- เนียน
- มีสารบำรุงที่ทำให้ผิวขาวกระจ่างใส
- SPF50PA+++
- กันเหงื่อ
- ฯลฯ
Posted on 25 March 2012.
Posted in MAKE UP, REVIEWComments (0)
Posted on 17 March 2012.
รุ่นพี่ส่งมาให้ลองปาดกันทั้งหมด 12 ชิ้นด้วยกันมีซ้ำที่ แป้งผสมรองพื้นแต่คนละเบอร์กัน จากแบรนด์ UTIP ที่มีแต่เด็กวัยรุ่นดังๆ เป็นพรีเซนเตอร์อย่าง เต้ย , มายด์ ฯลฯ เป็นแบรนด์ที่เราจะเริ่มทำความรู้จักกันก่อนที่ น้ำยาอุทัยทิพย์ สมัยเด็กๆของเอิ๊ก ก็มีโอกาสได้ใช้ นำมาทาแก้มน้อยๆ ให้ดูมีเลือดฝาด และดูไม่รู้ว่าแต่งหน้า หรือ นำมาทาปากเล็กๆด้านใน ใช้แต่น้อยจะดีที่สุด ตอนนี้ เติบโตมาก มีออกมาหลายไลน์ด้วยกัน กลอส ลิปเจล ทินต์เจล แป้งผสมรองพื้น ที่บางเบาเป็นธรรมชาติ และ ปกปิด แป้งฝุ่นแบบคุมมันเนื้อลื่นละเอียด บลัชออน สีส้ม สีชมพูที่มี 3 โทนสีในตลับเดียว ดูรูปไปก่อนเดี๋ยวกลับมา REVIEW ค่ะ
<3
Posted in MAKE UP, REVIEWComments (0)
Posted on 16 February 2012.
ระหว่างรอฟันเข้าที่ซัก 6 เดือนก่อน เนื่องจากเคลื่อนฟัน จัดฟันพึ่งจบ จากการที่ได้รบกับฟันเกหุบเข้าด้านในมา 10 ปี 4 รอบพอดีเด๊ะแล้วค่อยตัดสินใจการเลือกวิธีฟอกฟันขาวอีกที ระหว่างทางเลือกที่หามาทั้งหมดที่หลายคนคงได้อ่านแล้วมีทั้งฟันขาวด้วยวิธีที่ง่ายที่สุดถูกที่สุด และยากที่สุดแพงที่สุดให้เก็บข้อมูลกันไป
ระหว่างนี้ก็มีโอกาสได้ทดลองยาสีฟันตัวใหม่จาก CLOSE UP WHITE NOW แบรนด์ส่งมาให้นานแล้ว เทคโนโลยีฟองสีฟ้ามาเคลือบผิวฟันที่เหลืองให้ดูดีขึ้นทันทีหลังใช้ แค่ฟังก็นะ .. อย่างที่บอกว่า ยาสีฟันต้องใช้ระยะเวลา ต้องทำต่อเนื่องนานหลายเดือนถึงจะเห็น และทางที่ดีควรเก็บข้อมูลโดยการถ่ายรูปไว้ด้วย จะได้เห็นความแตกต่างจริงๆ
เราไปหา ADS มาดูว่ามันทำงานยังไง
ประเด็นคือน้อง PHAN ฉายแสง BLUE LIGHT ฟันเลยขาวมากอยู่แล้ว เคยดู REVIEW ของเธอ เธอจะใช้ยาสีฟันนี้ มาทำให้ฟันเธอดูไบรท์ขึ้น ทาลิปสติกก็สวยขึ้น ส่วนตัวคิดว่ามันช่วยเคลือบฟันให้ขาวขึ้นตอนใช้ แต่ไม่ถาวร ต้องแปรงใหม่ทุกวัน
หน้าตากล่องเป็นสีใส ดู HI-SO หน้าตาคล้ายพวกกล่องเจลฟอกฟันเลย ฟ้าๆ ใสๆ ดูแตกต่างจาก whitening สูตรอื่นมาก หรืออาจจะเพราะมันคือWHITE NOW ขาวเลยทันที ขาวเดี๋ยวนี้ ขาวหลังใช้รึเปล่าไม่แน่ใจ ? เขาถึงออกแบบมาแบบนี้
จุดเด่นมันอยู่ตรงนี้
หน้าตายาสีฟันของเราจาก CLOSE UP WHITE NOW กลายเป็น CLOSE UP SLIM NOW แบนแต๊ดแต หลอดเท่าฝ่ามือหมดเร็วเหมือนกัน เพราะใช้ประมาณข้อนิ้วก้อย 1 ข้อ 55
เนื้อเจลสีฟ้าด้านใน – สีขาวด้านนอก เนื้อเจลด้านในที่ผสมกันอยู่นี่ละ เวลาแปรงจะเป็นฟองที่ไปเคลือบผิวฟัน เนื้อฟ้า กับ ฟันเหลืองนวลของเรา เมื่อประกบคู่กันเลย ฟันจะดูเหลืองไบรท์ 55555
ฟองจะมีลักษณะแบบนี้เลยตอนแรกตกใจมาก ปากฟ้าเลย จะติดลิ้นฉันไหม ? ปรากฎไม่ติด แต่แปรงสีฟันแอบมีสีฟ้าติดนิดๆ มันน่าจะติดที่เนื้อฟันแล้วละ สีฟ้าผสมสีเหลืองเลยดูสว่างขึ้น ไม่เชื่อลองใช้ PHOTOSHOP ทำภาพสีขาวขึ้นมาเทสีที่เหลืองเหมือนฟัน แล้วเทสีฟ้า transparent 3%-10% ดูจะรู้ว่าภาพสีเหลืองจางลงจนดูเกือบกลายเป็นสีขาวอมฟ้ามากขึ้น
เคยอ่าน REVIEW เมืองนอกความเห็นก็มีแตกต่าง คนที่ได้ผลเขาก็รู้สึกประทับใจอย่างมาก ส่วนเราใช้มา 20 วัน แปรงวันละ 2 ครั้ง แปรงเร็วๆ รัว แล้วเก็บภาพไว้วันแรกเก็บภาพ ก่อน – หลังใช้ วันสุดท้ายเก็บภาพก่อน -หลังใช้
เนื่องจากวันแรกภาพถูกถ่ายด้วย บีบี เลยเก็บภาพด้วยกล้องตัวเดิม แสงเวลาเดิม อาจมี WB เพี้ยนไปบาง แต่อยากให้ลองดูภาพก่อนหลัง ไม่มีการรีทัช ให้ดูว่าฟันที่เหลืองนวล ถูกฟองฟ้า ฟันเลยอมฟ้านิดๆหลังใช้ เลยเหมือนสว่างขึ้น “ด้วยเทคนิคแม่สี” เลยจริงๆ
แต่จะให้ขาวเลยไหม มันคงไม่ได้ ยาสีฟัน ไม่ใช่เจลฟอกสีฟัน ดังนั้น มันอาจจะเหมาะกับคนที่ไม่ต้องการฟอกให้เสียวฟัน และ พอใจในสีฟันที่มีอยู่แต่อยากให้มันดูสะอาดๆ ดูเหมือนผ่องขึ้น ประมาณคนแต่งหน้าแล้วลง BASE MAKE UP เคลือบผิวให้สว่าง หรือเรียบเนียนขึ้น แต่ยังเห็นผิวตัวเอง ไม่ได้กลบมิดเหมือนรองพื้น พอเห็นภาพไหม ?
COOL : เห็นการทำงานของเทคโนโลยีฟองสีฟ้าทันที ซื้อง่าย ราคาถูก ไม่ทำลายเคลือบฟัน เย็นดี
UNCOOL : ขาวเท่าที่ฟันเราขาวได้ สีจะดูดีกว่าที่เป็น 10-20% / ชั่วคราว ไม่ถาวร / ด้วยส่วนผสมที่ให้ความเย็นสดชื่น มันเผ็ด ถ้าไม่ทานเผ็ด อาจจะเผ็ด 555
นี่คือสีฟันจริงไม่ RETOUCH
คือเคลือบฟันบางมาก เห็นเนื้อฟันเลย และร้าวเป็นรอยร้าวทั้งบนและล่าง เพราะไปถอดเหล็กกับหมออีกคนที่ไม่ใช่หมอจัดฟันร้านเดิมตอนวัยรุ่น เขาตัดแบบไม่ปราณี ดังนั้นเลยไม่อยากจะยุ่งกับฟันมาก ที่เล็งไว้ก็อยากทำเคลือบฟัน แต่ประเด็นต้องเอาหน้าฟันออกหน่อยนึง เลยพับโครงการเป็นที่เรียบร้อย ไว้ว่ากันใหม่ นอกนั้นทุกวิธีดูเหมือนต้องทำไปเรื่อยๆ แต่ฟันขาวแล้วดูดีมากจริงๆ ไม่เชื่อใช่ไหม !
ดูนี่สิ ถ่ายกับน้องแพร น้องแพร ฟันขาวมาก ยิ้มสวยมาก 555 แล้วดูเอิ๊กจิ
แล้วเอิ๊กมีซี่ที่เก อยู่ 1 ซี่ตอนจัดฟัน พอจัดให้ตรง ซี่นั้นเหลืองกว่าซี่อื่น T_T ไม่เป็นไร เราจะหาวิธีที่ปลอดภัยต่อไปในการทำฟันขาว ฟันเอิ๊กยกให้เป็นเรื่องกังวลใจอันดับสองรองจากสิว คือ อยากฟันเรียงสวย และ ขาวด้วย 555555 สู้ไม่ถอยค่ะ
XOXO
Posted in REVIEW, TEETHComments (0)
Posted on 23 January 2012.
Posted in BODY, GLUTATHIONE, REVIEW, SKIN CAREComments (0)
Posted on 15 January 2012.
Posted in REVIEWComments (2)
Posted on 03 January 2012.
ตามคำมั่นสัญญาเกี่ยวกับการ REVIEW ตัวลอกสิวเสี้ยนที่เกือบจะเทพ ถ้าไม่มีกาวตราช้างตามคลินิคเป็นแชมป์ซะก่อน
ราคาสบายกระเป๋า 2 หลอด 195.- บาท
ตัวนี้คือ BHA SCRUB & SEBUM REMOVE MASK ของ LANSLEY
ทำไมต้องมีต้องมี 2 หลอด หลอดนึงเป็น BHA ทำหน้าที่ละลายสิ่งอุดตันในรูขุมขน อีกหลอดนึงเป็นกาวที่อ่อนโยนต่อผิวหนังช่วยกระชากซากไขมันอุดตัน (สิวเสี้ยน)ให้กระเด็นออกมามากที่สุด
หลอดเบอร์ 1 ตามด้วยหลอดเบอร์ 2 ทุกครั้งจึงจะเป็นกระบวนการที่สมบูรณ์แบบ
มาสำรวจสิวเสี้ยนกัน จมูกและคาง จะอื้อซ่ามากกกกกกกกกกกก เห็นแล้วก็เพลีย 555
HOW TO กำจัดสิวเสี้ยนด้วย BHA SCRUB & SEBUM REMOVE MASK ของ LANSLEY กันดีกว่า
1. ล้างมือให้สะอาด สะอ้าน
2. ล้างหน้าให้สะอาด ด้วยน้ำเปล่าบริเวณที่จะทำการดึงสิวเสี้ยนออก
3. เช็ดให้แห้ง ตามด้วยชโลม TONER ที่ใช้อยู่ บริเวณที่จะทำ
4. ทิ้งไว้ให้ผิวหมาดซักครู่
5. ลงครีมหลอดเบอร์ 1 ที่เป็น BHA ให้ทั่วบริเวณที่จะทำการลอกในที่นี่ ทำที่จมูก ซอกจมูก และ คาง
6. นวดจนครีมซึมจนเนื้อครีมแห้ง ประมาณ 5 – 10 นาที
7. ล้างBHA หลอดเบอร์ 1 ออกแล้ว ซับให้แห้ง
8. ลงครีมหลอดเบอร์ 2 ที่เป็นกาว
7. ลงชโลม จมูก และ คางให้ชุ่มปานกลาง ห้ามบางเด็ดขาด
8. ทิ้งเวลาไว้ให้จนมันแห้ง ยิ่งนานยิ่งดี สะใจ
9. แห้งแล้วลอกออกจะแนวลงมา หรือ ย้อนขึ้นก็ได้เลือกทิศใดทิศนึง
10. กระชับรูขุมขนด้วยโทนเนอร์อีกที เป็นอันเสร็จพิธี
ผลลัพธ์ที่ได้ Taa daaaaaaaaaaa ~
นอนไม่หลับกันเลยทีเดียว
เมื่อสิวเสี้ยนลาจาก หน้าเราก็จะเนียนขึ้น แต่งหน้าได้เรียบขึ้นแบบนี้
COOL : ราคาเบา หาซื้อง่ายที่ BEAUTY BUFFET ทุกสาขา วิธีการก็ง่าย ไม่ต้องเดินทางไปให้หมอลอกให้เมื่อย ไม่ทำร้ายผิว ไม่เห่อบวมแดง
UNCOOL : ผิวแห้งไม่ค่อยเหมาะ มีการระคายเคืองเป็นตุ่มใสเกิดขึ้น แต่สะกิดออก รอนานกว่าจะแห้งและเซ็ทตัวพร้อมดึง ลอกได้หมดจดสู้กาวตราช้างไม่ได้ อย่างน้อยได้ 40-60%
หวังว่าบลอควันนี้คงคู่ควรกับการรอคอยนะคะ
XOXO
Posted on 29 December 2011.
Posted in BEAUTY NEWS, MAKE UP, REVIEWComments (0)
Posted on 13 December 2011.
สวัสดีค่ะ กลับมาแล้วกับการ REVIEW SKINCARE ที่เกี่ยวกับสิว
ก่อนอื่นขอโชว์ผลงานการรักษาสิวด้วยตนเองก่อน อิอิ สิวรักษาเอง รอยสิวต้องพึ่งคุณหมอยิงเลเซอร์ค่ะเพราะมันเยอะ ถือเป็นผลงานตัวเองทั้ง 2 ชิ้น ก่อนก็ทำเอง หลังก็ทำเอง เยี่ยม ! ภาพก่อนเป็นคือเมื่อประมาณกันยา 54 นะคะ สมัยยังไม่รู้จัก EUCERIN DermoPURIFYER แล้วก็ดูแลรักษาตนเองตามคำแนะนำของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังที่ปรึกษาอยู่จนค้นพบ “สาเหตุที่แท้จริงของการเกิดสิวบนใบหน้าตัวเอง”
สาเหตุคือ สระผมแล้วล้างยาสระผม ครีมนวดไม่หมด รวมกับ ไม่ค่อยได้เช็ดผมเท่าไหร่มันเลยตกมาปรกหน้า ปรกหลัง เป็นสิวทั้งหน้าอก และ แผ่นหลัง
ที่นี่มันมาหายได้ยังไงก็เพราะว่า เมื่อค้นพบสาเหตุ เราก็แก้ที่ต้นเหตุ และใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับผิวเรา ผลที่ออกมาช่างหน้าประทับใจเพราะว่าใบหน้าที่เป็นสิวอักเสบช่วงหน้าผากและข้างแก้ม ก็กลับมาเกือบปกติอีกครั้ง แต่ไม่ 100% เนื่องจากชอบบีบสิวเอง ทำให้เป็นหลุม 1 หลุมบนใบหน้า
รูปนี้ไม่มีการรีทัชใดใดทั้งสิ้น ทาสกินแคร์เสร็จ ร่องรอยสกินแคร์ยังเกาะที่โคนผมเลย B)
สภาพใบหน้าที่เปลือยเปล่า จะมีสิวเสี้ยน สิวอุดตันอยู่ สังเกตุเห็นชัด ช่วงข้างแก้ม และ จมูก เมื่อหายแล้ว ก็ได้มารู้จักกับ EUCERIN DermoPURIFYER ดีตรงที่ใช้ร่วมกับ SKINCARE ที่เราใช้อยู่แล้ว เราก็เลือกใช้ได้เฉพาะตัวที่เราใช้ได้ เพราะเซ็ทนี้น่าจะได้ผลดีกับคนที่ผิวมัน เป็นสิว และรูขุมขนกว้าง หน้าจะเห็นผลชัดกว่าเรา เพราะเราเป็นแค่บางจุด เช่นจมูก ข้างแก้ม ปลายคาง
เซ็ท EUCERIN DermoPURIFYER มีทั้งหมดด้วยกันเท่าที่ได้มาใช้ ก็รวมแล้ว 7 ตัว ” ช่วยดูแลปัญหาในเรื่องการเป็นสิวง่าย สำหรับผู้ที่มีปัญหาร่องรูขุมขนกว้าง ความมันส่วนเกิน ปัญหาสิวและรอยสิว โดยไม่ทำให้ผิวบางลง “
หลักการทำงานของชุด EUCERIN DermoPIFYER คือ ควบคุมความมัน ทำความสะอาดสิ่งอุดตันสะสมในรูขุมขน กระชับรูขุมขน ช่วยผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยนทำให้รอยสิว รอยดำเลือนจางไป และ ช่วยดูแลรักษาสิวที่กำลังเป็นปัญหาอยู่ จะมีตัวฆ่าเชื้อ ลดแบคทีเรียอยู่ ไม่ทำให้ผิวบาง สูตรนี้ทางยูเซอรีนบอกว่าพัฒนาร่วมกับผู้เชี่ยวชาญด้านผิวพรรณ พิสูจน์แล้วว่าอ่อนโยนแต่มีประสิทธิภาพ หลักในการเลือกใช้ส่วนผสมคือเลือกใช้สารชนิดเดียวกับที่พบในผิว จึงปลอดภัย
มีสิทธิ์ลองอยู่ 4 ตัวที่ REVIEW ได้ แต่จะ PREVIEW กล่องและเนื้อผลิตภัณฑ์ให้ครบทั้ง 7 นะคะ เพื่อเป็นแนวทางให้กับเพื่อนๆที่กำลังสนใจในการดูแลสิว และ รูขุมขน รวมถึงคุมมันด้วย
1. CLEANSER ใช้ทำความสะอาดผิวทุกวันเป็นขั้นตอนแรกซึ่งถือว่าสำคัญมาก เพราะสิ่งสกปรกที่ติดมาจากข้างนอก อาจก่อให้เกิดแบคทีเรียอุดตันตามรูขุมขนและทำให้เกิดสิว ตัวแรกเอิ๊กเลือกใช้บริเวณที่มันมาก คือ ช่วงจมูกและโหนกแก้ม รวมถึงคางค่ะ รู้สึกว่าหลังล้างออกไม่ตึง ไม่มีสบู่ และ น้ำหอม หลังล้างแล้วผิวจะนุ่มๆ
2. SCRUB ขัดเซลล็ผิวเก่า และ สิ่งสกปรก ขี้ไคลให้หลุดออกโดยไม่มีส่วนผสมที่รุนแรง ใช้อาทิตย์ละ 2 ครั้ง ขัดเบาๆตรงช่วงสิวเสี้ยนกระจุกตัว และบริเวณสิวอุดตันแข็งๆที่กระจุกตัว เบาเบา รวมถึงพวกรอยสิว นอกจากทำความสะอาดรูขุมขนแล้ว รู้สึกว่าตรงที่ขัดไปมันเนียนขึ้น สิวเสี้ยนจาก 100% อาจจะเหลือ 70-80% ยิ่งตอนแต่งหน้าจะเห็นชัด มีทั้งเม็ดบีทขนาดเล็ก และกรีนบีทขนาดใหญ่ในหารช่วยกัน ผลัดเอาสิ่งอุดตันและสกปรกออก
3.TONER เช็ดทำความสะอาดหลังล้างหน้า มีตัวคุมมัน เช็ดสิ่งสกปรกที่ล้างไม่เกลี้ยงในขั้นตอนล้างหน้า ให้มั่นใจได้ว่าหน้าสะอาดไม่มีอะไรตกค้าง ตัวนี้มีส่วนผสมของ ALCOHOL ด้วยต้องบอกก่อน ส่วนตัวใช้กับตรงจมูกอย่างเดียว ใช้ได้ เย็นๆ สะอาดๆ
4. SERUM บำรุงผิวอย่างล้ำลึกสุดตัวนี้เข้มข้นสุดขอกดLIKEเลย เพราะเป็นอีกตัวที่ใช้ได้ และกระชับรูขุมขนได้เหมือนกัน ไม่มากแต่ทำให้รู้สึกดี เนื้อขาวขุ่น เบา ทานิดเดียวได้ทั่วหน้า ถ้าต้องเลือกใช้สิ่งไหนในเซ็ทนี้ ขอเป็นตัวนี้ค่ะ
5. NIGHT CREAM ดูแลผิวยามนอนให้ผิวได้มีโอกาสพักผ่อนจะช่วยให้สิวหายเร็วขึ้น ถ้านอนเต็มที่และนอนไม่ดึก ตัวนี้คนผิวมันหน้าจะใช้ได้ เพราะส่วนตัวผิวแห้งมากมีอาการระคายเคืองเตือน เลยต้องหยุดใช้ แต่หลังใช้พบว่าผิวดูชุ่มชื่น อิ่มขึ้น กระชับ ส่วนตัวๆนี่มันทำงานตอนกลางคืนน่าจะใส่ตัวผลัดเซลล์ผิวเก่าไว้เยอะกว่าตัวกลางวัน เพื่อทำการผลัดเซลล์ผิวเก่าให้หลุดอย่างอ่อนโยนในตอนกลางคืน ให้พวกชั้นขี่้ไคลหลุดออก กำจัดปัญหาเรื่องสิ่งอุดตัน และรอยสิวที่มีอยู่ให้จางลง อยากใช้อะ ><
6. DAY CREAM บำรุงผิวระหว่างวัน มาในหลอดกลมๆ น่ารักกระชับมือ ตัวนี้เนื้อครีมดูขุ่นแต่เนื้อเบา ตัวนี้ผิวแห้งใช้ไม่ได้เช่นกันมีอาการระคายเคืองเตือน เพราะตัวนี้ คุมมัน ไม่มีน้ำมัน ไม่มีน้ำหอม ป้องกันปัญหาสิวใหม่ที่จะเกิดระหว่างวันเวลาเราออกไปนอกบ้าน เมื่อไม่มีความมัน รูขุมขนสะอาดขึ้น เราก็จะเห็นว่ามันกระชับขึ้นอัตโนมัต
7. COVER STICK หรือคอนซีลเลอร์ปิดรอยดำแดงของสิวที่เรามี บางทีรอยก็ทำใจลำบากพอๆกับสิวเวลาที่เป็นเต็มหน้า ตัวนี้ใช้ตอนแรกรู้สึกว่าหลงรักเพราะเนื้อนุ่ม เนียน ติดทน ทั้งวันไม่ค่อยจางเลย เทียบกับที่มี ตัวนี้ชนะขาดลอย ราคาถูกกว่าด้วย มีส่วนผสมที่น่าสนใจคือคาร์โมมายด์อ่อนโยนกับสิว ให้ความชุ่มชื้น พร้อมมีตัวฆ่าเชื้อแบคทีเรียเวลาเป็นสิว ส่วนตัวสิวไม่ยุบ แต่ไม่อักเสบเพิ่ม คือ ทรงตัว ปลอดภัยกว่าใช้คอนซีลเลอร์ปกติแน่นอน เฉดสีไม่แน่ใจมีสีเดียวรึเปล่า ใช้แล้วคล้ำกว่าผิวจริงนิดนึง มันอาจไม่ได้กลืนไปกับ MAKE UP โดยเฉพาะแต่มองไกล กลมกลืนดูหน้าใส ไร้จุดด่าง แดง ดำ ฮี่ฮี่
รูปนี้ใช้กับหลุมแดงปนำนะเออ รอยแดงกลบมิด แต่หลุมกลบไม่มิด 555555 ทำใจแล้วซนแกะสิวเอง ใช้ร่วมกับแต่งหน้าได้ทุกวัน
เวลาทาแล้วแต่งหน้าก็กลืนแบบนี้ อันนี้ใช้ COVER STICK และแป้งฝุ่นแต่ใช้แปรง FLAT-TOP วน เนียนกริ๊ง ตอนนี้มีปัญหาอยู่ตรงช่วงหน้าผากเกือบหายแล้วก็ 89 % ได้
COOL : สรุปแล้วเซ็ทนี้มีการรวมตัวส่วนผสม และ การทำงานที่น่าสนใจของคนผิวมัน เป็นสิว รูขุมขน และมีปัญหารอยสิวอยู่รวมกัน โดยส่วนใหญ่จะมีการแก้ปัญหาตั้งแต่การคุมมัน ผลัดเซลล์ผิว ละลายสิ่งอุดตัน และ ฆ่าเชื้อแบคทีเรียสิวที่กำลังเป็นอยู่ เป็นอีกทางเลือกนึง ที่รวมตัวกันเป็นชุด ไม่ต้องไปหาจับซื้อนู่นทีนี่ที ส่วนตัวเสียดายที่มาใช้ตอนที่สิวอักเสบใหญ่ๆๆไปหมดแล้ว คงไว้เหลือแต่สิวเสี้ยน และ สิวอุดตัน มันก็ช่วยได้บ้าง แต่เรื่องของสิวเสี้ยนมันเป็นเรื่องของขนอัดตัวกันแน่่นในรูขุมขน 1 รุปโอกาสหายไปไม่มีอยู่แล้ว แต่ด้านบนของผิวช่วงนั้นเรียบขึ้นและสิวเสี้ยนดูไม่เพิ่มมากขึ้นด้วย รูขุมขนก็ให้ผลดีส่วนตัวแม้ลงไม่มาก แต่รู้สึกดี และตัวปกปิดสิวก็เนื้อนุ่ม เนียน อึด ทน และทั้งเซ็ทใช้ร่วมกับยาหมอ หรือ สกินแคร์ที่มีอยู่ได้ และดีตรงไม่มีน้ำหอม ไม่มีน้ำมัน ไม่อุดตันเพิ่ม เราอาจจะเลือกลองบางตัวก่อนก็ได้ แล้วค่อยเพิ่มถ้าใช้แล้วให้ผลที่ดี
UNCOOL : อยากให้ออกแบบ ผิวแห้ง ผิวบาง เป็นสิวง่ายมาบ้าง เป็นหนึ่งคนที่รออยู่ วูบแรกที่ได้ยินคือคิดว่าเหมาะกับตัวเอง พอศึกษาฉลากไป ออกมาเพื่อดูแลผิวมันน่าจะให้ผลดีกว่า แต่อย่างน้อยบางตัวเราก็ใช้ได้ / ส่วนตัวไม่ค่อยปลื้มเรื่องสีน้ำเจ้าโทนเนอร์เท่าไหร่ สีใสรู้สึกปลอดภัยกว่า แม้จริงๆแล้วมันอาจปลอดภัยแต่มันเป็นความรู้สึกทางจิตใจ
ทั้งเซ็ตนี่จำง่ายอีกอย่างหนึ่งคือทุกตัว ตัวละ 900 บาท หาซื้อง่ายด้วยที่ตามห้าง ร้านยาตามห้าง
ขอจบการ REVIEW PREVIEW ไว้เพียงเท่านี้ ไว้ลองใช้นานกว่านี้จะมา REVIEW เพิ่มเติมนะคะ
ขอให้ทุกคนผิวดีหน้าใสกันทุกคน
XOXO
Posted in ACNE, FACE, REVIEWComments (29)
Posted on 09 December 2011.
กว่าจะได้ครีมที่ผลิตขึ้นมาตามสภาพผิวตัวเอง ISKY SIGNATURE MOISTURIZING CREAM หรือ MY CUSTOMIZED CREAM ที่ทำ TAILOR-MADE ครีมตามสั่ง ก็ทำเอานอนไม่หลับไปหลายเดือน อยากใช้ แต่เป็นสิวเลยต้องรอให้สิวแห้งก่อน รู้สึกว่ามันใหม่มากเนื่องจากในประเทศไทยยังไม่มีที่ไหนทุ่มทุนผลิตให้คนต่อคนแบบนี้ในราคาที่จ่ายไหว เนื่องจากว่าปัจจุบนครีมส่วนมากที่ออกมามักออกมาตามสภาพผิวพื้นฐาน มัน แห้ง ผสม แพ้ง่าย บอบบาง แต่ที่ตรงกับผิวเราที่สุดไม่มีแน่นอน
เจ้าครีมปรุงบำรุงผิวพิเศษเพื่อผิวเราคนเดียวโดยเฉพาะมันเป็นยังไงย้อนไปอ่านบทความเก่ากันได้นะคะ
ตรวจสภาพผิวเพื่อให้คุณหมอปรุงครีมบำรุงเพื่อผิวเราโดยเฉพาะให้
หลักครีมพวกนี้เกิดมาเพื่อดูแลคนไข้ตามสภาพผิวที่เป็นจริงแล้ว
หลักๆที่เห็น ISKY ให้บริการอยู่มี 3 เรื่องใหญ่
มาถึงการเข้าสู่การ REVIEW หลังการใช้เป็นเวลา 2 สัปดาห์ติดต่อกันโดยไม่ได้ใช้ครีมตัวอื่นเลย
ราคาซึ่งถือว่ารับไหวกับ 600-900 ต่อกระปุกยักษ์ขนาด 50 กรัม ข้างหน้ากระปุกมีสโลแกนที่เด่นชัดมาก ” MY SIGNATURE MOISTURIZING CREAM ประมาณว่ากระปุกนี้มันเป็นสัญลักษณ์ประจำตัวเรา ครีมของเราคนเดียวเลย “มันเกิดมาเพื่อเรา”
ข้างในเปิดมามีฝาปิดซีลเนื้อครีม กันระเหย กระปุกแข็งแรงสีเทาอะคริลิค เป็นแพคเก็จจิ้งที่ส่วนใหญ่หลายเจ้าที่ผลิตครีมขึ้นมาเป็นแบรนด์ตัวเองมักจะเลือกแพคเกจจิ้งนี้มาบรรจุครีม ซึ่งถือว่าสวย จับถนัดมือ
ซึ่งที่เด่นคือ เนื้อครีมด้านใน สัดส่วน ส่วนผสมตามเนื้อเยื่อและปัญหาผิวที่เรามี โดยเช็คอย่างละเอียดทั้งระดับลึก และภายนอกที่มองเห็น ใช้เพื่อบำรุงแก้ไขตรงจุดนั้น เนื้อครีมสีขาวข้น ไม่เหนียวมาก ซึมเร็ว กลิ่นหอมเย็นมาก (สอบถามว่ามันเป็นกลิ่นของส่วนผสมของสูตรเฉพาะตัวนึง กลิ่นหอม แต่ไม่ทำให้แพ้หรือมีสิว)
และด้านข้างมีฉลาก ซึ่งทุกอย่างมันสดมาก ทำใหม่หมดเลย แม้กระทั่งฉลาก แปะตอนครีมลงกระปุกปิดฝาเรียบร้อย
มาถึงผลลัพธ์ผ่านไป 2 อาทิตย์ กับ ” สูตรบำรุงผิวแพ้ง่าย แห้งมาก และเป็นสิวง่าย “
โดยรวมคือใบหน้ามีความชุ่มชื่นหลังทา ตื่นขึ้นมารู้สึกผิวมันอิ่ม มีน้ำมีนวล ไม่มีสิว ไม่แพ้ บางครั้งรู้สึกผิวมันดีจนขาวขึ้น แต่ไม่ได้ช่วยลดสิวเสี้ยน สิวอุดตัน อันนั้นเป็นปัญหาที่ต้องแก้ไขในอีกส่วนผสมอื่นๆ หลักๆคือบำรุงให้ผิวแห้งกร้าน ดูอิ่มขึ้นไม่แห้ง ผิวดีมันทำให้แต่งหน้าง่ายขึ้นไม่ลอกและเป็นขุย ขอบอกว่านอนเช้าไม่ได้ทาสองวัน ผิวกลับมาแห้งไวมาก เพราะนอนในห้องแอร์ ดังนั้นรู้ตัวว่าผิวแห้งไม่ควรละเลยแม้ซักวัน ไม่งั้นต้องกลับมาเริ่มใหม่
COOL : มันดีถึงที่สุดที่จะมีครีมซักกระปุกที่ทำเพื่อเราคนเดียว เราคงไม่อยากใช้อะไรเหมือนๆใครเท่าไหร่ ถ้าเรารู้ว่าผิวเรามันไม่ค่อยจะถูกกับอะไร เป็นเรื่องใหม่ในเมืองไทย ที่ราคาถือว่าใช้ได้ 600-900 บาท ได้ทราบผลลัพธ์ผิวด้วยว่าแท้จริงแล้วผิวเราเป็นแบบไหน ไม่ต้องมานั่งคิดเอง เห็นกันไปเลย กระปุกใหญ่ใช้ได้นานมาก เอาคัตตอลบัตจุ่มเอา ทาทีละนิดให้เคลือบผิวหน้าพอ ใช้ร่วมกับผลิตภัณฑ์ที่เรามีอยู่ แก้ปัญหาได้ตรงจุดที่มีจริงๆ เหมือนยิงการบำรุงทีเดียวโดนแน่นอน
UNCOOL : คนเป็นสิวเยอะๆ เป็นสิวอยู่หลายเม็ด ยังไม่เหมาะกับการบำรุงทุกชนิด เพราะมีส่วนผสมของน้ำมันอาจไปทำให้อาการผิวอักเสบแย่ลง การที่คนไข้ผิวมีปัญหาเยอะอย่างเอิ๊กบางทีการจะเติมส่วนผสมบำรุงอะไรต้องทำทีละน้อย มันยังใส่ได้ไม่เต็มที่ เช่นน้ำมันบำรุงต่างๆ อาทิ วิตามินอี เนื่องจากมันอาจไปกระตุ้นให้สิวบังเกิดขึ้นอีก ดังนั้นการที่จะใส่ทุกอย่างเต็มสตรีมเป็นเรื่องที่ยาก ต้องค่อยๆทำ เนื่องจากปัญหาของคนไข้มีข้อจำกัดหลายข้อ สถานที่ค่อนข้างไกลบ้านมาก แถวฝั่งธน ยังมีแค่ครีมบำรุง ไม่ได้ผลิตเฉพาะทุกไลน์บำรุง เช่น โลชั่น แอสเซนต์ เซรั่ม เจลล้างหน้า ถ้าแบบนั้นคงเหนื่อยน่าดู คนคงแห่กันไปเยอะกว่านี้ วันนั้นเภสัชกรคงรีบ ตอนแปะสติกเกอร์หน้ากระปุกมันมีรอยนิ้วมือเภสัชในสติ๊กเกอร์ แง๊ๆ อันนี้ความเห็นส่วนตัว อีกนิดมันจะ PERFECT 55555
SUGGESTION : ต้องบำรุงทุกวันห้ามขาด ผิวแห้งเจออะไรเย็นๆ ใช้ชีวิตทุกวันน้ำในผิวมันก็ระเหย ละเลยไม่ได้เลย
หวังว่าคราวต่อไปสิวหายแล้วเราจะได้ลองแบบลดจุดด่างดำ ว้าว ว้าว แต่นี่นอนเช้าสองวันสิวอักเสบมาเลย ฮ่าๆ
ผู้ช่วยศาสตราจารย์แพทย์หญิง รังสิมาเป็นคนสั่งสูตรส่วนผสมให้เภสัชปรุงครีมให้เอิ๊กค่ะ ใช้ดีมากค่ะสำหรับบำรุงผิวแห้งมากของเอิ๊ก
ใครมีคำถามอยากถาม อจ. ถามได้ที่ @DrRungsima ในทวิตเตอร์นะคะ
XOXO
อาทิตย์หน้าเราจะมาพบกันเรื่องของ ” กระ “
Posted in ACNE, REVIEW, SKIN CAREComments (4)
Posted on 25 November 2011.
มีโอกาสได้ลอง บลัชออนเนื้อแมท แบรนด์ ORIFLAME
รุ่น PERFECT BLUSH มีทั้งหมดให้เลือก 3 สีด้วยกัน FRESH PINK / CLASSIC ROSE / GLOWING PEACH
สีออกชมพูสดใส / สีพลัมอมชมพูนุ่มๆ/สีพีช เรียงตามลำดับ ที่ลองไปคือสี FRESH PINK
ตลับสีดำมันเงาวับ และได้แปรง BLUSH BRUSH มาลองเป็นขนแพะ ขนค่อนข้างแข็งมากเป็นเอกลักษณ์ของขนสัตว์แท้อยู่แล้ว แต่ขนไม่ค่อยรูป อาจทำให้ระคายเคืองการทำความสะอาดแปรงบ่อยๆ อาจจะทำให้นุ่มขึ้นได้บ้าง แต่รูปทรงกำลังดีกับพวงแก้มเลย เล็กกระชับถนัดมือ ถ้ามีซองมาด้วยจะแจ่มเลย
เนื้อบลัชออนสีไม่มีชิมเมอร์ จะได้ความเป็นธรรมชาติกว่าชิมเมอร์ กลืนกับผิว ติดทน สีน่ารักแต่ไม่ให้เลือกน้อย คือมี 3 เฉดสีเท่านั้น ตลับสวยมีกระจก เล็กๆพกพาสะดวก ORIFLAME มีเครื่องสำอางน่าสนใจเยอะเหมือนกัน
เปิดตลับมาจะเป็นแบบนี้ น่ารักปะอ่ะ ? ><
ทาลงบนแก้มจะได้ลุค หวานแหวว แบ๋วแบ๋วแบบนี้ 🙂
ราคาบลัชออนตลับละ 379 บาท
ราคาแปรงอันละ 198 บาท
COOL : บลัชออนตลับเล็กพกพาสะดวก มีกระจกในตัว สีติดทน มีความเป็นธรรมชาติ / แปรงขนสัตว์ ขนแพะแท้ ด้ามจับยาวถนัดมือ รูปร่างทรงแปรงพอดีพวงแก้มเลย
UNCOOL : บลัชออนมีสีให้เลือกน้อยเกินไป 3 สีเท่านั้น / แปรงปัดแก้มเป็นขนสัตว์แท้ลักษณะเฉพาะตรงนี้อาจจะทำให้รู้สึกระคายเคืองแก้มได้เวลาปัดสีแก้มลงไป ถ้ามีซองมาด้วยจะดีมากเลย ไม่ต้องมานั่งหาซองใส่เพิ่มอีก
แบรนด์นี้เป็นแบรนด์ขายตรงอาจต้องมีในเรื่องของการเป็นสมาชิก สั่งซื้อผ่านแคตตาลอกลงข้อมูลไว้เผื่อใครสนใจ
http://th.oriflame.com/customer-service/show.jhtml?tag=Contact
ที่รู้ๆมีพวกลิปสติก รองพื้นน่าเล่นเยอะเหมือนกัน 🙂
XOXO
Posted in CHEEKS, MAKE UP, REVIEWComments (0)
Posted on 25 November 2011.
ลาภลอยมากได้นางเอก อาย โรลออน ( EYE ROLL-ON) มากลิ้งถนอมผิวรอบดวงตา
No.7 INSTANT VITALITY EYE ROLL-ON
ช่วยดูแลดวงตาที่เหนื่อยล้า หมองคล้ำ และ ไขมันที่ก่อให้เกิดถุงใต้ตา
ภายใน 4 สัปดาห์ สูตรอ่อนโยน
เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ได้ลองผลิตภัณฑ์สกินแคร์บำรุงผิวรอบดวงตาแบบลูกกลิ้งเพราะปกติที่มีใช้แบบครีมอยู่และเด่นไปกว่านั้น คือ มันเป็นลูกกลิ้งอายโรลออนที่มีทั้งหมด3หัวด้วยกันกรี๊ดสลบของเล่นใหม่ช่างอลังการงานสร้างมาก 15 มิลลิกรัม กับราคา 450 บาท
แพคเกจของอายโรลออนเป็นหลอด สีชมพูเบจ และ เป็นลูกกลิ้ง 3 หัว
เนื้ออายโรลออนตัวนี้จะเป็น สีชมพูมุกเลื่อม สีน่ารักมาก ผู้หญิงทั้งหลายอาจจะชอบสีแบบนี้
เวลาบีบเนื้ออายโรลออนออกมา จะผุดขึ้นมาจากลูกกลิ้ง 3 หัว
วิธีใช้ เวลาที่เราทา เราจะลากไปทิศทางเดียว หัวตา > หางตา ไม่ลากย้อนไปย้อนมา ให้เหี่ยวเล่นนะคะ
เวลาทามันจะเย็นสะใจมาก คือปกติครีมให้ไม่ได้แบบนี้ ด้วยความที่ใช้ลูกกลิ้งเป็นตัวส่งส่วนผสมเข้าไปในผิวรอบดวงตา มันเลยเย็น และ เป็นการนวดลดถุงใต้ตาไปในตัวด้วย โชคดีที่ไม่ทีถุงใต้ตา แต่ตาบวมบ่อย เวลาเล่นเน็ตหนักๆ ซึ่งเป็นชีวิตประจำอยู่แล้วที่ชอบใช้ดวงตาหนัก นอนก็ดึก T^T
ส่วนผสมเด็ดๆทั้งหลายก็จะมีตั้งแต่
Water Base / Glycerin / Mica / Caffeine / D-panthenol / Vitamin B 5 / Vitamin C / Hesperidin methyl chalconegx / Peptide/ Palmitoyl Tetrapeptide-7 /Chrysin
รู้จักแค่บางตัว เช่น Water base มีน้ำเป็นส่วนประกอบพื้นฐานแทนพวกแอลกอฮอล์ / Mica ช่วยกระจายแสงรอบดวงตาหลังทา / Caffeine ช่วยลดไขมันสะสมรอบดวงตา ต้านริ้วรอย / Vitamin C ทำให้ผิวบริเวณนั้น กระจ่าง ต้านอนุมูลอิสระ ส่วนตัวอื่นๆเดี๋ยวไว้ไปหาข้อมูลเพิ่มเติม เพราะส่วนตัวเห็นสูตรอ่อนโยน ก็กล้าลองแล้วค่ะ
ผลลัพธ์ ใช้มา 22 วัน เกือบ 1 เดือน เท่าที่เห็นชัด ดวงตาที่ใช้งานหนักมาก ที่ดูบวม และ ช้ำ สีความช้ำน้อยลงจากเกือบม่วงแดง ก็กลายมาเป็นสีแดงอมชมพู ดวงตาที่ตุ่ยบวมก็ลดความบวมลงได้ เพราะทารอบดวงตาเลย มันเลยช่วยไม่มีถุงใต้ตา แต่เปลือกตาบนบวม ก็เห็นผลดีเหมือนกัน
COOL : การออกแบบผลิตภัฑณ์ที่เป็นลูกกลิ้ง ยิ่ง3หัว ยิ่งกระจายส่วนผสมรอบดวงตาได้กว้างขึ้น ให้ความสดชื่นเย็น ความผ่อนคลายมากกว่าการใช้นิ้วนวดโดยตรง มันจะรู้สึกสบาย เวลาไถลูกกลิ้งเบาๆไปบนดวงตาทั้งบนและล่าง เป็นการกระตุ้นการหมุนเวียนของน้ำเหลือง รวมถึงของเสียที่สะสมจนทำให้เกิดการบวม ส่วนผสมหลายอย่างส่งผลให้ดวงตาที่เหนื่อยและดูช้ำจนถึงคล้ำ กลับมาดูดี ช้ำน้อยลง สดใสขึ้น ดูมีน้ำมีนวล และใช้ง่ายไม่ต้องบีบครีมใส่นิ้ว แล้วมานวด แล้วไปล้างมืออีกรอบ คือ จะไม่เหนอะหนะนิ้วมือเลย ชอบนวัตกรรมตรงนี้
UNCOOL : เมื่อมีข้อดี ก็อาจจะพบข้อด้อย ด้วยตัวหัวลูกกลิ้งนี่เอง ต้องมั่นใจว่าทำความสะอาดรอบดวงตาปราศจากเครื่องสำอาง และ ฝุ่นละอองดีแล้ว ไม่อย่างนั้น มันจะกลิ้งเอาสิ่งสกปรกที่ตกค้างบริเวณผิวรอบดวงตากลับเข้าไปอีก เพราะมันกลิ้งวนกลับไปกลับมา เมื่อสิ่งสกปรก โดยส่วนผสมใหม่ๆในหลอดอะไรจะเกิ๊ดดดดด
ใช้ต่อเนื่องกันทุกวันจนหลอดผอม น่าสงสาร ใช้ดีคิดว่าจะซื้อใช้ต่อค่ะ เพราะมันใช้ง่าย และ เห็นผลดีสำหรับตาตัวเองค่ะ
อีกอย่างซื้อได้ง่ายที่ BOOTS
XOXO
Posted in EYES, REVIEWComments (0)
Posted on 15 November 2011.
DOVE HAIR SURVIVER KIT – BOOKLET เล่มเล็กๆที่มากับนิตยสารสุดสัปดาห์หน้าปก คุณกบสุวนันท์ รายปักษ์แรกเดือน พย. 54 นี้ (เหลืออีก 2 วันไม่ขายแล้ว) เป็นเล่มที่จะเผยเคล็ดลับการดูแลผมส่วนตัว ของ BLOGGER ผู้หญิงทั้ง 6 คน เผอิญได้รับเกียรติเป็นหนึ่งในนั้น ใครบ้านติดน้ำท่วมออกไปสรรหาไม่ได้ เราก็เลยแปะมาให้โหลด ใครอยากเก็บเป็นคู่มือการดูแลผม 6 สไตล์ก็ไปตามแผงหนังสือที่มี นิตรสารสุดสัปดาห์กันได้ค่ะ ..
REVIEW ภาคต่อจาก HOW TO ทำทรีทเม้นท์บำรุงผมแห้งเสียเร่งด่วนอยู่บ้านด้วยวิธีการง่ายๆ 2 ขั้นตอน
กับ DOVE INTENSE REPAIR 2-STEP TREATMENT
เนื่องจาก TREATMENT ปกติเราลองมาเยอะแล้ว
ขอลองซุปเปอร์ทรีทเมนท์ด้านซ้ายที่มีคำโปรยสุดหรูว่าช่วยคืนความชุ่มชื่นสู่ผมมากกว่าเดิมถึง 2 เท่าบ้าง วิธีการทำไม่ยาก 2 ขั้นตอน ก็ได้ลองมาเป็นระยะเวลา 1 เดือน 6 คู่ด้วยกันใช้อย่างเมามันส์
มาดูหน้าตากันบ้าง ตกราคาคู่ละ 99 บาท ไซด์ใหญ่มี 4 คู่ราคาเซ็ทละ 299 บาท
(คุ้มกว่าในความรู้สึกเหมือนซื้อ 3 แถม 1)
เป็นทรีทเม้นท์ที่ออกแบบมาให้ใช้ภายในคู่เดียวครั้งเดียวให้หมด แต่ความจริงปริมาณการใช้มันขึ้นอยู่กับสภาพเส้นผมของแต่ละคน
DOVE INTENSE REPAIR 2-STEP TREATMENT ไซด์ใหญ่ 4 คู่จะแพคมาในกล่องใสหน้าตาแบบนี้
STEP – 1 หลอดใหญ่สีน้ำเงิน เป็นทรีทเม้นท์ตัวที่มีไฟเบอร์ แอคทีฟส์ ที่บำรุงในแง่ของการเติมโปรตีนให้เส้นผม
วิธีการใช้ STEP – 1 นวดเว้นโคนผม เน้นปลายผมที่แห้ง หรือ ขาดการบำรุงทิ้งไว้ 3 นาทีแล้วล้างออก
STEP – 2 หลอดเล็กสีเทา เป็นทรีทเม้นส์ตัวกักเก็บหรือลิ็อค หรือเคลือบการบำรุงที่เราได้ลงไปขั้นตอนแรกให้นุ่ม มีสุขภาพดี
วิธีการใช้ STEP – 2 ลูบไล้ให้ทั่วเส้นผมเว้นโคนขณะที่ผมหมาด หรือใช้เวลาผมแห้งแล้วแอบฟูก็ได้นะคะ แล้วจัดแต่งทรงตามต้องการ
ข้อแนะนำ * เวลาใช้ใส่ทีละน้อย อย่าเยอะ และ STEP-1 สามารถใช้กับการอบไอน้ำที่บ้านได้สบายด้วยผ้าเช็ดตัวชุบน้ำอุ่นบิดหมาดมาโพกไว้ นิ่ม นุ่ม ลื่น หอมติดผมเลย ส่วน ลีฟออน ใส่เพิ่มความเงาวาวของเส้นผมใส่แค่นิดเดียวก็พอค่ะ มากไปหนังศีรษะจะมันง่าย และล้างให้สะอาดหมดจดทุกครั้งป้องกันปัญหาผิวหนัง หรือหนังศีรษะตามมานะคะ
COOL ผมมีสุขภาพดี จัดทรงง่าย รู้สึกว่ามันนิ่ม นุ่ม ดึ๋งๆ ลื่นด้วย หลอดนึงให้เยอะมาก ใช้ได้ 2-3 ครั้งเลย มีคู่มือชัดเจนอ่านเข้าใจง่าย ทำตามได้ไม่ยาก เพิ่งสังเกตุว่าฝาทรีทเมนท์ที่บิดออกให้กลับหัวฝาลง จะมีปลายจุกแหลมยาว สามารถนำจุกนั้นเสียบปิดรูที่เปิดออกได้ค่ะ ก็สามารถพกไปไหนต่อไหนแม้ใช้ไม่หมดได้แล้วทีนี้
UNCOOL บางครั้งใส่เยอะไป หนังศีรษะมันเร็ว กลิ่นยังหอมสะใจไม่พอ (ฮา) อีกอย่างแพคเกจน่าจะทำเป็นฝาจุกที่เปิดแล้วปิดได้มากกว่า จะได้พกไปไหนต่อไหนได้
เป็นอีกตัวเลือกในการบำรุงผมแห้งเสีย จากคนที่เสพย์ติดการทำเคมีเส้นผมอย่างเรา ทั้งดัด ยืด ทำสีนี่บ่อยสุด รวมถึงอาการแตกปลายที่อยากซ่อนไว้ เพราะยังไม่พร้อมจะเล็ม และคนที่ไม่ชอบออกจากบ้านอย่างเรา แต่อยากดูแลตัวเองได้โดยทำได้ด้วยตัวเอง เซฟเงินในกระเป๋า แต่มีผมสวยเหมือนคนอื่น โอเคนะ ยังไงก็ยังคงต้องใช้กันอีกนาน เพราะกว่าจะกู้ได้มันคงต้องใช้เวลาพอๆกับเราใช้เวลาทำลายผมตัวเอง ส่วนปริมาณและความถี่ในการใช้ผลิตภัณฑ์ขึ้นอยู่กับความยาวและสภาพเส้นผมของแต่ละคน ส่วนเอิ๊กใช้บ่อยเพราะช่วงนี้ผมแห้งกรังมาก หนีบบ่อยไป (ฮา)
ขอให้ทุกคนมีผมสวย เงางาม สุขภาพดี นุ่มลื่นกันทุกคนค่ะ
ใครได้ใช้ไม่ชอบ ชอบยังไงก็มาแชร์กันใน FANPAGE erk-erk.com ได้นะคะ
ยินดีแลกเปลี่ยนประสบการณ์ความสวยความงาม 24 ชั่วโมง ไม่มีวันหยุดราชการ :p
XOXO
สิวหายเมื่อไหร่เจอกันใน MAKE UP HOW TO แน่นอน รอมันหายหน่อยนะ
Posted in HAIR, REVIEWComments (0)
Posted on 04 November 2011.
Posted in FACE, REVIEWComments (2)
Posted on 28 October 2011.
การฉีด BOTULINUM TOXIN รอบ2 เพราะได้ระยะเวลา อีกนับนึงคือแก้ปัญหามุมปากตกข้างนึง แคบข้างนึง ได้ความรู้เยอะมาก ” ตั้งแต่ก่อนอื่นต้องเรียกอยากถูกต้องว่า BOTULINUM TOXIN ไม่ใช่ BOTOX เนื่องจากชื่อ BOTOX เป็นชื่อยี่ห้อของสาร BOTULINUM TOXIN ทางฝั่งอเมริกา เหมือนเครื่องถ่ายเอกสารซีรอก (มาจากยี่ห้อฟูจิซีรอก) เป็นผลพลอยได้ทำให้ชื่อแบรนด์กลายเป็นคำเรียกติดปาก ถือว่า แบรนด์ประสบความสำเร็จมาก “
ตอนนี้เท่าที่รู้เมืองไทยผ่าน อย. มา 3 ประเทศ อเมริกา ยุโรป เกาหลี ดังนั้นศึกษาให้ดี และความเข้าใจผิดอีกอย่างคือ ยี่ห้อไหนดีที่สุด ความจริงแล้ว การรู้เรื่องระบบกล้ามเนื้อสำคัญ เพราะมันแบ่งเป็นมัด และวางเรียงตัวแต่ละส่วนบนใบหน้าไม่เหมือนกัน แพทย์เท่านั้นใช้เทคนิคไหนฉีดแก้ปัญหาให้เรา และ ยี่ห้อมีส่วนในเรื่องของโมเลกุลการกระจายตัวด้วย ยิ่งกระจายตัวมาก โอกาสออกผลอาจจะเยอะ แต่ถ้าพลาดไปก็เป็นแบบเอิ๊กค่ะ ” คือมุมปากตก มุมปากแคบข้างนึง “
วันที่ 12 เมษายน 54 – ฉีดรอบแรก
วันที่ 10 ตุลาคม 54 – ฉีดรอบสอง (ยังรึวิวไม่ได้)
การเห็นผล – ใบหน้า และการตอบสนองแต่ละคนไม่เหมือนกัน เอิ๊กมักจะเห็นผลตั้งแต่ 3 อาทิตย์เป็นต้นไป และยี่ห้อไม่แน่ใจว่าจะมีผลไหม ยังไงเดี๋ยวได้ทราบกันวันที่ 1 พย. นี้ถ้ายังไม่ได้ผล แสดงว่าใบหน้าเอิ๊กตอบสนองกับ BOTULINUM TOXIN ยี่ห้อที่ 2 ช้า รอบนี้ไปทำที่ ISKYCENTER ฉีดกับผู้ช่วยศาสตราจารย์ รังสิมา โดยตรง วันเดียวกับที่ฉีด FILLER ราคาทั้ง 3 ยี่ห้อ แตกต่างกันไป เอิ๊กฉีดยี่ห้อที่เหมาะกับเอิ๊กซึ่งคุณหมอแนะนำมาในการแก้ปัญหามุมปากตกไม่ให้เกิดซ้ำอีก ทุกวันนี้ส่องกระจกทุกวัน ดูว่ารอยยิ้มตัวเองเปลี่ยนรึเปล่า สำหรับการฉีดแล้วเกิดปัญหาอะไร CLICK
เมื่อได้มีโอกาสไปฉีดกับระดับอาจารย์เลยขออนุญาตสัมภาษณ์เพิ่มเติมเป็นวิทยาทานให้กับตัวเองและคนอื่นที่สนใจเพิ่มเติมค่ะ สำหรับคลิปวีดีโอเกือบทุกชิ้นของเอิ๊ก อาจไม่สนุก แต่อัดแน่นไปด้วยความตั้งใจ และ พยายามให้คนที่ดูได้รับประโยชน์ในแต่ละครั้งค่ะ และครั้งนี้ก็เช่นกัน คิดคำถามเอง แม้คุณหมอเองมีเวลาน้อยมากเพราะไปธุระต่อ แต่คุณหมอก็ให้เวลาสัมภาษณ์ 30 นาที 2 เรื่องเลย FILLER และ BOTULINUM TOXIN
บทสัมภาษณ์ผู้ช่วย ศาสตราจารย์ รังสิมา วณิชภักดีเดชา
1.การฉีด BOTULINUM TOXIN ทราบว่าต้องรู้จักกล้ามเนื้อเป็นอย่างดี อยากทราบว่าสาขาเกี่ยวกับกล้ามเนื้อเรียนยากไหมคะ ?
2. คุณหมอเริ่มฉีดโบทอกมานานแล้วรึยังคะ ?
3. BOTULINUM TOXIN คืออะไรทั้งแน่แง่สุขภาพและความงาม
4.ส่วนมากคนไข้ที่มาฉีดสาร BOTULINUM TOXIN เขามีปัญหาตรงจุดไหนกันเป็นส่วนใหญ่
5. BOTOX กับ FILLER ทำงานต่างกันยังไงคะ
6. ก่อนจะเริ่มฉีด BOTULINUM TOXINควรรู้เกี่ยวกับเรื่องอะไรบ้างคะ
7. BOTULINUM TOXIN ก่อให้เกิดผลข้างเคียงไหมระยะสั้นหรือยาวไหมคะ เพราะหนูเองมุมปากตกข้างนึง
8. ถ้าเกิดเหตุการณ์สุดวิสัยฉีด BOTULINUM TOXIN แล้วผิดพลาด ใบหน้าไม่เท่ากัน มีวิธีแก้ไขไหมคะ
9. ทราบมาว่าโบทูลินัมทอกซินมีหลากหลายยี่ห้อ ยี่ห้อไหนดีที่สุดคะ
10. มีอายุเท่าไหร่ถึงเริ่มทำได้ค่ะ
11. อยากให้คุณหมอฝากคำแนะนำสำหรับคนที่สนใจเรื่องโบทอกซักนิดคะ
12. เคล็ดลับการดูแลผิวพรรณใบหน้าและลำตัวของคุณหมอ เพราะคุณหมอผิวสวย ออร่าประกาย เนียนมากทั้งที่ไม่เคยรับประทานกลูต้า สืบมาแล้ว
ต้องขอขอบพระคุณผู้ช่วยศาสตราจารย์ รังสิมา วณิชภักดีเดชาสำหรับข้อมูลอันเป็นประโยชน์เหล่านี้มากค่ะ
ก่อนไปจัดภาพนิ่งให้นิดนึง REVIEW การทำ BOTULINUM TOXIN รอบแรกที่ไม่ฉีดกับคุณหมอนะคะ พอใจมากที่สุดในแง่ใบหน้าเล็ก
ฉีดจริง
ก็ไม่ได้เอาแก้มออกนะคะ ยังมีอยู่ BABY FAT เราหวงอยู่แล้ว 🙂
XOXO
มีคำถามอะไรขอให้ทิ้งไว้ที่ FANPAGE นะคะ
Posted in BEAUTY TECHNOLOGY, BOTOX, FACE, REVIEWComments (1)
Posted on 23 October 2011.
ย้อนไปเมื่อหลายอาทิตย์ก่อนระหว่างนั่งดูคุณนกตีสิบกับรูปลักษณ์โฉมใหม่ที่เธอได้พยายามจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง เพียงเพราะโดนผู้ชายห่วยๆคนนึงทิ้งไปเพราะว่าเธอสวยน้อยกว่าผู้หญิงคนใหม่ .. หลังจากเห็นโฉมหน้าหลังศัลยกรรมยกเครื่องหน้าใหม่ ตัวเองเหมือนโดนสะกด หลังจากวันนั้นใช้เวลาทุกวันเป็นเวลาหลายอาทิตย์ในการเข้า เว็บสังคมออนไลน์ที่เกี่ยวกับการทำศัลยกรรมของไทยเรานี่ละ มีผู้คนมากมายมาแลกเปลี่ยนความคิดเห็น พูดคุย แนะนำ และ เผยภาพก่อน – หลังการทำศัลยกรรม
ทุกวินาทีทำให้เราคิดเรื่องที่ไม่เคยคิด อยากในเรื่องที่เคยคิดว่าจะไม่ทำเพียงเพราะเวลาเราเห็นอะไรที่ดูดี เราก็อยากจะดูดีบ้าง ทั้งที่ตัวเองก็ควรจะภูมิใจที่มี 32 ประการครบ ทุกอย่างน่าจะพอดี ก่อนหน้านี้ 6 เดือน ก็โดนกระแสการทำโบทูลินัมทอกซินจากรุ่นพี่ใน Facebook คนนึงเป็นคนมีชื่อเสียง เธอเป็นคนที่สวย มีเสน่ห์ น่ารัก และเป็นคนมีแก้ม หลังจากเธอไปทำโบทูลินัมทอกซิน ลดขนาดกล้ามเนื้อแนวขากรรไกรมาก็กลับมา ” สวยโคตร ” ความรู้สึกโชคดีของผู้สาวแก้มใหญ่ก็มาถึงคือ ” อยากบ้าง อะไรบ้าง “
ตอนนั้นก็รู้สึกว่าโชคดีที่ตอนดัดฟันแล้วไม่ยอมถอนฟันเพียงเพราะให้ใบหน้าดูเรียวลงเนื่องจาก แอบคิดว่า พอถึงเวลาที่เราแก่ฟันเรามันก็ร่วงอยู่แล้ว ถ้าถอนเยอะไป แล้วตอนแก่จะเหลืออะไรให้หลอ จะเค้ียวข้าวลำบากไหม (คิดการณ์ไกลมาก) ก็ยอมหน้ากลมมา 23 ปี มามีประสบการณ์การทำ โบทูลินัม ทอกซิน ตอนอายุ 23 ปี 11 เดือน แล้วมันเกี่ยวอะไรกับฟิลเลอร์ คือ ขอท้าวความก่อนก้าวเข้าสู่สังเวียนการทำศัลยกรรมขนาดย่อม ?
โดยเริ่มจากการอยากมีใบหน้าที่เรียวยาว เนื่องด้วยเวลาถ่ายรูปอะไรก็แล้วแต่ที่มีตากล้อง จะโดนบังคับทำร้ายจิตใจ ให้ก้มหน้า แบนหน้าให้เอียงให้มากที่สุด ก้มแทบคางจะติดกับเหนียงที่คออยู่แล้ว .. เพราะเค้าบอกว่าเรา ” หน้าบาน “
เกลียดคำพวกนี้มาก ” หน้าบาน หน้ากลม หน้าอ้วน หน้าอืด “ คิดในใจ
(ทำไมอะไรกับตูนักหนาวะ)
เลยไปอัดโบทูลินัมทอกซินเข้าที่กล้ามเนื้อแนวขากรรไกร เนื่องด้วยอาชีพพนักงานเอกชน เงินเดือนน้อยนิด เนื่องด้วยความต้องการอยากดูแลแม่ให้ดี เลยยกเงินเดือนให้แม่ครึ่งนึง ดูแลค่าใช้จ่ายในบ้านเกือบทุกอย่างยกเว้นค่าน้ำ เราก็เลยมองหาเรื่องราคาเป็นอันดับหนึ่ง แต่ยาต้องคุณภาพสุด ดีที่สุด เลยไปจบที่โรงพยาบาลรัฐบาลที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง (ขอไม่บอกนะคะ เพราะเดี๋ยวเขาเสียหาย) ด้วยคำแนะนำจากพี่สาวที่เรารู้จักและนับถือ พี่เขาจะเป็นคนแนะนำสิ่งที่ดีให้เราตลอด
สรุปได้ราคาต่ำกว่าคลินิคปกติเกือบครึ่ง ” วิธีการคือไปถึง ไปนอนที่เตียงแล้วมีนร.แพทย์ยืนเรียงดูตอนเราฉีด (คือไม่ทราบมาก่อน) เราก็รีบนอน แล้วเขาผสมตัวยาเสร็จ แล้วนำหมึกมาจิ้ม ทำมาร์คไว้ก่อนว่าจะฉีดตรงไหน ประมาณ 5 จุด หลังจากนั้นก็ฉีดเข้าใบหน้าเรา 5 ครั้ง โดยไม่ได้มีการโปะยาชา (เพราะมันราคาถูกไงคะ) เรารู้สึกว่าปวดมาก เวลายามันวิ่งเข้ากล้ามเนื้อ เสร็จปุ๊บ คือให้ลงจากเตียงแล้วกลับบ้านได้ “
สรุปคือเรียวสมใจมาก แต่มันมีผลกระทบซึ่งสำหรับตัวเรารู้สึกโชคดีคือมันจะสลายแน่นอน 6 เดือน แต่ตอนนั้นต้องทนกับการมีรอยยิ้มที่ ” มุมปากตกไปข้างนึง “ มุมปากไม่เท่ากัน แก้มข้างนึงแคบ ข้างนึงปกติ เหตุเกิดเพราะมีคนทัก โดยส่วนตัวไม่รู้เลย
ก่อนทำเป็นคนที่รอยยิ้มมีความสมดุลอยู่แล้ว พอหลังทำสังเกตุมุมปาก และขอบร่องแก้มไม่เท่ากัน ชีวิตจริงเห็นชัดกว่านี้ เพื่อนทักมาคำนึง ” ทำไมยิ้มแปลกไป ” “ทำไมยิ้มเหมือนเสแสร้ง”
คือคนยิ้มเนี่ย งง ฉันยิ้มของฉันปกติ
ส่วนปัจจุบัน กลับมาจะครบ 100 % แล้วค่ะ แต่รู้สึกว่าหน้าไม่ใหญ่เท่าตอนแรกก่อนฉีด
คือตอนแรกอาจจะพบว่าคางไม่ค่อยมี หน้าดูมีแก้มและผสมเหลี่ยมนิดๆพออินเทรนด์ แต่หลังโบทูลินั่มทอกซิน ค้นพบว่าตัวเองมีความสุขมากในการดำเนินชีวิต แม้ไม่ใช่ดารา หรือ บุคคลมีชื่อเสียง แต่ไม่ขอปฎิเสธว่าอยากเป็นคนที่ดูดีคนนึง ดังนั้นเพื่ออะไรก็ได้ที่ทำแล้วดูดีเข้ารูปขึ้นเราก็ยอม
มาเข้าเรื่องที่ฟิลเลอร์ เมื่อก่อนอาจจะหาข้อมูลมาน้อยว่าโบทูลินั่มทอกซิน ผลกระทบมันคืออะไร ของเราโดนในแง่ที่มุมปากข้างนึงตก ไม่ถึงกับปากเบี้ยว ดังนั้น สำหรับโบทูลินั่มทอกซิน ทำต่อไปเรื่อยๆแน่นอนค่ะ แต่คงไม่ใช่ที่เดิมแน่นอนค่ะ ตอนนี้จะเลือกเอกชนที่มีความเป็นส่วนตัวไม่ต้องไปนอนให้ใครเห็น ( อายมาก )
ฟิลเลอร์ก็มาอยากทำให้คางตัวเองดูยาวขึ้นเพราะเห็นคนอื่นทำ ทั้งที่พอหน้าเรียวแล้วก็จะดูมีคางเรียวยาวเอง แต่ก็อีกนั้นแหละ ดูทีวี เสพย์สื่อมากไป มากไปจริงๆ ถึงขนาดโทรไปถามที่ๆจะไปทำว่ามีบริการฉีดเสริมให้คางยาวไหมคะ พอเค้าบอกว่ามี ไม่ใช่ว่าเราจะไปทำเลย เราก็ยังนั่งอยู่ในโลกเว็บออนไลน์ทำศัลยกรรมต่อ ดูและพิจารณา ถามจิตถามใจ ” จะเอาไหม ? ” สรุปก็ไปจัดซัก 1 เข็มฉลองน้ำท่วม
ทีนี้มารู้จักก่อนว่าไอเจ้า ” ฟิลเลอร์ “ คืออะไร
” ฟิลเลอร์ หรือ ไฮยาลูรอนิก แอซิด หรือ ไฮยารูรอน เป็นสารประกอบน้ำตาลเชิงซ้อนที่มาเรียงต่อกันเป็นสาย ในผิวเราหนังของคนเราตามธรรมชาติจะมีสารนี้อยู่เป็นปกติ ซึ่งสารนี้มีคุณสมบัติในการดึงดูดน้ำ ทำให้ผิวหนังอิ่มเอิบ อวบอิ่ม มีความยืดหยุ่น ”
(ที่มา : http://www.p10surgery.com/)
โอเครู้ประมาณนี้นะเดี๋ยวจะงง ยิ่งคนทำอ่านมากจะงงมาก เลยเอาพอดีดี แต่สิ่งที่กังวลคือผลกระทบ เดี๋ยวเหมือนน้องโบทูลินั่มทอกซินอีก
รอบนี้ถามคุณหมอเลยค่ะ ไม่รอแล้ว ถามตรงๆแบบขอความจริงจะได้ตัดสินใจถูก ตรงข้อมูลอันเป็นประโยชน์นี้ต้องกราบขอบพระคุณ ผู้ช่วยศาสตราจารย์รังสิมา ที่ให้ข้อมูลในครั้งนี้เพื่อการเผยแพร่เป็นความรู้สำหรับที่อยากทราบข้อมูล หรือคนที่สนใจคิดจะทำ
หลังจากได้รู้ข้อมูลเสร็จจัดไปกับคางใหม่เดี๋ยวนั้นเลย หลังจากนอนไม่หลับเป็นเดือน เอาซะจะได้เลิกบ้า (ฮ่า ) รอบนี้จัดที่ ISKY และทำกับคุณหมอรังสิมานี่ละค่ะ เพราะพนักงานบอกว่าคุณหมอคนไข้มาฉีดเยอะมาก นึกในใจ ทำไมเราไม่เคยถาม ทั้งที่ไปให้คุณหมอยิงเลเซอร์บ่อย – – ” ฟิลเลอร์ราคาพอกับโบทอกเลย ราคาแล้วแต่ยี่ห้อ แล้วแต่สถานที่ ที่เคยถามมาไม่ควรเกิน 15,000 บาท จะแพงมากไป ของที่นี่ก็มี 2 ราคา 2 ยี่ห้อ 11,000 กับ 14,000 บาท เรื่องยี่ห้อไม่ได้ศึกษา ศึกษาแต่หมอ และผลกระทบ เพราะกลัวมากกลัวเจอแบบโบทูลินั่ม รอบก่อน
ไปถึงก็มีพี่ๆพนักงานให้ไปทำความสะอาดใบหน้า ไม่เคยมาล้างหน้าที่นี่เลย เพราะทำเลเซอร์ไปแบบเปลือยสุดชีวิต คุณหมอเป็นลมทุกครั้ง ฮ่าๆ
ที่ล้างหน้ามีตั้งแต่สูตร แพ้ง่าย ผิวธรรมดา ผิวมัน ของเราต้องล้างขวดขาวใสโลด เชื่อไหมว่าเป็นโรคกลัวแพ้ แม้กับของหมอเองก็ระแวงก่อนอะไรที่ไม่เคยใช้ ใช้แต่น้อย แล้วล้างน้ำเยอะๆ 5555555555
ระหว่างรอคุณหมอ ก็ให้พี่เมย์สุดที่เลิฟ ถ่ายรูปให้หน่อยจะนำไปลงบลอค พี่ๆพนักงานก็มาทายาชา ตื่นเต้นมากไม่เคยโดน โดนซะ รอไป 1 ชั่วโมง หลับรอ 🙂
วันนี้จัดเต็มค่ะ ฟิลเลอร์คางยาว โบทูลินั่มทอกซินหน้าเรียว
คำแนะนำก่อนทำ คุณหมอไม่อยากให้ทำ อยากให้ทำอย่างเดียวก่อนคือ โบทูลินัมทอกซินเนื่องจากมันหมดฤทธิ์ของเก่าแล้วเลย 6 เดือนแล้วพอดี อยากให้รอดูผลแล้วค่อยเติมฟิลเลอร์ที่คางจะได้พอดี เพราะถ้าคางยาว แต่มันจะดูยาวกว่าเดิมอีกถ้าเกิดหน้าเรียวเข้าที่แล้วและมันจะดูเหมือนหนู แต่คนไข้ดื้อ อยากดูเลย เพราะมันไกลด้วย มาไม่บ่อย เพราะคุณหมอคนไข้เยอะ T^T
คุณหมอก็บอกแค่ว่า หมอเติมให้นิดเดียวนะคะ เอาธรรมชาติที่สุด เอาเล็กๆ ระหว่างฉีดขนาดโปะยาชาเป็นเวลานาน แต่มันปวดมาก มือคุณหมอนิ่มมาก แล้วคุณหมอก็พูดเสียงนุ่มๆ สะกดจิตเราตลอดเวลา ว่าจะเสร็จแล้วนะ อีกนิดนึง อีกนิดนึงนะ ใกล้แล้ว อีกนิดเดียว ตัวเราเองหลับตาปี๋ มันปวดจริงๆนะคะ รู้สึกแค่ตัวยามันวิ่งเข้ามาจึงปวด ไม่ถึง 5 นาทีทุกอย่างเรียบร้อยด้วยฝีมือการปั้นคางของคุณหมอรังสิมา
เป็นไงคะ หลังทำมันบวมเลยทันที ตอนนี้ยังไม่เข้าที ต้องรอประมาณ 5 วันห้ามโดนอะไรร้อนๆ ห้ามนวด ขัด หรือทำอะไรกับใบหน้า แต่งหน้าได้ปกติ ไม่มีแผลใหญ่ มีแผลคือรอยเข็ม รูเท่าจิ๊มิ๊มดแดง
แล้วมันก็หายบวมในที่สุดหลังจากนั้น 10 วัน คือ ตัวเองดูไม่ออก แต่เมื่อถ่ายคลิปเห็นชัดมากค่ะ
วัดให้เห็นกันไปเลย ยาวขึ้นแบบมันดูเป็นวงรีเลย อยากให้โบทูลินัมออกฤทธิ์ไวไว จะได้ดูเห็นชัดกว่านี้แน่นอน
ดูคลิปนี้แล้วจะรู้ว่าคางเปลี่ยนไป
สรุปรอบหน้าจะทำฟิลเลอร์คางอีกหรือไม่ คิดว่า “อาจจะทำ หรือ อาจจะไม่ทำ” 50/50 เพราะเมื่อใดก็ตามที่หน้าดูเรียว คางก็ยาวขึ้นมาเอง ขอคิดอีกที ก็มันปวดนี่นา (ฮา)
หวังว่าคงถูกใจใครหลายคนนะคะ ในการเปิดเผยเคล็ดลับ ที่แก้มหายไปบางคนอาจจะบอกว่าแบบเดิมดีกว่า แต่เรามีความสุขกับแบบนี้มากกว่า นั้นทำเถอะ เพราะเราต้องเห็นหน้าตัวเองทู๊กวันนนนนนนนนนนน
XOXO
คราวหน้ามาต่อกันที่ BOTOX ถ้ามันเห็นผล ถ้ามันยังก็ฟังสัมภาษณ์ของคุณหมอไปก่อน เป็นคนไข้ แล้วก็ขอคุณหมอเป็นนักเรียนด้วยให้คุณหมอสอนทุกอย่างเลย 🙂
Posted in BEAUTY TECHNOLOGY, CHEEKS, CHIN, FACE, REVIEWComments (4)
Posted on 15 October 2011.
Posted in DIET, REVIEWComments (0)