Tag Archive | "Filler"

REVIEW ปากแห้งจนดูเหี่ยวฉีดHYALURONซักนิด


 

 

 

#ปากแห้งจนดูเหี่ยว 😭

เป็นเรื่องเดียวที่แบบทุกคนน่าจะพอรู้
เราดื่มน้ำน้อยและก็ชอบแกะปากสม่ำเสมอ
ปีหลังๆลดไปเยอะพฤติกรรมแบบนี้
แต่ด้วยความที่ดื่มน้ำน้อยปากก็จะแห้งมาก
จนเกิดร่อง เหตุผลหนึ่งที่ไม่ค่อยคิดจะฉีด
เติมสารอุ้มน้ำ หรือ ฟิลเลอร์ที่ปาก
เคยแบบเติมความชุ่มชื้นคือไม่เปลี่ยนรูปปาก
แต่ทำให้ริมฝีปากดูเหมือนคนกินน้ำเยอะ
ร่องดูน้อยลง ดูสุขภาพดีขึ้นแต่
รู้สึกว่าเจ็บที่สุดเลยไม่ยุ่งเลยเกือบ2ปี

พื้นฐานมีริมฝีปากที่ไม่เท่ากันทั้ง2ข้าง
ข้างหนึ่งจะเบี้ยวไปนิดหนึ่งและความหนาน้อยกว่า
ก็ไม่ได้สนใจใช้ลิปสติกช่วยเอา
ช่วงหลังปากจะแห้งค่อนข้างเยอะเพราะว่านอนน้อย
ดื่มน้ำน้อย ไม่แตกแต่ร่อนเลย 😌

จึงตัดสินใจขอคุณหมอดูแลริมฝีปากหน่อย
คุณหมอเลือกใช้สารไฮยารูรอน
ชนิดนิ่มปานกลาง เพื่อมาช่วยอุ้มน้ำ
และเปลี่ยนมิติของริมฝีปากที่มันเบี้ยวข้างนึง
ใช้จำนวน 1 CC ซึ่งถือว่าน้อยมากกับ
บริเวณทั้งหมดโดยประมาณ 9 จุด

โจทย์คือว่าห้ามเปลี่ยนรูปปากของเรา 💋
แก้ไขจุดที่เบี้ยวได้เล็กน้อย
เติมความชุ่มชื้นและยกมุมปากขึ้นนิดหน่อย
เรากลัวว่าถ้าเกิดว่าทำอะไรตั้งแต่แรก
เปลี่ยนรูปปากไปเลยเราจะรับไม่ได้
เรายังคงอยากเป็นเรา
ถือเป็นการทดลองที่เราชอบมาก
อาจจะไม่ได้แก้ไขได้ 100% 
เพราะเราต้องการทีละเล็กก่อน

สรุปคือ9จุดก็เลยถือโอกาส
วางไปที่ ร่องแก้ม ร่องริมฝีปากล่างนิดหน่อย
Happy มากแบบถ้าไม่สังเกตก็
จะไม่รู้ใช้ชีวิตต่อได้เลยไม่บวม

รู้สึกว่าการเลือกหมอสำคัญมาก
และถ้าเป็นคุณหมอที่เทคนิคแพรวพราว
เราไม่จำเป็นต้องจ่ายแพง
เพราะเขาสามารถบริหารจำนวนการใช้ฟิลเลอร์
บวกกับเทคนิคในการวาง
แล้วให้เราเปลี่ยนไปอย่างธรรมชาติ
ไม่จำเป็นต้องใช้ฟิลเลอร์เยอะแยะ
ที่ทำให้ต้องจ่ายแพงกว่า


ปกติแล้วถ้าเป็นเรื่องของรูปหน้า
การดูแลเกี่ยวกับการยกกระชับ
ริ้วรอย การเติมเต็ม
เราจะมีรองศาสตราจารย์แพทย์หญิง @DrRungsima
ที่ดูแลมาตลอดเกือบ8ปี


คนที่ชอบอะไรธรรมชาติค่อยเป็นค่อยไป
คนที่เชื่อมั่นในความสวยความงามของแต่ละคน
มีความแตกต่างกันไปไม่จำเป็นต้องเหมือนใคร
คนที่ชอบทำอะไรน้อยแต่มาก


เราก็ไม่เชื่อคุณหมอหมดทุกเรื่องหรอกในตอนแรก
5555555 ก็ไม่เข้าใจในสไตล์ค่อยๆเป็นค่อยๆไป
อะไรกันทำแค่นี้จะสวยได้ไง
เพราะอยากสวยแบบเยอะแยะ
พอเกิดผลลัพธ์ที่ผิดพลาดจากการไปลองเอง
ทำให้รู้ว่าบางครั้งคุณหมอที่มีจรรยาบรรณ
สำคัญพอๆกับความเก่งของหมอ
ที่เราต้องเลือก
หลังจากนั้นเราก็ชอบความน้อยแต่มากเป็นต้นมา
♥️😖 #ไม่อย่างนั้นแก้มทั้งสองข้างไปนานแล้ว

ขอบพระคุณ คุณหมอมากค่ะ @drrungsima

@iskycenter #iskycenter#erkerkxiskycenter #erkerkxbeauty

 


Posted in HOW TOComments (0)

รีวิวฉีดฟิลเลอร์ โบท็อกซ์ สวย หรือ เสี่ยงตาย | erk-erk


Posted in BEAUTY TECHNOLOGY, BOTOX, FILLER, REVIEWComments (0)

ผลข้างเคียงจากการฉีดฟิลเลอร์เป็นคลื่นและวิธีการแก้ไขให้ดีขึ้น


ทุกวิธีที่กำลังจะกล่าวไม่ได้การันตีว่าจะช่วยได้ 100% แต่จะดีขึ้นได้
ยกเว้นแต่ฉีดเข้าไป และ ฉีดสลายทีละนิดทันทีก็อาจจะทำให้
ฟิลเลอร์สลายไปได้รวดเร็วมากกว่าค้างอยู่ใต้ผิวหนังและรอวันสลาย
ความจริงไม่อยากกล่างถึงเรื่องนี้ แต่เผื่อคนที่ได้ประสบปัญหาเดียวกัน
อาจจะพอเป็นแนวทางให้ได้ลองเป็นข้อมูล เอิ๊กเกิดปัญหาบริเวณคาง
เหตุผลที่ฉีดฟิลเลอร์ประเภทHYALURONเข้าไปเพราะมันจะสลายไปเอง
เมื่อถึงเวลาของมัน โดยที่เอิ๊กก็ไม่ทราบถึงผลข้างเคียงที่จะเกิดขึ้นได้
และ ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นกับตัวเอง แต่อย่างน้อยรู้สึกโชคดีที่ทำแค่คาง
ซึ่งเป็นกล้ามเนื้อที่ฉีดคลายการหดเกร็งของกล้ามเนื้อได้บ้าง
เห็นเงาดำๆเทาๆไหม นั่นเลย T_T ตอนนี้มันเกิดขึ้น 2 จุดแล้ว
 
ผลข้างเคียงหนึ่งที่อาจเกิดจากการฉีดฟิลเลอร์ประเภทสารไฮยารูรอนิคเอซิด คือการทำให้ผิวบริเวณที่ฉีดไม่เรียบเนียน เป็นคลื่น ขรุขระ หรือ บุ๋มลงไป วันนี้จะมาพูดถึงการแก้ไขปัญหานี้โดยผู้เชี่ยวชาญทางด้านผิวหนัง ผู้ช่วยศาสตราจารย์แพทย์หญิงรังสิมา วณิชภักดีเดชา
การเกิดคลื่นบริเวณผิวที่ฉีดฟิลเลอร์เกิดจากสาเหตุอะไรได้บ้างคะ ? 
1. เทคนิคการฉีดของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญแต่ละท่านอาจไม่เหมือนกัน สาเหตุนี้อาจเกิดจากบางท่านฉีดแล้วก็ปล่อย ฉีดแล้วก็ปล่อย (ไม่ได้ฉีดครั้งเดียว คล้ายกับฉีดทีละลูกแล้วปล่อย แล้วฉีดเข้าไปอีกลูกแล้วปล่อย) พอฟิลเลอร์เข้าไปเป็นก้อน มันก็อาจทำให้เกิดเป็นคลื่นตั้งแต่ครั้งแรก
2 การฉีดฟิลเลอร์ซ้ำเข้าไป ในกรณีที่ฟิลเลอร์เก่ายังสลายไม่หมด เป็นการฉีดซ้ำในเวลาที่เร็วเกิน ในขณะที่คลื่นบริเวณที่เกิดขึ้นครั้งแรกกำลังสลาย (ที่ยังคงเหลืออยู่ที่บริเวณนั้น) ก็อาจทำให้เห็นเป็นก้อนคลื่นได้
3 การฉีดใกล้กล้ามเนื้อบริเวณที่ตื้น เช่น บริเวณผิวหนัง บริเวณคาง พอเวลาเกิดการหดเกร็งของกล้ามเนื้อก็อาจจะเห็นเป็นคลื่นได้
 
การแก้ไขให้ผลข้างเคียงดีขึ้นได้บ้าง
จะพิจารณาจากการที่รู้ว่าคลื่นนั้นเกิดด้วยสาเหตุอะไร และ คนไข้ต้องการปล่อยฟิลเลอร์นั้นไว้ หรือ ต้องการจะนำออก
 
วิธีที่1
ยาชื่อว่า HYALURONIDEAD สามารถใช้ตัวยาฉีดสลายฟิลเลอร์ได้ทันที ถ้าเกิดว่าฉีดฟิลเลอร์เข้าไปแล้วเกิดเป็นลูก  ฉีดภายใน15-20 นาทีแรกจะสลายไป 60-70% หลังจากนั้นที่เหลือจะสลายไปภายในอาทิตย์นึง
  • ข้อดี สลายฟิลเลอร์ได้ทันที
  • ข้อด้อย ทำให้เกิดอาการแพ้ได้ในบางคน เกิดผื่น หรือ หอบแน่นหายใจไม่ออก , เราไม่สามารถสั่งให้ยาสลายได้แค่HYALURONIC ACID ในผิวที่เกิดจากฟิลเลอร์ได้เพียงอย่างเดียว เพราะเวลาฉีดลักษณะจะเป็นเจลใสกระจายคล้ายรากต้นไม้ซึมลงไปสู่ผิวชั้นหนังแท้ ดังนั้นเวลาสลายอาจจะทำให้ HYALURONIC ACID ของผิวจริงสลายไปด้วยได้ , ถ้าคนไข้เกิดไปฉีดฟิลเลอร์ประเภทอื่นที่ไม่ใช่ HYALURONIC ACID แต่เป็นฟิลเลอร์ประเภทอื่นเช่น ซิลิโคน ถ้าเราฉีดยาตัวนี้เข้าไปก็จะสลายฟิลเลอร์ประเภทนี้ไม่ได้ , ถัาฉีดมากเกินไปก็อาจจะทำให้ผิวหนังเป็นคลื่นเพราะ HYALURONIC ACID ชองผิวหนังอาจจะหายไปบางบริเวณ เทคนิคผู้เชี่ยวชาญบางท่านจึงจะฉีดสลายแต่ปริมาณน้อย และ นัดมาตรวจผลบ่อยๆประมาณ 1-2 ครั้งภายใน1เดือน เพื่อให้ปริมาณยาครั้งต่อไปหากสลายยังไม่หมด
 
วิธีที่2
การใช้ความร้อนสลายฟิลเลอร์ เหมือนดังเวลาที่ฉีดฟิลเลอร์ประเภทHYALURONIC ACIDแพทย์จะสั่งให้เราหลีกเลี่ยงการซาวน่า งดอาบน้ำอุ่นน้ำร้อนซัก 1 เดือน หรือแม้แต่การนวดคลึงบริเวณนั้น ถ้าเราต้องการทำให้ผิวบริเวณที่ขรุขระ เรียบเนียนขี้นได้บ้าง อาจใช้คลื่นวิทยุส่งความร้อน อาจทำให้ฟิลเลอร์ของผิวหนังบริเวณนั้นมันสลายส่งผลให้ผิวหนังเรียบเนียนขึ้นได้ อาจจะเห็นเป็นคลื่นน้อยลง หรือ บริเวณที่บวม เราอาจเห็นเป็นคลื่นน้อยลงได้
  • ข้อดี ไม่เจ็บ
  • ข้อด้อย ต้องทำบ่อยต่อเนื่องจนกว่าจะสลาย / มีค่าใช้จ่ายสูงอาจจะมากกว่าการฉีดฟิลเลอร์เพราะต้องทำต่อเนื่อง 
 
วืธีที่3 การฉีดโบทูลินูมทอกซินบริเวณผิวหนังกล้ามเนื้อตื้นที่เป็นคลื่น เพราะส่วนนึงเกิดจากการหดเกร็งของกล้ามเนื้อ อาทิ บริเวณหน้าผาก บริเวณคาง อาจทำให้ผิวด้านบนเรียบขี้นได้ หลอกตาทำให้กล้ามเนื้อคลายตัวชั่วคราว แต่ไม่ได้แก้ปัญหาที่ตัวฟิลเลอร์จริงๆ 
  • ข้อดี ช่วยพลางสายตา และ ทำให้กล้ามเนื้อที่หดคลายตัว ดูเรียบเนียนตื้นขึ้น
  • ข้อด้อย อยู่ได้ไม่นานเป็นแค่การคลายกล้ามเนื้อชั่วคราว หมดฤทธิ์ต้องทำใหม่
 
ทั้ง 3 วิธีจึงไม่สามารถแก้อาการผิวเป็นคลื่นจากการฉีด HYALURONIC ACID ให้หายเป็นปกติ หรือทำให้ผิวหนังเรียบเนียนได้ 100% คงต้องรอฟิลเลอร์สลายไปจนหมดเองตามธรรมชาติ ยกเว้นการฉีด HYALURONIC ACID และฉีดสลายด้วย HYALURONIDEAD จะสามารถสลายได้เกือบ 100% 
 
ผิวหนังที่เป็นคลื่นกลับมาเป็นเหมือนเดิมไหม ?
ขี้นอยู่กับชนิดของฟิลเลอร์ประเภทHYALURONIC ACIDนั้นๆ จะสลายไปเอง ถ้าเกิดสลายเป็นแล้วยังเป็นคลื่นเช่นบริเวณผิวหนังตื้นๆที่เป็นกล้ามเนื้อก็อาจใช้โบทูลินูม ทอกซินช่วยได้
 
คำแนะนำ
  • เลือกผู้เชี่ยวชาญก่อนฉีดฟิลเลอร์ถ้าหมอที่เชี่ยวชาญหากเกิดผลข้างเคียงด้วยประสบการณ์ก็จะแก้ไขได้อย่างเร็วและทันท่วงที
  • เลือกประเภทฟิลเลอร์HYALURONIC ACIDที่ใช้ควรผ่านการร้บรองจากองค์การอาหารและยา ทางที่ดีสามารถขอดูกล่อง และขอบรรจุภัณฑ์กลับมาเก็บไว้ที่บ้านได้ หากฉีดอีกรอบจะได้เสมือนเป็นการเก็บประวัติตัวยาและปริมาณที่เคยใช้
  • เลือกสถานประกอบการที่ขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้อง หลีกเลี่ยงหมอกระเป๋าหรือผู้ที่ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ เพราะหากเกิดปัญหาในสถานประกอบการที่ได้รับการรับรองก็จะช่วยได้ทันท่วงที รวมถึงการแก้ปัญหาของผลข้างเคียง
XOXO

Posted in FACEComments (0)

BEAUTY TALK – ผลข้างเคียงจากการฉีดฟิลเลอร์


ที่เขียนเรื่องนี้ขึ้นเพราะเอิ๊กเองได้รับผลข้างเคียงจากการฉีดฟิลเลอร์บริเวณปลายคางจึงอยากเล่าสู่กันฟัง

จุดประสงค์ในการฉีดเนื่องจากใบหน้าที่สั้น กลม แก้มเยอะ อยากทำให้ดูมีคางเพราะหน้าจะได้ดูยาวขึ้น เป็นผู้หญิงที่อยากสวยแต่กลัวเจ็บตัว กลัวการผ่าตัด เลยเลือกการฉีดฟิลเลอร์ ประเภทไฮยาลูลอน ที่มีในร่างกายและสลายไปได้เองในระยะเวลาไม่ยาวนานมากนัก เผื่อวันนึงชอบตัดสินใจทำคางจริงๆก็ยังไม่สาย ไม่ได้ANTYการศัลยกรรม แต่กลัว 555 คนทำสวยเราก็ว่าสวยดี บางคนงานล้นเลย ดังในพริบตา แต่เราคิดว่าในชีวิต อยากทำแค่ 2 สิ่ง คือ คาง และ … ไม่บอก 5555 ตอนนี้ก็ทำใจไปเรื่อยๆก่อน ยิ่งเกิดเหตุการณ์ฟิลเลอร์ส่งผลข้างเคียงนี้อยากจะบอกว่า ตอนนี้ในใจไม่อยากทำอะไรอีกเลย อยากได้คางเก่าคืนมาก่อน อยากเอาคางสั้นๆแบบเดิมกลับมา ในหัวมีแต่ความกลัว บอกตรงๆ ….. อยากสวยจนได้เรื่องสิน่า ……

ก่อนฉีดวิเคราะห์รูปหน้า : ดูมีแก้ม คางดูสั้น แต่ไม่ได้สั้นมาก ความอยากในใจ อยากคางยาวกว่านี้ เผื่อหน้าจะดูยาวขึ้น

หลังฉีดครั้งแรก : ฉีดครั้งแรกผ่านไปไม่ถึง 3 เดือน ไม่มีผลข้างเคียงใดใด ขึ้นนิดนึงทำให้หน้าดูยาวขึ้นนิดนึงกว่าก่อนฉีด เพราะคุณหมออยากให้ธรรมชาติ อาจจะธรรมชาติมาก 555 แล้วก็ยุบจากไปเร็วมากมาก ทำให้เรายังรู้สึกว่าไม่พอใจกับผลที่ได้ แต่รู้สึกดีใจที่ เออ ฟิลเลอร์ ฉีดแล้วมันก็ยุบได้เลยนะ ไม่มีผลข้างเคียงอะไรเลย หลังฉีดแค่บวมนิดนึงซัก 3 วัน นั่นเป็นเหตุผลที่  ครั้งแรกนี้เอิ๊กฉีดกับ ผศ.พญ. รังสิมาที่ ISKYCENTER หนองแขม

หลังฉีดครั้งที่สอง : คางเรียวยาวเป็นสามเหลี่ยม ในชีวิตตอนนี้คิดว่าหน้าตาตอนนี้ดีที่สุด (หลายคนอาจจะบอกไม่จริง original ดีที่สุด) ตอนนี้รู้สึกดีมาก ก.ไก่ อีกล้านตัวเลย แต่ผลข้างเคียงอันดับแรกของเอิ๊กที่ปัจจุบันยังไม่หาย คือ การเปลี่ยนสีของบริเวณที่ฉีด เป็นสีแดงตลอดเวลา เนื่องจากเส้นเลือดฝอยมารวมตัวกัน ประเมินจากคุณหมอได้คร่าวๆว่า อาจจะมาจากการแพ้ฟิลเลอร์ของเอิ๊ก ให้แก้โดยการยิงเลเซอร์กำจัดเส้นเลือดฝอย ซึ่งเอิ๊กก็ทำ ก็ดีขึ้นแต่ไม่หายสนิท คุณหมอบอกว่าฉีด filler Perlane ในขนาด 1 หลอด ซึ่งผลหลังฉีดจะดูบวมยาวกว่าของจริงประมาณ 2-3 วัน ค่อยเข้ารูปพอใจมากๆ อยากให้หน้าดู V-SHAPE สมใจเลย และเทคนิคการฉีดเข้าไปประมาณ 3 ครั้ง ก่อนปั้นให้เข้ารูป ฉีดตรงกลาง ข้างซ้าย ข้างขวา และเอิ๊กก็กินน้ำน้อยเหมือนเดิม ไม่รู้เพราะสาเหตุนี้รึเปล่า เกิดผลข้างเคียงใหม่ตามมาคือ “คางบุ๋มเฉพาะที่” เนื่องจากปรึกษากับคุณหมออีกท่าน พบว่ามันสลายบางส่วน อาจจะเป็นจากเทคนิคการฉีด 3 ส่วนด้วย เพราะมีโอกาสที่พื้นที่ส่วนใดส่วนนึงจะสลายไปก่อน ส่วนที่ไม่สลายจึงดูสวยอยู่ก็เป็นได้ ครั้งนี้ฉีดกับ นพ. อภิรุจ THE KLINIQUE  เอิ๊กชอบผลลัพธ์มาก แต่ก็ผลข้างเคียงที่เกิดอาจจะเกิดที่ตัวเอิ๊กเองทานน้ำน้อยกระมัง เท่าที่อ่านหลายท่านก็บอกเพราะฟิลเลอร์เป็นสารอุ้มน้ำ

คางปัจจุบัน

ส่วนที่เปลี่ยนสี แท้จริงคือมันบุ๋มลงไปค่ะ ขนาดยาวประมาณ 1 เซนติเมตร ซึ่งถ้าเอิ๊กพูดจะเห็นเลยว่าคางเอิ๊กข้างนึงบุ๋ม

มันสร้างความวิตกกังวลกับเอิ๊กมาก เมื่อวันที่พบเห็นคือเมื่อช่วงตุลาคมที่ผ่านมากตอนไปเยอรมัน

ระหว่างอัด SOCIAL CAM รู้สึกมันเหมือนเป็นเงาเกิดขึ้นบริเวณคาง พอมองแล้ว โอว คางดิฉันบุ๋ม

ด้วยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเอิ๊กอยากรู้ว่าเป็นเราคนเดียวหรือไม่ที่ฉีดฟิลเลอร์ผ่านอย.แล้วได้รับผลข้างเคียง

เลยลองโพสถามในแฟนเพจ erk-erk.com ปรากฎว่า

ก็มีบางคนที่พบ จึงอยากแชร์สู่กันฟัง

ล่าสุดเอิ๊กเดินทางไปเยอรมันกับ ผศ.พญ รังสิมา วณิชภักดีเดชา ซึ่งคุณหมอท่านฉีดฟิลเลอร์มากที่สุดคนนึง

ในบริเวณย่านฝั่งธนบุรี เอิ๊กก็กังวลใจ จึงขอปรึกษาทางแก้ คุณหมอบอกว่า

  • ไม่ให้ฉีดสลาย เพราะอาจจะสลายเนื้อเยื่อส่วนดีของเราไปด้วย
  • ใช้คลื่นความถี่วิทยุปล่อยความร้อนให้สลายเร็วขึ้น
  • ฉีดโบทอกคลายกล้ามเนื้อ ลดการหดตัวที่ทำให้เกิดคลื่น
ปัจจุบันทำวิธีใช้คลื่นวิทยุ RF เป็นตัว TRILIPO มาคลึงที่คาง ผลคือคางเรียบขึ้นแต่ไม่หายบุ๋ม คิดว่าน่าจะบุ๋มกว่านี้ เพราะถ้ามันทำให้สลายจริงมันก็จะสลายและบุ๋มลงเรื่อยๆ ตอนนี้จึงต้องดูแลกันไปก่อน ทนจนกว่าสลาย

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจึงขออนุญาตแชร์ผลข้างเคียงของการฉีด Filler ที่ได้หาข้อมูลมา มีตั้งแต่อาการที่รุนแรงไม่มาก ที่ใช้เวลาเพียงไม่กี่วันก็กลับมาหายเป็นปกติ จนกระทั่งถึงผลข้างเคียงที่มีอาการรุนแรงมากจนไม่สามารถกลับมาปกติเหมือนเดิม แต่การฉีดนั้นจะมีผลข้างเคียงที่มีระดับความรุนแรงมากหรือน้อยจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยในการฉีด Filler เช่น

  • ชนิดของ Filler 
  • ประสบการณ์แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่ฉีด Filler
  • เทคนิคการฉีด Filler
  • การตอบสนองร่างกายคนไข้ในการฉีด Filler
  • สถานที่ให้รับบริการฉีด Filler ความสะอาด การฆ่าเชื้อ 

คนส่วนใหญ่ถ้าผ่านการเลือกตั้งแต่ชนิด Fillerที่ผ่านอย. แพทย์ เทคนิคแพทย์ ร่างกายตอบสนองดี ก็จะมีอาการปกติหลังฉีด คือ บวมไม่กี่วันแล้วก็หาย แต่คนส่วนน้อย เช่นเอิ๊ก ถือว่าเป็นผลข้างเคียงระดับน้อยถึงปานกลาง อย่างที่เล่าไปข้างต้น
จะลองแบ่งประเภทของผลข้างเคียงคหลังจากฉีด Filler เป็น 3 ระดับ ในความรู้สึกเอิ๊กนะคะในกรณีคนไข้

1. ผลข้างเคียงระดับน้อย

– มีรอยเขียวจากเข็ม อาจจะเป็นจ้ำเลือด รวมถึงอาการบวมบริเวณที่ฉีดไม่กี่วันก็หาย

– แพ้มีเส้นเลือดฝอยรวมกันอยู่เป็นกระจุดบริเวณที่ฉีด ผิวหนังเปลี่ยนสีเป็นสีแดง

– มีผื่นแดงขึ้น

2. ผลข้างเคียงระดับปานกลาง

– คลำไปเป็นก้อนขรุขระ เป็นคลื่น ผิวหนังไม่เรียบ พอแสดงสีหน้าก้อนฟิลเลอร์ก็นูนขึ้นมา

– หลังฉีดFillerไปซักพักพบว่ามีการเปลี่ยนแปลงรูปร่างฟิลเลอร์มีการไหล รูปทรงเปลี่ยน รูปร่างเปลี่ยน

– ฉีดมาซักระยะอาจเกิดอาการแพ้ทำให้เป็นก้อน แดง นูน อักเสบ

– ผิวหนังรอบดวงตา เปลี่ยนสี อาจจะออกเป็นสีฟ้าๆ เทาๆ หรือม่วง

– หลังฉีด Filler อาจจะไม่สามารถควบคุมการทำงานของกล้ามเนื้อบนใบหน้าได้เหมือนปกติ

– หลังฉีด Filler อาจจะแสดงสีหน้าไม่ธรรมชาติเหมือนก่อนฉีด เช่น เวลายิ้มถ้าฉีดคางคางก็ย้อยเป็นก้อนดูเกร็งๆ แข็งๆ

– มีอาการคันที่รุนแรง และอาจจะมีลมพิษขึ้นตามมาด้วย

3. ผลข้างเคียงที่มีความรุนแรงในระดับมาก

– หลังฉีด Filler มีอาการติดเชื้อ บางทีแพทย์จึงสั่งให้ทานยาปฎิชีวนะหลังฉีดเสร็จเพื่อป้องกัน

– หลังฉีด Filler พบว่าผิวหนังบริเวณนั้นตายรวมถึงผิวหนังบริเวณรอบๆด้วย สาเหตุมาจากสาร Filler เข้าไปอุดในบริเวณปลายเส้นเลือดที่จะนำเลือดไปเลี้ยงบริเวณผิวหนังบริเวณนั้น หรือ ในกรณีที่ปริมาณสาร Filler มากเกิน ก็จะไปกดเบียดบริเวณปลายเส้นเลือดให้ตีบลง จึงเป็นสาเหตุทำให้ผิวหนังตายได้

– หลังฉีด Filler ตาบอด เพราะสาเหตุสาร Filler เข้าไปอุดตันในบริเวณเส้นเลือดทำให้เลือดไม่สามารถไปเลี้ยงที่จอประสาทตา จึงทำให้ตาบอด

– อาการรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต

นี่คือเหตุผลที่ต้องออกมาเขียนเรื่องนี้เพื่อให้ทุกคนพยายามหาข้อมูลให้มากและดียิ่งขึ้นค่ะ

แหล่งข้อมูล :

– ทวิตเตอร์ @DrRungsima

– ผศ.พญ. รังสิมา วณิชภักดีเดชา

– http://www.realself.com/files/528337-504567.JPG

– http://www.guardian.co.uk/lifeandstyle/2010/jul/18/cosmetic-surgery-cowboys-face-lawsuits

– http://www.livestrong.com/article/138088-side-effects-wrinkle-fillers/

– http://gamesbbclinic.blogspot.com/2012/04/filler.html

– ประสบการณ์ตรง

Posted in FACEComments (2)

อยากหน้าเรียวทำอย่างไร ? รวมรวบวิธีทำหน้าเรียว ภาค 2


หลังจากที่ดูภาค 1 ของคุณหมอ อภิรุจ กันแล้ว

ภาค 2 ขอเป็นตัวเอิ๊กเอง และ สัมภาษณ์จากคุณหมอ รังสิมา อีกท่าน

ขอบพระคุณคุณหมอทุกท่านด้วยค่ะ

บทความนี้ขออนุญาตแนะนำตามสไตล์คนไข้ และ สิ่งที่ได้เรียนรู้มาจากคุณหมอทุกท่านนะคะ รวมถึงวิธีการใหม่ๆที่จะนำมาเล่าด้วยค่ะ 🙂 ไม่ได้สนับสนุนให้ใครทำ แต่เป็นการแชร์ประสบการณ์ที่เราได้ผ่านมาและมีความสุขขึ้นกับมันอย่างปลอดภัยค่ะ 

ในอดีตการอยากทำหน้าเรียวคงไม่ได้แพร่หลาย และ วิธีการก็ไม่ได้มากมายเหมือนอย่างตอนนี้ ใครที่อยากหน้าเรียวก็คงหมดสิทธิ์ ใครอยากทำจริงก็คงต้องศัลยกรรมตัดกรามอย่างเดียว หรือ ไม่ก็จัดฟัน ถอนเยอะๆ พอขยับฟันให้เข้าไป หน้าก็ดูเรียวเล็กขึ้น แต่ในความเป็นจริงแล้ว ไม่ใช่ทุกคนที่สามารถตัดกระดูกแนวกรามได้ เพราะไม่ใช่ทุกคนที่มีกระดูกแนวกรามขนาดใหญ่ และไม่ใช่ทุกคนที่จะถอนฟันออกเยอะได้ เพราะบางคนก็ฟันน้อยอยู่แล้ว สังเกตุได้ง่ายๆ ฟันบางคนถอนแล้ว พอดัดเสร็จคล้ายคนแก่ ฟันงุ้มเข้าไปเยอะ ซึ่งไม่ค่อยจะคุ้มเท่าไหร่ โชคดีที่เอิ๊กรอ 55555555555 รอเป็นสิบปี เดี๋ยวจะรออีก คิดว่าต้องมีวิธีที่ง่ายและไม่เจ็บและเหมาะกับเอิ๊กแน่นอน

วัตถุประสงค์เอิ๊กคือ ทำยังไงก็ได้ให้แก้มดูน้อยลง ปกติแก้มเยอะขั้นอืด หน้าอืด และ อยากให้หน้าดูเรียว คางดูยาวกว่านี้

สภาพร่างกายเอิ๊กเป็นคนที่บวมน้ำง่าย จะออกหน้า ออกขา ดังนั้น เช้าบวม-เย็นหด เช้าหด-เย็นบวม นี่คือข้อจำกัดของร่างกายเอิ๊ก ทางแก้หากร่างกายเยอะ แสดงว่าทานน้ำน้อย และ ทานโซเดียม หรือ ขอรสจัด เค็ม ผงชูรสเยอะ ต้องรีบทานน้ำ หน้าจะหดลงกลับสู่สภาพปกติ ดังนั้นจะทำวิธีไหนก็ไม่ถาวรภายในวันเดียวกัน 5555555 เศร้านะ

 เมื่อทราบสิ่งที่ต้องการ – ข้อจำกัดของร่างกายของแต่ละคน สิ่งสำคัญที่สุดที่ต้องทราบ ..

อยากหน้าเรียวโครงสร้างใบหน้าเราเป็นแบบไหนหน้าถึงไม่เรียว

1. กระดูก โหนกสูง กระดูกกรามใหญ่

2. กล้ามเนื้อช่วงมัดแนวกรามใหญ่

3. คางสั้น หน้าเลยดูสั้น

4. ไขมันกระพุ้งแก้มเยอะ

 

จะมี 4 สาเหตุนี้ที่ทำให้เราเองอาจจะรู้สึกไปเองว่าหน้าดูไม่เรียว ทั้งนี้จะดูเรียวขึ้นมากน้อยขึ้นกับหน้าของแต่ละคน และวิธีการที่เลือก รวมถึงปริมาณในการทำของแต่ละวิธี เมื่อทราบแล้ว เราไปดูกันดีกว่า สาเหตุ 1-4 เราจะใช้วิธีไหนได้บ้าง บางคนวิธีเดียวจบ บางคนต้องผสมผสานกันหลากหลายวิธี 

1. กระดูก โหนกสูง กระดูกกรามใหญ่

 หากเป็นสาเหตุนี้จะต้องใช้วิธีศัลยกรรมปรับแต่งกระดูก ไม่ว่าจะตัด เหลา

ข้อดี หน้าเราก็จะดูเรียวลงแบบเห็นได้ชัด / ค่าใช้จ่ายเพียงครั้งเดียวผลถาวรตลอดไป

ข้อด้อย หากเราไม่ชอบเราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงกลับมาเป็นแบบเดิมได้ / ต้องได้แพทย์ที่เก่งและเข้าใจสรีระโครงสร้างใบหน้าเราดีพอ รู้ว่าจุดไหนที่สามารถที่ทำให้เราพอใจ / ราคาสูง


2. กล้ามเนื้อช่วงมัดแนวกรามใหญ่

วิธีนี้ปัญหาจะอยู่ที่บริเวณกล้ามเนื้อมัดแนวกราม หากเอามือวางแนบสนิทบนใบหน้าแล้วลองกัดฟันแน่นๆ พบว่ามีกล้ามเนื้อปูดขึ้นมาจนรู้สึกและคลึงโดนได้ กล้ามเนื้อบริเวณแนวกรามช่วงนี้ จะสามารถฉีดโบทูลินูมทอกซินให้กล้ามเนื้อส่วนนี้ลีบเล็กลง หรือ เป็นอัมพาตชั่วคราวได้ ใบหน้าก็จะเรียวลง เพราะกล้ามเนื้อมัดนั้นฟีบเล็กลงไป

ข้อดี หากไม่ชอบใบหน้าที่เล็กชอบแบบเดิมปล่อยไว้ 3-6 เดือนก็จะกลับมาเป็นแบบเดิม / ราคาสูงหลักพันถึงหมื่นกว่าๆ แต่ไม่เท่าผ่าตัด

ข้อด้อย กว่าจะเห็นผล 1-1.30 เดือน เต็มที่ 3 เดือน / ต้องได้แพทย์ที่เชี่ยวชาญเรื่องกล้ามเนื้อบนใบหน้าจริงๆ เพราะว่าบางคนฉีดแล้วปากเบี้ยว มุมปากตก (เอิ๊กเคย) /  ต้องฉีดซ้ำทุก 3-6 เดือน จากนั้นถ้าฉีดบ่อยอาจอยู่นานขึ้นเป็นปี

3. คางสั้น หน้าเลยดูสั้น

วิธีนี้จบลงด้วยการศัลยกรรมคางให้ดูยางไม่ว่าจะเป็นด้วยซิลิโคน กระดูกตัวเอง หรือ ฉีดฟิลเลอร์ 

ศัลยกรรม

ข้อดี ราคาไม่ได้แพงมากไปกว่าการทำฟิลเลอร์มากนัก / เจ็บครั้งเดียวก็จะอยู่นานซึ่งขึ้นกับการดูแล / การเสริมด้วยกระดูกตัวเองอาจจะแพงกว่า แต่ความเนียนจะดี และ ธรรมชาติกว่าซิลิโคน

ข้อด้อย เกิดการผ่าตัด / เจ็บ / ต้องพักฟื้น / ถ้าไม่พอใจ หรือ เกิดปัญหาอาจจะต้องผ่าตัดเอาออก

ฟิลเลอร์

ข้อดี ปั้นรูปทรงได้ตามชอบ / ไม่ต้องพักฟื้น / ไม่ชอบก็ปล่อยให้สลายไปเองถ้าเป็นฟิลเลอร์ชนิดไม่ถาวร / ธรรมชาติกว่าเมื่อเวลาผ่านไป 1-3 เดือนจะเริ่มเข้ารูป / ไม่เจ็บเท่าศัลยกรรม 

ข้อด้อย สลายไปภายในเวลา 6-12 เดือน / บางทีถ้าเราอยากทำศัลยกรรม บริเวณที่เราทำฟิลเลอร์ต่อให้เมื่อสลายไปหมด แต่เวลาที่ฟิลเลอร์อยู่อาจมีการสร้างพังผืดของเนื้อเยื่อในร่างกายเราขึ้น เราจึงต้องขูดมันออกก่อนทำศัลยกรรมจริง / ถ้าต้องฉีดบ่อยตลอดถือว่าแพงกว่าการทำศัลยกรรม

4. ไขมันกระพุ้งแก้มเยอะ

สัญลักษณ์ของความเป็นเด็ก ความอ่อนเยาว์ ซึ่งหลายๆคนชอบ แต่บางคนคงอยากมีช่วงเวลาโตเป็นสาวกันบ้าง 555 ก็ไม่ได้เอาออก แต่เราทำให้มันเล็กลงได้แบบถาวรถ้าเราไม่อ้วนขึ้น และ ไม่ถาวร ทำได้ 4 วิธี 1. ลดน้ำหนัก 2. คลื่นวิทยุ RF 3. ดูดเซลล์ไขมันออก (ACCULIFT) 4. ผ่าตัดเอาถุงไขมันช่วงแก้มออก buccal fat

ลดความอ้วน หากใครเมื่อผอมลงหน้าก็เล็กลงก็ลดน้ำหนักซะ

ข้อดี ไม่เสียเงิน / ถ้าลดถูกวิธีก็ได้เรื่องสุขภาพดี / ใส่เสื้อผ้าได้หลากหลาย / คล่องตัวมั่นใจขึ้น

ข้อด้อย ถ้าลดหักโหม จากสวยจะกลายเป็นซูบ

คลื่นวิทยุ RF หากใครตัวเล็กแต่หน้าใหญ่ลดน้ำหนักก็ไม่ลง แสดงว่าไขมันกระพุ้งแก้มคุณเยอะ buccal fat คลื่นวิทยุมีหลายตัวล่าสุดเพิ่งลอง trilipo เป็นคลื่นวิทยุสามขั้ว สามหัว อาจไม่ดีเท่าหัวขั้วเดียว แต่ถูกกว่า และ ถ้าหน้าไม่ได้หย่อนคล้อยคอลลาเจนเสื่อม แต่มีปัญหาแค่ไขมันจะกำลังดี

ข้อดี ไม่เจ็บเลย ไม่เหมือนฉีดสลายไขมันอันนั้นยังไม่ผ่าน อย. และ FDA / อาจแพ้เจลได้

ข้อด้อย ต้องทำบ่อย / ทำบ่อยจะเริ่มเห็นผลชัดขึ้น 4-10 ครั้งขึ้นไป / อ้วนอีกก็กลับมาอีกได้ ไม่ถาวร

ดูดไขมัน ACCULIFT ดูดเซลล์ไขมันออกไปเลย จะสอดเข็มเล็กๆมากๆเข้าไปแล้วดูด มักใช้ในคนอายุ 40 ขึ้นไปที่สภาพใบหน้าหย่อนคล้อยร่วมด้วย

ข้อดี เซลล์ไขมันน้อยลงถาวร ถ้าอ้วนอีก ก็ไม่กลับมาอีกเท่าตอนเซลล์ไขมันเยอะ

ข้อด้อย เจ็บ / หน้าบวมเป็นเดือน / เข็มไม่สะอาด อาจจะติดเชื้อ  / ความชำนาญของแพทย์สำคัญมาก

ศัลยกรรมผ่าตัด เอาถุงไขมันกระพุ้งแก้มออ

ข้อดี ถุงไขมันออกไปขนาดใหญ่ในคราวเดียว / ผลชัดเจนแจ่มแจ้ง / แผลด้านในปาก

ข้อด้อย แพง เสี่ยงต่อการใบหน้าสองข้างไม่เท่ากัน โอกาสสะสมใหม่มี

 

ราคา ค่าใช้จ่ายคิดว่าหลายคนอยากรู้แต่ขอโทษที่ไม่ได้ถามมาให้เพราะแต่ละที่ราคาไม่เหมือนกันเลย นำไปเสริทหาข้อมูลเรื่องราคาต่อเอานะคะ ส่วนเอิ๊กเองทำแค่ 3 อย่างคือ เป็นคนกล้ามเนื้อกรามใหญ่ ใช้วิธีโบทูลินูม ทอกซิน ซึ่งทำติดต่อกันเรื่อยมา / คางสั้น ฟิลเลอร์ แค่ครั้งเดียว/ แก้มยุ้ย เคยทั้งฉีดและTRILIPO ตอนหลังคิดว่าคงจะทำแค่คลื่นวิทยุ RF อย่างเดียวเพราะไม่เจ็บ เคยทำครั้งเดียวแล้วชอบมาก วันนี้เลยนำมาแชร์แต่วิธีที่ปลอดภัยแล้วกันนะคะ  อยากอ่านต่อว่าทำที่ไหนกับใครเสริทกลางบล็อคerk-erk.com ว่าหน้าเรียว เอิ๊กบันทึกไว้ทุกท่าน ตั้งแต่คุณหมอรังสิมา คุณหมออภิรุจ คุณหมอเจี๊ยบ ทั้งสามท่านทำดีหมด ทุกคนมีศิลปะเป็นของตัวเอง สไตล์ของแต่ละคนไม่เหมือนกันค่ะ ชอบทุกคน เพราะทุกคนแก้ปัญหาให้เอิ๊กได้แบบปลอดภัยหมด ดังนั้นอย่าถามว่าที่ไหนดีกว่ากัน ดีหมด แต่เลือกเอาแบบเดินทางสะดวก และ อยากทำกับใครดีกว่า หวังว่าคงได้ประโยชน์กัน ทั้งนี้จะได้ผลมากน้อยขึ้นกับแต่ละคน และไม่อยากให้คนที่ยังขอสตางค์คุณพ่อคุณแม่รีบร้อนนัก รอเราทำงาน หาข้อมูล เตรียมใจ เตรียมสตางค์พร้อมไม่เดือนร้อนใครแล้วค่อยลงมือดีกว่า มาแชร์ไม่ได้ชวนเสียตังค์นะ 5555  แค่อยากแบ่งปันประสบการณ์ที่ตัวเองรู้สึกดี ทุกวันนี้ใครจะชอบเอิ๊กแบบไหน แต่เอิ๊กชอบที่เอิ๊กเป็นเอิ๊กในวันนี้ เอิ๊กที่เป็นคนที่พัฒนาตัวเองขึ้นกว่าเมื่อวานในทุกๆด้าน เลี้ยงดูครอบครัว เป็นคนดีของแม่ เอิ๊กโอเคกับชีิวิตละ 😀 สวยอย่างปลอดภัย ก็ขอให้ไม่เดือดร้อนใครด้วยค่ะ <3

2010 ด้านบน

2012ด้านล่าง

XOXO

Posted in BEAUTY TECHNOLOGY, BOTOX, CHIN, HOW TOComments (4)


advert

Google

erk-erk.com





BEAUTY MENU

มาคุยกับเอิ๊กได้ที่นี่ทุกวัน ถ้าว่างรีบตอบทุกคำถามค่ะ

INSTAGRAM @wwwerkerkcom

[instagram-feed]

ติดตามบล็อค erk-erk.com อย่างใกล้ชิด

เพียงกรอก Email ตรงนี้เลย

LINE @erk-erk

เพิ่มเพื่อน

Related Sites