ขี้แมลงวัน & ไฝ
คนไทยชอบเอาออกโดยเฉพาะบนใบหน้าเพราะ
- ทำให้ภาพรวมรูปลักษณ์ดูไม่ดีเท่าที่ควร
- คนไทยเชื่อเรื่องดวง
- กรดTCA
- เลเซอร์
คุณหมอ นุสรา วงษ์รัตนภัสสร บอกว่าไฝ หรือ ขี้แมลงวันเกิดจากความผิดปกติของการสร้างเม็ดสีเหมือนกันในทางการแพทย์ ไฝอาจจะนูน ขี้แมลงวันอาจจะเล็กและเรียบ ไม่จำเป็นที่จะต้องเอาออก เพราะจะได้ไม่เสี่ยงต่อแผลเป็นโดยไม่จำเป็น ขี้แมลงวันเราอาจจะไม่ได้เห็นผลข้างเคียง แต่ไฝเม็ดใหญ่ และ นูนอาจจะมีรากไฝที่ลึกกว่าการเอาออกอาจจะทำให้เกิดแผลเป็นได้ง่าย โดยเฉพาะตามลำตัว อาจจะทำให้เกิดแผลเป็น คียลอยด์ ส่วนที่ต้องระวังของไฝที่มีอยู่มีการเปลี่ยนแปลง เพราะนั่นอาจเป็นที่มาของมะเร็งไฝ
มะเร็งไฝ Melanoma
เกิดจากเซลล์สร้างสีผิว melanocyte การที่จะเข้าใจโรคนี้ท่านจะต้องเข้าใจโครงสร้างของผิวหนัง เป็นมะเร็งผิวหนังชนิดหนึ่งที่แพร่กระจายเร็วมาก
โครงสร้างของผิวหนัง
-
ผิวหนังเป็นอวัยวะที่ห่อหุ้มร่างกายทำหน้าที่ป้องกัน ความร้อน แสง การติดเชื้อ ควบคุมอุณหภูมิของร่างกาย และสร้างวิตามินดีผิวหนังประกอบด้วยเซลล์สองชั้น
-
ชั้น epidermis เป็นชั้นนอกสุดประกอบด้วยชั้นบนสุดเป็น squamous เซลล์รองลงมาได้แก่ basal cell โดยมี melanocyte อยู่ใต้ subcutaneous
- ชั้น dermis เป็นชั้นที่อยู่ของ ต่อมขน ต่อมเหงื่อ ต่อมไขมัน หลอดเลือด
Melanocyte และ ไฝ Mole
melanocyte เป็นตัวสร้างสีผิว melanin เมื่อผิวถูกแสงทำให้สีผิวเข็มขึ้น ไฝเป็นกลุ่มของ melanocyte ที่อยู่รวมกันมักเกิดในช่วงอายุ 10-40 ปี อาจจะแบน หรือนูน สีอาจเป็นสีชมพู หรือสีน้ำตาล รูปร่างกลม หรือวงรีไฝมักจะไม่เปลี่ยนแปลงขนาดหรือสีตัดออกแล้วไม่กลับเป็นซ้ำ
Melamoma
เป็นมะเร็งที่เกิดจากเซลล์ melanocyte ที่แบ่งตัวนอกเหนือการควบคุมของร่างกาย ถ้าเกิดที่ผิวหนังเรียก cutaneous melanoma เกิดที่ตาเรียก ocular melanoma โดยทั่วไปเกิดบริเวณลำตัว ขา ถ้าคนผิวดำมักเกิดที่เล็บ โดยทั่วไปมะเร็งแพร่กระจายไปยังต่อมน้ำเหลืองและอาจพบที่อวัยวะอื่นๆได้เรียก metastasis melanoma
ปัจจัยเสี่ยงของการเกิดมะเร็ง
- ประวัติครอบครัวเป็นมะเร็งไฝ จะมีความเสี่ยงเพิ่มมากกว่า 2 เท่าดังนั้นสมาชิกในครอบครัวควรได้รับการตรวจจากแพทย์
- Dysplastic nevi ไฝที่มีลักษณะชิ้นเนื้อแบบนี้จะมีโอกาสเป็นมะเร็งสูง
- เคยเป็น melanoma
- ภูมิคุ้มกันอ่อนแอ เช่น AIDS
- มีไฝจำนวนมาก เช่นมากกว่า 50 เม็ดจะมีโอกาสเป็นมะเร็งมาก
- แสง ultraviolet ควรสวมเสื้อแขนยาวและหมวกเพื่อกันแสง ควรหลีกเลี่ยงแสงแดดเวลา 10-16.00 น.ควรทาครีมกันแสงร่วมด้วย
- เคยถูกแสงจนไหม้เมื่อวัยเด็ก ดังนั้นควรป้องกันไม่ให้เด็กสัมผัสแสงแดด
- สีผิว ผิวขาวมีโอกาสเกิดมะเร็งได้ง่ายกว่าผิวคล้ำ
B คือ Border เปรียบให้เป็นการสังเกตขอบเขตของเมลาโนมา แม้จะปรากฏให้เห็นไม่ค่อยชัดเจน แต่ให้พยายามดูว่ามีรอยหยัก รอยนูน ที่สูงต่ำไม่เท่ากันหรือไม่
C ย่อจาก Color ให้สังเกตลักษณะสี ถ้าเข้มมาก หรือดำมาก จัดว่าเป็นอันตราย
D หรือ Diameter ต้องดูขนาด หากขยายใหญ่เกิน 6 มิลลิเมตร จำเป็นต้องพบแพทย์เพื่อตรวจหาความผิดปกติ
อย่างไรก็ตาม กระบวนการรักษา แพทย์จะวินิจฉัยจากการตัดชิ้นเนื้อหรือไฝไปตรวจทางพยาธิวิทยา หากพบว่า เป็นมะเร็งไฝ แพทย์จะการกระจายของเมลาโนมาต่อไป ก่อนทำการผ่าตัดรักษา.
อาการของมะเร็งไฝ
อาการเริ่มแรกมักเริ่มเกิดการเปลี่ยนแปลง ขนาด สี รูปร่าง ขอบ บางรายอาจมีอาการคัน มีขุยหากเป็นมากขึ้นอาจมีการเปลี่ยนแปลงของความแข็ง หากพบมะเร็งเริ่มต้นการรักษาจะหายขาด แต่หากรุกลามเข้าใต้ผิวหนังมะเร็งอาจแพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่น
หากแพทย์สงสัยว่าไฝที่เห็นว่าจะเป็นมะเร็งแพทย์จะตัดก้อนนั้นส่งพยาธิแพทย์ตรวจด้วยกล้องจุลทัศน์ หากก้อนนั้นใหญ่มากแพทย์จะตัดเพียงบางส่วนส่งตรวจ ถ้าพบเซลล์มะเร็งแพทย์จะตรวจพิเศษเพิ่มเพื่อตรวจดูว่ามะเร็งแพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่นหรือยังการวินิจฉัย
การรักษา
หลังจากวินิจฉัยและทราบการแพร่กระจายของโรคแพทย์จะวางแผนการรักษา ก่อนการรักษาควรจดบันทึกคำถามเพื่อถามแพทย์ดังตัวอย่าง
- การวินิจฉัยของแพทย์
- มะเร็งแพร่กระจายไปหรือยัง
- ควรจะรักษาด้วยวิธีใดดีที่สุด และแพทย์เลือกวิธีใด
- โอกาสที่จะประสบผลสำเร็จมีมากหรือไม่
- เราจะทราบอย่างไรว่าการรักษาได้ผล
- การรักษาจะสิ้นสุดเมื่อใด
- จะดูแลตัวเองระหว่างการรักษาอย่างไร
- ผลข้างเคียงของการรักษามีอะไรบ้าง
- จะเจ็บปวดหรือไม่ และจะใช้ยาอะไรในการควบคุม
- หลังการผ่าตัดต้องรักษาอย่างอื่นหรือไม่
วิธีการรักษา
- การผ่าตัด เป็นการรักษามาตรฐานแพทย์จะพยายามตัดเนื้อร้ายออกให้หมดร่วมทั้งต่อมน้ำเหลืองที่ใกล้เนื้อร้าย ถ้ามะเร็งแพร่กระจายไปอวัยวะอื่นแพทย์จะให้การรักษาอย่างอื่น
- เคมีบำบัด เป็นการให้สารเคมีเพื่อฆ่าเซลล์มะเร็งโดยอาจเป็นยากินหรือยาฉีด
- รังสีรักษาเป็นการฆ่ามะเร็งเฉพาะที่โดยเฉพาะมะเร็งที่แพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่น เช่น สมอง ปอด ตับ
- การสร้างภูมิคุ้มกัน อาจให้ภูมิโดยการฉีด เช่นการให้ interferon หรือ interleukin โดยการกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิขึ้นมาเช่นการฉีดวัคซีน
ผลข้างเคียงของการรักษา
- การผ่าตัด อาจทำให้เกิดแผลเป็นบางรายเกิด keloid การตัดต่อมน้ำเหลืองอาจทำให้ขาหรือแขนบวม
- เคมีบำบัด การให้เคมีบำบัดอาจให้เกิดโลหิตจาง ติดเชื้อง่าย หรือเลือดออกง่าย ผมร่วง
- รังสีรักษา ทำให้ผมบริเวณที่ฉายรังสีร่วง อาจมีอาการอ่อนเพลีย
- การสร้างภูมิคุ้มกัน อาจมีอาการปวดเมื่อตามตัวเบื่ออาหาร ท้องร่วง
แหล่งข้อมูล
สัมภาษณ์ พญ. นุสรา วงษ์รัตนภัสสร
http://www.siamhealth.net/public_html/Disease/cancer/melanoma.htm
ญ.พู่กลิ่น ตรีสุโกศล แพทย์ผิวหนังและภูมิแพ้ โรงพยาบาลพญาไท 2