Archive | REVIEW

REVIEW : BYPHASSE WATER CLEANSING มวยคู่ชก BIODERMA

 

 

 

 

 

แต่งหน้ามาเต็มยศ วันนี้จะพามาล้างหน้ากัน 5555555555555

 

วันนี้ก็ได้รับเกียรติร่วมงามกับแบรนด์ BYPHASSE จากประเทศสเปนมาชำแหละ

เอ้ย มา REVIEW WATER CLEASING แบรนด์นี้อย่างละเอียด

แน่นอนว่าตัวนี้เอิ๊กใช้มาเกิน 6 เดือนแล้ว 

 

[ ตอนได้มาลองช่วงแรก และ รู้สึกว่าควรแนะนำต่อผู้มีปัญหาผิวแพ้ง่ายเป็นสิวง่ายเหมือนกัน

ก็ทำคลิปออกมาประมาณ 6 เดือนที่แล้วสำหรับเจ้าตัวนี้ ]

 

ศึก WATER CLEANSING ปีที่ผ่านมา กับ ปีนี้รุนแรงมากบ้านเราก็มีหลายแบรนด์

ให้ซื้อให้ใช้กันเต็มไปหมด เหตุผลที่คนหันมาใช้ตัว WATER CLEANSING

ในความคิดเห็นของเอิ๊ก คือ

ประหยัดเวลาทำความสะอาดได้เร็ว

ทำความสะอาดได้เกลี้ยงมากสิวไม่ค่อยมาเยือน

ไม่เป็นสิว ไม่อุดตัน

อาจไม่ต้องใช้โฟม (ประหยัดโฟม)

อาจไม่ต้องล้างน้ำเปล่าตาม (ประหยัดน้ำเปล่า)

หลายยี่ห้อผิวบอบบางใช้ได้หน้าไม่แพ้

เลเซอร์มาก็ใช้ได้ หน้าปลอดภัย

สรุปสั้นๆ ” ทำความสะอาดหน้าเร็ว + ปลอดภัยกับสุขภาพผิวหน้า “

 

เหมาะกับเอิ๊กเพราะเอิ๊กเหนื่อยเวลาล้างหน้านานๆง่วงนอน และ เอิ๊กกลัวเป็นสิว

ตอนแรกที่เริ่มรู้จักก็ไม่ค่อยกล้าใช้กลัวสำลีจะไปรบกวนผิวหน้า

 

ดังนั้นใช้สำลีควบคู่ที่มีคุณภาพก็จำเป็นมาก + ชโลมสำลีให้ชุ่มอย่ากลัวเปลือง

อย่าให้ผิวหน้าฝืด เดี๋ยวริ้วรอยมาเร็ว

แบรนด์ BYPHASSE [บี-ฟาส] เกิดมา 14 ปีแล้ว มีขายกว่า 60 ประเทศ คาดว่าหลายคน

คงมีโอกาสได้อ่าน REVIEW จาก BEAUTY BLOGGER มากมายหลายทวีปเกี่ยวกับตัวนี้

มันเป็นหนึ่งใน FAVORITE ITEM ของใครหลายคน เหตุผลสำคัญคือคุณภาพที่ถูกพัฒนามา

อย่างอลังการ กับ ราคาที่[โคตรจะ]น่ารัก แบรนด์นี้ผลิตภัณฑ์เยอะมากแต่ที่ไทยเห็นว่าตอนนี้มี

แค่ WATER CLEANSING ที่ถูกนำเข้ามาอย่างถูกต้องโดยจำหน่ายที่ BOOTS

หน้าตามันปังมาก ! แต่ขอบอกว่ามันไม่ได้เลียนแบบ BIODERMA แอบไปหาข้อมูล

คนออกแบบทางด้าน PRODUCT MANAGER แบรนด์นี้ บอกว่าเขาชอบสีชมพู-ขาว

ตั้งแต่ยังเป็นเด็กอายุประมาณ 3 ขวบ และ เขาเคยได้รับรางวัลเกี่ยวกับผลงาน

การเย็บเป้สะพายหลังที่คว้ารางวัลที่ 1 จากนั้นเขายิ่งมั่นใจว่าสีชมพู-ขาว คือ

สีที่วิเศษที่สุดในชีวิตของเขา คือ สีชมพู-ขาว เขาจึงเลือกใช้มันกับหลายสิ่งหลายอย่าง

ในชีวิตรอบตัว

 

สีที่เขาเลือกใช้ในแบรนด์ BYPHASSE มีทั้งหมด 3 สีด้วยกัน

สีชมพู เปรียบเสมือน ความเป็นผู้หญิง และ อีกอย่างยังสื่อถึงความหอม

โดยเขานำผลกุหลาบ,ดอกไม้ต่างๆ,ดอกกุลาบ มาสกัดเป็นน้ำหอม

ใส่ลงในผลิตภัณฑ์ BYPHASSE

สีขาว เปรียบเสมือน ความเป็นเลิศ ความสะอาด ความบริสุทธิ์ ความพิถีพิถัน

สีเทา เปรียบเสมือน ความจริงจัง

 

 

มาซูมดูใบหน้าของเธอกันชัดๆ ขวดจะเป็นสีใส ขนาดขวดเป็นทรงสูง ฝาชมพูใช้วิธีคลิกให้

รูขวดเปิดออกมา ขนาด 500 ml. หนักใช้ได้อยู่เหมือนกัน

 

คุณสมบัติ

สภาพผิวที่เหมาะ : ผิวแห้ง ผิวระคายเคืองง่าย ผิวบอบบาง

ผิวผู้ใหญ่ที่เป็นสิวผิวหน้าแดงง่าย [ROSECEA]

หลักการทำความสะอาด : นวัตกรรม MICELLAR SOLUTION อณูเล็กเข้าไป

ดักจับคราบเครื่องสำอาง คราบไขมัน และ สิ่งสกปรกอย่างล้ำลึก

โดยไม่ต้องล้างน้ำออก และ ไม่ทำให้ใบหน้าแห้งตึง

บริเวณที่ใช้ได้ : ใบหน้า ริมฝีปาก ดวงตา

จุดเด่นที่ปลอดภัยต่อผิว : ไม่มีสี ไม่มีพาราเบน ไม่มีแอลกอฮอล์ ไม่มีสบู่

2 in 1 ทำความสะอาด พร้อมเป็น TONING ปรับสภาพผิวให้นุ่ม ชุ่มชื่นไปในตัว

ผ่านการทดสอบจากผู้เชี่ยวชาญทางด้านผิวหนัง และ จักษุแพทย์

 

นอกจากที่หน้าตาหลายทำเอาคนที่เห็นอาจตกอกตกใจ ละม้ายคล้ายเจ้า BIODERMA ผู้บุกเบิก และ ผู้นำตลาด WATER CLEANSING ส่วนผสมมีประมาณ 4 ตัวที่เหมือนกัน จึงมีกูรูหลายประเทศยกนิ้วให้ในเรื่องคุณภาพ และ ราคาที่สบายกระเป๋าจนต้องตุนไว้เช่นกัน

แปะส่วนผสมให้ดูเล่นๆ

BIODERMA :
Water (Aqua)PEG-6 Caprylic/Capric GlyceridesPropylene Glycol, Cucumis Sativus (Cucumber) Fruit Extract, Mannitol, Xylitol, Rhamnose, Fructooligosaccharides, Disodium EDTA, Cetrimonium Bromide

BYPHASSE :
Aqua, Glycerin, PEG-6 Caprylic/Capric GlyceridesPropylene GlycolDisodium CocoamphodiacetatePolyaminopropyl Biguanide, Panthenol, Disodium EDTA, Decyl Glucoside, Parfum, Citric Acid, Bisabolol, Sodium Hydroxide.

 

จุดแรกที่เอิ๊กอ่านแล้วยังลังเลอยู่ว่าจะลองดีไหมนั่นคือ PARFUM = น้ำหอม

ดิฉันแพ้ แต่พอหาข้อมูล น้ำหอมสกัดมาจากพืชพันธุ์ธรรมชาติ เช่น ผลกุหลาย

ดอกไม้ ยังไงก็แนะนำให้ทดสอบก่อน ส่วนตัวใช้ดีไม่แพ้

 

 เอาจริงๆส่วนตัวก็ใช้มา 2 แบรนด์ คงแล้วแต่สภาพผิว จำได้ตอนนั้นใช้

BIODERMA ผิวเอิ๊กแห้งมาก พอเอิ๊กใช้แล้วลองไม่ล้าง อีกวันมันแห้งมากสิวขึ้น

ก็เคยลองภายหลังอีกหลายครั้งก็เป็นอีก เลยหยุดการใช้ WATER CLEASING ไปเลย

ไม่ค่อยกล้าลองก็กลับไปใช้ CLEANSING OIL REMOVER จนตอนหลังมีหลาย

แบรนด์กลับมาให้เลือกลอง เลือกเล่นอีก ก็เลยหันมาใช้ WATER CLEANSING เต็มตัว

ขึ้นกับสภาพผิวคนด้วย 

มาลุยของจริงกัน !!! เอิ๊กก็จะรบโดยใช้ BYPHASSE คู่กับ สำลีนุ่มๆ รีดขอบ กันขุยกระจาย

เอิ๊กเอาขวดเก่าที่ใช้อยู่หมดไปแล้วเกือบ 4 ขวด ขวดละประมาณ เดือนกว่า สำหรับเอิ๊ก

ผู้ที่ไม่ได้แต่งหน้าทุกวัน แต่ก็เช็ดเกือบทุกวัน เพราะลงกันแดดก็เลยต้องใช้

หยดอย่าได้คิดชีวิต 55555 ไม่ชุ่มไม่เลิก เวลาชุ่มมันจะลื่น

เช็ดง่าย รู้สึกว่าผิวหน้าไม่โดนรบกวนมาก

เริ่มจากลิปสติกสีสดที่อยู่บนปาก ริมฝีปากเอิ๊กถ้าใครตามจะรู้ได้เลยมันแตกตลอด

เป็น  SIGNATURE ที่ไม่ดีเลย แห้ง ลอก เลือดแตก ซิบ ไม่ค่อยดื่มน้ำ เราจะอำพราง

ด้วยลิปสติกเนื้อครีมสีสด คือ ไม่ได้ตั้งใจให้สีปากเหมือนฝา BYPHASSE 5555

สีเดียวกันเลย ขอเริ่มจากปาก ใครจะเริ่มจากตรงไหนก่อนก็ได้ไม่ผิดกติกา

ขอแค่เบามือกับหน้า

โปะไว้ซักพักจะหลุดออกมา เช็ดทำความสะอาดได้ง่ายขึ้น สำลีประมาณ 2 แผ่น

แบรนด์นี้จุดเด่นที่ลองอีกอย่างคือชุ่มชื่นมาก แค่โปะไว้แปป เช็ดปุ๊บ ปากนุ่ม ที่แห้งเป็นแผ่น

เรียบอิ่มไปเลย แต่วิธีนี้ไม่ได้แนะนำให้ใช้ การดื่มน้ำ ทาลิปมันรักษาที่ต้นเหตุดีสุดนะจ๊ะ

มาต่อกันที่ดวงตาที่ใส่ขนตาปลอมมาด้วย รอบแรก โปะไว้ซักพัก 30 วินาที แล้วลอก

ขนตาปลอมออกจะหลุดง่ายมาก ตาไม่เป็นอันตราย จากนั้นโปะแล้วค่อยๆเช็ด

อย่างเบามือจนหมด อย่าลืมขอบตาด้านใน เอิ๊กไม่แสบตานะ วันนี้เว้นกันแดดรอบดวงตา

ไว้บริเวณกว้าง แต่ถ้าทากันแดดใกล้ๆตาวันไหนวันนั้นจะแสบเพราะกันแดดที่ใช้แสบตา

 ขอลุยเช็ดครึ่งหน้าให้เห็นความสะอาดที่แตกต่าง จะได้เห็นกันชัดๆ

 

ผิวจริงที่เช็ดจนสำลีขาวสะอาดด้านซ้าย ส่วนด้านขวาคือด้านที่ลงเครื่องสำอางชุดใหญ่

กันแดด รองพื้น แป้ง ดวงตา จัดเต็ม

อีกข้างนึงก็ทำเหมือนกัน เบาเบามือ ท่องไว้นะโยม

เผยใบหน้าที่สะพรึง พร้อมรอยสิวจุ๋มจิ๋มน่ารักของข้างเจ้า [ มองข้ามมันไปนะคะ ]

ทั้งหน้าเอิ๊กจัดเต็มแบบให้ใจ ไม่กลัวเปลืองสำลี หรือ BYPHASSE เลย เพราะเอิ๊กห่วงใบหน้า

มากกว่า กลัวไม่สะอาด กลัวเหี่ยวเลยชโลมชุ่มๆ

 

 

สรุป

ข้อดี สะอาด / ชุ่มชื่น / ผิวแห้งบอบบางแพ้ง่ายเป็นสิวเลเซอร์มาใช้ได้หมด / ไม่แพ้

ไม่เป็นสิว / ไม่อุดตัน / ไม่ตกค้าง / ไม่มีแอลกอฮอล์ / ไม่ใส่สี / ไม่มีพาราเบน /

แบรนด์เกิดมานาน น่าเชื่อถือมากกว่า 14 ปี / ทดสอบกับแพทย์ผิวหนัง แพทย์ดวงตา

/ ขวดใหญ่มาก / หาซื้อง่าย / ไม่ต้องล้างน้ำเปล่า แต่เราล้าง 555 / คุณภาพแกร่ง

 

ข้อด้อย ฝาเวลาเทแล้วพอหยิบวางถ้าไม่ปิดฝามันจะกระฉอกออกมา ฝายังไม่ผ่าน

/ ไม่มีขวดเล็กจะซื้อพกพาซะหน่อยแบ่งใส่อย่างอื่นเถอะ / ราคาที่เมืองไทยเอิ๊กให้ปานกลาง

ถ้าเทียบกับเมืองนอก แต่หิ้วมาอาจไม่คุ้มเพราะฝาถ้าไม่ระวังเกิดเปิดฝาออกแล้วลืมปิด

อาจจะโถมไหลออกมาหมด 

เราก็ชำแหละ เอ้ย พูดถึงมาพอสมควร ถึงจุดดี จุดด้อย วันนี้ก็มาเขียนให้อ่านกันตาลายเล่น

แต่เพียงเท่านี้ ขอฝากปิดท้าย ด้วยแฟชั่นหน้าสด หลังเช็ดเครื่องสำอางหมดจดไปแล้ว

รักนะ บายยยย

Posted in REVIEWComments (0)

REVIEW AVENE เซ็ทผิวขาวผิวบอบบางผิวแพ้ง่าย

วันนี้จะขอนำข้อมูลเรื่อง “ผิวแพ้ง่าย ผิวบอบบาง ผิวอ่อนแอ” มาแบ่งปันกันนะคะ

เอิ๊กเองเป็นบุคคลที่มีลักษณะแบบนี้ปนอยู่ ดังนั้นการเลือกใช้สกินแคร์จึงต้องละเอียด

ในการดูส่วนผสมที่อาจจะทำให้ผิวระคายเคืองได้ และ วันนี้จะเป็นข้อมูลผิวหนังทั้งหมด

จากแบรนด์ AVENE ในสาขาประเทศไทย ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่เอิ๊กได้รับมาในวันเปิดตัวในไทย

และ ซื้อใช้ซ้ำต่อเอง จะมารีวิวให้อ่านสำหรับตัวที่เอิ๊กใช้กันค่ะ

รูปนี้เป็นรูปสภาพผิวจริง ไม่มีการรีทัช หลังการใช้ต่อเดือน 1 เดือนเพื่อทำรีวิวปกติจะใช้สลับไป

สลับมาแต่อยากให้ได้อ่านข้อมูลจริงจัง ช่วงนั้นไม่ว่าจะไปทำงานที่ไหน ต่างประเทศก็จะหอบไป

เพื่อให้การรีวิวจากประสบการณ์ตรงของเอิ๊กได้ผลออกมาอย่างตรงไปตรงมามากที่สุด

 

ผิวบอบบางและไวต่อสิ่งกระตุ้นแบ่งได้ 3 ระดับ

เราสามารถดูจากช่องสิ่งที่ต้องการเพื่อนำไปเลือกใช้สกินแคร์ปกติที่เราใช้อยู่ได้นะคะ

สำหรับแบรนด์ AVENE จุดเด่นในส่วนผสมหลักของเขาคือน้ำแร่ ซึ่งมีคุณสมบัติรักษา

โรคผิวหนังหลากหลายประเภท มีงานวิจัยรองรับ และ มีศูนย์วารีบำบัดเพื่อเปิดรักษาคนที่

มีปัญหาทางด้านผิวหนังโดยเฉพาะ ต้นกำเนิดมาจากฝรั่งเศส ถูกค้นพบเมื่อ 250 กว่าปีมาแล้ว

เมื่อครั้งนึง ม้าตัวนึงที่มีปัญหาผิวหนังอย่างรุนแรง ได้ลงไปแช่ตัวในน้ำแร่ กลับพบว่าผิวหนัง

ของม้าดีขึ้นจนหาย หลังจากนั้นจึงถูกนำมารักษาในคน จนกระทั่งถึงขั้นค้นคว้า ทำวิจัย

ทำเป็นอุตสาหกรรมใหญ่ สร้างแบรนด์ ขายทั้งในและนอกประเทศจนมีชื่อเสียงมาจนทุกวันนี้

ดังที่สุด คือ น้ำแร่ ในฝรั่งเศสแบรนด์นี้คือเบอร์ 1 แต่เพราะไม่ชอบทำการตลาดผ่านสื่อ

จึงจะมีชื่อเสียงเฉพาะในวงการแพทย์ผิวหนัง และ คนไข้ที่มารักษา และ คนในประเทศ

ฝรั่งเศสส่วนใหญ่ อันนี้ก็เป็นเรื่องของการตลาดส่วนตัวของเขา ส่วนตัวเอิ๊กไปดูงานแบรนด์นี้มา

ที่ฝรั่งเศส ยิ่งใหญ่ อลังการ มีระบบ ระเบียบ มาตรฐาน ความปลอดภัย พนักงาน โรงงาน

เครื่องจักรมาตรฐาน ISO ตามแบบฉบับการยอมรับในระดับสากล

 

คุณสมบัติของน้ำแร่ 

❀ ช่วยให้ผิวรู้สึกผ่อนคลาย 

❀ ช่วยลดอาการระคายเคือง คัน

❀ ช่วยลดอาการอักเสบของผิว

❀ ผื่นแพ้ 

❀ หลังการโกนหนวด 

❀ ผื่นผ้าอ้อมเด็ก  

❀ หลังออกแดด 

❀ หลังท้าทรีทเมนต์ 

❀ หลังการออกกำลังกาย 

❀ ฉีดน้ำแร่ก่อนแต่งหน้าเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นบนใบหน้า และให้ครีมบำรุงผิวหน้าซึบซาบเข้าสู่ผิวได้ดียิ่งขึ้น 

❀ Fix Make up ให้ติดทนทน โดยฉีดพรมให้ทั่วพอประมาณหลังการทาแป้ง ทิ้งไว้สักพัก แล้วเอาทิชชู่ซับเบา ๆ เนื่องจากตัวน้ำแร่จะช่วยดูดซับความมันบนใบหน้าออกมา พร้อมท้าให้แป้งและรองพื้นติดทนนาน  

*** หากใช้อย่างต่อเนื่องจะพบว่าผิวจะเรียบเนียน นุ่ม ชุ่มชื่นขึ้น ริ้วรอยลดลง แลดูอ่อนเยาว์ 

 

ใช้ได้กับผิวที่มีลักษณะนี้ 

✿ สามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิว เพื่อการบ้ารุง เพิ่มความเนียนนุ่ม ชุ่มชื้นคืนสู่ผิว 

✿ ผิวที่มีอาการคันทุกชนิด 

✿ ผิวที่มีเป็นโรคผิวหนัง เช่น โรคผิวหนังอักเสบ Eczema, Atopic Dermatitis และผิวที่มีปัญหาสิว เป็นต้น 

✿ ใช้หลังการผ่าตัด หรือหลังการท้าเลเซอร์ผิว 

 

คุณสมบัติน้ำแร่ของเขานอกเหนือจากข้อดีข้างบน

ยังมีส่วนที่บอกว่าแตกต่างจากคนอื่นคือมีแร่ธาตุที่ตกค้างบนผิวน้อยมาก

ด้านล่างหยิบมาบางตัวอย่างที่เป็นงานวิจัยที่ AVENE ได้ตีผิวลงในวารสารแพทย์

ในการดูแลปลอบประโลมผิวที่มีปัญหาต่างๆ

AVENE มีทั้งหมดประมาณ 6 สูตรด้วยกัน

1. กลุ่มผลิตภัณฑ์ลดเลือนริ้วรอย


2. กลุ่มผลิตภัณฑ์ควบคุมความมัน และ ผิวเป็นสิวง่าย

3. กลุ่มผลิตภัณฑ์ผิวกระจ่างขาว และ ผิวที่มีรอยแผล

4. กลุ่มผลิตภัณฑ์สำหรับผิวแห้ง ผิวขาดความชุ่มชื้น

5. กลุ่มผลิตภัณฑ์สำหรับผิวบอบบาง แพ้ง่าย

 

6. กลุ่มผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดด

ส่วนตัวลองมาอย่างละนิด อย่างละหน่อยของสูตรนั้น สูตรนี้ ชอบหลายตัว เช่น มาส์กหน้า

ผิวบอบบาง ตัวทำความสะอาดใบหน้าสูตรน้ำ นอกนั้นจริงจังสุด คือ เซ็ทผลิตภัณฑ์สูตร

SENSITIVE WHITE ชื่อบอกอยู่แล้ว ว่าปรับสภาพผิวให้ขาวกระจ่างสำหรับผิวบอบบาง

 

 

พร้อมรึยังเริ่มรีวิวแล้วนะ !!!!!!!!!!!

เรียงซ้ายไปขวา

1. น้ำแร่ EAU THERMALE THERMAL SPRING WATER [ทุกสภาพผิว]

2. SENSITIVE WHITE LOTION [กลุ่ม SENSITIVE WHITE]

3. ELUAGE EYE CONTOUR CARE [กลุ่มสูตรลดร้ิวรอย]

4. SENSITIVE WHITE ESSENCE [กลุ่ม SENSITIVE WHITE]

5. SENSITIVE WHITE CREAM [กลุ่ม SENSITIVE WHITE]

 

**จริงๆจะมี 3 ตัวสำหรับผิวแห้ง LOTION/ESSENCE/CREAM ผิวมันจะเป็นเนื้อFLUID

ด้านหลังก็จะเป็นส่วนผสม คำเตือนภาษาฝรั่งเศส แต่ซื้อในไทยจะมีฉลากไทยแปะไว้

ที่กล่องทุกขวดมีกล่องหมด ยกเว้นน้ำแร่ จะซีลพลาสติกมาอย่างดี และ อาการออกแบบขวด

น้ำแร่ทำให้สิ่งสกปรกเข้าไปไม่ได้ ไม่มีวันหมดอายุ ดังนั้นใช้ได้ตลอดชีวิต ข้อเสียก็ไม่สามารถ

แบ่งใส่ขวดนั้นนี้ได้ ข้อดีใช้ได้ตลอดคุณภาพเหมือนเดิม

หลายคนที่เริ่มเสพย์ติดน้ำแร่บอกเลยว่าจะเริ่มชอบที่จะลงน้ำแร่ก่อนซักครู่ซับแล้วตามด้วย

สกินแคร์ขั้นตอนต่อไป เพราะนำพาครีมให้ซึมได้ดียิ่งขึ้น พร้อมด้วยเติมความชุ่มชื้นและแร่ธาตุ

ที่มีประโยชน์ ปลอบประโลมผิวอักเสบที่มีอาการอยู่ได้ดียิ่งขึ้น

วิธีใช้ ฉีดพ่นให้ห่างจากผิว 10-15 เซนติเมตร ทิ้งไว้ซักครู่แล้วซับให้แห้ง

ตามด้วย EYE CREAM หรือ LOTION ก็ได้ เอิ๊กเลือก LOTION เนื้อเบาสุดลงก่อน

ตัวนี้เป็นน้ำใสมีความข้นเล็กๆที่เราจะรู้สึกได้ เน้นเหยาะไม่กี่หยด แล้วใช้ฝ่ามือตบเบามือ

ให้ทั่วใบหน้า ไม่มีกลิ่น ไม่มีสี ไม่มีแอลกอฮอล์ ดังนั้นถ้าใครชอบอะไรที่มีกลิ่นอาจจะไม่เหมาะ

ทำมาเพื่อผิวแพ้ง่าย

SENSITIVE WHITE LOTION เอิ๊กหยด 4-5 หยด หน้าใหญ่นิดนึง

แล้วตบเบามากๆให้ทั่วใบหน้า ทิ้งไว้ซักครู่ค่อยตามตัวต่อไป

EYE CREAM ตัวนี้ เป็นตัวที่อยู่ในสูตรลดริ้วรอยอย่างเดียว เนื้อครีมสีเหลืองอ่อน

บีบนิดเดียว เนื้อเบาค่ะ ไม่เหนียวไป

ELUAGE EYE CONTOUR CARE วิธีใช้ บีบที่นิ้วนางหรือนิ้วก้อยเม็ดเล็กๆ

แล้วค่อยกดซับเบาๆจากหัวตาไปหางตา จนครีม กลืนและซึมไป

ตามด้วยเนื้อ ESSENCE หรือ SERUM ตัวนี้เข้มข้นขึ้นมาหน่อย สีเหลืองอ่อนแต่เนื้อ

ไม่หนักเลย ทั้งสูตรให้ความชุ่มชื้นแบบรู้สึกได้ทุกตัว

SENSITIVE WHITE ESSENCE วิธีใช้ บีบออกมาพอให้ใช้ได้ทั่วใบหน้าแต้ม 5 จุด

แล้วค่อยๆกดเบาๆให้ทั่วใบหน้า หรือ ใครจะเกลี่ยก็ได้ค่ะ

ตัวสุดท้ายเนื้อเข้มข้นสุด เป็น CREAM แต่ก็ยังเบาสบายผิวอยู่

เป็นเนื้อครีมที่เราจะมาละเลงเป็นตัวฟินาเล่

SENSITIVE WHITE CREAM วิธีใช้ เหมือน ESSENCE เด๊ะเลย วิธีเดียวกันไป COPY ได้

 

 

เอิ๊กได้ทั้ง 5 ตัวนี้มาในราคา 3000++ บาท นี่คือ ราคา SALE

ตอนงาน THAILAND BEST BEAUTY กระเป๋าตังค์ยิ้มเลย สบายกระเป๋า ราคาจะอยู่ที่

หลักร้อยปลายๆ ถึงหลักพันต้นๆ ต่อ 1 ชิ้น การใช้ตัวนึงก็ใช้ได้นาน เพราะเราไม่ได้บีบเยอะ

ยิ่งโลชั่น ใช้จนลืมว่าซื้อมานานแล้ว

 

ข้อดี

ในทุกตัวผสมส่วนผสมจากน้ำแร่ ดังนั้นช่วยเรื่องปัญหาผิวทุกตัว

ราคารับได้กับคุณภาพ และ ปริมาณ

แพคเกจเฉพาะน้ำแร่ออกแบบมาดี รักษาคุณค่าของน้ำแร่ไว้ได้ตลอดไป

เนื้อเบาไม่เหนียวมาก

ใช้ได้ทุกสภาพผิว โดยเฉพาะผิวแพ้ง่าย ผิวเป็นสิว หรือ ผิวพึ่งเลเซอร์มา

ให้ความชุ่มชื่นดีมาก ในแง่บำรุง ให้ความสมดุลผิว ดีให้คะแนนเต็ม

 

ข้อเสีย

อาจต้องใช้นานมั๊ง ใช้สูตรไวทเทนนิ่ง ส่วนตัวไม่ได้รู้สึกว่าผิวขาวขึ้น ฝ้าหาย กระจาง

หาซื้อตามร้านยา และ โรงพยาบาลเป็นส่วนใหญ่

แพคเกจอื่นที่ไม่ใช่น้ำแร่ ตัวอักษรเลือนหาย ตกบางอย่างมีฝาแตกได้ พลาสติก


ใช้มาเดือนนึงผิวเราก็เป็นเยี่ยงนี้แลลลลลลล ชอบที่ให้ความชุ่มชื่น และ เนื้อไม่หนักมาก

คล้ายครีมฝั่งเอเชีย เทือกเกาหลี คือ ไม่อุดตัน ให้คุณภาพการบำรุง โดยหน้าไม่หนักครีม

” อีก 1 แบรนด์ที่ RECOMMENED 2014 สำหรับผิวแพ้ง่าย

เป็นไอเท็มที่ซื้อซ้ำในการบำรุงจริงๆ และ ดูแลผิวช่วงผิวอ่อนแอ อักเสบจริงๆ “

Posted in REVIEW, SKIN CAREComments (0)

REVIEW ยาแต้มสิว TOMEI ที่ดีมากกกกก[โคตร]รักที่สุดตอนนี้

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

วันนี้ขอ REVIEW ยาแต้มสิวตัวนี้ก่อนได้ไหม แบบที่ยังไม่ได้เปิดอ่านข้อมูลอะไรเลย

ได้มาอ่านฉลากลองเลยทันที !!! เพราะมีสิวอักเสบ 1 เม็ด

 

 

 

คือ แบรนด์ TOMEI [โทเมอิ] ติดต่อให้ REVIEW ผลิตภัณฑ์แต้มสิว

คือทุกคนรู้อยู่แล้วว่าปกติเอิ๊กใช้มาดามเฮงส่วนผสมหลักคือน้ำมันออสซี่

ซื้อใช้จนหมดไปหลายโหล ไม่เคยเปลี่ยนใจเลยเกือบ 7 ปีได้ จำได้ว่าตอนนั้นก็ได้มาลอง

ลองปุ๊บ สำหรับตัวเองยังไม่มีตัวไหนดีเท่า และ ตอนนี้ที่ลองก็ไม่ได้คิดอะไร

เผอิญสิวมีอยู่พอดี แต่คือผลมันดีมากกกกกกกกก ระหว่างทดสอบเกือบ 1 เดือน

คือ ต้องแชร์เลยว่าเป็น ไอเท็มรักษาสิวที่เราชอบสุด ขณะนี้ และ บอกเลยว่า

ยังไม่ได้อ่านสรรพคุณ พอโพสในทวิตเตอร์คนแชร์วันที่ 13 ตุลาคม ประมาณ 1,100 กว่าครั้ง

ดียังไง ขอREVIIEWดิบก่อนเลยแบบใช้จริงไม่อิงข้อมูลไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร

ผลลัพธ์ที่ได้

  • สิวหนองที่มีทำให้หนองแห้งแข็งสะกิดหัวสิวหลุดแบบง่ายมาก
  • สิวอุดตันทาไปไม่กี่วันที่ข้างแก้มหลังจากนั้นพอลูบแล้วหัวสิวก็หลุดไปเลย
  • สิวเม็ดเล็กแดงๆที่เราระคายเคืองทายาข้ามคืนสิวหัวแดงเรียบเกลี้ยงสีผิวกลับปกติ
  • สิวอักเสบบางเม็ดทิ้งไว้ไม่กี่ชั่วโมงคือมันอาการดีขึ้นเดี๋ยวมีรูปให้ดู
  • ด้วยความที่ไม่แกะสิวปล่อยให้ยาจัดการรอยแดงเหลือเล็กนิดเดียวใหญ่กว่าเข็มนิดหน่อย
  • ไม่แสบ ไม่แห้ง ไม่คัน ไม่ไหม้ ไม่ได้กลิ่นอะไรเลย 
  • ยาเกาะผิวดีมาก
  • เห็นผลไวมากกกกกกกก คือ ทุกสิว ที่ยังไม่ลองคือสิวผด สิวหิน สิวไตเพราะไม่มีบนหน้า
  • คือดีอะ สำหรับเอิ๊กคนเดียวคือดีมากกกบอกเลยทิ้งมาดามเฮงเลย ไม่ใช้อีกต่อไป 555

หลอดจริงที่ใช้เก็บผลเกือบ 1 เดือน ขอโทษที่บีบเยอะ เดี๋ยวจะบอกว่าทำไม 55555

เอาตัวอย่างสิวแดงๆที่เกิดจากการแพ้เครื่องสำอางอะไรซักอย่างคืออาชีพเราต้อง

เตรียมพร้อมเสมอของใหม่ล่อใจให้เล่นเยอะ แล้วบางทีแพ้สิวหัวแดงๆระคายเคืองมีหนอง

ก็ถล่มแบบเหมือนเอ็งไม่เคยรักกันเลย  5555555

 

ในรูปบนสุดเป็นเช้าอีกวันที่เกิดเหตุตกใจหมดเลย รูปกลางตกกลางคืนล้างหน้าแต้มสิว

[ ที่เห็นคือแต้มเยอะไป แต้มบางๆพอ ส่วนตัวแต้มเยอะมีเหตุผลเพราะนอนดิ้น

ชอบเอาหน้าถูหมอน แล้วไถไปไถมา คือ กลัวยามันหลุดติด เลยทาเยอะ

ถ้าโดนมันก็ไปแค่บนๆก่อน อันนี้ไม่ต้องเลี้ยนแบบ] คือ ทา 1 คืน รูปล่างตื่นเช้ามาหน้าใสแล้ว

อันนี้สำหรับสิวระคายเคืองที่มีหนองเล็กๆ เม็ดแดงเล็กๆนะคะ

คือ โชว์หลักฐานวันเวลาให้ดูเลยว่าใช้คืนเดียว คือ ตอนแรกตกใจมีสารอะไรแปลกๆรีเปล่า

ทำไมหายไว แต่ไม่ใช่สเตรียรอยด์เพราะทดสอบมาหลายหัวสิวแล้วเลิกใช้ไม่ได้สิวขึ้น

 

สรุปเวลาผ่านมาหลายวันก็ยังไม่ได้อ่านสรรพคุณ ยังคงลองต่อจนเมื่อวานสิวอักเสบ

เหมือนหัวจะหนองจะขึ้นให้ดูเวลาก่อน ไม่ได้ครอบมาทั้งหน้า เพราะปากแตกอาย

7 ชั่วโมงผ่านไป

ซูมหน่อย คือ ดีอะ หลงรักกกกกกกหัวปักหัวปำ คือ ของเก่าไม่แลแล้ว ณ จุดนี้

อันนี้แค่ลองเล่นไม่คิดว่าอาการอักเสบมันดีขึ้นเห็นหนองไหม ดูฟีบลง ดูรอยแดงผิวรอบๆ

งดงามจางขึ้น คือ ชอบมากกกกกกก และแล้ววันนี้วันที่เขียน REVIEW

เหตุผลที่เคยสงสัยเลยต้องมานั่งอ่าน ใส่อะไรลงไป มีอะไรดี มานั่งเพ่งหน้าตาครั้งแรก

และ เพิ่งเห็น 7 in 1 ฮ่าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาๆๆๆ ช่วยอะไรบ้างละนี่

 

ปล. 2 วันสิวเม็ดนี้หายแล้ว

บางเม็ดที่ไม่มีรอยแดงเพราะไม่ได้บีบแต่ถ้าบีบอย่างสิวหนอง หรือ เม็ดนี้ก็แอบจิกเล็กๆ

จะทิ้งรอยแดงไว้ตามกำลังมือ เอานี้เข้าข่ายตามหลักหน้าพังเพราะมือเรา

ทางที่ดีอย่าบีบ ถ้าไม่บีบบางเม็ดแดงๆอักเสบมันก็อาการดีขึ้นแทบไม่ทิ้งรอย

ส่วนเจ้าสิวหนองแต้มไปพอหนองแห้ง ก้อนต่อมไขมันที่อุดตันจะแห้ง

จนสามารถสะกิดหลุดไปได้ – -” อย่าบีบบบบบบบ โอเค๊ !!

 

ขอจบREVIEWดิบแต่เพียงเท่านี้ เข้าสู่โลกแห่งความจริง

มาส่องไปพร้อมๆกัน กับ แบรนด์ TOMEI แต้มสิว สโลแกนเด็ดมาก

” เหมือนมีหมออยู่กับตัว  ไม่ต้องกลัวเป็นสิว .. “

ตอนแรก คือ นึกว่ามาในรูปแบบหลอดเดียว ต้องขออภัยที่อาจตอบผลลัพธ์แยกร่างของ

ตัวนี้ไม่ได้เพราะทุกครั้งใช้คู่กันตามคำแนะนำฉลาก จะมาในรูปแบบเนื้อเจล กับ เนื้อครีม

TOMEI CLINDA GEL ขนาด 5 กรัมของรูปแบบเจล จัดเป็นเวชภัณฑ์ และ ยา

TOMEI ANTI-ACNE CREAM ขนาด 5 กรัมในรูปแบบครีม จัดเป็นเวชสำอาง

ราคา TOMEI CLINDA GEL 90 บาท

ราคา TOMEI ANTI-ACNE CREAM 235 บาท

 

 

ข้อมูลข้างล่างนี้โดยละเอียดจะเป็นจากทางแบรนด์ TOMEI นะคะ

สำหรับ 2 ตัวนี้มันต่างกันยังไงคำถาม ?

เครดิตรูปภาพจากแบรนด์ TOMEI

จากการที่เขาพัฒนาผลิตภัณฑ์นี้ขึ้นมาเพราะเขาพบว่าปัญหาที่พบเจอกับยาแต้มสิวส่วนใหญ่

• แต้มแล้วสิวไม่ยุบ ไม่ค่อยเห็นผลการรักษาท่ีชัดเจน

• รู้สึกแสบผิวในบริเวณที่แต้ม เหมือนผิวหนัง ถูกกัด หรือทำร้าย

• ผิวหนังบริเวณที่แต้มครีม มีอาการแห้ง ลอก หรือไหม้

• ทิ้งร่องรอยแผลเป็นไว้หลัง จากสิวยุบ ทั้งรอยดำ และรอยแดง

• เน้ือครีมหนาเหนียวซึมยากแต้มครีมแล้วเห็นเป็นคราบบนผิวหนัง

 

 

 

TOMEI CLINDA GEL โทเมอิ คลินได เจล 

ยาและเวชภัณฑ์(Pharmaceutical Products)

เป็นยาปฏิชีวนะใช้ทาภายนอก ตัวยาคลินด้Œามัยซิน 1% (Clindamycin 1%)

ในรูปแบบเจล ใช้สําหรับรักษาสิวอักเสบ

หลอดสีฟ้าเทอควอย – ขาว ขนาดเล็ก น้ำหนักเบา

 

ข้อบ่งใช้

 ออกฤทธิ์ในการกําจัดเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของสิวอักเสบ

 เหมาะกับสิวอักเสบที่มีการติดเชื้อร่วมด้วย

 

วิธีใช้

 ใช้ทาบางๆบริเวณที่เป็นสิวอักเสบวันละ2ครั้งหลังทําความสะอาดผิวหน้า

หมุนกล่องจะมีเรื่องของ ส่วนประกอบ วิธีใช้ คำเตือน การเก็บรักษา ข้อควรระวัง

วันเดือนปีผลิต-หมดอายุทั้งไทย และ อังกฤษ ผู้ผลิต ผู้แทนจำหน่าย ชัดเจน

 

 

 

TOMEI ANTI-ACNE CREAM ( 7 in 1 Anti-Acne Cream)

เวชสําอาง (Cosmeceutical Products)

โทเมอิ แอนตี้-แอคเน่ ครีม เป็นครีมแต้มสิวที่มีคุณสมบัติในการรักษาสิว

และ บํารุงดูแลผิวพรรณ 7 ประการ ในหลอดเดียว

หลอดจะสีฟ้า-เขียวเหลืองไล่สี หัวหลอดเป็นทรงยาวออกไป

เวลาบีบครีมก็จะไหลออกมาพอดี

 

คุณสมบัติ 7 ประการของ โทเมอิ แอนตี้-แอคเน่ ครีม

  1. ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียP.acnesที่เป็นสาเหตุหลักของการอักเสบของสิว
  2. ลดอาการอักเสบบวมแดงในบริเวณที่เป็นสิว
  3. ลดการอุดตันของรูขุมขนซึ่งเป็นต้นเหตุของการเกิดสิวแทบทุกชนิดโดยการผลัดเซลล์ผิวอย่างเป็นธรรมชาติ
  4. ลดความมันโดยลดการสร้างน้ํามันส่วนเกินภายในรูขุมขนและบนผิวหนัง
  5. ลดการเกิดรอยแผลเป็นทั้งรอยดํา และ รอยแดงที่เกิดจากสิวทําให้ผิวกระจ่างใส
  6. บํารุงผิวให้ชุ่มชื้นเพื่อลดการเกิดการแห้งลอกของผิวหนังบริเวณที่เป็นสิวอักเสบ
  7. สมานผิวและกระชับรูขุมขนเพื่อให้ผิวเรียบเนียน

ส่วนประกอบหลัก

✿ Phytosphingosine เป็นสารที่สร้างเลียนแบบสารสําคัญที่มีอยู่ในชั้นผิวหนังของมนุษย์ สารดังกล่าวนี้ร่างกายจะสร้างขึ้นและอาจมีจํานวนมากน้อยต่างกันไป ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น อายุ เพศ กรรมพันธุ์ สภาพแวดล้อม และอื่นๆ โดยสารชนิดนี้จะทําหน้าที่ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย P. acnes ลดการอักเสบของผิวหนังอย่างมีประสิทธิภาพ

✿ Meadowsweet Extract สารสกัดจากดอก Meadowsweet ที่มีมากในประเทศสหรัฐอเมริกา และแถบประเทศในยุโรบซึ่งช่วยในเรื่องต่างๆ คือ ควบคุมการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย P. acnes / ควบคุมการสร้างน้ํามันภายในรูขุมขน / ลดการอักเสบของผิวหนังอย่างมีประสิทธิภาพ

✿ Nopal Extract สารสกัดบริสุทธิ์จากดอกของต้นกระบองเพชร ช่วยกระตุ้นกระบวนการผลัดเซลล์ผิวอย่างเป็นธรรมชาติ เพื่อลดการอุดตันของรูขุมขน และ ทําให้ผิวกระจ่างใส

✿ Sulforawhite สารสกัดจากต้น Garden Cress ที่มีต้นกําเนิดในประเทศทางแถบยุโรบ เป็นพืชที่ให้สาร antioxidant ในปริมาณที่สูงมากชนิดหนึ่ง สามารถลดรอยจุดด่างดําอย่างมีประสิทธิภาพทําให้ผิวกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ

✿ Acnaidol สารสําคัญที่สังเคราะห์ขึ้นจาก Castor Oil ที่ช่วยในเรื่องต่างๆ ดังนี้ ! ลดการผลิตน้ํามันส่วนเกินจากต่อมไขมันใต้ชั้นผิวหนัง ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย P. acnes 

✿ Niacinamide วิตามิน B3 ที่ช่วยในเรื่องต่างๆ ดังนี้ บํารุงและเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหนัง ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย P. acnes


วิธีใช้

 ใช้โทเมอิ แอนตี้-แอคเน่ ครีม แต้มบริเวณที่เป็นสิวอักเสบอย่างน้อยวันละ2ครั้ง(เช้า และ ก่อนนอน) ภายหลังจากล้างทําความสะอาดหน้าให้สะอาด เช็ดให้แห้ง และทาครีมบํารุงต่างๆ แล้ว

 สามารถแต้มโทเมอิ แอนตี้-แอคเน่ ครีมในบริเวณที่เป็นสิวอักเสบ ได้บ่อยเท่าที่ต้องการในระหว่างวัน เพื่อให้ได้ผลการรักษาที่รวดเร็ว โดยไม่ทําร้ายผิว

 

** ข้อแนะนําพิเศษในการใช้ **

เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ในการใช้อย่างมีประสิทธิภาพ ควรเริ่มใช้ โทเมอิ แอนตี้-แอคเน่ ครีม ตั้งแต่เริ่มมีอาการเจ็บหรือแดงบริเวณผิวหนัง ซึ่งเป็นสัญญาณเริ่มต้นของการเกิดสิวอักเสบ

หมุนกล่องจะมีเรื่องของ ส่วนประกอบ วิธีใช้ คำเตือน การเก็บรักษา ข้อควรระวัง

วันเดือนปีผลิต-หมดอายุทั้งไทย และ อังกฤษ ผู้ผลิต ผู้แทนจำหน่าย ชัดเจน

 

 

จุดเด่นโดยรวมที่ทางแบรนด์บอกไว้คือ นอกจากรักษาสิวแล้ว ก็ช่วยบํารุงผิวพรรณโดยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว เวลาสิวหายจึงไม่ทิ้งรอยแดงรอยดำ และ ผิวไม่ลอก บริเวณที่สิวหายจึงดูมีสุขภาพดีเป็นปกติ เนื้อซึมไวบางเบา ไม่เหนียวเหนอะหนะไม่ทิ้งคราบทำให้แต่งหน้าได้เนียน

 

เอาหลอดของจริงที่ใช้อยู่มาทาให้ดู

เนื้อของ TOMEI CLINDA GEL กับ TOMEI ANTI-ACNE CREAM ทั้งหลอด

ทั้งเนื้อ ทั้งขนาด ต่างกันชัดเจนมาก

เจอสิวอุดตันซึ่งมันกลายเป็นสิวอักเสบ และ สิวหนองที่เคยบอกไปตอนต้นแล้วไป

บีบหนองออก สุดท้ายบีบออกไม่หมด เลยกลั้นใจทาทิ้งไว้ทุกวันๆ มันแห้ง คราวนี้เขี่ย

ก้อนไขมันอุดตันที่แห้งและแข็งออกมาได้ง่ายได้ หายเลย รู้งี้ไม่บีบดีกว่า จะได้ไม่แดง

วิธีแต้ม ลงเจลบางๆ ตามด้วยครีมบางๆ ไม่ต้องทำแบบเอิ๊ก เพราะเอิ๊กมีเหตุผลส่วนตัว

เหมือนที่รีวิวไปด้านบน 5555555

ทาหมดบริเวณที่เป็นสิว ทั้งสิวอุดตัน สิวเสี้ยน สิวหนอง

โดยเริ่มจากเจล และ ตามด้วยครีม คือ จะรอจนกว่าเจลจะแห้ง และ ตามด้วยครีม

ข้อสำคัญอีกอย่างที่หลายคนอาจไม่รู้เวลาเป็นสิวโปรดหลีกเลี่ยงการทาครีมบริเวณนั้น

เมื่อเป็นสิวให้แต้มยา และเวลาทาครีมบำรุงทาได้แต่เว้นบริเวณสิวไว้นะคะ และ อย่าลืม

ทากันแดดเป็นประจำ ทาแล้วก็ไปนอนซะ เอิ๊กแต้มประมาณ 2-4 ครั้งต่อวัน

แล้วแต่โอกาสวันไหนอยู่บ้าน นึกได้ก็แต้ม

ลองแต่งหน้าทับเลย เนียนจริง 55555555555555555555 โนรีทัช

ถ้ามีโอกาสได้ลองกับสิวหัวปิด สิวผด สิวหิน เดี๋ยวจะมารายงานเพิ่มเติม

 

สรุปผลส่วนตัวอีกที

ข้อดี

ราคาไม่แพง และ คุณภาพดีมาก

ผิวไม่แห้งลอกไหม้

สิวเอาอยู่หลายชนิดมาก ทั้งอักเสบ หนอง อุดตัน สิวแดงๆระคายเคือง

ไม่มีกลิ่นกวนใจ

แต่งหน้าทับได้ไม่เป็นคราบ

ถ้าไม่บีบสิวแทบไม่ทิ้งรอยอักเสบ

เห็นผลไวกับสิวบางชนิด บางทีก็ตกใจนะ

ยาเกาะผิวดี เนื้อเบาไม่อุดตัน

บรรจุภัณฑ์น้ำหนักเบาพกง่าย ไม่หกเลอะเทอะ

คิดออกแล้วจะมาบอกเพิ่ม 😛

 

ข้อเสีย

ต้องแต้ม 2 หลอดเพราะคุณสมบัติมันช่วยเหลือเกื้อกูลกัน

บรรจุภัณฑ์เวลาใช้ก็เอาคัตตัลบัตสะอาดแต้มเพราะถ้าโดนนิ้วที่สกปรกเชื้อโรคก็คาอยู่

หาซื้อจะมีตามร้านขายยาบางร้านยังไม่มีใน WATSONS & BOOTS

 

CLICK สถานที่จัดจำหน่าย

ไอเท็มนี้บอกได้คำเดียวว่า RECOMMENDED แห่งปี 2014

ไม่ต้องซื้อตาม เดี๋ยวหาซื้อไม่ได้ ขอบคุณมาก 55555555 รักนะ

Posted in REVIEWComments (2)

PREVIEW มาตรฐานใหม่ของครีมกันแดด แค่SPFและPA คงไม่พออีกต่อไป ต้องปกป้อง LONG UVA ที่ทำร้ายลึกถึงระดับ DNA

 
 
 
 
 
 
 
 
วันนี้มีโอกาสได้ทำบทความเกี่ยวกับเรื่องกันแดดให้กับ LOREAL PARIS
ในการเป็นตัวแทนสาวไทย ย้ำเตือนถึงผลกระทบที่เกิดจากรังสี UV หรือ แสงแดดของบ้านเรา
เรียกว่าถ้าทุกครั้งที่เอิ๊กได้รับเชิญออกเป็นวิทยากรแนะนำเรื่องสุขภาพผิว สิ่งเดียวสำคัญที่เอิ๊ก
จะฝากไว้ให้กับทุกคนในงาน เรียกได้ว่าเป็น “การลงทุนให้กับสุขภาพผิวของเราในระยะยาว”
ได้เป็นอย่างดีนั่นก็คือเรื่อง “การใช้กันแดดอย่างเป็นประจำต่อเนื่องทุกวัน”
 

เพราะแสงแดดเป็นศัตรูตัวร้ายอันดับหนึ่งของสุขภาพผิว

เป็นต้นเหตุให้เกิดริ้วรอยก่อนวัย ผิวหย่อนคล้อย ขาดความกระชับ รวมถึงจุดด่างดำ ฝ้ากระ

 
มาตรฐานกันแดดที่ผ่านมาให้สังเกตุสัญลักษณ์การป้องกันที่คุ้นเคย
SPF = สัญลักษณ์ป้องกันรังสี UVB
PA = สัญลักษณ์ป้องกันรังสี UVA
ยิ่งมีเครื่องหมายบวก + ต่อท้ายจำนวนมากเท่าไหร่การป้องกันยิ่งสูง
 

 

แต่มาตรฐานใหม่ในการเลือกกันแดดยุคใหม่นี้ที่เปลี่ยนไป

คือ การให้ความสําคัญกับสารกันแดดที่เราเลือกใช้นั้น

ต้องสามารถป้องกันรังสี UVA ชนิด LONG UVA ได้ดี “

UVB = 5% Shot UVA = 20%  Long UVA = 75%
แม้รังสี UV ที่ฉายลงมามีผลกระทบกับสุขภาพผิวหนังของเรา
ถ้าคิดเป็น 100% ในด้านของแสงUV จะมี UVB เพียง 5% นอกนั้น SHORT UVA 20%
และ LONG UVA 75% เป็นความรู้เพิ่มเติมที่หลายคนอาจไม่เคยทราบมาก่อน
 
 
SHORT UVA
  • ซึมลึกลงสู่ผิวหนังส่งผลกระทบระยะยาว ริ้วรอยก่อนวัย พัฒนาไปสู่มะเร็งผิวหนัง
LONG UVA
  • ซึมลงสู่ผิวหนังได้ลึกมากที่สุดในบรรดา UV ทั้งหมด ก่อให้เกิดความเสียหายอย่างรุนแรงทั้งในแง่ของสีผิวที่ดำคล้ำเสียสะสมฝังตัวอยู่ภายในรอวันที่จะโผล่ขึ้นมา อย่างกระ ฝ้าลึก ผิวหนังที่กร้าน ยังรวมไปถึงการทำลายโครงสร้างของผิวหนังภายในระดับ DNA ทำลายคอลลาเจน ทำให้เกิดริ้วรอย ผิวหนังที่หย่อนคล้อย และ ส่งผลให้เรามีผิวชราที่เกิดจากแสงแดด

จากการค้นคว้าและวิจัยจาก ลอรีอัล ปารีส โดยผู้เชี่ยวชาญด้านผิวพรรณพบว่า

ผิวสามารถดูแก่ขึ้น 6 ปี ใน 6 เดือน เพราะรังสี LONG UVA และ UVA/B 

 

 
UVA ที่โดนผิวเราไม่มีทางหายไปมันจะซึมลึก
และผิวเราจดจำไว้อย่างดีเมื่อถึงเวลานึงผลกระทบจะโผล่ออกมา
 
 

ดังนั้นมาตรฐานใหม่ในการเลือกกันแดดยุคใหม่นี้ที่เปลี่ยนไป

คือ การให้ความสำคัญกับสารกันแดดที่เราเลือกใช้นั้น

ต้องสามารถป้องกันรังสี UVA ชนิด LONG UVA ได้ดี

 
 
การใช้กันแดด เราต้องทำเป็นประจำให้เป็นนิสัย เร่ิมต้นตั้งแต่วัยเด็ก
จะดีมาก เพราะเอิ๊กเคยมีปัญหาเป็นฝ้าในวัยอายุ 25 ปี จากการที่มีเม็ดสีผิวปกติง่ายในเรื่อง
ของกรรมพันธุ์ และ มี BROWN SPOT เยอะมากจากการตรวจสภาพผิว * ตามสถาบันดูแล
ความงาม ตอนนี้ยังไม่ได้ตรวจซ้ำ เป็นคนที่กระเต็มโหนกแก้มมาก่อน กระตื้นยังพอแก้ได้พอ
เป็นฝ้าแล้วไม่ต้องการให้คนอื่นต้องมาเป็นเหมือนกัน เลยมักจำย้ำเรื่องนี้บ่อยมาก
 
 
ตอนรักษาไปแล้วซักระยะ เห็นแก้มเป็นเงาดำดำไหมคะ ? ตอนแรกดวงใหญ่มากทั้งโหนกแก้ม
ฝ้าลึกรักษายากมาก และ มีโอกาสกลับมาได้ตลอดเวลา เพราะแบบนี้เอิ๊กถึงกลัวแดดมาก
ไม่ใช่แค่เพราะกลัวแก่ แต่หน้าด่าง สีผิวไม่สม่ำเสมอ เป็นฝ้า สิวอักเสบ สิวทิ้งรอยดำฝัง
เหตุผลอีกหลายประการ ฯลฯ  😥
 
 
 
จาก CHART จะเห็นว่า UVA ซึมลึกลงไปกว่ามาก ดังนั้นสมการที่คุณหมอผิวหนังรู้จักกันดี คือ
UVA = AGING ผิวมีอายุแก่ก่อนวัย
UVB = BURNING ผิวไหม้ ดำ คล้ำ เสีย
 
เอิ๊กทำชาร์ตสรุปมาให้เข้าใจโดยง่ายเป็นภาษาไทยนะคะ SAVE เก็บไว้ดูเพื่อให้เข้าใจได้ค่ะ
 
 
 
 
 
 
 
เอาละสรุปไปแล้วสั้นๆง่ายๆทำไม ” เราจึงต้องใช้กันแดดทุกวันเป็นประจำตลอดไป “

และต้องเลือกกันแดดทั้งทีไม่ใช่แค่ SPF หรือ PA แต่ต้องปกป้อง LONG UVA

ที่ทําร้ายลึกถึงระดับ DNA ด้วย

เนื่องจากวันนี้มาเขียนบทความให้
LOREAL PARIS และได้กันแดดมาจากทางแบรนด์
จึงมา PREVIEW ให้ดูกัน
 
 

 

 สูตรนี้จุดเด่นคำโปรยมีอยู่ว่า
LOREAL PARIS UV PERFECT AQUA ESSENCE SPF 30/ PA +++
ปกป้อง LONG UVA ลึกถึงระดับ DNA เป็นหนึ่งในครีมกันแดดมาตรฐานใหม่
ที่สามารถป้องกันได้ครบทั้งรังสี UVA UVB แล้วยังสามารถป้องกันรังสี LONG UVA
ที่เป็นตัวการทำให้เกิดริ้วรอยที่ยากจะแก้ไขได้ดียิ่งขึ้น
รักษาไฟโบบลาสต์ใต้ผิว (ไฟโบบลาสต์ทำให้ผิวยังกระชับและเต่งตึง)
 
เนื้อผลิตภัณฑ์จะค่อนข้างชุ่มชื่นซึ่งมีน้ำค่อนข้างเยอะ
เป็นเนื้อ ESSENCE แบบน้ำ
 
 
ด้านหลังกล่อง จะพูดถึงจุดเด่นของสารกรองรังสี Mexoryl™ SX/XL
เป็นลิขสิทธิ์ของ LOREAL โดยบอกไว้ว่าป้องกันแดดได้ยาวนาน 12 ชั่วโมง
จุดเด่นอีกอย่างคือ มีสารแอนตี้ออกซิเดนท์ เสริมการปกป้องผิวจาก UVA
ทั้ง SHORT UVA และ LONG UVA ป้องกันผิวจากมลภาวะ
รวมถึง มีสาร ADENOSINE ลดเลือนริ้วรอย และ บำรุงผิว
 
 
ด้านข้างระบุส่วนผสมชัดเจน จะนำด้วยน้ำเป็นหลัก จะมีแอลกอฮอล์ และ น้ำหอมด้วย
 
 
สูตรนี้พัฒนามาเฉพาะผิวของคนเอเชีย
 

 ขนาด 30 มิลลิกรัม ราคาถ้าจำไม่ผิด คือ 339 บาท

 

เนื้อสัมผัส สีขาวขุ่นชุ่ม หลังทาที่มือ จะดูผ่อง และ ฉ่ำน้ำ 
 
 
วิธีการทำกันแดด
LOREAL PARIS UV PERFECT AQUA ESSENCE SPF 30 UVB UVA PA +++


โพสรูปผิวให้ดูแบบไม่ได้ RETOUCH จะให้ดูว่าฝ้าจางไปจนแทบมองไม่เห็นแล้ว
แต่ยังมีจุดด่างดำจากสิวอยู่บ้าง และ กระเล็กน้อยค่ะ 🙂 
 
เขย่าค่ะ ซัก 3-5 ครั้งให้ส่วนผสมมันกลมกลืนกัน 
 
 
 

ในการทาครีมกันแดดอย่างถูกวิธีหลายๆคนยังทาครีมกันแดดในปริมาณที่น้อยเกินไป

อาจทำให้ปกป้องผิวของเราไม่เต็มที่อย่างน้อยต้องใช้ทั้งหมด 2 ข้อนิ้วชี้

หรือประมาณ 1ช้อนชาค่ะ และ เราอาจจะแบ่งทาโดยเริ่มทา 1 ข้อนิ้วชี้รอบแรกก่อน

 
 
 
เกลี่ยบนปลายนิ้วมือ จะได้ไม่ถูกซึมหายไปในมือหมด
 
 
 
แต้มตามจุดต่างๆบนใบหน้า และ ใช้มือกดเบาๆให้ครีมกันแดดแนบลงบนผิว เกลี่ยอย่างเบามือ 
 
 
 
รอบแรกผ่านไป 
 
 
 
รอบ 2 จะบีบอีก 1 ข้อนิ้วชี้สุดท้าย
 
 
 
รอบ 2 อาจจะเน้นไปยังบริเวณที่เรามีปัญหาก่อน เช่น กระ ฝ้า รอยดำ
หรือบริเวณที่เราเป็นแผล หรือ ทำเลเซอร์มา เพราะมันจะไวแสง 
และ ลงให้ทั่วใบหน้า โดยใช้มือกดเบาๆให้ครีมกันแดดแนบลงบนผิว
เกลี่ยอย่างเบามืออีกครั้ง
 
 
 
ครีมกันแดดก็จะซึมลงไป ทิ้งไว้ 5-10 นาที และ เราก็สามารถแต่งหน้าได้เลย
 
 
 
สิ่งที่เราหลายคนลืมจะดูแลผิวหนังอีกส่วนหนึ่งที่บอบบาง ก็คือ บริเวณลำคอ
อย่าลืมลงกันแดดที่คอด้วยค่ะ ส่วนกันแดดลำตัวก็ให้ใช้สำหรับลำตัวโดยเฉพาะ หรือ
จะใช้กันแดดที่ใช้กับใบหน้าก็ได้ แต่จะสิ้นเปลืองค่ะ
ปล. กันแดดสูตรนี้ตอนทาจะรู้สึกเย็น ดูผิวฉ่ำน้ำ ชุ่มชื้นทาแล้วหน้าจะไบรท์ขึ้น เกลี่ยง่าย
 
 
หวังว่าวันนี้คงได้เรียนรู้ในการกันแดด และ การทากันแดดแบบบทความให้เห็นภาพกันได้
ไม่มากก็น้อยอยากให้ทุกคนผิวสวยหน้าใส กันทุกคนค่ะ 🙂
 
 
ส่วนตัวเอิ๊กอยากให้ทดสอบ SKINCARE ทุกตัวก่อนค่ะ อาจจะเป็นบริเวณเล็กของใบหน้า
เพราะผลิตภัณฑ์อาจจะมีส่วนผสมของALCOHOL และ FRAGRANCE
ความเห็นส่วนตัวเหมาะกับการออกไปทำงานออฟฟิต
ไปเรียนในห้องเรียน และ ทุกกิจกรรมที่ไม่ได้ออกแดดจัดโดยตรงมากๆ 

 

  

 
 
* เกร็ดความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับครีมกันแดด
 
❤ UVA มีตลอดปี แม้ในวันที่มีเมฆ หรือ แม้ในที่ร่ม
❤ UVA ส่งผลต่อสุขภาพผิวในระยะยาวมาก หาสารกันแดดปกป้องให้ดียิ่งขึ้น
❤ สารต้านอนุมูลอิสระบางตัวที่ใส่ในครีมกันแดดเพื่อช่วยให้การป้องกันรังสี UVA ดียิ่งขึ้น
❤ ในโลกนี้ไม่สามารถป้องกันUV ได้100% เราอาจทาไม่ทั่ว มันมีโอกาสรั่ว
❤ การกันแดดควรทำควบคู่ไปกับการหลบแดดในเวลาที่แดดจัด + กางร่ม + ใส่หมวก
+ ทากันแดดซ้ำหากเหงื่อออก
❤ กันแดดควรทาซ้ำทุก 2-3 ชม. เพราะสารกันแดดจะเสื่อมลงเมื่อถูกแดด และ อาจหลุดถ้าเหงื่อออก หรือ โดนน้ำ
❤ กันแดดสูตร water proof สามารถกันน้ำได้80นาที /water resistance กันได้40นาที
❤ แดดข้างหน้าต่างน่ากลัวเช่นกันเพราะมีรังสี UVA สามารถสะท้อนเข้ามาได้
❤ การไม่ถูกแดดเลยจะทำให้เราอาจขาดวิตามินDได้ แต่สามารถทานผัก ปลา นม
น้ำมันปลา ฯ ทดแทนได้
❤ โดนแดดจัดโดยไม่ป้องกันตลอด มีโอกาสเสี่ยงเป็นมะเร็งผิวหนัง
❤ ร่มสามารถกันได้แค่UVB แต่ไม่กันรังสี UVA
❤ เสื้อผ้าที่พอจะกรองแสงUVได้ ต้องหนา ตาข่ายถี่ๆจนแสงลอดไม่ได้
สีดำกันแดดได้ดีกว่าสีอื่น
❤ กันแดดมีสองชนิด เคมีคอล & ฟิสิคอล
❤ กันแดดเคมีคอล จะดูดแสง ทำให้แพ้ได้ เป็นสิวได้ และ เสื่อมสลายได้ง่าย
❤ กันแดดฟิสิคอล จะสะท้อนแสง ไม่แพ้ ไม่เป็นสิว ไม่เสื่อมสภาพง่าย
❤ กันแดดส่วนใหญ่จะผสม ฟิสิคอล และ เคมีคอล เข้าด้วยกับเพื่อให้ได้คุณภาพที่เหมาะสม และ เหมาะกับสภาพผิว
❤ เสื้อผ้าถ้าโดนน้ำจะกรองแสงได้น้อยลง
❤ ค่ากันแดดพื้นฐานในไทย คือ SPF 30 PA +++
 
   
 
 
วันนี้ลาไปก่อนนะคะ พบกันใหม่ บล็อคหน้า จุ๊บ  
 
 
 
 

 

Posted in REVIEW, SKIN, SKIN CAREComments (0)

HOW TO & REVIEW วิธีการดัดขนตา มาสคาร่าเลอะระหว่างวัน ขนตาจับเป็นก้อน กับ LOREAL PARIS FALSH LASH BUTTERFLY MASCARA

วิธีการดัดขนตาให้เด้ง

วิธีเช็ดมาสคาร่าที่เลอะระหว่างวัน

วิธีจัดการกับมาสคาร่าที่จับเป็นก้อน

รีวิว LOREAL PARIS FALSH LASH BUTTERFLY MASCARA ตัวล่าสุด

🙂

Posted in HOW TO, REVIEWComments (0)

REVIEW ไดร์ถนอมเส้นผมสุดล้ำ PHILIPS MOISTURE PROTECT กับ เทคโนโลยีวัดความชุ่มชื้นของเส้นผม และ ปรับอุณหภูมิอัตโนมัติ

 

 

HELLO ! ได้ไดร์ตัวล่าสุดของทางแบรนด์ PHILIPS

มาทดสอบความ HI-TECH กับ เทคโนโลยีเซนเซอร์วัดความชุ่มชื้นของเส้นผม 

และ ปรับอุณหภูมิอัตโนมัติทำให้ผมไม่เสียความชุ่มชื่นเนื่องจากโดนความร้อนเกินขนาด

เลยมาสภาพผมตอนนี้ ที่หลังจากทำ BRAZILIAN BLOW-OUT 

ไปเดือนกว่าเริ่มกลับสู่สภาพความเป็นจริง คือ เริ่มแห้ง

เพราะสระผมทุกวัน และ มีการว่ายน้ำ แต่ถือว่าอาการยังไหวอยู่

 

 

ผมหมาดที่รอการไดร์ให้แห้ง ระหว่างรอให้หมาดอีกนิดเอิ๊กจะไปเปิดกล่อง

ไดร์เป่าผม  PHILIPS MOISTURE PROTECT กัน เป็นอีกหนึ่งแบรนด์

ที่อยากแนะนำสำหรับผู้หญิงที่รักสุขภาพเส้นผม เอิ๊กลองมา 3 ครั้ง ก่อนมาทำ REVIEW

คือ ลองจับสภาพเส้นผมเองหลังไดร์ ให้คนอื่นจับ เพื่อให้ผลออกมาตรงในแบบฉบับ

ตัวเองมากที่สุด สำหรับไดร์เป่าผมตัวนี้ ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 3,990 บาท

ราคาจะสูงกว่าตัวที่เอิ๊กใช้อยู่ เพราะเทคโนโลยีมันต่างกันเยอะ ตัวนี้จุดเด่นชัดเจน คือ 

เซนเซอร์ที่วัดความชื้นเส้นผม และ มีการปรับอุหภูมิความร้อนอัตโนมัติให้พอดีกับสภาพ

ความชื้นในเส้นผมของเรา เช่น ถ้าผมใกล้แห้ง อุณหภูมิความร้อนก็จะถูกปรับให้ลดลง

โดยที่เราไม่ต้องไปยุ่งกับมัน ผลคือ ผมแห้งเร็ว และ สุขภาพเส้นผมก็ถูกถนอมอย่างดี

 

 

คือ หน้ากล่องเราก็จะเห็นรูปตัวไดร์ทันที ความรู้สึกแรกที่เห็น คือ ดูหรูหรา ดูสวย ดูแพง

ดูน่าถนุถนอม ดูไปดูมาเหมือนเครื่องประดับ ด้วยรูปทรง & สีเมทาลิคแชมเปญ โรสโกลด์ด้วย

ปกติไดร์ที่ใช้อยู่จะมีสีดำ หรือ สีสัน หรือ เวลาไปที่ร้านส่วนมาก ถ้าไดร์คุณภาพหน่อย

การออกแบบอาจจะสีเงิน-แดง ดำ จะเน้นสมบุกสมบันเพราะต้องใช้งานหนักมาก

 

 

ไดร์เป่าผมตัวนี้ CONCEPT คือ ” MOISTURE PROTECT “ หรือ

การปกป้องรักษาความชุ่มชื้นของเส้นผม

: อันนี้จากโบรชัวร์ผลิตภัณฑ์ :

รักษาโมเลกุลน้ำตามธรรมชาติของเส้นผมเพื่อเส้นผมเงางามมีสุขภาพดี มีเซนเซอร์ MoistureProtect ใช้เทคโนโลยีอินฟราเรดเพื่อวินิจฉัยเส้นผมของคุณแล้วปรับอุณหภูมิเพื่อรักษาโมเลกุลน้ำตามธรรมชาติ ด้วยนวัตกรรมเซนเซอร์
ทำให้สามารถรักษาความชุ่มชื้นของเส้นผมได้สูงถึง 65% (วัดหลังทำการเป่าผม 5 นาที 2013)


 

เทคโนโลยี MoistureProtect
• รักษาความชุ่มชื้นได้อย่างสมบูรณ์ด้วยเซนเซอร์ที่เป็นเอกลักษณ์ทรงผมที่จัดแต่งทรงอย่างสวยงาม
• การปรับสภาพเส้นผมด้วยไอออนป้องกันไฟฟ้าสถิตเพื่อเส้นผมเงางาม ไม่ชี้ฟู ติดตั้งง่าย
• การตั้งค่าความเร็วได้หกระดับ และสามารถปรับอุณหภูมิได้เพื่อการควบคุมเต็มรูปแบบ
• ลมเป่าเย็นเพื่อจัดแต่งทรงผม

เทคโนโลยีการดูแลเส้นผม
• การควบคุมความร้อนสมบูรณ์แบบด้วยนวัตกรรมเซนเซอร์
• ปกป้องเส้นผมจากการใช้ความร้อนที่สูงเกินไป

ข้อมูลทางเทคนิค
• แรงดันไฟฟ้า: 220-240 V
• ขนาดวัตต์: 2100-2300 วัตต์
• ความยาวสายไฟ: 2.5 เมตร
• มอเตอร์: DC
• ความเร็วการเป่าผมแห้ง 120 กม./ชม.
• ใช้กับแรงดันไฟฟ้าได้ 2 ระบบ: ไม่มี

เทคโนโลยีการดูแลเส้นผม
• MoistureProtect
• การถนอมดูแลโดยปล่อยประจุไอออน

การบริการ
• รับประกันทั่วโลก 2 ปี

คุณสมบัติ
• ลมเย็นชั่วขณะ
• การตั้งค่าอุณหภูมิ 6 ระดับ

อุปกรณ์เสริม
• หัวเป่าปากแคบ: หัวเป่ากระจายลม


 

 

 สัญลักษณ์ในการดูแลปกป้องเส้นผม และ คุณลักษณะพิเศษตามนี้

 

 

เรามาดูภายในกล่องกัน

 

 
เปิดมาเราจะเห็นตัวไดร์สวยงาม สีขาว – เมทาลิคแชมเปญ ขาวสวยหรูหรา คิดว่าถ้าผู้หญิง
หลายคนเห็นแล้วต้องชอบมันดูมีเสน่ห์ ส่วนตัวรู้สึกเหมือนเครื่องประดับอย่างที่บอก
และ ฝากระดาษสีม่วงครอบอุปกรณ์ที่เหลือ พร้อม CONCEPT ที่ระบุว่า
” MOISTURE PROTECT “
 
 
ภายในจะมีตัวครอบเพื่อเป่าลมทั้งสองแบบ 1. แบบกระจายลม
กับ 2. ควบคุมลมอย่างแม่นยำเพื่อทำให้ผมแห้ง 3. คู่มือ ใบรับประกัน 2 ปี ทั่วโลก
 
 
อุปกรณ์สำคัญโดยรวม ตัวไดร์ และ ตัวครอบเป่าลม 2 หัวสำคัญ
 
 
สีม่วงที่มีการออกแบบให้นำมาแซม เพิ่งรู้ตอนเรียนจิตวิทยา สีที่หรูหราที่สุด คือ สีม่วง
มันทำให้เวลาเราใช้อะไรเกี่ยวกับสีม่วงมันดู Elegance ดูสง่า ดูมีเสน่ห์
 
 
สัญลักษณ์บนไดร์มีหลายตัว แนะนำอ่านคู่มือก่อนใช้งาน หรือ อ่านบล็อคเอิ๊ก อิอิ ก่อนใช้
 
 
หัวปล่อยลมของไดร์ PHILIPS MOISTURE PROTECT
 
 
ด้านหลังเป็นตะแกรง กรองเศษฝุ่น เศษอุปกรณ์ตกแต่งทรงผม เศษผม
 
 
เราสามารถถอดออกมาทำความสะอาดได้ง่ายมาก ๆ
 

 

หน้าตาตัวครอบแบบกระจายลม

 

 
หน้าตาตัวครอบแบบเป่าลมให้แม่นยำขึ้น ใช้เวลาเป่าผมให้แห้งทีละช่อ
หรือเป่าที่แกนม้วนทีละแกน ให้ความร้อนทำให้ผมเป็นลอนได้เช่นกัน ทำบ่อย 🙂
 
 
 
 มาดูเมนูการใช้ไดร์ว่าสัญลักษณ์อะไรหมายถึงอะไรบ้าง  
 
 
 
ถึงเวลาที่จะเป่าผม แต่เอิ๊กจะขอแบ่งผมเป็น 2 ฝั่ง เพื่อสัมผัสผมหลังไดร์
ของเทคโนโลยีถนอมเส้นผมที่ไดร์ PHILIPS MOISTURE PROTECT
มีด้านขวา และ ด้านซ้าย จะเลื่อนระดับ และ เมนูไดร์ที่ต่างกัน 
 
 
เริ่ม
 
 
 
เมื่อใช้มือถือจับเวลาดูประมาณ 3 ครั้งที่ได้ทดสอบ ผมแบ่ง 2 ข้าง เท่าๆกัน 
 

 

ข้างซ้าย คือเป่าเพื่อแห้งจริงจัง แห้งไวมาก ไม่เกิน 4 นาทีสำหรับผมของเอิ๊ก

ข้างขวา ใช้ทุกเทคโนโลยีเมนูที่ช่วยปกป้องความชุ่มชื้นของเส้นผมที่มี อาจจะใช้เวลานานกว่า ประมาณ 5 นาทีกว่าๆ

 

มองด้วยตาเทียบลำบากมาก มองตาเปล่า ทั้งสองข้างไม่ชี้ฟู 
ส่วนตัวก่อนสัมผัสเส้นผมด้านขวา รู้สึกว่าไดร์ได้เรียบกว่า 
ไม่มีการใช้หวีนะคะ คือ สระเสร็จ แล้วลองใช้ไดร์เลยจะดูความลื่น ใช้นิ้วสางเอา 
 
 
ส่วนข้างที่ดูชุ่มชื่นเกิดเงาเยอะกว่า เอิ๊กก็รู้สึกว่าข้างขวาอีกเช่นกัน
แต่สุดท้ายมองตาเปล่าดูลำบาก ด้วยเพราะสภาพเส้นผมของตัวเอิ๊กเอง
พอสัมผัสก็ให้อีกคนสัมผัสแต่ไม่บอกว่าข้างในเราใช้เมนูไดร์อะไร
เพราะไม่อยากคิดเองสรุปคือความให้สัมผัสที่ดีกว่าในเรื่องของความลื่น
เรียงเส้นมากกว่าเล็กน้อย 
 
คราวนี้ลองอีกวิธีให้เห็นภาพชัด คือ ม้วนให้ขึ้นลอนเพื่อดูเงา
 
 
ข้างขวาดูเกิดเงามากกว่าเล็กน้อย แสดงว่ามีความชุ่มชื้นที่ดีกว่า 
 

ลองถือขนาดกล่องใหญ่บนมือให้ดู 

 
ขนาดมือถือไดร์ กับ ฝาครอบเป่าลมแบบแม่นยำประมาณนี้
ปกติไม่ชอบไดร์ผมเลย ขี้เกียจกว่าจะแห้ง
จิตใต้สำนึกโหยหวนอยากมีคนไดร์ให้จังเลยยยยยยยยย 55555
สุดท้ายก็ต้องไดร์เองตลอดเพื่อสุขภาพ  และ สุขภาพหนังศีรษะที่ดี ไม่เป็นเชื้อรา
เมื่อก่อนคือเด็กๆ เปียกแล้วนอนเลย กราบสวัสดีรังแคมาเยือนทันที
 
 
ตัวครอบกระจายลม ขนาดบนมือ ไม่ใหญ่มาก
 
 
 
ซื้อมาอย่าลืมกรอกรายละเอียดการรับประกันด้วยนะคะ
 
สรุปการใช้งานไดร์ PHILIPS MOISTURE PROTECT 
ข้อดี มีเทคโนโลยีถนอมความชุ่มชื่นของเส้นผม ทั้งตัวเซนเซอร์ที่ตรวจจับความชื้นของเส้นผมและปรับความร้อนอัตโนมัต , ปรับพลังงานได้หลายระดับ , ปิดเกล็ดผม , ลดอาการชี้ฟูของเส้นผม , ผมเรียบและสัมผัสลื่นขึ้นกว่าปกติ , BODY สวย หรู ดูแพง จุดนี้ขึ้นกับรสนิยม แต่ส่วนตัวชอบเพราะ สวย ดูสะอาด ดูพรีเมียม , อุปกรณ์ครอบคลุมการไดร์ผมพื้นฐาน , ด้านหลังทำความสะอาดเศษฝุ่น เศษผมง่าย , ผมแห้งไว ในโหมดปกติ ความร้อนดีมากทีเดียว
ข้อด้อย เมนูมันเยอะเหมือนกันส่วนตัว , ใช้เวลาเรียนรู้ความสัญลักษณ์ไฮเทคนิดนึงเพื่อปกป้องผม , สีขาวด้ามจับดูสวยมาก แต่ถ้าใช้งานไปนานๆ ถ้าเรามือเลอะมาจับ ตัวไดร์บริเวณสีขาวก็จะเลอะง่าย ต้องทำความสะอาดด้ามจับด้วย , ราคาสูงกว่าไดร์ที่มีอยู่หลายตัว 555 แต่ด้วยคุณภาพที่ต่าง
 
 
มองผ่านๆ อาจรู้สึกว่าสองฝั่งผมเหมือนกัน แต่ถ้าสัมผัสจะรู้ว่าแตกต่างกันจนรู้สึก
 
 
หวังว่าคงจะได้ประโยชน์ในการเลือกซื้อไดร์ถนอมเส้นผมกันนะคะ
ขอบพระคุณทาง PHILIPS มากที่ให้เอิ๊กได้มีโอกาสทดสอบเทคโนโลยี และ
ทำ REVIEW ให้กับไดร์ตัวนี้
– รัก –

Posted in HAIR, REVIEWComments (0)

REVIEW WHITE PERFECT LASER ANTI-SPOT DERM WHITE ESSENCE สำหรับจุดด่างดำ และ สีผิวไม่สม่ำเสมอ

 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
ปัญหาใหญ่ของผิวในยุคนี้มีหลายอย่าง
แต่จะมีไม่กี่อย่างที่เป็นปัญหาตลอดกาลของผิวอย่างปัญหาจุดด่างดำ
ซึ่งเป็นปัญหาที่แก้ยากปัญหานึง สาเหตุไม่ว่าจะ ..
 
  • หลังจากการเป็นสิว
  • การโดนแสง UV เป็นประจำทำให้เกิดความผิดปกติของเม็ดสีที่เพิ่มมากขึ้น
  • ฮอร์โมน 
  • อายุ
  • การอักเสบของผิว
  • ยาบางชนิด
  • ความเครียด
  • โรคระบบภายใน
  • การอักเสบ, การระคายเคือง, แผล
  • การใช้เลเซอร์ที่พลังงานมากเกินไป 
  • หรือ ใช้เลเซอร์บางประเภทในคนที่มีสีผิวที่เข้มจนเกิดการ BURN
  • ฯลฯ
 
               มีหลายคนสอบถามเกี่ยวกับจุดด่างดำมาว่าจะรักษายังไง รวมถึงสอบถามเกี่ยวกับการใช้เลเซอร์รักษาจุดด่างดำมา เพราะเห็นว่าเอิ๊กไปหาหมอเพื่อทำเลเซอร์ค่อนข้างบ่อยมาก ถึงมากที่สุด แต่ส่วนใหญ่เอิ๊กจะใช้เลเซอร์ในเรื่องของรอยแดงมากกว่า ส่วนรอยดำ เอิ๊กก็จะแนะนำตามที่คุณหมอเคยบอกว่าให้ทายา ทำทรีทเมนท์ หรือสกินแคร์ดี และ เหมาะสมที่สุด 
[ สภาพผิวจริงๆของเอิ๊ก จะมีปัญหาเรื่องความผิดปกติเม็ดสีจากกรรมพันธุ์อยู่แล้ว
มีทั้งกระ ฝ้า รวมถึง จุดด่างดำที่เกิดจากสิวเพราะแนวโน้มเป็นสิวค่อนข้างง่าย ผิวอักเสบง่าย ]
 
               และจุดสำคัญในการเลือกใช้สกินแคร์ การทายา หรือ ทำทรีทเมนท์ คือ ต้องมีส่วนผสมที่ดูแลเรื่องการจัดการๆสร้างเม็ดสีเมลานิน /  การสั่งต่อเม็ดสีไปยังเซลล์ผิวหนัง / การกำจัดเซลล์ผิวหนังชั้นนอกที่พบเม็ดสีมากเกินไป จะมีเพียง 1 หรือ หลายอย่างรวมกันก็ได้ หากเราดูแลแค่ผิวหนังชั้นนอก เช่น ผลัดเซลล์ผิว โอกาสที่จุดด่างดำกลับมาอีกเป็นได้เสมอเพราะเราไม่ได้ดูแลการยับยั้งเม็ดสีเมลานินใต้ผิวชั้นลึก รวมถึงคนที่มีแนวโน้มเม็ดสีผิดปกติเกิดง่าย เช่น กระกรรมพันธุ์ก็มีแนวโน้มที่จะเป็นกระอยู่แล้ว เป็นเพิ่มได้ และ เป็นง่าย โดนแดดจุดด่างดำจะมาไวมากกว่าปติ มีเม็ดสีเป็นจุดเข้มๆขึ้นมาได้โดยง่าย ยิ่งหากไม่ดูแลปกป้องผิวจากแสงยูวีให้ดี จะพบว่าคนกลุ่มนี้ มีจุดสีเข้มอยู่ใต้ผิวเป็นจำนวนมากที่พร้อมจะผุดขึ้นมาหากได้รับการตรวจผิวหนังอย่างละเอียดโดยเครื่องวิเคราะห์สภาพผิวแบบละเอียด
 
               ทางการแพทย์ที่คุณหมอเคยสอน คือ เป็นความผิดปกติของเม็ดสี เรียกว่า HYPERPIGMENTATION ซึ่งเอิ๊กเป็นในรูปแบบกระกรรมพันธุ์ และ เป็นจุดด่างดำแบบต้องใช้เวลานานในการรักษาประมาณ 4-6 เดือนขึ้นไป เช่น หากเป็นสิว ผิวอักเสบแพ้อะไรมา หากไม่รักษาเนิ่นๆตั้งแต่รอยแดง พอโดนแดดมากจากรอยแดงจะเริ่มพัฒนากลายเป็นรอยดำ ซึ่งจะอยู่ยาวนานมาก เคยลองแบบทายาแค่ผลัดเซลล์ผิวบางทีจางแล้วก็จะกลับมาเป็นอีกได้ที่เดิม 
 
วิธีต่างๆคร่าวๆที่ได้ผลในการดูแลเรื่องจุดด่างดำ
1. กันแดด และ หลีกเลี่ยงแสงแดดประจำสม่ำเสมอ
2. การใช้สกินแคร์ ยา หรือ ทรีทเมนท์ที่มีเครื่องมือในการผลักยาที่ช่วยยับยั้งการสร้างเม็ดสี/การส่งต่อเม็ดสีไปที่เซลล์ผิวหนัง
3. การลอกเซลล์ชั้นขี้ไคลออกไป
4. การทานยาบางประเภทซึ่งต้องได้รับการดูแลจากแพทย์
5. การกรอผิวด้วยเกล็ดอัญมณี
6. การทำ IPL [ผลชัดกับจุดด่างดำที่เป็นใหม่ๆ]
7. รอเวลาทุกขั้นตอนต้องใจเย็นๆ
 
               อาจต้องใช้หลากหลายวิธีร่วมกัน เช่น ถ้าใช้สกินแคร์ ก็อาจต้องใช้กันแดดร่วมด้วยเพื่อให้เห็นผลดี เอิ๊กเลือกใช้วิธีที่ 1 และ 2 ในเรื่องของจุดด่างดำที่ไม่ใช่เรื่องกระกรรมพันธุ์ คือใช้กันแดดสม่ำเสมอ และ เลือกใช้สกินแคร์ หรือ ทรีทเมนท์เพื่อดูแลจุดด่างดำเป็นหลัก จุดด่างดำถ้าทิ้งไว้เอิ๊กต้องใช้เวลารักษาประมาณ 6 เดือนเลยทีเดียว แต่ถ้าไม่ปล่อยปละละเลย หากเกิดขึ้นจะเริ่มดูแลทันทีจะหายเร็วกว่านั้น แต่ด้วยอายุ ก็ต้องใช้เวลาพอสมควร ดังนั้นควรดูแลตั้งแต่แรกเริ่มที่เริ่มมีจุดด่างดำ
 
 
 
 
               ล่าสุดทาง LOREAL PARIS ติดต่อมาว่าจะขอส่งนวัตกรรมใหม่ของเขามาให้เอิ๊กทดสอบจริง และ ทำ REVIEW ให้ ตัวนี้คือ WHITE PERFECT LASER ANTI-SPOT DERM WHITE ESSENCE ความพิเศษที่เขาบอกคือ เป็นครั้งแรกของนวัตกรรมลดเลือนจุดด่างดำทั้ง 3 มิติ ขนาด สี จำนวนของจุดด่างดำที่อยู่ชั้นใต้ผิว เป็นการแก้ปัญหาระดับลึกจากเซลล์ผิว เพราะล่าสุดที่เขาได้วิจัยจากสถาบันลอรีอัลซึ่งวิจัยมาตลอดกว่า 30 ปี พบว่า จุดด่างดำที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะในเรื่องของ ขนาด สี จำนวน เซลล์ผิวที่มีอิทธิผลต่อปัญหาเหล่านี้ ชื่อว่า “ไฟโบรบลาสท์”
 
 

 

ระยะเวลาเห็นผลที่เหมาะสม คือ 4 สัปดาห์

ส่วนผสมหลัก ที่เป็นจุดเด่นหลักของ ESSENCE เข้มข้นตัวนี้ได้แก่

1. Actyl C คือส่วนผสมไวท์เทนนิ่งที่จะเข้าไปลดเลือนจุดด่างดําที่เกิดขึ้น

รวมถึงจุดที่ยากจะลดเลือน

2. ADENOSINE ช่วยในกระบวนการควบคุมการเกิดเม็ดสีที่อาจเป็น

จุดด่างดําที่อาจจะมองเห็นได้ในอนาคต

3. Fibrelastyl ช่วยฟื้นบํารุงโครงสร้างผิวชั้นนอก ลดสาเหตุของ

ผิวหมองคล้ํา

* ข้อมูลอ้างอิงจากกล่องผลิตภัณฑ์ 
 
 
 
ออกตัวก่อนว่าเอิ๊กไม่ได้รับทำรีวิวเรื่องสกินแคร์ให้กับแบรนด์ไหนมานานมากแล้ว
เหตุผลเพราะ หน้าเพิ่งหายสิว และ ทุกวันนี้เอิ๊กยังคงมีเรื่องจุดด่างดำที่รักษาอยู่โดยทรีทเมนท์
เป็นหลักเพราะการทายาหรือใช้สกินแคร์ต้องใช้เวลา และ ความอดทนที่อาจจะยาวนานกว่า
แต่ดีกว่าปล่อยให้หายเองซึ่งอาจใช้เวลาปี หรือ หลายปี หรือ อาจจะได้แค่จางลง
ข้อดีถ้าเลือกใช้สกินแคร์ก็ประหยัดเวลาไม่ต้องเดินทาง ประหยัดเงินในกระเป๋ามากกว่า
สำหรับคนไม่มีเวลา หรือ ต้องการควบคุมค่าใช้จ่าย และ เราก็ดูแลควบคู่ไปกับการใช้กันแดด
 
การเริ่มลองสกินแคร์ใหม่ครั้งนี้เอิ๊กจึงขออนุญาต ทดสอบบริเวณสีผิวหมองคล้ำไม่สม่ำเสมอ
บริเวณจมูกที่เกิดจากสิวแล้วทิ้งรอย และ รอยสิว 1 จุดดำฝังลึก มาจากสิวที่เป็นแผลเหวอะ
มาก่อนเนื่องจากบีบเค้นจนอักเสบ พอหายก็ทิ้งรอยดำรอยนี้ยากมากที่จะจางลงไป
 
 
รูปนี้เดือนกลางพฤษภาคม 57 เอิ๊กโบกครีมกันแดดอย่างหน้า
แต่เห็นสีผิวไม่สม่ำเสมอตรงจมูกไหม
และ จุดด่างดำที่ฝังลึก 1 จุดข้างแก้ม ขนาดโบกกันแดดแล้ว
ก็ปิดไม่มิดเลย ภาพนี้ NO RETOUCH
 
ระยะเวลาการทดสอบ : 17 มิถุนายน – 25 มิถุนายน เป็นเวลา 9 วัน เช้า – เย็น
วิธีการใช้ : ทาก่อนสกินแคร์ที่ใช้เป็นประจำทุกตัว หลังจากลงอายครีมเสร็จ
เทคนิคพิเศษ : ฉีดเสปรย์น้ำแร่เช็ดออก แล้วหยดลงบนจุดด่างดำ
นวดวนบริเวณที่เป็น 2-5 นาที เช้าเย็นๆ รอแห้งซึมค่อยลงตัวอื่นตาม
 
 
* การนวดวนอาจมีผลทำให้เลือดบริเวณนั้นไหลเวียนดี และ ทาหลังผิวหมาดน้ำแร่
ก็ทำให้ผิวเปิดรับการซึมของ ESSENSE ตัวนี้ได้โดยง่าย
 
 
เรามาเริ่มจากหน้าตาแพคเกจกันก่อนดีกว่า
WHITE PERFECT LASER ANTI-SPOT DERM WHITE ESSENCE 
มาในกล่องสีน้ำเงินเมทาลิค ดู PREMIEM ทันสมัย นวัตกรรม ดูล้ำ
 
 
ด้านหน้า
 
 
 
ด้านข้าง
 
 
 
ด้านข้างอีกด้านซึ่งระบุส่วนผสมชัดเจน
 
 
 
ด้านหลังเป็นส่วนผสม วิธีใช้ รายละเอียดส่วนผสมเด่นของผลิตภัณฑ์
 
 
 
 
มาดูขวดข้างในเลอค่าสุดๆ สีน้ำเงินเมทาลิค มาในรูปแบบขวดแก้ว และ เป็นหลอดหยด
ใช้ง่ายสะอาด คุมปริมาณได้ ชอบขวดดูล้ำมาก
 
 
ขนาด 30 ml แต่ด้วยความที่เป็นขวดแก้วเอิ๊กก็กังวลเหมือนกันนะว่ามันจะแตก
เวลาใช้เลยเก็บใส่กล่องตลอด
 
 
ขวดใกล้ๆ ล้ำมาก
 
 
ที่ชอบคือเป็นแบบกระเปาะให้หยด ควมคุมปริมาณการใช้ สะอาด 
 
 
เนื้อผลิตภัณฑ์เข้มข้นเนื้อเหลวกึ่งข้นกึ่งใส
 
 
เวลาหยดลงบนผิวค่อนข้างเหลวทำให้เกลี่ยได้ง่าย
 
 
พอทาเคลือบลงผิวจะรู้สึกชุ่มชื่นมาก ใช้เวลาในการซึมพอสมควร
 
 
พอปล่อยให้แห้งผิวจะดูวาว เคยทาทั่วหน้า แล้ว ถ่ายรูปเล่นมีคนบอกว่าผิวใสวาว
เพราะตัวนี้เคลือบอยู่ด้วยรู้สึกมันตึงกระชับผิว
 
 
 
AFTER หลังใช้มาประมาณ 9 วันบริเวณจมูกทั้งหมด และ ข้างแก้ม
ให้ดูสภาพผิวโดยรวมก่อนนะคะ
มีสิวเสี้ยน สิวขึ้นบ้างเวลานอนดึก และ ใต้ตาคล้ำ
 
เดี๋ยวเรามาซูมปัญหาผิวกันค่ะ ขออนุญาตปรับแสงลงเพื่อให้เห็นสภาพผิวชัดๆ
 
 
ผิวรอบจมูกสีผิวดูกระจ่างขึ้น ความสม่ำเสมอกำลังเป็นไปได้ดี
คิดว่าต้องขยันใช้ต่อเนื่องอีกนิด
 
 
 
จุดด่างดำข้างแก้มสีจางลงประมาณ 10-15% ในเรื่องของความเข้มสี
และ เหมือนขนาดจะลดลงเล็กน้อยด้วย
 
 
เปรียบเทียบรูปที่ไม่เกิด 1-2 เดือนก่อน
ตกใจเหมือนกันจุดด่างดำจางไวอยู่
 
 
ทีนี้ขอแชร์วิธีใช้ฉบับเอิ๊กแบบภาพนะคะ
การทา WHITE PERFECT LASER ANTI-SPOT DERM WHITE ESSENCE
บริเวณทั่วหน้า
 
บีบ WHITE PERFECT LASER ANTI-SPOT DERM WHITE ESSENCE ขึ้นมา
 
 
หยดใส่บริเวณปลายนิ้ว
 
 
นวดกดซับลงบนบริเวณใบหน้าให้ทั่วหน้า และ ตามสกินแคร์ที่ใช้เป็นประจำ
 
 
 
การทา WHITE PERFECT LASER ANTI-SPOT DERM WHITE ESSENCE 
เฉพาะจุดด่างดำ หรือ สีผิวที่ไม่สม่ำเสมอที่เรากังวลใจ
เราจะหยดลงไปประมาณ 1 หยดที่จุดด่างดำ
 
 
ใช้นิ้วนางนวดวนประมาณ 2-5 นาที เช้า-เย็น
 
 
 
 สำหรับสีผิวไม่สม่ำเสมอก็ทำเหมือนกับจุดด่างดำ
ควรใช้ติดต่อกัน 4 สัปดาห์หรือประมาณ 1 เดือนตามที่เขาแนะนำนะคะ
โดยเฉพาะจุดด่างดำต้องใช้เวลา
 
 
 
หลังจากทาทั่วใบหน้าแล้วหน้าจะชุ่มวาว ชุ่มชื่นแบบนี้ รู้สึกตึงกระชับ ฮ่าฮ่า

ข้อดี หาซื้อง่าย แพคเกจออกแบบสวยใช้ง่าย คุมปริมาณได้ สะอาด สำหรับตัวเอิ๊กเห็นผลจุดด่างดำแค่ต้องใช้เวลา
ข้อด้อย ขวดเป็นแก้วทำให้ต้องระวังเป็นพิเศษ ใช้เวลาซึมซักพักด้วยความเข้มข้น
ข้อแนะนำ นวดวนจุดด่างดำเป็นพิเศษ ควรใช้คู่กับกันแดด และ หลบแดดเพื่อผลลัพธ์ที่ดี ทดสอบก่อนใช้สำหรับผิวแพ้ง่ายนะคะ อดทนใช้ให้สม่ำเสมอจุดด่างดำ ต้องใช้เวลา
 

กะว่าจะใช้ต่อเนื่องในเรื่องจุดด่างดำ เพราะไม่เป็นสิว ไม่แพ้ 🙂 ขยันหน่อย

 
ข้อมูลเพิ่มเติม
WHITE PERFECT LASER ANTI-SPOT DERM WHITE ESSENCE
 ราคา 649 บาท ขนาด 30 ml.
หาซื้อได้ตาม BOOTS WATSONS TOPS SUPERMARKET และ ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ 

Posted in REVIEW, SKIN CAREComments (0)

PRESTIGE COSMETICS แบรนด์เครื่องสำอางน้องใหม่ที่กำลังจะบุกไทย

ได้รับพัสดุมาจากอเมริกา ตื่นเต้น สำหรับแบรนด์น้องใหม่ที่กำลังจะบุกไทย

” PRESTIGE COSMETICS “


Posted in MAKE UP, REVIEWComments (0)

สารสกัดจากเปลือกสนฝรั่งเศสเพื่อผิวสวยและสุขภาพ กับ Scotch Collagen-Aora

 

 

 

 

 

 

 

ใครทาน SCOTCH COLLAGEN-AORA อยู่บ้าง เอิ๊กเคยพรีวิวไปแล้วตัวนี้ CLICK

 คุณสมบัติที่ทางแบรนด์กล่าวไว้ในแนวคิดของ SCOTCH COLLAGEN-AORA

คือ ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่มีเวลาจำกัด แต่ชอบดูแลตัวเอง ใส่ใจในผิวพรรณ และ สุขภาพ

เลยออกมาเน้นในเรื่องของสุขภาพผิวที่ดีขึ้น ความยืดหยุ่น ความชุ่มชื่น และ เอาเทรนด์

ของสีผิวที่สม่ำเสมอ ผิวกระจ่างใส มาเล่นเพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภคที่สามารถ

เลือกดูแลตัวเองได้เร็ว ไว และ เห็นผล

 

 

บล็อคนี้เราจะมาทำความรู้จัก กับ “สารสกัดจากเปลือกสนฝรั่งเศส” กันให้ลึกขึ้น

ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งส่วนผสมหลักที่สำคัญอย่างยิ่งใน SCOTCH COLLAGEN-AORA 

นอกเหนือจากคอลลาเจน เปปไทด์ และ วิตามินรวมต่างๆ ซึ่งก็เป็นส่วนผสมหลักเช่นกัน

แต่เราคุ้นหูกันดีอยู่แล้ว

 

 

สารสกัดจากเปลือกสนฝรั่งเศส ตัวนี้ที่ใส่เข้ามาเพื่อ “ต่อต้านอนุมูลอิสระ” ที่จะเกิดขึ้นกับ

เซลล์ผิวของเรา เพื่อให้เซลล์มีการสร้างพลังงาน และ สังเคราะห์โปรตีนได้อย่างดีเป็นปกติ

ดังนั้นถ้าใครหลายคนที่ทานแล้วได้ผลต้องบอกเลยว่าส่วนนี้สำคัญมากในเรื่องของผิว

ไม่แพ้คอลลาเจนเลย จะพูดสั้นๆกระชับจะได้ไม่มึนกันนะฮะ ^^

 

 

ขนาด 45 มิลลิกรัม ขวดละ 48 บาท

บรรจุสารสกัดจากเปลือกสนอยู่ประมาณ 40 มิลลิกรัม

อลลาเจนเปปไทด์ 5,000 มิลลิกรัม และ วิตามินรวมอีก 13 ชนิด

 

 

สารสกัดจากเปลือกสนฝรั่งเศสเด่นในเรื่องสำคัญอะไรบ้าง

  • ต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันเซลล์ผิวเสื่อมสภาพ 
  • ฉายาคือSUPER ANTIOXIDANT ซึ่งต้านอนุมูลอิสระได้ดีกว่า วิตามินC 20 เท่า วิตามิน E 50 เท่า
  • เสริมการทำงานของวิตามิน C และ E ให้ต้านอนุมูลอิสระได้ดียิ่งขึ้น 
  • ยับยั้งและชะลอการสร้างเม็ดสี ดังนั้น จุดด่างดำ ฝ้า กระ สีอาจจะจางลง หรือ โอกาสขึ้นก็น้อยลง
  • ช่วยให้เซลล์ผิวสามารถทนกับแสงแดดได้ดีขึ้น
  • ป้องกันการเสื่อมสภาพของคอลลาเจน อิลาสติน ช่วยในเรื่องริ้วรอย ความยืดหยุ่น และ ความเรียบของผิว
  • ทำให้เส้นเลือดแข็งแรง ไหลเวียนดี [ สารอาหารก็จะไปดูแลผิวพรรณได้ดีขึ้น รวมถึงกำจัดของเสีย ผิวพรรณจึงมีเลือดฝาดที่ดีขึ้น ]
  • ลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ และ หลอดเลือด
  • ลดการเกิดภูมิแพ้
  • ลดระดับคอเรสเตอรอล
  • ป้องกันการเกิดกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน
  • ลดการอักเสบ และ บวม
  • ดูแลกระบวนการสร้าง ป้องกัน ซ่อมแซม ยับยั้งอนุมูลอิสระที่มีผลใน DNA
  • ป้องกันการเกิดภาวะกล้ามเนื้อลีบ และ ลดการสูญเสียมวลกล้ามเนื้อ ซึ่งมีประโยชน์กับคนออกกำลังกาย นักกีฬา ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อในผู้สูงอายุ

 

ตัวอย่างสถิติในงานวิจัยของคุณสมบัติของสาร

OLIGOMERIC PROANTHOCYANIDINS

[ โอลิโกเมอริค โปรไซยานิดิน ]

ที่สกัดมาจากสารสกัดจากเปลือกสนฝรั่งเศส

 

 
ในทุกจุดเด่นของ สารสกัดจากเปลือกสนฝรั่งเศส ได้ผ่านการวิจัยมามาก
และ ถูกนำมาใช้งานเกี่ยวกับเครื่องสำอาง สุขภาพ และ ความงาม มากกว่า 40 ปี
มีผลวิจัยรองรับ รวมถึงมีการตีพิมพ์ในวารสารทางวิชาการทั่วโลก
มีความปลอดภัยต่อการทานสูง สามารถทานต่อเนื่องติดต่อกันได้นานโดยไม่มีผลข้างเคียง
 
 
ดื่มจากแก้วให้ดูสีน้ำของ SCOTCH COLLAGEN-AORA
 
ที่มาสำหรับเปลือกต้นสนที่ SCOTCH COLLAGEN-AORA นำมาสกัด
คือ ป่าสนทางตอนใต้ของฝรั่งเศส FRENCH FOREST ” LANDES “
ซึ่งเขานำมาสกัดโดยกระบวนการแช่ในน้ำร้อน เพื่อสกัดเอาแต่สารประกอบสำคัญ
ที่มีชื่อว่า OLIGOMERIC PROANTHOCYANIDINS เรียกกันย่อๆว่า OPC
 เหมือนตอนบนตามที่บอกไป ไปเสิร์ชดูเถิด
สารนี้ดังมากมายในการต้านอนุมูลอิสระ และ สุขภาพ
 
 
 
สำหรับคอลลาเจนเปปไทด์จากปลาทะเลน้ำลึกเพียวๆ
ปริมาณ 5,000 มิลลิกรัมที่ใส่มา ก็มีโมเลกุลที่เล็กมากง่ายต่อการดูดซึม
ทำให้ทุกส่วนผสมหลักสำคัญทำงานได้อย่างสนับสนุนซึ่งกันและกันใน
ด้านการบำรุงผิวได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะเวลาที่เป็นช่วงใช้ผิวหนัก
อาจจะเห็นผลชัดกว่าโ ดยเฉพาะคนที่อายุน้อยก็อาจเห็นผลสู้คนที่
เริ่มมีอายุ หรือ เริ่มมีริ้วรอย ผิวเริ่มแห้งกร้านไม่ได้
 
 
คำแนะนำในการทาน
– แช่เย็นอร่อยกว่ามาก
– 3 ชั่วโมงหลังจากอาหารเย็น หรือ ก่อนนอน
– รับประทานวันละ 1-2 ขวดกำลังดี
 
 
ส่วนตัวคือดื่มมาหลายโหล แต่ดื่มแบบติดต่อกันบ้าง หยุดบ้าง เพื่อสุขภาพภายในเป็นหลัก
ยังไงก็แนะนำมากๆ ให้ดูแลเรื่องการดูแลตัวเองภายนอกไปด้วย อย่างการออกกำลังกาย
ดูแลเรื่องอาหารที่ทำให้เกิดอนุมูลอิสระในร่างกาย เช่น เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ คาเฟอีน
แม้เราทานพวกตัวช่วยเรื่องต้านอนุมูลอิสระเข้าไปดูแลอย่างดี แต่ไม่ดูแลแบบ
ครบกระบวนการที่ควรจะเป็น ผิวก็จะไม่สามารถถูกฟื้นฟูได้อย่างที่มันควรจะเป็น
การนอนให้ได้คุณภาพในชั่วโมงที่เหมาะสม การเลือกใช้ครีมกันแดดป้องกันแสงแดด
และ สำคัญอย่างมาก เรื่องอารมณ์ที่ต้องควบคุมค่ะ ขอให้ผิวสวย หน้าใสกันทุกคนค่ะ
 
 
XOXO
 
 
 

 

Posted in REVIEW, SKIN, SKIN CAREComments (0)

รีวิวทรีทเมนท์ผมเสียไม่ต้องตัดทิ้ง กับ BRAZILIANT BLOWOUT ร้าน MARK THAWIN

ใครผมเสียมากจนคิดจะตัดผมสั้นบ้าง ?

แอบยกมือ T___T ผมไม่ไหวแล้ว

ฟู ชี้ พัน โดนคนข้างๆทีสะดุ้ง เค้าคันผมเรา เวลาไปโดน !!!

ไม่คิดว่าคนผมเสียในโฆษณาแชมพู วันนึงมันต้องเป็นเรา T_T

 

เลยตัดสินใจทำทรีทเมนท์ชื่อว่า BRAZILIANT BLOWOUT

ใครมีข้อมูลแน่นมาแชร์กันหน่อย

เท่าที่ทราบคร่าวๆ คือ เป็นทรีทเมนท์ เคราตินเคลือบปิดเกล็ดผมชนิดนึง

ที่ทำให้ผมลื่น นุ่ม ทิ้งตัว มีน้ำหนักทันที อยู่ได้ 2-3 เดือน โดยไม่เปลี่ยนโครงสร้างเส้นผม

เหมือนการยืด หรือ การดัด

ส่วนตัวทำเพราะไม่มีทางเลือก ยืดไม่ได้มันพังหนักมากแล้ว ไม่มีอะไรจะเสียแล้ว

 

มาดูผลลัพธ์หลังทำ BRAZILIANT BLOWOUT กัน

ลองถามผู้เชี่ยวชาญกันดีกว่าว่า BRAZILIANT BLOWOUT เป็นทรีทเมนท์อะไร

เอิ๊กไม่ได้ REVIEW ทันทีเพราะอยากรู้ ว่าถ้าสระไปช่วงแรกผมยังดีเหมือนที่เขาโฆษณาไหม

[คือยังไม่เชื่อเพราะผมพังโคตร55] คำตอบ คือ ดีมาก ชีวิตดีมาก ดีมากๆๆๆๆๆๆๆ

เป่าผม แล้วออกมาวิ่งเล่นได้เลย นุ่ม ลื่น เรียบขึ้นมากกกกก คือเหมือนยืดผมแต่มีวอลุ่ม

อาจไม่หายแห้งที่ปลายผมทีเดียว แต่คือ ดีอ่ะ

 

ทางร้าน MARKTHAWIN ดูแลทั้งหมดในการทำ BRAZILIANT BLOWOUT และ การทำสี

ถามราคามาให้คือเริ่ม 5,500 บาท แต่แชมพู ครีมนวด เซรั่มเอิ๊กซื้อเองเกือบ 6,000 บาท

เฉลี่ย เดือนละ 3,000 กว่าบาท กะว่าจะทำต่อจนกว่าผมที่แห้งเสียพังจะยาว

แล้วจะค่อยๆตัดเล็มออกเรื่อยๆ ตอนนี้ขอเป็นคนแอ๊บผมสุขภาพดี

ลื่น นุ่มไปก่อน 3 เดือน อย่าลืมใครรู้เรื่องทรีทเมนท์ตัวนี้ดี เล่าให้ฟังบ้างงงงงงงงนะคะ จุ๊บๆๆ

Posted in HAIR, REVIEWComments (0)

HOW TO & REVIEW EUCERIN DERMATOCLEAN MICELLAR 3IN1 แต่งหน้าสาวผิวแทนปากแดง

Posted in MAKE UP, REVIEW, SKINComments (0)

REVIEW สีผม LIVING ASH บลอนด์เข้มประกายเขียวหม่น ของ MARK THAWIN

สีผมบลอนด์ครั้งแรก และ จะเป็นครั้งเดียวในชีวิต

ซึ่งทำมาจากร้าน PHOENIX SIAM SALON

ร้านทำผมสุดฮิพอีกที่ ณ สยามสแควร์ สีบลอนด์เป็นสีที่อยากทำมาก

และ ได้อย่างใจมาก แต่สุดท้ายรู้ไว้ว่าถ้าใจเราไม่มั่นใจกับสีที่ทำ

มันจะออกมาเหมาะหรือไม่ มันก็จะทำให้เราอยู่กับสีที่เราอยากทำได้ไม่นาน

เอิ๊กไม่ค่อยได้แต่งหน้าเลยต้องโบกมือลาสีอ่อนไป

สุดท้ายขอกลับมาเป็น “สีเข้ม” เหมือนเดิม เพราะสุขภาพผมหลังจากผ่านการฟอก

ค่อนข้างต้องดูแลอย่างมากเป็นพิเศษ

 

รอบนี้ทำที่ MARK THAWIN ใกล้บ้าน ซึ่งทางร้านได้เชิญไป

เป็นครั้งที่ 2 ของเอิ๊กสำหรับร้านนี้

ดู REVIEW บรรยากาศในร้านนี้ได้ที่นี่ค่ะ CLICK

ร้านนี้เป็นร้านของ อาจารย์ มาร์ค ธาวิน พี เชียวตง

ผู้เชี่ยวชาญทางด้านเส้นผมที่มีชื่อเสียงคนนึงของประเทศไทย

เป็นร้านทำผมที่ดูเผินๆ จะเข้าใจกันว่า เป็นร้านทำผมไฮโซ

ที่มีการตกแต่งที่อลังการ แพงแสนแพง ถ้ามาดูให้ลึกจะทราบว่า

ทุกอย่างมีเหตุผล และ ร้านนี้เอิ๊กขอยกย่องว่าเป็นร้านที่ค่อนข้างเจาะกลุ่ม

NICHE MARKET กลุ่มเป้าหมายเฉพาะกลุ่ม ที่รักสุขภาพกาย สุขภาพเส้นผม

และ มีรสนิยมในเรื่องของการดูแลตัวเอง เลือกสิ่งที่ดีที่สุด ทันสมัยให้กับตนเอง

เพราะที่นี่นอกจากจะมีเรื่องของศาสตร์ทำผม ยังเอาเครื่องมือที่เป็นเทคโนโลยี

นวัตกรรมที่ดีต่อสุขภาพกาย และ สุขภาพเส้นผมมาใช้ตลอดการให้บริการ

 

CONCEPT MARK THAWIN ULTIMATE HAIR SALON

ในเมืองไทยอาจจะมีไม่ถึง 1 ใน 5 ที่ด้วยซ้ำที่เป็นร้านลักษณะนี้

มาครั้งนี้ที่เอิ๊กได้มารับบริการ CONCEPT ร้านชัดมากในเรื่องมาตรฐานการดูแล

ที่หลายปีที่แล้วที่เอิ๊กมายังไม่ชัด กับ 7 มาตรฐานระดับเวิลด์คลาสของที่นี่

 

วันนี้จึงขอมาเจาะทีละข้อ เพื่อคนที่สงสัยว่าทำร้านนี้มีจุดยืนของแบรนด์

หรือ บริการลูกค้ายังไงให้ได้อ่านกันค่ะ

จุดที่หนึ่ง อากาศสะอาด เมื่อเดินเข้ามาเป็นร้านทำผมที่ไม่ได้กลิ่นเกี่ยวกับเคมีที่ใช้ทำผมเลย

แม้แต่พวกสเปรย์ หรือ อุปกรณ์ที่ใส่ผม เพราะเขามองว่าการสูดดมสารเคมีเข้าไปเป็นอันตราย

ต่อสุขภาพทั้งของช่างผมเอง และ ลูกค้าเอง อย่างที่บอกว่าร้านนี้ใส่ใจเรื่ิองสุขภาพร่างกาย

อย่างดีเยี่ยม เข้ามาจะสัมผัสถึงความสะอาดของการหายใจได้เลยทันที เครื่องฟอกอากาศ

จะทำให้ไม่มีกลิ่น และ มีการฆ่าเชื้อไวรัสด้วย บางครั้งเราไม่รู้ว่าการเกิดปัญหาทาง

ระบบหายใจมันนำมาสู่หลายโรคที่อันตราย เอิ๊กเพิ่งเข้าใจตอนแม่เข้าโรงพยาบาล

ตอนนี้เลยค่อนข้างที่จะอยากดูแลตัวเองเป็นพิเศษเช่นกัน

แอบได้ยินมาว่า แรงบันดาลใจในการทำร้านในรูปแบบ UNIQUE ที่โดดเด่น และ มีเอกลักษณ์

แบบนี้ขึ้นมาเป็นเพราะอ.มาร์ค เคยมีปัญหาสุขภาพ และ โดนสั่งห้ามทำสีผมจากแพทย์เกรงว่า

อาจจะทำให้เกิดมีสารเคมีสะสมในร่างกาย อ.มาร์คเป็นคนที่มีแรงบันดาลใจในเรื่องการทำผม

ค่อนข้างสูง โจทย์ก็คงอาจจะออกมาว่า แล้วเราจะทำร้านแบบไหน ให้ทำสีผมได้ แต่สุขภาพ

เราก็ไม่เสีย นี่อาจจะเป็นที่มาของ MARK THAWIN ก็เป็นได้

 

จุดที่เจ็ด STYLIST มืออาชีพ

พอเอิ๊กเข้าไปก็จะมี STYLIST เข้ามาให้คำปรึกษาและดูแล ซึ่งข้อมูลแน่นมาก

ถามอะไรตอบได้หมด เคลียร์ทุกประเด็น ความรู้เป๊ะ เขาก็จะมาประเมิน

สภาพเส้นผม และ แนะนำสิ่งการทำผมในสิ่งที่เราต้องการและต้องเหมาะสมกับเรา

โจทย์เอิ๊กขอทำผมสีเข้มไปเลย เพราะกะไม่ทำสีผมแล้ว แต่วันนี้ STYLIST พี่ชล และ

STYLIST น้องปลั๊ก บอกเลยว่าอย่าทำเข้มไปเลย เผื่อเปลี่ยนใจวันใด อยากทำสี

จะได้สามารถกลับมาทำได้อีก และ เอิ๊กไม่ต้องการให้มันลอกออกมาแล้วกลายเป็น

โทนแดง-ส้ม ซึ่งมันเป็นธรรมชาติของเราชาวเอเชียนี่ละ แต่เอิ๊กไม่ต้องการ

ขอให้เหมือนสีหลุด ยังคงเป็นสีโทนน้ำตาล หรือ หม่นอมเขียวก็ได้ค่ะ

ก่อนทำโคนผมดำยาวออกมาประมาณ 2 เซนติเมตร สภาพปลายผมเสียหายจากการยืด

เมื่อนานมาแล้ว พอฟอกอีก เลยแห้งมาก แต่ยังไม่ตัด เพราะเวลาทำลอน ผมยาว

หน้ากลมแบบเอิ๊กเข้ามากกว่า เลยทนไป 5555555555

มาพบกับอุปกรณ์ไฮเทคชิ้นที่ 2 หลังจากจบเครื่องฟอกอากาศไป เครื่องนี้ชื่อ NANOMIST

ระบบนาโน จะพ่นไอน้ำละเอียดออกมาให้ความชุ่มชื่นกับผม ให้น้ำยาทำผมทุกอย่าง หรือ

รวมทรีทเมนท์ทำงานได้เร็วขึ้น ผมจะเงา ชุ่มชื่น สีสวยชัดขึ้น ช่วยเปิดเกล็ดผม และ

ปิดเกล็ดผม เป่าซักพัก เครื่องใหญ่มาก

ให้ความชุ่มชื่น เปิดเกล็ดผม ก่อนลงสีผมที่เป็น ORGANIC

นอกเรื่องนิด ที่นี่มี MINI BAR ที่เป็นเครื่องดื่มเย็นด้วย พวก นม ชา กาแฟ น้ำตาจะไหล

ชอบทานนม ตอนเค้าเอามาเสริ์ฟ โหหหห อารมณ์ดีเลย 555555555555555

เอิ๊กชอบทานนมหวาน ชอบมากกกกกก เลิฟเลย

คิดว่าถ้าอาหารกลิ่นไม่แรงคงได้มีให้สั่งกัน แต่อาหารไทย

เครื่องเทศกลิ่นค่อนข้างจัดจ้านอดไป

จุดที่สี่ ผลิตภัณฑ์ออแกนิค ไฮไลท์ของที่นี่จุดขายเลย คือ ผลิตภัณฑ์ ออแกนิค

ตั้งแต่สีผม จะนำเข้าจากต่างประเทศ มีตั้งแต่ ญี่ปุ่น อิตาลี ฯลฯ จะเป็นส่วนผสม

สารสกัดจากธรรมชาติ อาจจะไม่มีแอมโมเนีย หรือ มีแอมโมเนียน้อยมาก ส่วนผลิตภัณฑ์

พวกแชมพู ทรีทเมนท์จะเป็นออแกนิคหมด ดังนั้นกลิ่นที่ได้ส่วนตัวอาจจะไม่หอมฟุ้งมาก

แต่จะได้ความเป็นธรรมชาติ ไม่ตกค้าง หรือ ปลอดภัย อ่อนโยนกับหนังศีรษะ

และ สุขภาพเรามากที่สุด

 

ปิดท้ายหลังลงสีด้วย NANOMIST อีกรอบเพื่อให้การทำสีผมซึม ชุ่มชื่น และ เสร็จไว้ขึ้น

สีจะเงา สวย ดูสุขภาพดีมากขึ้น ทางร้านคอนเฟิร์มเลยว่า

” ผมจะไม่เสียไปกว่าเดิมแน่นอน “

 

 

จุดที่สอง นอนสระผมอย่างถูกสุขลักษณะ เตียงนอนสระผมถูกนำเข้าและมีนวัตกรรม

ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับสรีระ และ กระดูกสันหลังมนุษย์อย่างพอดี

เพื่อป้องกันเรื่องเกี่ยวกับอาการปวดของกระดูก หรือ กระดูกผิดรูป

เวลาที่เราไปสระผมเราก็ไปนั่ง และ ทาง STYLIST จะปรับเตียงให้เอนลงช้าๆ

ระหว่างนั้นเตียงจะประคองกระดูกข้างหลังเราพอดี

 

จุดที่สาม เรื่องน้ำที่ไม่มองข้าม

ที่นี่ใช้น้ำกรองที่เป็นน้ำแร่ สระผมให้ลูกค้าจ๊า ค่า PH อย่าหวงไปน้ำอุณหภูมิปกติ

ไม่ร้อนไม่ทำลายความชุ่มชื่นเส้นผม สระไปสระอาด น้ำมีวิตามินแร่ธาตุไหลผ่าน

เส้นผมจนสะอาด เครื่องกรองน้ำใหญ่มากกกกกกกกกพูดเลอ

จุดที่หก แปรงหวีผมที่ไม่สะสมเชื้อโรค

หวีเป็นเป็นนวัตกรรม SILVER NANO NYLON ราคาแพง

ทำให้ไม่มีเชื้อโรค แบคทีเรีย สะสม ยิ่งโดนความร้อนจากไดร์ เชื้อโรค แบคทีเรีย

จะตายไปเอง

จุดที่ห้า ไดร์เป่าผมที่เป็น IONIC

ไม่ทำลายความชุ่มชื่นของเส้นผม ถนอมน้ำในเส้นผมอย่างที่เข้าบอก น่าสนใจตรง

นวัตกรรมไม่มีแร่ใยหิน ที่สะสมนาน เกิดปัญหาสุขภาพในปอด ถ้าลามไปมากก็

อาจทำให้เป็นมะเร็งปอด ไดร์พวกนี้สนน ราคาอยู่ที่ 18,000-25,000

 

นี่เป็นเหตุผลทางสุขภาพทั้งหมดที่ทำให้ร้านนี้ค่อนข้างเป็นเอกลักษณ์ มีจุดเด่น

แตกต่าง และ การตั้งราคา ค่อนข้างเหมาะกับนวัตกรรม หรือ อุปกรณ์ที่เขาใช้

เพราะลงทุนอย่างมากตั้งแต่ชั้นบรรยากาศ การคัด STYLIST ที่มีฝีมือ

การใช้เทคโนโลยีต่างๆกับเส้นผมทุกขั้นตอน เป็นอีกร้านที่มีระดับ

แบบแนวรักษาสุขภาพที่ค่อนข้างชัดเจนแตกต่าง และ ฝีมือการทำออกมา

ดี สมคำร่ำรือ ค่ะ ไม่ได้อวย แต่การันตี เวลาที่เจอใคร ทุกคนชมหมดว่าสีผมสวย

ดูสุขภาพผมดีขึ้น อาจเพราะมันสีเข้มขึ้นด้วยค่ะ แต่ผมคือเซลล์ที่ตายแล้ว

ที่แห้งบำรุงไป มันก็จะดีเท่าที่เราบำรุง แต่ถ้าเราไม่บำรุงมันก็แห้งเหมือนเดิมต้อง

ตัดทิ้งและเลี้ยงใหม่ ผมที่ทำออกมาแค่เป่าลม ดูเงาขึ้น

ส่วนปลายผมตอนนี้ดูแลอย่างหนักค่ะ

กับ STYLIST พี่ชล ที่เนรมิต และ ทำสีนี้ให้ค่ะ

พี่ชลเป็นเจ้าแม่การทำ BRAZILLIAN BROWOUT ด้วย ลูกค้าค่อนข้างเยอะ

ดังนั้นใครอยากมาใช้บริการโทรจองคิวก่อน และ การทำสีวันจันทร์ อังคารได้ลดอีก

ลองติดตามข้อมูลดูค่ะ

STYLIST ที่ดูแลสีผมให้เอิ๊กในวันนี้ได้แก่พี่ชล และ น้องปลั๊กค่ะ

สีผมวันนี้เรียกว่า LIVING ASH สีบลอนด์เข้มประกายเขียวหม่น

สีผมปัจจุบันหลุดออกสว่างขึ้น มีแต่คนชมค่ะว่าสีสวย

แต่ส่วนตัวคิดว่าจะไปเติมโคนและพักผมเป็นสีนี้ซักระยะ ค่อยไปทำเข้มอีกรอบ

 

และวันก่อนไปเกล้าผมออกงานที่ MARK THAWIN ออกแบบโดยอจ.เสริฐ

สวยมาก การเกล้าผมออกงานทราบราคาประมาณ 1,000บาทเริ่มต้นค่ะ

โดยเราสามารถนัดจองคิวได้เหมือนเดิมค่ะ

 ติดตามข้อมูล รายละเอียด และ บริการของทางร้านได้ที่

http://www.markthawin.com/th/home/index.php

https://www.facebook.com/Markthawin

 


Posted in HAIR, REVIEWComments (2)

REVIEW : GINO MCCREY เปิดลิปสติก พาแลทอายแชโดว์ ลิปไลเนอร์ แทบกรีดร้องงงงง สวยสะพรึงงงงง

วันนี้กลับบ้านมาเปิดถุงที่ไปรษณีย์มาส่ง กล่องดำมาเป็นตับแล้ว แกะออกมาแล้วถึงกับอึ้ง

พาเลท GINO MCCREY เขาส่งมาให้เก๋มาก ไม่รู้ราคาเท่าไหร่เขาไม่ได้แนบมาและ

ลิปสติกเนื้ออย่างสีสด ดูจากแท่งพิกเมนท์แน่นมาก บอกเลยมันต้องโดนอะแบรนด์นี้

สีลิปปาดออกมาจากแท่ง เนื้อแน่นมาก จนอดไม่ไหว เอามาทาที่ปากให้ดูสีนึง ขอติหน่อย

เรื่องของแท่งลิปสติก พอหมุนออกมาจนสุด บางแท่งเนื้อแท่งลิปจะล้มออกจากด้าม

เสียใจมาก T^T แล้วมันก็ครูดกับขอบแท่งลิปสติก อยากจะเอาหัวโขกพื้นตาย

รุ่นนี้ชื่อว่า GINO McCRAY The Professional Make Up Lipstick

อย่าสนใจขนจมูกดิฉัน ดูความอิ่มวาว มัน เนื้อแน่นของนางก่อน นางสวยนะคะ

ปากที่แห้งลอกของหญิงเมิ๊กหายวับไปพริบตาเดียว ไปเสริทข้อมูลราคามา

249-. ถูกมากกกกก เนื้อดีมาก เอาใจไป พรุ่งนี้จะหอบไปแต่งหน้าเล่นด้วย

พาเลทอันนี้ เปิดมาหัวใจจะวาย สวยมาก ออกแบบเก๋มาก เสริทราคา 850 บาท 

สีละมุนมุกวาววามมาก ไม่กล้าปาด

แต่เพื่อจะได้รู้ว่ามันเป็นไง ขอไถสีละ 3 ที

สีออกนวลมาก ออกง่ายมาก สวยมาก ละมุนวุ่นจิ๊บมาก ชอบมากกกกก

โทนสีมีตั้งแต่โทนหวานละมุน หรูหรา สุขุม เปรี๊ยว แซ่บ ขอบคุณๆมากค่ะ

คิดดูละกันปกติกว่าจะอัพบลอคชาติเศษ เห็นวันนี้ทันที สวย ต้องบอกต่อเลย

แปรงๆๆๆๆๆๆนุ่มโฮกกกกกกก เคลิ้มมม ><

ลิปไลเนอร์ สีตุ่นไปหน่อย แต่เพื่อความติดทนของลิปสติก ว่าจะลองใช้

สีไม่ค่อยถูกใจ แต่มากับแปรงทาลิปอีกด้านมี 2 หัว หัวนึงลิปไลเนอร์ หัวนึงแปรง

ลิปไลเนอร์ปาดให้ดู ขำขำ อิอิ

วันนี้พอแค่นี้ก่อน ซ้อมเต้นมาวันนี้ ไปเฝ้าแม่ที่โรงพยาบาลมาอีกตอนเย็น จะสลบแล้วจ๊า

ลองไปเล่นกันดู สบายกระเป๋า สำหรับราคา พรุ่งนี้คาดว่าจะเอาไปแต่งหน้าตัวเอง

นกองถ่ายงานด้วย อิอิ แล้วจะ SNAP มาให้ชมกัน จุ๊บๆๆๆๆ

Posted in MAKE UP, REVIEWComments (1)

REVIEW : แชมพู&ครีมนวด ESSENTIAL DAMAGE CARE LIMITED EDITION SAKURA SMOOTH

ทางแบรนด์ส่ง ESSENTIAL DAMAGE CARE สูตร SAKURA SMOOTH มาให้ลอง

ซึ่งพิเศษคือเป็นสูตร LIMITED EDITION ออกมาพร้อมๆกันหน้าซากุระบานที่ญี่ปุ่น

แน่นอนว่าทั้งขวด และ กลิ่นจะเป็นซากุระสีชมพู ส่วนเอิ๊กแพ้ตั้งแต่คำว่า

LIMITED EDITION ซะแล้ว

สูตรนี้โฆษณาบอกว่า

” สำหรับผมเสียระดับปานกลาง ผมแห้ง พันกัน ขาดความเงางาม “

สูตรนี้จึงทำหน้าที่ฟื้นฟูบำรุงเส้นผมให้หอมกลิ่นซากุระ พลิ้ว ลื่น

เงางาม จรดปลายผม15 เซน

บำรุงลึกถึงแกนผมชั้นในสุด เคลือบปิดเกล็ดผมที่ฉีกขาด

ปกป้องผมเสียได้มากถึง 4 เท่า พร้อมล็อคความชุ่มชื่นไว้ภายใน

ฟื้นบำรุงผมเสียโดยเฉพาะปลายผม 15 ซม. ผมนุ่มลื่นสุขภาพดี ไม่พันกัน

ตั้งแต่สระจนถึงแห้ง เปลี่ยนผมแห้งเสีย พันกัน ให้พลิ้วเงางาม ในทุกสไตล์ผม

พร้อมกลิ่นใหม่ หอมหวานซากุระ เพิ่มความสดใส ดูมีชีวิตชีวา “

ทางแบรนด์ส่งมาให้ลองทั้งแชมพู & ครีมนวด

หน้าตาขวดหวานซากุระมากเป็นลายดอกซากุระ ลองดมจะมีกลิ่นหอมเบาเบาสบายๆ



มี STICKER ติดชัดเจนว่า สูตรนี้เป็น “LIMITED EDITION “ นะหมายความว่าจะออกมา

แค่ช่วงเวลานึงเท่านั้น กระตุ้นความอยากลองเข้าไปอีก

สูตรนี้เหมาะสำหรับผมเสียระดับปานกลาง และ อาจจะมีความแห้งจนถึงขั้นพันกัน

  แต่คุณสมบัติหลักของ Essential Damage Care ทุกสูตรเค้าเน้นเรื่องการฟื้นบำรุงผมแห้งเสีย

 ผมพันกันอยู่แล้ว และ สูตรนี้ออกมาเอาใจความเป็นซากุระหวานๆ น่ารัก สดใส 

สูตรนี้ Essential DAMGE CARE พัฒนาโดยใช้เทคโนโลยี 

HAIR ALIGNMENT TECHNOLOGY ที่จะเป็นเทคโนโลยีเฉพาะที่เคลือบปิดเกล็ดผม

ให้ผมนุ่มลื่น ไม่พันกัน ดูมีสุขภาพดีขึ้น

จำข้อความที่เขาบอกไว้ดีดี ที่ท้าให้สางผมขณะเปียกว่าจะลื่น ไม่พันกันรึเปล่า ผมเอิ๊กเสียมาก

และ พันกันสุดๆ เดี๋ยวเอิ๊กจะลองดู และ หลักๆ ยังคงมีส่วนผสมเด่นที่มีในทุกสูตรอย่าง

HONEY & SHEA BUTTER เพราะช่วยให้ผมชุ่มชื่น และ

ปกป้องผมให้ความร้อนเข้าทำลายผมได้น้อยที่สุด

เนื้อผลิตภัณฑ์แชมพูจะเป็นสีขาวมุข และ ค่อนข้างเหลวอยู่เหมือนกัน ไม่เป็นเนื้อหนัก

เนื้อผลิตภัณฑ์ครีมนวด จะข้นกว่าแต่ไม่มาก เนื้อยังไม่หนักมาก ทั้งแชมพู & ครีมนวด

จะมีกลิ่นหอมซากุระ กลิ่นจะเบาๆ จมูก

มาถึงขั้นตอนเวลาทดลองของจริง เราจะทำให้ขวดแชมพู&ครีมนวดเปียกน้ำก่อน 55555

เปียกปอนเป็นเพื่อนกับเรา 😛

ถึงเวลาต้องแกะหัวเน่าๆที่ดองมาหลายวันแล้วสินะ ……… ถ้าทุกคนจะได้กลิ่นคงไม่ใช่เรื่องที่ดี

เราก็จัดการเปิดฝักบัว ชโลมศีรษะให้ชุ่ม

กระหน่ำกดแชมพู ตามความยาวของเส้นผม ของเอิ๊กชอบสระผม 2 รอบ – 3 รอบกลัวไม่ทั่วถึง

เอิ๊กว่าเนื้อแชมพูค่อนข้างเหลวกดแล้วรีบนำมาชโลมที่เส้นผมทันทีก่อนมันไหลลงอ่าง

แชมพูเราจะขยำด้วยอุ้งนิ้วมือ ไม่เกานะคะ เดี๋ยวหนังศีรษะถลอกนะคะ ! นวดให้ทั่วศีรษะ

แล้วล้างออก เสร็จรอบที่ 1

เอิ๊กรู้สึกว่าตั้งแต่รอบแรก แชมพู ก็ทำให้รู้สึกว่าผมนุ่มใช้ได้เลย แล้วเราก็ชโลมแชมพูรอบ2

หรือ ใครถนัด รอบเดียว ครึ่งรอบก็ได้นะ 5555 ตามความชอบส่วนบุคคลแล้วก็นวดเหมือนเดิม

หลังจากนั้นเราก็ล้างแชมพูรอบที่ 2 ออก ล้างตั้งแต่รอบแรก รู้สึกว่าผมลื่น รอบสองก็เช่นกัน

ส่วนกลิ่นคงแล้วแต่ความชอบ ส่วนตัวคิดว่ากลิ่นของสูตรนี้หอมอ่อนๆ แต่ตัวเอิ๊กเองชอบกลิ่น

มหึมานิดนึง และ แน่นอนว่าสูตรนี้สำหรับผมเสียปานกลาง ผมเอิ๊กก็จะรู้สึกได้ระดับนึง

เพราะผมเอิ๊กเสียมากกกกกกก พันมากกกกกกก แห้งมากกกกกกก อ่อนแอมากกกก

แต่สิ่งที่สัมผัสได้ชัดเจนคือเรื่องผม นุ่ม ลื่น ไม่พันกันตั้งแต่เริ่มสระด้วยแชมพูจริงๆ


เมื่อล้างแชมพูเรียบร้อยแล้ว เราก็จะตามด้วยครีมนวดเท่ากับความยาวเมื่อเว้นจากโคน

ประมาณ 5-10 เซนติเมตร แล้วเราจะเริ่มลงตั้งแต่ที่เราเว้นโคนไว้จนถึงปลายผม

เราจะเน้นนวดแค่ปลายผม ไม่ให้โดนด้านบนหนังศีรษะ เพราะครีมนวดเข้มข้นมาก

ตรงไหนแห้ง นวดเยอะๆ อย่ากลัวผมเจ็บ 5555

หลังจากนั้นเราก็ทิ้งครีมนวดไว้ซักพัก จะเอาหมวกมาคลุม ผ้าชุบน้ำอุ่นบิดหมาดมาคลุม

ก็แล้วแต่เรา เอิ๊กก็โพกขึ้นไป และ รัดยางไว้เฉยๆ แล้วก็อาบน้ำทำอย่างอื่นไปพลางๆ

ถึงเวลาล้างออกลองสางดู ตั้งแต่ รอบแชมพูผมลื่น ไม่พันกันเลย ลื่น และ นุ่มมาก

เดี๋ยวรอดูตอนแห้งอีกทีว่าจะพันกันเปล่า ส่วนกลิ่นก็หอมอ่อนๆอย่างที่บอก

 

อันนี้คือเป่าแห้งเฉยๆ เอิ๊กรู้สึกว่าผมทิ้งตัวดีพอสมควร ผมหวีง่าย ไม่พันกัน นุ่ม เอิ๊กชอบที่

มันทิ้งตัวดี หวีง่าย เวลาไดร์ก็เหมือนเราหนีบผมตรง มันก็จะทิ้งตัวยาว แต่เพราะผมเอิ๊กแห้ง

คิดว่าความแห้ง และ เสียมาก อาจต้องบำรุงแบบเข้มข้นคือหมักทรีทเมนท์เพิ่มเติม

แต่เรื่องปัญหาผมพันกันแห้งแข็งกระด้างจัดการได้ดีค่ะ

 

ZOOM ปลายผม ตั้งแต่โคนก็แห้ง ปลายผมนี่แห้งสุดๆ แต่ตอนสระจับแล้วนุ่มขึ้นนะคะ

ปกติไดร์ผมบางครั้งจะรู้สึกผมแห้งๆมากขึ้น แต่ไม่เป็นวันที่ลองวันนี้

ดูการทิ้งตัวด้านข้าง คือ หวี และ ไดร์ ก็ทิ้งตัวได้เรียบลื่นดี ชอบ ยิ่งเวลามัดผม ผมทิ้งตัว

หางม้าสวยเลย ลืมถ่ายมาให้ดู

สำหรับผมเอิ๊กที่เสียมากสุดๆ กลับมาไม่พันกัน และ ลื่น ทิ้งตัวขึ้น เอิ๊กโอเคนะคะ

สำหรับ แชมพู&ครีมนวดสูตรนี้ และ ชอบแพคเกจเป็นการส่วนตัว

แถมเป็น Limited Edition ด้วยยิ่งชอบใหญ่

 

ปล. ตอนนี้ ESSENTIAL DAMAGE CARE มีทุกสูตรที่บ้าน

ข้อดี ผมไม่พันกัน นุ่ม ลื่น ทิ้งตัว และ ไม่รู้สึกแห้งมากเวลาใช้ไดร์เป่า หาซื้อง่าย ณ วัตสัน ราคาสบายกระเป๋า

ข้อเสีย เป็น Limited มีเฉพาะหน้านี้เท่านั้น   อีกข้อด้วยความที่ ESSENTIAL DAMAGE CARE เข้มข้นมาก อยากให้ก้มหัวสระผม สำหรับคนที่สิวขึ้นหลังแผ่นอกง่าย แนะนำ ก้มหัวสระอย่าให้โดนแผ่นหลัง หรือ หน้าอก

ข้อแนะนำ อยากให้ทำสูตร LIMITED EDITION มาเปลี่ยนบรรยากาศบ่อยๆแบบนี้อี

 

หวังว่าคงจะชอบกันกับการรีวิว แชมพู & ครีมนวด ESSENTIAL DAMAGE CARE

สูตรSAKURA SMOOTH แบบทีละขั้นตอนนะคะ

ขอบคุณที่ติดตามอ่าน และ เป็นกำลังใจให้กันอย่างดีเสมอมาพบกับใหม่บลอคหน้าค่ะ <3

Posted in HAIR, REVIEWComments (0)

REVIEW & HOW TO : SULWHASOO EVENFAIR PERFECTING CUSHION


SULWHASOO EVENFAIR PERFECTING CUSHION

ได้ลองกลุ่มแรก เอาเป็นว่าใครเห็นก็ต้องนึกถึงเอิ๊ก เอิ๊กชอบมาก บีบี , รองพื้นชุ่มในฟองน้ำ

ตัวนี้เพิ่งเข้าไทยเมื่อเดือนมกราคม 54 ด้านบนคือโฆษณาที่ออกมาของรองพื้นตัวนี้ที่บอกว่า

เป็นปรากฏการณ์ใหม่ของรองพื้นสูตรอัจฉริยะ ที่ผสานคุณสมบัติในการปกปิดผิวได้อย่างแนบ

เนียน พร้อมฟื้นบำรุงผิวให้ดูกระจ่างใส รับมือกับปัญหาริ้วรอยแห่งวัย และปกป้องผิวจาก

แสงแดดในขั้นตอนเดียว

นวัตกรรมรองพื้น SULWHASOO EVENFAIR PERFECTING CUSHION
1. ใช้เทคโนโลยี Film Polymer ให้ความแนบเนียนสนิทกว่าโพลิเมอร์ทั่วไป ไม่หนักหน้า
ปกปิดติดทนและให้ผิวผ่องใสยาวนาน 12 ชั่วโมง
2.ใช้เทคโนโลยีพิเศษ Inner Dispersion (กระบวนการเดียวกับสีน้ำโดยการละลายเม็ดสี
ในน้ำแทนในน้ำมัน) เทคโนโลยี เอกสิทธิ์ของกลุ่มผลิตภัณฑ์เมคอัพของโซลวาซูที่ช่วยให้
เกลี่ยง่าย สวยเรียบเนียน เหมือนสีน้ำ และติดทนยาวนาน
3. มี 3 คุณสมบัติเด่นใน 1 เดียว : sunscreen/whitening/wrinkle correction ด้วย
ส่วนผสมของอะดีโนซีน, น้ำมันสกัดจากเมล็ดแอปริคอต  ป้องกันการเสื่อมสลายของ
คอลลาเจน เพื่อผิวกระชับ เรียบเนียน

 

เหตุผลส่วนตัวที่ชอบ SULWHASOO EVENFAIR PERFECTING CUSHION

  1. ประหยัดเวลาลงรองพื้นกรณีใช้ตัวเดียว เร็วมาก โปะ โปะ โปะ
  2. ปกปิดดี 
  3. หน้าฉ่ำวาว 
  4. เนียน
  5. เย็น
  6. กันแดด
  7. บำรุงในตัวและมีงานวิจัยรองรับเรื่อง [ ริ้วรอย ] [ทดสอบอยู่]
  8. พกพาได้
  9. เติมซ้ำระหว่างวันไม่เป็นคราบ

แอบงงว่าทำไมเหตุผลที่เราชอบถึงมากกว่าที่เขาโฆษณา >< 

SULWHASOO เป็นแบรนด์ที่เอิ๊กชอบสกินแคร์หลายตัว และ รวมถึง รองพื้น เบส

แป้งผสมรองพื้น หลายคนรู้ว่าเป็นสกินแคร์ หรือ เครื่องสำอาง ที่เป็นแบรนด์ระดับหรู

เน้นปรับสมดุลน้ำหล่อเลี้ยงผิวให้ชุ่มชื่นอยู่เสมอ เอิ๊กใช้มาตลอด1ปีกว่า เพราะเอิ๊ก

หน้าแห้ง สกินแคร์หลายตัวถ้าพูดถึงเรื่องการลดริ้วรอยส่วนใหญ่เนื้อครีมจะหนัก

แต่ SULWHASOO เบา เมคอัพจะเบาสบายผิว เห็นผิว คือ เงา ฉ่ำ สุขภาพดีเอิ๊ก

ใช้มาต่อเนื่องซื้อซ้ำ หมดไปหลายรอบทั้งสกินแคร์ และ เมคอัพ โดยไม่มีสิวขึ้นเลย

เอาเป็นทั้งซื้อเอง ซื้อฝาก และ แบรนด์ให้ ต้องมีแบรนด์นี้ติดบ้านติดคอนโดไว้ตลอด

บอกเลยจากใจว่าเป็นอีกแบรนด์ที่แนะนำ ถ้าอยากลองอะไรที่ชุ่มชื่น บำรุงผิวจาก

ธรรมชาติ โดยเฉพาะพวกโสม เอิ๊กชอบกลิ่นที่ผ่อนคลายเป็นพิเศษเหมือนอยู่ในสปา

[ เคล็ดลับการลงรองพื้นกับช่างแต่งหน้าชื่อดังของเกาหลีเทคนิคนี้เนียนกริบ ]

สำหรับตัวนี้เอิ๊กจะบอกว่าชอบรองจาก รองพื้นเนื้อครีม เพราะเอิ๊กว่าตัวนี้ปกปิดได้ดีทีเดียว

ส่วนตัวชอบปกปิดไม่มาก ชอบให้คนเห็นรอยสิว 55555 วิธีแก้คือ กดเนื้อรองพื้นออกมา

เล็กน้อยพอ แล้วย้ำบางบางจะได้ลุคใสใสที่รวดเร็ว เนียน เย็น ข้อนี้ได้เปรียบรองพื้นน้ำ

และ พกเติมระหว่างวันได้ไม่เป็นคราบ หรือ กดทับบริเวณที่เลอะบนใบหน้าได้จะเนียนดังเดิม

ทางแบรนด์ให้มา ตอนนี้มีโปรโมชั่นของแบรนด์ซื้อรองพื้นตัวนี้ได้พัฟฟองน้ำ 2 อันและ

ลิปแคร์บำรุงริมฝีปาก 1 หลอดขนาดพกพาออกสีเล็กน้อยทาแล้วดูเหมือนปากอมชมพูขึ้น

มาในตลับขาวทอง หรูหรา CONCEPT SULWHASOO เหมือนเดิม ดูเรียบหรูแบบผู้ใหญ่

เอิ๊กได้มาลองลงสีให้ดู 4 สีที่วางขายในประเทศไทยทุกสาขา

NO.13 – LIGHT PINK

NO.21 – MEDIUM PINK

NO.23 – MEDIUM BEIGE

NO.24 – DEEP BEIGE

เรียงจากซ้ายไปขวาตามลำดับแสงธรรมชาติ VS แสงแฟลช

NO.13 – LIGHT PINK

NO.21 – MEDIUM PINK

NO.23 – MEDIUM BEIGE

NO.24 – DEEP BEIGE

แสงธรรมชาติในร่ม VS แสงแฟลช

เทียบบนผิวหน้าจะบอกว่าผิวเริ่มคล้ำลง ตอนนี้ใช้เบอร์ 23 ล่ะ เทียบแนวกราม

แต่ใช้เบอร์21 ก็ได้จะอมชมพูดูมีสุขภาพดี ได้ทั้ง 2 สีสำหรับสาวผิวเหลืองอย่างเรา 😛

ราคา 2,000 บาท ภายในกล่องประกอบด้วยตลับที่บรรจุรองพื้นที่สามารถREFILLได้

คู่มือ และ รองพื้นพร้อมฟองน้ำที่ REFILL อีก 1 ชิ้น

ตลับ และ กล่องชัดๆ แพคเกจ ขาวหรู ดูเรียบง่ายมาก

ฟองน้ำที่ไม่กินเนื้อรองพื้น เห็นบางๆอย่างนี้ ตบเบาๆ เนียนมากนะจ๊ะบอกเลย และ ทดสอบ

ความชุ่มของรองพื้นในเนื้อฟองน้ำให้ดู กดลงไป รองพื้นจะเอ่อขึ้นมาติดนิ้วทันที

วันนี้จะมาสอนลงรองพื้น 3 ลุค ที่นอกเหนือจากช่างแต่งหน้า MR. JIN SOO LEE แนะนำ 

อุปกรณ์

  1. Sulwhasoo Evenfair Smoothing Makeup Base
  2. Sulwhasoo Evenfair Smoothing Foundation 
  3. Sulwhasoo Evenfair Perfecting Cushion
  4. Sulwhasoo Concentrated Ginseng Renewing Essential Oil

เทคนิคที่ 1 : ลุคเมคอัพชุ่มชื้น วาวใส เปล่งปลั่ง

เหมาะสำหรับวันเบาเบาที่ต้องการให้หน้าดูเนียนเรียบ ชุ่มฉ่ำ สีผิวสม่ำเสมอ

และได้รับการบำรุงไปในตัว เช่น ไปเรียน ไปทำงานประจำวัน

อุปกรณ์

  1. Sulwhasoo Evenfair Perfecting Cushion
  2. Sulwhasoo Concentrated Ginseng Renewing Essential Oil

BEFORE หน้าสดก็มีร่องรอยสงครามกันบ้าง รอยแดง รอยสิว ใต้ตาคล้ำ มีครบ

เริ่มด้วยบำรุงผิวหน้าด้วย Sulwhasoo Concentrated Ginseng Renewing

Essential Oil 1-3 หยด ก่อนการแต่งหน้าขั้นต่อไป จะบอกว่าถ้าหน้าไม่มีปัญหา

รองพื้นไม่ต้อง ลง OIL นี่หน้าวาวฉ่ำโบ๊ะมาก

ลง Sulwhasoo Evenfair Perfecting Cushion เบอร์ 23 ลงไป

กดลงเบาๆไม่เกิน 30 วินาทีลงรองพื้นเสร็จแล้ว มาแข่งกันลงรองพื้นได้ปกติ

ไวกว่าแน่นอน 555555 มันแจ่มก็ตรงนี้ โปะ โปะ โปะ เรียบร้อย ออกจากบ้านทันเวลา

เบอร์23แอบขาวไปนิดด้วยซ้ำ สงสัยต้องหันมาใช้ WHITENING ล่ะตอนนี้

BEFORE – AFTER เนียนเงาไหมคะ 🙂



เทคนิคที่ 2 : หน้าเนียนฉ่ำปกปิดปานกลาง

อุปกรณ์

เหมาะสำหรับวันที่เป็นทางการและต้องการความเป๊ะขึ้นมาอีกระดับ

ต้องการให้หน้าดูเนียนเรียบ ชุ่มฉ่ำ สีผิวสม่ำเสมอ ได้รับการบำรุงไปในตัว

ดูน่านับถือ เช่น ไปสมัครงาน ไปงานเลี้ยงช่วงกลางวัน ไปเดท  ฯลฯ

  1. Sulwhasoo Evenfair Perfecting Cushion
  2. Sulwhasoo Evenfair Smoothing Makeup Base

เริ่มต้นการลงเบส Sulwhasoo Evenfair Smoothing Makeup Base 

ปรับผิวให้ดูสว่าง แต้ม 5 จุดแล้วเกลี่ยให้ทั่วใบหน้าอย่างเบามือ

ผิวจากการลงเบสจะดูผ่องขึ้น รอยสิวดูงดงามขึ้น [ เว่อร์ไป 555 แต่ดูดีขึ้นจริงๆนะ ]

 ตามด้วยรองพื้น Sulwhasoo Evenfair Perfecting Cushion เบอร์ 23

กดทับเบาๆลงไปทั่วใบหน้าให้ทั่ว

BEFORE-AFTER พอไม่ได้ลงออยแล้วจะดูฉ่ำเล็กน้อย เดี๋ยวจะค่อยฉ่ำมากขึ้น

ระหว่างวันที่ทำปฏิกิริยากับน้ำมันบนใบหน้าของผิวแต่ละคน

เทคนิคที่ 3 : หน้าเนียนฉ่ำ ปกปิดสูง

อุปกรณ์

เหมาะสำหรับ วันที่เป็นวันพิเศษ วันที่ต้องเป๊ะ ย้ำต้องเป๊ะ

ต้องการให้หน้าดูเนียนเรียบ ชุ่มฉ่ำ สีผิวสม่ำเสมอ ปกปิดดี หน้าเป๊ะ

เงา ฉ่ำ สวย ไร้ร่องรอย หน้าดูมีมิติ และ ได้รับการบำรุงไปในตัว

เช่น ไปงานเลี้ยงรุ่น [ ต้องสวยเพราะเจอเพื่อนเก่า ] รับปริญญา

งานเลี้ยงกลางคืน งานแต่งงานตัวเอง ฯลฯ

  1. Sulwhasoo Evenfair Perfecting Cushion No.13,23,25
  2. Sulwhasoo Evenfair Smoothing Foundation
  3. Sulwhasoo Evenfair Smoothing Makeup Base

เริ่มต้นด้วย Sulwhasoo Evenfair Smoothing Makeup Base

ปรับสภาพผิวให้สว่างพร้อมรบ

ลงรองพื้นด้วย Sulwhasoo Evenfair Smoothing Foundation NO. เล็กน้อย

บนบริเวณที่ต้องการปกปิดเป็นพิเศษ รอยสิว รอยคล้ำใต้ตา รอยมุมปาก โดยบีบออกมาลง

บนหลังฝ่ามือ แล้วค่อยๆกดแต้มลงบริเวณที่มีปัญหาสีผิวไม่สม่ำเสมอ หรือ บริเวณที่ต้องการ

ปกปิดให้ดูเนี๊ยบเป็นพิเศษ กดย้ำ และ เกลี่ยลงไปเบาๆ

ลุคนี้ต้องเป๊ะ เราต้องสร้างมิติแสงเงาให้กับใบหน้าเราจะใช้รองพื้น 3 สี 

1. สีพอดีกับผิว – รองพื้นทั่วใบหน้า 

2. สีเข้มกว่าผิว – เฉดดิ้ง ให้หน้าดูเรียวเล็ก 

3. สีสว่างกว่าผิว – ไฮไลท์ ให้หน้าดูมีมิติ ดูพุ่ง นูน มีส่วนโค้งเว้า

ลงรองพื้นสีพอดีกับผิวทั่วใบหน้าด้วย

Sulwhasoo Evenfair Perfecting Cushion N0.23

ใช้ Sulwhasoo Evenfair Perfecting Cushion N0.25 สีเข้มกว่าผิว

ที่บริเวณกรอบหน้าข้างแก้ม ไรผม เพราะเอิ๊กแก้มเยอะ และ หน้าผากกว้าง

ดูบริเวณที่ต้องลงตามรูปค่ะ

ลง Sulwhasoo Evenfair Perfecting Cushion N0.13

สีอ่อนกว่าผิวที่ กลางหน้าผากหว่างคิ้ว สันจมูก ปลายคาง รอยต่อจมูกก้บปาก

ใต้ตา ดูบริเวณที่ต้องลงตามรูปค่ะ

ลุคนี้หน้าดูมีมิติมาก หน้าดูเรียวกว่าความเป็นจริง รวมถึงสันจมูกที่ดูเข้า

รูปทุกภาพไม่มีการตกแต่งเพื่อให้เห็นผิว และ สีรองพื้นที่แท้จริง 🙂

ลองแต่งหน้าเล็กน้อยลุคนี้ฉ่ำหวานมากต้อนรับวาไลนไทน์

รวม 3 เทคนิคลองนำไปใช้กันดูนะคะ

Sulwhasoo Evenfair Perfecting Cushion

ข้อดี

ประหยัดเวลา เร็ว / ปกปิดดี / ชิ้นเดียวเอาอยู่นะบางที / หน้ำฉ่ำวาวเหมาะกับสาวหน้าแห้งอย่างเรา เหมาะกับสาวหน้ามันช่วงหน้าหนาว / เนียน / เย็นๆ / กันแดด / บำรุงลดริ้วรอย รอยดำ [ทดสอบอยู่] พกพาได้ / เติมซ้ำระหว่างวันไม่เป็นคราบ / REFILL ได้ชอบ

ข้อเสีย

พัฟต้องระวังแบคทีเรียที่เราหยิบมาเติมบนใบหน้าที่เลอะฝุ่นละอองระหว่างวัน / หมดไวอยู่นะ / เคาท์เตอร์มีน้อยสาขา 

ข้อแนะนำ

พัฟเปลี่ยนบ่อยหน่อยก็ดีค่ะ สำหรับคนที่เติมระหว่างวันบ่อย เอิ๊กไม่ค่อยเติมเท่าไหร่ หน้าแห้งติดแน่นทนอยู่แล้ว / หน้ามันอยู่เมืองไทยอาจจะมันเร็วไปนิด อยู่เมืองนอกผิวจะฉ่ำสวย

AFTER NO FILTER กันไปเลย

ใครกำลังเล็ง เราจัดเต็ม REVIEW ให้ท่านแล้ว ลองตัดสินใจกันดูส่วนข้าพเจ้าก็จะเป็น

สาวกที่น่ารักของ SULWHASOO ตลอดไป รวมถึงแม่ข้าพเจ้าด้วย ลากกันมาเป็นทีม

XOXO

ข้อมูลเพิ่มเติม

www.facebook.com/sulwhasoothailand 

@sulwhasoothailand

– www.youtube.com/amorepacificth

และมีจำหน่ายที่

เซ็นทรัลลาดพร้าว -เซ็นทรัลบางนา -เซ็นทรลแจ้งวัฒนะ

เซ็นทรัลพระราม 2 -เซ็นทรัลชิดลม -เซ็นทรัลปิ่นเกล้า -สยามพารากอน

 

Posted in FACE, HOW TO, MAKE UP, REVIEWComments (0)

REVIEW – ลิป MAYBELLINE LIP POLISH GLAM6

Posted in LIPS, REVIEWComments (0)

advert

Google

erk-erk.com





BEAUTY MENU

มาคุยกับเอิ๊กได้ที่นี่ทุกวัน ถ้าว่างรีบตอบทุกคำถามค่ะ

INSTAGRAM @wwwerkerkcom

[instagram-feed]

ติดตามบล็อค erk-erk.com อย่างใกล้ชิด

เพียงกรอก Email ตรงนี้เลย

LINE @erk-erk

เพิ่มเพื่อน

Related Sites