Posted on 30 November 2012. Tags: ELECTROPORATION, IskyCenter, ผิว
การนำส่งตัวยา วิตามิน สารอาหารทางผิวหนังเป็นอีกทางเลือก นอกเหนือจากการรับประทานยา และ ฉีดยา เป็นวิธีที่สะดวก ไม่เจ็บเหมือนการใช้ยาฉีด และเป็นการหลีกเลี่ยงการถูกทำลายยาจากกรดและน้ำย่อยในระบบทางเดินอาหารเวลาเราทานเข้าไป ข้อจำกัดคือ ต้องเป็นตัวยาที่มีเพียงไม่กี่ชนิดที่สามารถซึมผ่านผิวหนังและมีประสิทธิภาพในการรักษา ความจริงวิธีการส่งผ่านสารอาหาร วิตามิน ลงสู่ผิวหนังนั้นเราทำได้หลายวิธี แต่วันนี้จะเลือกวิธี ELECTROPORATION มาเล่าสู่กันฟัง เพราะ สามารถในการเพิ่มสารอาหาร หรือ วิตามิน ผ่านผิวหนังได้อย่างชัดเจน ใช้ระยะเวลาออกฤทธิ์สั้นใช้กับตัวสารอาหารที่มีคุณสมบัติแตกต่างกันได้หลายชนิด เช่น Q10,Hormone, DNA, Vaccine และ Peptide และ การกระตุ้นกระแสไฟฟ้าเป็นจังหวะก็สามารถทำให้สารอาหารผ่านผิวหนังได้อีกเป็นเวลานาน สามารถควบคุมปริมาณยาได้
Electroporation
Electroporation เป็นวิธีการส่งผ่านสารอาหารที่จำเป็นต่อผิวแม้สารที่มีโมเลกุลใหญ่ก็ทำได้ เช่น คอลลาเจน,วิตามินC,Hyaluronic Acid,Q10 เข้าสู่ผิว ส่งผลให้ ผิวหน้าสดใสและมีสุขภาพดีขึ้นได้อย่างรวดเร็ว โดยมีความปลอดภัยสูง จะผลักลงผิวโดยผ่านสารที่มีประจุไฟฟ้าในรูปไอออน + และ ไอออนลบเข้าสู่ผิว ส่งผลให้โครงสร้างชั้นไขมันที่เนื้อเยื่อหุ้มเซลล์เกิดการเปลี่ยนแปลงชั่วขณะโดยเปิดช่องว่างชั่วคราวประมาณ 1-2 วินาที เมื่อผิวชั้นบนสุดเกิดรูทำให้เพิ่มการซึมผ่านของผิวจึงลงลึกและดีกว่ามือทา ผลได้พอๆกับการฉีดสารอาหารลงบนผิว “อารมณ์เปิดผิวชั่วคราว” เปิดแล้วใส่สารอาหารดีดี แล้วมันก็ปิดเองหลังจากใส่เสร็จ ลงลึกกว่ามือทาประมาณ 95% เพราะผิวไม่ยอมให้อะไรซึมผ่านลงไปง่าย ประสิทธิภาพจะชัดเจน และ เห็นผลไวกว่ามือทามาก วิตามินสามารถส่งผ่านไปภายในเซลล์ และระหว่างเซลล์ได้มากขึ้น ไม่ทำให้ค่า PH ของผิวเปลี่ยน ไม่ทำให้ผิวบาง
การเตรียมตัวก่อนทำ
ถ้าสภาพผิวแข็งแรงอยู่แล้วก็สามารถปรึกษาแพทย์ผิวหนังและทำได้เลยทันที หลังจากทำความสะอาดใบหน้าให้เรียบร้อยหมดจด ไม่ทาอะไร เวลาทำ จะรู้สึกเหมือนกล้ามเนื้อมันกำลังออกกำลังกาย คล้ายมันกำลังหดตัวยืด หดตัวยืด ไม่เจ็บ ระยะเวลาประมาณ 30 นาที การทำก็ประมาณ 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ แต่ครั้งแรกเราจะเริ่มรู้สึกได้ว่าผิวดูชุ่มชื่น ดูมีน้ำมีนวล สุขภาพดี เพราะมันผลักลงไปลึก โดยแพทย์ผิวหนังจะตรวจสภาพผิวหน้าและเลือกวิตามิน หรือ สารบำรุงผิวให้เหมาะสมกับสภาพผิวหน้าและปัญหาที่ต้องการแก้ไขของแต่ละบุคคล
ข้อดี
- เปิดผิวออกชั่วคราวเพื่อให้ตัวยาซึมผ่างลงสู่ใต้ผิวได้ลึกกว่ามือ
- ไม่ต้องเจ็บตัวเหมือนกับการฉีดสารอาหารลงสู่ผิว
- ช่วยดูแลปัญหาผิวพรรณหลายจุด เช่น จุดด่างดำ ปัญหาผิวแห้ง ริ้วรอยเล็ก
- ประสิทธิภาพดี เห็นผลไวกว่าการทาครีมลงสู่ผิว
- เพิ่มการไหลเวียนของเลือด
- ช่วยให้ออกซิเจนไปเลี้ยงผิวได้ดีขึ้น
- ผิวสุขภาพดี ยืดหยุ่น นุ่มนวลขึ้น
- ผลักสารโมเลกุลใหญ่ได้
ข้อด้อย
- การซึมของตัวสารอาหารวิตามิน อาจลงลึกไม่เท่ากับการฉีดลงไป
[ ภาพ : http://www.akaraclinic.com/derma-pore.php ]
วิธีการส่งตัวยา สารอาหาร หรือ วิตามิน ของ ELECTROPORATION / PHONO/IONTO
ELECTROPORATION จะส่งสารอาหารโดยการเปิดรูทางเดินตั้งแต่ชั้นขี้ไคลถึงระดับเซลล์ทำให้ตัวยาซึมผ่านลงไปได้ขณะที่ Ionto และ Phono ไม่มีการเปิดทางเดินของยาก่อน ดังนั้นตัวยาจึงสามารถผ่านลงไปใต้ผิวเล็กน้อยเท่านั้น – akaraclinic –
ประเภทของสารอาหาร หรือ วิตามิน หรือ ตัวยาที่ใช้ส่งผ่าน
ELECTROPORATION สามารถส่งผ่านตัวยาได้ทุกประเภทไม่ว่าจะโมเลกุลเล็กหรือใหญ่ ทั้งที่มีประจุหรือไม่มีประจุในขณะที่ IONTO สามารถส่งผ่านตัวยาที่มีประจุเท่านั้นและ PHONO ไม่สามารถส่งผ่านตัวยาที่มีขนาดใหญ่มากได้
การดูแลหลังการทำELECTROPORATION
- ไม่มีอาการบวมแดง
- แต่งหน้า ทาครีม ได้ตามปกติ
- ทากันแดดสม่ำเสมอเป็นประจำ
ELECTROPORATION จะใช้ผลักสารที่ช่วยเรื่องอะไรบ้าง
- หน้าขาวกระจ่างใสขึ้น
- ลดรอยคล้ำจากฝ้า และกระ ปรับสีผิวให้เนียนเรียบเสมอกัน
- ยกกระชับใบหน้า และลำคอ
ผลลัพธ์
- ลบเลือนผิวแตกลาย
- เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว
- เพิ่มการไหลเวียนของเลือด นำพาวิตามินและสารอาหารที่จำเป็น ต่อผิวให้ซึมซาบเข้าสู่ผิวได้โดยตรง
- เพิ่มความสดใสและขาวเนียนของใบหน้า
- ควรทำต่อเนื่องทุก 2-4 อาทิตย์ 5-10 ครั้ง
ส่วนตัวเคยทำทั้ง PHONO และ IONTO แต่ตัวนี้ไม่เคยลอง รู้สึกว่าแค่ PHONO ผิวก็ดีขึ้นมากเลย เขาบอกอันนี้ดีกว่า PHONO หลายเท่า แล้วจะมารายงานผลนะคะ 😀 เอิ๊กว่าเอิ๊กเหมาะกับการทำทรีทเมนท์ตัวนี้ เพราะตอนนี้ผิวแข็งแรงในระดับนึงแล้ว ฮ่าๆๆๆ
แหล่งข้อมูล
– www.iskycenter.com
– Akara Clinic
Posted in BEAUTY TECHNOLOGY, SKIN
Posted on 04 October 2012. Tags: IskyCenter, ผิว, เคล็ดลับ
- การดื่มแอลกอฮอล์ทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำ ผิวก็จะสูญเสียน้ำตามไปด้วย ทำให้ผิวแห้งกร้าน และอาจมองเห็นรูขุมขนชัดขึ้นได้
- เมื่อรูขุมขนกว้าง ร่วมกับมีน้ำมันถูกขับผ่านรูขุมขนมากขึ้น ทำให้เกิดการอุดตันได้ง่าย คนที่รูขุมขนกว้าง จึงมักมีหน้ามันและมีสิวอุดตันตามมา
- รูขุมขนกว้าง ถ้าพบในคนอายุน้อย มักจะเป็นคนที่มีผิวมัน แต่ถ้าพบตอนอายุมากขึ้น ถือเป็นสัญญาณหนึ่งที่แสดงว่าคอลลาเจนที่ผิวเริ่มเสื่อมสภาพ
- ข้อดีของการมีรูขุมขนกว้างคือ เวลาทาอะไรลงบนผิวหน้าแล้ว ยา ครีม หรือโลชั่นจะถูกดูดซึมเข้าสู่ผิวหนังได้ดีกว่า
- ข้อดีของคนผิวคล้ำคือ มีโอกาสเกิดริ้วรอยย่นได้น้อยกว่า แก่ช้ากว่า มีโอกาสเป็นมะเร็งผิวหนังน้อยกว่าคนขาว
- คนขาวก็มีปัญหาของตัวเอง เช่น จะทนแดดได้สั้นกว่าคนคล้ำ โดนแดดนิดหน่อยผิวก็จะแสบ แดง มีอาการไหม้ ลอก ได้ง่าย
- การลดความอ้วน ทำให้ขาดสารอาหาร ผิวหนังจะแห้งกร้าน ผมร่วง เล็บจะเปราะบางฉีกขาดง่าย
- การเจ็บป่วยเรื้อรังเป็นเวลานานเกิน 3 เดือน การผ่าตัดใหญ่ คลอดบุตร ทำให้ผมร่วงได้
- การป่วยเป็นโรคโลหิตจาง ทำให้สีผิวดูซีดลง ริมฝีปากสีอ่อนลงได้
- การแพ้เครื่องสำอางมักเกิดจากการแพ้น้ำหอม และสารกันเสียในเครื่องสำอางมากที่สุด
- การเกิดสิวหลังทาครีมกันแดด ไม่ถือว่าเป็นการแพ้ครีมกันแดด แต่เป็นเพราะครีมกันแดดทำให้เกิดสิวอุดตันได้ต่างหาก
- การบีบ แคะ แกะ หรือกดสิว อาจทำให้เกิดสิวอักเสบ มีรอยแดง รอยดำ หรือหลุมสิวตามมา
- รอยแดงสิวไม่มีครีมหรือยาทาชนิดไหนช่วยได้ นอกจากรอ 6-9 เดือนให้หายไปเอง หรือทำเลเซอร์ 3-4 ครั้งถึงจะจางลง
- สีของลิปสติกที่มีโอกาสแพ้บ่อยที่สุดคือ สีแดง ซึ่งเป็นสียอดนิยม
- คนที่มีผื่นคันรอบดวงตา อาจเกิดจากการแพ้ eyeshadow หรือ ยาทาเล็บ
- คนที่มีประวัติแพ้พลาสเตอร์ จะมีโอกาสแพ้ mascara eyeliner และลิปสติกได้บ่อย
- ถั่วเหลืองนี่ดีต่อสุขภาพจริง ๆ กินก็ได้ประโยชน์ สารสกัดจากถั่วเหลืองเมื่อเอามาทาลงบนผิวก็ให้ความชุ่มชื้นและลดริ้วรอยได้
- การดูแลผิวให้สวยสดใส ไม่จําเป็นต้องซื้อวิตะมินหรือคอลลาเจนแพงๆ มากิน แค่กินผักผลไม้ ปลาและอาหารให้ครบ 5 หมู่ และนํ้าเยอะๆ ก็พอ
- คนนอนดึก ถ้าตื่นมาแล้วใต้ตาคล้ำ ให้เอาถุงชา (แบบชงดื่มเสร็จแล้ว) ชุบน้ำแช่เย็นจัดมาโปะตา 10-15 นาที รอยคล้ำจะจางลง
- การรักษาหลักของฝ้าคือการทายาและครีมกันแดดอย่างต่อเนื่อง เลเซอร์สำหรับรักษาฝ้าจะใช้ในกรณีที่ดื้อต่อการรักษาด้วยยาเท่านั้น
- การโกนขนไม่ได้ทำให้ขนดำขึ้น แข็งขึ้น หรือมากขึ้นแต่อย่างใด เพียงแต่ขนที่พึ่งขึ้นใหม่หลังโกนจะมีปลายตัดทำให้ดูเห็นชัดขึ้น
- ยิ่งล้างหน้าบ่อย หน้าจะยิ่งมัน เพราะเมื่อความมันถูกล้างออก ต่อมไขมันจะยิ่งผลิตน้ำมันขึ้นมาชดเชย ทำให้ต่อมไขมันทำงานมากขึ้น
- การแต่งหน้าจัดไม่ทำให้หน้าแก่เร็ว แค่ทำให้ดูแก่ขึ้นเท่านั้น
- ไม่ควรใช้เครื่องสำอางหรืออุปกรณ์แต่งหน้าร่วมกับคนอื่นหรือลองใช้เครื่อง สำอางตามเคาน์เตอร์ เพราะถ่ายทอดเชื้อโรคสู่กันได้ โดยเฉพาะเชื้อเริม
- อุปกรณ์แต่งหน้า เช่น ฟองน้ำหรือแปรง ควรทำความสะอาดเดือนละครั้งด้วยน้ำอุ่นและสบู่ เพราะเป็นแหล่งสะสมแบคทีเรีย
- การเก็บเครื่องสำอางในตู้เย็นไม่ดีเสมอไป เพราะความชื้นในตู้เย็นจะทำให้เครื่องสำอางเนื้อแป้งเสียคุณสมบัติ เนื้อครีมแยกขั้นได้
- เครื่องสำอางจะหมดอายุเร็วถ้าอยู่ในที่ร้อน หรือถูกแสงแดด เพราะจะทำให้วัตถุกันเสียหรือส่วนผสมของเครื่องสำอางเสื่อมสภาพเร็ว
- การทารองพื้นลงบนหน้า ไม่จำเป็นต้องรอ 10-15 นาทีหลังทาครีมกันแดด เพราะรองพื้นจะไม่ถูกดูดซึมเข้าสู่ผิวหน้าอยู่แล้ว จึงสามารถทาได้ทันที
- ผลิตภัณฑ์สำหรับผิวผู้ชาย จะต้องเน้นเรื่องการทำความสะอาด ลดความมันและควบคุมความมันของใบหน้า และมีส่วนผสมของน้ำมันน้อยกว่า
- การนอนเปิดไฟทำให้ผิวหน้าคล้ำ มีจุดด่างดำได้ เพราะแสงไฟจะมี UVA ซึ่งมีผลทำให้หน้าดำ เกิดริ้วรอยก่อนวัยได้
- การนอนโดยไม่ล้างเครื่องสำอางให้สะอาดก่อนเข้านอน เป็นสาเหตุหลักของการเกิดสิวอุดตัน
- การนอนอ้าปากทำให้ริมฝีปากแห้ง แตกง่าย เกิดรอยย่นที่ริมฝีปากได้
- การนอนน้ำลายไหล ทำให้เกิดเชื้อราที่มุมปากและแก้มได้
- การนอนตะแคงข้างใดข้างหนึ่งเป็นประจำ จะทำให้ใบหน้าข้างนั้นมีริ้วรอย และร่องแก้มมากกว่าใบหน้าอีกข้างหนึ่ง
- พฤติกรรมบางอย่างก็ทำให้เกิดริ้วรอยบนใบหน้าโดยไม่รู้ตัว เช่น เวลานอน ถ้าชอบนอนตะแคงข้างใดข้างหนึ่ง ร่องแก้มข้างนั้นจะลึกกว่าอีกข้างนึง
- ไม่ควรรีบทาครีมหรือยาเพื่อป้องกันแผลเป็น เพราะยาต่าง ๆ อาจทำให้เกิดการระคายเคืองแผล หรือทำให้แผลหายช้าได้
- ถ้ามีอาการแสบร้อน อาจใช้ยาสีฟันหรือครีมโกนหนวดทาลงบนแผลก่อนได้ แต่ควรระวังในขณะทายา ไม่ควรถูหรือป้ายยาลงบนแผลแรงเกินไป
- ปริมาณของครีมกันแดดที่กันแดดได้ดีทีสุดคือ ความยาวของครีมที่บีบเท่ากับ 2 เท่าของความยาวข้อปลายนิ้วชี้
- เพื่อถนอมผิวจากอันตรายจากแดด ควรหลีกเลี่ยงการออกกลางแจ้งในช่วง 10.00-16.00 น. เพราะเป็นช่วงของวันที่แดดแรงที่สุด
- ไม่ควรผสมครีมบำรุงผิวกับครีมกันแดดเข้าด้วยกันก่อนทาลงบนผิว เพราะจะทำให้ ครีมกันแดดเจือจาง ประสิทธิภาพของครีมกันแดดในการปกป้องผิวจะลดลง
- เครื่องกำบังแดดที่ดีคือ ร่มเงาของชายคา สวมหมวกปีกกว้าง กางร่มกันUV สวมเสื้อเนื้อผ้าแน่นและสีเข้ม
- การชอบขยี้ตา มักทำให้เกิดริ้วรอยรอบดวงตา คนสายตาสั้นที่ไม่ยอมใส่แว่น มักจะมีรอยขมวดคิ้ว เพราะต้องเพ่งสายตาเพื่ออ่านหนังสือ
- การชอบแสดงสีหน้าบางอย่างก็เป็นกรรมพันธุ์ เช่น ครอบครัวที่ชอบขมวดคิ้ว ก็จะขมวดคิ้วกันทั้งบ้าน มีรอยย่นหว่างคิ้วเมื่อแก่กันทุกคน
- รอยย่นบนใบหน้ามีสาเหตุหลัก 2 ประการคือ ความแก่ของผิว (ทั้งจากอายุที่เพิ่มขึ้นและแสงแดด) และการแสดงสีหน้า
- ริ้วรอยที่เห็นเฉพาะเวลาแสดงสีหน้า เช่น ตอนยิ้มเห็นตีนกา แต่เวลาไม่ยิ้มก็จะไม่เห็นตีนกา ริ้วรอยชนิดนี้รักษาได้โดยการฉีด botulinum toxin
- ไม่ควรนำครีมหลายตัวมาผสมกันแล้วทาลงบนผิวพร้อมกัน เพราะสารในครีมอาจ ทำปฏิกิริยากันทำให้เกิดผลเสีย เสื่อมฤทธิ์ หรือแย่งการดูดซึมสู่ผิวได้
- การทาครีมหลายตัวทับกันในเวลาสั้น ผิวหนังจะไม่สามารถดูดซึมครีมหรือยาได้ ทั้งหมด ทำให้ประสิทธิภาพของครีมหรือยาที่ทาลดลงเพราะถูกดูดซึมน้อย
- การทายาหรือครีมลงบนผิวหนัง ทาไม่เกินวันละ 2 ครั้งก็พอ ถึงแม้ทามากกว่าวันละ 2 ครั้ง ประสิทธิภาพในการดูดซึมยาหรือครีมไม่ได้เพิ่มขึ้นมากนัก
- ครีมทามือหรือทาเท้า ถ้าจะให้มีประสิทธิภาพดี ควรทาก่อนนอน แล้วใส่ถุงมือ ถุงเท้าคลุมเอาไว้ จะเพิ่มการดูดซึมของครีมได้ดียิ่งขึ้น
- กลิ่นตัวของคนเราจะถูกกำหนดด้วยปัจจัยหลายอย่าง เช่น อาหารที่รับประทานเข้าไป ลักษณะการใช้ชีวิต เพศ อายุ สุขภาพ การรับประทานยาต่างๆ
- อย่ารักษารอยคล้ำด้วยวิธีขัดถูแรงๆ หรือสคับแรงๆ เพราะจะเป็นการกระตุ้นให้เกิดสีคล้ำเข้มมากขึ้น
- การขัดถูผิวหน้าหรือสครับหน้าแรงๆทำให้ผิวหยาบกระด้าง และอาจทำให้เกิดตุ่มสีขาวเล็กๆที่ดูคล้ายสิวอุดตัน
- ยาทาที่ใช้สำหรับรอยคล้ำสิวและรอยคล้ำจากยุงกัดที่ได้ผลดี เช่น ไฮโดรควิโนด กรดวิตะมินเอ กรดผลไม้
- การบีบ แกะ และกดสิวทำให้ผิวเกิดการอักเสบมากขึ้นส่งผลให้เกิดรอยคล้ำตามมา ฉะนั้นเป็นสิวอย่าบีบ แกะ หรือเค้นเด็ดขาด
- ปกติรอยคล้ำที่เกิดตามหลังผิวอักเสบบริเวณหน้าจะจางเร็วกว่าที่ลำตัว แต่ที่แขนขาจะหายช้าที่สุด อาจใช้เวลาเป็นปี
- การหลบแดดและทาครีมกันแดดช่วยให้รอยคล้ำจากสิวจางเร็วขึ้นด้วย
- ไม่ควรใช้เลเซอร์ในการรักษารอยดำสิว หรือรอยดำจากการอักเสบอื่น ๆ เนื่องจากเสี่ยงต่อการทำให้เกิดรอยดำมากขึ้น
- หลายคนยังเข้าใจผิดคิดว่าสิวเสี้ยนที่จมูกคือสิว และใช้ยาทาสิวรักษา แล้วจะไปหายได้อย่างไงล่ะครับ
- สิวเสี้ยนเห็นเป็นจุดดำเล็กๆที่จมูก ที่จริงจุดดำนั้นคือเส้นขนหลายเส้นที่แทงออกมาจากรูเดียวกัน เลเซอร์กำจัดขนรักษาสิวเสี้ยนได้
- ท่านที่มีปัญหาเรื่องผมร่วงควรไว้ผมทรงสั้นจะดีกว่า เพราะการไว้ผมยาวจะเพิ่มโอกาสผมร่วงจากการถูกดึงรั้งมากกว่าในขณะสระผมหรือหวีผม
- ผมบนศีรษะเหมือนใบไม้ ผมเส้นเก่าต้องรวงเพื่อให้เส้นใหม่งอกขึ้นมา ปกติผมจะร่วงวันละ 100-150 เส้น วันที่สระผมหรือหวีบ่อยๆผมจะร่วงมากขึ้น
- ความเชื่อที่ว่าหวีผมวันละ 100 ครั้งจะทำให้ผมงอกดกและยาวเร็วไม่เป็นความจริง ยิ่งหวีมากยิ่งร่วงมากต่างหาก
- คนผมบาง/ศีรษะล้านควรสวมหมวกเพื่อป้องกันแดดเวลาออกกลางแจ้งแดดจัดหรือเวลา เล่นกีฬากลางแจ้งโดยเฉพาะก๊อล์ฟ เพราะไม่มีเส้นผมป้องกันหนังศีรษะจากแดด
- สารปรอทเป็นโลหะหนักที่มีพิษสะสมในร่างกายแม้ได้รับในปริมาณน้อย ก็สามารถทำให้ผู้ใช้ครีมมีผิวบางลง ผิวจะมีความไวต่อแสงมากขึ้น
- ครีมกันแดดช่วยป้องกันรือชะลอการเกิดริ้วรอย กระแดด กระเนื้อ และฝ้า
- กระแดด กระเนื้อ ฝ้า ไฝ ขี้แมงวัน เป็นรอยคล้ำที่กระตุ้นจากแสงแดดทำให้หน้าหมองคล้ำ ไม่ใส
- การรักษาฝ้าต้องหลบแดดและทากันแดดอย่างเคร่งครัว เพราะถึงแม้จะรักษาฝ้าได้จางแล้ว ก็จะกลับมาเป็นใหม่ได้อีกถ้าโดนแดด
- ปัญหาของการโกน ถอน และแว๊กซ์คือการเกิดรูขุมขนอักเสนเห็นเป็นจุดแดงหรือตุ่มหนองรอบๆรูขุมขน เลเซอร์กำจัดขนช่วยแก้ปัญหานี้ได้
- ตำแหน่งที่คนไข้ชายนิยมกำจัดขนได้แก่ 1. หน้าอก 2. หลัง 3. บริเวณเคราในคนเคราดก เพราะการโกนขน/หวดบ่อยๆจะทำให้เกิดรูขุมขนอักเสบเห็นเป็นตุ่มแดงๆ
- ตำแหน่งที่คนไข้ผู้หญิงนิยมกำจัดขนคือ 1. รักแร้ 2. หน้าแข้ง 3. ไรหนวดอ่อน 4. ขอบบิกืนี่
- การทำเลเซอร์กำจัดขน 1 ครั้ง ขนจะหายไป 10-15% หากทำซ้ำที่เดิมทุกเดือนติดต่อกัน 7-8 ครั้ง ขนหายเกือบ 100%
- แสงแดดไม่ใช่ทำลายแต่ผิวหนังอย่างเดียว กระตกตาถ้าถูกแดดนานๆทำใ้ดกิดต้อกระจกได้ เวลาออกแดดควรสวมแว่นตากันแสง UV ด้วย
- ส่วนที่คนมักลืมทาครีมกันแดดคือ ใบหู คอ และส่วนที่เสื้อไม่ปิดเช่น หน้าอกตอนบน หลังมือและหลังแขน
- แสงแดด UVA สามารถทะลุผ่านกระจกได้ ใครนั่งทำงานริมน้าต่างต้องระวังโดยปิดม่าน UVA ทำลายคอลลอเจนทำให้เกิดรอยเหี่ยวและหนังยาน
- หากผิวไหม้แดดและมีผื่นแดงแสบร้อนให้ประคบด้วยผ้าชุบน้ำเย็นบ่อยๆ
- เชื้อราที่ผิวหนังรักษาได้ด้วยยาทา อาจต้องกินยาหากเป็นหลายตำแหน่ง
- ขี้กลากเป็นการติดเชื้อราชนิดหนึ่งที่ผิวหนัง ซึ่งส่วนใหญ่ติดมาจากสัตว์สู่คน
- การสวมรองเท้าส้นสูงเป็นประจำทำให้เกิดตาปลาเพราะน้ำหนักตัวจะถูกเทไปอยู่เฉพาะเท้าส่วนหน้า และนิ้วเท้าด้านบน
- วิธีรักษาตาปลาคือ การทายา และการฝาน ห้ามรักษาโดยการผ่าตัดหรือจี้ไฟฟ้าและเลเซอร์เพราะอาจเกิดแผลเป็นเวลาเดินจะปวดตลอด
- การใส่รองเท้าส้นสูงเป็นประจำเป็นสาเหตุให้เกิดการปวดหลังเพราะแนวกระดูกสันหลังเกิดการแอ่นมากผิดปกติ
- ชายที่ดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำจนติดอาจมีหน้าอกโตเพราะมีการเพิ่มขึ้นของฮอร์โมนเอสโตรเจน (ฮอร์โมนเพศหญิง) ในร่างกาย
- แอลกอฮอล์ทำให้หลอดเลือดที่ผิวขยายตัวและแตกง่าย สังเกตุว่าคนที่ดื่มแอลกอฮอล์จะหน้าแดงง่ายและเห็นเป็นเส้นเลือดฝอยที่หน้าและอก
- การขาดวิตะมินเอบวกกับผิวขาดน้ำเป็นตัวเร่งทำให้ผิวแก่ก่อนวัย คนที่ดื่มเป็นประจำจะดูแก่ก่อนวัย
- การกดสิวทำโดยใช้ปลายเข็มขนาดเล็กสะกิดผิวตื้นๆแล้วใช้อุปกรณ์กดหัวสิวกดออก
- การกดสิวทำโดยใช้ปลายเข็มขนาดเล็กสะกิดผิวตื้นๆแล้วใช้อุปกรณ์กดหัวสิวกดออก
- การนอนคว่ำหรือนอนตะแคงผิวหน้ามีโอกาสยับ ถูกทับ ถูไถและเสียดสีไปกับปอกหมอน ผ้าปูที่นอนและผ้าห่มได้ตลอดเวลา
- วิธีลดรอยย่นจากการนอนแบบง่ายๆ เช่น ใช้หมอนที่นุ่ม เลือกปอกหมอนผ้าปูที่เป็นผ้าซาตินเลี่ยงผ้า cotton หรือฝึกนอนหงาย
- คนที่ชอบนอนหงายจะเป็นริ้วรอยบนหน้าน้อยกว่าคนที่ชอบนอนตะแคงหรือนอนคว่ำ
- คนที่ชอบล้างมือบ่อยๆหรือทำงานที่มือต้องแช่น้ำบ่อยๆ มักจะมีอาการบวมแดงของจมูกเล็บดังรูปเพราะเป็นเชื้อรา
- การหยุดสูบบุหรี่ไม่ได้ทำให้ริ้วรอยจากการสูบเดิมหายไป แต่จะช่วยลดการเสื่อมสลายของผิวให้น้อยลง
- สารในควันบุหรี่ยังเร่งกระบวนการทำลายเส้นใยคอลลาเจนในผิว ลดปริมาณวิตะมิน A และ C ในผิว
- ผลเสียของควันบุหรี่ต่อผิวที่สำคัญมี 2 อย่างคือ ทำให้แก่เร็วกว่าเพื่อนในวัยเดียวกันและทำให้แผลหายช้า
- เมื่อทาครีมแล้วเกิดอาการผื่นบวมแดงและคันแสดงว่าอาแพ้ครีมให้ล้างออกด้วยการฟอกสบู่อ่อนแล้วล้างน้ำและไปพบแพทย์ถ้าไม่ดีขึ้น
- การทาครีมหลังอาบน้ำเสร็จใหม่ๆจะทำให้ครีมซึมลงผิวได้มากกว่าผิวปกติ
- ปริมาณครีมทาบนผิวหนังที่เหมาะสมคือการใช้ครีมปริมาณที่น้อยที่สุดที่สามารถครอบคลุมพื้นที่ที่ต้องการทา
- ก่อนทาครีมบนผิวควรซับผิวให้แห้งเพราะน้ำที่อยู่บนผิวจะเจือจางความเข้มข้นของครีม
- การทาครีมบริเวณที่ผิวอ่อนเช่นรอบดวงตา,ซอกพับ,ขาหนีบ,อวัยวะเพศควรใช้ครีมปริมาณน้อยเพราะเกิดการระคายเคืองง่าย
- ขอเตือนท่านที่คิดจะไปฉีดฟิวเลอร์เพื่อเสริมดั้ง ควรเลือกฉีดกับแพทย์ผู้มีประสบการณ์เพราะผลข้างเคียงที่อันตรายคือ ตาบอด หากฉีดเข้าไปในเส้นเลือด
- ผิวหนังรอบดวงตาบริเวณที่มีผิวหนังค่อนข้างบอบบางหากเทียบกับผิวหนังบริเวณ อื่นของร่างกาย และมีโอกาสเกิดการแพ้และเกิดแผลเป็นได้ง่ายกว่า
- ตีนกาเกิดจากการที่กล้ามเนื้อหดตัวแล้วคลายตัวไม่หมด ทำให้เห็นเป็นรอยเท้ากาคาไว้ข้างตา
ขอบพระคุณข้อมูล
จากทวิตเตอร์ @DrWoraphong @DrRungsima คุณหมอผิวหนังสุดฮอตในทวิตเตอร์ค่ะ
Photo Reference : bloggang.com, jaranskinclinic.com, doctorcosmetics.com, kajabbi.com,nomoremelasma.blogspot.com, n3k.in.th, petcharatbeauty.com, hnzic.blogspot.com, health.kapook.com, torojunior.blogspot.com, board.postjung.com, toonne.com, chaoprayanews.com, kvamsook.com, xn--12ca1ducec1gdtz3j6d.com, komwit.com, lauvenzee.com, beautysecret.co.th, imarm.com, boojazzy.com, exteen.com, weloveshopping.com,ir-beautina.info, globalfashionreport.com, morebeautybypim.tarad.com, dek-d.com, augustzarisa.exteen.com, learners.in.th, kvamsook.com,health.ladytips.com, variety.teenee.com, women.thaiza.com,toptenthailand.com, crostbello.com, health.kapook.com, catninelifecanter.blogspot.com, women.mthai.com, xn--12cf3caxc5cp3ei6dr4a6o9a2g.com, health.kapook.com, globalfashionreport.com, charming-house.com, zazana.com
Posted in BEAUTY, SKIN