หลายวัน มากกว่าที่เคยลองแบรนด์อื่นๆมา รู้แค่ว่าอยากซื้อใช้ต่อ และ อยากลองสูตรอื่นบ้าง ไม่แน่ใจ

จะเงาเหมือนสูตรนี้ไหม

ราคา แชมพู และ คอนดิชันเนอร์ จะอยู่ที่ขวดละ 400-500 กว่าบาทขึ้นกับราคาสมาชิก

ราคามาส์ค จะอยู่ที่ 700-800 กว่าบาทขึ้นกับสมาชิก

[ สาดแฟลช ]

จุดเด่น ตามสรรพคุณทุกประการ ผมนุ่ม ลื่น เงา ประกาย หอมมากก

จุดด้อย หาซื้อไม่ได้ตามห้าง หรือ ซุปเปอร์มาเก็ต / ต้องเป็นสมาชิก / ราคาจะถูกจะไม่ถูกขึ้นกับการเป็นสมาชิก / ต้องใช้รวมกันทุกตัว ผลลัพธ์จะเห็นชัดมาก

จุดแนะนำ อยากให้แพคเกจดูอลังการกว่านี้ เพราะมันมีส่วนผสมและเทคโนโลยีที่จดสิทธิบัตรเป็นพิเศษ เป็นความเห็นส่วนตัว เช่นอักษรพิมพ์เงิน พิมพ์ทอง

 

ไม่ต้องตัดผมแล้ว ดีใจ อย่างน้อยก็ดูแลด้วยเจ้านี้ไปก่อน รักจุงเบยยยย ชอบมาก RECOMMENDED !!! 

อยากลองสูตรอื่นอีก ><

XOXO

 

  • ที่มาวิชาการเกี่ยวกับเส้นผม

http://www.cmicosmetic.com/articles_hair.html

Posted in HAIR, HOW TO, REVIEWComments (2)

ANNASUI : เปิดตัวน้ำหอมกลิ่นใ่หม่ “LA VIE DE BOHÈME” แรงบันดาลใจที่เติมเต็มชีวิตให้เป็นดั่งฝัน

             

           สวัสดีเพื่อนๆชาวบลอคทุกคนฮะ .. วันนี้เราก็มี Beauty News  ร้อนๆ มาเสิร์ฟถึงที่อีกเช่นเคยย  เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาได้เกียรติรับเชิญจากทาง ANNASUI เพื่อไปร่วมงานเปิดตัวน้ำหอมตัวใหม่  ” LA VIE DE BOHÈME “ ณ Tartine Cafe’ ซึ่งขวดน้ำหอมและกล่องน่ารักมากๆ กลิ่นน้ำหอมหอม อ่อนๆ เบาๆ ปลุกความกระปรี้กระเปร่าและจินตนาการสุดบรรเจิด ด้วย Turkish Rose และ Sparkling Pear พร้อมด้วยกลิ่นอายเบาๆของ Burgundy Berries และ Dragon Fruit Accord และ กลิ่นแห่งความสุขสดชื่นของบรรดา Pink Floral อย่าง Peony ตัวแทนของความโชคดี,ความอ่อนหวาน และมิตรภาพ

 

แรงบันดาลใจ

                เธอผู้เป็นสาวมั่น รักในการผจญภัย แต่อีกด้านหนึ่งก็เป็นคนมีหัวใจแสนโรแมนติก เธอใช้ชีวิตตามใจปรารถนา ท่องไปในโลกกว้างเพื่อพบเจอกับความสวยงามของธรรมชาติที่เธอโปรดปราน   เธอรักการใช้ชีวิตอย่างอิสระและกล้าที่จะแตกต่าง ชีวิตของเธอสวยงามดั่งฝัน เป็นอีกหนึ่งสีสันที่แต่งแต้มโลกใบนี้ให้สวยงามLA VIE DE BOHÈME เป็นน้ำหอมจะที่ปลุกความเป็น BOHEMIAN ในตัวคุณผ่านกลิ่นอันแสนเย้ายวน เพียงฉีดเดียวของ LA VIE DE BOHÈMEก็ทำให้โลกดูสดชื่นสวยงามขึ้นมาทันตา LA VIE DE BOHÈME น้ำหอมตัวใหม่จากแอนนาซุย – แรงบันดาลใจที่เติมเต็มชีวิตให้เป็นดั่งฝัน Your life. Your passion. Your way

 

การออกแบบดีไซน์ชวดน้ำหอม

               ขวดแก้วเนื้อแมตที่บรรจงแกะสลักเป็นลายดอกกุหลาบเผยให้เห็นน้ำหอมสีม่วงลาเวนเดอร์ แลดูเย้ายวน ชวนฝันและแฝงไปด้วยความอ่อนหวานอยู่ภายในตัวฝาสีทองอันแสนหรูหราถูกออกแบบให้เป็นเป็นรูปผีเสื้อกำลังโบยบินสัญลักษณ์ของความอิสระเสรี  

กลิ่นน้ำหอม

TOP NOTE  : ปลุกความกระปรี้กระเปร่าและจินตนาการสุดบรรเจิด ด้วย Turkish Rose และ Sparkling Pear พร้อมด้วยกลิ่นอายเบาๆของ Burgundy Berries และ Dragon Fruit Accord 

HEART NOTE กลิ่นแห่งความสุขสดชื่นของบรรดา Pink Floral อย่าง Peony ตัวแทนของความโชคดี,ความอ่อนหวาน และมิตรภาพ

บรรจุภัณฑ์

                 ลวดลายบนตัวกล่องถูกออกแบบอย่างพิถีพิถัน โดยได้แรงบันดาลใจมาจาก ลายผ้าของชุดสวยบนรันเวย์ Anna Sui ใช้เทคนิคการพิมพ์ลายแบบพิเศษให้ดูราวกับการปักมือลงบนผ้าจริงๆ ให้กลิ่นอายของศิลปะแบบ Art Nouveau และการดำเนินชีวิตอย่างอิสระ สวยงามและสร้างสรรค์ แบบชาว French Bohemian ส่วนตัวกล่องเป็นสีม่วงเนื้อ Matte Satin สลักตกแต่งเป็น  ลายนูนสีม่วงลาเวนเดอร์ ดูอ่อนหวานน่าทะนุถนอม และเพิ่มความสนุกสนานบนตัวกล่องด้วยผีเสื้อสีแดง สัญลักษณ์ของความอิสระ และดอกกุหลาบ สัญลักษณ์ของความโรแมนติค

             นอกจากนี้ในบรรยากาศงานยังมีกิจกรรมเล็กๆ น่ารักๆ ให้ถักเชือกเทียน สไตล์โบฮิเมียน ร้อยกันอย่างสนุกสนาน ถูกบ้าง ผิดบ้าง แต่ก็มีเทรนเนอร์ทางแอนนาซุยหลายคนและคุณขวัญคอยช่วยสอน คอยบอกตลอดเลย ร้อยออกมาสวยงาม โบฮิฌมี่ยนมาก ฮ่าๆ

ลูกปัดหลากสีสัน สวยงาม สไตล์โบฮิเมียน

คุณขวัญมาสอนถักเชือกเทียนโบฮิเมี่ยน เก๋ๆ ชิคๆ

ตั้งใจร้อยอย่างสุดฝีมือ อิอิ

นางแบบฝรั่งสาว สไตล์โบฮีเมี่ยน

ผลิตภัณฑ์ในเคอลเลคชั่นLa Vie de Bohème 

50ml Eau de Toilette  : 2700 บาท                              

75ml Eau de Toilette  : 3500 บาท

 

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

คุณนภจิรา แสงจินดาวงษ์ (ฝน) Tel. 02-1688181-9 # 2005 E-mail: naphajira@luxasiasiam.com

คุณนวพร  จิตรชวาล (เก่ง) Tel. 089-727-3260 Email: navaporn@luxasiasiam.com

Posted in BEAUTY NEWS, FRAGRANCEComments (0)

Boots No7 Lift & Luminate Day & Night Serum 6 ปี แห่งผลิตภัณฑ์สุดยอดในการดูแลริ้วรอย จุดด่างดำ และ ความกระชับ #sharethefeeling

6 ปี แห่งการรอคอยตระกูล Boots No7 Lift & Luminate Day & Night Serum

เอิ๊กได้ฟังบรรยายจาก DR. MIKE BELL 2 รอบทั้งที่อังกฤษและอีเวนท์ที่ไทย

จากการเป็นบล็อคเกอร์ตัวแทนคนไทยไปเจอกับอีก 6 ประเทศที่อังกฤษกับแคมเปญ

#SHARETHEFEELING กับ #THEFABULOUS7

ในช่วงกันยาที่ผ่านมาหลายคนที่ติดตามจะทราบกันค่ะ

Boots No7 Lift & Luminate Day & Night Serum

ทดสอบกับผู้หญิงประมาณ 1000 กว่าคนทั่วโลก ทั้งตะวันตก ตะวันออก

ตัวนี้ขายดีมากในอังกฤษ 1 ชิ้นทุก 6 นาที และ ได้รับการยอมรับจากผู้เชี่ยวชาญ

หลายประเทศ มีการทดลองทางวิทยาศาสตร์ที่พิสูจน์ได้ 

โดยมีการเคลมว่า ลองใช้แค่ 1 เดือน หรือ 4 สัปดาห์จะเริ่มเห็นผล

วันนี้เลยพามาทัวร์อีเวนท์

Boots No7 Lift & Luminate Day & Night Serum ในไทย

ก่อนจะพาไปย้อนบรรยากาศ ณ ลอนดอนค่ะ

 

อาหารในงานนั่งทำอยู่หิวเลยยยยยยยย T_T Whats up !!! น่าทานมากค่ะ

บรรยากาศงาน #SHARETHEFEELING ของ Boots No7 Lift & Luminate Day & Night Serum

ทุกคนมาถึงจะได้ลูกโป่งสีดำ และ เขียนถึงปัญหาผิวที่เราไม่ต้องการออกมาของเอิ๊ก

เขียนเต็มลูกโป่งทีเดียว จัดหนัก 555555555 แล้วก็จะมีทีม BOOTS ไทยเก็บลูกโป่งเราไป

ได้เวลางานเริ่ม วันนี้เอิ๊กเป็น 1 ใน SPEAKER บรรยายความรู้สึกที่ได้เป็นตัวแทนจากไทย

ไปร่วมแคมเปญ#SHARETHEFEELING ของ 

Boots No7 Lift & Luminate Day & Night Serum ครั้งนี้ด้วย

วันนี้เปิดงานด้วย NO.7 SENIOR BRAND MANAGER, BOOTS THAILAND

KHUN ALANA CARTMILL คนนี้น่ารักกันเองกับเอิ๊กมากๆค่ะผิวสวยเลย

ยังดูเด็กอยู่เลย เขาก็มากล่าวความรู้สึกดีใจในการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่คิดค้นมานานให้ฟัง

 

ไม่ต้องกลัวว่าจะฟังกันไม่ได้นะคะ เธอพูดอังกฤษแต่ภายในงานมีหูฟัง และ มีคนแปลทั้งไทย

และ อังกฤษให้ฟังตลอดงาน ไฮโซมากกกกกกก 🙂

มาถึงช่วงเวลาที่ทุกคนรอคอยพบ 1 ใน EXPERT ของการคิดค้นผลิตภัณฑ์นี้

DR. MIKE BELL นักวิทยาศาสตร์ที่ปรึกษาของ BOOTS

 

เขาก็มาให้ข้อมูลว่าผู้หญิงส่วนใหญ่ สิ่งที่กลัวที่สุดคือ ริ้วรอย ความหย่อนคล้อย

และจุดด่างดำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ แต่คนไทยที่เจอเยอะที่สุดคือ สีผิวไม่สม่ำเสมอ

ฝ้า กระ จุดด่างดำ เพราะบ้านเราแดดแรง ปัญหาเรื่องเกี่ยวกับความผิดปกติของเม็ดสี

จึงเยอะเป็นอันดับแรก ส่วนทางตะวันตก อันดับหนึ่งริ้วรอย เพราะเขาชอบอาบแดดกัน

ชอบตัวแทน ดังนั้นบางคนก็เลิกทาไปเลยกันแดด UVA เลยส่งผลให้มีริ้วรอยก่อนวัย

Boots No7 Lift & Luminate Day & Night Serum ได้ทดลองมาทั้งหมด 6 ปี 

และมีผลการวิจัยที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารทางวิทยาศาสตร์หลายเล่ม 

เช่น Experimental Dermatologyและยังได้รับการสนับสนุนจากผู้เชี่ยวชาญทางด้านผิวหนัง

อีกหลายประเทศ อยากทีมจากมหาวิทยาลัย MANCHESTER

DR. MIKE ก็เล่าต่อว่า สีผิวนั้นโดยสร้างจากเซลล์ที่เรียกว่า เมลาโนโซส์(Melanocytes)

และ เจ้าเมลาโนโซส์จะสร้างสีผิว(Skin Pigmentation) และสร้างเม็ดสีเมลานิน

เมลาโนไซส์จะทำงานกับเซลล์ เคราทิโนไซท์ (Keratinocytes)

เมื่อเมลาโนไซส์ส่งสัญญาณไปยังเคราทิโนไซส์ ก็จะสร้างสีผิว

การทำงานของBoots No7 Lift & Luminate Day & Night Serumสามารถช่วยลดการ

สร้างเซลล์สีผิวได้โดยการหยุดไม่ให้เซลล์เมลาโนไซส์ส่งสัญญาณ

ไปหาเซลล์เคราทิโนไซด์ดังนั้นจึงไม่มีการสร้างเซลล์สีผิว

สารที่ใช้หลายตัวช่วยยับยั้งและการผลัดผิวซึ่งก็ได้มาจากธรรมชาติอยู่แล้ว เช่น

PHA, Sophora, Kiwi and Vitamin ต่างๆ.

ทีมทดลองขอดร.ไมค์ ได้เปรียบเทียบการทำงานของ No.7 Life and

Luminate กลางวัน และกลางคืน กับการทำงานของ Hydroquinone

ซึ่งเป็นสารฟอกผิว ผลการทดลองปรากฎว่าในช่วงเดือนแรก

ผลิตภัณฑ์ของNo.7 จะลบรอยด่างดำได้ช้ากว่า Hydroquinone

แต่เมื่อใช้เกิน 3เดือนขึ้นไป ผลิตภัณฑ์ของ

No.7 จะทำงานได้ดีกว่า และสามารถรักษาผิวไม่ให้เกิดรอยด่างดำได้อีกด้วย

ผลิตภัณฑ์ที่ไว้ใช้ตอนกลางวันจะมีสารป้องกันแสงแดด

เพราะรังสีในแดดสามารถกระตุ้นการทำงานของเม็ดสีได้

ส่วนผลิตภัณฑ์ที่ใช้ยามกลางคืน มีไว้สำหรับการกำจัดเม็ดสีที่สร้างออก

และให้ผิวได้พักฟื้น ดังนั้นควรใช้คู่กันถึงได้ผลดีอย่างการทดลอง [ถึงขายเป็นคู่]

การทดลองนี้ได้ทดลองกับผู้คนจากหลายๆเชื้อชาติและหลายๆลักษณะผิว

ละทำในหลายประเทศ ตั้งแต่ประเทศโซนร้อนและประเทศโซนหนาว

เพื่อให้มั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์สามารถใช้ได้กับคนจำนวนมาก

และ มีการวัดการเปลี่ยนแปลงก็ใช้กล้องที่สามารถวัดรายละเอียดได้อย่างพิเศษ

นอกจากนี้ยังใช้เครื่องมือ Light Spectrometre

เพื่อวัดค่าการเปลี่ยนค่าของแสงสะท้อนจากวัตถุ

ประเด็นคือตอนแรกยังเฉยๆ ฟังจบอยากลองเลย

จุดด่างดำเห็นผลไวสุด ดีสุด 

หลังจากนั้นพิธีกรก็เข้าสู่การสัมภาษณ์ คุณประภาพรรณ พลอยแสงงาม 

ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารผลิตภัณฑ์และการตลาด บริษัท บู๊ทส์ รีเทล (ประเทศไทย)

และคุณหมอ ผิง ธิดากานต์ จาก รพ.สมิติเวช สุขุมวิท ถึงการดูแลตัวเอง

แบบANTI-AGING เพื่อใช้ชีวิติแบบเสริมสร้างสารต่อต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย

ป้องกันการเสื่อมของเซลล์ผิวก่อนวัย

และก็มาถึงการสัมภาษณ์ผู้ใช้จริง อย่าง คุณ มินท์ อรรถวดี จิรมณีกุล ขวัญใจน้องเอิ๊ก

ก็เป็นทั้งไฮโซ นักร้อง ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง PR

ให้กับบริษัทยักษ์ใหญ่หลายที่ในประเทศไทย

ส่วนเอิ๊กก็เล่าในฐานะลองแล้ว และ ชีวิตตอน

อยู่อังกฤษกับเพื่อนบล็อคเกอร์อีก 6 คน กับ แคมเปญนี้

พี่มินท์เป๊ะเสมอ สวยปิ๊ง 30 นิดๆยังใสอยู่เลย

น้องเอิ๊กก็บอกเลย อิ่มมาเชียว ลืมปัดขนตา ขาวโพลนมาเลย 5555 ไม่เป็นมั่นใจ เราเอาอยู่

สื่อมวลชนก็มาเก็บข่าว พร้อมทั้งเพื่อนๆบล็อคเกอร์ที่น่ารักของเอิ๊กก็มา 🙂 มีคนแปลแปลสด

จากไทยเพื่อให้ DR.MIKE กับ คุณ ALANA ฟัง ตอนเอิ๊กกับพี่มินท์พูด

ถึงเวลาที่เราจะลองเล่นจริงจังก็เทสบนผิว และ ดมกลิ่นไปพร้อมกัน

เอิ๊กก็ยังไม่ค่อยปลื้มปลิ่มกับกลิ่นเท่าไหร่ ที่ลองไปคือเซรั่ม สิวไม่ขึ้นโอเค 🙂

ทุกคนที่ได้ลอง ก็มักจะลองกันที่บริเวณมือ และ ดมกลิ่นเช่นกัน 555 เป็นธรรมเนียม

ชักภาพหมู่กับคณะผู้บริหาร และ GUEST SPEAKER วันนี้

เดี๋ยวเราจะออกไปปล่อยลูกโป่งงงงงงกันข้างนอกนะคะ

พร้อมองค์ประชุมรวมกันปล่อยลูกโป่งที่ระบุปัญหาผิวที่ไม่ต้องการขึ้นฟากฟ้า ดูลูกโป่งเอิ๊กดิ

เพียบบบบบบบ บอกเลย 555 ปัญหาเยอะ

เย่ !!!! ไปแล้วเต็มฟ้าเลย อีกซักพัก ตำรวจมา 555555555555 ล้อเล่นนะคะ

ชักภาพขากลับกันซักนิด เราประทับใจมากที่ลูกโป่งไป แต่ปัญหายังอยู่บนหน้าเรา 555

ต้องดูแลกันต่อไป แต่ปล่อยไปก็สบายใจดีนะคะ

ขอชักภาพกับพี่มินท์หน่อย ขวัญใจน้องเอิ๊ก “รักเธอที่สุด” เพราะมาก เพราะเสมอ

ขากลับก็แทบจะยิ้มแก้มปริ ผู้บริหารทีม BOOTS ประเทศไทยบอกว่า

UK EMAIL มาหาว่า BLOGGER ประเทศไทยทำงานดี ขยัน

และ เป็น BLOGGER ตัวอย่างที่ดี ^________^ หน้าบานเบยยยยยย

BLOGGER บ้านเราไม่แพ้ชาติใดในโลกนะคะ เรื่องความถึก

แม้ภาษาเอิ๊กไม่ได้แต่เรื่องอึด งาน เอิ๊กตั้งใจไม่ให้แพ้ชาติไหนแน่นอนคับ

ดีใจที่ได้ไป เลยบอกเขาว่า

ไม่ต้องขอบคุณหลายรอบ ปีหน้าเอาเอิ๊กไปอีกก็พอ 5555555555

ขอบพระคุณคุณหนึ่ง และ BOOTS THAILAND ที่มอบโอกาสที่ดีที่สุดอีกชิ้นในปีนี้ให้กับ

เอิ๊ก บล็อคเกอร์ที่ไม่ได้เรื่องภาษา แต่ก็กรุณาเรื่องจัดหาล่ามให้ ดูแลเอิ๊กอย่างดี อบอุ่น

เป็นกันเองทั้งไทย และ เอเจนซี่ JAM ที่อังกฤษ ซึ่งเอิ๊กก็พยายามทำเต็มที่

เพื่อชื่อเสียงประเทศเรา และ ทำให้ BOOTS UK ยอมรับการทำงานของเราคับผม <3

XOXO

 

Posted in EVENT, SKIN CAREComments (0)

การฟอกสีฟัน (Teeth Whitening)

การฟอกสีฟัน (Teeth Whitening)

            สวัสดีค่ะ .. วันนี้จะพาเพื่อนๆทุกคนมาทำความรู้จักในเรื่องราวความรู้และวิธีการ รวมไปจนถึงการดูแลรักษาในเรื่องการฟอกสีฟัน

               ยาฟอกสีฟันในกล่องนึงนั้นจะมีทั้ง DAY WHITE & NIGHT WHITE ซึ่งในกล่องจะเป็นแบบระบบผสม ซึ่งในหนึ่งหลอดจะมีทั้งแบบใสและแบบขุ่น โดยมันจะทำงานได้อย่างเต็มที่ก็ต่อเมื่อนำมาผสมกัน วิธีใช้คือว่าบีบปกติ ทีนี้เราบอกก่อนว่า เราจะแยกฟันบน เพราะฟันบนคู่หน้าจะใหญ่ ส่วนฟันหน้าคู่ล่างจะเล็ก อีกทั้งเพราะเค้าเว้นที่ให้ฟอกแต่ละซี่ไม่เท่ากัน เสร็จแล้วให้หยดน้ำยาลงไปในที่ผิวนอกของเทรฟอกสีฟันประมาณหนึ่งหัวไม้ขีดก็พอ

 

                  เคล็ดลับที่ทำให้รู้สึกเสียวฟันน้อยลง คือ ก่อนฟอกสีฟันจะต้องทำให้ฟันมีความชุ่มชื้นก่อน เช่นอมน้ำแล้วบ้วนทิ้ง จากนั้นค่อยใส่เทรฟอกสีฟันหรือทำให้ฟันชุ่มน้ำลายก่อน แล้วค่อยใส่ ไม่ควรทำตอนฟันแห้งเพราะจะทำใหรู้้สึกเสียวฟันมาก ส่วนระยะเวลาที่ด้านบนกล่องเขียนว่าให้ใช้ครึ่งชั่วโมงวันละสองครั้ง แตโดยส่วนตัวพี่หมอชิวเองให้ใช้ได้หนึ่งชั่วโมง วันละสองครั้ง ในคู่มือเขียนไว้ว่า ฟันจะขาวขึ้นในสองสัปดาห์

 

            เราสามารถนำผลิตภัณฑ์สำหรับฟอกสีฟันที่เหลือแช่ตู้เย็นได้ ถ้าเปิดทิ้งไว้แล้ว สามารถอยู่ได้แค่ไม่เกินหกเดือน แต่ที่ยังไม่ได้ใช้จะสามารถอยู่ได้ประมาณปีครึ่ง แต่ต้องนำไปแช่ตู้เย็นทันที วิธีการดูแลรักษาเทรฟอกสีฟัน ทำได้โดยการแช่น้ำไว้ แต่ว่าถ้าหากแช่ไว้สักสองอาทิตย์อาจจะทำให้มันเกิดตะกอนได้ ต้องเปลี่ยนน้ำทิ้งละก็แช่ต่อ เทรฟอกสีฟันนั้นสามารถใช้ได้ตลอดไป ถ้าเกิดไม่ได้มีการจัดฟันใหม่หรือทำอะไรกับฟันใหม่

              หัวใจสำคัญของการฟอกสีฟันคือ ต้องทำความสะอาดด้วยการขูดหินปูนก่อนฟอก เพราะตัวหินปูนจะเป็นตัวบังน้ำยาไม่ให้ทำปฏิกิริยากับผิวฟันโดยตรง ฟอกแล้วฟอกอีกไม่มีผลเสียต่อฟัน ฟันไม่บาง กลไกที่ทำให้เสียวฟันคือน้ำยาฟอกสีเนี่ยมันคือไฮโดรเจนเพอร์ออกไซด์ซึ่งจะทำให้เกิดปฏิกิริยาการแพร่ผ่านของๆเหลวของภายนอกตัวฟันเข้าไปในตัวฟันมากขึ้นมันก็เลยกระตุ้นเส้นประสาทให้เสียวซึ่งจะเป็นปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นอย่างชั่วคราว ความเสียวฟันหายไปแต่ความขาวของฟันนั้นยังคงอยู่

                ในกรณีถ้าหากน้ำร่วงไปโดนเหงือกหรือผิวหนังก็จะทำให้ตรงส่วนนั้นด่าง เหงือกจะซีด เป็นฝ้าขาว แต่ด่างเพียงแค่ชั่วคราว วิธีแก้ไขก็คือนำวาสซารีนมาทาเคลือบ ซักพักก็จะหายเป็นปกติ

 

           

               สำหรับความเสียวฟันของแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน เพราะขึ้นอยู่กับเส้นประสาทของแต่ละคนที่ไวต่างกัน ซึ่งความคงทนของความขาวขึ้นอยู่กับพฤติกรรมในการดื่มเครื่องดื่มหรือทานอาหารที่มีสีอยู่เยอะ หากทานอาหารที่มีสีหรือดื่มเครื่องดื่มที่มีสีเยอะ ก็จะทำให้สีของฟันกลับมาเหลืองได้ง่ายมาก การสูบบุหรี่ก็เช่นเดียวกัน บางคนแค่ขูดหินปูนและขัดฟัน แล้วลองยิ้มดูฟันอาจจะดูขาวขึ้นมาก เพราะก่อนฟอกสีฟันจะต้องขูดหินปูนดูก่อน เผื่อบางทีฟันของเรานั้นอาจจะมีความขาวอยู่แล้ว จะได้ไม่ต้องฟอก นอกจากนี้จะมีฟันประเภทที่เรียกว่าเบต้าเซทีนที่เป็นประเภทฟันที่เวลาฟอกแล้ว จะไม่สามารถเห็นผลได้ สาเหตุเกิดจากตอนที่คุณแม่คนเหล่านั้น ในขณะที่ตั้งครรภ์ แล้วไปทานยาที่มีเบต้าเซทินตอนขณะที่ตั้งครรภ์อยู่ ซึ่งมันจะมีผลต่อการสร้างหน่อฟันของทารก โดยหน่อฟันของทารกนั้น จะดูดสีของยาลงไปอยู่ในตัวฟันของเด็กด้วย ซึ่งมันก็จะอยู่ในหน่อฟันแท้ด้วย เมื่อเด็กอายุ6ขวบ ถึงจะสามารถเห็นผลกระทบได้

                 หลังจากนั้นก้อห้ามหญิงมีครรภ์รับประทานยาชนิดนี้ เพราะเม็ดสีของเบต้าเซทีนไม่สามารถสลารได้ด้วยไฮโดรเจนเพอร์ออกไซด์ ซึ่งเป็นสารที่ใช้ในการฟอกสีฟัน เพราะฉะนั้นจึงไม่สามารถฟอกได้ แต่สามารถแก้ไขได้ด้วยการทำวีเนียร์ กล่าวคือ การ กรอฟันออกไปเลย 0.25-0.50 มม. แล้วทำหน้ากาก จากนั้นก็แต่งรูปร่างให้เหมือนฟัน ในขณะเดียวกันก็ต้องเลือกสีวีเนียร์ด้วย โดยต้องเลือกตามสีผิวและสีของดวงตาขาวของผู้ฟอก เพราะถ้าเลือกสีจนเลยสีตาขาวไป จะทำให้เหมือนฟันปลอมของคนแก่ ดังนั้นวิธีการเลือกสีที่ดีที่สุด ก็ต้องยึดสีผิวของเราและสีตาขาวเป็นหลักในการเลือก นอกจากนี้ควรเลือกให้ขาวแบบธรรมชาติ เพราะถ้าขาวมากไปมันอาจจะทำให้ดูด้านๆ ไม่สะท้อนกับแสงไฟ เลยจะทำให้ดูไม่เป็นธรรมชาติได้

 

ขอขอบพระคุณ : ทันตแพทย์ วุฒิพงษ์ เหล่าอมตา (พี่หมอชิว) แห่งคลินิก Prince of Smile Dental

สำหรับความรู้และข้อมูลดีดีในเรื่องของการฟอกสีฟันมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ

 

” Prince of Smile Dental Clinic “

สามารถติดต่อได้ที่

Tel : 02-884-7955 , 085-682-7955

E-mail : princeofsmiledent@gmail.com

Website : http://www.princeofsmile.com & https://www.facebook.com/PrinceOfSmileDentalClinic

 

 

Posted in TEETHComments (0)

อยากมีครีมเป็นแบรนด์ตัวเองที่ประสบความสำเร็จ กับ QUALITY PLUS และ ทดสอบสารอันตรายในเครื่องสำอาง ครีมบำรุง

อยากมีครีมแบรนด์ตัวเองที่ประสบความสำเร็จง่ายมาก

ครีมในเน็ตเยอะมากกกกกกกกกกกกกก และก็ขายดิบขายดีกันเทน้ำเทท่ามากกกกกกก

บางคนก็แจกทอง แจกไอโฟน ไอแพด ซื้อเบนซ์ ซื้อบ้านกันใหญ่โต

ถามว่ามีจริงไหม จริง ! แต่ดีจริงไหมไม่รู้ .. !?!?!!

บอกเลย  BEAUTY BLOGGER อย่างเอิ๊กไม่ค่อยจะกล้าลองแม้จะผ่านอย.ไทยแลนด์

เพราะส่วนใหญ่ยังไม่ค่อยมีงานวิจัยรับรองทั้งกระปุก เหมือนบางแบรนด์ที่ตปท.

แล้วยิ่งพอได้ไปดูโรงงานแบรนด์ดังตปท. บ่อยๆ รู้เลยว่าเขารอกันนานมาก

กว่าครีม 1 สูตรจะออกมาให้ได้ใช้ บ้างก็รอ 10 ปีเอง ส่วนแบรนด์ไทย

เทรนด์ไหนมาก็แข่งกันผลิต ใครทำก่อนรวยก่อน เจ้าของร้านดังหน่อย

สวยหน่อยเกิดเร็วมาก บางคนก็แตกไลน์มีตั้งแต่ดูแลหัวจรดเท้า

เอิ๊กจะลองก็ต่อเมื่อต้องสนิทกับเจ้าของ หรือ ซักข้อมูลอย่างละเอียดจริงจัง

บอกตรงๆ หนูไม่มั่นใจค่ะ

จนกระทั่งมีโอกาสได้รู้จักกับอุตสาหกรรมผู้ผลิตโดยตรง

และผู้อยู่เบื้องหลังแบรนด์ครีมบำรุงผิวในไทยมากกว่า 100 แบรนด์

สิ่งที่อยากจะบอกคืออุตสาหกรรมความงามไม่มีวันตาย100ล้าน% ในความเชื่อของเอิ๊ก

ไม่งั้นทุกคนคงไม่เห็นเอิ๊ก ณ ตรงนี้ 555555555555

อย่างที่เราเห็นกันในข่าวว่าการเติบโตของธุรกิจเครื่องสำอางไทยปีนี้ขยายตัวเพิ่มขึ้นไทยกลายเป็นผู้ผลิตและส่งออกเครื่องสำอางอันดับ 1 ของอาเซียน และ มีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง มันเป็นเรื่องของโอกาสทางด้านเศรษฐกิจ และการตอกย้ำความเป็นผู้นำในเอเชีย แน่นอนว่าภาครัฐยินดีให้การสนับสนุนเพื่อยกระดับอุตสาหกรรมไทยให้ไกลไปสู่ระดับโลก ดังนั้นใครทำอะไรตอนนี้ สร้างแบรนด์วางตำแหน่งมาดี มีการกระจายการรับรู้อย่างทั่วถึง หรือ สร้างกระแสได้ดี มีผลิตภัณฑ์ความงามที่ตอบโจทย์สภาพผิวของคนแต่ละทวีปได้อย่างมีคุณภาพชัดเจน ครอบคลุม มีโอกาสสูงมากที่จะดังในประเทศ ซึ่งสามารถพัฒนากลายเป็นแบรนด์ที่ส่งออก และ สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย

มีเงินเย็นลงทุนซักก้อน + ความฝันที่เคยมีก็อาจเกิดขึ้นได้

และ เงินทุนเริ่มต้นก้อนที่บอก คือประมาณ 50,000 บาท

แต่จะประสบความสำเร็จได้ก็ต่อเมื่อมีความตั้งใจจริง

อดทน ขยัน พัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่องด้วย และต้องเรียนรู้เรื่อง

กลยุทธ์การตลาด กลยุทธ์การสร้างแบรนด์ กลยุทธ์การวางสื่อ

กลยุทธ์การลงทุน พฤติกรรมผู้บริโภค เพิ่มเติมด้วย

” ในอดีตเอิ๊กเคยฝันอยากมีแบรนด์สกินแคร์ที่เป็นของตัวเอง

แต่แค่คิดก็เดาไปแล้วว่ามันไกลมาก

ที่ไกลเพราะอะไร เพราะรู้แน่นอนว่าต้องใช้เงินเยอะมาก

เพราะมันเป็นแบรนด์ของเราเองนิ ส่วนเรื่องอื่นข้างต้น

เอิ๊กได้เรียนมาบ้างแล้ว และ ก็นำมาปรับใช้กับอาชีพอิสระของตัวเอง “

ก็คงติดแค่เรื่องเงิน นึกว่าต้องมีซัก 5 แสน ถึง 1 ล้านบาท กว่าจะเป็นรูปเป็นร่าง

 นั่นคือ ความเข้าใจมาตลอดก่อนจะได้ทำความรู้จัก QUALITY PLUS

Quality Plus Aesthetic International Co.,Ltd.

บริษัทผู้ผลิตสกินแคร์ตามใจคุณ และ ช่วยสร้างแบรนด์สกินแคร์คุณ

ให้ประสบความเร็วยั่งยืน ยาวนาน ให้บริการการดูแลให้คำปรึกษาแบบครบวงจร

CONCEPT : The Origin of Beauty Revolution

ก่อนจะเข้าเรื่องอยากบอกความในใจนิดนึงระหว่างเอิ๊กฟังการนำเสนอภาพรวมของบริษัทอย่างเจาะลึก และ การถามคำถามที่เอิ๊กสงสัยก็ถามแบบเจาะลึกมาก เอิ๊กอยากบอกว่ามันเป็นการทำงานที่รู้สึกดีมากอีก 1 วัน แม้ระยะเวลาในการทำบล็อคนี้นานมาประมาณเกือบเดือน เนื่องจากว่าผู้หนึ่งบริหารที่นี่ และ ทีมQUALITY PLUS ให้ข้อมูล และ ตอบคำถามเอิ๊กแบบละเอียดมาก พร้อมทั้งยกตัวอย่างเห็นภาพชัดเจน เอิ๊กบอกได้คำเดียวว่าจากเจตนารมณ์ที่เขามีเปิดรองรับลูกค้าทุกระดับ และ ที่สำคัญหนึ่งในทีมผู้บริหารก็คุยให้คำปรึกษาด้วยตัวเองทุกเคส ไม่ว่าลูกค้าจะมีเงินเริ่มต้นที่น้อย หรือ มาก เอิ๊กว่ามันเป็นการ SERVICE MIND ที่เอิ๊กพบน้อยมาก และ เป็นการให้บริการที่ไม่มีกำหนดระยะเวลา หรือ พูดง่ายๆ เมื่อก้าวเข้ามาเป็นลูกค้า ให้คิดถึงว่า QUALITY PLUS จะดูแล และ คอยให้คำปรึกษาคุณตลอด และมันพิเศษมากกว่านั้น ที่ทุกข้อมูลขั้นตอนให้คำปรึกษาฟรี ข้อมูลแน่นมากที่สุดของที่สุด มีรายละเอียดชัดเจน พร้อมตัวอย่างอธิบายซึ่งลูกค้าที่อาจไม่มีความรู้ด้านนี้เลยให้เข้าใจได้ง่าย เอิ๊กรู้อยู่แล้วในใจระหว่างนั่งฟังข้อมูลว่ายังไงบริษัทนี้ต้องประสบความสำเร็จ และ เติบโตอย่างยิ่งใหญ่มากแน่นอน มันไม่ใช่เพราะเรื่องเทคโนโลยี หรือ นวัตกรรมที่เขาพยายามพัฒนา และ ใช้สิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าตลอด แต่มันเป็นเรื่องของ “หัวใจ” ที่เขาอยากให้คนอื่นประสบความสำเร็จไปด้วยกัน กับธุรกิจที่เขาทำโดยผันตัวเองเป็นผู้สนับสนุนลูกค้าอยู่เบื้องหลังแบบครบวงจร ลูกค้าจะบอกต่อหรือไม่ก็ได้ เขาไม่ได้ติดเรื่องตรงนี้ อย่างที่วิสัยทัศน์ของที่นี่คือตั้งใจอยากปฏิวัติวงการเครื่องสำอาง ให้มีคุณภาพเป็นเลิศเพื่อก้าวไปสู่ระดับสากลเอิ๊กว่าเขาทำได้  ไม่ว่าจะเป็นความเป็นทีม แววตาและความมุ่งมั่นของทีมทุกคน ความมีน้ำใจที่จะเริ่มช่วยเหลือให้กับคนทุกระดับ QUALITY PLUS จะก้าวกระโดดไปมากกว่าวันนี้ที่เขาก็มาไกลขึ้นเรื่อยๆอยู่แล้ว ขอให้รักษาวิสัยทัศน์ และ จุดยืนตรงนี้ไว้ตลอดไปค่ะ

ก่อนที่เอิ๊กจะมาแนะนำในเรื่องของบริษัทนี้ เอิ๊กว่าหลายคนต้องสนใจมากในเรื่องการมีแบรนด์เป็นของตัวเอง ในคำแนะนำส่วนตัวของเอิ๊ก เอิ๊กอยากให้อันดับแรกหากคุณอยากทำธุรกิจกับบริษัทไหน ควรตรวจสอบรายละเอียดการจัดตั้งของบริษัทให้เรียบร้อย ซึ่งสามารถตรวจได้ถึงรายละเอียดงบกำไร ขาดทุน การนำส่งงบประมาณ ประจำปี ประวัติปีการก่อตั้ง สมาชิก กรรมการ รายชื่อผู้ถือหุ้น เพื่อเช็คแนวโน้มความมั่นคงของบริษัท และ เพื่อสร้างความมั่นใจว่าบริษัทที่เราจะลงทุนมีอยู่จริง เปิดขึ้นโดยถูกต้องตามกฎหมายสามารถสมัครสมาชิก และ เช็คได้ที่นี่ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เอิ๊กได้ความรู้นี้มาตอนเอิ๊กเป็นเลขา ^^

ความจริงสามารถขอทาง QUALITY PLUS ดูเอกสารได้ แต่เราก็แค่เช็คขั้นตอนเพื่อความสบายใจ

เงินก้อนเล็กๆบางก้อน บางคนอาจเก็บหอมรอบริบมาทั้งชีวิตก็เป็นได้

และก็มาถึงขั้นตอนการดูแล และข้อมูลต่างๆ จากทีม QUALITY PLUS ที่ละเอียด

และโปร่งใสมาก จนทำให้เอิ๊กประทับใจอย่างที่บอกตอนต้น

แบรนด์ความงามประสบความสำเร็จขึ้นกับ 4 ปัจจัย

Product : ต้องชัดเจน มีคุณภาพจริง เห็นผลจริง และ ต้องปลอดภัย

Branding : ต้องแตกต่าง มีเอกลักษณ์ น่าจดจำ มีพลังทำให้คนที่ได้เป็นเจ้าของรู้สึกดีถึงดีมากที่สุด ระดับสูงคือ ถ้ามีอาจหมายถึงการบ่งบอกสถานะคนใช้ มีไว้แล้วภูมิใจ คนพูดถึง คนจำได้

Cost planing : มีเงินอย่างเดียวไม่พอ การจะประสบความเร็จ กำไรเป็นอีกตัวหนึ่งที่ใช้วัดผลความสำเร็จ ดังนั้นเรื่องเงินทองต้องวางแผน ต้องวัดผลได้ ต้องประมาณการได้

Marketing : ถ้าเรารู้จักสินค้าเราคนเดียว หรือ ปากต่อปากกันไปอาจต้องใช้เวลา วางแผนใช้สื่อที่เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย มีการกระจายสินค้าไปยังที่อยู่ ที่หาซื้อได้ง่ายที่เข้าถึงได้ของกลุ่มเป้าหมาย เข้าถึงเร็ว ไว ของใช้ดี ซื้อง่าย เห็นบ่อยคนก็จะกลับมาซื้อซ้ำ

Quality Plus Aesthetic International Co.,Ltd. หรือ QUALITY PLUS เปิดบริการมาตั้งแต่ปี 2009-2013 มีกลุ่มลูกค้ามากกว่า100แบรนด์ เป็น Local brand [แบรนด์ในประเทศ] และยังมีสินค้าที่ผลิตเพื่อส่งออกต่างประเทศ รวมถึงมีสินค้าที่ผลิตกว่า 400 SKU

Target หลัก : ประเทศไทย  

Target รอง : ประเทศพม่า เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และมีอีกหลายประเทศที่กำลังวางแพลนในอนาคต

ทีมผู้เชี่ยวชาญ QUALITY PLUS ทั้งหมด 9 คน  ทุกคน 

จะมีรายละเอียดส่วนตัวให้ติดต่อในเว็บไซด์ 

          ก่อนอื่นที่เอิ๊กจะได้มีโอกาสรู้จักกับบริษัทนี้ โดยส่วนตัวแล้ว เอิ๊กคิดว่าคนไทยส่วนมากที่ยังศึกษาความรู้ตรงนี้ไม่มากพอในเรื่องการผลิตหรือการทำสกินเเคร์ที่เป็นแบรนด์ของตัวเอง สังเกตได้จากคนไทยส่วนใหญ่น้อยมากที่จะเลือกสกินแคร์ให้เหมาะกับสภาพผิวของตัวเองได้อย่างจริงจังหรือว่าเลือกครีมที่ผ่านการรับรองอย่างถูกต้อง ปลอดภัย เขาไม่ใช่ไม่รู้ แต่เขาอาจจะตามกระแส ไม่ได้เช็คข้อมูลให้ละเอียดก่อน เช่น ผลิตที่ไหน เมื่อไหร่ ใครผลิต เหมาะกับผิวไหม เพราะความใส่ใจในการหาข้อมูลไปอยู่ที่ว่า ดาราใช้ เน็ตไอดอลใช้ หรือคนที่เป็นกระแสในสังคมที่มีชื่อเสียงใช้ พวกกลุ่มคนที่มีความชอบในเรื่องความงาม แม้แต่นิตยสาร หรือ บล็อคเกอร์เอง ก็อยากจะเลือกซื้อตาม

          ถ้าพูดอะไรวิชาการก็คงจะเบื่อ แต่อยากบอกว่าการสังเกตุฉลากสำคัญ แหล่งซื้อสำคัญ อย.สำคัญ เลขที่จดเเจ้งสำคัญ ถ้าเป็นเอิ๊ก เอิ๊กอยากแนะนำไม่่ว่าคุณจะเริ่มมีธุรกิจผลิตสกินแคร์ หรืออะไรก็แล้วแต่ที่เกี่ยวข้องกับผิวพรรณ เอิ๊กอยากจะให้ทุกคนควรจะเรียนรู้เรื่องโครงสร้างของผิวพรรณมนุษย์ รวมไปจนถึงเรียนรู้ในเรื่องของโครงสร้างผิวของตัวเองเป็นพื้นฐานความรู้ อย่างละเอียด ถี่ถ้วน ซึ่งผิวของคนเรานั้นก็มีการเปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา ขึ้นกับหลายๆปัจจัยตามที่เอิ๊กได้กล่าวตลอดเวลาในบลอคเก่าๆของเอิ๊ก นี่คือสิ่งที่เอิ๊กอยากจะฝากไว้ให้กับทุกคน ก่อนที่ทุกคนจะได้เริ่มอ่านบทสัมภาษณ์ของผู้บริหาร QUALITY PLUS

[ QUALITY PLUS มีให้ด้วยเอาไว้ให้ลูกค้าดูว่าส่วนผสมแบบเทคโนโลยีนาโน จะซึมลึกระดับไหน ขอชมเชย

ให้ดีแนะนำไปแล้ว อยากให้มีเครื่องตรวจผิวจริงจัง ให้ลูกค้าได้เข้าใจมากๆขึ้นไปอีกค่ะ]

 

วันนี้เอิ๊กได้รับเกียรติจาก คุณ วุฒิพงศ์ พานิชเศรษฐกร ผู้จัดการทั่วไป

และ ทีมงานของQUALITY PLUS

ให้ข้อมูลในเรื่องของบริการการผลิตสกินแคร์ที่เป็นแบรนด์ของตัวเอง

และ ช่วยลูกค้าสร้างแบรนด์เพื่อให้ประสบความสำเร็จในระยะยาว

เดินทางไปที่ออฟฟิตและแกลลอรี่ของQUALITY PLUS เขตดอนเมือง

ขณะนี้QUALITY PLUS ได้มีเเพลนจะขยายโรงงานให้ใหญ่ขึ้น

เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าที่มากขึ้นและปรับขนาดธุรกิจของตัวเองให้เติบโตขึ้น

ตามความต้องการของลูกค้า และเพื่อรองรับกับตลาดอาเซียน (AEC) 

QUALITY PLUS จัดว่าเป็นบริษัท OBM Services ที่มีไม่กี่แห่งในประเทศไทย

ในธุรกิจรับผลิตสกินแคร์หรือรับจ้างผลิตในอุตสาหกรรมอื่นๆ จะมีชื่อเรียกเกี่ยวกับการให้บริการของธุรกิจ 3 แบบ

  1. OEM : Original Equipment Manufacturer เป็นการรับจ้างผลิตสินค้า 
  2. ODM : Original Design Manufacturing การรับจ้างผลิตสินค้า + การพัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์ + งานดีไซน์ 
  3. OBM : Original Brand Manufacturing Service การรับจ้างผลิตสินค้า + การพัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์ + งานดีไซน์ + สร้างแบรนด์สินค้า + กำหนดตลาด + ผลิตบรรจุภัณฑ์ + วางแผนค่าใช้จ่าย + งานบริการในส่วนของการตลาดเพิ่มเติมเพิ่มมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจ เพื่อเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มทางธุรกิจสูงสุดให้กับลูกค้า


วิสัยทัศน์ของQUALITY PLUS

ต้องการเป็น Trendsetter หรือผู้นำทางด้านอุตสาหกรรมสกินแคร์ในระดับอาเซียน และมีนวัตกรรมใหม่ตลอดเวลา รวมถึงการเลือกใช้เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดและมีคุณภาพในการผลิตเพื่อส่งมอบให้กับลูกค้า เพื่อปฎิวัติวงการอุตสาหกรรมความงาม และเป็นการทำงานในลักษณะของ The best one stop services ผู้อยู่เบื้องหลังการสร้างแบรนด์ลูกค้าให้ประสบความสำเร็จ

 

หัวใจหลักในการทำงานของQUALITY PLUS  3 ข้อ

1. การบริการแบบ OBM One Stop Service ที่เน้นสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับลูกค้าอย่างสูงสุด

          นอกจากการรับจ้างผลิตสกินแคร์เหมือนอย่างOEMตามปกติ ยังมีการสร้างมูลค่าเพิ่มหรือสร้างความแตกต่างโดยการผลิตสกินแคร์เพื่อให้เป็นในแบบเฉพาะของลูกค้าในแต่ละคน ซึ่งเจาะลึกลงไปมากขึ้น จากนั้นก็จะมีการให้บริการทางดานพัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์ ถ้าลูกค้าต้องการส่วนผสมหรือสารสกัดตัวไหน บริษัทก็จะยินดีที่จะหาข้อมูลเกี่ยวกับส่วนผสมและสารสกัดนั้นๆ รวมจนถึงงานวิจัยที่เคยเกิดขึ้นหรือมีอยู่เเล้ว เพื่อรองรับทั้งความปลอดภัยและประสิทธิผลของสารสกัดหรือส่วนผสมนั้นๆ ตามด้วยงานดีไซน์ ตั้งแต่แพคเกจ การเลือกบรรจุภัณฑ์ที่จะใส่สกินแคร์ รวมถึงการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับตราสินค้า โดยเน้นเรื่องการสร้างแบรนด์สินค้า ตั้งแต่การวางตำแหน่งสินค้าทางการตลาด การกำหนด และการอธิบายกลุ่มเป้าหมายในแต่ละกลุ่มตามที่ลูกค้าต้องการและอยากจะอยู่ ณ จุดนั้นๆ รวมไปถึงการผลิตลงในบรรจุภัณฑ์หรือการเลือกขวดและกระปุกบรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสมกับสกินแคร์ของลูกค้า ยังมีส่วนของการช่วยวางแผนค่าใช้จ่ายให้อย่างรัดกุม ทำให้ลูกค้าประหยัดต้นทุนอย่างสูงสุด และมองถึงอนาคตที่ทำให้ลูกค้าได้มาซึ่งกำไร ต่อจากนั้นยังมีงานบริการในด้านการตลาดเพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการสื่อสารทางการตลาดกับกลุ่มเป้าหมาย การกระจายสินค้า การช่วยหานางแบบในการโฆษณา การจัดงานอีเวนท์ พูดง่ายๆเป็นการสื่อสารทุกรูปแบบ ทั้งหมดนี้เป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มอย่างสูงสุดให้กับลูกค้าOBEMทุกระดับกับQUALITY PLUS

2. มีมาตรฐานการผลิตสกินแคร์แบบแบรนด์ชั้นนำ ซึ่งมีการทำงานร่วมกับLABของบริษัทผู้นำนวัตกรรมชั้นสูงเพื่อการผลิตสกินแคร์จากประเทศญี่ปุ่น

          QUALITY PLUSทำงานร่วมกับบริษัทแลบฯใหญ่ๆทางญี่ปุ่น 3 ที่ โดยทางแลบฯญี่ปุ่นจะเป็นคนคิดค้นสูตรใหม่ๆขึ้นมา โดยการเริ่มใช้นวัตกรรมเทคโนโลยีใหม่หรือการสกัดส่วนผสมใดๆก็ตาม และส่งให้ทางQUALITY PLUSเป็นผู้ผลิต หรือแม้แต่การหางานวิจัยรับรองส่วนผสมหรือสารสกัดนั้นๆที่ลูกค้าต้องการก็สามารถทำได้ รวมถึงทางญี่ปุ่นเองยังมีการหาข้อมูลเกี่ยวกับความปลอดภัย [Safety] ในการใช้งานของผลิตภัณฑ์นั้นๆด้วย การทำงานร่วมกับบริษัทแลบฯของทางญี่ปุ่นก็จะมีในเรื่องการแพทย์ การหาข้อมูลวิจัยต่างๆมาสนับสนุนส่วนผสมหรือสารสกัดต่างๆที่เป็นทั้งสูตรพื้นฐานของQUALITY PLUSหรือเป็นสูตรพื้นฐานที่คิดค้นขึ้นมาใหม่

3. ดำเนินงานในระบบ Project Management ด้วยบุคลากรมืออาชีพที่สามารถให้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวสินค้า และเป็นที่ปรึกษาวางแผนต้นทุนและการตลาดทุกในขั้นตอน

Project Management System : ระบบนี้เป็นเอกลักษณ์ของ QUALITY PLUS เป็น signature ของบริษัท แตกต่างจากโรงงานที่มีแค่เซลล์ให้ข้อมูลในเรื่องของรายละเอียดข้อมูลเกี่ยวกับตัวผลิตภัณฑ์และบริการเท่านั้น แต่ระบบนี้จะเน้นให้ข้อมูลเชิงลึกของทุกส่วนแบบ 360 องศา ตั้งแต่เริ่มต้น จนจบ จนถึงพัฒนา ผลิต ขายใหม่ โดยมีการนำเสนอออกมาเป็นรายละเอียดที่ชัดเจนเห็นภาพเข้าใจง่ายในทุกขั้นตอน

ระบบProject Management ประกอบด้วย

  • Product Information

          การเจาะลึกถึงข้อมูลผลิตภัณฑ์และรายละเอียดผลิตภัณฑ์ที่เราจะผลิตขึ้น 

  • Ingredient Information

          ให้ข้อมูลเชิงลึกในเรื่องของส่วนผสมและสารสกัดพร้อมทั้งงานวิจัยรับรองของส่วนผสมหรือสารสกัดแต่ละตัว ยกเว้นแต่ว่าถ้าลูกค้ามีสารสกัดหรือส่วนผสมที่ยังไม่เคยมีใครทำมาก่อนในประเทศไทย ก็สามารถให้ทางเราเป็นผู้เก็บส่วนผสม ข้อมูลแต่ละอย่างที่ลูกค้าต้องการมาสกัด ทดสอบ และเก็บข้อมูลเพื่อดูประสิทธิภาพนั้นๆได้ หลังจากนั้นก็สามารถให้ทางเราไปขึ้นเลขทะเบียนจดแจ้งได้

  • Cost Planning

          ทางเราก็มีในเรื่องของการวางแผน ต้นทุนค่าใช้จ่าย แบ่งเป็นค่าใช้จ่าย 2 ส่วน 1. Fix cost ต้นทุนคงที่ ที่ค่าใช้จ่ายตายตัว เช่น การขึ้นทำเบียนเครื่องสำอางจดแจ้งอย. การจดลิขสิทธิ์แบรนด์โลโก้ ค่าใช้จ่ายงานดีไซน์ จ่ายครั้งเดียวจบ 2. Variable costs ต้นทุนผันแปรซึ่ง QUALITY PLUS เราใช้เครื่องมือเฉพาะทางอุตสาหกรรมของเรามาวิเคราะห์ว่า การผลิตหนึ่งสินค้าที่จะเกิดขึ้นได้ ต้องประกอบไปด้วย เช่นแจกแจงออกมาแล้ว มีทั้งตัวครีม เนื้อครีม ตัวกระปุก งานสกรีน ตัวกล่อง FDA สติ๊กเกอร์ ฯลฯ เราจะคำนวณรายละเอียดพวกนี้ลงใน Excel และเปิดอธิบายรายละเอียดให้กับลูกค้าอย่างชัดเจน ว่าการลงทุนครั้งแรกในหนึ่งโปรเจคต้องใช้เงินลงทุนในก้อนไปกี่บาท แล้วคิดออกมาเป็นแต่ละส่วน พร้อมทั้งวางแผน MARKETING ว่าถ้าใช้ต้นทุนของชิ้นนึงประมาณกี่บาทแล้วถ้าลงสื่อทำโฆษณา [advertising] ต้องขายกี่ชิ้นถึงจะคุ้มทุน จะวิเคราะห์จุดคุ้มทุนให้ดูถ้าลูกค้าตกลงกับงบประมาณการลงทุนและพร้อมที่จะทำจริง และมีอีกหลายส่วนที่สำคัญ เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น อยากให้ลูกค้าลงทุนให้คุ้มค่าที่สุด และ อยากให้คำปรึกษาอยากเต็มที่เพื่อปกป้องและดูแลผลประโยชน์ของลูกค้าทุกองค์ประกอบ

  • Branding Information

          เราก็จะให้ข้อมูลในเรื่องของการสร้างแบรนด์ สำคัญมากเพราะเป็นจุดที่ทำให้เรามีเอกลักษณ์ แตกต่าง และ เป็นที่จดจำ สุดท้ายจะสามารถเป็นมูลค่าเพิ่มในการทำสกินแคร์แบรนด์ตัวเองระยะยาว ให้คำปรึกษาตั้งแต่ในเรื่องของการวางตำแหน่งสินค้า การเลือกตลาด การให้ข้อมูลเกี่ยวกับตลาดนั้นๆ พฤติกรรมของผู้บริโภค รวมจนถึงการปรึกษาหารือและสรุปให้ลงตัวก่อนการทำสกินแคร์ขึ้นมา มีการวางระดับตำแหน่งแบรนด์ในตลาด การคิดบุคลิกภาพของแบรนด์ การคิดmood&tone ให้กับแบรนด์ โดยทางQUALITY PLUSจะมีตารางตัวอย่างให้ลูกค้าเห็นภาพว่าจะวางตำแหน่งตราสินค้าของตัวเองไว้ส่วนไหนของตลาด ยกตัวอย่างให้เห็นภาพ เช่น ลูกค้าต้องการมี BRAND และ คุณภาพคล้ายแบรนด์XXX ก็จะต้องอธิบายให้ลูกค้าเห็นภาพ concept ของ XXX แน่นอนก็จะสไตล์ natural ส่วนบุคลิกภาพของแบรนด์ หรือ Brand Personality ก็เปรียบเสมือนเป็นผู้หญิงวัยทำงาน ที่รักสวยรักงามตั้งแต่หัวจรดเท้า รายได้ปานกลาง ชอบความแปลกใหม่ และ กล้าที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง กล้าลองอะไรใหม่ๆอยู่ตลอดเวลา สังเกตุได้จาก XXX ชอบออก COLLECTION ใหม่อยู่ตลอด พอลูกค้าเห็นภาพรวม เข้าใจของธรรมชาติของตลาดที่ตัวเองต้องการก่อนเป็นอันดับแรก จากนั้น เราถึงค่อยวางแผนของตัวสินค้าเป็นลำดับต่อไป ถ้าลูกค้าไม่รู้ตัวเองอยากให้แบรนด์ออกมาเป็นแบบไหนก็ไม่ต้องห่วง ทางเรามีตลาดการทำตัวอย่างในเรื่องการวางตำแหน่งตราสินค้าไว้ให้ดูเรียบร้อยแล้ว ส่วนถ้าลูกค้ามีความต้องการลึกถึงขั้นอยากลงงบประมาณทุ่มไม่อั้นลงสื่อ จ้างดารา เช็คฮวงจุ้ยทุกขั้นตอน QUALITY PLUS ก็จะมีบริษัท ALL IDEA STUDIO บริษัทในเครือ ทำเรื่องสื่อ รวมถึงการออกแบบ การเลือกสีสันทุกอย่างรวมไปถึงการดูดวง หรือ ฮวงจุ้ยเลย

  • Margketing

          QUALITY PLUS จะมี2บริษัทในเครือ บริษัท BEAUTY AT HOME ให้บริการเรื่องช่องทางการกระจายสินค้า และ บริษัท ALL IDEA STUDIO ให้บริการด้านการวางแผนและทำการติดต่อลงสื่อให้เพื่อให้เกิดการสื่อสารข้อมูลของแบรนด์ ข้อมูลของตัวผลิตภัณฑ์ไปยังผู้บริโภค กระจายตามสื่อต่างๆทุกช่องทางที่เข้าถึงผู้บริโภค หรือ สื่อที่ลูกค้าต้องการ ไม่ว่าจะเป็นสื่อ above the line หรือ below the line หรือจะเป็น online ก็ตาม เช่นการทำ BELOW THE LINE อย่างสื่อ EVENT / การหา PRESENTER / BRAND AMBASSADOR การทำสือ ONLINE  อย่าง FACEBOOK /  SEO / WEBSITE / YOUTUBE CHANNEL  ได้หมด

  • Consulting Skill

          ทางเรามีบริการให้ข้อมูลครบวงจรในเรื่องของการพัฒนาตราสินค้าทั้งหมด หรือการวางแผนทุกส่วนอย่างครบวงจร อีกทั้งมีในเรื่องของการตั้งชื่อแบรนด์ด้วย

  • Creative Skill

          เราก็จะมีในเรื่องของการดีไซน์ออกแบบpackaging การเลือกบรรจุภัณฑ์ใหม่เหมาะกับตราสินค้า พิมพ์กล่อง พิมพ์สติ๊กเกอร์ งานสกรีน การทำสื่อโฆษณา แบรนด์เนอร์ต่างๆถ้าลูกค้าต้องการ  

  • Timeline Planning

          เครื่องมือการวางแผนในเรื่องของตารางเวลาการวางแพลน เช่น เราวางแผนในเรื่องของกระบวนการผลิตสินค้า ระยะเวลาในแต่ละขั้นตอน การทำงบประมาณขึ้น ประมาณการระยะเวลาของการได้มาซึ่งกำไร ระยะเวลาการใช้สื่อโฆษณา ประชาสัมพันธ์แต่ละแบบ ฯลฯเพื่อให้ทุกอย่างเป็นไปตามเป้าหมายในระยะเวลาที่ตั้งใว้ ถ้าคลาดเคลื่อนยังไง จะได้วางแผนปรับแก้ และ พัฒนาในจุดที่ต้องปรับต่อไป

 

[ มาล้วงความลับ QUALITY PLUS ไปกวนครีมหลังบ้านมาแข่งดีฝ่า ออกแบรนด์ “เอิ๊กกวนครีม” ]

การผลิตสูตรสกินแคร์ที่เป็นแบรนด์ตัวเอง มีให้ลูกค้าเลือก 3 แบบ
1. STANDARD FORMULA : สูตรมาตรฐาน
คือสูตรที่QUALITY PLUSกับแลบฯที่ได้ทำงานร่วมกัน นั้นได้คิดค้นมาแล้วว่าเป็นสูตรที่มีประสิทธิภาพและมีงานวิจัยจากต่างประเทศที่รับรองในแต่ละสารสกัดสำคัญเหล่านั้น พร้อมทั้งสารสกัดทุกตัวได้รับการจดแจ้งเลขอย. เรียบร้อยแล้ว และ สารสกัดทุกตัวมีงานวิจัยจากต่างประเทศรับรอง
2. NEW DEVELOPMENT FORMULA : สูตรพัฒนา
คือ สูตรมาตรฐาน + สูตรความต้องการของลูกค้าเอง หรือสูตรความต้องการของลูกค้าที่อยากจะเพิ่มสารสกัดสำคัญอะไรบางอย่างลงไป เพื่อต้องการให้แตกต่างจากสูตรมาตรฐาน อีกทั้งเพื่อให้มีความเป็นสกินแคร์ของตัวเองและเพื่อความเป็นหนึ่งเดียว และเอกลักษณ์มากยิ่งขึ้น หรือจะให้ทางQUALITY PLUSคิดค้นหรือพัฒนาสูตรใหม่ขึ้นมาเพื่อตอบสนองความต้องเฉพาะก็ได้เหมือนกัน
3. INTERNATIONAL FORMULA : สูตรที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ
คือ เป็นสูตรที่คิดค้นและนำเข้ามาจากต่างประเทศ อยาก QUALITY PLUS จะมี LAB ที่ญี่ปุ่น และ เกาหลี ให้ทางนั้นคิดสูตรส่งมาผลิต หรือ ผลิตให้เสร็จจากประเทศที่ต้องการ แล้วนำมาแบ่งบรรจุในไทย ราคาก็จะขึ้นอยู่กับสารสกัด ส่วนผสมที่ใช้ด้วยสามารถบอกความต้องการเพิ่มเติมได้ ส่วนผสมและสารสกัดทั้งหมดนำเข้าจากต่างประเทศทุกตัว [ยกเว้นอยากได้สารสกัดจากประเทศไทยก็ทำได้เช่นกัน] 
การผลิตสีสกินแคร์ที่เป็นแบรนด์ตัวเอง มีให้ลูกค้าเลือก 3 แบบ
* สูตรมีทั้งเน้นเป็นสารสกัดจากธรรมชาติ หรือ ส่วนผสมสังเคราะห์ก็ทำได้ รวมถึงเลือกสี และ กลิ่น ของสกินแคร์ จะเลือกแบบธรรมชาติ หรือ สังเคราะห์ก็ได้อีกเช่นกัน
 
QUALITY PLUS รับผลิตสกินแคร์บำรุงผิว แก้ไขปัญหาผิวด้านใดบ้าง ?
ANTI-AGING : ลดเลือนริ้วรอย ชะลอวัย
MOISTURIZER : ให้ความชุ่มชื่น ให้ความสมดุลของน้ำหล่อเลี้ยงผิว
SOOTHING : ปลอบประโลม ลดการอักเสบของผิว
LIGHTENING : ให้ความกระจ่างใส หรือ ช่วยยับยั้งเม็ดสีเมลานินทำให้ผิวมีสีอ่อนลง
ANTI-POLLUTION : ปกป้องผิวจากมลภาวะที่อันตราย เช่น แสงแดง
PLUMPING : ยกกระชับผิว
HAIR CARE : ดูแลเส้นผม
รวมไปถึงกลุ่มผลิตภัณฑ์เหล่านี้
สารสกัดแบ่งออกมี 4 ประเภทที่ให้บริการ
1. สารสกัดจากพืชที่นำเข้าจากประเทศในแถบยุโรป
2. สารสกัดจากสัตว์ที่นำเข้าจากประเทศในแถบยุโรป
3. สารสกัดจากงานวิจัยในประเทศญี่ปุ่น
4.สารสกัดจากสมุนไพรไทย
[ เด็กหญิงเอิ๊กก็สนุกตามเรื่องตามราว วิชาวิทยาศาสตร์ไม่ค่อยเรียนตอนเด็ก คุณแตงไทยทีม
R&D มาผสม EYE GEL ให้เล่น ตื่นเต้นใหญ่ ]
สินค้าผลิตแล้วจะขายใคร ?
          ในพาร์ทนี้เป็นส่วนหนึ่งงของMarketing ในระบบ One Stop Service ของQUALITY PLUS ซึ่งบริษัทที่คอยกระจายสินค้าให้ โดยเป็นบริษัทในเครือชื่อว่าบริษัท บิวตี้โฮมมาร์ท เเบ่งเป็น 2 ส่วนคือ
  1. Home Dealer หาตัวแทนจำหน่าย
  2. Affiliated Marketing เป็นระบบนิยมมากในต่างประเทศ เพราะแค่มีคอมก็สามารถทำงานอยู่ที่บ้านได้ หลักคือ มีการแจกลิงค์ให้กับคนที่สมัครโปรแกรมซึ่งจะเป็นลิงค์ที่มีรหัสเฉพาะแตกต่างกันไป หากลิงค์ไหนมีคนคลิกเข้าไปแล้วซื้อสินค้าจากลิงค์นั้น ลิงค์นั้นก็จะได้รับเงินเป็นส่วนแบ่งเปรียบเสมือนค่าคอมมิชชั่น
 
มาถึงคำถามที่เอิ๊กถามแทนผู้บริโภคทุกคน และ ถามให้ตัวเอิ๊กเอง หากวันใดวันนึงเราเปลี่ยนใจ เอิ๊กคงมาใช้บริการที่นี่ เพราะเอิ๊กโดนเค้าปิดการขายตั้งแต่ข้อมูลที่เขามีให้เอิ๊กด้านบนแล้ว เพียงแต่เอิ๊กอยากเก่งกว่านี้ เอิ๊กอยากรู้ทุกเรื่องด้วยเฉพาะส่วนผสม สารสกัดด้วยตัวเองก่อน เอิ๊กชอบหาข้อมูล อีกอย่างเอิ๊กอาจจะทนรับสภาพ หากมีลูกค้าคนใดคนหนึ่งของเอิ๊กแพ้ไม่ได้ แม้ว่าเอิ๊ก กับ QUALITY PLUS ในอนาคตจะตั้งใจ และ เลือกสิ่งที่ดีที่สุดออกมา แต่ก็ไม่ได้หมายความทุกสิ่งทุกอย่างที่เราทำ จะใช้ได้ถูกจริตกับผู้หญิงทุกคน คำถามทั้งหมดน่าจะบอกถึงความตั้งใจในการเป็นสื่อกลางของเอิ๊กให้มากที่สุด บางครั้งก็ยังอยู่ในฝั่งผู้บริโภค เผื่อวันนึงเขาจะได้ทำแบรนด์ erk-erk ให้เอิ๊ก 😀
ไม่มีความรู้เรื่องการขายของเลยจะทำอย่างไร ?
          ซึ่งเกิดขึ้นเพื่อเติมเต็มความต้องการของลูกค้า ที่ต้องการได้รับคําปรึกษาในเชิงลึกของธุรกิจตัวอย่างเช่นการวางแผนธุรกิจ(อาจเพื่อกู้เงินธนาคารหรือใช้เป็นแนวทางในการดําเนินธุรกิจ)การวางแผนการเงินการวางแผนการตลาดโดยจะมีทีมผู้เชี่ยวชาญของบริษัททําหน้าที่ให้คําปรึกษาแนะนําธุรกจิให้กับลูกค้าอย่างละเอียดมากกว่า Project Management ปกติ บริษัทมีชื่อว่า Consulting and Business Development ที่สามารถให้คําปรึกษาทั้งในเรื่องของการลงทุน วางแผนต้นทุน การตลาด ได้อย่างครบวงจร 

 
สารสกัดที่อยากใช้พัฒนาสูตรแต่ไม่มั่นใจจะขายได้ไหม ใช้ได้จริงรึเปล่า ? 
          QUALITY PLUS มีบริการส่งสารสำคัญที่ต้องการไปสกัดและเก็บผลทำวิจัยในห้องแลบฯ ว่ามันเป็นสารสกัดได้หรือเปล่า มันมีประโยชน์อะไร ใช้ได้ผลจริงไหม นอกจาก QUALITY PLUS จะสกัดสารให้ด้วย ก็จะช่วยค้นหางานวิจัยต่างประเทศเพื่อเป็นการสนับสนุนตัวสารให้ด้วย

[ นวัตกรรมสกินแคร์หลายอย่างของเขา น่าเล่นมาก เช่น เนื้อโคลน เนื้อพุดดิ้ง ] 

เงื่อนไขการผลิตส่วนผสมและสารสกัดสกินแคร์กับ QUALITY PLUS ?

          QUALITY PLUS เน้นในเรื่องของการเป็นผู้นำในนวัตกรรมใหม่ๆ ที่กำลังได้รับความนิยม เห็นผลค่อนข้างรวดเร็ว ชัดเจน และที่สำคัญต้องปลอดภัย จะให้ความสำคัญมากกับnanotechnologyมาใช้ในการผลิต เครื่องที่ใช้ผลิตก็จะเป็นเครื่องที่ดีที่สุด ณ เวลานี้ ปัจจุบันใช้เป็นเครื่องจากทางประเทศอิตาลีซึ่งปั่นเนื้อครีมให้ละเอียดเล็กมากๆเทียบเท่าตัวครีมพื้นฐานก็อยู่ระดับ 1 ไมครอน เพราะเทคโนโลยีการผลิตเหล่านี้จะทำให้เนื้อของสกินแคร์ซึมเข้าสู่เซลล์ผิวได้ดีกว่ามาก รวมถึงการทำให้ส่วนผสมของสกินแคร์มีอนุภาคที่เล็กมากอย่างเทคโนโลยี liposome 

[ เทส เบสปรับสีผิว อุ๊บร๊ะ ผ่องยองใย อย่าให้โดนแสง ออร่าพุ่ง เขาบอกมา 555 ]

ผลิตแล้วจะผ่านอย.ยากไหมต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง ?

          QUALITY PLUS มี FDA special list เป็นเจ้าหน้าที่สำหรับดูแลเรื่องการจดแจ้งสกินแคร์ให้โดยเฉพาะ ก็จะเริ่มจากการตรวจสอบ ตรวจทานให้เรียบร้อยก่อนถึงยื่นแจ้ง ป้องกันการตีกลับ หรือ โดนเอกสารจากทางอย.ว่า over claim ก็จะดูตั้งแต่การตั้งชื่อ ฉลาก รายละเอียดสำคัญที่ต้องระบุลงไปในสกินแคร์ รวมถึงเอกสารต่างๆให้ครบก่อนยื่น 

 

 

 

QUALITY PLUS  / ALL IDEA STUDIO /  BEAUTY HOME-MART / CONSULTING 4 บริษัทหัวใจหลัก

 

          เพื่อรองรับการเจริญเติบโตของลูกค้าที่เข้ามามีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จึงเกิดการพัฒนาธุรกิจเริ่มต้นจาก TRADING ก็ปรับเป็น OBM ซึ่งมีบริษัทในเครือมารองรับการให้บริการให้ครบวงจร เป็นการแตกบริษัทให้เป็นความเชี่ยวชาญเฉพาะเจาะจงมากขึ้น ทั้ง 4 บริษัท ทั้งหมดทำงานในเครือเดียวกัน เพียงแค่แต่ละบริษัทก็มีหน้าที่แยกไปทำเฉพาะของแต่ละฝ่าย ซึ่งเจ้าของมีหุ้นส่วนร่วมกัน โดยหุ้นส่วนแต่ละคนก็มีส่วนศูนย์กลางที่เป็นความรับผิดชอบของตัวเองไปดูแล 

QUALITY PLUS : การผลิตสินค้า

ALL IDEA STUDIO : การวางแผนสื่อ การออกแบบ การทำอีเวนท์ การหาแบบโฆษณา และออกแบบPackaging

BEAUTY HOME MART : การหาตัวแทนจำหน่าย การเพิ่มช่องทางการจำหน่ายทางออนไลน์

CONSULTING BUSINESS & DEVELOPMENT : ให้คำปรึกษาเชิงลึกของธุรกิจทั้งระบบ เช่น ด้านการตลาด การลงทุน การสร้างแบรนด์ การตั้งชื่อ

 

มีวิธีการหาลูกค้าแบบไหน หรือ ทำยังไงให้ลูกค้ารู้จัก QUALITY PLUS

          BUZZ MARKETING หรือ การตลาดปากต่อปาก ซึ่งส่วนใหญ่ลูกค้าก็ประสบความสำเร็จกันมาก กับการทำธุรกิจทางอินเตอร์เน็ต เรียกได้ว่าเป็นหัวใจหลักของการทำการตลาดยุคดิจิตอลนี้ ก็จะชวนเพื่อนมา และ อาจจะมีเข้าร่วมสัมมนาเกี่ยวกับธุรกิจอุตสาหกรรมเครื่องสำอางเพื่อแลกเปลี่ยน connection กัน และ มีเว็บไซด์ให้รายละเอียดชัดเจน

 

สารสกัด หรือ ส่วนผสมที่บอกว่าหางานวิจัยมารองรับให้ลูกค้าเสมอ อยากทราบว่ามีวิธีการวิจัยแบบไหนบ้าง

          ถ้าในส่วนของสารสกัดขั้นตอนแรกต้องดูในเรื่องของการตลาด หรือ กระแส ว่าตัวไหนสามารถทำการตลาดได้ก่อน และ มีผลการวิจัย สนับสนุนไหม ในส่วนนี้มันจะมีชื่องานวิจัยทางด้านพฤกษาศาสตร์ที่สามารถ search แบบ worldwide ทั่วโลกได้ ว่าพืชชนิดนี้เคยมีการทำวิจัยไว้อย่างไร ถ้ามีสารสกัดที่ใกล้เคียงกัน มีผลงานวิจัยเหมือนกัน ก็จะนำมาเทียบเคียงสารสกัดที่สำคัญว่าตัวไหนมีมากกว่า ก็จะเลือกนำมาสกัดและผลิตเพื่อจัดจำหน่ายได้เลย หรือ ถ้าลูกค้ามีความต้องการให้สกัดสารจากพืชชนิดไหนที่ยังไม่เคยมีใครทำมาก่อน ทาง QUALITY PLUS ก็มีบริการเก็บ เฝ้า จดบันทึกระยะเวลาที่เก็บชนิดของสารที่จะนำมาสกัดให้ ต้องคอยควบคุมตัวแปรให้คงที่ตลอด และดูว่าเมื่อไหร่ที่สามารถสกัดสังเคราะห์สารที่เราต้องการออกมามากที่สุด ก็จะทำการสกัดให้เหมาะ พอดีเวลาที่สุด หลังจากนั้นจะมีการส่งต่อไปยังผู้เชี่ยวชาญปริญญาเอก ทางด้านนั้น เช่น พืช ก็คือ DOCTOR ทางด้านพฤกษาศาสตร์ ก็จะเฝ้าตรวจดูสารในสิ่งที่เรานำมาสกัดอีกที ถ้าพบว่าตรงกัน ได้สารตามที่ต้องการ ก็จะเข้าสู่ขั้นตอนการนำเสนอให้กับทางลูกค้า เพื่อรอผลิต และ จำหน่ายต่อไป

ส่วนผสมใหม่ที่เกิดขึ้นที่ยังไม่มีงานวิจัย หากลูกค้าต้องการมีการทดสอบกับผิวคนด้วยไหม

          ปกติสารสกัดที่ยังไม่เคยมีใครทำ เราจะส่งตรวจกับหน่วยงานภาครัฐทางด้านกรมวิทยาศาสตร์ เพื่อแสดงความเป็นกลาง และ ทำอย่างถูกต้อง มีจรรยาบรรณ น่าเชื่อถือ ในการออกเอกสารการรับรองให้ ก็อาจจะมีส่วนการทดสอบในเรื่องของการแพ้และการระคายเคืองของสารสกัดเป็นหลัก แต่ไม่ถึงกับทำเป็นงานวิจัย เพราะนอกจากต้องใช้ระยะเวลาที่ยาวนาน 2 ปีขึ้นไป ก่อนที่เราจะทดสอบในคนได้ ก็ต้องมีเอกสารรายงานการทำงานวิจัยที่จะต้องส่งให้กรมจริยธรรมของประเทศไทยอนุมัตก่อนว่าสามารถทดสอบกับผิวมนุษย์จริงได้หรือไหม เพราะมันใช้ระยะเวลานาน นักธุรกิจ หรือ พูดกันถึงในแง่การลงทุน ก็ประมาณว่าน้ำขึ้นให้รีบตัก เกิดก่อนดังก่อน มีสิทธิ์ก่อนที่จะอยู่ยาว อยู่ทน อยู่นานกว่า เป็นเรื่องของโอกาส ถ้ามีแล้วส่วนใหญ่คนไทยคือทำเลย  

[ นักเรียนดีเด่นค่ะ บอกเลย ]

QUALITY PLUS นำเข้าสารสำคัญจากที่ไหน 

          ส่วนใหญ่ Active ingrdient จะนำเข้าจากต่างประเทศทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นเสปน อเมริกา ฝรั่งเศส สวิสเซอร์แลนด์ ซึ่งก่อนที่เขาจะนำมาจำหน่าย เขาจะต้องใช้เวลาทดสอบทำงานวิจัยประมาณ 2-3 ปี ก่อนที่เขาจะมาจำหน่ายให้กับทางเรา

 

ทำไมต้องเลือก QUALITY PLUS ในการสร้างแบรนด์ครีมของตัวเอง

          บริษัทที่เน้นมาทำด้านการตลาด การจัดจำหน่ายและการดีไซน์ให้ลูกค้าด้วยในเมืองไทยมีน้อยมาก เรามั่นใจ ส่วนใหญ่ยังคงเป็นในลักษณะของการเน้นระดับการผลิตมากกว่า จะไม่เน้นการสร้างแบรนด์ การพัฒนา การวางแผน การออกแบบทุกขั้นตอนแบบเรา เนื่องจากมันเป็นการดูแลลูกค้าแบบผูกพันระยะยาว ส่วนใหญ่ก็อยากผลิตเป็น JOB BY JOB หรือ ครั้งต่อครั้งจบไป การทำแบบ OBM ดูแลครบวงจร ถามว่าเหนื่อยไหม ต้องมาดูแลลูกค้า ตอบคำถามลูกค้าตลอดเวลา ตลอดอายุชีวิตแบรนด์ของเขา มันก็ต้องเป็นเรื่องของดูแลกันระยะยาว เราต้องช่วยกันพัฒนา วางแผนกันไปตลอด ลูกค้าโตเราโต เราพัฒนา ลูกค้าพัฒนา อย่างที่บอกเป้าหมายเราคือสร้างนวัตกรรมใหม่ๆโดยเทคโนโลยีที่ดีที่สุดในตลาด เราต้องการเป็นผู้นำทางด้านอุตสาหกรรมนี้ เพื่อที่จะก้าวออกไปในระดับสากล เราจึงมองเห็นว่าการที่เราจะก้าวไป มันเป็นพลังของคนกลุ่มเดียวไม่ได้ มันเป็นเรื่องของการรวมตัวระดับประเทศ ผลักดันมันขึ้นไป เราจึงก้าวมาสู่การให้บริการครบวงจรอย่างจริงจัง OBM services be king คือ services ลูกค้าที่ทำแบรนด์ต่างๆ และความสำคัญของมันคือ 1.เราพัฒนาตัวสูตรให้ [ถ้าต้องการไม่มีค่าใช้จ่าย] 2. ช่วยดีไซน์ให้ลูกค้าแตกต่าง มีจุดยืน มีเอกลักษณ์เป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับลูกค้า 3.ส่วนของการตลาดเราให้คำปรึกษา และ หาช่องทางให้ได้อย่างเต็มที่ ส่วนหนึ่งเรามั่นใจ ว่าเราดูแลและรักลูกค้าทุกระดับดีไม่แพ้ใคร และ เราพัฒนาตัวเอง รวมถึงเลือกเทคโนโลยีในการผลิตที่ดีที่สุดเพื่อลูกค้าทุกแบรนด์ที่อยู่ภายใต้การดูแลของเรา

 

สมมุติมีลูกค้ามีความต้องการเหมือนกันเข้ามา อยากได้ครีมแบบเดียวกัน จะทำครีมสูตรซ้ำไหม 

          ต้องบอกลูกค้าก่อนว่าสูตรผลิตภัณฑ์มี 3 ประเภท อย่างแรกคือสูตรมาตรฐาน ถ้าเกิดลูกค้าเข้ามาแล้วบอกว่าอยากได้ whitening ก็จะมีสูตร whitening อีกหลายรายการให้เลือก ถ้าลูกค้าเลือกตรงกัน คือลูกค้ายอมรับแล้วว่าทำตัวสูตรมาตรฐานซึ่งเป็นสูตรพื้นฐานที่อาจจะมีคนเลือกใช้เหมือนกันก็ได้ แต่ถ้าเกิดลูกค้าบอกว่าฉันไม่อยากเหมือนใคร ก็ให้ทำเป็นสูตรพัฒนาสูตรที่สอง โดยการพัฒนาสูตร ก็จะแบ่งเป็นสองแบบ คือ แบบที่เคยใช้ครีมต่างประเทศมาเอามาเป็นต้นแบบให้เราพัฒนา กับอีกแบบคือ เป็นความต้องการจากทางลูกค้าอยากให้เราพัฒนาอะไรให้บ้าง สูตรสุดท้าย สูตรที่ทำจากต่างประเทศมา ลูกค้าก็เลือกเลยจะเอาแบบของประเทศไหน ส่วนทางเราก็จะไปเรียงมาที่เป็นส่วนของสูตรต่างประเทศให้ลูกค้าลองทดสอบก่อนถ้าพอใจก็ค่อยไปที่ขั้นตอนต่อไปซึ่งจะเน้นไปทางญี่ปุ่น เกาหลี มองเอเชียเป็นหลักเพราะผิวคล้ายคนไทย และเนื้อผลิตภัณฑ์ก็ยังเลือกได้อีกจะให้ ข้น หนืด เหลว กำหนดได้ที่ / ตัวสารสำคัญก็กำหนดได้สารสำคัญ จะให้ขาว กระชับ ลดริ้วรอย ได้หมดลูกค้าเลือกได้ สีและกลิ่นก็เลือกได้ ธรรมชาติหรือสังเคราะห์ปรับได้หมด และ ถ้าเป็นสูตร 2 หรือ 3 ขึ้นไป สูตรที่พัฒนาทั้งหมด หรือปรับกัน ทางเราจะมีระบบบันทึกว่าสูตรนี้เป็นของลูกค้าท่านนี้ ก็จะไม่ได้รับทำซ้ำ ถ้าเกิดใครมาพัฒนาใจตรงกัน ลูกค้าคนแรกที่เลือกก่อนก็จะได้สูตรพัฒนาตัวนั้นไป ถ้าซ้ำจะไม่ทำเลย ไม่ได้เกี่ยวกับกฎหมายแต่เป็นนโยบายของ QUALITY PLUS รวมถึงในกรณีเปิดเผยข้อมูลลูกค้าที่เป็นแบรนด์อื่น อย่างเช่น ถ้ามีใครถามทำที่นี่หรือเปล่า จะบอกทุกคนในทีม และ ทุกบริษัทในเครือ ว่าเป็นความลับลูกค้าเราไม่มีการเปิดเผย

 

ถ้า QUALITY PLUS เป็นผู้ผลิตรู้ขั้นตอนครบวงจรทุกอย่างมีผลิตแบรนด์ตัวเองจำหน่ายบ้างไหม

          ไม่มีแน่นอน เราจะไม่ทำ house brand เลย  บริษัทในเครือต่างๆ ของเราก็จะแจ้งเลยว่าลักษณะของธุรกิจที่เราทำ เราทำเพื่อสนับสนุนและรองรับลูกค้าที่สร้างแบรนด์เท่านั้น คือ เรามองในเรื่องของการเติบโตในลักษณะที่ถูกต้องตามจริยธรรมด้วยครับ มันไม่มีกฎหมายข้อบังคับว่าห้ามแต่ถ้าเราจะทำอะไรก็ตามในธุรกิจที่เราทำอยู่ให้มันเกิดขึ้นมาแข่งกับลูกค้า สู้เราทำธุรกิจที่ support ลูกค้าเราอีกทีดีกว่า ถ้าลูกค้าเราโต เราคิดในฐานะที่เราเป็นผู้ผลิตเราก็โตด้วย เราจะไม่แข่งกับลูกค้าของเราเอง แต่เราจะผลักดันเขาให้ไปถึงที่สุดที่เขาเป็นได้ ดูแลกันไปตั้งแต่ลงทุนด้วยเงินเพียงเล็กน้อยจนทุกวันนี้ บางแบรนด์เลย 7 – 8 หลักไปแล้ว เราก็ถือว่าเราก็ประสบความสำเร็จด้วยในธุรกิจที่เรายืนอยู่เช่นกัน

 

ความลับของแบรนด์ ลูกค้าจะมั่นใจได้แค่ไหน

          ถามว่าถ้าฉันจ้าง QUALITY PLUS ผลิตตามข้อกำหนดของอย. ฉลากมันต้องระบุถึงผู้ผลิตอยู่แล้ว คนภายนอกถ้าอ่านเขาต้องเห็น เพียงแต่ว่าเราจะไม่ไปเพิ่มการรับรู้ของผู้บริโภคหรือว่าลูกค้าเจ้าอื่นว่าฉันทำให้แบรนด์นี้ แบรนด์นี้นะ ไม่พูดเลย [ เอิ๊กถามก็ไม่พูด ไม่พูดจริงๆ 555 ] ทั้งที่ไม่ได้มีข้อบังคับ ถ้าเราพูด ถ้าเราใส่เป็น PORTFOLIO ในเว็บว่าเคยมีลูกค้าเป็นแบรนด์ไหนบ้าง ก็อาจจะมีคนมาทำกับเราอีกหลาบแบรนด์ก็ได้ แต่ว่าเราจะไม่ทำ ส่วนผสมเรียกว่าส่วนประกอบของครีมไล่ตั้งแต่มากสุดไปจนถึงน้อยสุดของผลิตภัณฑ์ยังไงก็ต้องบอก สิ่งที่จะไม่รู้คืออัตราส่วนแบรนด์ไหนใส่เท่าไหร่ก็เท่านั้น

 

ที่บอกว่าQUALITY PLUSดูแลลูกค้าทั้งหมด จนถึงขั้นหาช่องทางกระจายสินค้าเพื่อจำหน่าย มีบ้างไหมที่ลูกค้าขายสินค้าของเขาไม่ได้

          ต้องอธิบายก่อน บริการของเรามีครบวงจรจริง แต่ทุกส่วนไม่ได้บังคับให้ลูกค้าซื้อบริการเราทั้งหมด เพราะฉะนั้นเราจะแบ่งค่าใช้จ่ายในการใช้บริการเป็นส่วนๆ ลูกค้าสามารถเลือกซื้อบริการที่เขาต้องการเฉพาะได้ ลูกค้าบางคนเก่งออกแบบ มีช่องทางจำหน่ายสินค้าอยู่แล้ว เขาก็อาจไม่ได้พึ่งเรา เท่าที่ผ่านมาเราเติบโตขึ้นกว่า 500% กลับมาให้เราผลิตซ้ำประมาณ 80% ส่วนตัวถือว่า QUALITY PLUS success แต่ไม่ได้หมายความว่าอีก 20 % ไม่ได้สั่งเลย ก็อาจจะมาสั่งซ้ำ เพียงแต่เว้นช่วงไปยาวกว่า ซึ่งอัตราการสั่งซื้อก็ยังมีอยู่ครับ

 

มีลูกค้าที่เลิกทำไหม สาเหตุคืออะไร

          มี 1 เคสที่บอกว่าอยากทำตลาดเพิ่ม แต่ว่ามีปัญหากับหุ้นส่วน เขาบอกว่าเดี๋ยวเขาจะมาขอเริ่มตลาดใหม่โดยเป็นแบรนด์ใหม่แบรนด์นึงเลย ก็เป็นเหตุผลส่วนตัวของทางลูกค้าเอง 

 

ลูกค้าเริ่มต้นต้องมีเงินทุนประมาณเท่าไหร่ 

          ถามว่าเรารับลูกค้าทุกระดับไหม รับแต่ทุกระดับก็จะมีขั้นต่ำในการผลิตของแต่ละส่วน ไม่ว่าจะเลือกสูตรในการผลิตแบบไหนทางเราจะขอต้นทุนเพื่อให้ดู และ วิเคราะห์ให้ ว่างบประมาณเท่านี้จะสามารถลงทุน และ ได้บริการอะไรบ้าง ก็จะเลือกเอาที่จำเป็นที่ต้องมี หรือ ต้นทุนคงที่เป็นหลักสำหรับคนที่งบน้อย 50,000 ก็สามารถสั่งผลิตได้แล้ว แต่ถ้าต้องการใช้บริการครบวงจรจะอยู่ที่ประมาณ 200,000 บาท เรียกว่านำเงินลงทุนมาซักก้อน พร้อมกับฝันได้เลย ทางเราก็จะให้คำปรึกษาตั้งแต่ต้นจนจบ และ ระหว่างทาง หรือ ตามแต่ลูกค้าต้องการจะปรึกษา ลูกค้าส่วนใหญ่ประมาณ 80%  จะเริ่ม 1 โปรเจค กับเราประมาณ 100,000 บาท เพราะจริงๆมันก็สัมพันธ์กับเรื่องของตัวตลาดที่ทางลูกค้าเลือกต้องการกลุ่มเป้าหมายที่มีฐานรายได้แบบไหน รสนิยมแบบไหน เราก็ต้องเลือกใช้ตั้งแต่วัสดุ ตัวกระปุก มันก็ต้องเป็นไปตามความเหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายของเรา เช่น ถ้าเราเลือกตลาดประมาณ C ถึง C+ รายได้พอมีพอใช้ อาจมีซื้อของใช้ส่วนตัวบ้างนิดหน่อย ก็อาจจะใช้บรรจุภัณฑ์แบบพลาสติกก็ได้ กระปุกนึงก็ประมาณแค่สิบบาทก็จะไม่แพงมาก ทางเราจะมีตารางราคาให้ลูกค้า เลือกใส่ได้ตามงบประมาณที่เขามี และ ให้คำปรึกษาทางเลือกที่เหมาะสบกับงบประมาณเขา อย่างเต็มที่ที่สุด ยังไงก็แล้วแต่งบน้อยก็ทำได้ เพียงแต่อยากให้เข้าใจว่าเกรดของครีมมันก็ผันแปรไปตามงบประมาณที่เรามี โดยถ้าลูกค้ามีงบน้อย แต่อยากจ่ายแพงในส่วนที่เราคิดว่ามันอาจจะทำให้เขาขาดทุนแน่นอนอยู่ก็จะบอกลูกค้าตรงๆ ว่าทำไม่ได้กำไรแน่ๆ ก็จะไม่ทำให้กับลูกค้า เพราะเราไม่สนับสนุน ถ้าทำแล้วไม่ดี ขาดทุน แบรนด์เขาไม่ประสบความสำเร็จเราก็ไม่ทำให้ เพราะเราอยากให้ทุกแบรนด์ที่เกิดจาก QUALITY PLUS ประสบความสำเร็จ มีเงินเท่าไหร่เข้ามาปรึกษาได้ก่อน เรายินดีบริการให้ฟรี

 

จุดที่ยังพัฒนาและจุดด้อยของบริษัทมีอะไรบ้าง

          อาจจะเรียกว่าเป็นความยังไม่พร้อมของทางบริษัทดีกว่า เพราะว่าจุดด้อยมันอาจจะอยู่กับเราตลอดไปด้วย ขณะนี้มีเรื่องสเกลของโรงงานที่ยังไม่ใหญ่มากพอรองรับลูกค้าที่กำลังจะเข้ามา รวมถึงสเกลธุรกิจเราก็กำลังจะพัฒนาให้ใหญ่เพื่อเป้าหมายระดับอาเซียน เราวางแผนทำตลาดต่างประเทศอยู่ตอนนี้ ดังนั้นตอนนี้คงเป็นเรื่องของการพัฒนาในเรื่องของกำลังการผลิต ซึ่งกำลังพัฒนาอยู่โดย QUALITY PLUS มีทีมที่ปรึกษาสำหรับการพัฒนาอุตสาหกรรมเข้ามาวิจัยทัศน์วิสัยและปรับปรุงการผลิตขึ้นใหม่เพื่อให้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้น ตอนนี้เราก็เลยขยายกำลังการผลิตได้มากขึ้น และ กำลังจะสร้างโรงงานใหญ่ขึ้นมาเร็วๆนี้ เพื่อมารองรับฐานตลาด แล้วอีกส่วนหนึ่งที่ยังไม่พร้อมจะมีในเรื่องของ ตอนนี้ลูกค้าคิวยาวมาก ทีม R&D ก็ทำงานหนัก ในส่วนของการพัฒนาสูตร วิธีทำมันอาจจะยุ่งยากและขึ้นอยู่กับประเภทด้วย อนาคตประมาณสิ้นปีเดี๋ยวจะทำเป็น LAB ครบวงจรขนาดใหญ่ ซึ่งจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการ[ ส่วนตัวเอิ๊กมองเห็นอีกข้อในเรื่องของการนำแบรนด์เข้าสู่หลักการวิจัยทั้งส่วนผสมที่เมื่อนำมาปั่นเข้ากัน ว่ามันมีผลลัพธ์ออกมาวัดได้แค่ไหน เนื่องจากเหตุผล นักธุรกิจคนไทยก็ไว ลงทุนเร็ว จากจุดที่กระแสแรง เพื่อให้ได้กำไร ณ จุดนั้นมา ยังไม่มีใครยอมรอให้แบรนด์ตัวเองออกช้ากว่านี้ประมาณ 2-3 ปีโดยทดสอบเหมือนต่างชาติ ที่อาจจะใช้ผิวพรรณมนุษย์จริงๆ เขารอให้มันวัดผลได้เป็น % จริงๆ แล้วถึงเปิดตัวอย่างเป็นทางการ แต่ไม่ใช่ว่า QUALITY PLUS ทำไม่ได้ เพียงแต่ถ้าพูด ณ ตอนนี้ แบรนด์ที่เขาถืออยู่ทั้งหมด ก็ยังไม่มีแบรนด์ไหนยอมเสียเวลาเข้าทำงานวิจัย เพื่อเผยแพร่ให้เป็นที่ยอมรับระดับสากล เนื่องจากไทยทำ ไทยใช้เอง ก็หวังว่าวันนึงจะมีซักแบรนด์ที่คิดจะไปไกลมากกว่าประเทศตัวเอง และ ยอมอดทนดูสูตรที่พัฒนาและผลิตโดย QUALITY PLUS โดยผ่านกระบวนการเก็บผลทดสอบ มีงานวิจัยออกมาเผยแพร่ให้เห็นถึงระดับ % การเห็นผล แต่งานวิจัยบนโลกก็อาจไม่ตัวแทนของคนทั้งโลก เท่าที่เอิ๊กเคยได้ยินสูงสุดประมาณ 6,000 คน หลากหลายสภาพผิว ]

 


 [ แน่ใจนะคะให้เอิ๊กคน ]

 

 

 

 

 วิธีการทดสอบครีมด้วยตัวเอง [สกินแคร์]

สารห้ามใช้ในเครื่องสำอาง

  1. Hydroquinone (ไฮโดรควิโนน)
  2. Retinoic Acid (กรดวิตามิน  A)
  3. Mercury Compound (ปรอท และสารประกอบของปรอท)
  4. Steroid
  • Betamethasone
  • Betamethasone 17-valerate
  • Dexamethasone
  • Hydrocortisone Acetate
  • Prednisolone
  • Triamcinolone  Acetonide

อย. ได้ให้ข้อสังเกตว่าเครื่องสำอางที่พบสารอันตรายมักให้รายละเอียดบนฉลากไม่ครบถ้วน เช่น ไม่ระบุแหล่งผลิต ครั้งที่ผลิต และวันเดือนปีที่ผลิต ในการเลือกซื้อผู้บริโภคจึงควรระมัดระวัง และควรสังเกตฉลากเป็นลำดับแรก ฉลากที่ถูกต้องจะต้องเป็นภาษาไทย มีข้อความบังคับครบถ้วน ได้แก่ ชื่อและประเภทผลิตภัณฑ์ ส่วนประกอบ วิธีใช้ ชื่อที่ตั้งแหล่งผลิต วันเดือนปีที่ผลิต และปริมาณสุทธิ การซื้อควรซื้อจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ ไม่ควรซื้อเพราะคาโฆษณาเพียงอย่างเดียว

วิธีทดสอบสารต้องห้ามด้วยตัวเอง

1.     ตรวจหาสารไฮโดรควิโนน

ใช้ผงซักฟอกละลายในน้ำปริมาณเล็กน้อย เพื่อให้ได้น้ำผงซักฟอกเข้มข้น หยด หรือป้ายเครื่องสำอางที่สงสัยลงบนกระดาษทิชชูสีขาว แล้วหยดน้ำผงซักฟอกเข้มข้น ลงไปในบริเวณที่หยดหรือป้ายเครื่องสำอาง ทิ้งไว้สักครู่ หากเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล แสดงว่าอาจมีส่วนผสมของไฮโดรควิโนน หรือ ใช้ 0.1 N Sodium Hydroxide Solution หยดหรือป้ายเครื่องสำอางที่สงสัยลงบนกระดาษทิชชูสีขาว แล้วหยด 0.1 N Sodium Hydroxide Solution ลงไปในบริเวณที่หยดหรือป้ายเครื่องสำอาง ทิ้งไว้สักครู่ หากเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล แสดงว่าอาจมีส่วนผสมของไฮโดรควิโนน

2.     ตรวจหาสารปรอท

ทาครีมที่ต้องการตรวจสอบบริเวณข้อพับ หรือท้องแขน แล้วปิดพลาสเตอร์ไว้ 6 ชั่วโมง แล้วแกะออก ถ้าพบว่าสีผิวบริเวณนั้นเปลี่ยนเป็นสีซีดผิดปกติ แสดงว่ามีสารปรอทผสมอยู่

3.     ตรวจสอบสารสเตียรอยด์

ทาครีมที่ต้องการตรวจสอบบริเวณข้อพับ หรือท้องแขน แล้วปิดพลาสเตอร์ไว้ 6 ชั่วโมงแล้วแกะออก ถ้าพบว่าสีผิวบริเวณนั้นเปลี่ยนเป็นสีซีดผิดปกติ แสดงว่า มีสารสเตียรอยด์ผสมอยู่

 

การทดสอบข้างต้น เป็นเพียงการทดสอบเบื้องต้นอย่างง่ายๆ โดยใช้หลักการที่ใช้สารละลายที่เป็นด่าง ทำให้ไฮโดรควิโนนเปลี่ยนสีเป็นสีน้ำตาล แต่เพื่อความชัดเจนแน่นอน ควรใช้ Test Kit ของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ หรือส่งตัวอย่างเพื่อตรวจวิเคราะห์

 

 

 

 

  

การวิเคราะห์เบื้องต้นตัวอย่างครีมที่มีความน่าจะเป็นครีมอันตราย

ผลิตภัณฑ์ที่ 1 ลักษณะทางกายภาพ เนื้อครีมสีน้ำตาลเข้ม มีเม็ดของแข็งสีขาวปนอยู่ ลักษณะดังกล่าวสามารถคาดคะเนได้ว่า เป็นครีมอันตรายที่ผสมสาร Hydroquinone และ สารปรอท เนื่องจากสาร Hydroquinone เป็นสารที่มีความเสถียรต่ำ จึงเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเข้มได้ง่าย ผู้ผลิตที่ผลิตครีมอันตรายจึงมันนิยมปรับให้เป็นสีน้ำตาลเพื่อหลบสีของสารHygroquinone และเม็ดดังกล่าวจากการคาดคะเนน่าจะเป็นสารปรอตเนื่องจาก ปรอทเป็นสารที่ละลายยากจึงทำให้ทำให้เนื้อไม่ละเอียด

ผลิตภัณฑ์ที่ 2 ลักษณะทางกายภาพ เนื้อครีมสีเขียวอ่อน มีเม็ดสีขาวกระจ่ายตัวอยู่ ลักษณะดังกล่าวสามารถคาดคะเนได้ว่า เป็นครีมอันตรายที่ผสมสาร Retinoic Acid  และสารปรอท เนื่องจาก ลักษณะสีเหลืองที่ซึมเข้าฝาบรรจุภัณฑ์น่าจะเกิดจากสาร Retinoic Acid ที่มีสีเหลืองเข้ม และเม็ดที่กระจายอยู่น่าจะเป็นสารปรอทเป็นสารที่ละลายยาก จึงทำให้ทำให้เนื้อไม่ละเอียด

การวิเคราะห์ข้างต้น เป็นเพียงการคาดคะเนเบื้องต้นอย่างง่าย  แต่เพื่อความชัดเจนแน่นอน ควรใช้ Test Kit ของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ หรือส่งตัวอย่างเพื่อตรวจวิเคราะห์

 

ข้อพึงระวังสำหรับผู้ที่ต้องการหน้าขาวเพราะเป็นฝ้า

สังเกตอาการแทรกซ้อนขณะใช้ ถ้ามีอาการผิดปกติให้เลิกใช้ทันที ฝ้ายังไงก็จะไม่หายขาด เมื่อหยุดยาแล้วเป็นใหม่ได้ จึงไม่ควรเสี่ยงหลงเชื่อคำโฆษณา

 

ข้อแนะนำในการใช้เครื่องสำอาง

  • ควรเลือกซื้อผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางจากที่ที่หน้าเชื่อถือและไว้ใจได้
  • ตรวจสอบฉลากให้ครบถ้วน ชื่อแบรนด์ ชื่อสินค้า วันเดือนปีที่ ผลิต หมด อายุ เป็นต้น    
  • ปิดฝากระปุกเครื่องสำอางให้เรียบร้อยเมื่อใช้เสร็จเพื่อป้องกันเชื้อโรค
  • เก็บเครื่องสำอางไว้ที่อุณหภูมิประมาณ 20-25 องศาเซลเซียส
  • แปรงหรือฟองน้ำต้องทำความสะอาดด้วยน้ำและสบู่
  • สำลีหรือพัฟควรจะเลือกแบบใช้แล้วทิ้งเพียงครั้งเดียว
  • ให้ล้างเครื่องสำอางออกให้หมดก่อนนอน
  • หากผิวหน้ามีการติดเชื้อ ก็อาจจะหยุดหรือทิ้งเครื่องสำอางนั้นเสีย เนื่องจากอาจจะมีเชื้อแบคทีเรียในเครื่องสำอาง

 

 

 

QUALITY PLUS เป็นหนึ่งในเจ้าแรกที่นำนวัตกรรม SLEEPING MASK เข้ามาผลิต

ด้วยสโลแกนหน้าเด้งข้ามคืน แบบปลอดภัย ไม่มีสารต้องห้าม 100%

ขายดีถล่มถลายเอิ๊กจึงมีคำถามถามเพื่อทุกคนว่า

มีหมอท่านนึงบอก” สิวสเตรียรอยด์บางครั้งเกิดจากการมาส์คหน้าชนิดนี้เยอะมาก”จริงไหม

ซึ่งเขาก็ตอบด้วยความจริงใจ ทุกคนควรใช้ตามฉลากบอก และที่สำคัญ

มันอาจไม่ค่อยเหมาะกับคนผิวมันซักเท่าไหร่

QUALITY PLUS ใจดีมากให้ SAMPLE มาใช้เยอะมาก

อยากบอกว่าเซรั่มขนตาดีมาก ขนตาเอิ๊กแหว่ง

ดึงเล่นขึ้นเร็วมากกกกกกกกก 5555 กรี๊ดดด ชอบจัง

ขอบพระคุณทุกคนจาก QUALITY PLUS มากค่ะ

โดยเฉพาะคุณวุฒิสำหรับข้อมูลละเอียดมากกกกก

ทีมนี้ออร่ากระจาย ใสกิ๊ก วิงค์ๆ

สัญญาว่าวันใดกล้าที่จะมีแบรนด์เป็นของตัวเอง จะไปให้ดูแลเป็นพี่เลี้ยงให้ค่ะ

คนมึนกับลูกค้าคนนี้หน้าดู ถามอะไรเยอะจริงแม่คุณอยากรู้ไปหมดทุกอย่าง 555

ข้อมูลเพิ่มเติม หรือ รายละเอียดไม่ต้องเกรงใจ

เขาให้คำปรึกษาฟรีโทรไป หรือ LINE ไปได้เลยใจดี ข้อมูลแน่น ไม่ทำไม่ว่าด้วย 😀

แต่เชื่อเถอะว่าฟังปุ๊บ ความฝันอีกหนึ่งอย่างจะผุดเปล่งประกายแบบเอิ๊ก ฮ่าฮ่า

089-056-5651
081-563-3322
www.qualityplus.co.th
info@qualityplus.co.th
LINE : nan_QUALITY PLUS
LINE : wuttokun

http://www.qualityplus.co.th 

https://www.facebook.com/qpaicosmetic

 

Posted in BEAUTY, FACE, SKIN CAREComments (0)

BEAUTY NEWS : Clinique Repairwear Laser Focus Smooths, Restores, Corrects

           

         สวัสดีค่ะ .. หลังจากที่ได้มีโอกาสไปเข้าร่วมกิจกรรมมาร์สหน้ากับทาง Clinique สำหรับผลิตภัณฑ์ตัวฮอตฮิตตัวเดิม   (Clinique Repairwear Laser Focus Wrinkle&Photo Damage Corrector) ที่เด่นในเรื่องของการรับมือปัญหาริ้วรอย ซึ่งนับว่าเป็นปัญหาผิวอันดับต้นๆของเรา ซึ่งทางผู้เชี่ยวชาญของClinique ก็ได้มีการปรับสูตรใหม่โดยเพิ่มเทคโนโลยีล่าสุดเข้าไปในซีรั่มสูตรพิเศษที่ว่านี้ ใหม่ ! กลายเป็น ” Clinique Repairwear Laser Focus Smooths, Restores, Corrects “ ซึ่งเป็นเซรั่มสูตรปรับปรุงใหม่ที่ช่วยรับมือปัญหาริ้วรอยและทำให้ผิวดูเรียบเนียนมากขึ้นกว่าที่เคย

 

โดย 3 จุดเด่นของเซรั่มสูตรปรับปรุงใหม่นี้ คือ

1. Smooths (เรียบเนียน) : เสริมประสิืทธิภาพให้ผิวดูเรียบเนียนยิ่งขึ้น ผิวดูยกกระชับ เส้นริ้วรอยดูจางลง

2. Restores (ฟื้นบำรุง) : เสริมประสิืทธิภาพในการฟื้นบำรุงให้ผิวดูอ่อนเยาว์ เรียบเนียน ผิวนุ่ม ดูสุขภาพผิวดี เส้นริ้ว     รอยดูลดเลือนลง

3. Corrects (ลดเลือนริ้วรอย) : เสริมประสิืทธิภาพการลดเลือนริ้วรอยที่ใกล้เคียงกับการดูแลโดยผู้เชียวชาญด้านผิวพรรณ

 

              เมื่ออายุมากขึ้น การผลัดตัวของเซลล์ผิวเริ่มช้าลง และเซลล์ผิวเสื่อมสภาพก็จะเริ่มสะสมอยู่ที่ผิวชั้นบนสุด ทำให้เกิดริ้วรอยต่างๆที่มองเห็นได้ แต่เมื่อเสริมกระบวนการฟื้นบำรุงผิวตามธรรมชาติให้ ทำงานอย่างเหมาะสมแล้ว ผิวก็จะเนียนเรียบและดูกระจ่างใสขึ้น ซึ่งเซรั่มตัวนี้ ประกอบไปด้วย เทคโนโลยีใหม่ล่าสุด Skin Resurfacing Technology ซึ่งช่วย เสริมการขจัดเซลล์ผิวชั้นนอกที่เสื่อมสภาพอย่างมีประสิทธิภาพและอ่อนโยนเพื่อช่วยเผยผิวที่เนียนเรียบและดูเปล่งประกาย

              หลังจากที่ได้รู้จักกับผลิตภัณฑ์ Clinique Repairwear Laser Focus Serum สูตรปรับปรุงใหม่แล้ว ก็ไปมาร์สหน้ากับทางผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางของทาง Clinique ตามขั้นตอนดังต่อไปนี้

ขั้นตอนที่ 1 : Clear ผิวหน้าด้วย Clinique Cleansing Milk

ขั้นตอนที่ 2 : เช็ดเครื่องสำอางค์ออก ด้วย Clinique Make up Remover

ขั้นตอนที่ 3 : สครับผิวหน้าด้วย Clinique 7 day Scrub Cream สครับตัวนี้ทำให้รู้สึกว่า สิวเสี้ยนหลุดออกไปเยอะมาก จากตอนแรก ผิวจมูกค่อนข้างแข็งมาก เพราะมีสิวเสิ้ยนเยอะ แต่พอทาง Clinique ใช้สครับนวดบริเวณจมูกให้ พอเช็ดออก รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงมากๆ จมูกนิ่ม เกลี้ยง เลย

ขั้นตอนที่ 4 : เพิ่มความชุ่มชื้น สำหรับผิวหน้าที่ค่อนข้างมันด้วย Clinique Dramatically Different Moisturizng Gel

ขั้นตอนที่ 5 : บำรุงผิวหน้าด้วย 3 สูตร ผสมรวมกัน ซึ่งถือว่าเป็นกิมมิกของการมาร์สหน้าครั้งนี้เลย ประกอบไปด้วย ตัวแรก Clinique Ever Better Clinical ตัวที่สอง Clinique Repairwear uplifting และตัวสุดท้าย Clinique Repairwear laser focus

            ความรู้สึกที่ได้รับหลังจากมาร์สหน้าเสร็จ รู้สึกได้ถึงความเนียนของผิวมากขึ้น ผิวลื่นและเต่งตึงกว่าด้วย ผิวหน้าดุช่มชื้นมากขึ้น รู้สึกผิวหน้ามีสุขภาพดีขึ้นมาเลย

 

             สำหรับ Clinique Repairwear Laser Focus Smooths, Restores, Corrects สูตรปรับปรุงใหม่ตัวนี้ เหมาะสำหรับทุกสภาพผิวและทุกวัย (ใช้ทั่วใบหน้าและรอบดวงตาในตอนเช้าและตอนกลางคืนหลังระบบดูแลผิว 3 ขั้นตอน)

 

วางจำหน่ายที่เคาท์เตอร์ Clinique ทั่วประเทศ ในวันที่10 ตุลาคม 2556

และที่ www.clinique.co.th ผ่านการทดสอบการแพ้ และปราศจากน้ำหอม 100%

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

คุณแนน วรรณวิมล สัมมามิตร(แนนซี่)

(ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ของ Clinique)

Tel : 02-624-6029/6031 หรือที่ wsummamit@th.clinique.com

Posted in BEAUTY NEWS, SKIN CAREComments (0)

REVIEW – CUTE PRESS COLOR FANTASY NATURE SHINE LIP BUTTER

 สวัสดีค่ะ บล็อคนี้จะมาโชว์สีสีลิปราคาเบาเบา พร้อม MINI REVIEW ส่วนตัวปากแห้งมาก

ถ้าใครเห็น HOW TO แทบทุกอัน เพราะเอิ๊กขี้เกียจทาลิปมันเอาตรงๆ 5555 รอบนี้ก็มีแห้งบ้าง

จากปากตัวเอง ตัวนี้เนื้อจะชุ่มชื่นมากเพราะ AVOCADO OIL

ซึ่งแน่นอนสรรพคุณ และ วิตามินบำรุงล้นเหลือ 

มาในกล่องแพคเกจสีเงิน ราคาเบ๊าเบา แท่งละ 199 บาท ถ้วน ทั้งนี้ขึ้นกับโปรโมชั่น

อาจจะถูกกว่านี้ บอกได้เลยว่าเหมาะกับสาวไทยมาก เพราะอะไรรู้ไหม โทนสีไม่ฉูดฉาด

ไม่สด หรือ เข้มมาก ทาได้ทั้งนักศึกษา หรือ วัยทำงาน ถ้าใครชอบลิปเนื้อชุ่มและแวววาวเล็กๆ

แท่งลิปสติกมาในสีม่วง เมทาลิคเงาๆ ใสใส พิมพ์ด้วยตัวอักษรและโลโก้สีขาว

N1 – N10 สีจะเป็นโทน ชมพู ส้ม ชมพูอมแดง ประมาณนี้ ขึ้นกับสีปากเดิมด้วยนะคะ

มองด้วยตาเปล่าใกล้เคียงมาก ไม่มีการ PHOTOSHOP แต่อย่างใด

ปากเปล่าซีด แห้ง ลอกนิดหน่อยบริเวณขอบปาก

N1 ชมพูแวววาว มีผสมกลิตเตอร์เล็กน้อย เป็นเพียงสีเดียวที่ผสมจึงดูมุกๆหน่อย

N2 ชมพูอมส้ม สีนี้สุภาพเข้าได้กับทุกสีผิว

N3 ตุ๊กตาบาร์บี้เรียกแม่ 555555 สีชมพูแหววมาก

N4 ส้มอมชมพูพีชสดๆ สีนี้ชอบส่วนตัว ถ้าผิวสว่างทาจะเด่นมาก

N5 สีใกล้เคียงกับ N4 มาก ลองไปปาดเล่นดูค่ะ

N6 สาวผิวสองสีน่าจะสนใจ เพราะโทนน้ำตาลนูดสุภาพค่ะ

N7 น้ำตาลอมส้ม สุภาพเช่นกันค่ะ ทาได้ผิวทุกสี

N8 น้ำตาลอมส้มอ่อน สีนี้เหมาะกับผิวสองสีเช่นกัน สุภาพแบบมีสุขภาพดี

N9 จะแดงชมพูอมส้มเล็กๆสีสดอยู่ ผิวสว่างน่าจะชอบค่ะ 

N10 สีอมส้มเลยทีเดียว ทาได้ทั้งผิวสองสี แต่สีจะสดเหมือนกันค่ะ

ขออภัยที่แสงสว่างไปหน่อยไม่ได้ตัดคลิปที่บ้านนาน – – “

ข้อดี ให้ในเรื่องของราคาที่เป็นเจ้าของได้ง่าย และ ให้ความชุ่มชื่นในระดับนึง เฉดเหมาะกับคนไทย

ข้อด้อย สถานที่ซื้อยังคงต้องเป็นตาม บูท และ ร้านCUTEPRESS อยู่ / ถ้าปากแห้งมากก็ต้องบำรุงเพิ่มอยู่ดี ยังเอาอยู่ไม่หมด 555 ปากเอิ๊กแห้งเกิน

ข้อแนะนำ ส่วนตัวคิดว่าเฉดสีใกล้กันมากเกิน ชอบสีที่โดดแตกต่างเยอะๆ

XOXO

Posted in LIPS, REVIEWComments (0)

ที่สุดของ BEAUTY SECRET ของ BEAUTY BLOGGER 7 ประเทศ

ประสบการณ์ในการทำงานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเอิ๊กในปีนี้เจ้าภาพคือ NO.7

ขอบพระคุณ BOOTS ประเทศไทยมาก ที่เลือกเป็นตัวแทนจากประเทศไทย

 

เพื่อไปแชร์ BEAUTY SECRET ของไทยให้ BEAUTY BLOGGER อีก 6 ประเทศได้รู้จัก

และ เดินทางเข้าร่วมใช้ชีวิตและกิจกรรมของ BOOTS & NO.7 ที่ลอนดอน ประเทศอังกฤษ

ตั้งแต่วันที่ 8-12 กันยายน 2013 ที่ผ่านมา

เอิ๊กเพิ่งถึงไทยวันที่ 13 ช่วงเย็นน็อคยาวเพราะทำงานตั้งแต่เช้ายันค่ำของทุกวัน และ รู้แน่นอน

ว่าจะส่งบล็อคนี้เข้าประกวดในหัวข้อ BEAUTY SECRET เคล็ดลับความงามของแต่ละประเทศ

กิจกรรมทุกวันจะเป็นการแชร์ประสบการณ์ผ่าน SOCIAL MEDIA ที่ BEAUTY BLOGGER

แต่ละคนมีด้วยTAG #SHARETHEFEELING


บล็อคนี้เป็นบล็อคที่เอิ๊กจัดทำขึ้นมาเองไม่ได้มีการว่าจ้าง เพราะเห็นว่าน่าจะเป็นมุมมองที่

ถ่ายทอดให้คนไทยได้เรียนรู้ว่าแต่ละชาติ เขามีความสวยความงาม ที่เป็นเคล็ดลับอะไรของ

ประเทศที่สวยงามของเขาบ้าง บอกตรงๆเอิ๊กเครียดมากกกกกกกกกจะเอาอะไรไปสู้ดี

ต้องขอบคุณแฟนเพจ erk-erk.com เป็นอย่างมากค่ะ

สำหรับคำแนะนำเกือบ 300 ความคิดเห็น

 

เจ้าภาพการเดินทาง ที่พัก อาหาร ยานพาหนะ BOOTS RETAILS INTERNATIONAL

& BOOTS THAILAND เป็นคนจัดการต้องขอขอบพระคุณมา ณ โอกาสนี้ด้วยค่ะ

ห้อง PRESENT จะมีลูกค้าจาก BOOTS / NO.7 / AGENCY

จากอังกฤษเข้าร่วมฟัง และ มีการบันทึกเป็นวีดีโอ คงต้องรอเขาตัดอีกที

จำได้ว่าวันนั้นพวกเราดูงานต้องตื่นตี 5 ไปโรงงาน BOOTS UK และ ไปฐานทัพกำเนิด NO.7

ง่วงมาก เช้าๆ บ่ายๆ ยังเริงร่า แล้วก็เดินๆจนเหนื่อยมาก ขาไปกลับนั่งรถไฟ ร่วม 2-3 ชั่วโมง

ภาพถ่ายกับ 6 BEAUTY BLOGGER จาก นอร์เวย์ สวีเดน ฮ่องกง ดูไบ เนเธอแลนด์ อเมริกา

โรงงานเค้าใหญ่มากมาย ต้องใส่ชุดรัดกุมสุดชีวิต จะว่าไปนี่คือครั้งที่ 2 ที่ได้เข้าโรงงาน

ของแบรนด์ความงามระดับโลก ปีที่แล้วไปเยอรมัน ปีนี้มาอังกฤษ ปลื้มมาก

ตกดึกเราต้องมาเริ่ม PRESENT เอิ๊กแบบจะสลบแล้ว แบบให้เวลามาเตรียมตัว 30 นาที

แบบลงไปนอนตายที่เตียงแล้ว ……

พี่ที่เป็นล่ามส่วนตัวก็มาบอกว่าจะมีคนใหญ่สำคัญ

มาฟัง PRESENT ด้วย เท่านั้นละพี่น้อง กระเด้งตัวขึ้นเติมปาก เติมตาเล็กน้อย

ทำผมลอน และ ถอดสูทออกเหลือ แต่ชุดลุค BUSINESS WOMAN

จั๊มสูทปักเพชรตรงรอบคอ และ แขนยาว ขายาว เป็นตัวแทนคนไทยต้องสง่า

ต้องดูเรียบร้อย และ ดู PROFESSIONAL

ด้วยความมั่นใจกับข้อมูลที่ทั้งทดสอบ

ทั้งอ่าน ทั้งจากคนขาย หรือ คนรอบตัว ครอบครัว หรือ

กระทั่งผู้บริโภคอย่างตัวเราเอง

เอิ๊กนอนน้อยมาก 3 ชั่วโมง แต่ THE SHOW MUST GO ON

เอาละมาเริ่มที่ประเทศแรก 

” DEBBIE ” Deborah Zwiers

BEAUTY BLOGGER ประเทศ NATHERLANDS

Blog : http://www.beautyscene.nl/

Twitter: @mrsbeautyscene

Instagram: mrsbeautyscene 

เธอมากับ ” เบียร์ ”

เธอบอกว่าประเทศเธอ HIT มากนำเบียร์มาหมักผม เพราะทำให้ผมนุ่มมาก มีน้ำหนัก

และเบียร์ยี่ห้อนี้ของประเทศเธอไม่มีกลิ่นเหม็น บางครั้งหมักเบียร์ 30 นาที 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์

แล้วไปตากแดดสีผมของเธอจะออกแดงขึ้น หรือ สีผมอ่อนลงด้วย

รวมถึงทาตัวก่อนไปอาบแดดจะได้ผิวสีแทนสวย

MELING LAM

BEAUTY BLOGGER ประเทศ HONGKONG

Blog : www.apple113.blogspot.com

Twitter: @apple113

Instagram: apple113

เธอมากับ ” ไข่มุข ”

สาวมีเล๊ง เป็นคนที่อยากให้ทุกคนจับตามองไว้ให้ดีดี เก่งเรื่องผิวพรรณมากเธอบอกว่า

ผิวพรรณเธอดีเป็นเพราะกรรมพันธุ์ส่วนนึง แต่อีกส่วนนึงก็เกิดจากการดูแลตัวเองของเธอ

39 ปีแล้วนะครับพี่น้อง หน้าเด็กยังกับ 24 ปี ไม่เคยศัลยกรรม เธอบอกว่าแต่ก่อนผิวเธอ

แพ้ง่าย มีคนแนะนำให้เธอใช้ไข่มุข ซึ่งปกติไข่มุขดังมากอยู่แล้ว เธอทานวันละ 1

แคปซูลเล็ก เธอบอกว่าทานมากไปก็ไม่ดี ช่วยให้ผิวเธอที่แพ้ง่ายกลับมาแข็งแรง

ทำให้ผิวเธอขาวขึ้นและดูอ่อนเยาว์ ผิวเธอสวยมากเธอ จ๊อดดดดด

MONA KATTAN

BEAUTY BLOGGER ประเทศ DUBAI

Blog : www.hudabeauty.com

Twitter: @advinmonaland

Instagram: advinmonaland 

สาวผิวสวยจากอาหรับคนนี้ไม่มีใครที่ดูไบไม่รู้จักเธอด้วยนามสกุล KATTAN

ถ้าอยู่ในวงการความงามต้องรู้จักเธอแน่นอน เธอมากับเคล็ดลับผิวสวยด้วยการอาบน้ำ

และสครับผิวด้วยส่วนผสมธรรมชาติ ส่วนผสมหาได้ง่ายๆจากในตู้เย็น

ส่วนผสม
นมสด 2 ถ้วยตวง
น้ำผึ้ง 1/3 ถ้วย 
Rose Oil 5 ช้อนโต๊ะ
Argan Oil 4 ช้อนโต๊ะ
กลีบดอกกุหลาบ ถ้ามีไว้โรยในอ่าง

ส่วนผสมด้านบนเมื่อเข้ากันจะทำให้ผิวคุณนุ่ม หากแต่คุณต้องการที่จะทำให้ผิว

หมดปัญหาเซลล์ลูไลท์ ใส่กากกาแฟ หรือ น้ำตาล ซัก 1 ช้อนโต๊ะลงไป

ผิวจะนุ่มเนียน น่าสัมผัสมาก การอาบน้ำอุ่นจะไม่ใช่เรื่องที่น่ากลัวอีกต่อไป

ทำสัปดาห์ละครั้ง ผ่อนคลายสุดๆ

LISA STRANNESTEN

FASHION BLOGGER ประเทศ SWEDEN

Blog : http://lisa.chic.se/

Twitter: @lisastrannesten 

Instagram: lisastrannesten

เธอมากับน้ำผึ้ง และ แอสไพริน

หน้าเนียนนุ่มใสด้วยการมาส์คกับส่วนผสมหลักอย่าง แอสไพริน + น้ำผึ้งหลายคนอาจจะ

ทราบว่า แอสไพรินมี SALICYLIC ACID [BHA] เป็นตัวช่วยละลายสิ่งอุดตันจากรูขุมขน

และ น้ำผึ้งลดการอักเสบเพิ่มความอ่อนนุ่ม เหมาะกับคนผิวมัน ทำให้ผิวมันน้อยลง

เธอมาสค์เป็นประจำด้วยสูตรนี้ และ ประเทศเธอนิยมกันมากด้วย 

[ ปล. ยังไงก็ตามเท่าที่เอิ๊กอ่านข้อมูลเพิ่มใช้ต้องใช้ให้ถูกปริมาณ อย่าทิ้งไว้นาน มันเป็นกรดจะกัดผิวด่างได้ ]

JEN MATHEWS

BEAUTY BLOGGER ประเทศ USA

Blog : www.mybeautybunny.com

Twitter: @mybeautybunny 

Instagram: mybeautybunny 


เธอมากับ ” น้ำมันอโวคาโด “

อเมริกาสิ่งนี้เป็นที่นิยมมาก และ เจนเธอก็ชอบในสิ่งที่เป็นธรรมชาติอยู่แล้ว

เธอจึงนำเสนอได้ดี บอกทำได้หลายอย่างทั้งหมักผม บำรุงผิว

มีวิตามินหลายชนิดมากตั้งแต่ A B1 B2 D E B5 กรดอะมิโน และ อีกมากมาย

ทำให้ผิวชุ่มชื่น ลดเลือนริ้วรอย ปลอมประโลมดูแลผิวคล้ำเสียจากแดด

ได้รับการยกย่องจากอเมริกา ว่าเป็นราชาแห่งผลไม้สรรพคุณเยอะจริงๆ

Erk-Erk

Beauty Blogger ประเทศ Thailand

Blog : www.erk-erk.com

Twitter: @erk_erk

Instagram: wwwerkerkcom


เธอมากับ ” น้ำมันมะพร้าว “ สรรพคุณคล้ายของเจนเลย เพียงแต่น้ำมันมะพร้าวค้นคิดค้น

คือ อินเดีย แต่เอิ๊กก็พูดตามจริงไปว่าแม้ประเทศจะไม่ใช่ต้นกำเนิด

แต่ประเทศเราก็เป็นส่วนหนึ่งของเส้นศูนย์สูตร อยู่แถวคาบสมุทรแปซิฟิก มะพร้าวเพียบ

ผลิตภัณฑ์มะพร้าวเราไม่แพ้ชาติใดในโลก เอาไว้ส่งออกชื่อเสียงมากมาย

และ ในฐานะที่เอิ๊กเป็นตัวแทนของคนไทย อยากให้คนไทยมุ่งเน้นความชุ่มชื่น

เพราะความชุ่มชื่น คือ คุณสมบัติที่ดีของการมีผิวพรรณที่มีสุขภาพดี

เพื่อหลีกเลี่ยงริ้วรอยก่อนวัยอันควร เพื่อรักษาผิวพรรณให้สวยสดใสยาวนาน

และหันมาสนใจของไทย ที่คุณประโยชน์เหลือเฟือบ้าง

” ประเทศของฉันเศรษฐกิจสู้ประเทศของพวกเธอไม่ได้ “

คนไทยมักตื่นเต้นกับสิ่งที่ถูกนำเข้ามา มากกว่าของในประเทศตัวเองใน

เมื่อเลือกเอิ๊กให้เป็นตัวแทนของคนไทย เอิ๊กอยากบอกต่อสิ่งนี้

เพื่อให้คนไทยได้ใช้เงินอย่างประหยัดขึ้น โดยการมองหาสิ่งที่เกี่ยวกับ

ความงามทดแทนในเรื่องของธรรมชาติบ้านเราที่มีดีไม่น้อยกว่าที่อื่น

เอิ๊กบอกต่อหน้าทุกประเทศแบบนี้ และ บอกว่าน้ำมันมะพร้าว

ฉันการันตี ไม่ว่าประเทศไหนใช้ สีผิว สภาพผิวไหนใช้

ทุกคนต้องชอบในสรรพคุณของมัน โดยเฉพาะประหยัดเงินในกระเป๋าคุณ

เอิ๊ก PRESENT นานมากหาข้อมูลตั้งแต่

เนต ใช้เอง ถามคนรอบตัว ครอบครัวที่ทานเป็นประจำ และ

เจ้าของธุรกิจมะพร้าวอันดับ1 อย่างชาวเกาะ

การนำเสนอของเอิ๊กเป็นที่สนใจกับต่างชาติ เพราะเอิ๊กเห็นว่าหลายคนเหนื่อยง่วงเลย

เริ่มต้นประเด็นว่า ” ในที่นี่มีผู้หญิงคนไหนอยากแก่บ้างไหม?” เท่านั้นเขาก็เริ่มสนใจกัน

[ ทุกคนมองมาที่เอิ๊ก เวลาพูดเอิ๊กจะพูดช้า เพื่อให้ล่ามแปลอังกฤษทัน

เอิ๊กเป็นบล็อคเกอร์คนเดียวที่พูดภาษาอังกฤษไม่ได้ เพราะเอิ๊กไม่ตั้งใจเรียนตอนเด็กๆ

แต่ข้อมูลที่เตรียมมา ทำให้เรามั่นใจมาก ]

เอิ๊กจึงพูดบอกต่อไป เอิ๊กเป็น BLOGGER ที่เวลารีวิวอะไรเอิ๊กต้องทดสอบเอง

CLICK ที่เอิ๊กลองทดสอบกับเพื่อน

และ สิ่งที่เอิ๊กทดสอบต้องปลอดภัยเสมอ หรือ ไม่ก็ควรมีงานวิจัยรองรับ

เพื่อความปลอดภัยของตัวเอิ๊กเอง และ คนอ่านที่เปรียบเสมือนเพื่อนรักของเอิ๊ก

สำหรับน้ำมันมะพร้าวไม่ต้องพูดถึงงานวิจัยมีเป็น 100 ถ้าคุณต้องการอีเมลล์มา

เอิ๊กจะส่งลิงค์งานวิจัยถึงสรรพคุณทั้งหมดให้

เอิ๊กเป็น BEAUTY BLOGGER ที่ใช้เวลานำเสนอนานสุด

เอิ๊กเริ่มตั้งแต่หมวด

HEALTHY – ช่วยเรื่องเพิ่มไขมันดีในร่างกาย

เบาหวาน โรคหัวใจ คนติดHIVทานมีชีวิตยาวขึ้น

และ อีกมากมาย

BEAUTY – นำมาทาผิว หมักผม ล้างเครื่องสำอาง กลั้วฟันตอนเช้าฆ่าแบคทีเรีย

ทำให้ฟันแข็งแรง และ อีกมากมาย ซึ่งเวลาเราพูด

เอิ๊กเหลือบไปเห็นเครื่องสำอาง NO7 วาง เอิ๊กหยิบมาขีดเขียนบนมือ

และ เอิ๊กก็ทดสอบสดให้ดูอย่างการ

พูดถึงสรรพคุณทำความสะอาดเครื่องสำอางที่อยู่บนหน้า

ได้เยี่ยมและลงมือลบมันให้ทุกคนได้ดู

ด้วยน้ำมันมะพร้าว ทุกคนก็ WOW AMAZING 555

ก่อนที่จะไปถึงหัวข้อสุดท้ายเอิ๊กได้กล่าว

ขอบพระคุณเจ้าของธุรกิจกระทิชาวเกาะ ที่กำลังจะแตกไลน์มาทำน้ำมันมะพร้าว

เขาได้มอบน้ำมันมะพร้าวให้เอิ๊ก 7 ขวด เพื่อมานำเสนอโปรเจคนี้โดยเฉพาะ

แพคเกจทำจำลองขึ้นมา ได้ทีของเอิ๊กก็นำเสนออีกว่า ทุกคนในที่แห่งนี้คือ

” กลุ่มแรกของโลกที่จะได้ลองน้ำมันมะพร้าวชาวเกาะ ” แบรนด์กะทิอันดับ1ของไทย

แพคเกจถูกแพคมาอย่างดี ซีลเรียบร้อย เหมือนจะขายจริง

และ สุดท้ายดูเหมือนคนจะชอบใจ คือ หมวด

EROTIC – น้ำมันมะพร้าวดังมากในชื่อของ EROTIC OIL ใช้นวด ใช้ทำให้ผ่อนคลาย

ใช้แทนเจลหล่อลื่นเวลามีเพศสัมพันธ์ได้โดยไม่มีเคมี ทุกคนกรี๊ดดด 555 และหัวเราะใหญ่

เลยบอกถ้าไม่เชื่อไป SEARCH GOOGLE ได้ ว่ามันคือ EROTIC OIL จริง

และ เวลาที่ตกขาวไม่หนักมาก

สามารถนำมาเช็ดด้านในช่องคลอด เพื่อปรับค่ากรด ด่างให้มีค่าสมดุล

เอิ๊กทดสอบกับอาการตกขาวที่ไม่มากของตัวเอง อาการดีขึ้น

เพราะ ไม่อยากใช้เคมียาหมอ จึงเป็นที่มาของการบรรยายสรรพคุณนี้

พูดจบทุกคนตบมือให้ เอิ๊กรู้สึกดีใจมาก อย่างน้อยภาษาเราด้อยกว่าเขา

แต่ข้อมูล และ การทดสอบที่ผ่านมาเอิ๊กไม่แพ้ชาติไหน

กลับมาผู้บริหารแบรนด์ No.7 และ BOOTS THAILAND บอกเอิ๊กว่าต่างชาติ

EMAIL มาชมคนไทย และ บอกว่าเป็น BEAUTY BLOGGER ที่เป็นตัวอย่างที่ดี

^________________________________^

ที่พูดมาไม่ได้จะอวดนะคะ แต่จะบอกว่าเอิ๊กไปด้วยความกลัวมากเรื่องภาษา

แต่เราอย่ายอมแพ้ ขยัน อดทน และ เอาชนะ ในเรื่องที่เราทำได้ และ ทำมันให้ดีที่สุด

ดีใจที่ได้เป็นตัวแทนของประเทศไทย ที่ทำให้ประเทศเราภูมิใจได้ในการนำเสนอโปรเจคนี้

 

 LINE KIRKHUSK

FASHION BLOGGER ประเทศ NORWAY

Blog : http://www.lilisfashion.com/

Twitter: @lilisfashion

Instagram: lilisfashion 

 

เธอมากับครีมบำรุงผิวแบรนด์ SKIN SCIENCE

เป็นแบรนด์ที่มีต้นกำเนิดจากประเทศนอร์เวย์ หลักช่วยยืดเวลาการเสื่อสภาพของเซลล์ผิว

ประมาณ 25% โดยการสร้างแบรนด์นี้ขึ้นมา มีแรงบันดาลใจมากจากสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเลน้ำลึก

เท่าที่ฟังก็มาจากปลาแซลมอนด้วย และ มี SPERM คือ สังเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์ขึ้นมา

โดยหาได้จากประเทศใกล้เทียบเคียงชายฝั่งอาร์กติด

นักวิทยาศาสตร์ของแบรนด์นี้ให้ความสำคัญกับ 5 ส่วนผสมหลัก

ซึ่งได้มีการพิสูจน์ทางการแพทย์ว่ามีผลลัพธ์ที่ดีต่อผิวพรรณ

มีความอ่อนโยนป้องการการเกิดการอุดตันของน้ำมันในรู้ขุมขน ผิวจะดูกระจ่างใส

และ สำคัญมีสารต้านอนุมูลอิสระ อาจจะเจ๋งกว่านั้นคือ การสังเคราห์ทำสารสกัดจาก

SPERM ขึ้นมา ช่วยเรื่องปกป้องผิวจากความเสียหายที่เกิดขึ้นกับการใช้ชีวิตประจำวัน

ที่เต็มไปด้วยมลภาวะทางสิ่งแวดล้อม การดูดซึมของผลิตภัณฑ์ทุกตัว ดูดซึมง่ายมาก

 

ทั้งหมดนี้ก็เป็น BEAUTY SECRET จาก BLOGGER 7 ประเทศ เท่าที่ลองฟังดูยังไง

ก่อนจะลอง หาข้อมูลให้ดีก่อน สำหรับเหล่าน้ำมันเอิ๊กว่าเราทาภายนอกลองก่อนได้

เหล่าอะไรที่ต้องรับประทาน ดูยี่ห้อ เช็คความปลอดภัยให้ดี รวมถึงอะไรที่ใช้บนหน้า

อยากให้หาข้อมูลเพิ่มเยอะๆก่อนตัดสินใจ แต่ละประเทศก็มีสิ่งที่พิเศษแตกต่างกันไป

แต่ไม่ว่าอย่างไร ก่อนพูดอะไรออกไป ถ้าได้ทดสอบก่อนจะทำให้เรามีความมั่นใจ

ในการนำเสนอ และ บอกถึงข้อดีเสียได้เป็นอย่างดี

บลอคต่อไปเดี๋ยวจะเขียนเล่าประสบการณ์ ณ ลอนดอน

กับ BEAUTY BLOGGER อีก 6 ประเทศ

เอิ๊กรัก BEAUTY BLOGGER คนนี้มาก เอิ๊กคุยภาษาอังกฤษไม่ได้เรื่อง แต่เขามีเมตตา

ดูแลเอิ๊กอย่างดีไว้เอิ๊กมาเล่าความประทับใจเรื่องมิตรภาพของเราให้ฟัง

มีคลิปพิเศษ สุดยอดไอเท็มที่ขาดไม่ได้ของ BEAUTY BLOGGER 4 ประเทศมาให้ชมด้วยรอบหน้า

XOXO

Photo : http://www.katgreen.net/

 

Posted in BEAUTY, ERK-ERK, SKIN CAREComments (2)

SHARE THE FEELING ตามล่าหาสุดยอดเคล็ดลับความงามของไทย กับ No.7

 

#Sharethefeeling 

 

อีกสัปดาห์กว่า TAG นี้ #Sharethefeeling  คือ TAG ที่จะเอาไว้ติดตามเอิ๊ก กับ

สิ่งที่เอิ๊กถามคนใน FANPAGE ใน TWITTER ว่า

เราจะเอา BEAUTY SECRET อะไรไปแบ่งปันให้บล็อคเกอร์เมืองนอก

อีก 6 ประเทศได้รู้จักกันดีน๊า

 

 


 

แคมเปญนี้คิดว่าเป็นครั้งแรกในชีวิตเอิ๊ก รู้สึกดีใจมากที่ BOOTS THAILAND และ NO.7

มอบโอกาสให้เอิ๊กเป็น 1 ใน 7 คนของหลากหลายประเทศ เป็นตัวแทนจากประเทศไทย

ที่ได้มีโอกาสไปเก็บข่าวแลกเปลี่ยนประสบการณ์ กับ ผลิตภัณฑ์ ANTI-AGING

ตัวล่าสุด Lift & Luminate ซึ่งใช้เวลาในการคิดค้น และ ผลิต 3 ปีเต็ม

เอิ๊กก็ตื่นเต้นเหมือนกัน เพราะเอิ๊กเป็นคนที่ฟังภาษาอังกฤษไม่ได้เลย มันเป็นเส้นตรง 5555

กลัวจะไปทำเขาขายหน้าเหมือนกัน โชคดีเขาพิจารณาจัดล่ามพิเศษให้หนึ่งคน

และ เป็นครั้งแรกที่เอิ๊กได้ไปทำงานที่อังกฤษในฐานะ BEAUTY BLOGGER

ที่ LONDON และพิเศษอีกคือเจอ สาย BEAUTY ที่เป็น BLOGGER อีก 6 ประเทศ

ได้แก่ นอร์เวย์, สวีเดน, เนเธอร์แลนด์, อเมริกา, ฮ่องกง, อีกประเทศไม่แน่ใจดูไบ หรือ อังกฤษ

ก็จะไปแลกเปลี่ยนความลับเกี่ยวกับความงามของแต่ละประเทศ ที่ไปตั้งใจหากันมา

แน่นอนว่าพวกเรา 7 คนก็น่าจะเป็นทีมแรกที่ได้สัมผัส และ ทำความรู้จักนอกจากเจ้าของ

และ R&D ของเขา ฮ่าๆ แน่นอนละนี่ละเป็นความลับของอังกฤษอย่าง No.7 เขาล่ะ

เจอพี่ไทยหน่อย ทุกคนน่ารักมากนะคะ ในแฟนเพจช่วยแนะนำให้เอิ๊กใหญ่เลย

ตอนนี้เอิ๊กคงต้องคัดอย่างจริงจัง และ มานั่งหาว่าอะไรคือที่สุดของที่สุดในประเทศไทย

สยามเมืองยิ้มของพวกเรา มันตื่นเต้นมาก มันเคว้งขว้าง บินคนเดียว แต่ถ้าเราไม่กล้าหาญ

แล้วเมื่อไหร่เราจะเก่ง เอิ๊กบอกได้เลยว่าแค่ไปฟัง ไปเยี่ยมชม

แล้วนำมาเล่าถึงเทคโนโลยีความงามของเขาก็ยากอยู่แล้ว นี่ต้องพยายามจะต้องเข้าให้ได้

กับทุกคนที่เขาใช้ภาษาเขาปกติ ฮ่าฮ่า เอาละ 3 คำให้ตัวเอง

 

 

“สู้โว้ยเอิ๊ก”

 

Posted in SKIN CAREComments (0)

REVIEW – LIP GLOSS AMOUR 20 สี

ไม่รู้จะเบื่อกันรึเปล่า มาอีกแล้วลิปกลอสนำมาปาดให้ชมกัน

ขอบคุณผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการจากร้าน 

แท่งละ 690 บาทไทย ยี่ห้อ AMOUR คอนเซ็ปต์

เป็นลิปกลอสมีสี ส่วนผสมหลักจากธรรมชาติ ติดทนนาน

ไม่มีพาราเบน และ การทดลองกับสัตว์ กลิ่นจะออกวานิลลาหน่อยๆ ชุ่มชื่น ปกป้องริมฝีปาก

อันนี้ที่พูดมาหาข้อมูลเอง + ลองใช้ คงให้มาไม่ได้บอก 55555555

ขออภัยรอบนี้ถ่ายกับแสงธรรมชาติมีภาวะ แสงตกด้วย และ ถ่ายคนละวัน

เพราะพระอาทิตย์ตกแล้ว มาดูกันเถอะ ><

Stardust

 

Divine

 

Gypsy

  

Diana

 

Kashmir

 

Dreaming

 

Cat Club

 

Gazarri’s

 

Hello

 

Candy

 

Ann-Margret

 

Nina

 

Lucy

 

Shattered

 

Grace

 

Barracuda

 

Siouxsie

 

Last Dance

 

After Hours

 

Femme Fatale

 

XOXO 
 

Posted in LIPS, MAKE UP, REVIEWComments (0)

REVIEW – EXILIS ll เทคโนโลยีกระชับใบหน้าตัวล่าสุด ครั้งที่ 1

 เอิ๊กมั่นใจว่าเขียนเทคโนโลยีนี้ในไทยคนแรก

ขอบพระคุณสำหรับความไว้ใจจาก ISKYCENTER

ที่ให้เอิ๊กได้ไปเก็บข้อมูลของเทคโนโลยี EXILIS II ตัวนี้ค่ะ

 

อยากทราบจุดเริ่มต้นของเทคโนโลยี EXILIS II

          Monopolar radiofrequency (RF) เป็นเทคโนโลยีที่ได้รับการยอมรับมานานกว่า 10ปีแล้วที่รู้จักกัน ซึ่งให้ผลดีของการยกกระชับและลดเลือนริ้วรอย ซึ่งจัดว่าเป็นเทคโนโลยียกกระชับผิวหน้าที่ดีที่สุด ณ เวลานี้ ก็มีเครื่องหลายอย่างมาก เช่น THERMAGE ซึ่งก็จะลงลึกระดับกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนของผิว แต่เทคโนโลยีไม่เคยหยุดนิ่ง ก็จะมีเครื่องรุ่นใหม่มาตลอด อย่างเช่นเทคโนโลยี  ULTHERA ซึ่งใช้เทคโนโลยีUltrasound จะมีผลกับบริเวณกล้ามเนื้อส่วนบน เมื่อเทคโนโลยีกระชับตอนนี้ที่ดีสุดคงหนีไม่พ้น THERMAGE และ ULTHERA

          สำหรับ EXILIS ออกมานานประมาณ 2 ปีกว่าแล้ว เป็นการรวมเทคโนโลยีที่ดีที่สุดสำหรับการยกกระชับใบหน้าตอนนี้ที่มีอยู่ในโลกก็คือ Monopolar radiofrequency (RF)กับUltrasoundมารวมกัน และ ก็มีการพัฒนาเรื่องของความเจ็บปวด ให้มีระบบการปรับค่าพลังงานอัตโนมัตตามความหนาบางของผิวหนัง ไม่ต้องใช้ยาชาจึงทำให้กลายเป็นตัว EXILIS ตัวนี้ขึ้นมา เมื่อเทคโนโลยีMonopolar radiofrequency (RF)บวกกับเทคโนโลยีUltrasound แน่นอนว่าก็จะไปช่วยในเรื่องของการกระตุ้นการสร้างของคอลลาเจนตามธรรมชาติ ยกกระชับได้ทุกส่วนยกเว้นใบหู เพื่อทำทำให้ผิวตึงขึ้น ผิวจะดูเรียบเนียนขึ้น และ ที่สำคัญไม่ทำให้เกิดอันตราย ไม่มีแผล และ ไม่เจ็บปวดอีกต่อไป 

สื่อเมืองนอกกล่าวไว้ถึงตัว EXILIS คร่าวๆคือใช้ยกกระชับผิวได้ทุกส่วน

และกว่า 50 % เห็นผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นในการทำเพียงหนึ่งครั้ง * และต้องทำต่อเนื่อง

ในอีกสองสัปดาห์ถัดมา เราก็จะเริ่มเห็นถึงความแตกต่างภายใน 1 เดือน

 

EXILIS ตอนนี้รุ่น 2 เป็นรุ่นล่าสุด พัฒนาจากรุ่น 1 ในเรื่องอะไรบ้าง

  1. จำนวนครั้งในการที่ต้องทำต่อเนื่อง รุ่น 1 ทำ 4 ครั้งแต่ละครั้งห่าง 2 สัปดาห์ รุ่น 2 ทำแค่ 2 ครั้งแต่ละครั้งห่าง 2 สัปดาห์
  2. พลังงานจากรุ่น 1 มีค่าพลังงานอยู่ที่ 50 วัตต์ รุ่น 2 เพิ่มขึ้นไปเป็น 90 วัตต์ ผลลัพธ์ต้องดีกว่าแน่นอน
  3. ปรับพลังงานสูงต่ำแบบอัจฉริยะแบบอัตโนมัต โดยจะมีตัว Ultrasoundที่ใช้วัดอุณภูมิตามความหนาบางของผิวหนังแต่ละส่วนที่ไม่เท่ากัน และมันจะปล่อยพลังงานให้เหมาะสมทุกส่วนของอวัยวะ นี่คือ ส่วนที่จะไม่ทำให้เราเจ็บปวด เช่นถ้าปล่อยพลังงานเท่ากันทั้งหน้า บริเวณกระดูกเราจะเจ็บมาก ดังนั้นมันจะวัดและปล่อยให้เหมาะสม เราจึงไม่เจ็บ

หลักการปล่อยพลังงานของ EXILIS II

คือ ปล่อย Monopolar radiofrequency (RF)กับUltrasound พร้อมกันโดย เทคโนโลยี Ultrasound จะเป็นตัวสนับสนุนพลังงานของ Monopolar radiofrequency (RF) ซึ่งเป็นพลังงานหลัก อย่างที่เราทราบกันถึงความเจ็บปวดของการทำ THERMAGE เวลายิงลงไปที่ผิวมันจะร้อนและเจ็บ จะมีระดับในความทนได้ของคนไข้แต่ละคน แต่ยิงลงลึกได้มากพลังงานสูงได้มาก ผลมันก็ดีมากตามกัน ดังนั้นอย่าแปลกใจที่ีคนที่มีความหย่อนคล้อยมองตาเปล่าเท่ากัน แต่ผลลัพธ์ในการทำ THERMAGE ต่างกัน ทั้งนี้ขึ้นกับพลังงานที่เขาสามารถรับได้ด้วย EXILIS จึงใช้จุดเด่นของเทคโนโลยี Ultrasound มาคอยเสริมซึ่งจะช่วยทำให้ผิวสามารถรับพลังงาน  Monopolar radiofrequency (RF) ที่สูงขึ้นได้ หมายความว่าจะยิงด้วยพลังงาน  Monopolar radiofrequency (RF) ที่สูง ผิวก็จะรับได้เพราะมีเทคโนโลยี Ultrasound คอยเสริมโดยการสั่นสะเทือนกระจายพลังงานไปให้ทั่วทุกบริเวณพร้อมๆกัน จะทำให้กลายเป็นรู้สึกว่าเหมือนใช้หินร้อนกลมๆกลิ้งให้ความอุ่นทั่วใบหน้า ไม่มีความเจ็บปวดใดใดทั้งสิ้น แต่ก็ยังมีในเรื่องของระดับพลังงานที่เรารับได้อีกเช่นกัน เช่นความร้อนไปเราอาจจะไหวแค่เท่านี้ และ แน่นอนว่า ยิ่งพลังงานสูงมาก ผลลัพธ์ย่อมเห็นชัดกว่า

การดูแลตัวเองก่อนทำ – หลังทำ EXILIS ll

ดื่มน้ำเยอะๆก่อนเพราะเนื่องจาก Monopolar radiofrequency (RF) มันเป็นความร้อน ระหว่างทำอาจทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื่น เราควรดื่มน้ำให้เยอะเพื่อให้ผิวหนังของเราทนกับพลังงานสูงๆได้ดีขึ้น ยิ่งดื่มน้ำมากก็จะรู้สึกยิ่งสบายผิว และแนะนำให้ดื่มน้ำมากๆหลังจากที่ทำด้วย เพื่อให้ผิวอิ่มน้ำ จะไม่มีแผล ไม่เจ็บปวด แค่หน้าแดดนิดนึง และ จะหายไปเพียงไม่ถึงชั่วโมง แต่จะรู้สึกกระชับบริเวณที่ทำ ก็สามารถทากันแดด ทาครีม แต่งหน้าได้เหมือนเดิม ใช้ชีวิตกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติทันที

จำนวนครั้งที่ทำ EXILIS ll

รุ่นใหม่คอรส์นึงจะต้องทำ 2 ครั้งทั้งหมด ทำครั้งแรก และ ทิ้งระยะห่างกัน 2 สัปดาห์ ทำครั้งที่สอง เป็นอันเรียบร้อย

ผลจะคงอยู่เฉลี่ยประมาณ 12 เดือน

นอกจากความหย่อนคล้อยที่มากน้อย และ การรับพลังงานได้เป็นตัวที่จะส่งผลถึงผลลัพธ์ที่ออกมา อีกส่วนคือผลลัพธ์จะเต็มที่ๆสุด ก็ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองเช่น ไม่ออกไปโดนแดดจัด เพราะมันจะทำลายคอลลาเจนที่มีอยู่แล้ว การดื่มแอลกอฮอล์ รวมถึงการนอนดึกที่ทำให้เกิดอนุมูลอิสระ พูดง่ายๆ ก็คือการดูแลตัวเองหลังทำก็สำคัญมากในการใช้เทคโนโลยีกระชับ แต่โดยเฉลี่ยแล้วประมาณ 12 เดือนที่คงสภาพกระชับอยู่

อายุที่เหมาะสมกับการทำ EXILIS ll

คนที่เริ่มมีปัญหาเรื่องความหย่อนคล้อยของผิวก็สามารถมาทำได้เลยค่ะ เช่น แก้มห้อยย้อย ไขมันแก้มเยอะ ดังนั้นอย่าแปลกใจ ที่มีเด็กอายุยังไม่ถึง 20 แต่มีปัญหาเรื่องผิวหย่อนคล้อยก็เริ่มมาทำกัน หรือ จะเป็นที่รู้จักกันคือ เหนียง ช่วงไขมันใต้คอ

 

EXILIS ll เห็นบอกว่าทำได้ทุกส่วนยกเว้นหู

ทำได้ทุกส่วนของร่างกายจริงๆ ยกเว้นใบหู เพราะหูไม่หย่อนคล้อย ทำได้ทั้งตัว แต่ที่ฮิตเมืองนอกมากสุด คือทำยกกระชับหน้าอก เนื่องจากไม่อยากศัลยกรรม สำหรับคนที่ไม่ได้หย่อนคล้อยขนาดหนัก และ อีกส่วนที่นิยมทำคือคอ เพราะคอมีเนื้อที่บาง การใช้ THERMAGE จะเจ็บมากทนแทบไม่ไหว พอปรับพลังงานน้อย ผลลัพธ์ที่ได้ก็ไม่คุ้มกับเงินที่เสีย EXILIS ll ปรับสูงสุดแล้วบางทีคนไข้ยังรู้สึกอุ่นสบายอยู่เลย

 ระยะเวลาในการทำ EXILIS ll

ต้องใช้เวลาในแต่ละโซนค่ะ เช่นใบหน้า ก็จะแบ่งหน้าทั้งหมด 8 โซน แล้วเราก็แบ่งทำทีละโซน โดยที่ให้พลังงานในแต่ละโซนอย่างสม่ำเสมอและใช้เวลานานพอเพราะถ้าน้อยไปมันอาจจะไม่เห็นผลดี

 

ผลพลอยได้ของ EXILIS ll

จะเป็นเรื่องของผิวที่ดูเรียบเนียนเต่งตึงขึ้น อย่างที่บอกว่าหลักการกระชับนั้นจะทุ่มเทไปกับการสร้างคอลลาเจนใหม่ให้เกิดขึ้นแบบไม่เจ็บปวดอีกต่อไป

สรุปคือผลที่ได้จาก EXILIS ll ทั้งหมดจะมีผลลัพธ์ในด้านไหน   

  • การยกกระชับ
  • ริ้วรอยตื้นขึ้น ลดลง
  • กระตุ้นเรื่องการไหลเวียนโลหิตดังนั้นสภาพผิวโดยรวมจะดีขึ้น 
  • ปิดรูขุมขน เพราะฉะนั้นผิวก็จะเนียนขึ้น
ราคา
80,000 บาท ต่อคอร์ส [ 2 ครั้งจบ ]

 เอาละ 10 ปากว่าไม่เท่าตาเห็น สำหรับเทคโนโลยีนี้อย่างที่บอก

เน้นยกกระชับ ยิ่งหย่อนคล้อยมากยิ่งเห็นผลลัพธ์ชัดเจน

แม่เป็นตัวแทนผิวหย่อนคล้อยมากในวัย 60 ปี

เอิ๊กเป็นตัวแทนเรื่องแก้มที่สามารถกระชับได้อีก 26 ปี

บอกเลยว่าก่อนทำจะไม่เห็นผลของเอิ๊กชัดเพราะเอิ๊กชัดอยู่แล้ว

มาดูแม่เอิ๊กกันคนที่ผิวหย่อนคล้อยหลังทำจะเป็นยังไง

จะมี 2 หัวนะคะ คือ สำหรับทำหน้า และ สำหรับทำตัว

นอกจากดื่มน้ำเยอะๆก่อนทำก็ต้องแปะแผ่น grounding pad

เพื่อให้เครื่องสามารถปล่อยพลังงานไปยังบริเวณที่ต้องการรักษาได้ ทั้งหลังคุณแม่ ซ้าย

และ คุณลูก ขวา

ขั้นตอนต่อมาทาเจลเย็นให้สบายเวลาปล่อยพลังงานซึ่งเราจะรู้สึกอุ่นถึงอุ่นมากและ

ทำให้การกลิ้งของหัว EXILIS ll ไหลลื่นขึ้น

แบ่งหน้าเป็นโซนๆ และเริ่มกลิ้งหัว EXILIS ll แบบช้าๆ ละเอียดๆ ให้ทั่วถึงทุกอณูของโซนนั้น

ถ้ายังรู้สึกว่าทนความอุ่นไหวก็สามารถปรับพลังงานเพิ่มขึ้นได้ เพราะเราจะเห็นผลได้ดีกว่า

แต่ถ้าไม่ไหวก็สามารถลดระดับพลังงานได้เหมือนกัน

ถ้าผู้ที่หย่อนคล้อยมากก็จะทำไล่ลงคอไปด้วย แต่เอิ๊กมีเหนียงก็มีเก็บเหนียงใต้คางนิดนึง

ทำเสร็จหน้าแม่เอิ๊กแดงมาก เพราะใช้พลังงานสูงเกือบที่สุด เอิ๊กเอาน้อย เอาแบบอุ่นสบาย

เท่าที่ไหว อีกอย่างเอิ๊กทานน้ำไม่เยอะมากเท่าไหร่ แม่ดื่มน้ำเยอะ ชีไหวตลอด ดูหน้าเอิ๊กหลังทำ

ปกติมาก ชิวไปเลย ก็แต่งหน้าได้ปกติ แต่รู้สึกหน้ามันตึงๆยังไงไม่รู้ ฮ่าๆๆๆๆ มันรู้สึกยกๆ

แม้มองด้วยตาเปล่าไม่เห็น แต่มันตึงๆมุมปาก ยังกับมาส์คหน้าไว้

เอิ๊กขออนุญาตเชิญดูผลงานหน้าแม่เอิ๊กก่อนผู้ที่ต้องเห็นผลหลังทำชัดกว่าเอิ๊กแน่นอน

เพราะท่านคล้อยมาก นี่คือ ครั้งแรกหลังทำทันที ต้องทำอีกครั้งภายในสองอาทิตย์ที่จะถึง

และรอดูผลนับจากการทำครั้งสุดท้าย ไป 1 – 3 เดือน เชิญเพื่อนแม่ ติดตามผลได้

ใน 3 เดือนนับจากนี้ เอิ๊กได้เก็บผลไว้ส่วนนึงแล้ว

นี่คือภาพที่วัดให้เท่ากันตั้งแต่ตำแหน่งตา ถึง ขนาดของปากให้พอดีกันในมุมเดิม เห็นอะไรไหม

เอิ๊กเห็นแล้วตอนนี้ แต่ยังไม่แน่ใจว่าใช่หรือไม่ เลยต้องขีดเส้นวัดอีกทีให้แน่ใจเพราะบางทีตา

อาจจะเหล่ หรือ เอียงได้

ผลคือแน่ๆ เกิดการหดตัวของคอลลาเจนทันทีหลังทำ หน้ามีขนาดแคบลง

แบบมองตาเปล่าภาพแรกก็เห็น ซึ่งวันนี้ผ่านมา 7 วัน หน้าแม่เอิ๊กดูแคบลง แต่เรื่องกระชับ

เอิ๊กต้องรอทำครั้งที่ 2 ให้เสร็จก่อน และ รอเก็บผลอีกทีภายหลัง 1-3 เดือน

ข้อดี

  • ไม่เจ็บ
  • ไม่มีแผล ไม่ต้องพักฟื้น
  • แต่งหน้า ทาครีม ออกแดดได้ตามปกติ
  • ยกกระชับได้เหมือนกัน รวมถึงผิวหย่อนคล้อยกับคนที่อายุยังน้อย
  • ได้ความกระชับแบบเป็นธรรมชาติ
  • ผลพลอยได้คือผิวที่ดูเรียบตึง เนียนขึ้น

ข้อด้อย 

  • ราคาสูง
  • ต้องทำ 2 ครั้งถึงจบคอร์ส
  • ยังเป็นการผสมผสานเทคโนโลยียกกระชับตัวแม่ที่อาจจะแบ่งความเจ๋งมาอย่างละส่วน แต่ไม่ทั้งหมด ผลคงสู้เทคโนโลยีอย่าง THERMAGE และ ULTHERA ไม่ได้ แต่ก็ยกกระชับได้ในระดับนึงทีเดียว
  • การคงอยู่เฉลี่ย 12 เดือน น้อยกว่า THERMAGE และ ULTHERA 
ข้อแนะนำ
  • หย่อนคล้อยไม่มาก และ กลัวเจ็บ แต่อยากหน้ากลับมาดูเรียบตึง ผิวดูเนียน ริ้วรอยดูลดลงแบบเป็นธรรมชาติ เครื่องนี้เหมาะ
  • ใครกลัวเจ็บจาก THERMAGE และ ULTHERA เครื่องนี้เหมาะ
  • อายุน้อยที่มีเหนียง หน้าแก้มคล้อย เครื่องนี้เหมาะไม่หนักจนเกินไป แต่ก็ราคาแรงอยู่พอสมควร ทางที่ดีติดตามโปรโมชั่นสำหรับคนที่อายุไม่มาก จะคุ้มมาก

ผลลัพธ์ของ EXILIS ของฝรั่งบางส่วน เห็นแล้วเอาแม่ไปจัดโดยด่วน

 

มาลุ้นผลกันอีก 3 เดือนนะคะ <3

XOXO

 

Posted in BEAUTY TECHNOLOGY, EYES, FACE, RADIO FREQUENCY, REVIEW, THERMAGEComments (0)

REVIEW น้ำยาทำความสะอาดและให้ความชุ่มชื่นจุดซ่อนเร้น SAUGELLA IdraSerum

“น้องสาว ผิวบอบบาง แพ้ง่าย” ?

 

 

 

 

 

 

เฮ้ยยยยยยย เพิ่งจะรู้ว่าผิวตรงนั้น [ ตรงนั้นหมายถึงอวัยวะเพศที่น่ารักกระจุ๋มกระจิ๋มของผู้หญิง ] นอกจากบอบบางแล้วยังแพ้ง่ายได้เหมือนผิวหน้าผิวกายอีก กับ คำถามที่ได้ยินมาจากแฟนเพจหลังไมค์ อยากจะบอกว่าตอนแรกก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะดูแลยังไง นอกจากทำความสะอาดด้วย “น้ำเปล่า” อย่างที่เราเข้าใจว่าน้ำเปล่ามักถูกแนะนำโดยแพทย์ เพราะว่าจะทำความสะอาดได้เพียงพอ และ แค่น้ำเปล่าก็พอแล้ว เนื่องจากผิวตรงนั้นบอบบาง

 

แต่ถ้าผิวตรงนั้นบอบบาง เราทำความสะอาดด้วยน้ำเปล่า เหตุใดจึงมีคน มีอาการคัน อับชื้นจนเป็นเชื้อรา ตกขาวเยอะผิดปกติ มีกลิ่นไม่พึงประสงค์ นี่เป็นตัวอย่างอาการที่จะทำให้เห็นภาพ จึงเกิดเป็นคำถามที่ว่า “ถ้าน้ำเปล่า สะอาด และ ดีพอแล้ว ทำไมผู้หญิงหลายคนยังมีสาเหตุนี้เกิดขึ้นได้ คำถามที่เอิ๊กคิดขึ้นเอง หลังจากเคยได้คุยกับหมอว่าเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องปกติ เกิดขึ้นได้บ่อยกับผู้หญิงไทย สาเหตุส่วนใหญ่บางทีก็มาจากกิจกรรมประจำวัน และ อากาศที่ร้อนชื้นของไทย

 

แต่สำหรับคำตอบอื่นก็อาจมีหลายปัจจัยมาก แต่เอิ๊กรู้อยู่อย่างนึงว่า ตัวเองเป็นคนไม่ได้ใช้พวกน้ำยาทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นทุกวัน แต่หากช่วงใดมีประจำเดือน ต้องบอกเลยว่ารู้สึกไม่มั่นใจในกลิ่น ในความสะอาด ในความอับชื้น อย่างน้อย บ้านเอิ๊กต้องมีติดไว้ เอิ๊กชอบใช้พวกน้ำล้างจุดซ่อนเร้นที่ซื้อตามร้านขายยา เพราะว่ารู้สึกว่าปลอดภัย กลิ่นหอมไม่แรงเกินไป จนบางครั้งก็มีบางท่านบอกว่าสามารถนำมาล้างหน้าได้ ไม่แน่ใจว่าทำได้หรือไม่ .. ยังไงยังไม่กล้าฟันธงหรือแนะนำ

 

สำหรับคำถามถ้าน้องสาวผิวแพ้ง่ายควรใช้อะไรดี ?

เอิ๊กตอนก่อนยังไม่รู้ว่าแก้ปัญหายังไงก็คงจะแนะนำว่าใช้น้ำเปล่าเถอะ บางทีใช้พวกอะไรล้างมันอาจจะทำให้อาการหนักขึ้น แล้วพึ่งรู้ว่ามีผลิตภัณฑ์สำหรับน้องสาวแพ้ง่ายด้วยเพราะโชคดีที่ทางแบรนด์ SAUGELLA [ซอลเจลล่า] ส่งมาให้ทดสอบและรีวิว ตอนแรกเค้าบอกเป็นเซรั่ม แอบงง น้องเราเดี๋ยวนี้พัฒนามีเซรั่มใช้ทากันได้เลย นึกต่อไป ว่าถ้ามีครีมออกมาให้ใช้ด้วยก็คงดี

 

แบรนด์นี้ต้องบอกว่าเอิ๊กใช้มาก่อนหน้านี้ประมาณ 2 สูตร 1 สูตรที่ใช้ได้ทุกวัน [เผื่อไว้] 2 สูตรลดการสะสมของแบคทีเรีย 2 เท่า เพราะช่วงหลังมา อย่างที่ทุกคนเห็นเอิ๊กออกกำลังกายในฟิตเนสบ่อย กลัวว่ามันอับชื้น และ อาจทำให้เป็นเชื้อรา จึงใช้2สูตรเป็นประจำ ที่เลือกเพราะว่าวันนึงไป MEETING กลับ FANCLUB ถามเขาว่ารู้จักยี่ห้อ SAUGELLA ไหม หรือ น้ำยาล้างจุดซ่อนเร้นที่ขายในร้านขายยา หรือ โรงพยาบาลที่ดังๆ คนชอบใช้ สองคนนี้ตอบพร้อมกันว่าใช้อยู่ ดีมาก ใช้แล้วตกขาวเขาหาย แต่เอิ๊กไม่ได้มีปัญหาตกขาวนะคะ พอฟังแบบนี้เลยไปซื้อมาตามคนอ่าน [ วินาทีที่บลอคเกอร์ตามคนอ่านก็มีนะคะ ] พูดง่ายๆ เราก็เชื่อเพื่อนของเราเสมอมากกว่าโฆษณา 

 

 

วันนี้จะมา REVIEW เจ้าเซรั่มสำหรับน้องสาวตรงนั้น

จุดขาย : คือ ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและให้ความชุ่มชื้น [24 ชม] กับจุดซ่อนเร้น

สภาพผิวจุดซ่อนเร้น : ผิวแห้ง ผิวบอบบาง ผิวแพ้ง่าย ผิวที่มีการระคายเคือง

ส่วนผสมสำคัญ : สกัดจากธรรมชาติจากใบเสจ ดอกดาวเรือง น้ำนมข้าวโอ๊ต และ maltodextrin

– ใบเสจ ช่วยลดการสะสมของเชื้อแบคทีเรีย และ ช่วยปกป้องอย่างอ่อนโยนต่อต้านอนุมูลอิสระ

– ดอกดาวเรือง ช่วยลดการระคายเคือง 

 น้ำนมข้าวโอ๊ต และ maltodextrin ช่วยให้ผิวเนียน นุ่ม ชุ่มชื้น

วิธีใช้ เขย่าก่อนใช้ หยดเพียง 1-2 หยด ใช้ทำความสะอาดจุดซ่อนเร้น วันละครั้ง ซึ่งหมายความว่าใช้ได้ทุกวัน 

 

มาดูหน้าตาเจ้า IdraSerum กัน

ขวดละประมาณ 100 + บาท สูตรนี้เป็นสูตรใหม่ล่าสุดที่ออกมาจาก 3 สูตรแรก

SAUGELLA IdraSerum สูตรให้ความชุ่มชื้นยาวนาน และ ปกป้อง 24 ชั่วโมง

โดยมีค่า PH ที่เหมาะสมอยู่ที่ 4.5

สีฟ้าSAUGELLA Dermoliquid 

ใช้ได้ทุกวันเป็นอีกตัวที่เอิ๊กมีติดไว้ในห้องน้ำ

ทั้ง 2 สูตรนี้เป็นตระกูล BLUE LINE

น่าจะเป็นตระกูลที่เกิดมาเพื่อใช้ได้ทุกวัน

ใช้ทำความสะอาดภายนอกแล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด

ข้อแนะนำ * ไม่ควรทาทิ้งไว้นะคะ

เวลาเปิด เปิดใช้จากด้านบน คือ เปิดฝาที่เป็นทรงแบบนี้ขึ้น หยดนิดเดียวบนฝ่ามือ

น้ำยาจะหนืดเล็กน้อย ไม่ไหลเหลว ทะลัก สิ้นเปลือง ชอบมากอีกจุดตรงนี้

หน้าตาหัวขวดที่ใช้เทน้ำยาออกแบบซูมใกล้ๆ เปิดปิดง่าย ไม่หกเลอะเทอะ

มีลักษณะเป็นน้ำนมตอนบีบออกมามีกลิ่นหอมอ่อนๆ ใช้แล้วมีฟองเล็กน้อยล้างออกง่าย

ล้างสะอาดแต่พอจับผิวน้องสาวแล้วจะรู้สึกนุ่ม แต่เนียนคิดว่าถ้ามีขน55555

คงวัดกันยากหน่อยนะฮับ ส่วนความแห้งไม่แห้งเลยตลอดวัน ผิวนุ่มดี ไม่มีกลิ่นอับตลอดวัน

ขนาดวันนี้เดิน อยู่ในที่ๆร้อนอับทั้งวัน

กลับบ้านผิวจุดนั้นก็นุ่มอยู่ ไม่เหนียว ไม่มีเหงื่อ ชอบมาก สำหรับเอิ๊กนะ

แต่รอยหมองคล้ำนี่ตอบไม่ได้ส่วนนึงถ้าผิวชุ่มชื่น มันจะดูอิ่มเอิม และดูกระจ่างขึ้นได้อยู่แล้ว

เหมือนผิวหน้า ผิวกาย ที่มีความชุ่มชื่นดี ไว้ใช้นานแล้วคงจะบอกได้ค่ะ

ด้านหลังฉลากละเอียด ชัดเจน มีที่มาที่ไป จุดนี้ชอบมาก

สำหรับข้อมูลสำคัญเพิ่มเติมที่อยู่ในฉลาก

  • ปกป้องยาวนาน 24 ชั่วโมง
  • รับรองโดยสูตินรีแพทย์จากอิตาลี
  • ผลิตโดย บ. ร็อตตาฟาร์ม เอส พี เอ ประเทศอิตาลี นำเข้าโดย บ.ร็อตตาฟาร์ม (ประเทศไทย) จำกัด
  • ปริมาณ 100 มล.
  • SAUGELLA IdraSerum เป็นสูตรใหม่อยู่ในกลุ่ม BLUE LINE
ส่วนใหญ่แล้วแบรนด์นี้ขายดีมาก อันดับ 1 ในอิตาลี มีดาราไทยหลายคนใช้มาก จากคำบอกกล่าวของผู้นำเข้า และเอิ๊กเองเคยตกขาวเยอะ เพราะว่ายน้ำ หลายวันติด ในสระไม่สะอาด ไปหาหมอ หมอจ่าย SAUGELLA ATTIVA ขวดสีเขียว สูตรปกป้องเป็นสองเท่า เลยทำให้ตอนนี้ที่บ้าน มีแต่ยี่ห้อนี้ และ แนะนำให้น้องสาวใช้เวลาเขาเป็นประจำเดือน 

ข้อดี : น่าเชื่อถือ / มีการรับรองโดยแพทย์ / Clinically Proven / หาซื้อง่ายมาก / แพคเกจดีตั้งแต่การออกแบบฝาเปิดปิด และ สามารถถ่ายลงขวดที่เล็กกว่าได้เมื่อจำเป็น / มีน้ำหอมน้อยมาก / มีหลายสูตรตอบรับปัญหาของจุดซ่อนเร้นผู้หญิงทุกวัย จนกระทั่งวัยหมดประจำเดือนก็มี ที่สำคัญมีให้กับผิวแพ้ง่าย / มีฉลากที่ชัดเจน ทั้งสรรพคุณ บริษัทนำเข้า เลขที่จดแจ้ง เว็บไซด์ วิธีใช้ ตรงนี้ชอบมากค่ะ 

ข้อเสีย : แพคเกจดูธรรมดา จืดๆ ถ้าเทียบกับสีสันทั่วไปของแบรนด์อื่น / แพงกว่าแบรนด์อื่น แต่ใช้ได้นานกว่า 

ลองใช้ผ้าอนามัยก็ชอบมาก ใช้ช่วงมีประจำเดือน รู้สึกว่าไม่อับชื้น ไม่มีกลิ่น

แต่กาวตรงปีกเหนียวไปหน่อย ดึงออกจาก MY กกน. ยากนิดนึง

ครอบครัว SAUGELLA บางส่วนที่ห้องน้ำคอนโด

รายละเอียดเพิ่มเติมที่ให้ความน่าเชื่อถือ

  •  SAUGELLA ช่วยลดการยึดติดเกาะของเชื้อรา แบคทีเรียที่ก่อให้เกิดอันตรายกับจุดซ่อนเร้น ซึ่งเป็นสาเหตุของการตกขาว คัน ระคายเคือง หรือ มีกลิ่นอับ แต่จะไม่มีผลกับเชื้อแลคโตบาซิลลัสที่มีประโยชน์กับจุดซ่อนเร้น ไม่ทำลายความสมดุลธรรมชาติของอวัยวะเพศผู้หญิง 
  • การแพ้ SAUGELLA พบได้น้อยเพราะซอลเจลล่าผ่านการทดสอบทางผิวหนังว่าอ่อนโยนแม้ผิวที่บอบบาง (hypoallergenic) ใช้ได้แม้ผิวของทารกแรกคลอด แต่ถ้าเป็นหนึ่งในคนส่วนน้อยที่อาจแพ้ส่วนประกอบใด ส่วนประกอบหนึ่งในผลิตภัณฑ์จริงๆ ควรหยุดใช้ อาการจะน้อยลงและหายไป
  • สำหรับกิจกรรมที่มากมายในแต่ละวันของผู้หญิง ที่ก่อให้เกิดเหงื่อ อับ หรือ หลังจากปัสสาวะแล้วไม่มีการซับให้แห้งก็อาจอับชื้นได้ วันนั้นน้ำสะอาดอย่างเดียว อาจไม่พอที่จะล้างทำความสะอาดคราบไขมันและเหงื่อไคลบริเวณจุดซ่อนเร้นได้หมด เพราะบริเวณนี้มีต่อมเหงื่อและต่อมไขมันอยู่ และถ้าไม่รักษาความสะอาดอย่างเพียงพอ ปล่อยให้จุดซ่อนเร้นอับชื้น ก็อาจจะกลายเป็นแหล่งของเชื้อ ซึ่งก่อโรค เจริญเติบโต เพิ่มจำนวนและเป็นสาเหตุของการติดเชื้อบริเวณปากช่องคลอด ทำให้เกิดอาการ คัน ระคายเคือง ตกขาวและทำให้เกิดกลิ่นอับตามมาได้ และถ้าไม่รักษา เชื้ออาจลุกลามไปทั้งอุ้งเชิงกรานและอวัยวะภายในอื่นๆ ได้ 
  • SAUGELLA ไม่รบกวนประสิทธิภาพของยาอื่นๆเวลาหมอจ่ายยามาให้ในขณะที่เรามีปัญหาเกี่ยวกับภายในช่องคลอด เช่น ตกขาว ติดเชื้อ เชื้อราช่องคลอด และยังช่วยเสริมประสิทธิภาพในการรักษา ทำให้คนไข้มีอาการดีเร็วกว่าการใช้ยาเพียงอย่างเดียว และด้วย dosage form ที่มีความหนืดที่เหมาะสม ใช้ปริมาณเพียงเล็กน้อยก็ทำความสะอาดและปกป้องจุดซ่อนเร้นได้เต็มประสิทธิภาพ
  • SAUGELLA จุดเด่นที่แตกต่าง คือ มีสารสกัดจากธรรมชาติ ทำให้มีกลิ่นอ่อนๆ อ่อนโยนและปลอดภัย ยับยั้งเชื้อก่อโรค ช่วยเสริมสร้างการทำงานที่ดีของสมดุลช่องคลอด มีประสิทธิภาพและความปลอดภัยในการใช้ และเป็นที่ยอมรับของสูติ-นารีแพทย์ทั้งในยุโรป และเอเชีย รวมถึงสูตินารีแพทย์ในประเทศไทยมีการใช้ในโรงเรียนแพทย์ โรงพยาบาลรัฐ โรงพยาบาลเอกชนและร้านขายยาชั้นนำทั่วประเทศ 
  • SAUGELLA มีการศึกษาทางคลินิกยืนยัน โดยมีการวัดผลถึงประสิทธิภาพและความปลอดภัยในการใช้ โดยแสดงผลชัดเจนทั้งด้านค่า pH สมดุลของเชื้อจุลชีพภายในช่องคลอด อาการแสดงทางคลินิกและผลการประเมินการรักษาของแพทย์ ว่ามีอาการดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
  • SAUGELLA ผ่านกรรมวิธีการผลิตที่ได้รับการควบคุมด้วยมาตราฐานสูง และ บรรจุภัณฑ์ของซอลเจลล่าทุกขวดมีระบบ safety seal เพื่อให้ผู้ใช้มั่นใจถึงคุณภาพและความปลอดภัย อีกทั้งยังสะดวกในการพกพาและเก็บรักษา
  • SAUGELLA หาซื้อง่าย ทั้งในโรงพยาบาล และร้านขายยาชั้นนำทั่วไป watsons / Boots / Save Drug / Pure/ P&F / Tops supermarket
เป็นอีกแบรนด์ที่เปลี่ยนมาใช้อยู่ 3 สูตรเพราะแฟนคลับแนะนำ
และ หมอให้มาใช้ เนื่องจากอยากใช้ของที่มีคุณภาพ และ ปลอดภัย
และพอได้ทราบว่ามีการวิจัยผล ยิ่งรู้สึกว่าคงไม่เปลี่ยนยี่ห้อ แต่ส่วนตัว
ไม่ได้มีปัญหาเรื่องกลิ่น เรื่องความอับชื้น ก็คงจะใช้แค่เวลาจำเป็น
หรือช่วงที่เป็นประจำเดือน

แบรนด์นี้บอกตรงๆลองใช้ดู เพราะเอิ๊กซื้อใช้เอง 2 สูตรประจำอยู่แล้วในเรื่องความปลอดภัย

ราคาอาจสูงกว่าเจ้าอื่นนิดหน่อย แต่มันหนืดใช้นิดนึง แต่นาน 🙂

XOXO

Posted in REVIEW, SKINComments (0)

[18+] แวกซ์ขนน้องสาว!!ไขปัญหาคาใจของสาวๆ

” ถามว่าเจ็บไหม ออกแนวสะดุ้งประมาณไม่เกิน 10 ครั้ง 5555+ “

Posted in HAIR, REVIEWComments (0)

การทำจมูกที่ประเทศเกาหลี กับ STMSTYLE

คำเตือน เนื่องจากเนื้อหาอาจเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดการตัดสินใจกระทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงของร่างกายได้ (ศัลยกรรม) ขอแสดงความรับผิดชอบในเนื้อหาด้วยการบังคับให้ทุกคนอ่านคำเตือนก่อนทุกครั้ง การทำศัลยกรรมที่เป็นการผ่าตัดทุกชนิด จะเป็นการกระทำที่เกิดขึ้นบริเวณเนื้อเยื่อในร่างกาย เกิดบาดแผลเมื่อผ่าตัด เมื่อตัดสินใจแล้วผลของแผลทั้งที่มองเห็นและมองไม่เห็นจะคงอยู่ตลอดไป ไม่สามารถเรียกเนื้อเยื่อเก่าให้กลับมา หรือ ลบเลือนแผลเป็นที่เกิดขึ้นใต้ผิวหนัง (พังผืด) บนผิวหนัง (แผลเป็น) ให้หายไปหมดได้ การผ่าตัดยิ่งใหญ่มากเท่าไหร่ โอกาสมีแผลบนผิวหนังแน่นอน 100% การศัลยกรรมทุกชนิด เป็นเรื่องที่ต้องดูแล และ สังเกตุความเปลี่ยนแปลงที่ไม่ปกติตลอดชั่วชีวิตเหมือนสุขภาพร่างกายของคนเรา วัสดุบางชิ้นไม่ได้เกิดมาเพื่ออยู่กับเราไปจนตาย อาจต้องมีการเอาออก เอาใส่เข้าไปใหม่ หรือ ถึงช่วงอายุขัยนึง เราอาจจะนำมันออกไปและไม่ใส่เข้าไปใหม่อีกเลย ก่อนตัดสินใจทำอะไรกับชีวิต คุณมีข้อมูลดีพอรึยัง ให้ถามตัวเองอยู่เสมอ

ด้วยความรัก และ ปรารถนาดีอย่างสูง

 erk-erk

บล็อคนี้คงเป็นที่รอคอยของใครหลายคน อันดับ1ที่คนไทยนิยมทำมากที่สุด

นั่นก็คือ ” จมูก “ ก่อนจะทำอะไรทุกครั้งกับอวัยวะในร่างกาย เอิ๊กอยากให้ทุกคนเข้าใจ

ว่าแต่ละอวัยวะนั้น หน้าที่ที่แท้จริงของมันเอาไว้ทำอะไร ?

 

จมูก ความสำคัญสูงสุดสำหรับร่างกายเรา คือ การหายใจเข้าออก เพื่อให้มีชีวิตอยู่

เพื่อดมกลิ่น เพื่อปรับอุณหภูมิ กรองอากาศ ฯลฯ

นี่คือความเป็นจริงในหน้าที่ของจมูกมนุษย์แต่ละคน

[ ภาพ : Google ]

  ภายในจมูกมีโครงประกอบทั้งกระดูกแข็งและกระดูกอ่อนโดยมีเมือกด้านใน

ภายนอกห่อหุ้มด้วยผิวหนังที่ทำหน้าที่ปกป้องสิ่งแปลกปลอมไม่ให้เข้าสู่ร่างกาย

ส่วนประกอบหลักที่สำคัญของจมูก

1. สันจมูก กระดูกอ่อนที่มีเนื้อเยื่ออยู่ภายใน

2. ดั้งจมูก ซึ่งเป็นกระดูกแข็งที่อยู่บนสุดเหนือสันจมูก

3. รูจมูก 2รู ทำหน้าที่สำคัญที่สุดในระบบทางเดินหายใจ

4. โพรงจมูก จะมองเห็นผ่านรูจมูกเข้าไป นอกจากจะเป็นช่องทางเดินอากาศเวลาหายใจเข้ามาแล้ว ยังมีหลอดเลือดฝอยอยู่มากมาย มีปลายประสาทรับกลิ่น ถ่ายเทความร้อนภายในร่างกาย และ เชื่อมต่อกับท่อน้ำตาของมนุษย์

สิ่งหนึ่งที่เราอาจปฏิเสธไม่ได้

ว่าจมูกเป็นตัวแปรสำคัญบนใบหน้าในเรื่องของมิติบนใบหน้า บางคนก็ว่าเป็นโหวงเฮ้ง

เป็นเรื่องของดวง หรือ แม้แต่สามารถบ่งบอกชะตาชีวิตในช่วงชีวิตหนึ่งได้

หรือ ที่สุดยิ่งกว่านั้นในความโชคดีเรื่องศัลยกรรมจมูก บางคนเปลี่ยนชีวิตไปเลย

กลายเป็นคนนึงที่มีโชคดีอยู่เสมอแก่ผู้พบเห็นในการเป็น FIRST IMPRESSION

แปลเป็นไทยประมาณว่า “ถูกชะตา ต้องตา” เกิดความประทับใจตั้งแต่แรกเห็น

เพราะมนุษย์เรามักตัดสินกันด้วยการมองเห็นเพียงไม่กี่วินาทีแรก

บล็อคนี้เป็นอีกความรู้นึงในแขนงศัลยกรรมที่เอิ๊กต้องขอออกตัวเหมือนเช่นเคยว่า

การทำศัลยกรรมทุกประเทศมีจุดเด่น มีความสวยงาม และมีเทคนิคที่ต่างกัน

วันนี้จะมาพูดการทำศัลยกรรมจมูกที่ประเทศเกาหลี ไม่ใช่แค่สไตล์เกาหลี

แต่เป็นบทความที่สัมภาษณ์และมีข้อมูลเป็นของประเทศเกาหลีจริงๆ จากแพทย์ชั้นนำ

ของ STMSTYLE ซึ่งมีประสบการณ์เกือบ 20 ปีแล้ว ทำให้ดาราเกาหลีมาเยอะมาก

คนไข้ไม่ต่ำกว่า 20,000 คน และ โค ตะ ระ แพง ทำไมแพงจัง

มันมีเหตุผลที่ทำให้คนยอมจ่าย เพราะความแพงนอกจากค่าตัวหมอ ยังอยู่ที่วัสดุด้วย

ฟังแล้วตื่นเต้นมาก ไม่คิดว่าตัวเองจะมีโอกาสได้ใกล้ชิด

กับคุณหมอคิวทอง และ เป็นมือศัลยกรรมอันดับต้นๆของประเทศเกาหลีอย่าง

คุณหมอ ปาร์ค ยัง ซู

ต่อไปจะเป็นสัมภาษณ์ระหว่างคุณหมอ ล่าม และเอิ๊กนะคะ

บางส่วนดัดแปลง ต่อเติมจากข้อมูลวิชาการต่างประเทศทางตะวันตกประกอบ

เพื่อความเข้าใจง่ายขึ้น แต่ชัดเจนทุกประเด็น และ ใส่ความรู้สึกเอิ๊กลงไปเพื่อ

อรรธรสในการอ่านแต่ได้รับความรู้เต็มเปี่ยมไม่บิดเบือนความจริง

สไตล์ erk-erk เหมือนเดิม

 

จุดเริ่มต้นในการทำศัลยกรรมจมูกต้องคำนึงถึงอะไรก่อน

นอกจากความจำเป็นจริงๆทางร่างกาย เช่น มีความผิดปกติทางจมูกทำให้หายใจไม่สะดวก ก็อาจจะมาจากการแก้ไขความไม่สมดุลของจมูกที่มีมาแต่กำเนิดยกตัวอย่างรูปทรงจมูกไม่เท่ากัน เช่น จากการมีความผิดปกติเรื่องปากแหว่ง เพดานโหว่ และ สุดท้ายเหตุผลที่คนนิยมทำกันคือ ปรับรูปจมูกให้มีมิติ มีรูปทรงที่โดดเด่นสวยงาม รับกับรูปหน้า ทำให้ภาพรวมบนใบหน้าดูสมดุล และ สวยงามขึ้น สำหรับประเทศเกาหลีจะคำนึงถึงขีดจำกัดของจมูกแต่ละคน คือ

  1. ความสูงต่ำที่เหมาะสมของดั้งจมูก 
  2. ความหนาบางของผิวหนัง
  3. ความกว้างของสันจมูก 
  4. สภาพของจมูกเดิม 
  5. ความโค้งเว้าของหน้าผาก
  6. ความสมมาตรรูปทรงจมูกทั้งด้านซ้ายและขวา
  7. สันจมูกต้องตรง ไม่เบี้ยวหรือ คดงอ
  8. สัดส่วนความยาวจมูกต้องเป็น 1/3 ต่อความยาวของใบหน้าทั้งหมด
  9. ริมฝีปากกับปลายจมูกต้องทำมุมกันประมาณ 95-105 องศา แต่ในทางทฤษฎี
  10. รูปจมูกต้องเข้ากับรูปหน้าของแต่ละคน
  11. ขนาดของจมูกที่สวยงาม
  12. การคงรูปไว้ไม่ให้รูปทรงเปลี่ยนหลังผ่าตัด
  13. ต้องไม่ทำให้เกิดริ้วรอยหลังการผ่าตัดอย่างที่ได้กล่าวไปแล้วข้างบน
  14. การทำศัลยกรรมจมูกควรทำหลังจากเรามีอายุ 17-18 ปีขึ้นไป เพราะการเจริญเติบโตของกระดูกเต็มที่

 

วิธีการผ่าตัดเสริมจมูกทั้งหมดที่ประเทศเกาหลี

การศัลยกรรมจมูกให้ได้ผลออกมาดี มีองค์ประกอบ 2 ส่วนสำคัญ คือ บริเวณดั้งจมูก ซึ่งนิยมวางซิลิโคนเนื่องจากเป็นส่วนที่ไม่ต้องขยับ และ บริเวณปลายจมูก ซึ่งนิยมวางด้วยกระดูกอ่อน เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมชาติ ขยับไปมา บิดได้เหมือนเสมือนของจริง

ในกรณีที่ไม่ต้องแก้ไขอะไรจะใช้วิธีการผ่าตัดเข้าไปข้างในรูจมูก

การผ่าตัดที่ต้องแก้ไขกระดูกหรือมีปัญหาจะใช้วิธีการต้องผ่าเข้าทางเปลือกผิวหนังสุดปลายจมูกแทน (บริเวณที่ตั้งของรูจมูกทั้งสองข้าง)

 

 

วัสดุที่ใช้ในการเสริมจมูกอาจใช้ผสมผสานกัน หรือ วิธีเดียวก็ได้ขึ้นกับสรีระคนไข้

  • ใช้จากร่างกายตนเอง เช่น กระดูกอ่อนของตนเอง ไขมันตนเอง

ข้อดี ธรรมชาติใช้ของในร่างกายตนเอง ร่างกายยอมรับ ไม่เกิดการต่อต้าน หรือ ติดเชื้อแทบไม่มี

ข้อเสีย อาจทำให้มีแผลเป็นเล็กๆตามร่างกายที่ถูกนำกระดูกออกมาใช้เช่นหลังใบหู หรือ บริเวณที่ดูดไขมันออกมา

  • ใช้วัสดุเทียมที่ปลอดภัยต่อร่างกาย เช่น ซิลิโคน กระดูกอ่อนเทียม

ข้อดี ไม่เจ็บตัว ไม่มีแผลในส่วนอื่นของร่างกาย

ข้อเสีย สิ่งแปลกปลอม คือ สิ่งแปลกปลอม ถ้าเกิดการอักเสบติดเชื้อ ต้องนำออกทันที

* การผ่าตัดจะเกิดขึ้นและวางวัสดุบริเวณใต้เนื้อเยื่อที่ทำหน้าที่ห่อหุ้มกระดูก

 

1. ซิลิโคน

เป็นซิลิโคนแบบนิ่ม หรือ SOFT SILICONE

ข้อดี ผ่าตัดได้ง่าย ทำให้ผิวเนียนเรียบ เหลาสั้น ยาว รูปทรง สัดส่วน ปรับเปลี่ยนได้ง่าย เช่น เหลาผิดจากด้านนอกก็ทิ้ง เหลาอันใหม่ได้ต่อ แก้ไขหรือเอาออกก็สามารถแก้ไขได้ง่าย ถึงใส่เข้าไปแล้ว ไม่พอใจก็ถอดทิ้ง เหลาทรงใหม่เข้าไปใหม่ได้ เวลาเหลาจะใช้กรรไกรผ่าตัดเหลา โอกาสทะลุไม่มีเพราะนิยมวางไว้ส่วนกระดูกแข็งหรือบริเวณดั้งจมูก ไม่ใช้กับบริเวณปลายจมูก

 ข้อเสีย ถ้าใส่สูงเกินไปแล้วทำให้ผิวหนังที่ห่อหุ้มมันบาง จะทำให้เห็นความเป็นเงาของซิลิโคน สังเกตได้เลยถ้าเห็นจมูกเงาใส และถ้าใส่สูงเกินไปจนผิวบางก็ทะลุได้เช่นกัน

 

2. กระดูกอ่อน

กระดูกอ่อนในโพรงจมูกจากผนังที่กั้นระหว่างรูจมูก หรือ กระดูกอ่อนหลังหู หรือ กระดูกอ่อนตรงซี่โครงแทนได้ในบางกรณีจำเป็น ถ้าเน้นเสริมตรงปลายจมูกจะใช้กระดูกอ่อนหลังหู  ถ้าเกิดอยากยกจมูกให้สูงขึ้นจะใช้กระดูกอ่อนในโพรงจมูก

 ข้อดี กระดูกอ่อนที่ใช้เสริมปลายจมูกจะทำให้จมูกขยับ บิดได้อย่างเป็นธรรมชาติ โอกาสทะลุไม่มี ผิวหนังไม่เงา กระดูกอ่อนไม่เสื่อมตามอายุ เหมือนกระดูกแข็งที่อาจจะมีบ้างเวลาที่เราอายุมากขึ้น แต่รูปทรงในส่วนกระดูกอ่อนจะไม่เปลี่ยน 

 ข้อเสีย การผ่าตัดซับซ้อน แพงกว่าซิลิโคนหลายเท่า ถ้าผ่าหลังใบหูอาจมีแผลเป็นเล็กๆ ถ้าทำโดยไม่เชี่ยวชาญ ตัดแล้วเหลาทรงผิด ต้องตัดเหลาใหม่ เกิดการเปลี่ยนแปลงของรูปทรงจมูกที่เรียกคืนไม่ได้ตลอดกาลหากเลือกตัดกระดูกภายในโพรงจมูก ข้อนี้สำคัญมากต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญในการศัลยกรรมจมูก และ กระดูกในจมูกจริงๆ การเปลี่ยนแปลงอาจทำได้ไม่มากครั้งเทียบเท่าซิลิโคนที่บางคนอาจทำได้มากกว่า 20-30ครั้ง แต่การตัดกระดูกอ่อนจริงๆออกไป กระดูกจริงเราจะไม่สามารถงอกกลับมาเหมือนเดิม

 

3. กระดูกอ่อนเทียม

ควรได้จากการเพาะเลี้ยงปลูกเซลล์เนื้อเยื่อกระดูกอ่อนที่อาจจะได้มาจากบริเวณข้อต่อของกระดูกมนุษย์

ข้อดี ขยับได้อย่างเป็นธรรมชาติ โอกาสทะลุไม่มี ผิวหนังไม่เงา กระดูกอ่อนเทียมไม่เสื่อมตามอายุรูปทรงจะไม่เปลี่ยน

ข้อเสีย โค ตะ ระ แพง บางที่อาจเป็นการใช้วัสดุที่มีเทคนิควิทยาศาสตร์ทางการแพทย์เข้ามา รวมถึงเทคโนโลยีขั้นสูงในการเพาะเนื้อเยื่อสร้างชิ้นงานวัสดุเทียมขึ้นมา

 

4. ฉีดไขมันตัวเอง

ดูดเซลล์ไขมันคุณภาพมาจากไขมันส่วนเกินในร่างกายตัวเอง เช่น หน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา มาฉีดกลับเข้าไปในบริเวณที่ต้องการเปลี่ยนแปลงไม่มากของรูปทรงจมูก

ข้อดี ไม่ต้องผ่าตัด มักใช้กับจมูกที่เล็กหรือแคบอยู่แล้ว อาจจะใช้เติมเต็มให้ดูอวบอิ่ม หรือ สูงขึ้นเล็กน้อย ให้ความเป็นธรรมชาติสูง ฟื้นตัวเร็ว ราคาถูกกว่าวิธีอื่นมาก

ข้อเสีย อยู่ได้ไม่นาน เฉลี่ย 24 เดือน 

 

เทคนิคที่นิยม ณ ประเทศเกาหลีในการศัลยกรรมจมูก

เทียบกับเทคนิคเมื่อก่อนของประเทศเกาหลี คนจะนิยมใส่ซิลิโคนยาวตั้งแต่สันจมูกด้านบนลงมาถึงปลายจมูก เพื่อให้จมูกดูโด่งกว่า ซึ่งมันจะดูไม่เป็นธรรมชาติ แต่ในปัจจุบันเปลี่ยนไปโดยใช้ซิลิโคนสั้นลง เพื่อความเป็นธรรมชาติมากขึ้นโดยส่วนใหญ่ในการผ่าตัดปกติเป็นการผสมผสานระหว่างซิลิโคน และ กระดูกอ่อน โดยช่วง ดั้งจมูกด้านบนเราจะวางด้วยซิลิโคนสั้นเพราะเป็นส่วนที่เป็นกระดูกแข็งและธรรมชาติไม่ได้มีการขยับเขยื้อนอยู่แล้ว ส่วนสันจมูกยาวลงมาถึงปลายจมูกจะวางด้วยกระดูกอ่อนของเราที่ถูกเหลาและกรีดเย็บเก็บปลายจมูกให้ดูยาวเล็กเรียว หรือ ตามแบบที่เราชอบให้เหมาะกับสัดส่วนบนใบหน้าของเราอย่างเป็นธรรมชาติโดยสามารถขยับ บิด ดันได้เหมือนของจริงเกือบ 100% เรียกได้ว่าแผลเป็นไม่มี ถ้าไม่บอกก็อาจจะไม่มีใครรู้ ยกเว้นคุณหมอศัลยกรรมที่เชี่ยวชาญเรื่องจมูกเท่านั้นที่จับแล้วจะรู้ ส่วนใหญ่จะเข้ารูปหลังจาก 3 เดือนขึ้นไป

 

เสริมจมูกให้สวยตามใจฉัน

หลายคนคงมีข้อสงสัย จะเป็นไปได้ไหมที่จะเอาแบบจมูกไม่ว่าจะจากดารา หรือ คนที่ชื่นชอบไปวางแล้วให้หมอเนรมิตให้เหมือน คุณหมอตอบว่า ขึ้นกับข้อจำกัดของจมูกแต่ละคน แต่อย่างน้อยมันก็ทำให้คุณหมอรู้ทิศทางความปรารถนาของคนไข้ จะทำให้เป็นไปในทิศทางนั้นแต่เป็นในแบบฉบับที่เหมาะสมกับเรามากที่สุด เท่าที่เราจะเป็นได้

 

เห็นภาพก่อนตัดสินใจ

ด้วยความแพง แน่นอน ส่วนหนึ่งแพงด้วยความล้ำทางเทคโนโลยีของเกาหลี (นิสัยตรงนี้ของเอิ๊กเหมือนเกาหลี) ตรงที่ว่าเลือกเทคโนโลยีล้ำสุดมาใช้ในงาน แม้แพง แต่คุณภาพ และ ผลมันเห็นได้เยอะกว่า หลายมุมมอง อยากเห็นภาพก่อนศัลยกรรมแปลงโฉมดั้งใหม่ ก็มีโปรแกรมหลายตัวที่เกาหลีใช้ หลักๆก็จะเป็นโปรแกรมที่มองเห็นภาพเป็นแบบสามมิติ แสดงให้เห็นถึงโครงหน้าที่สามารถวิเคราะห์อธิบายได้ว่า จุดไหน ควรแก้ หรือ เสริมตรงไหน ทำออกมาแล้วจะเป็นยังไงแบบเป็นการคาดคะเน ผลก็จะค่อนข้างใกล้เคียง  (อยากเล่น แต่วันนั้นหมอไม่ว่างสั่งให้พยาบาลเปิดเครื่องให้เล่น ไม่งั้นจะถ่ายรูปมาให้เห็นหน้าค่าตากัน และ คงเล่าได้มันส์กว่านี้)

 

ตัวอย่างการวิเคราะห์ด้วยตาของคุณหมอปาร์คกับจมูกมาดามเมิ๊ก

 

 

ทุกๆคนจะมีกระดูกดั้งจมูกเพื่อทำให้ใบหน้าดูนุ่มนวล แต่ของเอิ๊กหักยุบลงไปบางคนเรียกว่า “ฮัมพ์” [NASEL HUMP] ออกเสียงดีดีนะ (อ่านว่า ฮั๊ม!) และจมูกสวยงามได้รูปแบบธรรมชาติ อาจจะแนะนำให้กรอกระดูกตรงนี้ให้เรียบเสมอกันเวลามองด้านข้างจะเป็นเส้นตรง ด้วยเนื้อปลายจมูกที่อวบ อาจจะทำให้เล็กเรียวลง โดยเพิ่มความสูงด้านบนนิดหน่อย จมูกจะดูเรียวเล็ก และ ใบหน้าดูสวยชัดเจน นุ่มนวลขึ้น และยังคงมีความเป็นธรรมชาติ (แอบคิดในใจถ้าทำคงเป็นฝรั่งไปเลย อิอิ อยากสวยแต่ไม่พร้อมเจ็บ และ ยังรักในหน้าตัวเองอยู่ยังไม่พร้อมเปลี่ยนแฟน เอ้ย เปลี่ยนแปลง ฮ่า ฮ่า)


จมูกดี ดวงดี เชื่อไหมคะ ?

คุณหมอบอกว่าเป็นเรื่องของแต่ละคนแต่ละชาติ เชื่อไม่เหมือนกันเลย เช่น คนจีน จะชอบจมูกที่ยาวลงมา คนเกาหลีก็จะชอบที่สั้นลงไปนิดนึง จะไม่ตกลงมาเหมือนคนจีน อย่างคนเกาหลีเชื่อว่าถ้าปลายจมูกยาวลงมาจะมองกันว่าเป็นคนแข็งและดูเหมือนโชคไม่ดี คนตะวักตก เช่น ชาวยุโรป จะชอบให้จมูกเล็กลง คุณหมอจะดีไซน์ตามใจแต่ละคน แต่ละชาติมากกว่า ในความเห็นส่วนตัวของตัวเองสังเกตุถ้าจะดูดวงจริงๆ จีน กับ เกาหลี ความเชื่อขัดกัน 100% แต่ทั้งสองประเทศก็มีคนดัง มีชื่อเสียง ประสบความสำเร็จมากมาย มันเป็นเพราะอะไร รูปลักษณ์อาจจะเป็นส่วนหนึ่งแต่สุดท้าย อยู่ที่การกระทำ ความสามารถที่แท้จริง ที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะชนมากกว่า อยากให้คิดตามจุดนี้ในเรื่องของดวง แต่เอิ๊กไม่ลบหลู่ความเชื่อใครนะคะ เพียงแต่เลิกดูดวงมา 4-5 ปีชีวิตพุ่งขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับ สมองที่เต็มไปด้วยพลังบวก สำคัญคือเอิ๊กลงมือทำ เลยเป็นอีกความเชื่อนึง คือ เชื่อในพลังข้างในตัวเอง

 

 

การเตรียมตัวก่อนศัลยกรรมจมูก

  • เตรียมใจ เตรียมตังค์ เตรียมดูดีขึ้น(ในแบบตัวเอง) ฮ่าฮ่า
  • อดอาหารก่อนผ่าตัด 3 ชั่วโมง
  • ถอด สร้อยคอ, แหวน, ตุ้มหู, และเครื่องประดับต่างๆ ออกให้หมดก่อนเข้าห้องผ่าตัด
  • ล้างยาทาเล็บที่เล็บมือ และเล็บเท้าออก
  • ก่อนการผ่าตัด 2 อาทิตย์ หยุดทานยาประเภทพวกแอสไพริน 
  • กรณีทานยาประเภท ยาไทรอยด์, ยาประเภทกรดวิตามินเอ, ยาคุมกำเนิด, ยาความรักษาความดันโลหิตสูง, ยาละลายไขมันในเส้นเลือด, ยารักษาโรคเบาหวาน ให้ปรึกษาแพทย์ประจำตัว ในการใช้ยาล่วงหน้าก่อน
  • หากมีอาการแพ้ ยากิน , ยาทา, หรือยาฆ่าเชื้อต่างๆ กรุณาบอกล่วงหน้าก่อน
  • ช่วงก่อนการผ่าตัด 2 อาทิตย์ ควรงดสุราและ บุหรี่

การดูแลตัวเองหลังศัลยกรรมจมูก
  • การประคบอุ่นและเย็นในช่วง1-2วันแรก อุ่นช่วยลดอาการช้ำ เย็นช่วยลดอาการบวมไม่ให้เพิ่มมากขึ้น อาการบวมชำจะค่อยๆลดลงไปภายในประมาณ 5 วัน
  • พักฟื้น 1 สัปดาห์ บวมอักเสบ 3 สัปดาห์ จมูกเข้าที่ประมาณ 3 เดือน
  • ห้ามใส่แว่นซักระยะ จนกว่าจะไม่เจ็บจมูกแล้ว
  • ดูแลความสะอาดแผล โดยห้ามน้ำโดนแผลจนกว่าแผลจะแห้งสนิท
  • อย่านอนคว่ำ นอนหมอนสูง 2 สัปดาห์แรกเพื่อลดการไหลเวียนของเลือดบริเวณใบหน้า
  • ไม่ก้มหน้าอ่านหนังสือ 2-3 สัปดาห์
  • ออกไปเดินเล่น ขยับร่างกายบ้างจะทำให้แผลหายไว
  • งดดื่มแอลกอฮอล์หลังผ่าตัด 2-3 อาทิตย์
ขอถามประสบการณ์ศัลยกรรมคุณหมอว่าทำมานานแค่ไหน ?
คุณหมอบอกว่า ไม่นับเป็นปีนับเป็นเคสคนไข้ผ่าตัดดีกว่า ประมาณ 20,000 เคส (เท่าที่ทราบภายหลังคือคุณพ่อ เอ้ย คุณหมอศัลยกรรมจมูกมาประมาณเกือบ 20 ปีแล้ว)
ค่าใช้จ่ายที่แรงไม่แพ้คุณภาพของงาน
ค่าความดังและประสบการณ์คว่ำหวอดของหมอ ค่ายา ค่าผ่าตัด ค่าเทคโนโลยี ค่าวัสดุ ขึ้นกับสรีระคนไข้ เฉลี่ย 170,000 – 250,000 บาท อาจจะถูกหรือแพงกว่านี้ขึ้นกับปัญหาที่น้อยหรือมากในการแก้ไข ศัลยกรรม ตกแต่ง

 อ่านบมสัมภาษณ์ของหมอที่เอิ๊กได้ไปสัมภาษณ์โดยมีล่ามแปลอีกต่อนึงกันไปแล้ว

ขอมอบบทส่งท้ายพิเศษข้อมูลจาก STMSTYLE ให้อ่านไว้ประดับความรู้

เรื่องศัลยกรรมจมูกเพิ่มเติม

มีตังค์แต่ทำจมูกไม่ได้ ใครบ้างห้ามเสริมจมูก

  • ผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้รุนแรง ซึ่งมีน้ำมูกไหลตลอด : อาจทำให้แผลผ่าตัดติดเชื้อได้
  • ผู้ที่มีเลือดออกผิดปกติ หรือเกล็ดเลือดต่ำกว่าปกติ : อาจทำให้เกิดอาการเลือดไหลไม่หยุด
  • ผู้ที่ชอบเล่นกีฬาที่มีการกระทบกระเทือนซึ่ง : อาจทำให้เกิดการกระแทกอย่างรุ่นแรง
  • ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือมีภาวะภูมิต้านทานต่ำ : เช่น ผู้ป่วยโรคเอดส์

เทคนิคศัลยกรรมจมูกที่ประเทศเกาหลีมีกี่วิธี

ที่แน่ๆมากกว่า 50 เทคนิค

ศัลยกรรมจมูกแค่ทำให้โด่งได้อย่างเดียวใช่ไหม

ตกแต่ง แก้ไขปัญหาอื่นได้เช่น จมูกสั้น จมูกรั้นร่นขึ้นไป ก็ทำให้ยาว เรียวลงมาได้ จมูกยาวไปก็ทำให้สั้นได้ หรือ มีความผิดปกติของกระดูกก็สามารถแก้ไขได้ หรือ จมูกแหว่งชิ้นเนื้อหายไปก็ตกแต่งให้เต็มเท่ากันได้ อะไรที่เกี่ยวกับจมูก กระดูกจมูกทำได้ ..

การเฝ้าระวังหลังศัลยกรรมตลอดชีวิต

อย่าคิดว่าทำแล้วจบ การศัลยกรรมที่มีสิ่งแปลกปลอม เช่นซิลิโคนแม้จะปลอดภัยก็ติดเชื้อได้หากดูแลไม่ดี หรือ เกิดภาวะภูมิคุ้มกันในร่างกายบางส่วนบกพร่องทำให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับระบบหายใจ เช่น อยู่ๆเป็นภูมิแพ้อากาศขึ้นมากระทันหัน ชอบแคะขี้มูก นิ้วก็เอาเชื้อโรคเข้าไปติด ติดเชื้ออีก 

  • หากพบอาการผิดปกติ หรือเห็นขอบจมูกเริ่มชัดเจนขึ้น รีบพบแพทย์ทันที หรือแผลหดรั้ง บางรายแผลรั้งจนจมูกเชิด 
  • รู้สึกว่าเริ่มเสี่ยงต่อการติดเชื่อ รวมถึงการเกิดอาการแทรกซ้อน อาจป้องกันด้วย การรักษาความสะอาดของทางการแพทย์ การดูแลผิวหนังที่ได้รับการผ่าตัด ทั้งด้านในและด้านนอกของจมูก และผิวหนังบริเวณรอบๆ 
  • หากเกิดอาการติดเชื้่อบริเวณที่ใส่ซิลิโคนเข้าไป ควรรีบเอาซิลิโคนออก และ ทิ้งระยะเวลาให้ร่างกายได้ปรับตัวก่อน 3-6 เดือน หรือ 1 ปีขึ้นไป
  • อาการอักเสบหรืออาการติดเชื้อไม่สามารถหายไปเองได้ หากยังมีสิ่งแปลกปลอมอยู่ในร่างกาย ยิ่งทิ้งไว้นาน เนื้อเยื่อในร่างกายยิ่งถูกทำลาย จนยากที่จะแก้ไขให้ดีได้เหมือนเดิม
  • อาจเกิดการเอียงได้ ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างฐานจมูกที่เอียงมาก่อนแล้ว หรือเกิดจากการเหลาที่ไม่สมมาตรของแพทย์ หรือทำโดยฝืนเนื้อเยื่อของผิวหนังมากเกินไป หากทางแพทย์เห็นแล้วว่าเอียง ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุใด การรีบแก้ไขให้ทันภายในระยะเวลาแรกเป็นสิ่งสำคัญ เพราะหากทิ้งระยะเวลานาน อาจจะทำการแก้ไขได้ยากกว่าเดิม

อะไรเอ่ยกินเข้าไปแผลหายไว

จะบอกว่าเอิ๊กผ่าตัดใหญ่ แต่อยากอวดว่าหมอชมว่าไม่มีอาการบวมใดใดทั้งสิ้นให้เห็นภายนอกเลย เป็นปกติทุกอย่าง เพราะอาหารเขาก็มีส่วนช่วยมากๆ มาดูกันดีกว่าเอิ๊กทานอะไรบ้าง

  • โจ๊กฟักทองที่ปั่นละเอียดจนเป็นเสมือนน้ำฟักทอง อุดมไปด้วยวิตามิน A ปริมาณ ช่วยขจัดสิ่งสกปรก ต่อต้านการติดเชื้อ และช่วยลดอาการบวมได้เป็นอย่างดี 
  • สาหร่ายเคลป์หรือสาหร่ายทะเลต่างๆ เพราะสาหร่ายเป็นอาหารที่มีเส้นใย แร่ธาตุและแคลเซียมจำนวนมากทำให้ระบบการดูดซึมออกซิเจนของร่างกายทำงานเป็นปกติซึ่งช่วยทั้งทำให้ร่างกายอบอุ่นและช่วยลดการบวมช้ำได้
  • ถั่วดำ เพราะถั่วดำมีคุณสมบัติเป็นอาหารที่สามารถขับพิษในร่างกายผ่านทางการขับถ่าย
  • จำได้ว่าซุปผัก ผักดอง ผัก ผัก ผัก เยอะมาก เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย รวมถึงการขับถ่ายด้วย

 

ข้อมูลทั้งหมดถือเป็นลิขสิทธิ์ของ www.erk-erk.com แต่เพียงผู้เดียว ซึ่งเอิ๊กเรียบเรียงและเขียนเองทั้งหมดอนุญาตให้เผยแพร่ต่อได้โดยให้เกียรติลงเครดิต และขอความกรุณาคนไทยด้วยกันไม่ดัดแปลง แก้ไข ข้อความส่วนใดทั้งสิ้นนะคะ กราบขอบพระคุณล่วงหน้า ตั้งใจทำมาก อยากให้คนไทยที่มีความคิดที่จะทำศัลยกรรมได้อ่านอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจ ทำให้เข้าใจง่าย ใส่ความคิดตัวเองลงไปบ้าง ภาษาส่วนตัวตัวเอง แต่ไม่เปลี่ยนแปลงความจริงที่เกิดขึ้น

ที่มาส่วนประกอบข้อมูล รูปภาพ

บทสัมภาษณ์คุณหมอ ปาร์ค ยัง ซู ศัลยแพทย์จมูก ประเทศเกาหลี

บทความที่นำมาดัดแปลงจาก STMSTYLE.BLOGSPOT.COM

ประสบการณ์จากการทำศัลยกรรมส่วนตัว และ จากที่ได้พบเห็นมาจริง

 

Posted in NOSE, SURGERYComments (2)

ผิวขาดน้ำกับความสำคัญของความชุ่มชื้น

หน้าร้อน กับ การทำร้ายความชุ่มชื้นผิว

ปกติแดดเมืองไทยก็มีรังสียูวีที่แผดเผา และ ทำให้ผิวเราแก่เร็วก่อนไว ไม่นับรวมฝ้า

กระ จุดด่างดำที่มีชัดเจนขึ้นแล้ว ความร้อนยังทำให้ผิวอักเสบเกิดสิวผด

สิวที่มีก็อาจอักเสบได้ ร้อนมากบางครั้งทำให้ผิวขาดน้ำ ขาดความชุ่มชื้น

ผิวที่เคยมัน ธรรมดา ผสม กลับแห้ง ผิวแห้งยิ่งแห้งหนัก

น้ำมันหล่อเลี้ยงผิวไม่มี หากปล่อยไว้อาการระคายเคืองก็อาจตามมา ส่งผลให้ผิวแพ้ง่าย

ได้ต่อทุกสิ่งที่มากระทบ และ เมื่อแห้งไปนานๆริ้วรอยก็จะถามหาไว

นี่เป็นปัญหาผิวที่เกิดจากภาวะขาดความสมดุลผิว ขาดน้ำ จนแห้งหากปล่อยไว้

จะมีปัญหาหลายอย่างตามมาไม่รู้จบ

เอิ๊กเป็นสาวผิวแห้งช่วงหน้าหนาว – ผิวผสมช่วงหน้าร้อน

จะเข้าใจดีว่า ไม่สามารถปล่อยให้หน้าตัวเองแห้งไปมากกว่าเดิมได้เลย ผิวแห้งนอกจาก

  • กรรมพันธุ์
  • การรับประทานยาสิว
  • การทายารักษาสิวบางประเภท
  • การทายาลดริ้วรอยที่มีส่วนผสมของกรดวิตามินเอ
  • การผลัดเซลล์ผิวเพื่อความขาวมากเกินโดยไม่บำรุงให้ผิวชุ่มชื่น
  • การนอนดึกมาก ไม่ได้พักผ่อน น้ำระเหยออกจากร่างกาย
  • การอยู่ในห้องแอร์
  • ฯลฯ

สาเหตุเกิดได้หลายอย่าง และ อาการที่ผิวแห้งลงไม่ได้เกิดเฉพาะคนผิวแห้ง

แต่โอกาสของคนทุกสภาพผิวเช่นกันที่จะมีผิวที่แห้งลง

และสาเหตุที่สำคัญอีกหนึ่งอย่าง

ที่จะคุยกันวันนี้คือ “ผิวขาดน้ำ”

ผิวขาดน้ำเป็นอาการผิวที่แห้งลง และ เกิดได้กับผิวทุกประเภท

เพราะอาจจะมีทั้งมันและแห้งแบบไม่เป็นเวลา

เนื่องจากขาดสารหล่อเลี้ยงที่สำคัญ นั่นคือน้ำ ที่เป็นส่วนประกอบพื้นฐานหลักของผิวหนัง

ผิวจะแห้งกร้าน อาจจะลอกร่วมด้วย ไม่สดใสเปล่งปลั่ง

 ผิวขาดน้ำเกิดขึ้นได้ทั้งการอยู่ในร่ม หรือ กลางแจ้ง

 

อาการร้อนทำให้ผิวขาดน้ำได้ และ อากาศเย็นก็ทำได้เช่นกัน

”เครื่องปรับอากาศ” ที่หลายคนชินกับการทำงานในห้องแอร์อยู่บ้านเปิดแอร์

รู้ไว้เถอะว่า ก่อนจะเกิดความเย็นนั้น แอร์ฯจะดึงเอาความชื้นในอากาศทั้งหมดรวมถึง

ความชื้นของผิวหนังเราด้วย เมื่อความชื้นหายไป อากาศและผิวเราก็จะแห้งไปด้วย

ผิวขาดน้ำสังเกตุยังไง

  • ผิวแห้ง และอาจจะลอก รวมถึงอาจเป็นขุยโดยไม่ทราบสาเหตุ

บางคนถึงขนาดลองเอาเล็บข่วนเบาๆ จะเห็นว่าใบหน้าเป็นรอยเล็บขาวๆเป็นทางยาว

 

  • ผิวเดี๋ยวแห้ง เดี๋ยวมัน เดี๋ยวลอก

อาจจะเกิดได้ในระยะเวลาอันสั้นกลับไปกลับมา หน้าแห้งลอกทั้งที่หน้ามัน

  • แต่งหน้าไม่ติด หรือไม่อยู่ทน

ลงครีมบำรุงไม่ค่อยซึม ครีมรองพื้นพอลงก็เกลี่ยยากและเป็นขุย ระหว่างวันเครื่องสำอางหลุดลอกจนเห็นความแห้งของใบหน้าจุดนี้ต่างจากผิวแห้งเพราะต่อให้ผิวแห้งแต่การดูดซึมก็ยังเป็นไปตามปกติ ยังสามารถเกลี่ยเครื่องสำอางและครีมบำรุงได้ง่าย แต่ผิวขาดน้ำผิวจะไม่ดูดซึมเนื้อครีมที่มีความเข้มข้นได้เลย [ในเรื่องการทาครีมบำรุงแล้วไม่ซึมอยากให้ดูช่วงก่อนมีประจำเดือนและระหว่างมีประจำเดือนด้วย เป็นภาวะที่ผิวอ่อนแอเช่นกัน ช่วงนั้นทาครีมบำรุงจำทำให้ครีมไม่ค่อยซึม]

  • ผิวหน้าอิดโรย ไม่สดใส ไม่ยืดหยุ่น

ผิวขาดน้ำ หรือ ขาดความชุ่มชื้น ผิวจะดูแห้ง และ ดูหยาบกร้านขึ้น เวลาสัมผัสที่บริเวณผิวหน้าจะรู้ทันที นอกจากนั้นจะไม่ยืดหยุ่น และจะรู้สึกตึงๆบางครั้ง จะไม่นุ่ม ไม่กระชับเช่นเคย บางคนขาดน้ำจนแห้งมากก็อาจทำให้เกิดผื่นแพ้ แดงเป็นจ้ำ และผิวอักเสบ เกิดอาการแพ้ง่ายได้

 

วิธีการเติมน้ำให้ผิว

เริ่มจากง่ายไปยากนะ ทำเองได้ที่บ้าน ง่ายนิดเดียว เอิ๊กนี่ขาดข้อแรกมากๆ – -” ต้องกระดกน้ำด่วน

• ดื่มน้ำเปล่าสะอาดให้มากพอ

หลักการง่ายๆที่หลายคนละเลย [ว่าตัวเอง] คนดื่มน้ำน้อย ผิวนอกจากจะแห้ง ริมฝีปากก็จะแห้งตามมา กรุณาดื่มน้ำให้เยอะขึ้น น้ำทำให้ผิวเปล่งปลั่ง ขับของเสีย ทำให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดี และ จิบระหว่างวันยังช่วยในการเผาผลาญพลังงานในร่างการอีก เป็นอะไรที่ถูกและดี มีประโยชน์หาดื่มง่าย ตอนไปเมืองนอก คิดถึงน้ำดื่มเมืองไทยมาก บางประเทศดื่มกับก๊อก บางประเทศขวดนึง แพงไปไหน ?  อย่าลืมบำรุงภายในให้ดี อาจเห็นผลช้า แต่ชัด และ ชัวร์ เนื่องจากน้ำเป็นส่วนประกอบของร่างกาย เฉลี่ย 50 – 60 % ของน้ำหนักตัว

วิธีคิด ว่าวันนึงเราควรจะดื่มน้ำเท่าไหร่ คิดง่าย น้ำหนักตัวเป็นหน่วยกิโลกรัม คูณกับ 30 จะได้ปริมาณน้ำที่ควรดื่มต่อวัน ซึ่งมีหน่วยเป็น มิลลิลิตร (เช่น 45 กิโลกรัม x 30 = 1,350 มิลลิลิตร หรือ 1.35 ลิตรต่อวัน) ยิ่งช่วงนี้อากาศร้อนหากขาดน้ำช่วงนี้ผิวจะไม่สวยและอาจจะป่วยได้

• อย่านอนดึก

พูดง่ายแต่ทำยากสำหรับบางคน [ว่าตัวเองอีกแล้ว] ถ้าทำได้ผิวจะสวยขึ้น น้ำหนักตัวจะคงที่ หรือลดลงได้ระหว่างคุมอาหารแน่นอน ประโยชน์หลายต่อมาก เพราะตอนกลางคืนร่างกายจะซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ มีโกรทฮอร์โมนหลั่ง เป็นเวลาชาร์ตพลังสมอง เพิ่มพลังผิว ” การนอนคือยารักษาโรคหลายโรคที่ดีที่สุดอย่างนึง ” เมื่อร่างกายได้มีการฟื้นฟู ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ส่งผลต่อผิวเราให้ได้ฟื้นฟูเต็มๆ อย่าลืมทาครีมให้ความชุ่มชื่นก่อนนอนด้วย จะได้ผลดียิ่งขึ้นค่ะ 

 

• บำรุงผิวด้วยสารประเภท Hydration

วิธีเร่งด่วนอีกอย่างคือ เพิ่มการทาครีมที่ช่วยเติมเติมน้ำให้ผิวด้วย เช่น จะเป็นโทนเนอร์ ครีมหรือเจลตระกูล Hydration ให้มากขึ้น อาจใช้ควบคู่กับครีมบำรุงที่มีอยู่ เพื่อให้ผิวชุ่มชื้น กัักเก็บน้ำ และ ล็อคผิวไม่ให้ถูกอากาศดูความชุ่มชื้นออกไป ผลคือผิวก็จะชุ่มชื้นขึ้น และดูอิ่มน้ำ มีสุขภาพดีขึ้น เมื่อเซลล์ผิวแข็งแรง เวลาจะบำรุง จะแต่งหน้าติดง่ายขึ้น และ โปรดเลือกให้เหมาะกับสภาพผิว เช่นผิวผสม-ผิวมัน ควรเน้นเนื้อเจลเป็นหลัก เพื่อความบางเบา ไม่เหนียวเหนอะหนะ และ ลดการอุดตันของผิว ผิวแห้ง-ผิวธรรมดาให้เน้นไปที่เนื้อครีม จำมีส่วนประกอบของน้ำมันมากกว่า เนื้อหนักกว่าผิวเราจะชุ่มชื่น ยืดหยุ่นได้ดี และ อย่าลืมก่อนออกจากบ้านปิดท้ายด้วยกันแดดค่ะ 🙂

 

ขอบคุณแบรนด์ POND’S ที่ให้สกินแคร์สูตร HADRA REVITAL มาให้ลอง

และให้ข้อมูลเรื่องผิวขาดน้ำมาอ่าน

เราเลยรวมเขียนขึ้นบวกกับประสบการณ์จากตัวเองเพิ่มด้วย

จะบอกว่าลองกับเพื่อนหลายคนที่มีสภาพผิวต่างกัน

เวลาขาดน้ำจะไล่ ไปโบกพอนดส์สีฟ้าซะ 55555

ตัวเองลองใช้ตอนหน้าแห้งมาก เนื่องจากนอนดึก วันเดียวอาจการดีขึ้น

ไว้ว่างค่อยมา REVIEW ละกันเนอะ

ขอให้ทุกคนมีสุขภาพผิว สุขภาพกายดีกันทุกคน รักนะคะ <3 

 

Posted in SKIN, SKIN CAREComments (4)

advert

Google

erk-erk.com





BEAUTY MENU

มาคุยกับเอิ๊กได้ที่นี่ทุกวัน ถ้าว่างรีบตอบทุกคำถามค่ะ

INSTAGRAM @wwwerkerkcom

[instagram-feed]

ติดตามบล็อค erk-erk.com อย่างใกล้ชิด

เพียงกรอก Email ตรงนี้เลย

LINE @erk-erk

เพิ่มเพื่อน

Related Sites