” เมืองไทยพร้อมแล้วสำหรับพบแพทย์ออนไลน์ที่ไหนก็ได้บนโลก !

สมิติเวชเป็นหนึ่งในโรงพยาบาลที่เปิดใช้ 

Samitivej Virtual  Hospital  ( SVVH )

หรือ บริการพบแพทย์แบบออนไลน์

ใช้ได้ทั้งมือถือ แทบเล็ต คอมพิวเตอร์ ขอแค่มีเน็ตแรงๆ

มีสั่งยา หรือ มีบริการเจาะเลือดไปหาถึงที่ “

 

 

 

 

 

 

 

 

หมดยุคไปนั่งรอหมอหรือยัง ?

หมดยุคไปเสียเวลารถติดไปโรงพยายาลบาลหรือยัง ?

มาค่ะ ได้ใช้บริการของจริงแล้วขอเล่าหน่อย ต้องเหลาาาา !!

 

 

          เอิ๊กข่วงหลังทานวิตามินอยู่แค่ 2 แบบ แต่ละแบบโดสก็เข้มข้น

หลัก คือ บำรุงผมที่เพิ่งปลูก รอง คือ ดูแลผิว ต้านอนุมูลอิสระ

แต่เดิมเคยหาหมอที่นี่แหละ เพื่อเช็คว่าตัวเองขาดวิตามินไหน ?

โดยการเจาะเลือด และ แยกไปตรวจเลย

เพราะบางที่การที่เราทานวิตามินเยอะๆอาจจะมีภาวะเกินขนาด ซึ่งเป็นพิษ

และ สะสมในร่างกายได้ แล้วก็เพิ่งไปตรวจสุขภาพประจำปีมาที่สมิติเวชอีกเช่นกัน

พบว่าปัสสาวะเป็นเลือด แต่ไม่รู้มันเกี่ยวกับวิตามินที่ทานมั้ย

แต่คุณหมอ บอกว่าอาจจะเป็นเพราะว่าเราอดน้ำเป็นระยะเวลานาน

ก็ไปอ่านกระทู้มา คือหลังจากที่ทานวิตามินบีรวมไปสักระยะ

บางคนบอกว่าอาจเป็นได้ที่พบเลือดในปัสสาวะ

เอาตรงๆไม่สบายใจ ก็เลยสงสัย และ

ก็อยากถามคำถามคุณหมอ Anti – Aging โดยตรง

เพราะถ้าเรื่อง ANTI-AGING ก็ต้องยกให้ที่นี่ เครื่องมือ เทคโนโลยี

การบริการ และ ความไว

 

ช่วงนี้ย้ายที่อยู่ จะถ่อไปในเมือง แถวสุขุม หรือ ศรีนครินทร์

รถติดมากๆค่ะ จึงได้ฤกษ์ลองใช้บริการออนไลน์ดู

ซึ่งต่างประเทศมีมานานมากแล้ว

ของไทยที่เห็นมีบริการก็คือที่นี่

 

ก่อนใช้บริการพบแพทย์ออนไลน์นั้น

หลักคือต้องเช็คตารางแพทย์ และ โทรนัดที่โรงพยาบาล

สำหรับทำนัดแพทย์ที่ให้บริการออนไลน์ก่อนโดยเฉพาะแพทย์เฉพาะทาง

ซึ่งเอิ๊กเป็น FANCLUB ใน LINE ของ SAMITIVEJ อยู่แล้ว

จะมีแจ้งตารางใครยังไม่มีแอดLINE @SAMITIVEJ

ก็คลิกเมนู หรือ เข้าทางนี้ได้ค่ะ

https://virtual.samitivejhospitals.com/LineChat/index.html?openExternalBrowser=1

หรือเข้าทาง SAMITIVEJ PLUS APPLICATION

รวมถึง SAMITIVEJ WEBSITE

 

แพทย์ ANTI-AGING เข้าวัน

อังคารแรกของเดือน 10.00-11.00น.

พุธที่2 ของเดือน 14.00-15.00น.

พฤหัสที่3 ของเดือน 14.00-15.00น.

 

แต่ถ้าใครมีปัญหาปรึกษาด้านอื่นๆก็ทีมแพทย์ และ พยาบาล

ของสมิติเวชตลอด 24 ชม.ให้บริการ สำหรับใครไปต่างประเทศ

อยู่ต่างประเทศ ก็จะสะดวกตรงนี้ ใครกลัวเสียตังค์ก่อนแล้วไม่ได้ประโยชน์

พยาบาลจะมีการสอบถามประเมินอาการผู้ป่วยแต่ละคนก่อน

ว่าเหมาะใช้บริการ Samitivej Virtual  Hospital หรือเปล่า

ถ้าเหมาะก็จะส่งต่อให้คุณหมอให้คำปรึกษาในส่วนต่อไป

ตรงจุดนี้จะยังไม่มีค่าใช้จ่าย จนถึงขั้นตอนที่จะได้ปรึกษากับคุณหมอ

หรือจะทำนัดผ่านทางนี้ได้ค่ะ คือ เข้าไปทำนัดกับพยาบาลก่อน

 

 

เอิ๊กนัดวันพุธ กับ คุณหมอ พญ. ม.ล.ธัญญ์นภัส เทวกุล

แพทย์ทางด้านเวชศาสตร์ชะลอวัย และ ฟื้นฟูสุขภาพ

& โภชนาการเพื่อสุขภาพ

เอิ๊กต้องการปรึกษา

เรื่องการกินวิตามินเพื่อบำรุงผม ผิว  และ เพื่อต้านอนุมูลอิสระ

 

ขั้นตอนการใช้บริการของเอิ๊กคือกดเข้า LINE@SAMITIVEJ

เมนูปรึกษาแพทย์ผ่านไลน์จะเข้ามาเจอหน้านี้

ซึ่งเป็นเหมือนกฎระเบียบ และ ข้อตกลงก่อนใช้บริการเพื่อให้เรากดยอมรับ

มันจะค่อนข้างยาวหลายข้อ  ถ้าเสียสละเวลาอ่านจะเข้าใจบริการนี้มากขึ้น

เพื่อประโยชน์ของเราเองด้วยค่ะ

▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂▂

 

 

หลักจากเรากดปุ่มสีทองยอมรับ

จะเข้าสู่การกรอกข้อมูลส่วนตัว ชื่อ นามสกุล วันเกิด เลขที่บัตรประชาชน เบอร์โทรศัพท์

 

กดปุ่มเริ่มสนทนาเพื่อพบพยาบาลก่อนคนแรก

เพื่อสอบถาม และ คัดกรองว่าเราเข้าข่ายเหมาะกับการให้คำปรึกษาทาง

ออนไลน์หรือไม่ คือ ถ้าเป็นอาการกำเริบ หรือ อะไรหนักๆ เขาก็จะแนะนำ

ให้มาโรงพยาบาลมากกว่า การติดต่อทางนี้เอิ๊กมองว่าเหมาะกับโรคทั่วไป

หรือแบบ FOLLOW UP การทานยา ว่าดีขึ้นมากน้อยเพียงไร

แต่ต้องไม่มีอาการอะไรแทรกซ้อน หรือ อาจจะมีคำถามบางอย่างที่อยากถามคุณหมอ

 

ขั้นตอนนี้ โปรดเตรียมบัตรประชาชนด้วย

 

ระหว่างรอพยาบาลเข้ามาในระบบ ต้องบอกก่อนว่าอินเตอร์เน็ตเราต้องเช็คให้ดี

หากหลุดตอนคุยกับคุณหมอเพราะเรา จะมีการคิดเงินตามปกติ

แต่ถ้าหลุดจากทางคุณหมอ จะมีพยาบาลโทรกลับมาใหม่ และก็ถ้าเราอยากคุยต่อ

ก็จะมีการนับเวลาเพื่อคิดเงินรอบใหม่นะคะ

 

 

จะมีแจ้งชื่อพยาบาลภายหลังนะคะ ซึ่งคุณพยาบาลจะเป็นคนคุยกับเราก่อน

และ ให้เราถ่ายรูปบัตรประชาชน

ส่งหาคุณพยาบาลผ่านแอพ ในระหว่างที่คุยกันอยู่

ตรงเมนูข้อความที่ขึ้นข้างล่าง

 

เมื่อเข้าเงื่อนไขถูกต้องแล้วพยาบาลจะให้คลิกเข้าไปเพื่อพบคุณหมอค่ะ

ในทุกครั้งเราจะต้องกดให้อนุญาต ใช้ไมค์ และ กล้อง สำหรับแอพนั้นๆ

และถ้าเราต้องการคุยกับคุณหมอเพิ่ม กดปุ่มขยายเวลา

พยายาลบอกมาถึงการเตรียมตัว

 

เอิ๊กก็เช็คแสง หูฟังให้พร้อมรอคุณหมอ แล้วค่อยคลิก กลัวหลุด ฮ่าๆ

 

และ แล้วก็มาถึงวินาทีตื่นเต้นเพราะปกติก็จะไปพบคุณหมอตัวต่อตัว

ออนไลน์ก็กังวลจะหลุดไหม ก็เช็คสัญญาณพร้อม

เพราะกำลังจะถ่ายคลิปทำงานต่อที่บ้านด้วย แสงจะดีวันนี้ ฮ่าฮ่า

 

ให้เทคนิคนิดนึง เอิ๊กจดทุกอย่างที่อยากถามคุณหมอไว้หมดแล้ว รวมถึงข้อมูลวิตามินทั้งหมดที่เอิ๊กทานอยู่ เพื่อไวต่อการปรึกษา และ จะได้ไม่กินเวลา อยู่ในงบประมาณ 500 บาท 15 นาที ฮ่าๆ แต่สรุปไม่พอหรอก เดี๋ยวบอกว่าทำไม …..

คุณหมอมาแล้วค่ะ

 

เอิ๊กไม่เป็นการเสียเวลา ก็คุยกับคุณหมอเลย ต้องการปรึกษาเรื่องวิตามิน

และ คุณหมอก็ถามทานอะไรอยู่ เราจดมาเรียบร้อย เรียงให้คุณหมอเป็นชุดเลย

สรุปคือทานเยอะไป คุณหมอสั่งให้ลดโดสบางตัว และ บอกว่าเราทานค่อนข้างครบ

และมีหลายตัวซ้ำซ้อนกันอยู่ เช่น  OMEGA 3 & 6 กับ FISH OIL

และ BORAGE OIL ซึ่งมาจากแหล่งเดียวกัน

แต่ถ้าจะให้ชัวร์อยากให้มาตรวจเลือด ตรวจวิตามินในร่างกาย

รวมถึงสารต้านอนุมูลอิสระของเรา

 

เพราะเราทุกคนมีวิตามินในร่างกายอยู่แล้ว

เผื่ออะไรที่น้อยไป หรือ มากไปจนสะสมเป็นพิษ เป็นภาระตับไต

และ อาจส่งผลให้มีภาวะไทรอยด์เป็นพิษได้ ยังมีตับวาย ไตวาย

หัวใจเต้นผิดปกติฮอร์โมนต่างๆทำงานผิดปกติด้วยเช่นกัน

 

แต่ข้อจำกัดคุณหมอตรงๆว่า เช่น

ตรวจหากรดอะมิโนบางชนิดจะต้องรอผลตรวจนานเพราะต้องส่งไปตรวจต่างประเทศ 

 

และทางโรงพยาบาลยังมีบริการ “Customized Supplement”

เป็นวิตามินสูตรเฉพาะตามความต้องการของร่างกายของเรา

มันก็จะพอดี ไม่ขาดหรือเกิน และ ทานไป 3-6 เดือนคุณหมอก็อาจให้เจาะเลือด

ดูปริมาณวิตามินใหม่ หรือ อาจจะสั่งตรวจเฉพาะตัวที่สำคัญที่ต่ำมากๆ

และได้รับการแก้ไขไป

 

อาหารเสริมในยุคนี้ ถ้าเน้นเรื่องผิว

คงต้องเป็น Astaxanthin เพราะถือว่าเป็น

ราชาแห่งการต้านอนุมูลอิสระ

ขอให้มี Astaxanthin 2-3 MG ขึ้นไปต่อวัน แหละต้องเลือกแหล่งที่มาด้วย

อย่างถ้าสั่งกับสมิติเวช วัตถุดิบจะมาจากประเทศญี่ปุ่น เวลาทาน

ถ้าทานเยอะไป อาจรู้สึกผิวแดงๆและบางคนจะแสบๆผิวได้

บางคนอาจมีอาการใจสั่นได้ ควรทานแต่พอดี จะทำให้หน้าอมชมพู

เลือดฝาด คือว้าวมาก เดี๋ยวต้องสั่งละ

นอกจากนั้นทางเลือกอื่น อาจมีการปรับโภชนาการให้เหมาะ

เพื่อให้ได้รับวิตามินให้พอ สำหรับคนที่ไม่อยากทานวิตามินตลอด

ก็มาปรับที่อาหาร

 

นอกนั้นเอิ๊กก็ถามว่าตัวเองเหมาะกับตรวจโปรแกรมเช็ควิตามินแบบไหน

คุณหมอก็บอกว่าโปรแกรม NUTRIENT PLUS เช็ควิตามิน

แร่ธาตุ และสารต้านอนุมูลอิสระ ฯลฯ 23 ชนิด

 

จริงๆข้างบนหมดเวลาเอิ๊กหาปุ่มขยายเวลาไม่เจอ และ

ก็ตัดไปแบบงงเมื่อเวลาหมด

พยาบาลโทรมาตาม ถามว่าจะคุยต่อไหม ? เลยบอกคุย

เบ็ดเสร็จได้ข้อมูลทั้งหมดมาตามด้านบน

ในเวลา 25 นาที 1000 บาท

ถามว่าทำไมจำละเอียดจดไปด้วยค่ะ

เราต้องบันทึกข้อมูลสุขภาพตัวเองไว้

จะได้จำได้ไว้ใช้เผื่อหาหมอครั้งถัดไป

 

สรุปกลับมาอีกรอบ

คือ คุยถึงปัญหาปัสสาวะปนเลือด เอาจริงคือลืม

แต่บอกคุณหมอไว้้ตอนแรก แกคงจดไว้เช่นกัน จำได้เลยคุยต่อ

และ คุยถึงถุงน้ำในตับขนาดเล็กของเรา

หมอบอกว่าอาจเป็นเพราะดื่มน้ำน้อยวันนั้น และ ถุงน้ำ

ขอให้มาเช็คอาการซ้ำทุก 4-6 เดือนและ 1 ปี

ถ้ามันไม่เปลี่ยนขนาด ถือว่าไม่เป็นไร เราก็สบายใจ

และก็นำมาปรับทานวิตามินในวันต่อมาอย่างเชื่อฟัง

 

 

เมื่อจบแล้วเราก็เข้าหน้าจ่ายเงิน เครดิต เดบิต พร้อมเพย์ ได้หมด

ก็เลือกว่าจะรับใบเสร็จไหมได้เช่นกัน

เผื่อใครจะนำไปเบิกอะไร มีติชม แนะนำ เต็มที่

 

 

เรารู้สึกว่าคุณหมอใส่ใจเป็นพิเศษ ถามอะไรก็ได้ไม่กดดัน

คือบางทีไปหาหมอตามรพ. ค่าตรวจเท่ากัน แต่หมอดูรีบ

เราถามอะไรได้ไม่เยอะ แต่ด้วยบริการนี้

ทำให้มีความตั้งใจที่มากกว่าเดิมด้วยอาจเพราะใช้เทคโนโลยี

และมีสัญญาอินเตอร์เน็ตเข้ามาให้เราต้องพิถีพิถันในการเก็บข้อมูล

กันสัญญาณไม่ดี กันหลุดด้วยหรือเปล่าก็ไม่รู้

คือ เราก็ชอบนะ กับ ปัญหาแบบที่เราไม่ได้จำเป็นต้องไปโรงพยาบาล

เราอาจจะจัดการได้ก่อน หรือ สั่งยาผ่านทางคุณหมอ

คือ ลืมบอกอีกอย่าง

 

ถ้ามีความจำเป็นต้องเจาะเลือดเพิ่มเติม

มีบริการ Test@Home บริการเจาะเลือดถึงที่ในกรุงเทพ

ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน และ มี Medicine Delivery

หลังจากปรึกษากับคุณหมอแล้ว

ถ้ามียาที่ควรจะต้องรับประทาน หมอจะสั่งยา และ

มีจัดส่งผ่าน LINE MANถึงบ้านเฉพาะในเขตกรุงเทพ

 

 ADVANCE ไปมาก #คลิกเดียวถึง #samitivej จริงๆ

 

ข้อด้อย

1. สัญญาณอินเตอร์เน็ต ทำให้สัญญาณขาดๆหายๆทำให้เห็นพยาบาลไม่ต่อเนื่อง
2. หน้าจอเราบังหน้าคุณหมอ ทำให้เราเห็นคุณหมอไม่ชัด
3. ไม่มีกดปุ่มขยายเวลา คือ จะตัดก็ตัดเลย กำลังเข้าถึงข้อมูลสำคัญด้วย
4. ถ้าหลุดคือต้องกรอกประวัติใหม่หมด เราทำ 2 รอบ อีกรอบเราถอดใจแน่นอน55
5. การกดส่งไฟล์คือทำขนาดมาไม่พอดี กดส่งแล้วเกือบหาทางกลับไม่ได้ ถ้ากดทางออกผิด คือ หลุดออกไปเลย เชิญหน้ากรอกข้อมูลประวัติใหม่หมด โดนแล้ว 1 ครั้ง
6. ไม่เหมาะกับอาการรอยโรคที่ซับซ้อน
7. ถ้าคนไข้ให้ข้อมูลพลาดวินิจฉัยเฉพาะเบื้องต้นการจ่ายยาอาจพลาดได้
8. คนไข้ชอบใช้ app ถ่ายรูปไม่เป็น ถ่ายรูปปรึกษาสมมุติผิวหนังก็มองไม่ชัดได้
9.  แสง เสียง สัญญาณ คือ จุดสำคัญ ถ้าสัญญาณ เสียงไม่ดี คือ ก็ไม่ได้
10. การปรึกษาผ่านแอพแน่นอนอาจไม่ละเอียดได้ครอบคลุมมากกว่าเจอตัว
11. คน LOW TEAH อาจจะไม่เหมาะ
12. เรื่องโรคส่วนตัวมากไม่เหมาะอย่างแรงถ้าคุณรักความเป็นส่วนตัวมาก เพราะวีดีโออาจถูกบันทึกเพื่อปรับปรุงพัฒนา

 

ข้อดี

1. ประหยัดเวลา รถติด รอคิว ต้องลางานมา คือ หมดปัญหา สมิติเวชพูดตรงๆหมอเฉพาะทาง รอนานมาก แต่เราก็รอแพทย์เก่ง เจอแบบนี้คือถ้าเรามาตรวจติดตามการรักษา คือก็จะดีมาก
2. โรคไม่ซับซ้อน หรือ การติดตามผล เหมาะมาก หรือ กับคำถามง่ายๆที่แค่อยากคุยกับคุณหมอเพื่อความอุ่นใจ แบบเอิ๊กยอมรับว่าชอบมาก ตรงจุดเพราะเรื่องของเรื่องเพิ่งไปตรวจสุขภาพมา ก็คุยต่อได้เลย
3. ประหยัดค่าใช้จ่าย เมื่อไม่ต้องเสียค่าเดินทาง เริ่มต้นการปรึกษาคือ 500 บาท 15 นาที ของเอิ๊ก 1000 บาท คือ ชอบถามมาก แต่คนเป็นแบบเอิ๊กน้อย 555
4. คุณหมอแนะนำให้วิธีดูแลตัวเองได้ต่อจริงๆ
5. ถ้าใครอยากสั่งยามาบ้าน มีบริการส่งยา LINE MAN เฉพาะในกรุงเทพฯ เวลา 8.00 – 20.00 น
6. คุณหมอที่เจอ เผอิญโชคดี เจอใส่ใจ ตอบทุกคำถาม ที่ลืมไปก็คอยเตือนตอบให้
7. ความทันสมัยส่งเสริมเทคโนโลยีการแพทย์ และการสื่อสาร ให้กว้างไกลมากขึ้นทันต่างประเทศ
8. ตรงเวลาตามนัด ข้อนี้ชอบมาก เรานัดไว้ เราใช้บริการในเวลานัดได้เลย
    

คือพอได้ลองใช้จริง ส่วนตัวเล็งเห็นว่าเทคโนโลยี

ทำให้เรารู้สึกเหมือนเราได้รับการรักษา

จากในโรงพยาบาลจริงๆ

แม้เราอยู่บ้าน หรือ อยู่ไหนก็ตาม

 

ขอให้สมิติเวชปรับปรุงให้มันเสถียร เราคิดว่าในอนาคต

ถ้าใครจะเป็นอะไรที่มากกว่านี้ อาจมีบริการรถโรงพยาบาลเคลื่อนที่ก็เป็นได้

 

ลองไปใช้บริการกันดูค่ะ แล้วมาเล่าสู่กันฟังบ้างนะคะ