Tag Archive | "hyaluronic acid"

ผลข้างเคียงจากการฉีดฟิลเลอร์เป็นคลื่นและวิธีการแก้ไขให้ดีขึ้น


ทุกวิธีที่กำลังจะกล่าวไม่ได้การันตีว่าจะช่วยได้ 100% แต่จะดีขึ้นได้
ยกเว้นแต่ฉีดเข้าไป และ ฉีดสลายทีละนิดทันทีก็อาจจะทำให้
ฟิลเลอร์สลายไปได้รวดเร็วมากกว่าค้างอยู่ใต้ผิวหนังและรอวันสลาย
ความจริงไม่อยากกล่างถึงเรื่องนี้ แต่เผื่อคนที่ได้ประสบปัญหาเดียวกัน
อาจจะพอเป็นแนวทางให้ได้ลองเป็นข้อมูล เอิ๊กเกิดปัญหาบริเวณคาง
เหตุผลที่ฉีดฟิลเลอร์ประเภทHYALURONเข้าไปเพราะมันจะสลายไปเอง
เมื่อถึงเวลาของมัน โดยที่เอิ๊กก็ไม่ทราบถึงผลข้างเคียงที่จะเกิดขึ้นได้
และ ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นกับตัวเอง แต่อย่างน้อยรู้สึกโชคดีที่ทำแค่คาง
ซึ่งเป็นกล้ามเนื้อที่ฉีดคลายการหดเกร็งของกล้ามเนื้อได้บ้าง
เห็นเงาดำๆเทาๆไหม นั่นเลย T_T ตอนนี้มันเกิดขึ้น 2 จุดแล้ว
 
ผลข้างเคียงหนึ่งที่อาจเกิดจากการฉีดฟิลเลอร์ประเภทสารไฮยารูรอนิคเอซิด คือการทำให้ผิวบริเวณที่ฉีดไม่เรียบเนียน เป็นคลื่น ขรุขระ หรือ บุ๋มลงไป วันนี้จะมาพูดถึงการแก้ไขปัญหานี้โดยผู้เชี่ยวชาญทางด้านผิวหนัง ผู้ช่วยศาสตราจารย์แพทย์หญิงรังสิมา วณิชภักดีเดชา
การเกิดคลื่นบริเวณผิวที่ฉีดฟิลเลอร์เกิดจากสาเหตุอะไรได้บ้างคะ ? 
1. เทคนิคการฉีดของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญแต่ละท่านอาจไม่เหมือนกัน สาเหตุนี้อาจเกิดจากบางท่านฉีดแล้วก็ปล่อย ฉีดแล้วก็ปล่อย (ไม่ได้ฉีดครั้งเดียว คล้ายกับฉีดทีละลูกแล้วปล่อย แล้วฉีดเข้าไปอีกลูกแล้วปล่อย) พอฟิลเลอร์เข้าไปเป็นก้อน มันก็อาจทำให้เกิดเป็นคลื่นตั้งแต่ครั้งแรก
2 การฉีดฟิลเลอร์ซ้ำเข้าไป ในกรณีที่ฟิลเลอร์เก่ายังสลายไม่หมด เป็นการฉีดซ้ำในเวลาที่เร็วเกิน ในขณะที่คลื่นบริเวณที่เกิดขึ้นครั้งแรกกำลังสลาย (ที่ยังคงเหลืออยู่ที่บริเวณนั้น) ก็อาจทำให้เห็นเป็นก้อนคลื่นได้
3 การฉีดใกล้กล้ามเนื้อบริเวณที่ตื้น เช่น บริเวณผิวหนัง บริเวณคาง พอเวลาเกิดการหดเกร็งของกล้ามเนื้อก็อาจจะเห็นเป็นคลื่นได้
 
การแก้ไขให้ผลข้างเคียงดีขึ้นได้บ้าง
จะพิจารณาจากการที่รู้ว่าคลื่นนั้นเกิดด้วยสาเหตุอะไร และ คนไข้ต้องการปล่อยฟิลเลอร์นั้นไว้ หรือ ต้องการจะนำออก
 
วิธีที่1
ยาชื่อว่า HYALURONIDEAD สามารถใช้ตัวยาฉีดสลายฟิลเลอร์ได้ทันที ถ้าเกิดว่าฉีดฟิลเลอร์เข้าไปแล้วเกิดเป็นลูก  ฉีดภายใน15-20 นาทีแรกจะสลายไป 60-70% หลังจากนั้นที่เหลือจะสลายไปภายในอาทิตย์นึง
  • ข้อดี สลายฟิลเลอร์ได้ทันที
  • ข้อด้อย ทำให้เกิดอาการแพ้ได้ในบางคน เกิดผื่น หรือ หอบแน่นหายใจไม่ออก , เราไม่สามารถสั่งให้ยาสลายได้แค่HYALURONIC ACID ในผิวที่เกิดจากฟิลเลอร์ได้เพียงอย่างเดียว เพราะเวลาฉีดลักษณะจะเป็นเจลใสกระจายคล้ายรากต้นไม้ซึมลงไปสู่ผิวชั้นหนังแท้ ดังนั้นเวลาสลายอาจจะทำให้ HYALURONIC ACID ของผิวจริงสลายไปด้วยได้ , ถ้าคนไข้เกิดไปฉีดฟิลเลอร์ประเภทอื่นที่ไม่ใช่ HYALURONIC ACID แต่เป็นฟิลเลอร์ประเภทอื่นเช่น ซิลิโคน ถ้าเราฉีดยาตัวนี้เข้าไปก็จะสลายฟิลเลอร์ประเภทนี้ไม่ได้ , ถัาฉีดมากเกินไปก็อาจจะทำให้ผิวหนังเป็นคลื่นเพราะ HYALURONIC ACID ชองผิวหนังอาจจะหายไปบางบริเวณ เทคนิคผู้เชี่ยวชาญบางท่านจึงจะฉีดสลายแต่ปริมาณน้อย และ นัดมาตรวจผลบ่อยๆประมาณ 1-2 ครั้งภายใน1เดือน เพื่อให้ปริมาณยาครั้งต่อไปหากสลายยังไม่หมด
 
วิธีที่2
การใช้ความร้อนสลายฟิลเลอร์ เหมือนดังเวลาที่ฉีดฟิลเลอร์ประเภทHYALURONIC ACIDแพทย์จะสั่งให้เราหลีกเลี่ยงการซาวน่า งดอาบน้ำอุ่นน้ำร้อนซัก 1 เดือน หรือแม้แต่การนวดคลึงบริเวณนั้น ถ้าเราต้องการทำให้ผิวบริเวณที่ขรุขระ เรียบเนียนขี้นได้บ้าง อาจใช้คลื่นวิทยุส่งความร้อน อาจทำให้ฟิลเลอร์ของผิวหนังบริเวณนั้นมันสลายส่งผลให้ผิวหนังเรียบเนียนขึ้นได้ อาจจะเห็นเป็นคลื่นน้อยลง หรือ บริเวณที่บวม เราอาจเห็นเป็นคลื่นน้อยลงได้
  • ข้อดี ไม่เจ็บ
  • ข้อด้อย ต้องทำบ่อยต่อเนื่องจนกว่าจะสลาย / มีค่าใช้จ่ายสูงอาจจะมากกว่าการฉีดฟิลเลอร์เพราะต้องทำต่อเนื่อง 
 
วืธีที่3 การฉีดโบทูลินูมทอกซินบริเวณผิวหนังกล้ามเนื้อตื้นที่เป็นคลื่น เพราะส่วนนึงเกิดจากการหดเกร็งของกล้ามเนื้อ อาทิ บริเวณหน้าผาก บริเวณคาง อาจทำให้ผิวด้านบนเรียบขี้นได้ หลอกตาทำให้กล้ามเนื้อคลายตัวชั่วคราว แต่ไม่ได้แก้ปัญหาที่ตัวฟิลเลอร์จริงๆ 
  • ข้อดี ช่วยพลางสายตา และ ทำให้กล้ามเนื้อที่หดคลายตัว ดูเรียบเนียนตื้นขึ้น
  • ข้อด้อย อยู่ได้ไม่นานเป็นแค่การคลายกล้ามเนื้อชั่วคราว หมดฤทธิ์ต้องทำใหม่
 
ทั้ง 3 วิธีจึงไม่สามารถแก้อาการผิวเป็นคลื่นจากการฉีด HYALURONIC ACID ให้หายเป็นปกติ หรือทำให้ผิวหนังเรียบเนียนได้ 100% คงต้องรอฟิลเลอร์สลายไปจนหมดเองตามธรรมชาติ ยกเว้นการฉีด HYALURONIC ACID และฉีดสลายด้วย HYALURONIDEAD จะสามารถสลายได้เกือบ 100% 
 
ผิวหนังที่เป็นคลื่นกลับมาเป็นเหมือนเดิมไหม ?
ขี้นอยู่กับชนิดของฟิลเลอร์ประเภทHYALURONIC ACIDนั้นๆ จะสลายไปเอง ถ้าเกิดสลายเป็นแล้วยังเป็นคลื่นเช่นบริเวณผิวหนังตื้นๆที่เป็นกล้ามเนื้อก็อาจใช้โบทูลินูม ทอกซินช่วยได้
 
คำแนะนำ
  • เลือกผู้เชี่ยวชาญก่อนฉีดฟิลเลอร์ถ้าหมอที่เชี่ยวชาญหากเกิดผลข้างเคียงด้วยประสบการณ์ก็จะแก้ไขได้อย่างเร็วและทันท่วงที
  • เลือกประเภทฟิลเลอร์HYALURONIC ACIDที่ใช้ควรผ่านการร้บรองจากองค์การอาหารและยา ทางที่ดีสามารถขอดูกล่อง และขอบรรจุภัณฑ์กลับมาเก็บไว้ที่บ้านได้ หากฉีดอีกรอบจะได้เสมือนเป็นการเก็บประวัติตัวยาและปริมาณที่เคยใช้
  • เลือกสถานประกอบการที่ขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้อง หลีกเลี่ยงหมอกระเป๋าหรือผู้ที่ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ เพราะหากเกิดปัญหาในสถานประกอบการที่ได้รับการรับรองก็จะช่วยได้ทันท่วงที รวมถึงการแก้ปัญหาของผลข้างเคียง
XOXO

Posted in FACEComments (0)

DIARY – erk-erk ไปเยี่ยมสถาบัน EUCERIN SKIN INSTITUTE ภาค 2


ภาค 3 เป็นภาคต่อของการเยี่ยมชมใน EUCERIN SKIN INSTITUTE

ภาค 1 CLICK ภาค 2 CLICK

ฐาน3 ไปจับส่วนผสมทดสอบกันแบบถึงเนื้อถึงตัวของ HYALURON

น้องเป็นผู้หญิง ขาวใส ดูบริสุทธิ์ ผุดผ่องมากค่ะน้องไฮย่า

พี่ขอจับน้องหน่อยนะ 55555

ฐานนี้นั่งกันประชิดมาก เพราะเขาจะมาปาด น้องไฮย่า [ HYALURONIC ] ให้ถึงที่

เรารู้สึกว่าแม้จะใส ขาว บริสุทธิ์ แต่มีความเหนียว และ หนืดพอตัว และอุ้มน้ำ

คือชุ่มมือนานมาก ไม่ใช่อารมณ์น้ำมัน แต่เหมือนเจลใสที่มีความหนึบ และชุ่มมาก

อย่างที่บอกว่าเป็นส่วนผสมหลักของ สูตร HYALURON FILLER ซึ่งสกัดจากแบคทีเรีย

จะเป็นผงนำไปผสมGLYCINE SAPONIN + น้ำ ทำให้เป็นเจลอีกที 

มั่นใจได้ว่าไม่มีสัตว์น้อยใหญ่เข้ามาเกี่ยวข้องตามนโยบายโลกสวยของ EUCERIN

ไม่ทดสอบ ไม่ทดลองในสัตว์ แล้วเขาก็นำเจลไฮย่าลงไปผสมในครีม ก่อนนำไปเทส

ไปทดสอบการเปลี่ยนแปลงเวลาอุณหภูมิเปลี่ยน ไปทดสอบในผิวมนุษย์จริง

เอาละเมื่อได้เล่นกับไฮย่าอย่างสนุกสนาน เราก็พักทานอาหารรสเลิศ ที่อุดมไปด้วยสุขภาพ

มีทั้งปลา เต้าหู้ น้ำผักที่หายาก แต่มีประโยชน์ ขอโทษที่ไม่มีรูปเพราะหิวจัด

กินเสร็จไปถ่ายรูปเล่นแถวหน้าเวที คุณหมอนลินี บำรุงราษฎร์ เป็นช่างกล้องให้ อิอิ

และแอบถ่ายแบรนด์แอมบาสเดอร์ของ EUCERIN HYALURON FILLER ตัวจริง38 ยังเป๊ะ

คุณ ซอนย่า คูลลิ่ง COOL มากกกกกกก นิสัยน่ารักเวอร์

เอาละไปลุยกันต่อ ทานข้าวอิ่มแล้ว ไปฐาน 4 ชมร้านยากัน 🙂

ฐาน4 ไปทัวร์ร้านยาเยอรมันกัน

ร้านขายยาในนี้ ชื่อว่า AM DERMATOLOGIKUM อย่าถามออกเสียงยังไงนะ ไม่รู้ 55

สังเกตุภาพผนัง ชวนให้เดินเข้ามาแล้วรู้สึกว่ามันมีประวัติศาสตร์ยาวนาน ข้างในใหม่กิ๊ก

ซึ่งแตกต่างจากร้านข้างนอกมาก ดูคลาสสิค แต่แอบไปด้วยความ HIGH ของ

เทคโนโลยี และ การบริการ ที่นี่เป็นของเอกชน ไม่ใช่ของ EUCERIN

นอกจากจัดสถานที่ให้เห็นถึงศักยภาพที่แตกต่าง น่าเชื่อถือ

จุดเด่นมีเภสัชกร หรือ แพทย์ผิวหนังให้คำปรึกษาได้

ภายในจะมีผลิตภัณฑ์มากมาย หลายแบรนด์ที่เรารู้จักและเคยเห็นกันในเมืองไทย

ที่นี่เป็น PARTNER ของ EUCERIN เราถือว่าเขาใจกว้างมากนะ เพราะเปิดโอกาส

แบรนด์คู่แข่งให้มีสิทธิ์เขามาวางขายในนี้ และ วางในจุดระดับเด่นที่ดึงดูดสายตาได้

ปรบมือเลย น้ำใจนักกีฬามาก ที่นี่นอกจาก ยา จะมี สกินแคร์ เครื่องสำอาง ฯลฯ

ร้านอยู่ฝั่งตรงข้ามที่เราไปวิเคราะห์สภาพผิวกัน ถ้าคนที่มาซื้อสกินแคร์มีปัญหาผิวหนัง

เภสัชกรก็จะแนะนำเดินไปปรึกษาแพทย์ผิวหนังฝั่งตรงข้ามเลย จุดเด่นอีกอย่างมีห้องกระจก

จะเห็นหมดเขาจัดยาอะไรให้เราด้านใน ทำอะไรดูโปร่งใส ชัดเจน ถ่ายทอดสด 55

ฐาน5 เปิดเผยงานวิจัยล่าสุดของEUCERIN HA FILLER

เป็นผลสรุปสั้นๆนะคะกลัวเพื่อนๆงงกันค่ะ บางคนอาจจะมองว่าสูตร

EUCERIN HYALURON FILLER มันออกมา 10 ปีแล้ว มันมีอะไรใหม่เหรอ

งานวันนี้จุดสุดยอดอยู่ 2 ฐานสุดท้ายนี้ละ Dr. Nicola

เปิดเผยตัวไฮย่าเพิ่งได้พบการวิจัยใหม่

สอดคล้องกับวิธีการชะลออายุของเราในปัจจุบัน คือ การฉีดฟิลเลอร์

เพื่อเติมเต็มร่องลึก และ ทำให้เราดูอ่อนเยาว์ลงไปโดยเมื่อใช้คู่กับ

สูตรไฮย่านี้ซึ่งผลิตโดยเทคโนโลยีนาโนที่อัดไฮย่าในระดับเล็กมากเพื่อให้ซึม

ลงไปสร้างคอลลาเจนในชั้นหนังแท้ได้จริงๆ

ซึ่งปกติครีมทั่วไปมักซึมอยู่แค่ชั้นกำพร้า

และทำให้ฟิลเลอร์ที่ฉีดเข้าไปนั้นอยู่นานขึ้นกว่าปกติ


มาดูผลทดสอบบางส่วนกันดีกว่า

ผลงานวิจัยกล่าวถึงการทดสอบ

การใช้ EUCERIN HYALURON FILLER + การฉีดฟิลเลอร์

เส้นสีฟ้าเป็นการฉีดฟิลเลอร์เข้าไปเฉยๆ

เส้นสีน้ำเงินเป็นการฉีดฟิลเลอร์ + ใช้ผลิตภัณฑ์ EUCERIN HYALURON FILLER

ในเรื่องริ้วรอยข้างดวงตาจะเห็นได้ว่าสัปดาห์ที่ 7 เป็นต้นไปผลลัพธ์การคงตัวด้านที่

ฉีดฟิลเลอร์ + ใช้ผลิตภัณฑ์ EUCERIN HYALURON FILLER หลังใช้ไปซักระยะจะช่วย

พยุงทำให้ริ้วรอยดูตื้นขึ้น และ คงตัวตื้นมากกว่า ฉีดแค่ฟิลเลอร์เพียวๆ

รวมถึงความชุ่มชื่นของผิวเมื่อวัดแล้ว ถ้าเราฉีด + ใช้ผลิตภณฑ์ HA ด้วย

ผิวชุ่มชื่นขึ้นกว่า ผิวไม่แห้งเท่าฉีดฟิลเลอร์HAเฉยๆ

ทั้งนี้รวมถึงความเรียบเนียนของผิวเมื่อฉีด+ใช้ ก็ดีกว่าด้วย

ที่เขาไม่ได้วิจัยเรื่องนี้ตั้งแต่ 10 ปีก่อนในความคิดเอิ๊กคิดว่าฟิลเลอร์พึ่งมาบูมมากจริงๆ

ไม่ถึง 5 ปี แต่อย่าลืมว่าชะลอได้ ไม่ใช่ช่วยได้ 100% แต่นับว่าเป็นเรื่องมหัศจรรย์เหมือนกัน

ที่เมื่อเราเสียเงินฉีดฟิลเลอร์ไป แล้วรอให้มันสลายหมดแล้วเติมใหม่

ถ้าเราใช้คู่กับผลิตภัณฑ์ชนิดทา ซึ่งราคาถูกกว่าจะคงผลได้ดีกว่า และ ยืดกว่าได้

แม้เล็กน้อยก็มองว่าเทคโนโลยีเขาล้ำเหมือนกัน ที่ทำให้ผลิตภัณฑ์ลงไปกระตุ้น

การสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิวหนังแท้ได้จริงๆ เราจะเห็นน้อยครีมนัก

ฐานสุดท้าย

ฐาน6 เจาะลึกการทำผลวิจัยเกี่ยวกับ EUCERIN HYALURON FILLER

ได้รับเกียรติจาก Dr. Frank Rippke – MANAGER SCIENTIFIC ENDOSMENT

 

มาเล่าถึงขั้นตอนที่ 1 การทดสอบกับกลุ่มตัวอย่าง47คน อายุเฉลี่ย 51.7 ปี

โดยไม่ได้บอกว่าข้างไหนเป็นผลิตภัณฑ์ EUCERIN HYALURON FILLER

แต่จะใช้ทาทั้งสองข้างในจำนวนชิ้นผลิตภัณฑ์ที่เท่ากัน

ทั้ง DAY-NIGHT CREAM FLUID EYE CREAM

ครึ่งหน้าทาของจริง-ครึ่งหน้าทาครีมที่ไม่มีส่วนผสมอะไรอยู่เลย

ทดสอบกันยาวมากกว่าทุกตัวที่เคยทดสอบ คือ เกือบ 5 เดือนเต็มเพื่อดูผลลัพธ์

เนื่องจากการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใช้เวลาเป็นเดือนๆ ไม่ใช่จะได้ผลทันทีที่ทา

ขั้นตอนที่ 2 ก็จะทาผลิตภัณฑ์จริงครึ่งหน้า อีกครึ่งทาที่ไม่มีส่วนผสมอยู่ ทากันถึง 1 เดือนเต็ม

จากนั้นสัปดาห์ที่ 5 จะฉีดสารฟิลเลอร์ที่เป็น HYARULONIC ACID

เข้าไปทั้งสองฝั่งของใบหน้าและฉีดอีกทีสัปดาห์ที่ 7

ระหว่างนั้นเก็บผลตลอดระยะเวลาการทดสอบ

ในรูปจะบรรยายรอยตีนกา แล้วจะสังเกตุผลของผลิตภัณฑ์ที่หลังจากฉีดฟิลเลอร์จะเป็นยังไง

นับการมีประสิทธิภาพที่เราวิจัยคือ 14 สัปดาห์ เพราะ 4 สัปดาห์แรกเราทาทดสอบโดย

ยังไม่มีการฉีดฟิลเลอร์เข้าไป

ขั้นตอนที่ 3 วัดผลแบบเจาะลึก ทั้งความชุ่มชื่น ริ้วรอย

การส่งเสริมประสิทธิภาพการฉีดฟิลเลอร์ ความอยู่ทนทานที่มันเสริมให้กับการฉีด

สรุปเมื่อทั้งทาผลิตภัณฑ์ EUCERIN HYALURON FILLER

+ ฉีด HYALURON

เห็นชัดว่ารอยย่นข้างที่ฉีด + ทาริ้วรอยน้อยกว่าฉีดอย่างเดียวจริงๆ เห็นชัดมากก

ค่ำคืนวันนั้น ก็ได้ทั้งเซ็ตมา ไม่พูดพร่ำทั้งแผลเขาบอกกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้ใช่ไหม

ใช้ซะเลย อย่างบอกว่าตัวเซรั่มทาแล้วรู้สึกเหมือนหน้าเคลือบฟิลม์ชุ่มๆบางๆ และ

สูตรผิวแห้งนั้น เนื้อหนักอยู่เหมือนกัน เข้มข้นมากมากกว่าทุกสูตรที่ได้ลองมา

ผลจะเป็นยังไงจะมารีวิวนะคะ วันนี้ก็เล่าได้ยาวมาก จบละ จุดสุดยอดทั้ง 3 บลอค

บลอคหน้าเราจะไปชมเมือง ชมนก ชมไม้ ชมอะไรสวยๆที่ EUCERIN TRIP

พาไปเที่ยวกัน เยอรมันเป็นเมืองที่สวยมาก ดูไฮมาก ชอบมากกว่าอเมริกา

ไม่ชอบอย่างเดียวห้องน้ำไม่มีที่ฉีด 55555555555555555 แล้วพบกันบลอคหน้าค่ะ



 

Posted in SKIN, SKIN CARE, TRAVEL, WRINKLEComments (2)

DIARY – erk-erk ไปเยี่ยมบ้าน EUCERIN <3


 

ทริปสุดพิเศษนี้เป็นครั้งแรกที่ EUCERIN พาสื่อหลายแขนงไปเยี่ยมบ้านเกิดที่เยอรมัน เมืองแฮมเบิร์ก หรือ ฮัมบูร์ก [ HAMBURG ] พร้อมกับทัวร์ความเป็นมา และการทำงานของ EUCERIN แบบ EXCLUSIVE ว่ากว่าจะได้ออกมาให้เห็นแต่ละสูตรที่ทั่วโลกได้ใช้กัน มีความเป็นมาอย่างไร และ กว่าตัวนึงจะออกมาใช้เวลานานแค่ไหน ?

 

ซึ่งเอิ๊กได้รับโอกาสที่ดีจาก EUCERIN และ ผู้ใหญ่ใจดี ในฐานะสื่อทางด้าน BLOG

และทุกคนยังจะได้เข้าร่วมงามเปิดตัวผลวิจัยล่าสุดของ EUCERIN HYALURON FILLER

DIARY จะมีทั้งหมด 7 BLOG รอติดตามนะคะ ภาคแรก เราจะไปทัวร์ ศูนย์ R&D

ซึ่งเป็นศูนย์วิจัยและพัฒนาระดับนานาชาติของบริษัท Beiersdorf บริษัทระดับโลก

ยักษ์ใหญ่ผู้ปลุกปั้นแบรนด์ที่เราคุ้นเคยกันดี เช่น EUCERIN, NIVEA

อายุของบริษัทก็ไม่มากเท่าไหร่แค่เกือบ 120 ปีเท่านั้นเอง ส่วน EUCERIN

เกิดเมื่อ ค.ศ. 1900 ที่เยอรมัน เมื่อ DR. ISAAC LIFSCHTZ ค้นพบส่วนประกอบสำคัญ

และนำไปจดสิทธิบัตรโดย มีชื่อว่า ” ยูเซอริท ” ลักษณะเหมือนขี้ผึ้งสกัดจากขนแกะ และ

นำมาผสม ไว้ในรูปแบบของครีมบำรุงผิวพรรณ ที่ได้ตั้งชื่อว่า “ยูเซอริน ” แปลว่าขึ้ผึ้งที่สวยงาม

ประวัติ การพัฒนา มีให้อ่านเพิ่มเติมอีกเพียบ http://www.eucerin.com/th/about-eucerin/

 

คืนก่อนที่เราจะได้เดินทางไปสู่ศูนย์วิจัย&พัฒนาที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของเยอรมันนั้น

เราได้เข้าพักโรงแรม MARRIOTT HAMBURG ซึ่งเอิ๊กได้นอนกับคุณหมอเพ็ญคนสวย

อิอิ คนตาม SOCIALCAM คงรู้แล้ว ก็มีเป็นจดหมายเชิญทางการ และขนมน่ารักต้อนรับ

[ ภายในห้องจะอบอุ่น เป็นธีมสีเลือดหมูตามสีแบรนด์ EUCERIN เลย อิอิ

ส่วนคุณหมอคิดถึงลูกสาวตัวน้อยมากๆ เป็นคุณแม่ไอที คุย skype กับเด็กๆทุกวัน ]

และ ในวันรุ่งขึ้น เราก็เดินทางไปลุยกันถึงแล้ว ศูนย์ R&D ของ EUCERIN

ทุนสร้างประมาณ 1,500 ล้านบาท กับพื้นที่ 16,000 ตร.ม.

เราจะเห็นหอประชุมเด่นชัดก่อนเลย หรือหลายคนเรียกว่า PHILOSOPHER’S STONE

การออกแบบหอประชุมแห่งนี้ก็ถ่ายทอดอุดมการณ์อย่างมาก เพราะเป็นการจำลอง

สภาพเซลล์ผิวมนุษย์โดยขยายออกมาให้ใหญ่ขึ้น [ เพิ่งรู้ว่าเซลล์เราจะต่อๆกันแบบนี้นี่เอง ]

ที่แห่งนี้จะมีการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ใหม่ๆที่เกี่ยวกับผิวหนังอยู่เสมอในแง่ของ

ผลงานวิจัยของศูนย์R&Dแห่งนี้ที่เด่นๆ ผลลัพธ์เป็นที่น่านำเสนอ ก็จะส่งต่อกันที่นี่

เพื่อให้เกิดการต่อยอดงานวิจัย และ พัฒนาให้ได้ผลลัพธ์ในการค้นหาวิธีดูแลผิวหนัง

ที่ดียิ่งขึ้น และ นำไปพัฒนาเทคโนโลยีชนิดเหลวต่อไป

 

ขอ 3 คำ ยิ่ง ใหญ่ มาก

 

เข้ามาด้านในจะพบป้าย BEIERSDORF ใหญ่มาก ยักษ์ใหญ่แห่งวงการเวชสำอาง

จะมีระดับศาสตราจารย์ของทาง EUCERIN เยอรมันคอยให้ข้อมูลในห้องทดลอง

และภาพนี้เป็นการรวมแพทย์ผิวหนัง 4 ท่านจาก 4 โรงพยาบาล ศิริราช บำรุงราษฎร์

สมิติเวช และ วิชัยยุทธ รวมถึงทีมผู้บริหาร EUCERIN ประเทศไทย 1 ท่าน และ

แบรนด์แอมบาสเดอร์คนล่าสุดของ EUCERIN HYALURON FILLER

คุณ พิม ซอนย่า คูลลิ่ง ชอบภาพนี้ เพราะมีแต่ผู้เชี่ยวชาญ 5555

ห้องแรกที่ได้มีโอกาสเข้าชม คือ หอประชุมที่จินตนาการเอาเซลล์ผิวหนังมนุษย์มาขยายนั้นแล

ที่นี่จะมีนักวิจัย นักพัฒนา ผู้เชี่ยวชาญ สถาบันต่างๆ รวมถึงมหาลัยที่เกี่ยวข้อง มาแลกเปลี่ยน

องค์ความรู้ในด้านผิวหนังกันที่นี่ ของจริงใหญ่ปานกลาง แต่ดูตกแต่งไฮเทคมาก อย่างล้ำ

เขาบอกว่าที่ศูนย์ R&D แห่งนี้นอกจากจะยิ่งใหญ่และยังล้ำมาก

(ทันสมัย) ที่สุดแห่งหนึ่งในเยอรมัน หลังจากนั้น จุดไคลแมกซ์ที่อยากจะเล่าไม่มีภาพ

เพราะเขาห้ามถ่ายภาพ เล่าแล้วจินตนาการตามมานะตัวเธอว์

เราก็ได้หลุดเข้าไปยังศูนย์ทดสอบที่เป็นส่วนสำคัญของที่นี่

จากนั้นเขาก็พาทีมที่มีกัน 20 กว่าชีวิตทั้ง EUCERIN ไทย, คุณหมอ, สื่อนสพ.

สื่อPR, สื่อนิตยสาร และตัวฉัน 555 เข้าไปในดินแดนมหัศจรรย์ซึ่งห้ามถ่ายภาพ

ขอเล่าแบบไม่ลงลึกนะคะ รายละเอียดเยอะจริง

กลัวเดี๋ยวเพื่อนๆจะมึน แล้วปิดหน้านี้ไปก่อน เอาพอประมาณ

หลักในการผลิตผลิตภัณฑ์ตัวหนึ่งที่มีคุณภาพของ EUCERIN

  1. วิจัยสูตรและส่วนผสมที่คัดเลือกสารมาจากกว่า 1,000 ชนิด
  2. จำลองเนื้อเยื่อของเซลล์ผิวหนังมนุษย์ขึ้นมาเพื่อทดสอบ
  3. เมื่อได้ผลจึงเริ่มทดสอบกับผิวมนุษย์ปกติ
  4. เมื่อทดสอบผิวมนุษย์ปกติ ก็จะมาทดสอบกับผิวที่แพ้ง่าย หรือ เป็นโรคทางผิวหนัง
ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์อย่างสูงสุด ภายใต้สารที่ค้นคว้า วิจัย พัฒนามาแล้วว่ามีประสิทธิภาพที่สุด 

 บรรยากาศมีแต่คนผิวดีหน่ะ เรื่องจริง ฝรั่งไร้กระอะ คิดเอา อืมอย่างนี้สิน่าเชื่อถือ เหมือนคนขายครีมแก้ฝ้า แต่ยังเป็นฝ้าอยู่ ตรงนี้มีผลมาก เอิ๊กสังเกตุผิวทีม EUCERIN เยอรมันทุกคนเลย ถึงจะอายุมากแต่ผิวสุขภาพดี มันกระจ่าง แบบโกลว์อะ ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ เพราะปกติเม็ดสีผิวของพวกเขาจะขึ้นจุดด่างดำง่าย นี่ไม่พบเลย

มีงานวิจัย แปะ โดยรอบ เท่าที่เห็นเวลาคนเราทดสอบข้างในชั้นผิวหนังเขามักจะฉีดสีเข้าไป แล้วสังเกตุสีที่วิ่งเข้าสู่ด้านในเอา เขาไม่ผ่าชิ้นเนื้อมาเทส เหมือนกับสัตว์ที่บางบริษัทยังใช้วิจัยอยู่

 EUCERIN ทำน้ำตาไหล เมื่อรู้ว่า เขาไม่ทดลองกับสัตว์เลย กว่า 20 ปีที่อยู่มา เพิ่งทราบจริงๆ

 ห้องทดลอง ทดสอบถูกจัดเป็นส่วนๆ อยากบอกว่ามันเล็กมาก เข้า 2-3 คนน่าจะกำลังดี คงเพราะเขาน่าจะอยากให้แต่ละทีมมีสมาธิ ถ้าอยู่เยอะ อาจจะสมาธิแตกซ่านได้ [ คิดเอง ]

 ห้องแรกที่ไป คือ ห้องการจำลองเนื้อเยื่อมนุษย์ออกมา และ หยดสารที่ต้องการทดสอบลงไป เช่น ไวท์เทนนิ่ง และมีเนื้อเยื่อหลาย 4 ผิวด้วยกัน และ มีภาพขยายของผิวหนังที่ผิดปกติ ผิวแพ้ ผิวเป็นโรคภูมิแพ้ หรือ สะเก็ดเงินให้ดู ว่าเวลาขยายชั้นผิวหนังดู จะเป็นแบบไหน เมื่อทดสอบได้ผลดี จึงนำไปทดสอบกับผิวปกติ และ ผิวแพ้ง่าย รวมถึงผู้ที่มีโรคผิวหนัง จำนวนหนึ่งกลุ่มทดสอบต่อไป

 ได้ไปเห็นห้องที่เข้าใช้คัดเลือกส่วนผสมที่เยอะกว่า 1,000 สาร ใช้ตู้เก็บอย่างดี อย่างล้ำแบบเทคโนโลยีชีวภาพ


ที่นี่ลงมาด้านล่าง ซึ่งเก็บภาพได้บ้างละ แต่ห้องแต่ละห้องก็ไม่ใหญ่มาก  จุได้ประมาณ 10 คน
แต่เรามากันคณะใหญ่ก็เบียดเสียดกันเข้าไป

มาตรวจถุงใต้ตากันก่อนเลย 55555 รวมถึงริ้วรอย ห้องนี้ถ่ายแล้วซูมริ้วรอยชัดมาก
ความยับของใต้ตา ขนาดพ่อหนุ่มที่ไปนั่งเป็น CASE STUDY วันนี้หน้าตึงๆ
ซูมจริงเริ่มมีริ้วรอยแล้ว เอาไว้ดูว่าใช้ครีมแล้วเป็นไง มาขยายผิวดูอย่างชัดเจนกันที่ห้องนี้
หลักจากทีม EUCERIN เยอรมันพูดจบ
เราก็ได้ผู้ช่วยศาสตราจารย์สาวเป็นคนแปลทุกฐาน เนื่องจากเป็นผู้หญิงคนนึงที่คร่ำหวอด
ในวงการวิจัย และ เป็น speaker แพทย์ผิวหนังระดับนานาชาติ มาสรุปทุกฐาน
ความจำดีเลิศมาก คือ เขาพูดจบหมดแล้วคุณหมอถึงมาแปลอีกทีอย่างยาวเท่าๆกัน
ตบมือให้ คุณหมอ รังสิมาหลายๆทีเลยค่ะ ประเด็นคือสอนเข้าใจง่าย
เด็กโง่วิทย์อย่างเอิ๊กเข้าใจเลย 5555555555 <3

ห้องนี้คุณหมอรังสิมาบอกว่าเป็นที่ไฝ่ฝันมาก เนื่องจากเปิดรับอาสาสมัครที่ได้รับค่าจ้าง
โดยแต่ละคนต้องผ่านการอบรม เพื่อให้เป็นมาตรฐาน และ ลงคะแนนการทดสอบให้เป็น
เป็นระยะเวลาครึ่งปี ก่อนที่จะเริ่มทำงานจริง ค่าจ้างครึ่งชม. ประมาณ 200 บาท
ในกรุ๊ปนึงแต่ละคนก็จะต้องทดสอบครีม ตั้งแต่ความรู้สึก ความมัน ความชุ่มชื่น ฯลฯ
โดยมีการแบ่งเป็นเกรดให้ทราบเลยแต่ละส่วน โดยมีการควบคุมอย่างใกล้ชิดจากนักวิจัย
ผู้เชี่ยวชาญย่างที่บอกว่าเมื่อส่วนผสมทดสอบในเนื้อเยื่อที่จำลองมาแล้วผ่าน
ก็จะมาทดสอบกับผิวคนปกติ

 

มันคือเครื่องที่เอาไว้บันทึกคะแนนของครีมที่เราทดสอบ เช่น ผลิตภัณฑ์ล้างหน้า
ว่าคนที่ทดสอบ ลองใช้รู้สึกยังไง และอาจต้องมีการจับเวลาดูความมันที่จะเกิด
 ความหนืด เมื่อใช้เสร็จก็ต้องบันทึกคะแนนลงในเครื่องนี้ ในห้องจะคุมอุณหภูมิอย่างละเอียด
 
หลังจากนั้นก็เดินไปอีกฝั่งซึ่งมีความสำคัญไม่แพ้กัน

อิอิ ชุดยูนิฟอร์มน่ารัก ขาวแดง EUCERIN มาเลย มันอยู่ช่วงหนาว ต้นไม้เปลี่ยนสีสวยมาก
และโซนนี้อยากให้คนที่คลั่งไคล้สกินแคร์ได้มาเห็น มันแบบอลังมาก จะบอกว่าเขาห้ามถ่ายรูป
ศร้ามากเลย เพราะเรื่องนี้มันยาก เอิ๊กจะขอนำทุกท่านเข้าสู่ช่วงจินตนาการล้ำเลิศอีกครั้ง
บรรยากาศภายใน 

 เป็นห้องโถงยาวเดินสบาย กว้าง ติดกระจก มีแสงแดดสาดเข้ามา อุดมไปด้วยนักวิทยาศาสตร์ และแพทย์ผิวหนัง 

ชั้นวางโชว์ผลิตภัณฑ์

 ผลิตภัณฑ์ EUCERIN มีทุกสูตร ตระการตามาก 

ผิวพรรณของพนักงานที่นี่

 ทุกคนผิวดี กระจ่าง สุขภาพเปล่งปลั่งไม่ต่างจากสองโซนแรก สงสัยจะอาบ EUCERIN 

การทดสอบ

 ตามแต่ละโต๊ะของทุกคนจะมีส่วนผสมที่ตั้งไว้ทดสอบการแปรสภาพเวลาเจอแสงเป็นเวลากี่วัน กี่เดือน ก็แล้วแต่จะกำหนด เพื่อดูว่าส่วนผสมที่ผลิตมานั้น หากเจอแสง อุณภูมิที่เย็นมาก ร้อนมากจะเกิดการเปลี่ยนแปลง และหรือ ประสิทธิภาพลดลงไหม โดยตั้งไว้ใกล้แสงแดด หลายอันเลย ดูความคงตัว หลังจากนั้นจึงนำส่วนผสมในรูปแบบครีมที่ได้ทำขึ้นมามาลอง เพื่อจะได้รู้ว่า ส่วนผสมที่ใช้ยังมีประสิทธิภาพเป็นอย่างไร ที่มีการทดสอบตรงนี้ เนื่องจากเอาไว้ดูเวลาขนส่งกระจายไปทั่วโลก อุณหภูมิที่ต่างกัน จะทำให้ครีมยังมีคุณภาพที่ดีอยู่ไหม ในการทดสอบก็จะเริ่มจากผิวปกติ ตามด้วยผิวแพ้ง่าย และผิวที่เป็นโรคผิวหนัง เพื่อให้มั่นใจว่าปลอดภัย

ส่วนผสมผลิตภัณฑ์

 เต็มไปด้วยส่วนผสมทางวิทยาศาสตร์เหมือนในหนังเลย โดยมีระบบคอมพิวเตอร์เป็นตัววัดน้ำหนักส่วนผสมทุกอย่างๆเที่ยงตรง และมีการผสมสารเพื่อทดลองกันได้เลย ณ ที่นี่ หลังจากมีคนคิดสูตร และ ก็นำมาผสมจากส่วนผสมในห้อง โดยมีมาตราฐานการวัดที่เที่ยงตรง หรือ คลาดเคลื่อนน้อยมาก ก่อนนำไปขึ้นเป็นผลิตภัณฑ์ในรูปแบบครีมอีกที แล้วทิ้งใหอุณหภูมิเย็น ค่อยเติมพวกน้ำหอม หรือ ส่วนผสมบางอย่างจนเสร็จอีกที

การผสมครีมขึ้นมาทดสอบในกลุ่มตัวอย่าง 

 มีห้องปั่นครีมด้วยอะ 5555 เวลาที่ผสมเสร็จนำมาผสมให้เป็นครีมสำเร็จ ในส่วนลอตผลิตนี้นำไปเทสกันก่อน จะเข้าสู่ระบบโรงงานการผลิตแบบเครื่องปลอดเชื้อที่ได้มาตราฐาน

ห้องนี้สำหรับผู้เชี่ยว นักวิจัย นักวิทยาซาสตร์ แพทย์ผิวหนัง

 มุมนี้มีแต่หัวกระทิ ที่ใส่เสื้อกราวน์ ดูเชี่ยวชาญยิ่งนัก 

 ปล. อยากให้ทุกคนมาเห็นจัง ละเอียดละออ เยอะขั้นตอนจริงกว่าจะออกมาแต่ละตัว บางสูตรก็วิจัย พัฒนากันเป็นสิบปีขึ้นไป และ เพื่อความปลอดภัย ทั้งมนุษย์ทุกสภาพผิว ยังมีการทดสอบเรื่องอุณหภูมิ แสง ตัวแปรอื่นๆอีก มันเจ๋งจริง เขาเลยไม่ให้ถ่ายรูปเลยไง 

 

สรุปวันนี้ทำให้เอิ๊กได้รู้จัก EUCERIN ขึ้นมาก มากกว่าแต่ก่อนที่เข้าใจว่า “ดัง” มีนักวิจัย นักพัฒนา แพทย์ผิวหนังรองรับเยอะแค่นั้น เข้าใจตอนนี้นี่เองที่ได้มา ว่าแต่ละตัวที่ออกมาแม้ว่าปีนึงจะออกเป็น 100 ตัว แต่กว่าจะออกมาให้ใช้ได้ เขาใส่ใจกับมันมากแค่ไหน นี่ยังไม่รวมแล็บแถวเอเชียนะ ที่สร้างขึ้นเพื่อพัฒนาให้ใช้ได้กับผิวคนโซนเอเชียที่สภาพอากาศอีกแบบ คือที่ดูว่าออกผลิตภัณฑ์บ่อยเยอะ แท้จริงคิดกันมาแล้วหลายปีขึ้นไป ทดสอบกันมาแล้วหลายขั้นตอน แถมออกแล้วก็พัฒนาต่อตัวเดิมอีกจนมีงานวิจัยใหม่ที่ดีกว่าเดิมออกมาถึงผลลัพธ์ที่ดีขึ้นอีกเรื่อยๆ จากการที่ได้เล่าคร่าวๆให้ฟัง ยังเยอะขนาดนี้ ขั้นตอนเขาเยอะจริงๆ เงินเยอะ นักวิทยาศาสตร์เยอะเกือบ1,000คน และเครือข่ายพันธมิตรวงการนี้อีกมาก รวมถึงทุ่มงบทุกปีเพื่อการค้นคว้า วิจัย พัฒนาตรงนี้ตลอดเวลา ให้เขาไปเถอะในการผู้นำ 55555 เขาเรียกว่ารุ่นเก๋า อยู่มานานฟิตขึ้นเรื่อยๆในการปรับปรุงพัฒนาตัวเอง เสียใจอย่างเดียว รูปห้ามถ่าย 🙁

 

ไม่แน่ใจว่าวันนี้จะทำให้ทุกคนเข้าใจยากไปไหม แต่เอิ๊กเอาแต่สิ่งสำคัญมาเล่า
ให้เป็นแรงบันดาลใจ กว่าแบรนด์เวชสำอางแบรนด์นึงจะประสบความสำเร็จ
เขาต้องอดทนพยายามกันขนาดไหน อยากออกผลิตภัณฑ์เลยก็ไม่ได้
ต้องวิจัยพัฒนาซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า ตอนนี้ไม่คิดว่า EUCERIN ราคาสูงละ
เพราะต้นทุนเขาสูงจริง

ปล. ที่ถามกันว่าซื้อครีมต่างประเทศดีกว่าไทยไหม เอิ๊กว่าราคาพอกัน
บางสูตรที่ไม่มีในไทย ก็อาจไม่เหมาะกับอากาศบ้านเราก็ได้นะ
แต่ตอนนี้ใช้ของ EUCERIN เยอรมันอยู่แหละ อย่างดี อิอิ
ต่อกันใหม่ภาค 2 นะ <3

สวัสดี !

Posted in SKIN CARE, TRAVELComments (4)

REVIEW NEUTROGENA HYDRO BOOST เติมน้ำให้ผิว


สวัสดี สาวผิวขาดน้ำทุกท่าน วันนี้มารีวิวตัวเดิมที่เคยรีวิวไปแล้วในแฟนเพจอีกรอบ ดองไว้นานแล้ว กับตัว NEUTROGENA HYDROBOOST ตัวเติมน้ำให้ผิว เอิ๊กอยากใช้มาก แต่บังเอิญผิวแห้งและไม่ค่อยแข็งแรงจึงใช้ได้ 2 ตัวที่ได้มา กล่องนี้ได้มาจากแบรนด์นะกั๊บ

NEUTROGENA รุ่นก่อนเป็นตัวที่แม่เอิ๊กใช้อยู่มีถั่วเหลือง ซึ่งใบหน้าเค้าดีขึ้นมาก ดูอิ่มน้ำ ตัวนี้เล่นเรื่องการกักเก็บความชุ่มชื่นด้วยเจ้า HYALURONIC ACID เป็นหลัก เหมาะกับผิวที่ขาดน้ำโดยเฉพาะผิวมันเนื่องด้วยส่วนผสม สังเกตุว่าแค่เห็นแพคเกจจิ้ง แล้วรู้สึกฉ่ำเย็น เหมือนเห็นน้ำ ? :p  ทั้งเซ็ตนี้อยากให้ค่อยๆลองทีละชิ้นจะดีกว่า จะได้รู้ว่าตัวไหนที่น่าจะเหมาะผิวของเรา  กล่องนี้ก็มีอยู่ 4 ตัว

  • HYDRO BOOST EYE ROLL-ON
  • HYDRO BOOST NIGHT CONCENTRATE
  • HYDRO BOOST WATER GEL
  • HYDRO BOOST MOUSSE CLEANSER 

HYDRO BOOST EYE ROLL-ON ตัวนี้เป็นลูกกลิ้งครีมฉ่ำบำรุงดวงตาที่มีกลิ่นน้ำหอมมากทีเดี่ยว ส่วนตัวไม่ใช้กลิ้งกับดวงตา จะใช้นิ้วนางหมุนกลิ้งแล้วมาตบเบาๆรอบดวงตารู้สึกเย็นๆดี ให้ความสดชื่น ส่วนเรื่องตาคล้ำบอกไม่ได้เหมือนกันเพราะว่าตาไม่ค่อยคล้ำ อิอิ ใช้ทุกวันจนมันเริ่มฟีบละ แม่ก็ใช้ 🙂 รู้สึกผ่อนคลายดี ริ้วรอยไม่ได้สังเกตุเพราะตาทำงานหนักมากริ้วรอยมันคงจะอั้นไว้ไม่อยู่ 55555 ดังนั้นความรู้สึกส่วนตัวชอบที่มันเย็นๆ ทาแล้วเบาผิวไม่หนัก ไม่อุดตันใต้ตาเหมือนเนื้อครีม

HYDRO BOOST NIGHT CONCENTRATE ตัวนี้คนผิวมันขาดน้ำน่าจะชอบ มันเย็นเบาสบายผิว มีแอลกอฮอล์เล็กน้อยที่จะช่วยคุมความมันได้ เคยลองแล้วผิวนุ่มมาก แต่ผิวแห้งอย่างเราอาจจะระคายเคืองเนื่องจากแอลกอฮอล์และถึงแม้จะเป็นแอลกออล์ที่เพิ่มความเสถียรก็ยังมีน้ำหอมที่ถ้าผิวแพ้ง่ายก็ผ่านไปก่อนนะคะ พวกที่ใช้ยาสิวบ่อยๆจนหน้าลอก แม้จะเป็นคนผิวมันก็ลอกได้ แห้งได้เหมือนกันนะตัวนี้ตอบโจทย์ที่จะช่วยเติมความชุ่มชื่นให้ ตัวนี้มีเม็ดบีทส์ด้วย พอทาไปมันจะแตกตัวซึมลงผิว มีกลิ่นน้ำหอมอ่อนๆ กลิ่นค่อนข้างสดชื่น

HYDRO BOOST WATER GEL ยามที่ผิวแห้งแต่แข็งแรงไม่แพ้ง่าย อย่างช่วงนี้ใช้ได้ก็จะไม่ระคายเคือง หน้านุ่มนิ่มตัวนี้ใช้บ่อย ตื่นมาหน้าดึ๋งดี แต่ถ้าช่วงไหนแพ้ง่ายก็อาจจะพักไว้ก่อนเพราะมันมีน้ำหอม อาจทำให้ผิวพรรณระคายเคืองได้นะคะ โชคดีที่ช่วงนี้ผิวแข็งแรง เวลาผิวแห้งลอก ก็ตบๆๆๆเข้าไป หน้าหยุ่นๆดี เนื้อครีมบางเบาซึมง่ายเหมือนตัวข้างบนแต่ไม่มีเม็ดบีทส์ เนื้อครีมมีกลิ่นน้ำหอมสดชื่นเหมือนตัวบน ให้ความรู้สึกเย็นๆเมื่อทา จะรู้สึกว่าหน้าจะนุ่มหลังทาเลย ตัวนี้คิดว่าจะซื้อต่อเก็บไว้ค่ะ

HYDRO BOOST MOUSSE CLEANSER ตัวล้างหน้าเนื้อมูส อีกตัวที่เขาบอกว่าเหมาะกับผิวแห้ง หรือแพ้ง่าย แต่เอิ๊กคิดว่ามันมีฟองนุ่มเนียนเอิ๊กเลยไม่ได้ลองใช้ดู เพราะฟองมีสารที่ทำความสะอาดได้ดีกว่าเจล และอาจจะทำให้ผิวแห้งกว่าเดิมได้ คิดว่าฟองหน้าจะเหมาะกับคนผิวมันมากกว่า ตัวนี้เลยเอาฟองมาให้ดูว่าขาว อวบ สวย ดูนุ่มขนาดไหน อยากใช้มากกกกกกก สรุปใช้ได้ 2 ตัว อายโรลออน กับ ไฮโดรบูสท์ วอเตอร์ เจล

 

COOL : คนที่ผิวมันแต่ขาดน้ำบ่อยครั้งจากยาสิวหรืออากาศก็แล้วแต่ค่อนข้างเหมาะกับเนื้อเจลแต่ทำให้ผิวกลับมาชุ่มชื่น หรือคนที่ผิวขาดความชุ่มชื่นอย่างเดียวแต่ผิวแข็งแรงไม่แพ้ง่ายก็ใช้ได้ เนื้อเจลมันซึมง่าย เบา และไม่ทำให้ผิวอุดตัน นี่คือข้อดีของมัน หน้าจะชุ่มชื่น แต่ไม่ทำให้หน้ามันมากขึ้น

UNCOOL : ผิวแห้งแพ้ง่ายด้วยน้ำหอม และ แอลกอฮอล์อาจยังไม่เหมาะสมที่จะลอง 

 

ใช้ครีมให้เหมาะกับสภาพผิว แค่นี้ก็มีสุขภาพผิวที่ดีได้ อย่าลืมค้นหาว่าผิวคุณเป็นแบบไหนค่ะ

XOXO

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Posted in REVIEWComments (0)

ตอบทุกปัญหาการทาและทานคอลลาเจนเพื่อผิวสวย


วันนี้เราจะมาพูดคุยกันถึงเรื่องรับทานคอลลาเจน ทาคอลลาเจน อะไรก็ตามที่เกี่ยวกับคอลลาเจน

ว่าความจริงมันได้ผลหรือไม่ เรื่องนี้เอิ๊กไม่เชี่ยวชาญ ดังนั้นต้องอัญเชิญ

แพทย์ผิวหนังผู้ทรงคุณวุฒิตอบคำถามข้อนี้ค่ะ 🙂

คอลลาเจนเอ๋ยเจ้าคืออะไรกันหนอ ?

คอลลาเจนคือเส้นใยโปรตีนชนิดนึงในร่างกายของเรา ทำหน้าที่เชื่อมเซลล์แต่ละเซลล์เข้าด้วยกัน เนื่องจากคอลลาเจนมีประมาณ 1 ใน 3 ของโปรตีนภายในร่างกายจึงมีแรงสปริงตัวทำให้ผิวหนังกระชับ เต่งตึง แข็งแรง เรียบเนียน ยืดหยุ่น คอลลาเจนพบได้ในผิวชั้นหนังแท้ และ พบได้ในอวัยวะด้วยเช่น ผังผืด (Fascia), กระดูกอ่อน (cartilage), เส้นเอ็น (ligaments), ข้อต่อ (tendons),กระดูก (bone)

หน้าตาเจ้าคอลลาเจน ดูเป็นเส้นใยระโยงระยางระยวยเต็มไปหมด

 คอลลาเจนมีอยู่ในร่างกายตามธรรมชาติ

เมื่อเราเกิดมาก็มีการสร้างคอลลาเจนในร่างกายตามธรรมชาติอยู่แล้ว แต่คอลลาเจนนั้นก็เป็นไปตามสังขารมนุษย์ เมื่ออายุที่เพิ่มมากขึ้นเลย 20-25-30 ปี การผลิตก็จะลดน้อยลงทีละนิดทีละนิด อย่างช้าๆทุกปี ทำให้เราเห็นตามวัฎจักรมนุษย์ เมื่อทุกคนเกิด ทุกคนโต ทุกคนก็ต้องแก่ และตายไปในที่สุด แม้เราพยายามยึดวัยมากเท่าไหร่ เมื่อเราอายุมากขึ้น ร่างกายเราก็จะกระตุ้นได้ยากมากขึ้นเท่านั้น 

ปัจจัยที่เร่งให้คอลลาเจนเสื่อมสภาพ

ตัวการที่ร้ายแรงที่สุด คือ แสงแดด โดยเฉพาะ UVA จะลงลึกถึงชั้นผิวหนังแท้ ทำให้เกิดอนุมูลอิสระทำลายเส้นใยคอลลาเจน มิหนำซ้ำ กระ ฝ้า เม็ดสี สีผิวไม่สม่ำเสมอก็ตามมา และเมื่อคอลลาเจนเสื่อมเราก็แค่แก่เร็วขึ้นเท่านั้นเอง

คอลลาเจนเสื่อมรู้ได้ยังไง ?

ผิวหนังแท้ของเราจะแบ่งเป็น 2 ระดับ หนังแท้ชั้นตื้น หนังแท้ชั้นลึก ชั้นตื้นจะมีคอลลาเจนน้อยกว่าชั้นลึก จุดสังเกตุแรก หากคอลลาเจนหนังแท้ส่วนตื้นเสื่อม ริ้วรอยจะมา รูขุมขนกว้างมากๆทั้งที่ไม่ได้หน้ามัน นอนดึก แต่กว้างแบบสุดพลังก็เกี่ยว หากคอลลาเจนเสื่อมที่ผิวหนังชั้นลึก ผิวพรรณของเราที่เคยจับแล้วดึ๋ง เต่งตึง ก็จะจับแล้วยวบยาบ กดแล้วยุบย้วย กว่าจะคืนสู่สภาพต้องใช้เวลา ยกตัวอย่างคุณย่า คุณตา คุณปู่ คุณยายของพวกเรา ผิวพรรณจะเริ่มไม่เรียบตึง


อยากสร้างคอลลาเจนใหม่อยากแก่ช้าทำไง ?

1. ฉีดสารคอลลาเจน [ แต่โอกาสแพ้สูง ] & ฉีดสารHyarulonic acid ให้อุ้มน้ำ ผิวจะดูอิ่ม เต่งตึงทันที

2. กระตุ้นการสร้างผิวใหม่ เช่น ให้ความร้อนลงไปยังชั้นหนังแท้ [ เลเซอร์ ] , ทำให้ผิวเกิดแผลเล็กๆ , ลอกผิวด้วยสารเคมี

แล้วการทาน & ทาคอลลาเจนล่ะ ?

  • สำหรับการทาด้วยมือ บอกตรงนี้เลยว่าไม่มีครีมตัวไหนสามารถซึมลึกผ่านลงชั้นหนังกำพร้า หรือ ชั้นขี้ไคลไปได้ เพราะผิวเราวิเศษมีการป้องกันตัวเองจากสิ่งแปลกปลอมอยู่แล้ว
  • สำหรับการทานร่างกายมีระบบการย่อยที่ซับซ้อนหลายขั้นตอน ทานคอลลาเจนเข้าไป เจอย่อยไปเรื่อยๆก็เหลือเพียงเศษเสี้ยวกลายเป็นกรดอะมิโน (โอเค) ไป คงไม่ได้ไปทำให้เต่งตึง เปล่งปลั่งขึ้นได้ ร่างกายไม่สามารถดูดซึมโมเลกุลที่มีขนาดใหญ่อย่างคอลลาเจนได้ หรือ ถ้าได้อย่างที่คุณหมอว่าก็คือทานไปจะไปพอกจุดไหนก็ไม่ทราบได้ 
อยากรักษากลไลสร้างคอลลาเจนในร่างกายให้ยาวนานขึ้นทำยังไง ?
ปกติก็สร้างเองในร่างกายอยู่แล้วเพียงแต่ลดลงทีละเล็กน้อยเมื่ออายุ 25 ขึ้นไป แต่หากอยากให้กลไลร่างกายยังสร้างได้ดีอยู่ไม่ลดลงไปมาก ก็รับประทานอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่ / ออกกำลังกายสำคัญมากเพราะต้านอนุมูลอิสระ อนุมูลอิสระนั้นทำให้เซลล์ในร่างกายเสื่อม คอลลาเจนก็เสื่อมไปด้วย / และนอนให้ตรงเวลา อย่านอนดึกแบบเอิ๊ก เพราะเวลากลางคืนเป็นเวลาที่ผิวหนังซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ลองนอนหัวค่ำทุกวัน หน้าดีขึ้นแน่นอน
จากใจนะ จะทานอะไร จะทาอะไรหาข้อมูลให้ดี โดยเฉพาะข้อมูลทางวิชาการ โดยเฉพาะอะไรที่นำเข้าสู่ร่างกาย   
และในความรู้สึก ” การออกกำลังกายนั้น ไม่ว่าในรูปแบบไหน ชะลอวัยได้เรื่องจริง “
อ่าน ฟัง หาข้อมูล แล้วเขียนเอง หากผิดพลาดประการใดติได้ค่ะ <3

Posted in BEAUTY TECHNOLOGY, SKINComments (0)


advert

Google

erk-erk.com





BEAUTY MENU

มาคุยกับเอิ๊กได้ที่นี่ทุกวัน ถ้าว่างรีบตอบทุกคำถามค่ะ

INSTAGRAM @wwwerkerkcom

[instagram-feed]

ติดตามบล็อค erk-erk.com อย่างใกล้ชิด

เพียงกรอก Email ตรงนี้เลย

LINE @erk-erk

เพิ่มเพื่อน

Related Sites