Tag Archive | "ฟอกฟัน"

หมอฟันบอกต่อ .. แปรงฟันให้ถูกวิธี


Posted in TEETHComments (0)

BEAUTY TALK – รวบรวมวิธีทำให้ “ฟันขาว ” สวย


 

 

 

ความลับของคนที่ฟันขาวคืออะไร? ….

เวลาเราเห็นดารา นางแบบอยู่ฟันขาวจั๊วะ จนต้องถามว่าทำอะไรมา ฟันขาวเงาวาววับสะท้อนแสงมาก คือมันรับไปทุกส่วนเลย หน้าสวย ยิ้มสวย แล้วเขาก็ดูเหมือนจะยิ้มบ่อยมากกกกกกกกก ดูแล้วเพลิน จะพูดอะไรเลยไม่ค่อยได้ฟัง เพราะมองแต่ใบหน้าและรอยยิ้มของผู้หญิงคนนี้  …

เลยเปิดกระทู้อ่านไปเรื่อยๆ พบว่า ความลับ หรืออาจจะไม่ลับของดาราที่ฟันขาวสวย คืออะไร ? มิน่าละ ก็ว่าอยู่เราเองก็ดูแลอย่างดีทำไมยังเหลืองนวลต่างจากเค้า สังเกตุว่าดาราต้องยิ้ม ต้องเจอสื่อตลอด เขาจะต้องมั่นใจสุดชีวิต อย่างน้อยหน้าตา แต่งหน้า ทรงผม แต่งตัวต้องเป๊ะ และต้องยิ้ม ยิ้ม ยิ้ม ยิ้ม ซึ่ง80% ฟันขาวมาก จนเราแอบนึกไปว่าดูแลกันดีจริงๆเล้ยยย

เห็นได้ว่าฟันขาวขาว ส่งผลต่ออะไรต่อความรู้สึกของคนมองอย่างเราบ้าง รู้สึกว่าเขาเป็นคนมั่นใจ บุคลิกดี ดูสดใส ยิ้มกี่ทีก็สวยสว่างวาบตลอด ฮ่า ฮ่า ฮ่า เป็นที่มาของหัวข้อในวันนี้ จะมาพูดถึงวิธีการได้มาซึ่ง ฟันขาวจะขาวแบบธรรมชาติ ขาวแบบสว่างสไว หรือ ขาวเกินหน้าเกินตาแบบดารา วันนี้เรามาทำความรู้จักวิธีทำฟันขาวสารพัดชนิด กันดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง ?

 

และ ก่อนอื่นสาเหตุที่ทำไมคนเรามีสีฟันต่างกัน บางคนเหลืองน้อย เหลืองมาก ขาวอมเหลือง ฯลฯ คือ ..

คนที่มีสีฟันขาวสว่างเป็นเพราะมีชั้นเคลือบฟัน (Enamel) ค่อนข้างหนา จึงปิดบังสีของชั้นเนื้อฟัน (Dentin) ที่มีสีเหลืองที่อยู่ถัดเข้าไปได้มิด ส่วนคนที่ฟันสะอาด ไม่มีคราบสี & อาหารติดอยู่ แต่ยังดูเหลืองอยู่ แสดงว่ามีชั้นเคลือบฟันบาง สีของชั้นเนื้อฟันจึงโผล่ขึ้นมาให้เห็นชัดเจนกว่า และ คนที่มีฟันสีเทาเข้ม เป็นแถบ ๆ ไล่จากคอฟันขึ้นมาปลายฟัน อาจเป็นเพราะมารดาทานยาเตตร้าซัยคลินตอนตั้งครรภ์ สีฟันจะผิดปกติไป ฟันอีกประเภทที่มีสีคล้ำลงชัดเจนเฉพาะซี่ คือฟันตาย เพราะเส้นเลือดถูกตัดขาดและเศษซากของเม็ดเลือดแดงในรากฟันจะซึมเข้าท่อเนื้อฟันทำให้ดำ ตอนเด็กเคลือบฟันเราหนาฟันเลยขาวจั๊วะ โตมาหน่อยเคลือบฟันเราก็บางลงเรื่อยๆ จนเห็นีเนื้อฟัน สีเหลืองชัดกว่าตอนเป็นเด็ก ฟันเหลืองยังรวมไปถึงอาหารที่รับประทาน ชา กาแฟ คราบอาหารด้วย ..

twitter ทันตแพทย์ @vudhibhong

วิธีการทำฟันขาวมีประมาณ 10 วิธี

ความจริงมีเยอะ แต่นั่งเอิ๊กรวบรวมและเรียบเรียงใหม่ เลือกมาเฉพาะที่เห็นกันได้ในเมืองไทย

1. ยาสีฟันสูตรฟันขาว (Whitening)

หลักการ : ใช้ยาสีฟันที่เป็นสูตรฟันขาวร่วมกับแปรงสีฟัน โดยแปรงตัวยาสีฟันลงบนฟัน ในยาสีฟันสูตรฟันขาวโดยมากจะมีส่วนผสมที่กำจัดคราบเม็ดสีที่เกาะตามผิวฟัน มีสารเคลือบฟันป้องกันฟันผุ หินปูน คราบพลัค มีสารขัดฟันพิเศษบางชนิด จึงทำให้ฟันดูขาวขึ้น ส่วนมากจะมีส่วนประกอบของสาร Silica ช่วยขจัดคราบต่างๆโดยไม่ทำลายเคลือบฟันและทำให้ฟันขาวขึ้นแบบธรรมชาติ

ข้อดี : ราคาถูก ปลอดภัยสูง ไม่ทำลายผิวเคลือบฟัน ถ้าใช้แรงในการแปรงที่เหมาะสมและขนแปรงไม่แข็งเกินไป

ข้อเสีย : ต้องใช้ระยะเวลา ต้องใช้ประจำและต่อเนื่องนานหลายเดือนกว่าจะเริ่มเห็นผล ขาวได้ไม่ที่สุด ขาวได้เท่ากับธรรมชาติฟันของเรา

 

2. น้ำยาบ้วนปากสูตรฟันขาว (Whitening) 

หลักการ :  อาจไม่ค่อยให้ผลที่เด่นชัด 

ข้อดี : ราคาถูก ไม่ทำลายเคลือบฟัน ปลอดภัยสูง

ข้อเสีย : เห็นผลยากกว่ายาสีฟัน อาจจะรู้สึกได้ว่าฟันสะอาดกว่าที่เคย และอาจไม่สามารถทำความสะอาดคราบหินปูนที่เกาะลึกมานานได้

 

3. ขูดหินปูน

หลักการ : ช่วยขจัดคราบเม็ดสีเข้มที่มาเกาะฟัน คราบอาหาร หรือหินปูนที่ติดบนชั้นเคลือบฟันและตามซอกเหงือก ซอกฟันออกไป

ข้อดี : ช่วยให้ฟันดูขาวขึ้นนิดนึงหลังจากเอาหินปูนออกไปแล้ว เป็นการเช็คสุขภาพของฟัน ฟันผุอีกทางนึงโดยผู้เชี่ยวชาญ ควรทำทุก6เดือน-1ปี เพื่อลดปัญหาสุขภาพช่องปากที่จะตามมาในอนาคต

ข้อเสีย : ฟันไม่ได้ขาวกว่าที่มันขาวได้ เพียงแต่ดูสะอาด ดูฟันมีสีอ่อนลง

 

4. ฟอกฟันขาวโดยใช้น้ำยาเคมี (ลักษณะตั้งแต่เป็น เจล ครีม น้ำยา)

4.1 ทำเองที่บ้าน

หลักการ : เป็นเจล น้ำยา หรือ ครีม ที่มีส่วนผสมหลักคือคาร์บาไมด์  เพอร์ออกไซด์ (เป็นสารประกอบของ ไฮโดรเจนเปอออกไซด์กับยูเรีย จะอ่อนกว่าไฮโดรเจนเปอออกไซด์) หรืออาจจะเป็น ไฮโดรเจนเปอออกไซด์ ที่ความเข้มข้นต่ำๆไม่เกิน  10-15% จะทำลายสีที่ติดอยู่ในฟันโดยอาศัยเวลา และปฎิกิริยาออกซิเดชั่นในน้ำยาฟอกฟัน / ถ้าซื้อน้ำยาจากหมอ หมอจะทำถาดฟันที่พอดีกับฟันเรามาให้ / ถ้าซื้อตามซุปเปอร์มาเก็ตแบบเมืองนอกจะมีถาดแบบฟรีไซส์มาให้ เทน้ำยาฟอกฟันลงไป และใส่ไว้ต่อเนื่อง 3-8 ชั่วโมงหรือทั้งคืน (ส่วนมากทำตอนกลางคืน) เห็นผลตั้งแต่ครั้งแรก แต่จะชัดสุด สัปดาห์ที่ 3 ขึ้นไป ทำต่อเนื่อง 7 – 14 วัน

ข้อดี : สะดวกไม่ต้องเดินทาง ทำเองได้ที่บ้าน  ฟันค่อยๆขาวขึ้นได้จริง แต่อยู่ไม่ถาวรต้องทำซ้ำเมื่อสีฟันเริ่มเปลี่ยน

ข้อเสีย : ใช้ระยะเวลาต่อเนื่อง ทำทีไรเสียวฟันทุกที (ส่วนมาก) ฟันเหลืองๆจะทำแล้วเห็นผลดีกว่าคนฟันขาวอยู่แล้ว บางคนอาจเสียวฟันเล็กๆแล้วหายไป บางคน เสียวฟันตั้งแต่เสียวฟันน้อยๆ จนถึงอาการเสียวฟันมากๆ บางครั้งก็จะมีอาการปวดฟันร่วมด้วย ในบางรายก็อาจจะปวดเหงือกซีดขาวจากผลของน้ำยา ดังนั้นจึงต้องศึกษาวิธีการทำอย่างละเอียดไม่ว่าจะทำเอง หรือ ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง ถาดฟันที่ให้แพทย์ทำ จะดีกว่า ฟรีไซส์ เพราะพอดีฟันมากกว่า และไม่ทำให้น้ำยาไปโดนเหงือก ให้เหงือกขาว ระคายเคือง หรือ ยุ่ย และหลังทำคอฟันยังมีสีเดิมอยู่ได้

4.2 ทำโดยคุณหมอ

หลักการ : ใช้น้ำยาใช้ไฮโดรเจนเปอออกไซด์ ความเข้มข้น  10-35% ขึ้นไป หมอจะใช้เรซินเพื่อปกปิดเหงือกขณะฟอกสีฟัน เพื่อป้องกันการระคายเคืองจากน้ำยา เมื่อใช้ความเข้มข้นสูงกว่า ปฎิกริยาไฮโดรเจนเปอออกไซด์ก็จะแตกตัวซึมเข้าสู่เนื้อฟันได้มากกว่าปกติ ทำต่อเนื่อง 45-60 นาที

ข้อดี : วันเดียวจบ ขาวทันที ขาวเป๊ะทั้งตัวฟัน และมั่นใจในความเชี่ยวชาญของคุณหมอที่ทำให้ คอฟันก็จะสีสม่ำเสมอกับตัวฟัน ด้วยเทคนิคของหมอที่เชี่ยวชาญในการฟอกฟันจริงๆ

ข้อเสีย : ราคาแพงกว่าทำเอง ข้อเสียจะคล้ายกับการฟอกฟันที่บ้าน คืออาจมีอาการเสียวฟัน หรือ ปวดฟันร่วมด้วย แต่ปัญหาน้ำยาโดนเหงือกจะไม่ค่อยมี แพทย์จะมีน้ำยาทาบริเวณเหงือป้อกกันการระคายเคือง หรือจะมีเทคนิคคอยควบคุมตัวยาไม่ให้ไหลทะลักขึ้นมาโดนเหงือก

 

5. แผ่นฟอกฟันขาว

หลักการ : เป็นแผ่นที่มีน้ำยาเจลฟอกฟันอยู่ด้านใน ลอกแล้วมาแปะที่ตัวฟัน ก็จะทำปฎิกิริยาจากไฮโดรเจน เปอร์ออกไซด์ หรือ คาร์บาไมด์  เพอร์ออกไซด์ เหมือนเดิมให้ฟันขาวขึ้น โดยแปะติดกับฟันแล้วทิ้งไว้ 30นาที – 2 ชั่วโมง ทำแค่วันละครั้ง ทำหลายวันติดต่อกัน เห็นผลขึ้นกับรุ่น สูตรที่ใช้

ข้อดี : ราคาถูก ไม่เกิน 1000 – 4000 บาท มีหลากหลายสูตรให้เลือก ทำที่บ้านได้ ขาวขึ้นได้จริง แต่อยู่ไม่ถาวรต้องทำซ้ำไปเรื่อยๆ เมื่อฟันเปลี่ยนสี การระคายเคืองน้อยกว่า เนื่องจากทำแบบค่อยเป็นค่อยไป วันละนิดวันละหน่อย

ข้อเสีย : มีการเสียวฟันได้ ต้องใช้เวลาต่อเนื่องหลายวันติดกันในการทำให้ได้ผลที่พอใจ อาจต้องทำ 8 – 40 ครั้ง หรือ มากกว่านั้นภายในหนึ่งปีเพื่อคงความขาว อาจมีการระคายเคืองเหงือก เพราะแผ่นติดไม่ได้ออกแบบมาพอดีรูปฟัน เวลาเป็นจะโดนเหงือกด้วย

 

6. ฉายแสงฟันขาว ใช้แสงที่มีความยาวคลื่นเฉพาะ เช่น แสงเลเซอร์ หรือแสงสีฟ้าที่มีต้นกำเนิดแสงเป็นพลาสม่าหรือไดโอท ยกตัวอย่างซัก 2 ชนิด

6.1   แสง Blue light

หลักการ : การทำให้ฟันขาวโดยการฉายแสงสีฟ้า ที่มีความนุ่มนวล กระจายตัวใช้ควบคู่กับเจลฟอกฟัน กระตุ้นให้เจลทำงานดีขึ้น ไม่มีความร้อน ไม่ได้รับอันตรายจากแสง UV ใช้เวลาฉายแสงสีฟ้าประมาณ 1 ชั่วโมง

ข้อดี : ครั้งเดียวจบ สีฟันใกล้เคียงกับความขาวแบบธรรมชาติ

ข้อเสีย : ราคาสูง 7000-18000 ขึ้นไป เนื่องจากใช้น้ำยาเข้มข้นสูง เฉพาะบางรายอาจทำให้เหงือกเจ็บ แสบ แดง หรือ อักเสบ และอาการเสียวฟันมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับชนิดความเข้มข้นของสารที่ใช้ฟอกฟัน รวมทั้งระยะเวลาฉายแสง อาการเหล่าจะเกิดตอนฟอกสีฟัน แต่จะหายไปเอง ฟอกได้แต่เฉพาะฟันที่อยู่ซี่ด้านหน้า ด้านในฟอกไม่ได้ ต้องระวังแสงที่ใช้ซึ่งอาจทำอันตรายดวงตาด้วยการปิดเหงือก ปิดตาหรือใส่แว่นกันแสง

6.2    แสง Laser

หลักการ : ใช้แสงเลเซอร์ (สีแดง) ที่มีความยาวคลื่นจำเพาะให้ความร้อนต่ำกระตุ้นปฎิกิริยาเคมีของไฮโดรเจนเปอออกไซด์แตกตัว สามารถทำให้น้ำยาซึมเข้าไปในฟันได้ลึกกว่าปกติ จึงกระตุ้นและทำหน้าที่ดึงวัตถุเม็ดสีได้อย่างดีโดยสามารถกำหนดทิศทางของแสงได้เฉพาะเจาะจงกว่าวิธีฉายแสงแบบอื่น ใช้ระยะเวลาในการทำประมาณ 45 นาที

ข้อดี : ทำวันเดียวจบ ปลอดภัยไม่ก่อให้เกิดอันตราย และ ระคายเคืองเหงือก เสียวฟันน้อยสุดกว่าทุกวิธี

ข้อเสีย : ราคาสูง 10000-15000 บาท ขึ้นไป ต้องระวังแสงที่ใช้ซึ่งอาจทำอันตรายดวงตาด้วยการปิดเหงือก ปิดตาหรือใส่แว่นกันแสง

 

7.เคลือบฟันเทียม หรือ วีเนียร์ (ยิ้มแบบดารา)

หลักการ : การทำชิ้นงานด้วยวัสดุสีเหมือนฟันมาปิดทับบริเวณหน้าฟัน โดยเลือกเฉดความขาวได้ วัสดุมีผลต่อความแข็งแรง อายุการใช้งาน และการดูดสีได้ดี เช่น พวกชา กาแฟ ที่นิยมจะเป็นการใช้วัสดุที่ทำจากเซรามิค และ เรซิน  เซรามิคนั้นจะแพงกว่า เรซิน 8-12 เท่า หรือมากกว่านั้น โดยจะกรอเนื้อฟันออกบางส่วนเพื่อให้เข้ากับวัสดุสีเหมือนฟัน ที่เป็นเซรามิค หรือ เรซิน วิธีนี้นิยมมากในหมู่ดารา นักแสดง พริตตี้ และ คนที่ไม่สามารถฟอกฟันได้ หรือมีฟันสีคล้ำแต่กำเนิดต้องการปกปิด จะใช้วิธีแปะวัสดุสีเหมือนฟันลงไปโดยกาวที่มีความแข็งแรงติดทน เซรามิคจะราคาสูงมากต่อซี่ 8000 – 15000 บาท หรือแพงกว่า แต่แข็งแรงทนทาน ขาวถาวร ไม่ดูดสีพวกชา กาแฟ เหมือนวัสดุอย่างพลาสติคเรซิน

ข้อดี : ขาวถาวร ทำแค่บนผิวด้านหน้าของฟันไม่ได้ทำรอบตัวฟัน และ นิยมทำแค่ฟันด้านหน้าเท่านั้นให้เวลายิ้มเห็นพอดี ถ้าจะทำฟันให้ขาวก็เลือกสีขาวสว่างเห็นได้ไปยังโลกหน้า ขาวมาก หรือเลือกได้หลายเฉดให้เหมาะกับสีฟัน ตกแต่งปิดฟันห่าง ซ้อน เก เล็ก ไม่เท่ากันทำให้ออกมาได้ทุกซี่เท่ากันและสวยงาม แก้ไขฟันแตก บิ่น หักได้อีกด้วย ใช้เวลา 7-14 วันในการทำเซรามิค / ใช้เวลา 1 วันในการทำเรซิน / พอซเซอเลน-เซรามิค ทน สวยงาม วาวกว่าเหมือนฟันจริงๆของเรา

ข้อเสีย : เสียเนื้อฟันด้านหน้าฟันไปต้องกรอออกให้รับกับชิ้นงาน ความแข็งแรงทนทาน ขึ้นอยู่กับการดูแลรักษาของเรา ต้องดูแลอย่างดี มีปัญหาเวลาหัก ร้าว ต้องรีบซ่อม เพราะเราต้องยิ้ม ต้องใช้ฟัน อาจสูญเสียความมั่นใจได้ ถ้าฟันยังซ่อมไม่เสร็จ  / ถ้าทำไม่ดีตามขอบจะเห็นเป็นสี เหลือง น้ำตาล ดำโผล่ออกมา / เรซินใช้นานไปเปลี่ยนสีด้าน ไม่วาว ขอบสึก ต้องเปลี่ยนใหม่

แต่ ปัจจุบันวัสดุชนิดนึงที่ชื่อ LUMINEERS คือแพงที่สุด บางที่สุด และลดการเสียเนื้อฟันน้อยที่สุด

หลักการ : ชิ้นงานที่เป็นวัสดุสีเหมือนรูปร่างลักษณะเหมือนฟันมนุษย์จริงมาปิดทับบริเวณหน้าฟัน โดยส่งไปทำที่ห้อง LAB ของอเมริกา ดังนั้นความพิถีพิถัน 100% โดยมีความบางเท่ากับความบางคอนแทคเลนส์ โดยเลือกเฉดความขาวได้ วัสดุค่อนข้างแข็งแรง และมีอายุการใช้งาน20ปี จะเป็นวัสดุที่บาง และ เป็นนวัตกรรมที่ดีที่สุดตอนนี้ในไทย ในการเคลือบฟันเทียมด้านหน้า และสามารถเปลี่ยนรูปร่างฟันได้เหมือนวิธีอื่นๆ จุดเด่นไม่ต้องกรอฟัน ฟันจะอยู่เป็นปกติ อาจจะมีขัดหน้าฟันให้สากเล็กน้อยเพื่อที่จะลงน้ำยา และ กาวเคลือบให้สมานกันได้ แต่แพงมากกกกกกกก มากกว่า วีเนียร์ปกติ1เท่า

ข้อดี : ขาวถาวร / อายุยาวนานราว 20 ปี / ไม่ต้องกรอฟัน / ไม่เจ็บ / บางเหมือนไม่ได้ติด / เปลี่ยนรูปร่างฟันได้ / ปิดฟันดำ / ช่องห่างของฟันได้

ข้อเสีย :  รอนาน1เดือนเพราะส่งไปLABต่างประเทศ / ถ้าแตกก็ซ่อมแพง / แพงมาก ซี่ละ 18000-25000 ในไทย

 

8. ครอบฟัน

หลักการ : ในกรณีถ้าจะทำครอบฟัน ต้องมีข้อบ่งชี้ว่า เนื้อฟันเหลือน้อย จากการผุ หรือแตกหักจนไม่สามารถบูรณะด้วยการอุดฟันได้ หรือ ทำครอบฟันหลังจากการรักษารากฟัน คือการใช้วัสดุสีเหมือนฟัน เช่นพอร์ซเลน หรือเซอร์โคเนีย และอาจร่วมกับโลหะ ขึ้นรูปเป็นครอบฟัน สวมทับฟันซี่นั้นๆ ราคาขึ้นกับวัสดุที่ใช้ การทำ มีขั้นตอนคือทันตแพทย์กรอเตรียมรูปร่างฟัน และพิมพ์ซี่ฟัน (ปัจจุบันคลินิกบางแห่งใช้วิธีการสแกนฟันดิจิตอล) เลือกสีฟัน ส่งLAB เพื่อขึ้นรูปชิ้นงาน แล้วนัดครั้งต่อไปถึงจะได้ใส่ และอาจจะต้องมีการเก็บรายละเอียดอาจต้องพบแพทย์ 3-4ครั้งกว่าจะจบ

ข้อดี : ขาวถาวร ทนทาน สามารถแก้ไขรูปร่างฟันได้

ข้อเสีย : ราคาขึ้นกับวัสดุ คิดราคาต่อซี่ ต้องกรอฟันโดยรอบซี่ สูญเสียเนื้อฟันจริงเยอะ ทำครั้งแรกอาจไม่พอดี หรือสีอาจไม่แนบเนียน ต้องปรับแต่งกันให้พอดี ทำไม่ดีฟันข้างในผุต้องเลือกแพทย์ผู้เชี่ยวชาญดีๆ และการดูแลรักษาความสะอาดเป็นเรื่องสำคัญมาก

 

9.เครื่องฟอกฟันขาว

หลักการ : ส่วนตัวเท่าที่ปรึกษาคุณหมอหลายท่านมากลงความเห็นคล้ายกันว่าอาจจะมีส่วนเพราะปฏิกิริยาของน้ำยาหรือเปล่าที่ทำให้สีฟันอ่อนลงดังนั้นวิธีนี้จะยังไม่ฟันธงว่าเป็นวิธีที่มาเสริมให้ฟันขาวได้จริงหรือเปล่า

ข้อดี : น้ำยาจะเป็นตัวการที่ทำให้สีฟันอ่อนลง

ข้อเสีย : ผลลัพธ์ของแสงสีฟ้าที่ทำจากบ้านอาจจะยังไม่มีหลักฐานประจักษ์ทางงานวิจัย (ถ้าใครมีส่งมาได้นะคะ ) และ ถ้าเทียบกันไม่สามารถสู้พลังงานแสงสีฟ้าจากเครื่องใหญ่ที่ศูนย์ทันตกรรมได้ เนื่องจากตัวเครื่องมีขนาดเล็ก ประสิทธิภาพที่เกิดขึ้นก็น่าจะต้องใช้ระยะเวลาในการเห็นผลที่นานกว่ามากถ้ามันได้ผลจริง

 

 

สรุปการฟอกสีฟันโดยใช้น้ำยาเป็นตัวทำปฎิกิริยาให้ได้ผลขึ้นกับ

  • สีฟันดั้งเดิม
  • ความเข้มข้นของน้ำยาฟอกฟัน
  • ระยะเวลาที่ใช้ในการทำ
  • จำนวนรอบของน้ำยา
  • เทคนิคของหมอแต่ละคน

 

ฟอกสีฟันไม่เหมาะกับ ?

  • ถ้าฟันเราผุหรือไม่แข็งแรง(พวกฟันกร่อนหรือเป็นโรคผิดปกติเกี่ยวกับโครงสร้างกระดูกและฟัน) ควรรักษาฟันผุและควบคุมอนามัยช่องปากให้ได้ก่อนจะเริ่มฟอกสีฟัน
  • ทำให้เหงือกร่นในกรณี ที่เป็นโรคปริทันต์อยู่ก่อนแล้ว  ต้องควบคุมโรคปริทันต์ให้ได้ก่อนและคนไข้ที่เหงือกร่น มีโอกาสเสียวฟันอยู่ก่อนจะฟอกสีฟันอยู่แล้ว
  • ท้องเสียถ้ากลืนยาลงไปในปริมาณมาก
  • อาการเสียวฟันมากสำหรับคนที่เหงือกร่น ฟันแตก หรือ เนื้อฟันโผล่
  • ฟันตายหรือฟันที่รักษารากมาแล้ว  จะมีวิธีการฟอกสีฟันอีกแบบที่ต้องใส่น้ำยาเข้าไปในโพรงฟันหลังจากรักษารากฟันเสร็จ
  • วัสดุอุดฟัน ครอบฟัน จะไม่ขาวขึ้นมากไปกว่าสีดั้งเดิมดังนั้นหลังทำเสร็จอาจต้องเปลี่ยนวัสดุอุดฟัน หรือครอบฟันด้วย
  • ไม่แนะนำทำในเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี หรือ คนที่มีฟันซี่เล็กมาก เพราะอาจจะเสียวมากกกกกกก
  • ในช่วงเวลาหลังการจัดฟัน 1เดือน อาจเสียวฟันมากกว่าปกติชั่วคราว
  • มีการอักเสบในกระดูกขากรรไกร หรือปลายรากฟัน  ควรไปแก้ปัญหาเร่งด่วน รักษาอาการติดเชื้อให้หายดีเสียก่อน เพราะสำคัญกว่าการฟอกสีฟัน
  • สตรีมีครรภ์

 

การดูแลฟันหลังจากฟอกฟัน

  • งดบุหรี่ ชา กาแฟ ไวน์แดง น้ำผลไม้หรือน้ำใดๆที่มีสี รวมทั้งงด อาหารมีสีที่เหนียวติดฟัน 24 ชั่วโมง หลังจากนั้นเวลาทานอาหารหรือดื่มน้ำ แนะนำให้บ้วนปากหรือแปรงฟันทุกครั้ง เพื่อการรักษาความขาวเอาไว้
  • อาการเสียวฟันสามารถบรรเทาได้ด้วยยาแก้ปวด และจะค่อย ๆ ทุเลาลงไปเองจนหายสนิทภายใน 72 ชั่วโมง

 

ข้อแนะนำ

ฟันปกติควรมีความขาวไม่มากไปกว่าสีของตาขาว จึงจะดูไม่หลอกตา

เพราะอาจดูเหมือนฟันปลอมได้ via @vudhibhong

เราลองมาหลายวิธีพื้นฐาน ยาสีฟัน สมุนไพร การฟอกฟันที่บ้านที่คลินิค

ในตอนที่ยังไม่มีความรู้ พอได้เจอหมอฟันที่ให้ข้อมูลถูกต้อง

มีจรรยาบรรณ ทำให้รู้ว่า สมุนไพรเกลือ เบคกิ้งอะไร อย่าค่ะ

และ ที่ไม่ลองแน่ๆคือการทำวีเนียร์ เราอยากยิ้มสวยนะ

แต่รอยยิ้มโดยรวมของเราไม่ได้แย่จนเราต้องยอม

เสียเนื้อฟันตัวเอง ทั้งนี้แล้วแต่การชั่งข้อดีข้อเสีย

ของแต่ละคนด้วย เราเป็นคนวุ่นวายกับฟันมากก็เลย

รวบรวมวิธีทำฟันขาวมาให้ตัวเองอ่าน และ คนอื่นอ่านด้วย

เพื่อนๆละกำลังเล็งวิธีไหนกันอยู่ ?

 

บทความนี้เราเรียบเรียงและทำขึ้นมานานแล้วเกือบ 10 ปี

อีดิทใหม่ปี 2564 หากผิดพลาดประการใด

แจ้งได้ตลอดเวลานะคะ

 

XOXO

 

 

 

 

 

 

 

ที่มาข้อมูล + รูปภาพ

  • การตรวจข้อมูลความถูกต้อง ต้องกราบขอบพระคุณ ทันตแพทย์วุฒิพงษ์ เหล่าอมต

และ ทันตแพทย์หญิง แก้วมณี เรืองฤทธิเดช ที่ช่วยดูแลเรื่องข้อมูล

 

Posted in BEAUTY TECHNOLOGY, LASER, TEETHComments (6)


advert

Google

erk-erk.com





BEAUTY MENU

มาคุยกับเอิ๊กได้ที่นี่ทุกวัน ถ้าว่างรีบตอบทุกคำถามค่ะ

INSTAGRAM @wwwerkerkcom

[instagram-feed]

ติดตามบล็อค erk-erk.com อย่างใกล้ชิด

เพียงกรอก Email ตรงนี้เลย

LINE @erk-erk

เพิ่มเพื่อน

Related Sites