Tag Archive | "Hyaluron filler"

REVIEW ปากแห้งจนดูเหี่ยวฉีดHYALURONซักนิด


 

 

 

#ปากแห้งจนดูเหี่ยว 😭

เป็นเรื่องเดียวที่แบบทุกคนน่าจะพอรู้
เราดื่มน้ำน้อยและก็ชอบแกะปากสม่ำเสมอ
ปีหลังๆลดไปเยอะพฤติกรรมแบบนี้
แต่ด้วยความที่ดื่มน้ำน้อยปากก็จะแห้งมาก
จนเกิดร่อง เหตุผลหนึ่งที่ไม่ค่อยคิดจะฉีด
เติมสารอุ้มน้ำ หรือ ฟิลเลอร์ที่ปาก
เคยแบบเติมความชุ่มชื้นคือไม่เปลี่ยนรูปปาก
แต่ทำให้ริมฝีปากดูเหมือนคนกินน้ำเยอะ
ร่องดูน้อยลง ดูสุขภาพดีขึ้นแต่
รู้สึกว่าเจ็บที่สุดเลยไม่ยุ่งเลยเกือบ2ปี

พื้นฐานมีริมฝีปากที่ไม่เท่ากันทั้ง2ข้าง
ข้างหนึ่งจะเบี้ยวไปนิดหนึ่งและความหนาน้อยกว่า
ก็ไม่ได้สนใจใช้ลิปสติกช่วยเอา
ช่วงหลังปากจะแห้งค่อนข้างเยอะเพราะว่านอนน้อย
ดื่มน้ำน้อย ไม่แตกแต่ร่อนเลย 😌

จึงตัดสินใจขอคุณหมอดูแลริมฝีปากหน่อย
คุณหมอเลือกใช้สารไฮยารูรอน
ชนิดนิ่มปานกลาง เพื่อมาช่วยอุ้มน้ำ
และเปลี่ยนมิติของริมฝีปากที่มันเบี้ยวข้างนึง
ใช้จำนวน 1 CC ซึ่งถือว่าน้อยมากกับ
บริเวณทั้งหมดโดยประมาณ 9 จุด

โจทย์คือว่าห้ามเปลี่ยนรูปปากของเรา 💋
แก้ไขจุดที่เบี้ยวได้เล็กน้อย
เติมความชุ่มชื้นและยกมุมปากขึ้นนิดหน่อย
เรากลัวว่าถ้าเกิดว่าทำอะไรตั้งแต่แรก
เปลี่ยนรูปปากไปเลยเราจะรับไม่ได้
เรายังคงอยากเป็นเรา
ถือเป็นการทดลองที่เราชอบมาก
อาจจะไม่ได้แก้ไขได้ 100% 
เพราะเราต้องการทีละเล็กก่อน

สรุปคือ9จุดก็เลยถือโอกาส
วางไปที่ ร่องแก้ม ร่องริมฝีปากล่างนิดหน่อย
Happy มากแบบถ้าไม่สังเกตก็
จะไม่รู้ใช้ชีวิตต่อได้เลยไม่บวม

รู้สึกว่าการเลือกหมอสำคัญมาก
และถ้าเป็นคุณหมอที่เทคนิคแพรวพราว
เราไม่จำเป็นต้องจ่ายแพง
เพราะเขาสามารถบริหารจำนวนการใช้ฟิลเลอร์
บวกกับเทคนิคในการวาง
แล้วให้เราเปลี่ยนไปอย่างธรรมชาติ
ไม่จำเป็นต้องใช้ฟิลเลอร์เยอะแยะ
ที่ทำให้ต้องจ่ายแพงกว่า


ปกติแล้วถ้าเป็นเรื่องของรูปหน้า
การดูแลเกี่ยวกับการยกกระชับ
ริ้วรอย การเติมเต็ม
เราจะมีรองศาสตราจารย์แพทย์หญิง @DrRungsima
ที่ดูแลมาตลอดเกือบ8ปี


คนที่ชอบอะไรธรรมชาติค่อยเป็นค่อยไป
คนที่เชื่อมั่นในความสวยความงามของแต่ละคน
มีความแตกต่างกันไปไม่จำเป็นต้องเหมือนใคร
คนที่ชอบทำอะไรน้อยแต่มาก


เราก็ไม่เชื่อคุณหมอหมดทุกเรื่องหรอกในตอนแรก
5555555 ก็ไม่เข้าใจในสไตล์ค่อยๆเป็นค่อยๆไป
อะไรกันทำแค่นี้จะสวยได้ไง
เพราะอยากสวยแบบเยอะแยะ
พอเกิดผลลัพธ์ที่ผิดพลาดจากการไปลองเอง
ทำให้รู้ว่าบางครั้งคุณหมอที่มีจรรยาบรรณ
สำคัญพอๆกับความเก่งของหมอ
ที่เราต้องเลือก
หลังจากนั้นเราก็ชอบความน้อยแต่มากเป็นต้นมา
♥️😖 #ไม่อย่างนั้นแก้มทั้งสองข้างไปนานแล้ว

ขอบพระคุณ คุณหมอมากค่ะ @drrungsima

@iskycenter #iskycenter#erkerkxiskycenter #erkerkxbeauty

 


Posted in HOW TOComments (0)

REVIEW EUCERIN HYALURON FILLER สำหรับผิวผู้ใหญ่


สวัสดีค่ะ วันนี้มา REVIEW EUCERIN SET ใหญ่ สูตร HYALURON FILLER

สำหรับผิวผู้ใหญ่ที่เริ่มมีริ้วรอย หรือ เร่ิมเป็นร่องลึกอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งสูตรนี้

ให้ความสำคัญกับ HYALURON มาก มองว่าอายุตั้งแต่ 25 การผลิต HYALURON

ของผิวจะน้อยลงไปทุกปีๆ ดังนั้นจึงเกิดสูตรนี้ขึ้นมา เพื่อเสริมการสร้าง HYALURON

ใต้ผิวขึ้น ซึ่งมีงานวิจัยตีพิมพ์ว่าเพิ่มการผลิตของ HYALURON ได้จริง รวมถึงงานวิจัย

ล่าสุดที่ช่วยคงสภาพฟิลเลอร์ที่เราได้มีการฉีดสาร HYALURON ลงไปได้นานขึ้นกว่าปกติ

เพื่อช่วยให้ริ้วรอย ร่องรอยดูตื้นขึ้น กระชับขึ้น สูตรนี้บอกได้คำเดียว เข้มข้นมาก

และไม่ใช่ 3 วันออก 10 ปีที่กว่าจะออกสูตรนี้ขึ้นมา เป็นอีกสูตรที่ให้คุณแม่ใช้ด้วย

และ ตัวเองก็มีโอกาสได้ลองเนื้อ 1 เดือน ฮ่า ฮ่า เข้มข้นสุดๆ

จุดเด่น เป็นสาร HYALURON + SAPONIN สารสกัดจากถั่วเหลือง

ซึ่งถั่วเหลืองกับริ้วรอยก็ว่าแน่พอตัวแล้ว เจอสาร HYALURON อีก สูตรนี้จึงจะ

เหมาะกับคนที่เริ่มมีริ้วรอยที่เริ่มเห็นชัดจริงๆ เพื่อจะได้ลองทดสอบดู เอิ๊กไม่แพ้เลยสูตรนี้

HYALURON-FILLER CONCENTRATE ตัวนี้เป็นเซรั่มซึ่งเข้มข้นที่สุด แพงสุดในเซ็ทนี้

ลองตัวแรก เพราะ EUCERIN ทุกสูตร ส่วนมาก ตัวที่สำคัญ คือ เซรั่ม :))))))) จัดก่อนเลย

เป็นน้ำข้นสีขาวขุ่น ที่พอทาลงบนผิวแล้วเหมือนเคลือบให้ความชุ่มชื่น ผิวจึงเรียบลื่นขึ้นคาดว่า

อาจมีซิลิโคนก็เป็นได้ ทาอันดับแรกก่อนลงครีมบำรุงนะคะ ทาเช้า – เย็น

HYALURON FILLER EYE CREAM ดวงตาที่มีริ้วรอย ก็จะเป็นสูตรนี้

เนื้อจะค่อนข้างเข้มข้น ซึ่งมีน้ำมันเป็นส่วนประกอบด้วย เพื่อจะได้ให้ความชุ่มชื่นรอบดวงตา

ส่วนตัวชอบแบบเจล เนื้อบางเบา เป็นคนที่ทาเนื้อครีมหนักแล้วจะเกิดต่อมไขมันใต้ตาแต่ตัวนี้

ชอบที่มี SPF15 มีสารกันแดดด้วย 🙂

HYALURON FILLER DAY CREAM FOR COMBINATION TO OILY SKIN

ตัวนี้แน่นอนสำหรับผิวผสม และ ผิวมัน ที่เอาไว้ใช้ตอนกลางวันเนื้อจะเบา ซึมง่าย

ตัวนี้ไม่ได้ลองเพราะผิวเราแห้ง 🙂 มี SPF15 กันUV ด้วยยังไงก็ควรลงกันแดดตามนะคะ

เกลี่ยง่าย เป็นสีขาวขุ่นค้น ที่ซึมไว เนื้อดูเข้มข้น แต่ไม่หนักผิว สำหรับผิวผสม ผิวมัน 🙂

HYALURON FILLER DAY CREAM FOR NORMAL TO DRY SKIN

เนื้อเข้มข้น ให้ความชุ่มชื่นสูง ทาแล้วรอซักพักจะซึม ผิวแห้งหน้าจะนิ่มยวบเลย

สังเกตุเนื้อซะก่อน ค่อนข้างหนัก ทาบางๆก็ได้นะคะ แต่ขอให้ทั่วถึง 🙂 ชุ่มชื่นดีค่ะ

HYALURON FILLER NIGHT CREAM 

ตัวบำรุงสำหรับผิวธรรมดา หรือ ผิวแห้ง หรือ ผิวผสม หรือ ผิวมัน สรุปใช้ไนท์ครีมตัวเดียว

กันได้ เนื้อตัวนี้ทาตอนนอนเข้มข้นทีเดียว เพื่อให้ได้การบำรุง กระชับเต็มที่ 🙂

เนื้อเข้มข้น เน้นการบำรุง สำหรับตัวไนท์ ค่อนข้างชุ่มชื่นเหมือนกัน แม่ชอบมากกกกกกกก

ข้อดี สูตรนี้บอกตามตรง เอิ๊กไม่แพ้ และ ชอบที่มีการทดสอบในผิวแพ้ง่าย ผิวที่เป็นโรค โอกาสแพ้ค่อนข้างน้อย มีส่วนผสมของถั่วเหลืองอย่าง SAPONIN เข้ามาช่วยเรื่องริ้วรอย ให้ความอิ่มเอิบนุ่มนวลของผิว และ ช่วยคงสารฟิลเลอร์ที่ฉีดมาได้ ส่วนตัวไม่เห็นผลเรื่องริ้วรอย เพราะยังไม่มี แต่ทุกตัวให้ความชุ่มชื่นได้เป็นอย่างดีกับผิวที่เริ่มมีริ้วรอย และ แห้งกร้าน 🙂 ไม่มีน้ำหอม

ข้อด้อย ถ้ายังไม่มีริ้วรอย แล้วรีบใช้ หรือ ถ้าคนไม่ชินกับความเข้มข้นของผิว อาจจะรู้สึกว่ามันหนักไป ส่วนตัวรู้สึกว่าหนักไปนิด เพราะอายุยังไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายของสูตรนี้ กลิ่นไม่หอม

ใครชอบให้พูดให้ฟังแบบวีดีโอ สามารถคลิก REVIEW ในรูปแบบวีดีโอได้ค่ะ <3

Posted in REVIEWComments (0)

ผลข้างเคียงจากการฉีดฟิลเลอร์เป็นคลื่นและวิธีการแก้ไขให้ดีขึ้น


ทุกวิธีที่กำลังจะกล่าวไม่ได้การันตีว่าจะช่วยได้ 100% แต่จะดีขึ้นได้
ยกเว้นแต่ฉีดเข้าไป และ ฉีดสลายทีละนิดทันทีก็อาจจะทำให้
ฟิลเลอร์สลายไปได้รวดเร็วมากกว่าค้างอยู่ใต้ผิวหนังและรอวันสลาย
ความจริงไม่อยากกล่างถึงเรื่องนี้ แต่เผื่อคนที่ได้ประสบปัญหาเดียวกัน
อาจจะพอเป็นแนวทางให้ได้ลองเป็นข้อมูล เอิ๊กเกิดปัญหาบริเวณคาง
เหตุผลที่ฉีดฟิลเลอร์ประเภทHYALURONเข้าไปเพราะมันจะสลายไปเอง
เมื่อถึงเวลาของมัน โดยที่เอิ๊กก็ไม่ทราบถึงผลข้างเคียงที่จะเกิดขึ้นได้
และ ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นกับตัวเอง แต่อย่างน้อยรู้สึกโชคดีที่ทำแค่คาง
ซึ่งเป็นกล้ามเนื้อที่ฉีดคลายการหดเกร็งของกล้ามเนื้อได้บ้าง
เห็นเงาดำๆเทาๆไหม นั่นเลย T_T ตอนนี้มันเกิดขึ้น 2 จุดแล้ว
 
ผลข้างเคียงหนึ่งที่อาจเกิดจากการฉีดฟิลเลอร์ประเภทสารไฮยารูรอนิคเอซิด คือการทำให้ผิวบริเวณที่ฉีดไม่เรียบเนียน เป็นคลื่น ขรุขระ หรือ บุ๋มลงไป วันนี้จะมาพูดถึงการแก้ไขปัญหานี้โดยผู้เชี่ยวชาญทางด้านผิวหนัง ผู้ช่วยศาสตราจารย์แพทย์หญิงรังสิมา วณิชภักดีเดชา
การเกิดคลื่นบริเวณผิวที่ฉีดฟิลเลอร์เกิดจากสาเหตุอะไรได้บ้างคะ ? 
1. เทคนิคการฉีดของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญแต่ละท่านอาจไม่เหมือนกัน สาเหตุนี้อาจเกิดจากบางท่านฉีดแล้วก็ปล่อย ฉีดแล้วก็ปล่อย (ไม่ได้ฉีดครั้งเดียว คล้ายกับฉีดทีละลูกแล้วปล่อย แล้วฉีดเข้าไปอีกลูกแล้วปล่อย) พอฟิลเลอร์เข้าไปเป็นก้อน มันก็อาจทำให้เกิดเป็นคลื่นตั้งแต่ครั้งแรก
2 การฉีดฟิลเลอร์ซ้ำเข้าไป ในกรณีที่ฟิลเลอร์เก่ายังสลายไม่หมด เป็นการฉีดซ้ำในเวลาที่เร็วเกิน ในขณะที่คลื่นบริเวณที่เกิดขึ้นครั้งแรกกำลังสลาย (ที่ยังคงเหลืออยู่ที่บริเวณนั้น) ก็อาจทำให้เห็นเป็นก้อนคลื่นได้
3 การฉีดใกล้กล้ามเนื้อบริเวณที่ตื้น เช่น บริเวณผิวหนัง บริเวณคาง พอเวลาเกิดการหดเกร็งของกล้ามเนื้อก็อาจจะเห็นเป็นคลื่นได้
 
การแก้ไขให้ผลข้างเคียงดีขึ้นได้บ้าง
จะพิจารณาจากการที่รู้ว่าคลื่นนั้นเกิดด้วยสาเหตุอะไร และ คนไข้ต้องการปล่อยฟิลเลอร์นั้นไว้ หรือ ต้องการจะนำออก
 
วิธีที่1
ยาชื่อว่า HYALURONIDEAD สามารถใช้ตัวยาฉีดสลายฟิลเลอร์ได้ทันที ถ้าเกิดว่าฉีดฟิลเลอร์เข้าไปแล้วเกิดเป็นลูก  ฉีดภายใน15-20 นาทีแรกจะสลายไป 60-70% หลังจากนั้นที่เหลือจะสลายไปภายในอาทิตย์นึง
  • ข้อดี สลายฟิลเลอร์ได้ทันที
  • ข้อด้อย ทำให้เกิดอาการแพ้ได้ในบางคน เกิดผื่น หรือ หอบแน่นหายใจไม่ออก , เราไม่สามารถสั่งให้ยาสลายได้แค่HYALURONIC ACID ในผิวที่เกิดจากฟิลเลอร์ได้เพียงอย่างเดียว เพราะเวลาฉีดลักษณะจะเป็นเจลใสกระจายคล้ายรากต้นไม้ซึมลงไปสู่ผิวชั้นหนังแท้ ดังนั้นเวลาสลายอาจจะทำให้ HYALURONIC ACID ของผิวจริงสลายไปด้วยได้ , ถ้าคนไข้เกิดไปฉีดฟิลเลอร์ประเภทอื่นที่ไม่ใช่ HYALURONIC ACID แต่เป็นฟิลเลอร์ประเภทอื่นเช่น ซิลิโคน ถ้าเราฉีดยาตัวนี้เข้าไปก็จะสลายฟิลเลอร์ประเภทนี้ไม่ได้ , ถัาฉีดมากเกินไปก็อาจจะทำให้ผิวหนังเป็นคลื่นเพราะ HYALURONIC ACID ชองผิวหนังอาจจะหายไปบางบริเวณ เทคนิคผู้เชี่ยวชาญบางท่านจึงจะฉีดสลายแต่ปริมาณน้อย และ นัดมาตรวจผลบ่อยๆประมาณ 1-2 ครั้งภายใน1เดือน เพื่อให้ปริมาณยาครั้งต่อไปหากสลายยังไม่หมด
 
วิธีที่2
การใช้ความร้อนสลายฟิลเลอร์ เหมือนดังเวลาที่ฉีดฟิลเลอร์ประเภทHYALURONIC ACIDแพทย์จะสั่งให้เราหลีกเลี่ยงการซาวน่า งดอาบน้ำอุ่นน้ำร้อนซัก 1 เดือน หรือแม้แต่การนวดคลึงบริเวณนั้น ถ้าเราต้องการทำให้ผิวบริเวณที่ขรุขระ เรียบเนียนขี้นได้บ้าง อาจใช้คลื่นวิทยุส่งความร้อน อาจทำให้ฟิลเลอร์ของผิวหนังบริเวณนั้นมันสลายส่งผลให้ผิวหนังเรียบเนียนขึ้นได้ อาจจะเห็นเป็นคลื่นน้อยลง หรือ บริเวณที่บวม เราอาจเห็นเป็นคลื่นน้อยลงได้
  • ข้อดี ไม่เจ็บ
  • ข้อด้อย ต้องทำบ่อยต่อเนื่องจนกว่าจะสลาย / มีค่าใช้จ่ายสูงอาจจะมากกว่าการฉีดฟิลเลอร์เพราะต้องทำต่อเนื่อง 
 
วืธีที่3 การฉีดโบทูลินูมทอกซินบริเวณผิวหนังกล้ามเนื้อตื้นที่เป็นคลื่น เพราะส่วนนึงเกิดจากการหดเกร็งของกล้ามเนื้อ อาทิ บริเวณหน้าผาก บริเวณคาง อาจทำให้ผิวด้านบนเรียบขี้นได้ หลอกตาทำให้กล้ามเนื้อคลายตัวชั่วคราว แต่ไม่ได้แก้ปัญหาที่ตัวฟิลเลอร์จริงๆ 
  • ข้อดี ช่วยพลางสายตา และ ทำให้กล้ามเนื้อที่หดคลายตัว ดูเรียบเนียนตื้นขึ้น
  • ข้อด้อย อยู่ได้ไม่นานเป็นแค่การคลายกล้ามเนื้อชั่วคราว หมดฤทธิ์ต้องทำใหม่
 
ทั้ง 3 วิธีจึงไม่สามารถแก้อาการผิวเป็นคลื่นจากการฉีด HYALURONIC ACID ให้หายเป็นปกติ หรือทำให้ผิวหนังเรียบเนียนได้ 100% คงต้องรอฟิลเลอร์สลายไปจนหมดเองตามธรรมชาติ ยกเว้นการฉีด HYALURONIC ACID และฉีดสลายด้วย HYALURONIDEAD จะสามารถสลายได้เกือบ 100% 
 
ผิวหนังที่เป็นคลื่นกลับมาเป็นเหมือนเดิมไหม ?
ขี้นอยู่กับชนิดของฟิลเลอร์ประเภทHYALURONIC ACIDนั้นๆ จะสลายไปเอง ถ้าเกิดสลายเป็นแล้วยังเป็นคลื่นเช่นบริเวณผิวหนังตื้นๆที่เป็นกล้ามเนื้อก็อาจใช้โบทูลินูม ทอกซินช่วยได้
 
คำแนะนำ
  • เลือกผู้เชี่ยวชาญก่อนฉีดฟิลเลอร์ถ้าหมอที่เชี่ยวชาญหากเกิดผลข้างเคียงด้วยประสบการณ์ก็จะแก้ไขได้อย่างเร็วและทันท่วงที
  • เลือกประเภทฟิลเลอร์HYALURONIC ACIDที่ใช้ควรผ่านการร้บรองจากองค์การอาหารและยา ทางที่ดีสามารถขอดูกล่อง และขอบรรจุภัณฑ์กลับมาเก็บไว้ที่บ้านได้ หากฉีดอีกรอบจะได้เสมือนเป็นการเก็บประวัติตัวยาและปริมาณที่เคยใช้
  • เลือกสถานประกอบการที่ขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้อง หลีกเลี่ยงหมอกระเป๋าหรือผู้ที่ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ เพราะหากเกิดปัญหาในสถานประกอบการที่ได้รับการรับรองก็จะช่วยได้ทันท่วงที รวมถึงการแก้ปัญหาของผลข้างเคียง
XOXO

Posted in FACEComments (0)

DIARY – erk-erk ไปเยี่ยมสถาบัน EUCERIN SKIN INSTITUTE ภาค 2


ภาค 3 เป็นภาคต่อของการเยี่ยมชมใน EUCERIN SKIN INSTITUTE

ภาค 1 CLICK ภาค 2 CLICK

ฐาน3 ไปจับส่วนผสมทดสอบกันแบบถึงเนื้อถึงตัวของ HYALURON

น้องเป็นผู้หญิง ขาวใส ดูบริสุทธิ์ ผุดผ่องมากค่ะน้องไฮย่า

พี่ขอจับน้องหน่อยนะ 55555

ฐานนี้นั่งกันประชิดมาก เพราะเขาจะมาปาด น้องไฮย่า [ HYALURONIC ] ให้ถึงที่

เรารู้สึกว่าแม้จะใส ขาว บริสุทธิ์ แต่มีความเหนียว และ หนืดพอตัว และอุ้มน้ำ

คือชุ่มมือนานมาก ไม่ใช่อารมณ์น้ำมัน แต่เหมือนเจลใสที่มีความหนึบ และชุ่มมาก

อย่างที่บอกว่าเป็นส่วนผสมหลักของ สูตร HYALURON FILLER ซึ่งสกัดจากแบคทีเรีย

จะเป็นผงนำไปผสมGLYCINE SAPONIN + น้ำ ทำให้เป็นเจลอีกที 

มั่นใจได้ว่าไม่มีสัตว์น้อยใหญ่เข้ามาเกี่ยวข้องตามนโยบายโลกสวยของ EUCERIN

ไม่ทดสอบ ไม่ทดลองในสัตว์ แล้วเขาก็นำเจลไฮย่าลงไปผสมในครีม ก่อนนำไปเทส

ไปทดสอบการเปลี่ยนแปลงเวลาอุณหภูมิเปลี่ยน ไปทดสอบในผิวมนุษย์จริง

เอาละเมื่อได้เล่นกับไฮย่าอย่างสนุกสนาน เราก็พักทานอาหารรสเลิศ ที่อุดมไปด้วยสุขภาพ

มีทั้งปลา เต้าหู้ น้ำผักที่หายาก แต่มีประโยชน์ ขอโทษที่ไม่มีรูปเพราะหิวจัด

กินเสร็จไปถ่ายรูปเล่นแถวหน้าเวที คุณหมอนลินี บำรุงราษฎร์ เป็นช่างกล้องให้ อิอิ

และแอบถ่ายแบรนด์แอมบาสเดอร์ของ EUCERIN HYALURON FILLER ตัวจริง38 ยังเป๊ะ

คุณ ซอนย่า คูลลิ่ง COOL มากกกกกกก นิสัยน่ารักเวอร์

เอาละไปลุยกันต่อ ทานข้าวอิ่มแล้ว ไปฐาน 4 ชมร้านยากัน 🙂

ฐาน4 ไปทัวร์ร้านยาเยอรมันกัน

ร้านขายยาในนี้ ชื่อว่า AM DERMATOLOGIKUM อย่าถามออกเสียงยังไงนะ ไม่รู้ 55

สังเกตุภาพผนัง ชวนให้เดินเข้ามาแล้วรู้สึกว่ามันมีประวัติศาสตร์ยาวนาน ข้างในใหม่กิ๊ก

ซึ่งแตกต่างจากร้านข้างนอกมาก ดูคลาสสิค แต่แอบไปด้วยความ HIGH ของ

เทคโนโลยี และ การบริการ ที่นี่เป็นของเอกชน ไม่ใช่ของ EUCERIN

นอกจากจัดสถานที่ให้เห็นถึงศักยภาพที่แตกต่าง น่าเชื่อถือ

จุดเด่นมีเภสัชกร หรือ แพทย์ผิวหนังให้คำปรึกษาได้

ภายในจะมีผลิตภัณฑ์มากมาย หลายแบรนด์ที่เรารู้จักและเคยเห็นกันในเมืองไทย

ที่นี่เป็น PARTNER ของ EUCERIN เราถือว่าเขาใจกว้างมากนะ เพราะเปิดโอกาส

แบรนด์คู่แข่งให้มีสิทธิ์เขามาวางขายในนี้ และ วางในจุดระดับเด่นที่ดึงดูดสายตาได้

ปรบมือเลย น้ำใจนักกีฬามาก ที่นี่นอกจาก ยา จะมี สกินแคร์ เครื่องสำอาง ฯลฯ

ร้านอยู่ฝั่งตรงข้ามที่เราไปวิเคราะห์สภาพผิวกัน ถ้าคนที่มาซื้อสกินแคร์มีปัญหาผิวหนัง

เภสัชกรก็จะแนะนำเดินไปปรึกษาแพทย์ผิวหนังฝั่งตรงข้ามเลย จุดเด่นอีกอย่างมีห้องกระจก

จะเห็นหมดเขาจัดยาอะไรให้เราด้านใน ทำอะไรดูโปร่งใส ชัดเจน ถ่ายทอดสด 55

ฐาน5 เปิดเผยงานวิจัยล่าสุดของEUCERIN HA FILLER

เป็นผลสรุปสั้นๆนะคะกลัวเพื่อนๆงงกันค่ะ บางคนอาจจะมองว่าสูตร

EUCERIN HYALURON FILLER มันออกมา 10 ปีแล้ว มันมีอะไรใหม่เหรอ

งานวันนี้จุดสุดยอดอยู่ 2 ฐานสุดท้ายนี้ละ Dr. Nicola

เปิดเผยตัวไฮย่าเพิ่งได้พบการวิจัยใหม่

สอดคล้องกับวิธีการชะลออายุของเราในปัจจุบัน คือ การฉีดฟิลเลอร์

เพื่อเติมเต็มร่องลึก และ ทำให้เราดูอ่อนเยาว์ลงไปโดยเมื่อใช้คู่กับ

สูตรไฮย่านี้ซึ่งผลิตโดยเทคโนโลยีนาโนที่อัดไฮย่าในระดับเล็กมากเพื่อให้ซึม

ลงไปสร้างคอลลาเจนในชั้นหนังแท้ได้จริงๆ

ซึ่งปกติครีมทั่วไปมักซึมอยู่แค่ชั้นกำพร้า

และทำให้ฟิลเลอร์ที่ฉีดเข้าไปนั้นอยู่นานขึ้นกว่าปกติ


มาดูผลทดสอบบางส่วนกันดีกว่า

ผลงานวิจัยกล่าวถึงการทดสอบ

การใช้ EUCERIN HYALURON FILLER + การฉีดฟิลเลอร์

เส้นสีฟ้าเป็นการฉีดฟิลเลอร์เข้าไปเฉยๆ

เส้นสีน้ำเงินเป็นการฉีดฟิลเลอร์ + ใช้ผลิตภัณฑ์ EUCERIN HYALURON FILLER

ในเรื่องริ้วรอยข้างดวงตาจะเห็นได้ว่าสัปดาห์ที่ 7 เป็นต้นไปผลลัพธ์การคงตัวด้านที่

ฉีดฟิลเลอร์ + ใช้ผลิตภัณฑ์ EUCERIN HYALURON FILLER หลังใช้ไปซักระยะจะช่วย

พยุงทำให้ริ้วรอยดูตื้นขึ้น และ คงตัวตื้นมากกว่า ฉีดแค่ฟิลเลอร์เพียวๆ

รวมถึงความชุ่มชื่นของผิวเมื่อวัดแล้ว ถ้าเราฉีด + ใช้ผลิตภณฑ์ HA ด้วย

ผิวชุ่มชื่นขึ้นกว่า ผิวไม่แห้งเท่าฉีดฟิลเลอร์HAเฉยๆ

ทั้งนี้รวมถึงความเรียบเนียนของผิวเมื่อฉีด+ใช้ ก็ดีกว่าด้วย

ที่เขาไม่ได้วิจัยเรื่องนี้ตั้งแต่ 10 ปีก่อนในความคิดเอิ๊กคิดว่าฟิลเลอร์พึ่งมาบูมมากจริงๆ

ไม่ถึง 5 ปี แต่อย่าลืมว่าชะลอได้ ไม่ใช่ช่วยได้ 100% แต่นับว่าเป็นเรื่องมหัศจรรย์เหมือนกัน

ที่เมื่อเราเสียเงินฉีดฟิลเลอร์ไป แล้วรอให้มันสลายหมดแล้วเติมใหม่

ถ้าเราใช้คู่กับผลิตภัณฑ์ชนิดทา ซึ่งราคาถูกกว่าจะคงผลได้ดีกว่า และ ยืดกว่าได้

แม้เล็กน้อยก็มองว่าเทคโนโลยีเขาล้ำเหมือนกัน ที่ทำให้ผลิตภัณฑ์ลงไปกระตุ้น

การสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิวหนังแท้ได้จริงๆ เราจะเห็นน้อยครีมนัก

ฐานสุดท้าย

ฐาน6 เจาะลึกการทำผลวิจัยเกี่ยวกับ EUCERIN HYALURON FILLER

ได้รับเกียรติจาก Dr. Frank Rippke – MANAGER SCIENTIFIC ENDOSMENT

 

มาเล่าถึงขั้นตอนที่ 1 การทดสอบกับกลุ่มตัวอย่าง47คน อายุเฉลี่ย 51.7 ปี

โดยไม่ได้บอกว่าข้างไหนเป็นผลิตภัณฑ์ EUCERIN HYALURON FILLER

แต่จะใช้ทาทั้งสองข้างในจำนวนชิ้นผลิตภัณฑ์ที่เท่ากัน

ทั้ง DAY-NIGHT CREAM FLUID EYE CREAM

ครึ่งหน้าทาของจริง-ครึ่งหน้าทาครีมที่ไม่มีส่วนผสมอะไรอยู่เลย

ทดสอบกันยาวมากกว่าทุกตัวที่เคยทดสอบ คือ เกือบ 5 เดือนเต็มเพื่อดูผลลัพธ์

เนื่องจากการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใช้เวลาเป็นเดือนๆ ไม่ใช่จะได้ผลทันทีที่ทา

ขั้นตอนที่ 2 ก็จะทาผลิตภัณฑ์จริงครึ่งหน้า อีกครึ่งทาที่ไม่มีส่วนผสมอยู่ ทากันถึง 1 เดือนเต็ม

จากนั้นสัปดาห์ที่ 5 จะฉีดสารฟิลเลอร์ที่เป็น HYARULONIC ACID

เข้าไปทั้งสองฝั่งของใบหน้าและฉีดอีกทีสัปดาห์ที่ 7

ระหว่างนั้นเก็บผลตลอดระยะเวลาการทดสอบ

ในรูปจะบรรยายรอยตีนกา แล้วจะสังเกตุผลของผลิตภัณฑ์ที่หลังจากฉีดฟิลเลอร์จะเป็นยังไง

นับการมีประสิทธิภาพที่เราวิจัยคือ 14 สัปดาห์ เพราะ 4 สัปดาห์แรกเราทาทดสอบโดย

ยังไม่มีการฉีดฟิลเลอร์เข้าไป

ขั้นตอนที่ 3 วัดผลแบบเจาะลึก ทั้งความชุ่มชื่น ริ้วรอย

การส่งเสริมประสิทธิภาพการฉีดฟิลเลอร์ ความอยู่ทนทานที่มันเสริมให้กับการฉีด

สรุปเมื่อทั้งทาผลิตภัณฑ์ EUCERIN HYALURON FILLER

+ ฉีด HYALURON

เห็นชัดว่ารอยย่นข้างที่ฉีด + ทาริ้วรอยน้อยกว่าฉีดอย่างเดียวจริงๆ เห็นชัดมากก

ค่ำคืนวันนั้น ก็ได้ทั้งเซ็ตมา ไม่พูดพร่ำทั้งแผลเขาบอกกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้ใช่ไหม

ใช้ซะเลย อย่างบอกว่าตัวเซรั่มทาแล้วรู้สึกเหมือนหน้าเคลือบฟิลม์ชุ่มๆบางๆ และ

สูตรผิวแห้งนั้น เนื้อหนักอยู่เหมือนกัน เข้มข้นมากมากกว่าทุกสูตรที่ได้ลองมา

ผลจะเป็นยังไงจะมารีวิวนะคะ วันนี้ก็เล่าได้ยาวมาก จบละ จุดสุดยอดทั้ง 3 บลอค

บลอคหน้าเราจะไปชมเมือง ชมนก ชมไม้ ชมอะไรสวยๆที่ EUCERIN TRIP

พาไปเที่ยวกัน เยอรมันเป็นเมืองที่สวยมาก ดูไฮมาก ชอบมากกว่าอเมริกา

ไม่ชอบอย่างเดียวห้องน้ำไม่มีที่ฉีด 55555555555555555 แล้วพบกันบลอคหน้าค่ะ



 

Posted in SKIN, SKIN CARE, TRAVEL, WRINKLEComments (2)

DIARY – erk-erk ไปเยี่ยมบ้าน EUCERIN <3


 

ทริปสุดพิเศษนี้เป็นครั้งแรกที่ EUCERIN พาสื่อหลายแขนงไปเยี่ยมบ้านเกิดที่เยอรมัน เมืองแฮมเบิร์ก หรือ ฮัมบูร์ก [ HAMBURG ] พร้อมกับทัวร์ความเป็นมา และการทำงานของ EUCERIN แบบ EXCLUSIVE ว่ากว่าจะได้ออกมาให้เห็นแต่ละสูตรที่ทั่วโลกได้ใช้กัน มีความเป็นมาอย่างไร และ กว่าตัวนึงจะออกมาใช้เวลานานแค่ไหน ?

 

ซึ่งเอิ๊กได้รับโอกาสที่ดีจาก EUCERIN และ ผู้ใหญ่ใจดี ในฐานะสื่อทางด้าน BLOG

และทุกคนยังจะได้เข้าร่วมงามเปิดตัวผลวิจัยล่าสุดของ EUCERIN HYALURON FILLER

DIARY จะมีทั้งหมด 7 BLOG รอติดตามนะคะ ภาคแรก เราจะไปทัวร์ ศูนย์ R&D

ซึ่งเป็นศูนย์วิจัยและพัฒนาระดับนานาชาติของบริษัท Beiersdorf บริษัทระดับโลก

ยักษ์ใหญ่ผู้ปลุกปั้นแบรนด์ที่เราคุ้นเคยกันดี เช่น EUCERIN, NIVEA

อายุของบริษัทก็ไม่มากเท่าไหร่แค่เกือบ 120 ปีเท่านั้นเอง ส่วน EUCERIN

เกิดเมื่อ ค.ศ. 1900 ที่เยอรมัน เมื่อ DR. ISAAC LIFSCHTZ ค้นพบส่วนประกอบสำคัญ

และนำไปจดสิทธิบัตรโดย มีชื่อว่า ” ยูเซอริท ” ลักษณะเหมือนขี้ผึ้งสกัดจากขนแกะ และ

นำมาผสม ไว้ในรูปแบบของครีมบำรุงผิวพรรณ ที่ได้ตั้งชื่อว่า “ยูเซอริน ” แปลว่าขึ้ผึ้งที่สวยงาม

ประวัติ การพัฒนา มีให้อ่านเพิ่มเติมอีกเพียบ http://www.eucerin.com/th/about-eucerin/

 

คืนก่อนที่เราจะได้เดินทางไปสู่ศูนย์วิจัย&พัฒนาที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของเยอรมันนั้น

เราได้เข้าพักโรงแรม MARRIOTT HAMBURG ซึ่งเอิ๊กได้นอนกับคุณหมอเพ็ญคนสวย

อิอิ คนตาม SOCIALCAM คงรู้แล้ว ก็มีเป็นจดหมายเชิญทางการ และขนมน่ารักต้อนรับ

[ ภายในห้องจะอบอุ่น เป็นธีมสีเลือดหมูตามสีแบรนด์ EUCERIN เลย อิอิ

ส่วนคุณหมอคิดถึงลูกสาวตัวน้อยมากๆ เป็นคุณแม่ไอที คุย skype กับเด็กๆทุกวัน ]

และ ในวันรุ่งขึ้น เราก็เดินทางไปลุยกันถึงแล้ว ศูนย์ R&D ของ EUCERIN

ทุนสร้างประมาณ 1,500 ล้านบาท กับพื้นที่ 16,000 ตร.ม.

เราจะเห็นหอประชุมเด่นชัดก่อนเลย หรือหลายคนเรียกว่า PHILOSOPHER’S STONE

การออกแบบหอประชุมแห่งนี้ก็ถ่ายทอดอุดมการณ์อย่างมาก เพราะเป็นการจำลอง

สภาพเซลล์ผิวมนุษย์โดยขยายออกมาให้ใหญ่ขึ้น [ เพิ่งรู้ว่าเซลล์เราจะต่อๆกันแบบนี้นี่เอง ]

ที่แห่งนี้จะมีการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ใหม่ๆที่เกี่ยวกับผิวหนังอยู่เสมอในแง่ของ

ผลงานวิจัยของศูนย์R&Dแห่งนี้ที่เด่นๆ ผลลัพธ์เป็นที่น่านำเสนอ ก็จะส่งต่อกันที่นี่

เพื่อให้เกิดการต่อยอดงานวิจัย และ พัฒนาให้ได้ผลลัพธ์ในการค้นหาวิธีดูแลผิวหนัง

ที่ดียิ่งขึ้น และ นำไปพัฒนาเทคโนโลยีชนิดเหลวต่อไป

 

ขอ 3 คำ ยิ่ง ใหญ่ มาก

 

เข้ามาด้านในจะพบป้าย BEIERSDORF ใหญ่มาก ยักษ์ใหญ่แห่งวงการเวชสำอาง

จะมีระดับศาสตราจารย์ของทาง EUCERIN เยอรมันคอยให้ข้อมูลในห้องทดลอง

และภาพนี้เป็นการรวมแพทย์ผิวหนัง 4 ท่านจาก 4 โรงพยาบาล ศิริราช บำรุงราษฎร์

สมิติเวช และ วิชัยยุทธ รวมถึงทีมผู้บริหาร EUCERIN ประเทศไทย 1 ท่าน และ

แบรนด์แอมบาสเดอร์คนล่าสุดของ EUCERIN HYALURON FILLER

คุณ พิม ซอนย่า คูลลิ่ง ชอบภาพนี้ เพราะมีแต่ผู้เชี่ยวชาญ 5555

ห้องแรกที่ได้มีโอกาสเข้าชม คือ หอประชุมที่จินตนาการเอาเซลล์ผิวหนังมนุษย์มาขยายนั้นแล

ที่นี่จะมีนักวิจัย นักพัฒนา ผู้เชี่ยวชาญ สถาบันต่างๆ รวมถึงมหาลัยที่เกี่ยวข้อง มาแลกเปลี่ยน

องค์ความรู้ในด้านผิวหนังกันที่นี่ ของจริงใหญ่ปานกลาง แต่ดูตกแต่งไฮเทคมาก อย่างล้ำ

เขาบอกว่าที่ศูนย์ R&D แห่งนี้นอกจากจะยิ่งใหญ่และยังล้ำมาก

(ทันสมัย) ที่สุดแห่งหนึ่งในเยอรมัน หลังจากนั้น จุดไคลแมกซ์ที่อยากจะเล่าไม่มีภาพ

เพราะเขาห้ามถ่ายภาพ เล่าแล้วจินตนาการตามมานะตัวเธอว์

เราก็ได้หลุดเข้าไปยังศูนย์ทดสอบที่เป็นส่วนสำคัญของที่นี่

จากนั้นเขาก็พาทีมที่มีกัน 20 กว่าชีวิตทั้ง EUCERIN ไทย, คุณหมอ, สื่อนสพ.

สื่อPR, สื่อนิตยสาร และตัวฉัน 555 เข้าไปในดินแดนมหัศจรรย์ซึ่งห้ามถ่ายภาพ

ขอเล่าแบบไม่ลงลึกนะคะ รายละเอียดเยอะจริง

กลัวเดี๋ยวเพื่อนๆจะมึน แล้วปิดหน้านี้ไปก่อน เอาพอประมาณ

หลักในการผลิตผลิตภัณฑ์ตัวหนึ่งที่มีคุณภาพของ EUCERIN

  1. วิจัยสูตรและส่วนผสมที่คัดเลือกสารมาจากกว่า 1,000 ชนิด
  2. จำลองเนื้อเยื่อของเซลล์ผิวหนังมนุษย์ขึ้นมาเพื่อทดสอบ
  3. เมื่อได้ผลจึงเริ่มทดสอบกับผิวมนุษย์ปกติ
  4. เมื่อทดสอบผิวมนุษย์ปกติ ก็จะมาทดสอบกับผิวที่แพ้ง่าย หรือ เป็นโรคทางผิวหนัง
ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์อย่างสูงสุด ภายใต้สารที่ค้นคว้า วิจัย พัฒนามาแล้วว่ามีประสิทธิภาพที่สุด 

 บรรยากาศมีแต่คนผิวดีหน่ะ เรื่องจริง ฝรั่งไร้กระอะ คิดเอา อืมอย่างนี้สิน่าเชื่อถือ เหมือนคนขายครีมแก้ฝ้า แต่ยังเป็นฝ้าอยู่ ตรงนี้มีผลมาก เอิ๊กสังเกตุผิวทีม EUCERIN เยอรมันทุกคนเลย ถึงจะอายุมากแต่ผิวสุขภาพดี มันกระจ่าง แบบโกลว์อะ ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ เพราะปกติเม็ดสีผิวของพวกเขาจะขึ้นจุดด่างดำง่าย นี่ไม่พบเลย

มีงานวิจัย แปะ โดยรอบ เท่าที่เห็นเวลาคนเราทดสอบข้างในชั้นผิวหนังเขามักจะฉีดสีเข้าไป แล้วสังเกตุสีที่วิ่งเข้าสู่ด้านในเอา เขาไม่ผ่าชิ้นเนื้อมาเทส เหมือนกับสัตว์ที่บางบริษัทยังใช้วิจัยอยู่

 EUCERIN ทำน้ำตาไหล เมื่อรู้ว่า เขาไม่ทดลองกับสัตว์เลย กว่า 20 ปีที่อยู่มา เพิ่งทราบจริงๆ

 ห้องทดลอง ทดสอบถูกจัดเป็นส่วนๆ อยากบอกว่ามันเล็กมาก เข้า 2-3 คนน่าจะกำลังดี คงเพราะเขาน่าจะอยากให้แต่ละทีมมีสมาธิ ถ้าอยู่เยอะ อาจจะสมาธิแตกซ่านได้ [ คิดเอง ]

 ห้องแรกที่ไป คือ ห้องการจำลองเนื้อเยื่อมนุษย์ออกมา และ หยดสารที่ต้องการทดสอบลงไป เช่น ไวท์เทนนิ่ง และมีเนื้อเยื่อหลาย 4 ผิวด้วยกัน และ มีภาพขยายของผิวหนังที่ผิดปกติ ผิวแพ้ ผิวเป็นโรคภูมิแพ้ หรือ สะเก็ดเงินให้ดู ว่าเวลาขยายชั้นผิวหนังดู จะเป็นแบบไหน เมื่อทดสอบได้ผลดี จึงนำไปทดสอบกับผิวปกติ และ ผิวแพ้ง่าย รวมถึงผู้ที่มีโรคผิวหนัง จำนวนหนึ่งกลุ่มทดสอบต่อไป

 ได้ไปเห็นห้องที่เข้าใช้คัดเลือกส่วนผสมที่เยอะกว่า 1,000 สาร ใช้ตู้เก็บอย่างดี อย่างล้ำแบบเทคโนโลยีชีวภาพ


ที่นี่ลงมาด้านล่าง ซึ่งเก็บภาพได้บ้างละ แต่ห้องแต่ละห้องก็ไม่ใหญ่มาก  จุได้ประมาณ 10 คน
แต่เรามากันคณะใหญ่ก็เบียดเสียดกันเข้าไป

มาตรวจถุงใต้ตากันก่อนเลย 55555 รวมถึงริ้วรอย ห้องนี้ถ่ายแล้วซูมริ้วรอยชัดมาก
ความยับของใต้ตา ขนาดพ่อหนุ่มที่ไปนั่งเป็น CASE STUDY วันนี้หน้าตึงๆ
ซูมจริงเริ่มมีริ้วรอยแล้ว เอาไว้ดูว่าใช้ครีมแล้วเป็นไง มาขยายผิวดูอย่างชัดเจนกันที่ห้องนี้
หลักจากทีม EUCERIN เยอรมันพูดจบ
เราก็ได้ผู้ช่วยศาสตราจารย์สาวเป็นคนแปลทุกฐาน เนื่องจากเป็นผู้หญิงคนนึงที่คร่ำหวอด
ในวงการวิจัย และ เป็น speaker แพทย์ผิวหนังระดับนานาชาติ มาสรุปทุกฐาน
ความจำดีเลิศมาก คือ เขาพูดจบหมดแล้วคุณหมอถึงมาแปลอีกทีอย่างยาวเท่าๆกัน
ตบมือให้ คุณหมอ รังสิมาหลายๆทีเลยค่ะ ประเด็นคือสอนเข้าใจง่าย
เด็กโง่วิทย์อย่างเอิ๊กเข้าใจเลย 5555555555 <3

ห้องนี้คุณหมอรังสิมาบอกว่าเป็นที่ไฝ่ฝันมาก เนื่องจากเปิดรับอาสาสมัครที่ได้รับค่าจ้าง
โดยแต่ละคนต้องผ่านการอบรม เพื่อให้เป็นมาตรฐาน และ ลงคะแนนการทดสอบให้เป็น
เป็นระยะเวลาครึ่งปี ก่อนที่จะเริ่มทำงานจริง ค่าจ้างครึ่งชม. ประมาณ 200 บาท
ในกรุ๊ปนึงแต่ละคนก็จะต้องทดสอบครีม ตั้งแต่ความรู้สึก ความมัน ความชุ่มชื่น ฯลฯ
โดยมีการแบ่งเป็นเกรดให้ทราบเลยแต่ละส่วน โดยมีการควบคุมอย่างใกล้ชิดจากนักวิจัย
ผู้เชี่ยวชาญย่างที่บอกว่าเมื่อส่วนผสมทดสอบในเนื้อเยื่อที่จำลองมาแล้วผ่าน
ก็จะมาทดสอบกับผิวคนปกติ

 

มันคือเครื่องที่เอาไว้บันทึกคะแนนของครีมที่เราทดสอบ เช่น ผลิตภัณฑ์ล้างหน้า
ว่าคนที่ทดสอบ ลองใช้รู้สึกยังไง และอาจต้องมีการจับเวลาดูความมันที่จะเกิด
 ความหนืด เมื่อใช้เสร็จก็ต้องบันทึกคะแนนลงในเครื่องนี้ ในห้องจะคุมอุณหภูมิอย่างละเอียด
 
หลังจากนั้นก็เดินไปอีกฝั่งซึ่งมีความสำคัญไม่แพ้กัน

อิอิ ชุดยูนิฟอร์มน่ารัก ขาวแดง EUCERIN มาเลย มันอยู่ช่วงหนาว ต้นไม้เปลี่ยนสีสวยมาก
และโซนนี้อยากให้คนที่คลั่งไคล้สกินแคร์ได้มาเห็น มันแบบอลังมาก จะบอกว่าเขาห้ามถ่ายรูป
ศร้ามากเลย เพราะเรื่องนี้มันยาก เอิ๊กจะขอนำทุกท่านเข้าสู่ช่วงจินตนาการล้ำเลิศอีกครั้ง
บรรยากาศภายใน 

 เป็นห้องโถงยาวเดินสบาย กว้าง ติดกระจก มีแสงแดดสาดเข้ามา อุดมไปด้วยนักวิทยาศาสตร์ และแพทย์ผิวหนัง 

ชั้นวางโชว์ผลิตภัณฑ์

 ผลิตภัณฑ์ EUCERIN มีทุกสูตร ตระการตามาก 

ผิวพรรณของพนักงานที่นี่

 ทุกคนผิวดี กระจ่าง สุขภาพเปล่งปลั่งไม่ต่างจากสองโซนแรก สงสัยจะอาบ EUCERIN 

การทดสอบ

 ตามแต่ละโต๊ะของทุกคนจะมีส่วนผสมที่ตั้งไว้ทดสอบการแปรสภาพเวลาเจอแสงเป็นเวลากี่วัน กี่เดือน ก็แล้วแต่จะกำหนด เพื่อดูว่าส่วนผสมที่ผลิตมานั้น หากเจอแสง อุณภูมิที่เย็นมาก ร้อนมากจะเกิดการเปลี่ยนแปลง และหรือ ประสิทธิภาพลดลงไหม โดยตั้งไว้ใกล้แสงแดด หลายอันเลย ดูความคงตัว หลังจากนั้นจึงนำส่วนผสมในรูปแบบครีมที่ได้ทำขึ้นมามาลอง เพื่อจะได้รู้ว่า ส่วนผสมที่ใช้ยังมีประสิทธิภาพเป็นอย่างไร ที่มีการทดสอบตรงนี้ เนื่องจากเอาไว้ดูเวลาขนส่งกระจายไปทั่วโลก อุณหภูมิที่ต่างกัน จะทำให้ครีมยังมีคุณภาพที่ดีอยู่ไหม ในการทดสอบก็จะเริ่มจากผิวปกติ ตามด้วยผิวแพ้ง่าย และผิวที่เป็นโรคผิวหนัง เพื่อให้มั่นใจว่าปลอดภัย

ส่วนผสมผลิตภัณฑ์

 เต็มไปด้วยส่วนผสมทางวิทยาศาสตร์เหมือนในหนังเลย โดยมีระบบคอมพิวเตอร์เป็นตัววัดน้ำหนักส่วนผสมทุกอย่างๆเที่ยงตรง และมีการผสมสารเพื่อทดลองกันได้เลย ณ ที่นี่ หลังจากมีคนคิดสูตร และ ก็นำมาผสมจากส่วนผสมในห้อง โดยมีมาตราฐานการวัดที่เที่ยงตรง หรือ คลาดเคลื่อนน้อยมาก ก่อนนำไปขึ้นเป็นผลิตภัณฑ์ในรูปแบบครีมอีกที แล้วทิ้งใหอุณหภูมิเย็น ค่อยเติมพวกน้ำหอม หรือ ส่วนผสมบางอย่างจนเสร็จอีกที

การผสมครีมขึ้นมาทดสอบในกลุ่มตัวอย่าง 

 มีห้องปั่นครีมด้วยอะ 5555 เวลาที่ผสมเสร็จนำมาผสมให้เป็นครีมสำเร็จ ในส่วนลอตผลิตนี้นำไปเทสกันก่อน จะเข้าสู่ระบบโรงงานการผลิตแบบเครื่องปลอดเชื้อที่ได้มาตราฐาน

ห้องนี้สำหรับผู้เชี่ยว นักวิจัย นักวิทยาซาสตร์ แพทย์ผิวหนัง

 มุมนี้มีแต่หัวกระทิ ที่ใส่เสื้อกราวน์ ดูเชี่ยวชาญยิ่งนัก 

 ปล. อยากให้ทุกคนมาเห็นจัง ละเอียดละออ เยอะขั้นตอนจริงกว่าจะออกมาแต่ละตัว บางสูตรก็วิจัย พัฒนากันเป็นสิบปีขึ้นไป และ เพื่อความปลอดภัย ทั้งมนุษย์ทุกสภาพผิว ยังมีการทดสอบเรื่องอุณหภูมิ แสง ตัวแปรอื่นๆอีก มันเจ๋งจริง เขาเลยไม่ให้ถ่ายรูปเลยไง 

 

สรุปวันนี้ทำให้เอิ๊กได้รู้จัก EUCERIN ขึ้นมาก มากกว่าแต่ก่อนที่เข้าใจว่า “ดัง” มีนักวิจัย นักพัฒนา แพทย์ผิวหนังรองรับเยอะแค่นั้น เข้าใจตอนนี้นี่เองที่ได้มา ว่าแต่ละตัวที่ออกมาแม้ว่าปีนึงจะออกเป็น 100 ตัว แต่กว่าจะออกมาให้ใช้ได้ เขาใส่ใจกับมันมากแค่ไหน นี่ยังไม่รวมแล็บแถวเอเชียนะ ที่สร้างขึ้นเพื่อพัฒนาให้ใช้ได้กับผิวคนโซนเอเชียที่สภาพอากาศอีกแบบ คือที่ดูว่าออกผลิตภัณฑ์บ่อยเยอะ แท้จริงคิดกันมาแล้วหลายปีขึ้นไป ทดสอบกันมาแล้วหลายขั้นตอน แถมออกแล้วก็พัฒนาต่อตัวเดิมอีกจนมีงานวิจัยใหม่ที่ดีกว่าเดิมออกมาถึงผลลัพธ์ที่ดีขึ้นอีกเรื่อยๆ จากการที่ได้เล่าคร่าวๆให้ฟัง ยังเยอะขนาดนี้ ขั้นตอนเขาเยอะจริงๆ เงินเยอะ นักวิทยาศาสตร์เยอะเกือบ1,000คน และเครือข่ายพันธมิตรวงการนี้อีกมาก รวมถึงทุ่มงบทุกปีเพื่อการค้นคว้า วิจัย พัฒนาตรงนี้ตลอดเวลา ให้เขาไปเถอะในการผู้นำ 55555 เขาเรียกว่ารุ่นเก๋า อยู่มานานฟิตขึ้นเรื่อยๆในการปรับปรุงพัฒนาตัวเอง เสียใจอย่างเดียว รูปห้ามถ่าย 🙁

 

ไม่แน่ใจว่าวันนี้จะทำให้ทุกคนเข้าใจยากไปไหม แต่เอิ๊กเอาแต่สิ่งสำคัญมาเล่า
ให้เป็นแรงบันดาลใจ กว่าแบรนด์เวชสำอางแบรนด์นึงจะประสบความสำเร็จ
เขาต้องอดทนพยายามกันขนาดไหน อยากออกผลิตภัณฑ์เลยก็ไม่ได้
ต้องวิจัยพัฒนาซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า ตอนนี้ไม่คิดว่า EUCERIN ราคาสูงละ
เพราะต้นทุนเขาสูงจริง

ปล. ที่ถามกันว่าซื้อครีมต่างประเทศดีกว่าไทยไหม เอิ๊กว่าราคาพอกัน
บางสูตรที่ไม่มีในไทย ก็อาจไม่เหมาะกับอากาศบ้านเราก็ได้นะ
แต่ตอนนี้ใช้ของ EUCERIN เยอรมันอยู่แหละ อย่างดี อิอิ
ต่อกันใหม่ภาค 2 นะ <3

สวัสดี !

Posted in SKIN CARE, TRAVELComments (4)

BEAUTY TALK – ผลข้างเคียงจากการฉีดฟิลเลอร์


ที่เขียนเรื่องนี้ขึ้นเพราะเอิ๊กเองได้รับผลข้างเคียงจากการฉีดฟิลเลอร์บริเวณปลายคางจึงอยากเล่าสู่กันฟัง

จุดประสงค์ในการฉีดเนื่องจากใบหน้าที่สั้น กลม แก้มเยอะ อยากทำให้ดูมีคางเพราะหน้าจะได้ดูยาวขึ้น เป็นผู้หญิงที่อยากสวยแต่กลัวเจ็บตัว กลัวการผ่าตัด เลยเลือกการฉีดฟิลเลอร์ ประเภทไฮยาลูลอน ที่มีในร่างกายและสลายไปได้เองในระยะเวลาไม่ยาวนานมากนัก เผื่อวันนึงชอบตัดสินใจทำคางจริงๆก็ยังไม่สาย ไม่ได้ANTYการศัลยกรรม แต่กลัว 555 คนทำสวยเราก็ว่าสวยดี บางคนงานล้นเลย ดังในพริบตา แต่เราคิดว่าในชีวิต อยากทำแค่ 2 สิ่ง คือ คาง และ … ไม่บอก 5555 ตอนนี้ก็ทำใจไปเรื่อยๆก่อน ยิ่งเกิดเหตุการณ์ฟิลเลอร์ส่งผลข้างเคียงนี้อยากจะบอกว่า ตอนนี้ในใจไม่อยากทำอะไรอีกเลย อยากได้คางเก่าคืนมาก่อน อยากเอาคางสั้นๆแบบเดิมกลับมา ในหัวมีแต่ความกลัว บอกตรงๆ ….. อยากสวยจนได้เรื่องสิน่า ……

ก่อนฉีดวิเคราะห์รูปหน้า : ดูมีแก้ม คางดูสั้น แต่ไม่ได้สั้นมาก ความอยากในใจ อยากคางยาวกว่านี้ เผื่อหน้าจะดูยาวขึ้น

หลังฉีดครั้งแรก : ฉีดครั้งแรกผ่านไปไม่ถึง 3 เดือน ไม่มีผลข้างเคียงใดใด ขึ้นนิดนึงทำให้หน้าดูยาวขึ้นนิดนึงกว่าก่อนฉีด เพราะคุณหมออยากให้ธรรมชาติ อาจจะธรรมชาติมาก 555 แล้วก็ยุบจากไปเร็วมากมาก ทำให้เรายังรู้สึกว่าไม่พอใจกับผลที่ได้ แต่รู้สึกดีใจที่ เออ ฟิลเลอร์ ฉีดแล้วมันก็ยุบได้เลยนะ ไม่มีผลข้างเคียงอะไรเลย หลังฉีดแค่บวมนิดนึงซัก 3 วัน นั่นเป็นเหตุผลที่  ครั้งแรกนี้เอิ๊กฉีดกับ ผศ.พญ. รังสิมาที่ ISKYCENTER หนองแขม

หลังฉีดครั้งที่สอง : คางเรียวยาวเป็นสามเหลี่ยม ในชีวิตตอนนี้คิดว่าหน้าตาตอนนี้ดีที่สุด (หลายคนอาจจะบอกไม่จริง original ดีที่สุด) ตอนนี้รู้สึกดีมาก ก.ไก่ อีกล้านตัวเลย แต่ผลข้างเคียงอันดับแรกของเอิ๊กที่ปัจจุบันยังไม่หาย คือ การเปลี่ยนสีของบริเวณที่ฉีด เป็นสีแดงตลอดเวลา เนื่องจากเส้นเลือดฝอยมารวมตัวกัน ประเมินจากคุณหมอได้คร่าวๆว่า อาจจะมาจากการแพ้ฟิลเลอร์ของเอิ๊ก ให้แก้โดยการยิงเลเซอร์กำจัดเส้นเลือดฝอย ซึ่งเอิ๊กก็ทำ ก็ดีขึ้นแต่ไม่หายสนิท คุณหมอบอกว่าฉีด filler Perlane ในขนาด 1 หลอด ซึ่งผลหลังฉีดจะดูบวมยาวกว่าของจริงประมาณ 2-3 วัน ค่อยเข้ารูปพอใจมากๆ อยากให้หน้าดู V-SHAPE สมใจเลย และเทคนิคการฉีดเข้าไปประมาณ 3 ครั้ง ก่อนปั้นให้เข้ารูป ฉีดตรงกลาง ข้างซ้าย ข้างขวา และเอิ๊กก็กินน้ำน้อยเหมือนเดิม ไม่รู้เพราะสาเหตุนี้รึเปล่า เกิดผลข้างเคียงใหม่ตามมาคือ “คางบุ๋มเฉพาะที่” เนื่องจากปรึกษากับคุณหมออีกท่าน พบว่ามันสลายบางส่วน อาจจะเป็นจากเทคนิคการฉีด 3 ส่วนด้วย เพราะมีโอกาสที่พื้นที่ส่วนใดส่วนนึงจะสลายไปก่อน ส่วนที่ไม่สลายจึงดูสวยอยู่ก็เป็นได้ ครั้งนี้ฉีดกับ นพ. อภิรุจ THE KLINIQUE  เอิ๊กชอบผลลัพธ์มาก แต่ก็ผลข้างเคียงที่เกิดอาจจะเกิดที่ตัวเอิ๊กเองทานน้ำน้อยกระมัง เท่าที่อ่านหลายท่านก็บอกเพราะฟิลเลอร์เป็นสารอุ้มน้ำ

คางปัจจุบัน

ส่วนที่เปลี่ยนสี แท้จริงคือมันบุ๋มลงไปค่ะ ขนาดยาวประมาณ 1 เซนติเมตร ซึ่งถ้าเอิ๊กพูดจะเห็นเลยว่าคางเอิ๊กข้างนึงบุ๋ม

มันสร้างความวิตกกังวลกับเอิ๊กมาก เมื่อวันที่พบเห็นคือเมื่อช่วงตุลาคมที่ผ่านมากตอนไปเยอรมัน

ระหว่างอัด SOCIAL CAM รู้สึกมันเหมือนเป็นเงาเกิดขึ้นบริเวณคาง พอมองแล้ว โอว คางดิฉันบุ๋ม

ด้วยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเอิ๊กอยากรู้ว่าเป็นเราคนเดียวหรือไม่ที่ฉีดฟิลเลอร์ผ่านอย.แล้วได้รับผลข้างเคียง

เลยลองโพสถามในแฟนเพจ erk-erk.com ปรากฎว่า

ก็มีบางคนที่พบ จึงอยากแชร์สู่กันฟัง

ล่าสุดเอิ๊กเดินทางไปเยอรมันกับ ผศ.พญ รังสิมา วณิชภักดีเดชา ซึ่งคุณหมอท่านฉีดฟิลเลอร์มากที่สุดคนนึง

ในบริเวณย่านฝั่งธนบุรี เอิ๊กก็กังวลใจ จึงขอปรึกษาทางแก้ คุณหมอบอกว่า

  • ไม่ให้ฉีดสลาย เพราะอาจจะสลายเนื้อเยื่อส่วนดีของเราไปด้วย
  • ใช้คลื่นความถี่วิทยุปล่อยความร้อนให้สลายเร็วขึ้น
  • ฉีดโบทอกคลายกล้ามเนื้อ ลดการหดตัวที่ทำให้เกิดคลื่น
ปัจจุบันทำวิธีใช้คลื่นวิทยุ RF เป็นตัว TRILIPO มาคลึงที่คาง ผลคือคางเรียบขึ้นแต่ไม่หายบุ๋ม คิดว่าน่าจะบุ๋มกว่านี้ เพราะถ้ามันทำให้สลายจริงมันก็จะสลายและบุ๋มลงเรื่อยๆ ตอนนี้จึงต้องดูแลกันไปก่อน ทนจนกว่าสลาย

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจึงขออนุญาตแชร์ผลข้างเคียงของการฉีด Filler ที่ได้หาข้อมูลมา มีตั้งแต่อาการที่รุนแรงไม่มาก ที่ใช้เวลาเพียงไม่กี่วันก็กลับมาหายเป็นปกติ จนกระทั่งถึงผลข้างเคียงที่มีอาการรุนแรงมากจนไม่สามารถกลับมาปกติเหมือนเดิม แต่การฉีดนั้นจะมีผลข้างเคียงที่มีระดับความรุนแรงมากหรือน้อยจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยในการฉีด Filler เช่น

  • ชนิดของ Filler 
  • ประสบการณ์แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่ฉีด Filler
  • เทคนิคการฉีด Filler
  • การตอบสนองร่างกายคนไข้ในการฉีด Filler
  • สถานที่ให้รับบริการฉีด Filler ความสะอาด การฆ่าเชื้อ 

คนส่วนใหญ่ถ้าผ่านการเลือกตั้งแต่ชนิด Fillerที่ผ่านอย. แพทย์ เทคนิคแพทย์ ร่างกายตอบสนองดี ก็จะมีอาการปกติหลังฉีด คือ บวมไม่กี่วันแล้วก็หาย แต่คนส่วนน้อย เช่นเอิ๊ก ถือว่าเป็นผลข้างเคียงระดับน้อยถึงปานกลาง อย่างที่เล่าไปข้างต้น
จะลองแบ่งประเภทของผลข้างเคียงคหลังจากฉีด Filler เป็น 3 ระดับ ในความรู้สึกเอิ๊กนะคะในกรณีคนไข้

1. ผลข้างเคียงระดับน้อย

– มีรอยเขียวจากเข็ม อาจจะเป็นจ้ำเลือด รวมถึงอาการบวมบริเวณที่ฉีดไม่กี่วันก็หาย

– แพ้มีเส้นเลือดฝอยรวมกันอยู่เป็นกระจุดบริเวณที่ฉีด ผิวหนังเปลี่ยนสีเป็นสีแดง

– มีผื่นแดงขึ้น

2. ผลข้างเคียงระดับปานกลาง

– คลำไปเป็นก้อนขรุขระ เป็นคลื่น ผิวหนังไม่เรียบ พอแสดงสีหน้าก้อนฟิลเลอร์ก็นูนขึ้นมา

– หลังฉีดFillerไปซักพักพบว่ามีการเปลี่ยนแปลงรูปร่างฟิลเลอร์มีการไหล รูปทรงเปลี่ยน รูปร่างเปลี่ยน

– ฉีดมาซักระยะอาจเกิดอาการแพ้ทำให้เป็นก้อน แดง นูน อักเสบ

– ผิวหนังรอบดวงตา เปลี่ยนสี อาจจะออกเป็นสีฟ้าๆ เทาๆ หรือม่วง

– หลังฉีด Filler อาจจะไม่สามารถควบคุมการทำงานของกล้ามเนื้อบนใบหน้าได้เหมือนปกติ

– หลังฉีด Filler อาจจะแสดงสีหน้าไม่ธรรมชาติเหมือนก่อนฉีด เช่น เวลายิ้มถ้าฉีดคางคางก็ย้อยเป็นก้อนดูเกร็งๆ แข็งๆ

– มีอาการคันที่รุนแรง และอาจจะมีลมพิษขึ้นตามมาด้วย

3. ผลข้างเคียงที่มีความรุนแรงในระดับมาก

– หลังฉีด Filler มีอาการติดเชื้อ บางทีแพทย์จึงสั่งให้ทานยาปฎิชีวนะหลังฉีดเสร็จเพื่อป้องกัน

– หลังฉีด Filler พบว่าผิวหนังบริเวณนั้นตายรวมถึงผิวหนังบริเวณรอบๆด้วย สาเหตุมาจากสาร Filler เข้าไปอุดในบริเวณปลายเส้นเลือดที่จะนำเลือดไปเลี้ยงบริเวณผิวหนังบริเวณนั้น หรือ ในกรณีที่ปริมาณสาร Filler มากเกิน ก็จะไปกดเบียดบริเวณปลายเส้นเลือดให้ตีบลง จึงเป็นสาเหตุทำให้ผิวหนังตายได้

– หลังฉีด Filler ตาบอด เพราะสาเหตุสาร Filler เข้าไปอุดตันในบริเวณเส้นเลือดทำให้เลือดไม่สามารถไปเลี้ยงที่จอประสาทตา จึงทำให้ตาบอด

– อาการรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต

นี่คือเหตุผลที่ต้องออกมาเขียนเรื่องนี้เพื่อให้ทุกคนพยายามหาข้อมูลให้มากและดียิ่งขึ้นค่ะ

แหล่งข้อมูล :

– ทวิตเตอร์ @DrRungsima

– ผศ.พญ. รังสิมา วณิชภักดีเดชา

– http://www.realself.com/files/528337-504567.JPG

– http://www.guardian.co.uk/lifeandstyle/2010/jul/18/cosmetic-surgery-cowboys-face-lawsuits

– http://www.livestrong.com/article/138088-side-effects-wrinkle-fillers/

– http://gamesbbclinic.blogspot.com/2012/04/filler.html

– ประสบการณ์ตรง

Posted in FACEComments (2)


advert

Google

erk-erk.com





BEAUTY MENU

มาคุยกับเอิ๊กได้ที่นี่ทุกวัน ถ้าว่างรีบตอบทุกคำถามค่ะ

INSTAGRAM @wwwerkerkcom

[instagram-feed]

ติดตามบล็อค erk-erk.com อย่างใกล้ชิด

เพียงกรอก Email ตรงนี้เลย

LINE @erk-erk

เพิ่มเพื่อน

Related Sites